แชร์

บทที่ 118  

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เยียนเซียวหรานถามนาง “เรื่องนี้อีกนานแค่ไหนถึงจะแก้ไขได้?”

ซือเจ๋อเยว่ผายมือ “ไม่รู้ หากตามหาผู้ที่ลงมือพบ ก็จะแก้ไขได้เร็วขึ้น”

เยียนเซียวหรานมองนางแวบหนึ่ง พลันคิ้วขมวดมุ่น

พระชายาเยียนอ๋องเห็นพวกเขากำลังพูดคุยสนทนากันใกล้ชิด คิ้วค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน

แม้นางยังไม่ถึงขั้นคิดไปในทางที่ไม่ดีว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์ต่อกัน แต่พวกเขาก็ดูใกล้ชิดสนิทสนมกันจนเกินความพอดีไปเล็กน้อย

ดีที่หลังจากซือเจ๋อเยว่พูดกับเยียนเซียวหรานเพียงไม่กี่คำ ก็ขึ้นรถม้าไปสนทนากับเยียนเหนียนเหนียนแล้ว

พระชายาเยียนอ๋องขบคิด ก่อนเดินไปลากเยียนเซียวหรานพลางเอ่ย “เซียวเอ๋อร์ แม้องค์หญิงมีบุญคุณใหญ่หลวงต่อจวนอ๋อง แต่อย่างไรเสียนางก็เป็นพี่สะใภ้เจ้า”

“เจ้าเป็นลูกชายข้า ข้าย่อมเชื่อใจเจ้าอยู่แล้ว และเชื่อในศีลธรรมขององค์หญิงด้วย”

“เพียงแต่ว่าเดิมทีความคาดหวังของสังคมที่มีต่อสตรีก็มากกว่าบุรุษ หากใครเอาเรื่องนี้ไปพูดข้างนอก ผู้ที่เสียหายก็เป็นฝ่ายหญิงอยู่วันยันค่ำ”

เยียนเซียวหรานแววตาลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่วายพยักหน้าเบา ๆ หนึ่งที “เสด็จแม่วางใจได้ ข้ามีแต่ความเคารพนับถือให้แก่องค์หญิง หามีความคิด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 119  

    นางยิ้มพลางถามจ้าวซือหว่าน “แม่นางจ้าว เมื่อคืนนี้นอนไม่พอหรือ?” จ้าวซือหว่านเอ่ยด้วยท่าทางขัดเขินเล็กน้อย “เมื่อคืนพับกระดาษเงินกระดาษทองจนถึงกลางดึก นอนไม่ค่อยพอจริง ๆ เพคะ” ซือเจ๋อเยว่เห็นสาวใช้จวนตระกูลจ้าวยกตะกร้าใหญ่ใบหนึ่งอยู่ ในนั้นใส่กระดาษเงินกระดาษทองที่พับด้วยมือไว้จนเต็ม ซือเจ๋อเยว่ถาม “ทั้งหมดนี้แม่นางจ้าวพับเองหมดเลยหรือ?” จ้าวซือหว่านเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ใช่เพคะ ได้ยินมาว่าต้องลงมือพับเองถึงมีความจริงใจ” นางว่าแล้วก็ตั้งใจเผยนิ้วมือที่มีเศษสีทองติดอยู่เล็กน้อยให้ปรากฏตรงหน้าซือเจ๋อเยว่ ซือเจ๋อเยว่ยิ้มออกมา “แม่นางจ้าวใส่ใจนัก” ในใจนางกลับวาดเครื่องหมายกากบาทตัวโต ๆ ให้กับจ้าวซือหว่าน ในตะกร้ากระดาษเงินกระดาษทองใบนั้นมีรูปแบบการพับด้วยมือห้าหกแบบเป็นอย่างต่ำ เห็นชัดว่าเกิดจากการพับของคนหลายคน สิ่งนี้คนอื่นมองไม่ออก ทว่าซือเจ๋อเยว่ที่เติบโตมาในสำนักเต๋าตั้งแต่ยังเล็ก เห็นกระดาษเงินกระดาษทองที่ผู้คนพับมามากมายกลับมองปราดเดียวก็ดูออกทันควัน ประจวบเหมาะกับยามนี้เยียนเซียวหรานมองมาพอดี นางพยักหน้าเบา ๆ เขาก็เข้าใจความหมายของนางทันที จ้าวซือหว่านมีปัญ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 120  

