บททั้งหมดของ ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท: บทที่ 21 - บทที่ 30

226

บทที่ 21 สำรวจห้องของสตรีในยามค่ำคืน

เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เทียนซูพูด อวี๋เฟยเหยียนก็เอ่ยอย่างร้อนใจ “หากนางสามารถช่วยศิษย์พี่ใหญ่กำจัดพิษกู่เย็นได้จริง ๆ ข้าก็จะไม่ถือสาเรื่องที่นางเคยทำลายแผนของพวกเรา”ซ่างกวนซียังคงนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “เฟยเหยียน พรุ่งนี้เจ้าจงเข้าเมืองหลวงมาอย่างเปิดเผย แล้วป่าวประกาศว่าเจ้ามาเมืองหลวงก็เพราะข้า ข้าต้องการให้เจ้ากดดันอันกั๋วกงต่อหน้าธารกำนัล”อวี๋เฟยเหยียนเป็นบุตรของอ๋องเซียวเหยา และที่ดินศักดินาของตระกูลอ๋องเซียวเหยาก็คือเมืองกูซูตามกฎหมาย ตระกูลอ๋องเซียวเหยาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองหลวงโดยปราศจากราชโองการ ดังนั้นอวี๋เฟยเหยียนจึงติดตามซ่างกวนซีมายังเมืองหลวงและซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาตลอดตอนนี้ซ่างกวนซีสั่งให้เขาปรากฏตัวอย่างเปิดเผย เขาย่อมรู้สึกยินดีมาก ตอบตกลงทันทีจากนั้นซ่างกวนซีก็มองไปที่เย่เทียนซูอีกครั้งและพูดต่อ “ส่วนเจ้ากลับไปที่หอหงซิ่ว ต่อหน้าก็อย่าทำตัวเกี่ยวข้องกับข้า คอย...คอยปกป้องเยี่ยนเว่ยฉืออย่างลับ ๆ ด้วย”หอหงซิ่วเป็นหอนางโลมที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเมืองหลวงเพราะในราชสำนักล้วนถูกอันกั๋วกงและอ๋องจ่างซิ่นค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 22 นางไม่ได้ตั้งใจ

ซ่างกวนซีรีบนำผ้าห่มไปคลุมไว้แล้วหันหลังจากไปทันทีเขาเดินกลับมาที่เรือนพลางสูดหายใจเฮือกใหญ่ และอดไม่ได้ที่จะบ่นว่า “ยัยเด็กบ้าสมควรตายเอ๊ย เหตุใดถึงไม่ใส่เสื้อผ้านอนเล่า?”นั่นเกือบจะทำลาย ‘วิชาถงจื่อกง’ ที่เขาฝึกฝนมาหลายปีซ่างกวนซีกุมหน้าอกของตัวเอง พยายามระงับจังหวะหัวใจที่เต้นรัว แต่เขาไม่สามารถระงับความรู้สึกร้อนรุ่มคันยุบยิบที่กระจายไปทั่วร่างกายได้ไม่รู้ว่ามันเป็นอาการคันจากแผลที่กำลังจะหาย หรือเป็นเพราะความรู้สึกภายในหัวใจที่ไม่สามารถควบคุมได้ซู่ซู่ซู่!ฝนฤดูใบไม้ผลิที่ตกลงมาค่อย ๆ ดับไฟราคะในหัวใจของซ่างกวนซีเขามองกลับไปที่ห้องของเยี่ยนเว่ยฉือ และพยายามพูดหลอกตัวเองว่า “แม้ข้าจะเห็นเรือนร่างของเจ้าแล้ว แต่เจ้าก็เห็นของข้าไปแล้วเช่นกัน ก็ถือว่า...เจ้าไม่ได้เสียเปรียบ!”ซ่างกวนซีเดินจากไป แต่ความคิดของเขายังคงอยู่ที่ใต้ผ้าห่มผืนนั้น……เช้าวันรุ่งขึ้นเยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าคราวนี้ตนนอนหลับสบายเป็นพิเศษอาจเป็นเพราะนางเคยนอนในเล้าหมูมาก่อน ยากนักที่จะได้นอนบนเตียงใหญ่ ๆ ที่ไม่มีกลิ่นมูลหมูหรือเสียงหมูรบกวนนางลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย และผ้าห่มบนตัวของนางก็ร่วงลง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 23 ปลอมตัวเป็นชายารัชทายาท

เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตาปริบ ๆ พลางมองทุกคนด้วยความสับสน จากนั้นก็มองไปทางประตูใหญ่ด้านนอก นางขมวดคิ้วและพูดว่า “ตาแก่เช่นท่านนี่ช่างไร้เหตุผลจริง ๆ ท่านพาคนมากมายบุกเข้ามาในจวนองค์รัชทายาทของข้า ซ้ำยังบอกว่าข้าทำตัวสามหาว? ข้าว่าท่านทำตัวสามหาวยิ่งกว่าเสียอีก!”ตาแก่?นางเรียกเขาว่าตาแก่อย่างนั้นรึ?!อันกั๋วกงกัดฟันพลางพูดว่า “เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าสวมรอยแอบอ้างเป็นชายารัชทายาทแทนน้องสาวของเจ้าเยี่ยนชิงซู ตอนนี้ความจริงเปิดเผยแล้ว เจ้ามีอะไรจะแก้ตัวหรือไม่?”“สวมรอยแอบอ้าง?” เยี่ยนเว่ยฉือเข้าใจจุดประสงค์ในการมาเยือนของอันกั๋วกงแล้วใครมันจะไปอยากปลอมตัวเป็นคนอื่นแล้วเข้าคุกไปมีสัมพันธ์สืบทายาทกันนี่ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการเลยด้วยซ้ำ จบไหม?เยี่ยนเว่ยฉือกลอกตาใส่อันกั๋วกงและพูดด้วยความโกรธ “อันกั๋วกง การจะใช้คำว่าสวมรอยแอบอ้างได้นั้น ก่อนอื่นก็ต้อง ‘สวมรอย’ ก่อนสิ ข้าไม่เคยบอกเสียหน่อยว่าข้าคือเยี่ยนชิงซู”“เถียงข้าให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ วันนี้เจ้าไม่มีทางรอดพ้นจากความผิดฐานสวมรอยแอบอ้างเป็นชายารัชทายาทไปได้แน่ ใครก็ได้ไปคุมตัวนางมา ข้าจะจับนางส่งเข้าคุก!”เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจอย่างเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 24 เป็นลิขิตจากสวรรค์ที่ยากจะเกิดขึ้นได้

เยี่ยนเว่ยฉือถอยหลังไปทีละก้าวจนหลังชนบานประตูเสียงดังกึกอันกั๋วกงรู้ว่าซ่างกวนซีอยู่ในห้อง แต่เขาไม่ยอมปรากฏตัว และไม่แม้แต่จะออกมาปกป้องนางเลยหรือซ่างกวนซีอาจจะเกลียดนางไปแล้วเพราะรู้ว่านางไม่ใช่เยี่ยนชิงซู?เมื่อคิดได้เช่นนั้น อันกั๋วกงก็ยิ้มเยาะพลางก้าวเข้าไปหาเยี่ยนเว่ยฉือดูท่าเขาต้องการจะจับนางด้วยตัวเองหรือ?เย่เทียนซูที่อยู่ในความมืดกลอกตาแล้วพูดว่า “ตาแก่ผู้นี้ช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นเสียจริง ถึงกับยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อที่จะได้ระบายความโกรธและลงมือทำร้ายสาวน้อยไร้ทางสู้!”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ก็ไม่ยอมออกมาไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด พวกเราควรทำอย่างไรดี?”เย่เทียนซูเองก็คำนึงปัญหานี้ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ครุ่นคิดถึงต้นสายปลายเหตุ ก็มีคนมาเยือนที่จวนองค์รัชทายาทแห่งนี้เพิ่มอีก“ท่านพ่อ ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป!” เสียงของเด็กสาวพูดขึ้น“ซูเอ๋อร์ อย่าดื้อ พวกเราต้องยอมรับผิดและขอโทษ ตอนนี้เรื่องเลยเถิดไปไกลแล้ว องค์รัชทายาทคงไม่ยอมข้องเกี่ยวกับเจ้าอีกแน่!” คนที่พูดประโยคนั้นเป็นชายวัยกลางคนดูเหมือนทั้งสองคนจะคิดว่าไม่มีใครอยู่ในจวนองค์รัชทายาท ถึงได้พูดจาไม่ม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 25 ต้องทะเลาะวิวาทอีกแล้ว?

