หน้าหลัก / โรแมนติก / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 30 หวังว่าตัวเองจะไม่ตื่นขึ้นมา!

แชร์

บทที่ 30 หวังว่าตัวเองจะไม่ตื่นขึ้นมา!

ผู้แต่ง: โม่เชียนซาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ไม่ได้มีเพียงเยี่ยนหานซานที่ต้องการตรวจสอบ แต่ยังรวมไปถึงอันกั๋วกงด้วย

หลังจากที่อันกั๋วกงออกจากพระตำหนักจิ่วหลง เขาไม่ได้รีบออกจากพระราชวังในทันที แต่ถูกฮองเฮาเรียกตัวไปที่ตำหนักเฟิ่งอี๋เพื่อสอบถามเรื่องราว

หลังจากฟังคำบรรยายของอันกั๋วกงแล้ว ฮองเฮาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความสับสน

นางพูดว่า “ซ่างกวนซีบกพร่องเรื่องสมรรถภาพจริงหรือ?”

อันกั๋วกงถอนหายใจ “หากเขาบกพร่องจริง เช่นนั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องบีบคั้นเขามากเกินไป ฝ่าบาททรงรักและโปรดปรานเขามาโดยตลอด หากเรายังกัดเขาไม่ปล่อยอยู่เช่นนี้ อาจเป็นการทำลายไมตรีระหว่างฝ่าบาทกับท่านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นมาก็จะทำให้องค์ชายรองเหนื่อยเปล่า ๆ ”

ฮองเฮาพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าเห็นด้วยกับท่านพี่อย่างยิ่ง ซ่างกวนซีเข้าร่วมกองทัพมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กตอนนี้ก็เกือบสิบปีแล้ว อาจได้รับบาดเจ็บมาจากในสนามรบก็เป็นได้”

“ใช่ อีกทั้งในร่างกายเขาก็ยังเต็มไปด้วยพิษกู่เย็น แม้จะมียอดฝีมือมาช่วยระงับพิษเอาไว้ แต่ใครจะรู้เล่า พิษนั้นอาจก่อโรคที่ทำให้เป็นหมันก็ได้นี่? แต่ก็ต้องเฝ้าระวังกันไปก่อน ข้าจะหาคนส่งไปทดสอบดูสักหน่อย”

เมื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
วิภาดา วิภาดา
เมื่อไหร่จะอัพต่อคะ
goodnovel comment avatar
Naramol Olsson
เมื่อไหร่จะมาลงต่อคะ รอๆค่ะ
goodnovel comment avatar
Meerada Sunny
ไม่มีต่อแล้วใช่ไหมค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 31 วัยเด็กอันแสนเศร้าขององค์รัชทายาท

    เยี่ยนเว่ยฉือกลับมายังห้องโถงเพื่อรับประทานอาหารต่อ ขณะที่นางนั่งรับประทานอยู่นั้น จางมามาก็คอยเติมน้ำชาและอาหารให้พลางพูดว่า “องค์รัชทายาททรงมีชีวิตที่ยากลำบากมาตลอดครึ่งแรกของชีวิต แต่บัดนี้ทรงอภิเษกสมรสกับหญิงสาวผู้งดงามและจิตใจดีเช่นท่านแล้ว ครึ่งหลังของชีวิตคงจะทรงสุขสบายเป็นแน่”เยี่ยนเว่ยฉือกำลังแทะซี่โครงหมูอยู่ นางหันไปมองจางมามาด้วยความสงสัยและเอ่ยถามว่า “ยากลำบากหรือ? เขาเป็นองค์รัชทายาทไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงยากลำบากเล่า?”จางมามาถอนหายใจและกล่าวว่า “พระชายาคงไม่ทราบ องค์รัชทายาททรงสูญเสียพระมารดาไปตั้งแต่อายุได้เพียงแปดปี พออายุได้สิบสี่ปี พระองค์ก็ทรงถูกฝ่าบาทส่งไปเป็นทหาร ในยามนั้น ฝ่าบาทยังไม่ทรงอนุญาตให้พระองค์เปิดเผยฐานะ จึงต้องทรงฝ่าฟันจากตำแหน่งทหารธรรมดา จนได้เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพทั้งสาม สิบปีผ่านไป องค์ชายคนอื่น ๆ ต่างทรงมีชีวิตที่สุขสบาย แต่องค์รัชทายาทกลับไม่เคยได้หลับพักผ่อนอย่างสบายใจเลยสักวัน”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง เอาเถิด มามา นั่งลงก่อนเถอะ”เยี่ยนเว่ยฉือทำท่าเชื้อเชิญให้จางมามามานั่งลงจางมามาไม่กล้า “ไม่ได้ ไม่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 32 เช่นนั้นข้าจะป้อนเอง