    จ้าวซือหว่านมองท่าทางมีเลศนัยของนาง ความสงสัยที่มีต่อนางพลันลดลงเล็กน้อย เพราะมิมีนักพรตเต๋าจอมขมังเวทคนใดที่จะเป็นเหมือนซือเจ๋อเยว่เช่นนี้ ที่ดู ๆ แล้วก็เหมือนเป็นคนหลอกลวงผู้หนึ่งเท่านั้น นางเผยรอยยิ้มออกมา “องค์หญิงช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงเชียว” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มตาหยี “ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน” จ้าวซือหว่าน “…” คำพูดนี้ทำเอานางไม่รู้จะตอบอย่างไรเลย เรื่องการ ‘เชิญป้าย’ เป็นพิธีกรรมที่วัดเป้ากั๋วทำเป็นประจำ ระเบียบพิธีทั้งหมดไม่นับว่าซับซ้อนแต่อย่างใด ซึ่งก็ไม่พ้นฟังพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ อัญเชิญไม้ทำป้ายวิญญาณ สวดมนต์ เชิญป้าย และแกะสลักตัวอักษร สี่ขั้นตอนแรกนับว่าค่อนข้างเรียบง่าย ทว่าขั้นตอนการแกะสลักตัวอักษรนั้นกลับต้องใช้เวลาอยู่บ้าง พระชายาเยียนอ๋องเดิมทีก็รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะเรื่องของเยียนอ๋องซื่อจื่อ หลังจากสี่ขั้นตอนแรกของพิธีเสร็จสิ้นลงแล้ว พอตกบ่าย นางถึงค่อย ๆ มีสีหน้าเบิกบานขึ้น ทั้งศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าล้วนมีผู้เลื่อมใสศรัทธาไม่น้อยในราชวงศ์ยุคนี้ เมื่อดูในภาพรวม ก็มีจำนวนผู้นับถือที่ใกล้เคียงกันทีเดียว เพียงแต่คนในจวนเยียนอ๋องเชื่อในพระพุทธศาสนากันอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 121

    พระชายาเยียนอ๋องถูกกำหนดให้ต้องพินาศ เยียนเซียวหรานก็ไม่สามารถให้ชีวิตอันสูงส่งกับนางได้ เขาย่อมไม่คู่ควรกับนางตลอดทางสายนี้นางได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว ตราบใดที่เยียนเซียวหรานตามนางไป นางก็จะสามารถดึงพลังดวงชะตาของเขาออกไปจนหมด และตายอยู่ที่นี่นางต้องการเหยียบกระดูกของเยียนเซียวหราน เพื่อใช้ชีวิตที่ดีที่สุด นางเอ่ยเสียงเบา "คุณชายสาม พวกเราออกเดินทางกันเถอะ!"แม้ว่าเยียนเซียวหรานจะไม่ค่อยได้ติดต่อกับสตรีนางนี้ จึงไม่รู้ว่ามีอันใดน่าแปลกใจ ทว่าจากท่าทางของนางในยามนี้เขาก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงเขานึกถึงการคาดเดาของซือเจ๋อเยว่ จึงพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น "วันนี้ลำบากแม่นางจ้าวแล้ว"จ้าวซือหว่านยิ้มเล็กน้อย "ไม่ลำบากเจ้าค่ะ ซือหว่านแค่ทำหน้าที่ของตนเองเท่านั้น" เสียงของนางอ่อนโยน เพียงแค่ฟังเสียงของนาง ก็จะทำให้รู้สึกว่านางเป็นสตรีที่อ่อนโยนอย่างยิ่ง ขณะที่ทั้งสองคนถือถังเดินไป ส่วนซือเจ๋อเยว่ก็ยืนมองอยู่ข้างๆเพียงแค่ดูท่าทางของทั้งสองคน นางรู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกันปานกิ่งทองใบหยก หากจ้าวซือหว่านไม่ใช่คนที่มีจิตใจไม่ดีแล้วละก็ พวกเขาน่าจะเป็นคู่ที่เหมาะสมกั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 122