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเยี่ยนชิงซูเห็นท่านหญิงหมิงหยางเดินเข้ามา นางก็รีบกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของมารดาแล้วพูดอย่างเอาแต่ใจ “ท่านแม่ ท่านมาก็ดีแล้ว พวกเขาบอกว่าท่านพ่อมีความผิดฐานหลอกลวงฮ่องเต้เจ้าค่ะ!”หมิงหยางลูบเรือนผมยาวของลูกสาวด้วยความรัก จากนั้นก็มองไปที่อันกั๋วกงพลางขมวดคิ้วและพูดว่า “ท่านใต้เท้าอันกั๋วกง นั่นอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือเปล่า? เหตุใดท่านไม่เชิญพี่ชายของข้ามาพูดคุยรายละเอียดกันเล่า?”อันกั๋วกงแค่นเสียงเย็น ท่านหญิงหมิงหยางใช้ชื่อพี่ชายใหญ่อ๋องจ่างซิ่นมาอ้างเช่นนี้ เพื่อต้องการจะกดดันเขาอย่างนั้นน่ะหรือ?ทุกวันนี้ จะเป็นคนจากในหรือนอกราชสำนักก็ไม่มีใครไม่รู้ว่า บรรดาขุนนางบุ๊นจะเชื่อฟังอันกั๋วกง และเหล่าขุนนางฝ่ายบู๊จะภักดีกับอ๋องจ่างซิ่นคนหนึ่งเป็นฝ่ายบุ๋นและอีกคนเป็นฝ่ายบู๊ ทั้งสองต่างต่อสู้ขับเคี่ยวกันในราชสำนัก จนเกือบจะทำให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันหมดบทบาทไปเลยนี่คือเหตุผลที่เยี่ยนหานซานกล้าที่จะให้บุตรีอนุมาแทนที่บุตรีภรรยาเอกเพราะมีจวนอ๋องจ่างซิ่นคอยหนุนหลังเขาอยู่อย่างไรเล่า!แน่นอนว่าเมื่ออันกั๋วกงได้ยินสิ่งที่ท่านหญิงหมิงหยางพูด เขาก็พยายามสงบเสงี่ยมเจียมต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 26 ไม่พูดเรื่องเงินแล้วจะให้พูดเรื่องความรักรึ?

เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มและพูดว่า “โธ่ถัง โกรธมากไม่ดีต่อสุขภาพนะเจ้าคะ ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ข้ามีวิธีที่จะทำให้ทั้งจวนโหวเอาตัวรอดไปได้โดยไม่เป็นอันตราย ไม่เพียงเท่านั้น ข้ายังสามารถขึ้นเป็นชายาองค์รัชทายาทได้อย่างราบรื่นด้วย และจะกรุยทางให้ท่านพ่อเดินไปสู่ความก้าวหน้าด้านการงาน เราพึ่งพาจวนอ๋องจ่างซิ่นเพียงอย่างไม่พอหรอก เรายังพึ่งจวนองค์รัชทายาทได้อีกด้วย มีแต่คำว่า ‘ได้กับได้’ ท่านพ่อคงไม่ได้ไม่เห็นด้วยใช่ไหมเจ้าคะ?”เยี่ยนหานซานสะดุ้งเล็กน้อยพลางลังเลในใจท่านหญิงหมิงหยางพึ่งพาจวนอ๋องจ่างซิ่นมาหลายปี แต่กลับทำให้เขาได้เป็นแค่ผิงอี้โหวธรรมดา ๆแม้จะมีตำแหน่ง แต่ในหกกรมเขาก็มีอำนาจน้อยมากถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็คือองค์รัชทายาท แม้ตอนนี้เขาจะยังไม่มีอำนาจ แต่ใครจะกล้ารับประกันว่าในภายภาคหน้าเขาจะไม่ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ดู ๆ แล้วหากจะผูกสัมพันธ์ไว้กับทั้งสองทางก็คงไม่นับเป็นเรื่องใหญ่อะไรมิตรรายล้อมมาพร้อมหลายเส้นทาง ศัตรูมากมายกลายเป็นเพิ่มอุปสรรคเมื่อคิดได้ดังนั้น เยี่ยนหานซานก็เดินแยกออกมา เยี่ยนเว่ยฉือที่เห็นเช่นนั้นก็เดินกระโดดปึ๋งตามเขาไปราวกับกระต่ายน้อยหลังจากที่พวกเขาทั้งสอง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 27 ใครกันแน่ที่ได้รับพระราชทานการแต่งงาน?

