Share

บทที่ 131

Author: เจียงหนานเยียน
“ดวงชะตาขององค์หญิง ข้าได้ฟังมาบ้างแล้วเช่นกัน ค่อนข้างคู่ควรกับหวนเอ๋อร์เพคะ”

นางพูดมาถึงตรงนี้ก็จ้องมองซือเจ๋อเยว่ด้วยดวงตาที่เปล่งประกายระยิบระยับทั้งสองข้าง “หากองค์หญิงทรงมีความคิดเรื่องแต่งงานใหม่ ทรงพิจารณาหวนเอ๋อร์ดูนะเพคะ”

ซือเจ๋อเยว่ “...”

คำพูดประโยคนี้ของฮูหยินเหวยค่อนข้างตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าซือเจ๋อเยว่จะไม่รู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ยังรู้สึกแปลก ๆ

ตัวตนของนาง ในราชสำนักเดิมทีก็มีความน่าอึดอัดอยู่บ้าง เมื่อทอดสายตามองในราชสำนัก มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าแต่งงานกับนาง

นางขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงของพระชายาเยียนอ๋องดงลอยมา “องค์หญิง ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่!”

ฮูหยินเหวยเห็นพระชายาเยียนอ๋องที่ยืนอยู่บริเวณไม่ไกล นางรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย เกรงว่าพระชายาเยียนอ๋อง จะได้ยินบทสนทนาของพวกนางเมื่อครู่นี้เข้า

ความรู้สึกของการถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าแย่งลูกสะใภ้ของคนอื่นแบบนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง

นางรีบทำความเคารพ จากนั้นกล่าว “ข้าขอไปแก้บนที่พระอุโบสถก่อน ขอทูลลาเพคะ”

พระชายาเยียนอ๋องพยักหน้าเล็กน้อยทีหนึ่ง “เชิญฮูหยินเฒ่า”

ฮูหยินเหวยเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันทีท
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 132

    ซือเจ๋อเยว่ปลอบโยนนาง “เสด็จแม่อย่าได้ร้อนใจ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางแก้ไขเลย”“วันนี้จ้าวซือหว่านล้มเหลว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนางจะต้องร้อนใจแน่”“พวกเราสามารถอาศัยความคิดนี้ของคนคนนั้น ตามรอยไปสืบดู ตามหาตัวคนผู้นั้นออกมา จากนั้นหาหนทางทำลายค่ายกลนั่น”พระชายาเยียนอ๋องไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าในเวลานี้ซือเจ๋อเยว่จะอธิบายเรื่องราวอย่างชัดเจนแล้วก็ตาม ในใจของนางยังคงร้อนรนเช่นเดิมซือเจ๋อเยว่ไม่ได้กล่าวโน้มน้าวพระชายาเยียนอ๋องอีกตลอดหลายปีที่ผ่านมา พระชายาเยียนอ๋องถูกเหล่าไท่จวินปกป้องเอาไว้ดีเกินไป จนแบกรับปัญหาไม่ไหวจวนเยียนอ๋องในเวลานี้ แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง พระชายาเยียนอ๋องไม่สามารถเป็นคนที่แบกรับปัญหาไม่ได้เหมือนดังเช่นเมื่อก่อนอีกแล้วนางเพียงกล่าวเสียงเบา “วิธีการทำลายคนบนโลกไปนี้มากมายนัก บางวิธีก็โหดเหี้ยมและอำมหิต”“ครั้งนี้จ้าวซือหว่านยืมมือเสด็จแม่ เกือบจะสังหารน้องสาม ต่อไปเสด็จแม่จะทำอะไรก็จะต้องระวังให้มากขึ้นอีกหน่อย อย่าเปิดโอกาสให้คนอื่นอีก”พระชายาเยียนอ๋องกำหมัดแน่นกล่าว “ต่อไปข้าทำอะไรจะระวังให้มาก ไม่มีทางเชื่อใจผู้ใดง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 133