    เยียนเหนียนเหนียนพยักหน้า "พกมาแล้ว"ซือเจ๋อเยว่จึงเอ่ยขึ้น "เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ!"ถนนไปที่ลำธารมีสองทาง ถนนสายหนึ่งค่อนข้างกว้างและปูด้วยหิน อีกทางเป็นทางเดินเส้นเล็กที่คดเคี้ยว แต่ระยะทางจะใกล้กว่าเล็กน้อยถนนที่เยียนเซียวหรานและจ้าวซือหว่านไปคือเส้นทางที่เดินง่าย แต่ซือเจ๋อเยว่กลับพาเยียนเหนียนเหนียนเดินทางเส้นเล็กเยียนเซียวหรานไม่ได้คิดจะเอ่ยอันใดกับจ้าวซือหว่าน แต่จ้าวซือหว่านกลับคิดจะหยั่งเชิงอีกฝ่ายนางอยากรู้ว่าหยกแขวนนั้นถูกทำลายได้อย่างไร และผู้ใดเป็นคนทำลายหลังจากที่พวกเขาลับจากสายตาของคนอื่นๆ จ้าวซือหว่านก็เริ่มเอ่ยขึ้นปานโยนหินถามทาง "กระต่ายคู่ที่คุณชายสามส่งมาปีก่อนน่ารักมาก ข้าชอบมันมาก"เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเรียบ "นั่นคือของที่หกน้องเลือก"จ้าวซือหว่านเอ่ยเสียงเบา "ข้าเคยได้ยินคนอื่นบอกว่าเหล่าพี่น้องในจวนเยียนอ๋องมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก"เยียนเซียวหรานไม่ตอบอันใด จ้าวซือหว่านจึงเอ่ยต่อ "ข้าเคยขอให้พระสงฆ์ในวัดเบิกเนตรให้กับหยก""ข้าขอให้พระชายาส่งหยกแขวนให้คุณชายสาม ไม่รู้ว่าคุณชายสามได้รับหรือไม่? "เยียนเซียวหรานพยักหน้าแล้วบอกไป "รับมาแล้ว"จ้าวซือหว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 123

    เขาพบว่าเวลาเพียงชั่วพริบตาผืนป่าก็มืดครึ้มไปมากท้องฟ้าข้างนอกแจ่มใส แต่ข้างในกลับมองเห็นเพียงเทียนสีขาวไม่กี่เล่มเปลวเพลิงบนแท่งเล่นสีขาววาบไหว แสงที่ริบหรี่เป็นสีเขียว ดูแปลกประหลาดอย่างยิ่งในแววตาของจ้าวซือหว่านมีความชอบใจปรากฏ "ใช่แล้ว! หากเจ้าไม่ทำลายหยกแขวนชิ้นนั้น เจ้าก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้นานกว่านี้อีกหลายวัน""ผู้ใดใช้ให้เจ้าไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ทำลายหยกแขวนที่ข้ามอบให้ไป เจ้ามันรนหาที่ตายเอง"เยียนเซียวหรานเอ่ยถามนาง "วันที่เคลื่อนย้ายศพเสด็จพ่อข้า จ้าวอวี่ชุนมาทำเรื่องยกเลิกการหมั้น นั่นก็เป็นความคิดของเจ้า?"จ้าวซือหว่านส่ายหน้า "แน่นอนว่าไม่ใช่ เขาคิดเองทำเอง คิดว่าหากไม่ยกเลิกการหมั้นครั้งนั้น ข้าแต่งงานกับเจ้าแล้วจะต้องลำบาก""เขามีจิตใจของผู้เป็นพ่อที่เมตตา แต่เกือบจะทำลายแผนการของข้า"ดวงตาของเยียนเซียวหรานเยือกเย็นมากกว่าเดิม "ข้าไม่มีความแค้นใดกับเจ้า เหตุใดเจ้าต้องทำร้ายข้า? "จ้าวซือหว่านหัวเราะขึ้นมา "ข้าบอกไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่าไม่ใช่ข้าที่จะทำร้ายเจ้า แต่เพราะดวงชะตาของเจ้าดีเกินไป""ข้าเพียงแค่อยากอยู่กับคนที่ข้ารักและมีชีวิตที่ดีเท่านั้น ขอคุณช