นี่จะโยนข้อกล่าวหาทั้งหมดมาให้เยี่ยนเว่ยฉือหรือ?ริมฝีปากของเยี่ยนเว่ยฉือขยับเพราะกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ ๆ อันกั๋วกงก็ชิงพูดก่อนว่า “เจ้าพูดอะไรเหลวไหล! ข้าได้ทำการตรวจสอบอย่างแน่ชัดแล้ว เยี่ยนเว่ยฉืออาศัยที่ในเขตนอกเมืองตั้งแต่อายุหกขวบและไม่เคยกลับมาที่เมืองหลวงเลย นางจะรู้ข่าวนี้ได้อย่างไร และนางรู้ได้อย่างไรว่าเวลาไหนจะต้องเข้าไปสลับตัวแทนได้ หากเจ้าไม่ได้เป็นคนพานางมา นางคงจะกลับบ้านไม่ถูกเสียด้วยซ้ำ!”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ หาได้ยากที่อันกั๋วกงจะพูดอะไรที่ดูเป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้างเยี่ยนหานซานขมวดคิ้วหน้าบึ้ง แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ เขาโจมตีเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความโกรธแค้น “นางคนชั่วช้า เจ้าพูดมาสิว่าเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าน้องหญิงรองของเจ้าต้องไปพบองค์รัชทายาท และเจ้าเข้าไปแทนที่นางอย่างไร?”เยี่ยนหานซานขยิบตาให้เยี่ยนเว่ยฉือบอกนางเป็นนัย ๆ ว่าให้รับผิดทั้งหมดท่านหญิงหมิงหยางที่อยู่ด้านข้างเห็นดังนั้นจึงพูดว่า “นั่นสิ เว่ยฉือ เจ้ายอมรับผิดเถิด ฝ่าบาทคงจะทรงลดโทษให้เจ้าเพราะเห็นแก่ที่เจ้ายังเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่างแน่นอน”ยังไม่ทันไรก็ให้นางยอมรับผิดแล้ว?เยี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 28 หลากหลายประเภท

พูดเช่นนี้…ก็ใช่ว่าจะผิดเสียทีเดียวเพราะถึงอย่างไรในวันนั้นบนราชโองการก็ไม่ได้แถลงชื่อของบุตรีภรรยาเอกที่ได้รับพระราชทานการแต่งงานเอาไว้และท่านหญิงหมิงหยางเองก็ยังไม่ได้ให้กำเนิดทายาท!สิ่งที่ฮ่องเต้ทรงหมายถึงในตอนนั้นก็คือหากท่านหญิงหมิงหยางให้กำเนิดบุตรี นางก็จะได้เป็นชายารัชทายาท แต่หากเป็นบุตรชาย ก็จะรอครรภ์บุตรคนต่อไปกล่าวโดยสรุปคือสิทธิประโยชน์นี้มีเพื่อมอบให้ท่านหญิงหมิงหยางทว่าในพระราชโองการนั้นไม่ได้เขียนไว้ละเอียดนัก เขียนเพียงแค่พระราชทานการแต่งงานให้บุตรีภรรยาเอกท่านหญิงหมิงหยางที่อยู่อีกด้านหนึ่งได้ฟังสิ่งที่เยี่ยนเว่ยฉือพูด ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันทีนางขึ้นเสียงอย่างโกรธแค้น “นางสารเลว เจ้ายังจะมีหน้าพูดเอาดีเข้าตัวอีกนะ เป็นเพราะฝ่าบาททรงเห็นแก่หน้าของพี่ชายข้าถึงได้ออกพระราชโองการเช่นนั้น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?”เยี่ยนเว่ยฉือโต้กลับ “ท่านหญิงหมิงหยาง ตอนนั้นที่ท่านแต่งเข้ามาในจวนเสนาบดี ท่านแม่ของข้ายังเป็นนายหญิงของที่นั่น หลังจากที่ท่านเข้ามาก็กลายเป็นภรรยาเทียบเท่า แต่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่าอนุ! หากข้าไม่ใช่บุตรีภรรยาเอก แล้วท่านคิดว่าเด็กที่ยังไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 29 ท่านเป็นคนเช่นไรข้าก็เป็นคนเช่นนั้น