    “หา? ข้าต้องซ่อมด้วยหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือคิดว่าตนเองคงจะหูฝาดไปอวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง “ถูกต้องแล้ว เจ้าคือพระชายาขององค์รัชทายาท ที่นี่คือจวนองค์รัชทายาท องค์รัชทายาททรงประชวรหนักอยู่ การซ่อมแซมจวนรัชทายาทนับเป็นหน้าที่ของเจ้า”“การจัดการซ่อมแซมนั้นไม่ใช่ปัญหา ทว่าข้าไม่มีเงินนะ แม้กระทั่งขงเบ้งยังต้องพึ่งพาเสบียงเลย” เยี่ยนเว่ยฉือยักไหล่ แสดงให้เห็นความจนปัญญาอวี๋เฟยเหยียนหัวเราะ “นั่นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าแล้ว ในจวนรัชทายาทของศิษย์พี่ใหญ่ ไม่มีที่สำหรับคนไร้ประโยชน์”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มเยาะ “เขาเป็นองค์รัชทายาท ส่วนท่านเป็นองค์รัฐทายาท ท่านทั้งสองไม่คิดจะให้เงินข้า แต่จะให้ข้าซ่อมแซมจวนองค์รัชทายาทงั้นรึ?”อวี๋เฟยเหยียนทำหน้าลำบากใจ “ข้าจะอธิบายเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง ศิษย์พี่ใหญ่ของข้าถูกหลอกให้กลับมา ดังนั้นจึงเร่งรีบมาก ควบม้าเร็วมาแปดร้อยลี้โดยไม่หยุดพักเป็นเวลาครึ่งเดือนกว่าจะกลับมาถึงเมืองหลวง เขาได้เบี้ยเลี้ยงน้อยอยู่แล้ว แถมยังไม่ได้เอากลับมาด้วย จึงมีเงินเหลืออยู่ไม่มากนัก”“แล้วท่านล่ะ? ท่านไม่ใช่รัฐทายาทแห่งอ๋องเซียวเหยาหรอกหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือมองชายผู้

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 33 หาเงินเลี้ยงครอบครัว

    ซ่างกวนซีตกใจกลัวจนตัวแข็งไปหมด!เขาไม่เคยเห็นสตรีนางใดที่… ไร้ระเบียบเช่นนี้! ไม่มีมารยาท! ประพฤติตัวเสเพล! พูดจาหยาบคาย!เห็นได้ชัดว่าปากของเยี่ยนเว่ยฉือใกล้จะประกบจูบอยู่แล้ว แต่เพราะซ่างกวนซีป่วยหนัก ทำให้เขาไม่มีแรงที่จะผลักไสนางออกไปได้เลยในวินาทีสุดท้าย ซ่างกวนซีรีบพูดว่า “ข้าดื่มเอง!”อึก!เยี่ยนเว่ยฉือกลืนยาในปากลงไป จากนั้นก็ยืดตัวตรง พูดด้วยน้ำเสียงปลง ๆ ว่า “ต้องรอจนข้าต้องเปลืองตัวก่อน ช่างน่ารำคาญจริง ๆ!”ซ่างกวนซีโกรธจนหน้าแดง หญิงสาวตรงหน้าคนนี้กล้าพูดและกล้าทำทุกอย่างจริง ๆเขาจำใจรับชามยาจากเยี่ยนเว่ยฉือไป ก่อนจะดื่มยาลงคออย่างไม่เต็มใจนัก แม้ว่าเขาจะพยายามควบคุมสีหน้าของตัวเองอย่างสุดความสามารถเพียงใด แต่ก็ยังเผยให้เห็นถึงความขมขื่นอย่างชัดเจนเยี่ยนเว่ยฉือเลิกคิ้วขึ้นและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ที่แท้ท่านก็กลัวยาขมนี่เอง!”ซ่างกวนซีไม่สนใจนางยานี่ขมจนแทบอยากร้องไห้ สตรีผู้นี้ดื่มเข้าไปโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าได้อย่างไรกัน?เมื่อเห็นว่าซ่างกวนซีไม่พูดอะไร เยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่มีความสนใจที่จะอยู่ต่อนางเพียงแต่สั่งว่า “ร่างกายของท่านยังไม่หายดี โดยเฉพาะบาดแผลตามร่างก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 34 เหมาทั้งหมด