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 124

    ในขณะเดียวกัน จ้าวซือหว่านก็ขยับไปด้านข้างหลายก้าว รักษาระยะห่างกับเขานางเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธ "คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะพกอาวุธติดตัว ทั้งยังคิดจะทำร้ายข้า!""วันนี้ข้าจะทำให้วิญญาณของเจ้าสูญสิ้นเหมือนพี่ใหญ่ของเจ้า ไม่ได้กลับชาติมาเกิดอีก!"เมื่อเยียนเซียวหรานได้ยินเช่นนั้นจึงถามขึ้น "พี่ใหญ่ของข้าถูกพวกเจ้าสังหารหรือ?”จ้าวซือหว่านกระตุกยิ้ม "หากใช่แล้วมีอันใดหรือ? เป็นเพราะเขาไม่ดูตาม้าตาเรือ รนหาที่ตายเอง!"ดวงตาของเยียนเซียวหรานมีความโกรธมากกว่าเดิม เมื่อเขามีความโกรธมากขึ้น พลังปราณดำแห่งความอาฆาตก็ยิ่งแรงกล้ามากขึ้นกว่าเดิมเขาโจมตีจ้าวซือหว่านอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังคงหลบได้ก่อนหน้านี้เยียนเซียวหรานรู้ว่านางแปลกประหลาด แต่ยามนี้ก็เพิ่งรู้ว่านางร้ายกาจกว่าที่เขาคิดเห็นได้ชัดว่านางอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขากลับแทงนางไม่โดนเขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ดึงยันต์ที่ซือเจ๋อเยว่ให้เขาเมื่อยามเช้าออกมาอย่างเฉียบขาดหนึ่งใบ ตวัดมือโยนไปที่หน้าของจ้าวซือหว่านอย่างรวดเร็วยันต์นั้นไม่ได้ติดที่ตัวของจ้าวซือหว่าน หยุดอยู่ในระยะที่ห่างจากตัวนางไม่ถึงหนึ่งฉื่อยันต์ผืนนั้นลุกไหม้เอง กลายเป็นเปล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 125

    เมื่อแขนขาด เลือดก็พุ่งกระจายเมื่อจ้าวซือหว่านเห็นภาพนี้ พลันตัดสินใจเด็ดขาด ใช้เลือดวาดค่ายกลเลือดทมิฬขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าค่ายกลเลือดทมิฬกำลังจะสำเร็จ หากค่ายกลนี้สำเร็จ ก็จะสามารถดึงดูดวิญญาณร้ายโดยรอบมาได้ทั้งหมด แล้วฉีกร่างของพวกเขาเสียดวงตาของนางเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อค่ายกลเลือดทมิฬยังขาดอีกเพียงเส้นเดียว ก็มีมือขาวซีดมาจับมือของนางเอาไว้นางเงยหน้าขึ้น ก็พลันเห็นดวงตาสีดำสนิทแต่กลับส่องประกายของซือเจ๋อเยว่ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยเสียงที่อ่อนโยน "คุณหนูจ้าว คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า"เมื่อซือเจ๋อเยว่จับมือของจ้าวซือหว่านเอาไว้ นางก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัวเหมือนมีอันใดบางอย่างครอบคลุมนางเอาไว้ ความเย็นพลันเกิดตั้งแต่เท้าขึ้นมา ทำให้นางรู้สึกสั่นสะท้านแม้อากาศไม่หนาวนางรู้ดีว่าความรู้สึกที่ยังยะเยือกนี้ไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้นางใช้ค่ายกลในการรวบรวมพลังที่ชั่วร้าย เมื่อพลังแห่งความชั่วเข้ามาสู่ร่างกายก็ทำให้รู้สึกอึดอัดทรมานเป็นอย่างยิ่ง ทว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ก็คือการที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ใช้ค่ายกล แต่เพียงแค่ยื่นมือมาจับมือนางเอาไว้ ก็สามารถดึงพลังชั่วร้ายเข้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 126

    ในยามนี้นางรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะก่อนหน้านี้นางได้จัดวางค่ายกลกันเสียงเอาไว้ที่นี่เพื่อสังหารเยียนเซียวหราน จึงทำให้ไม่มีผู้ใดในบริเวณนี้ได้ยินเสียงกรีดร้องของนางซือเจ๋อเยว่คลี่ยิ้ม "คุณหนูจ้าวเอ่ยเช่นนี้ทำให้ข้ารู้สึกไม่ดีเลย ข้าเป็นคนที่จิตใจดีเพียงนี้ จะทำเรื่องโหดร้ายอย่างการสังหารคนได้อย่างไรเล่า? ""เอ่ยตามตรง ข้าไม่กล้าสังหารไก่ด้วยซ้ำ แล้วจะไปกล้าสังหารคนได้อย่างไร?"จ้าวซือหว่าน "..."วาจาของซือเจ๋อเยว่นั้นนางไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว!ถึงยามนี้นางรู้แล้วว่ากวนมามาและหนิวกงกงล้วนแต่ถูกซือเจ๋อเยว่สังหารด้วยค่ายกลทั้งสิ้นบัดนี้เยียนเซียวหรานและเยียนเหนียนเหนียนได้จัดการกับคนชุดดำทั้งหมดแล้วเยียนเหนียนเหนียนเห็นวิธีที่ซือเจ๋อเยว่ใช้ในการทรมานจ้าวซือหว่าน ทำให้นางรู้สึกว่าได้เปิดโลกทัศน์เรื่องที่น่าสนุกเช่นนี้ นางก็อยากมีส่วนร่วมด้วยเช่นกันนางเห็นร่างกายของจ้าวซือหว่านที่ถูกลมพัดเริ่มลดระดับลงต่ำ ก็คิดถึงยันต์ซือเจ๋อเยว่มอบให้นางเมื่อคืนนางรีบหยิบยันต์ออกมาแผ่นหนึ่ง แล้วติดเข้าที่หน้าผากของจ้าวซือหว่านโดยตรงเยียนเซียวหรานกลับเอ่ยขึ้น "นางรู้ว่าพี่ใหญ่ตายอย่า