ฮ่องเต้คังอู่ทรงยิ้มอ่อนพลางส่ายหัวอย่างจนใจเยี่ยนหานซานกลอกตาใส่เยี่ยนเว่ยฉืออย่างเกลียดชังทว่าอันกั๋วกงกลับทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง‘นางเด็กบ้านี่พูดถูก ในเมื่อองค์รัชทายาททรงสมรรถภาพทางเพศบกพร่อง เช่นนั้นก็คงมีทายาทไม่ได้ องค์รัชทายาทที่ไม่มีทายาท ในภายภาคหน้าจะสืบทอดบัลลังก์อย่างไร? มันไม่คุ้มที่จะขัดแย้งกับฝ่าบาทเพื่อคนไม่สมประกอบเช่นนี้ และบางทีอาจจะส่งผลถึงความโปรดปรานของฝ่าบาทที่มีต่อองค์ชายรองอีกด้วย’เมื่อคิดได้เช่นนั้น อันกั๋วกงก็แค่นเสียงเย็น “หึ ฝ่าบาท พอดีกระหม่อมแก่แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบาย กระหม่อมขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากพูดจบ เขาก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปโดยไม่รอให้ฮ่องเต้ทรงแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ฮ่องเต้เองก็ทรงชินกับการกระทำอันหยิ่งผยองนี้แล้ว จึงทรงทำเพียงโบกพระหัตถ์สื่อเป็นนัยให้ทุกคนออกไป……เมื่อเยี่ยนเว่ยฉือเดินออกมาถึงหน้าประตูวัง ก็พบเข้ากับรัฐทายาทแห่งอ๋องเซียวเหยา อวี๋เฟยเหยียนที่ถือกระบี่ยาวและทำสีหน้าโกรธเกรี้ยวลงจากหลังม้าอวี๋เฟยเหยียนคิดไว้ว่าจะไปช่วยเยี่ยนเว่ยฉือแก้สถานการณ์ แต่คาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นผิงอี้โหวยืนอยู่ด้วยเมื่อเขาเห็นเยี่ยนเว่ย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 30 หวังว่าตัวเองจะไม่ตื่นขึ้นมา!

ไม่ได้มีเพียงเยี่ยนหานซานที่ต้องการตรวจสอบ แต่ยังรวมไปถึงอันกั๋วกงด้วยหลังจากที่อันกั๋วกงออกจากพระตำหนักจิ่วหลง เขาไม่ได้รีบออกจากพระราชวังในทันที แต่ถูกฮองเฮาเรียกตัวไปที่ตำหนักเฟิ่งอี๋เพื่อสอบถามเรื่องราวหลังจากฟังคำบรรยายของอันกั๋วกงแล้ว ฮองเฮาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความสับสนนางพูดว่า “ซ่างกวนซีบกพร่องเรื่องสมรรถภาพจริงหรือ?”อันกั๋วกงถอนหายใจ “หากเขาบกพร่องจริง เช่นนั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องบีบคั้นเขามากเกินไป ฝ่าบาททรงรักและโปรดปรานเขามาโดยตลอด หากเรายังกัดเขาไม่ปล่อยอยู่เช่นนี้ อาจเป็นการทำลายไมตรีระหว่างฝ่าบาทกับท่านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นมาก็จะทำให้องค์ชายรองเหนื่อยเปล่า ๆ ”ฮองเฮาพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าเห็นด้วยกับท่านพี่อย่างยิ่ง ซ่างกวนซีเข้าร่วมกองทัพมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กตอนนี้ก็เกือบสิบปีแล้ว อาจได้รับบาดเจ็บมาจากในสนามรบก็เป็นได้”“ใช่ อีกทั้งในร่างกายเขาก็ยังเต็มไปด้วยพิษกู่เย็น แม้จะมียอดฝีมือมาช่วยระงับพิษเอาไว้ แต่ใครจะรู้เล่า พิษนั้นอาจก่อโรคที่ทำให้เป็นหมันก็ได้นี่? แต่ก็ต้องเฝ้าระวังกันไปก่อน ข้าจะหาคนส่งไปทดสอบดูสักหน่อย”เมื
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
23
DMCA.com Protection Status