    คนอื่น ๆ มาร้านขายผ้าไหม ย่อมมาเพื่อซื้อผ้าไปตัดเย็บเป็นอาภรณ์แต่เยี่ยนเว่ยฉือ ต่างไปจากคนอื่นเยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปในร้านผ้าไหมอย่างองอาจ วางท่าให้ดูสูงส่งสง่างามที่สุด นางเดินกวาดสายตาไปมาอย่างสบายอารมณ์เด็กในร้านเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม “โอ้ คุณชาย ท่านมาเลือกผ้าไหมหรือขอรับ เลือกเพื่อตัดอาภรณ์ให้ตนเอง หรือเลือกให้สตรีในครอบครัวหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มาที่ร้านผ้าไหม ไม่ให้เลือกผ้าไหม จะให้ข้ามาเลือกกับแกล้มอย่างนั้นหรือ?”“เอ่อ...” เด็กในร้านทำหน้าไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้แสดงความโกรธเคืองเขาต้อนรับลูกค้ามาทั้งวัน ลูกค้าที่อารมณ์ไม่ดีเช่นนี้ เขาเคยพานพบมาแล้วมากมายเด็กในร้านพูดต่อ “เช่นนั้นคุณชายต้องการผ้าไหมแบบไหนขอรับ? ข้าน้อยจะได้แนะนำให้ท่าน”“ข้าต้องการของที่ดีที่สุด!” เยี่ยนเว่ยฉือหาที่นั่งเด็กในร้านรีบพูด “ได้ขอรับ คุณชายโปรดรอสักครู่!”เขาสั่งให้คนอื่นไปชงชาให้เยี่ยนเว่ยฉือ ขณะที่เขาหยิบตัวอย่างผ้าไหมหลายผืนลงมาจากชั้นวาง มีทั้งแบบมีลายและแบบที่ไม่มี หลากหลายแบบทีเดียวแต่เยี่ยนเว่ยฉือมองแค่แวบเดียว ก็พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 35 หน้าใหญ่ใจโต

    หลังจากผ่านไปเพียงครู่เดียว ร้านผ้าไหมก็เต็มไปด้วยผ้าจำนวนห้าเกวียนด้วยกันเถ้าแก่ยื่นใบรายการให้เยี่ยนเว่ยฉือ ระบุว่าจำนวนเงินห้าพันตำลึงราคาที่แจ้งมานั้นสูงกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัดอย่างไรก็ตาม เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้สนใจและไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดมากนัก ยัดใบเสร็จลงในถุงผ้าของตนเองเมื่อเห็นเช่นนั้น เถ้าแก่ก็ยิ้มกริ่ม คิดในใจ ‘ไม่เพียงแต่จะร่ำรวยมากเท่านั้น ยังไม่เฉลียวฉลาดอีกด้วย’เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมองขบวนเกวียน แล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าตามข้ามาแล้วกัน ข้ายังต้องไปซื้อของอย่างอื่นอีก แล้วค่อยกลับจวนพร้อมกัน”กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พวกเขาอาจจะกลับมาช้าสักหน่อยเถ้าแก่รีบพูด “ได้ ได้ขอรับ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องรีบร้อน พวกเจ้าจงดูแลคุณชายให้ดี! ได้ยินหรือไม่?”คนขับเกวียนพยักหน้ารับคำจากนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็นำขบวนผ้าทั้งห้าเกวียนออกไป แล้วเดินต่อไปตามถนนที่คึกคักในเมืองหลวงขณะเดิน นางก็มองไปรอบ ๆ ชัดเจนว่ากำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่อวี๋เฟยเหยียนที่ซ่อนตัวอยู่นึกสงสัย “นางจะทำอะไรกันนะ?”เย่เทียนซูส่ายหัว “จิตใจสตรียากแท้หยั่งถึง”อวี๋เฟยเหยียนเม้มปาก “การกระทำดูไม่ต่างจากนักต้มตุ๋นใน

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 36 ชีวิตเหมือนละคร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับทักษะการแสดง