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 276 

    อวิ๋นเยว่หยางเอ่ยจบยังหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา เช็ดตรงที่นางเพิ่งสัมผัสเมื่อครู่ด้วยความรังเกียจแรงที่เขาใช้ไม่ใช่น้อย ๆ เพียงชั่วพริบตา ใบหน้าของลู่จิ่นเหนียงก็ปูดบวมขึ้นทันที ดูทุลักทุเลอย่างยิ่งลู่จิ่นเหนียงเดิมคิดว่าแค่ได้พบอวิ๋นเยว่หยางก็พอแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าจะโดนปฏิบัติเช่นนี้ยามนี้นางแทบจะสติแตก!นางจ้องมองไปที่อวิ๋นเยว่หยางพลางเอ่ยขึ้น “เจ้ากล้าตบข้าอย่างนั้นหรือ!”อวิ๋นเยว่หยางหัวเราะเย็นชาพลางเอ่ยขึ้น “เจ้าเป็นตัวอันใด? อย่าว่าแต่ตบเจ้าเลย ต่อให้ฆ่าเจ้า ข้าก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอันใด”ลู่จิ่นเหนียงตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ “เจ้า! เจ้าทำกับข้าเช่นนี้ ข้าจะหย่ากับเจ้า! ข้าจะกลับไปอยู่บ้านแม่ข้า!”เมื่ออวิ๋นเยว่หยางได้ยินคำกล่าวนี้ เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะเสียงดัง “หย่าอย่างนั้นหรือ? ลู่จิ่นเหนียง เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใคร?”“การหย่ามีไว้สำหรับภรรยาเอกเท่านั้น เจ้าเป็นแค่อนุภรรยา” “เจ้ารู้หรือไม่ว่าอนุภรรยาคืออันใด? อนุภรรยาก็แค่ของเล่นเท่านั้น”“ตั้งแต่วันที่เจ้าเข้ามาในจวนหนิงกั๋วกง ชีวิตของเจ้าก็ไม่อาจออกไปได้อีก”“เจ้าเป็นแค่ของเล่นที่ข้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 275

    หลังจากหารือเรื่องราวเสร็จ ซือเจ๋อเยว่เกรงว่าเหล่าไท่จวินจะเป็นกังวล จึงเล่าให้เหล่าไท่จวินอย่างคร่าว ๆเหล่าไท่จวินเพียงสั่งให้พวกเขาระวังหน่อยเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากกินข้าวเช้าแล้ว พวกเขาก็เตรียมตัวออกเดินทางตอนที่พวกเขามาถึงหน้าประตู เยียนซุ่ยซุ่ยเดินตามมา ยื่นสิ่งของห่อหนึ่งให้แก่ซือเจ๋อเยว่กล่าว “ของพวกนี้องค์หญิงรับเอาไว้”“หากนางพบอันตรายเข้าจริง ๆ ตอนที่เหนียนเหนียนกับพี่สามไม่อยู่ข้างกายองค์หญิง ก็แค่ใช้สิ่งของพวกนี้โยนใส่ตัวของพวกเขา”ซือเจ๋อเยว่ถาม “นี่คืออะไร?”เยียนซุ่ยซุ่ยกล่าวด้วยความเขินอายเล็กน้อย “ของพวกนี้คือยาพิษที่ข้าเพิ่งจะทำขึ้นมาเมื่อเร็ว ๆ นี้”“ก่อนหน้านี้กำลังอยู่ในระหว่างเรียนช่วยชีวิตคน แต่ผลไม่ค่อยดีเท่าใดนัก บัดนี้แม้แต่องค์หญิงป่วยเป็นอะไรก็ยังไม่รู้”“ข้าช่วยชีวิตองค์หญิงไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นก็ทำได้เพียงคิดหาหนทางช่วยเหลือองค์หญิงเท่านั้น”“องค์หญิงออกจากเรือนหลายครั้งก็ต้องเจอเข้ากับอันตรายทุกครั้ง ข้าคิดว่ามียาพิษติดตัว บางทีอาจจะดีกว่า”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าเยียนซุ่ยซุ่ยเป็นแม่นางที่อ่อนโยนจิตใจเมตตามากคนหนึ่ง ปกติไม่กล้าแม้แต่เชื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 274