    วัน ๆ เขาเอาแต่ทำหน้าเย็นชา ทั้งยังคบค้าสมาคมกับคนตายตลอดทั้งปี ท่าทางดูค่อนข้างเย็นชา จ้าวอวี่ชุนจึงรู้สึกหวาดกลัวเขาเล็กน้อยเขายื่นมือออกไปชี้เยียนเซียวหราน กล่าว “ซือหว่านตายเพราะจวนเยียนอ๋อง”“ไม่ว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงของนางจะเป็นอะไร จวนเยียนอ๋องจะเป็นต้องชดใช้!”ในเวลานี้นับว่าเขาสงบสติอารมณ์ลงบ้างแล้ว จ้าวซือหว่านก็ตายไปแล้ว ในเวลาแบบนี้ เขาจำต้องต่อสู้เพื่อผลประโยชน์บางอย่างของตัวเองซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมยิ้มร่า “หากแม่นางจ้าวตายเพราะจวนเยียนอ๋องจริง จวนเยียนอ๋องย่อมไม่มีทางนั่งดูอยู่เฉยๆ เป็นแน่”เหวยอิ้งหวนหันหน้าไปมองนางแวบหนึ่ง ฟังจากคำพูดของนางยังมีประโยคหลังอีก เพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นพระชายาเยียนอ๋องก้าวออกมาพูดเสริมอีกครึ่งประโยคหลังที่ซือเจ๋อเยว่ไม่ได้พูดออกมา “จวนเยียนอ๋องไม่เคยปฏิบัติต่อแม่นางจ้าวอย่างไม่ยุติธรรม”“หากนางตายเพราะมีเจตนาไม่ซื่อสัตย์ รนหาที่ตายเอง เช่นนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจวนเยียนอ๋อง”จ้าวอวี่ชุนกล่าวด้วยความโมโห “หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าซือหว่านมีเจตนาไม่ซื่อสัตย์? พระชายาเยียนอ๋อง เหตุใดท่านจึงกล่าวอย่างไม่มีมโนธรรมเช่นนี้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 134

    พระชายาเยียนอ๋องหันหน้าไปมองเหล่าไท่จวินด้วยดวงตาแดงก่ำ เช็ดน้ำตาอีกครั้งเหล่าไท่จวินถอนหายใจทีหนึ่งแล้วกล่าว “บัดนี้เจ้าเป็นนายหญิงผู้ดูแลจวนอ๋อง มีเรื่องราวมากมายจำเป็นต้องให้เจ้าตัดสินใจ”“ข้าไม่ขอให้เจ้าสามารถประคับประคองจวนเยียนอ๋องได้ แต่เจ้าก็ไม่ควรกลายเป็นภาระของบรรดาลูกๆ”“ครั้งนี้ที่จ้าวซือหว่านมีโอกาสทำร้ายเซียวเอ๋อร์ สุดท้ายก็เป็นเพราะเจ้าตัดสินใจเอง”“ก่อนหน้านี้องค์หญิงก็เคยเตือนเจ้า บอกว่าจ้าวซือหว่านมีปัญหา แต่เจ้ากลับไม่เอามาใส่ใจเลยสักนิด”“หลังจากที่ท่านอ๋องจากไป เดิมทีเซียวเอ๋อร์ก็ต้องไว้ทุกข์เป็นเวลาสามปี สามปีนี้จวนอ๋องไม่ควรมีงานแต่งงาน”“เมื่อวานนี้ข้าก็เตือนเจ้าเช่นกัน จ้าวซือหว่านตามไปที่วัดเป้ากั๋วนั้นไม่เหมาะสม เจ้ากลับไม่ฟัง ยืนกรานที่จะให้เซียวเอ๋อร์กับจ้าวซือหว่านพัฒนาความสัมพันธ์กัน”“หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงเตรียมการตั้งแต่เนิ่น ๆ วันนี้คนที่ตายคงไม่ใช่จ้าวซือหว่าน แต่คงเป็นเซียวเอ๋อร์!”เดิมทีพระชายาเยียนอ๋องก็รู้สึกเสียใจเพราะเรื่องหยกแขวนชิ้นนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การที่ถูกเหล่าไท่จวินหยิบเรื่องนี้ออกพูดเช่นนี้ ในใจของนางก็ยิ่งรู้สึกเสียใจบ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 135

    ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า เตรียมที่จะไปพบเหวยอิ้งหวนเยียนเซียวหรานวางแผ่นป้ายวิญญาณในมือลง กล่าวเสียงเรียบ “ข้าจะไปพบเขาพร้อมกับองค์หญิง”ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อยกล่าว “เขามีธุระอยากจะถามข้าเป็นการส่วนตัว น้องสามไปด้วย เขาอาจจะคิดมากได้ ข้าไปคนเดียวก็พอ”นางพูดจบก็เห็นทุกคนในห้องหันหน้ามามองนาง นางตบหน้าผากเบา ๆ ทีหนึ่ง “ที่เขามาในวันนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะถามเรื่องค่ายกล”“เรื่องนี้นอกจากข้าแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายได้อย่างละเอียด”“ประตูโถงบุปผาเปิดอยู่ ด้านนอกมีคนรับใช้กับสาวใช้คอยเฝ้าอยู่ ทั้งยังอยู่ที่จวนอ๋อง ข้าไม่มีอันตรายหรอก”เหล่าไท่จวินรู้ว่าคำพูดประโยคนี้ของนางไม่เกี่ยวกับเรื่องอันตรายหรือไม่อันตรายเลยสักนิด แต่พูดเพื่อหลบเลี่ยงความสงสัยถึงอย่างไรการที่สตรีที่มีครอบครัวแล้วเจอผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัวตามลำพัง ก็ไม่ถูกต้องตามกฎสักเท่าใดเหล่าไท่จวินกล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านไปเถอะ ข้าเชื่อท่าน”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้าเล็กน้อยทีหนึ่ง แล้วจึงเดินไปยังโถงบุปผาเหล่าไท่จวินหันหน้ากลับมา เห็นว่าเยียนเซียวหรานกำลังมองซือเจ๋อเยว่ นางไม่ได้คิดมาก เพียงกล่าว “องค์หญิงเป็นคน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 136

    ‘คน’ คนนั้นใบหน้าซีดเซียว มุมปากมีเขี้ยวยื่นออกมา ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำบนร่างกายของมันถูกรัดด้วยสายสีแดงเส้นหนึ่ง ไม่รู้ว่าสายนั้นมีไว้ทำอะไร มัดมันเอาไว้แน่นมันกล่าวด้วยความเกลียดชัง “ซือเจ๋อเยว่ ข้าจะฆ่าเจ้า!”เล็บของมันทั้งดำทั้งยาวทั้งแหลม พุ่งเข้าไปหาซือเจ๋อเยว่ด้วยความดุร้าย แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้นาง ก็ถูกสายสีแดงมัดเอาไว้ เข้าใกล้ตัวนางไม่ได้ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ใต้เท้าเหวยไม่ต้องกลัว นี่เป็นวิญญาณร้ายที่ข้าจับได้ก่อนหน้านี้”“ในมือของมันมีดวงชะตาคนอยู่สิบดวง ค่อนข้างดุร้าย ตอนนั้นไม่ได้ฆ่ามันทันที เป็นเพราะคิดว่าการฆ่ามันเลยจะเป็นการดูถูกมันเกินไป”สีหน้าของเหวยอิ้งหวนซีดขาวเล็กน้อย “ดังนั้นบนโลกใบนี้มีผีจริงๆ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ถือว่ามี ปกติใต้เท้าสืบคดี น่าจะได้พบเจอเรื่องราวแปลกประหลาดและไม่สามารถอธิบายได้อยู่บ้าง”“วันนี้ข้าปล่อยของสิ่งนี้ออกมา เพียงแค่อยากจะให้ใต้เท้ามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟ้าผ่าคนตายบนโลกใบนี้”เหวยอิ้งหวนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง สายตาที่จ้องมองซือเจ๋อเยว่ค่อนข้างซับซ้อนวิญญาณร้ายดวงนั้นกล่า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 137

    ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ไม่ใช่ข้าใช้ยันต์ห้าอัสนีบาตรสังหารจ้าวซือหว่าน แต่จ้าวซือหว่านคิดจะสังหารพวกข้า พวกข้าจึงจำใจต้องตอบโต้”“ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อจ้าวซือหว่าน แต่การกำจัดปีศาจและจับวิญญาณชั่วร้ายถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบของสำนักเต๋า ใต้เท้าได้โปรดอภัย”เหวยอิ้งหวนจ้องมองนางอยู่นาน อดกลั้นอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็พ่นประโยคหนึ่งออกมา “ให้อภัยกับผีนะสิพ่ะย่ะค่ะ!”เขาพูดจบก็สะบัดแขนเสื้อ แล้วสาวเท้าเดินออกไปซือเจ๋อเยว่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าไปส่งใต้เท้า!”เหวยอิ้งหวนรีบกล่าว “องค์หญิงหยุดก่อนพ่ะย่ะค่ะ หากเป็นไปได้ ต่อไปองค์หญิงอยู่ห่างจากข้าสักหน่อยเถิด ต่อไปข้าไม่อยากจะพบองค์หญิงอีก”ซือเจ๋อเยว่ที่อยู่ด้านหลังเขากล่าว “ใต้เท้าเหวยช่างพูดเสียจริง คดีของจวนเยียนอ๋องยังไม่จบสิ้น วันข้างหน้าพวกเรายังมีโอกาสจะต้องได้เจอกันหน้ากันอีก”“ใต้เท้ามีความเชี่ยวชาญในการสืบคดี ข้านับถือจริง ๆ ยังคิดอยู่ว่าต่อไปหากมีเวลาว่างจะไปขอคำชี้แนะจากใต้เท้า”เหวยอิ้งหวนยิ่งเดินเร็วขึ้นกว่าเดิม ไม่อยากจะได้ยินคำพูดของนางเลยสักนิดเดียวซือเจ๋อเยว่เห็นท่าทางของเขา ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหวยอิ้งหวนได้ยิน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 138