    ครู่ต่อมา เด็กในร้านก็ยกกล่องบุผ้าไหมออกมาหนึ่งกล่อง ภายในบรรจุด้วยกำไลหยกไว้สองวงสีสันโปร่งใส เนื้อสัมผัสเป็นมันวาว ถือว่าเป็นของดีทีเดียวอย่างไรก็ตาม เยี่ยนเว่ยฉือกลับขมวดคิ้วเล็กน้อยเถ้าแก่เห็นดังนั้น จึงรีบถาม “คุณชาย นี่ไม่เป็นที่น่าพอใจหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบ “ราคาถูกเกินไป”“ถูกเกินไปหรือ?” เถ้าแก่หัวเราะ “คุณชาย กำไลหยกคู่นี้มีเพียงคู่เดียวในเมืองหลวง นี่ถือเป็นราคาขั้นต่ำแล้ว”เถ้าแก่ยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว หมายความว่าหนึ่งพันตำลึงเยี่ยนเว่ยฉือโบกมือ “ไม่ได้ ไม่ได้ ราคาถูกเกินไป ผ้าไหมที่ข้าซื้อมามีมูลค่าถึงห้าพันตำลึงแล้ว กำไลหยกคู่นี้จะราคาต่ำกว่าไม่ได้เด็ดขาด”เยี่ยนเว่ยฉือโบกมือครั้งนี้ ทำให้ใบรายการในแขนเสื้อร่วงหล่นออกมาเด็กในร้านรีบเดินเข้าไปช่วยเก็บ แล้วแอบมองจำนวนเงินบนกระดาษเด็กในร้านส่งคืนให้เยี่ยนเว่ยฉือ แล้วก็ส่งสายตาให้เถ้าแก่อย่างมีนัยสำคัญเถ้าแก่เข้าใจในทันทีว่าเมื่อครู่เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้โกหกเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “คุณชายโปรดรอสักครู่”คราวนี้ เถ้าแก่เข้าไปในห้องด้านในด้วยตนเองครู่ต่อมาก็กลับออกมาพร้อมกับเครื่องประดับสองชุดชุดหนึ่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 37 ไม่เพียงแต่จะเป็นนักต้มตุ๋น ยังเป็นนักพนันอีกด้วย

    เยี่ยนเว่ยฉือควบม้า ส่วนทั้งสองคนใช้วิชาตัวเบาแม้ว่าทั้งสองจะมีวิทยายุทธ์ไม่เลว แต่ก็ยังไล่ตามจนเหนื่อยหอบเมื่อไล่ตามได้ทัน แต่กลับพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปในโรงรับจำนำโรงรับจำนำ? นางเอาเครื่องประดับทั้งสองชุดไปจำนำงั้นหรือ?นางเป็นนักต้มตุ๋นจริง ๆ งั้นหรือ?อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วทันที พลางกล่าวว่า “ไม่ได้! ปล่อยให้นางทำร้ายชาวบ้านแบบนี้ไม่ได้ ข้าต้องไปเปิดโปงนาง”“ช้าก่อน!” เย่เทียนซูจับแขนอวี๋เฟยเหยียนผู้ใจร้อนเอาไว้ พยายามปลอบว่า “ข้ารู้สึกว่าแม่นางผู้นั้นฉลาดมาก ไม่น่าจะทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้หรอก อีกอย่าง หากนางขัดสนเงินทอง ก็สามารถไปขอยืมจากศิษย์พี่ใหญ่ได้ เหตุใดต้องออกจากจวนมาต้มตุ๋นหลอกลวงด้วยเล่า?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้ว กล่าวว่า “เฮ้อ ต้องโทษข้า ข้าเป็นคนท้าทายนาง เพื่อทดสอบความสามารถของนางเอง”“ท้าทาย? ท้าทายเรื่องอันใด?”อวี๋เฟยเหยียนกล่าวต่อไป “ข้าให้นางคิดหาวิธีซ่อมแซมจวนองค์รัชทายาท”เย่เทียนซูประหลาดใจ กล่าวว่า “จวนองค์รัชทายาทออกจะใหญ่โตถึงเพียงนั้น หากจะซ่อมแซมให้ดี คงต้องใช้เงินถึงแปดพันถึงหนึ่งหมื่นตำลึง จะซ่อมได้อย่างไร? เจ้าไม่ได้ท้าทายนางด้วยเรื่องที

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 38 เดิมพันให้สูงขึ้น!