    นางสวมรองเท้ามือเป็นระวิง เพียงแต่ยิ่งลนลาน ก็ยิ่งทำได้ไม่ดีเดิมทีรองเท้าที่สวมได้อย่างง่ายดายมากเป็นเพราะนางตกตะลึงสวมห้าหกครั้งก็ยังไม่เข้าเยียนเซียวหรานยื่นมือออกไปจับข้อเท้าของนางเอาไว้ นางหันหน้าไปมองเขา เขากลับไม่ได้มองนาง แต่ยกรองเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา ค่อย ๆ สวมเข้าไปที่เท้าของนางซือเจ๋อเยว่ “...”นางรู้สึกว่าตนเองในเวลานี้โง่นิด ๆหลังจากเยียนเซียวหรานสวมรองเท้าในนางเสร็จข้างหนึ่งแล้ว ก็สวมอีกข้างอีกให้นางนางกระโดดลงจากเตียงอย่างว่องไว “ลำบากเจ้าแล้ว”นางพูดจบคิดจะหนี กลับถูกเยียนเซียวหรานจับข้อมือขาวเล็กเอาไว้นางมองเขาแล้วถาม “ยังมีธุระอะไรอีกหรือ?”เยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกไปแล้วช่วยติดจัดปกคอเสื้อให้นาง ช่วยนางปรับสายคาดเอวให้เรียบร้อย ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”นางหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเยียนเซียวหรานหวีผมให้นางอีก กล่าวเสียงเรียบ “เสร็จแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเขา ดวงตาของเขาล้ำลึกตามเดิม นางมองเห็นเงาสะท้อนของตนเองในดวงตาของเขาการเต้นของหัวใจนางเริ่มเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง นางรู้ว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่เข้าท่า จึงรีบกระโดดหนีออกทางหน้าต่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 273

    ตอนนี้สมองของซือเจ๋อเยว่ไม่พอใช้แล้ว เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ นางตอบว่า‘อืม’ทีหนึ่ง ไม่ได้เข้าใจความหมายของเขาจริง ๆเยียนเซียวหรานจับมือของนาง ดึงแขนเสื้อของนางขึ้น เส้นแดงที่อยู่ภายในก็ปรากฏขึ้นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว “ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”ในที่สุดซือเจ๋อเยว่ก็เข้าใจความหมายของเขา นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับกล่าวขึ้น “อาจจะเป็นเพราะห่างกันไปหน่อย”ครู่ต่อมา มือของเขาประคองเอวนาง ทันทีที่ออกแรงเพียงเล็กน้อย ก็อุ้มนางขึ้นมาวางไว้บนต้นขาของเขาซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!!!”อยู่ ๆ เขากลายเป็นคนที่เร่าร้อนจนเกินไป นางรับมือไม่ค่อยไหว!เยียนเซียวหรานสูงกว่านางมาก แล้วก็แข็งแรงกว่านางมาก ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน ชุดนอนของเขาคลุมไว้แค่ครึ่งเดียว นางรู้สึกเหมือนกับถูกฝังอยู่ในอ้อมอกของเขาภายในหัวใจของซือเจ๋อเยว่มีความตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร ทั้งยังจูบลงมาบนริมฝีปากนางนางใช้มือดันแผ่นออกของเขาอย่างไม่รู้ตัว เขาหันไปมองนาง ภายในดวงตาที่ดำขลับคู่นั้นสะท้อนให้เห็นถึงแววตาที่เขามองไม่ออกน้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย “มีขั้นตอนไหนที่ข้าทำไม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 272

    ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ถาม “เจ้ามีธุระอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?”มุมปากของเยียนเซียวหรานยกขึ้นเล็กน้อย “ไหน ๆ คืนนี้องค์หญิงก็มาแล้ว ไม่เติมอายุขัยสักหน่อยแล้วค่อยไปหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางร้อง‘หา’ทีหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สติอยู่ครู่หนึ่งเยียนเซียวหรานเหลือบตาขึ้น สายตาจดจ้องไปที่นางกล่าว “องค์หญิงอยากจะอายุยืนยาวร้อยปีไม่ใช่หรือ?”“ข้าเกรงว่าข้าไม่ให้ความร่วมมือ วันข้างหน้าองค์หญิงจะมาหาเรื่องข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางคิดว่าเขาค่อนข้างผูกพยาบาทวันนั้นนางก็แค่พูดเล่นกับเขาต่อหน้าของเหล่าไท่จวินเท่านั้น เขากลับจำได้อย่างแม่นยำในเวลานี้นางรู้ว่านางมีตัวเลือกอยู่สองข้อ ข้อแรกคืออยู่ต่อเสียเลย ข้อสองคือรีบหนีไปอย่างแรกจะน่าอายเกินไปหน่อย อย่างหลังจะขี้ขลาดเกินไปหน่อยนางครุ่นคิดครู่หนึ่ง คิดว่าถึงอย่างไรก็เป็นแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะเริ่มจากทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของตัวเองหากทำตัวขี้ขลาดในเวลาแบบนี้ ต่อไปนางจะมาหาเขาได้อย่างไร? ต่อให้มาหาเขาด้วยอย่างหน้าด้านอีก คิดว่าก็อาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะเอาได้ดังนั้นนางจึงถอดรองเท้า แล้วกระโ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 271

    ตอนที่นางได้ยินก็ไม่ได้ประหลาดใจมากเท่าใดนัก ดวงสมรสของลู่จิ่นเหนียง นั่นก็ทำได้เพียงเป็นอนุของคนอื่นเท่านั้นปกติการเป็นอนุ ขอเพียงแค่ฝั่งผู้ชายชอบนาง ทุกอย่างจะปรากฏขึ้นในดวงสมรสสิ่งเหล่านี้สามารถยืนยันได้ว่า อวิ๋นเยว่หยางรับลู่จิ่นเหนียงเป็นอนุเพราะมีจุดประสงค์อื่น เขาไม่ได้ชอบลู่จิ่นเหนียงเมื่อซือเจ๋อเยว่นึกถึงท่าทางที่หยิ่งผยองเกินความเป็นจริงของลู่จิ่นเหนียง รู้ว่าหากครั้งนี้ลู่จิ่นเหนียงไม่เอาชีวิตไปทิ้งที่จวนหนิงกั๋วกง ก็ต้องได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจเพียงแต่เรื่องนี้ตามที่เหล่าไท่จวินได้กล่าว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนอ๋องแล้ว นางก็คร้านจะช่วยเป็นธุระให้ลู่จิ่นเหนียงบัดนี้สิ่งที่นางเป็นกังวลยิ่งกว่าก็คือเรื่องที่อวิ๋นเยว่หยางขโมยดวงชะตาของเยียนเซียวหรานไปสองครั้งก่อนนางได้ตามหาค่ายกลนั่นแต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว แล้วก็ตามหาค่ายกลอันนั้นไม่เจออีก เกรงว่าดวงชะตาของเยียนเซียวหรานจะถูกขโมยไปจนหมดแล้วหลายวันมานี้ซือเจ๋อเยว่คิดอยู่หลายวิธี หลังจากตัดออกไปจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้หรือว่าแบบนั้น ความเสี่ยงก็มากทั้งนั้นนางคิดอยู่หลายตลบ คิดว่าบางทีอาจจะสาม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 270

    ซุ่ยซุ่ยของนางยังไม่ออกเรือน สถานการณ์ของจวนเยียนอ๋องเป็นแบบนี้ นางต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมเสียหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ควรเป็นภาระของพวกเขาเหล่าไท่จวินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าว “แม้ว่าวันนี้เวินชิงจะรับปากองค์หญิง ต้องทำตามที่รับปาก”“ต่อไปเจ้ามีเวลาว่าง ก็มาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่อย่างข้า”เบ้าตาของจู้อี๋เหนียงแดงเล็กน้อย คุกเข่าลงบนพื้นกล่าวเสียงเบา “ลูกอกตัญญู ทำให้เหล่าไท่จวินต้องเป็นห่วง”เหล่าไท่จวินยื่นมือออกไปประคองนางลุกขึ้น จับมือของนางแล้วตบเบา ๆ “เรื่องในอดีตก็ให้ผ่านไป พวกเราต้องมองไปข้างหน้า”จู้อี๋เหนียงเช็ดน้ำตากล่าว “ข้าเชื่อฟังเหล่าไท่จวิน”ซือเจ๋อเยว่ชอบบรรยากาศของจวนเยียนอ๋องที่สุด เหล่าไท่จวินเป็นคนชราที่เฉลียวฉลาด ถึงแม้คนในจวนจะมากมาย แต่นางกลับน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งตอนที่จวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง คนที่ได้รับความกระทบกระเทือนมากที่สุดไม่ใช่เหล่าไท่จวิน แล้วก็ไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง แต่ทว่าเป็นจู้อี๋เหนียงก่อนหน้านี้จู้อี๋เหนียงเป็นคนอมทุกข์มาตลอด ออกจากเรือนน้อยมากเหล่าไท่จวินไปปลอบใจจู้อี๋เหนียงเป็นประจำในจวนมีของของดีอะไร เหล่าไท่จวินก็จะคิดถึงนาง ไม่ใช่เพราะว่านางเป็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 269