    เหวยอิ้งหวน “...”เขาเป็นผู้ควบคุมดูแลการลงโทษ มีวิธีการตายแบบไหนที่ไม่เคยเห็นบ้าง แต่การตายของ ‘คน’ คนนี้นับว่าค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์‘คน’ คนนั้นบ่นพึมพำต่อไป “สิ่งที่น่าโมโหที่สุดคือข้าตกลงมาตายไปในบ้านของตนเอง พวกเขาไม่ชดใช้เงินให้ข้าแม้แต่แดงเดียว”“หลายปีมานี้ข้าก่อความวุ่นวายในบ้านของเขา ทำให้ทุกคนในครอบครัวของเข้าตกใจจนย้ายนี้ไป แต่ว่าจนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่ได้กินสาลี่เลยสักลูก”“ใต้เท้า ท่านช่วยบอกกับลูกชายของข้าที ว่าอย่าเอาอาหารที่เย็นชืดมาเป็นของเซ่นไหว้บ่อย ๆ ได้หรือไม่? ข้าอยากจะชิมรสชาติของสาลี่ดูบ้าง”เหวยอิ้งหวน “...”เขารู้สึกเหมือนกำลังจะป่วยเป็นโรคจากการทำงานเจ้าหมอนี่ไปขโมยสาลี่ของชาวบ้านแต่ขโมยไม่ได้ จากนั้นตกลงมาตาย ไม่คิดเลยว่าที่ยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ไม่ยอมไปเกิดใหม่ ก็เพื่อกินสาลี่!เขาคิดว่าตนไม่เข้าใจ ‘คน’ คนนั้นก็ช่างแล้ว ไม่คิดเลยว่าเจ้าหมอนั่นจะเดินมาที่ตรงหน้าแล้วจะโกนว่า “อาฮวา อาจู อาหนิว รีบมาเร็วเข้า!”“ใต้เท้าท่านนี้มองเห็นข้า แล้วก็ได้ยินสิ่งที่ข้าพูดอีกด้วย พวกเขามีเรื่องคับข้องใจอะไรก็รีบมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม”เหวยอิ้งหวน “...”‘ค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 139

    เขารู้ว่าสถานการณ์แบบเขาในตอนนี้ เป็นไปได้สูงที่เป็นเพราะถูกซือเจ๋อเยว่เบิกตาทิพย์เขาเคยได้ยินคนพูดว่า การเบิกตาทิพย์เป็นเรื่องที่ยากมากเรื่องหนึ่ง พอเป็นนาง เพียงแค่โบกมือก็ทำให้เรื่องราวสำเร็จได้ทุกอย่างที่ได้ยินและได้เห็นในคืนนี้ ได้ทำลายสามมุมมองและความรู้ของเขาจนพังทลายคืนนี้ซือเจ๋อเยว่เบิกตาทิพย์ให้เขาแบบนี้ เพียงเพราะแค่อยากจะบอกเขาว่าจ้าวซือหว่านเกี่ยวพันธ์กับสิ่งชั่วร้ายจริง ๆ ถึงได้ถูกฟ้าผ่าตายเพียงแต่สายฟ้านี้อยู่ในยันต์ของซือเจ๋อเยว่ นางกำลังขจัดความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเดิมทีเหวยอิ้งหวนก็กำลังคาดเดาว่าซือเจ๋อเยว่เป็นผู้สังหารจ้าวซือหว่าน ครั้งนี้นับว่ามั่นใจอย่างสมบูรณ์แล้วเพียงแต่วิธีการสังหารคนของซือเจ๋อเยว่ อยู่เหนือที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้เรื่องราวในค่ำคืนนี้ส่งผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมากจริง ๆ เขาอดทนไม่ไหวแล้วจริง ๆเขาไม่ได้พาคนมาด้วย ไปที่จวนเยียนอ๋องเพียงลำพังตอนที่เขามาถึง ประตูห้องก็ได้นำเขาตรงไปยังแท่นดาราของจวนอ๋องแท่นดาราเป็นลานกว้างขนาดประมาณสองตารางเมตร ที่นั่นสามารถมองเห็นทั่วทั้งจวนอ๋องตรงกลางของแท่นดาราในเวลานี้มีโต๊ะหนึ่งตัววางอยู่ บน

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status