    “อย่างไรเสียจวนหนิงกั๋วกงก็ดีกว่าจวนเยียนอ๋อง สิ่งที่เรียกว่าชื่อเสียงของจวนเยียนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินดีช่วยพี่ชายของเจ้าให้เลื่อนตำแหน่ง”“ตามที่ข้ามอง จวนเยียนอ๋องที่ไม่มีน้ำใจ ไม่รู้จักปรับตัวเช่นนี้ก็สมควรล่มสลาย!”ลู่จิ่นเหนียงได้ฟังคำพูดพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกมีตรงไหนผิดปกติ เดิมทีจวนเยียนอ๋องก็ยึดติดกับหลักการมากเกินไปต่อให้เยียนซื่อจะปฏิบัติต่อนางดีมากแค่ไหน ทันทีที่นางพูดเรื่องที่ให้เขาช่วยเหลือ เขาก็จะชักสีหน้าทันทีเมื่อเปรียบเทียบกัน จวนหนิงกั๋วกงมีความเปิดกว้างมากกว่า แล้วก็เต็มไปด้วยความจริงใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเรื่องนี้ เมื่อนางมองเห็นเครื่องประดับและผ้าเหล่านี้ ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นแบบเก่าอีกแล้วลู่ฮูหยินกล่าวอีกว่า “คุณชายรองให้ความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมาก อยากจะให้เจ้ารีบเจ้าจวนเร็วหน่อย”“วันนี้ข้าได้ปรึกษากับท่านพ่อของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้จะส่งตัวเจ้าเข้าจวนหนิงกั๋วกง ตามความต้องการของจวนกั๋วกง”ลู่จิ่นเหนียงตกตะลึงไปทันที “ไปจวนหนิงกั๋วกงวันพรุ่งนี้? นี่มันจะรีบเกินไปหน่อยหรือไม่?”ลู่ฮูหยินตอบ “รีบที่ไหนกัน นี่เห็นได้ชัดเจนว่าจวนหนิงกั๋วกงให้ความสำคัญกับ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 268

    นางพ่นลมหายใจกล่าว “องค์หญิงอย่างไรเสียก็จัดการเรื่องของตนเองให้ดีเถอะ เลิกริษยาคนอื่น ใจกว้าง บางทีอาจจะสามารถมีชีวิตได้ถึงสิบแปดปี!”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดถากถางของลู่จิ่นเหนียงไม่เพียงไม่โกรธ ทั้งยังรู้สึกน่าขันเล็กน้อยนางทำอะไรด้วยใจมาตลอด ในเวลานี้เตือนสติลู่จิ่นเหนียงก็เป็นเพราะเยียนซื่อแต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ความคิดบิดเบี้ยวตั้งแต่ภายใน กระเสือกกระสนรนหาที่ตาย ต่อให้เทพต้าหลัวมาที่นี่ เกรงว่าก็คงจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ไม่ได้นางพยักหน้ากล่าว “ข้าคิดว่าที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผลมาก คนที่จิตใจคับแคบ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”นางพูดจบก็คร้านจะสนใจลู่จิ่นเหนียงอีก กล่าวกับเยียนเซียวหราน “น้องสาม พวกเราไปกันเถอะ!”ลู่จิ่นเหนียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก เยียนเซียวหรานมองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือกแวบหนึ่งสายตานั้นเย็นยะเยือกเข้ากระดูก ความน่าสะพรึงกลัวเต็มเปี่ยม ลู่จิ่นเหนียงเห็นก็รู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง คำพูดที่กำลังจะพูดออกมาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นนางก็พบว่า เยียนเซียวหรานแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง บนร่างกายของเขามีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง ที่ไม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status