    ทุกคนหัวเราะ เยี่ยนเว่ยฉือก็หัวเราะไปด้วย ดูจากท่าทางที่โง่เขลาของนาง เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกแกะน้อยที่พร้อมถูกเชือด!เจ้ามือยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะพนัน เยี่ยนเว่ยฉือนั่งลงตรงข้ามเขาเยี่ยนเว่ยฉือเขี่ยถั่วในกอง กล่าวว่า “นี่เล่นยังไงล่ะ?”เจ้ามือกล่าว “ง่ายดายยิ่ง ข้าจะหลับตา แล้วสุ่มหยิบถั่วหนึ่งกำมือ จากนั้นแบ่งมันออกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มละสี่เม็ด ที่เหลืออยู่เท่าไร ท่านก็แค่ทาย หากทายถูก จะจ่ายหนึ่งได้สอง”เยี่ยนเว่ยฉือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดกับตัวเองในใจ “หนึ่งต่อสอง นั่นแปลว่า หากข้าเดิมพันหนึ่งร้อยตำลึง เมื่อแพ้จะต้องเสียหนึ่งร้อยตำลึง หากชนะก็จะได้สองร้อยตำลึง ฟังดูใช้ได้ แต่กอบโกยได้ช้าไปหน่อย”นางยิ้มอย่างโง่เขลา “ได้ ลองดู!”เจ้ามือยิ้มแย้มแจ่มใส เริ่มเล่นกับเยี่ยนเว่ยฉือทันทีเยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ได้ลงเงินเดิมพันมากนัก เดิมพันครั้งละหนึ่งร้อยตำลึงเท่านั้นเดิมพันไปหลายครั้ง เสียมากกว่าได้ เงินเดิมพันสามพันตำลึงเหลือเพียงสองพันตำลึงในพริบตาเยี่ยนเว่ยฉือส่ายหัว ถอนหายใจ “ไม่เล่นแล้ว ไม่เล่นแล้ว ไม่สนุกแล้ว!”เมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังจะจากไป เจ้ามือก็รีบกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อ

บทล่าสุด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 220 เกิดเพลิงไหม้

    อวี๋เฟยเหยียนซึ่งอยู่ในความมืดขมวดคิ้วและพูดว่า "บังเอิญถึงเพียงนี้เชียว? มีเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่นี่ในขณะที่เรากำลังจะมาตรวจสอบงั้นรึ?"ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า "ดูเหมือนว่าจะมีคนเคลื่อนไหวเร็วกว่าพวกเรา และได้จัดฉากให้ข้ากระโจนเข้าไปร่วมวงด้วย"ใบหน้าของอวี๋เฟยเหยียนเต็มไปด้วยความกังวล "ถ้าอย่างนั้นคนผู้นี้ก็ต้องไม่ธรรมดาอย่างมาก ถึงขั้นทำให้เยี่ยนเว่ยฉือไปซื้อปิ่นปักผมโดยบังเอิญได้"ซ่างกวนซีส่ายหัวแล้วพูดว่า "การที่เยี่ยนเว่ยฉือไปโรงรับจำนำเป็นความบังเอิญจริง ๆ ทว่าปิ่นปักผมคู่นั้นถูกเตรียมไว้นานแล้ว นางได้กลายเป็นชายาองค์รัชทายาท ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่ซื้อเครื่องประดับ คนที่อยู่เบื้องหลังเพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสมและนำปิ่นนั้นมาขายให้นางก็เท่านั้น”“เช่นนั้นมันจะเกี่ยวข้องกับเจ้าของโรงรับจำนำหรือไม่?” อวี๋เฟยเหยียนถามซ่างกวนซีขมวดคิ้วและตอบว่า "ถ้าอย่างนั้น เราต้องดูว่าเจ้าของโรงรับจำนำยังมีชีวิตอยู่หรือไม่"“ศิษย์พี่ ดูสิ เจียงโม่มาแล้ว” อวี๋เฟยเหยียนชี้ไปที่เจียงโม่หัวหน้าหน่วยตรวจสอบที่นำคนมาช่วยดับไฟเจียงโม่พาคนมาช่วยดับไฟ และต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงทำให้

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 219 ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

    “ยังอยู่ในห้องของข้า” เยี่ยนเว่ยฉือตอบตามความจริง“เอามันมาให้ข้า เจ้าเก็บสิ่งนี้ไว้ไม่ได้!” ซ่างกวนซีพูดอย่างจริงจังเยี่ยนเว่ยฉืออยากจะบอกว่าการใส่สิ่งนี้ไว้ในสร้อยข้อมือของนางปลอดภัยกว่าการวางไว้ที่อื่นแต่เนื่องจากซ่างกวนซีต้องการมัน นางจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้น ข้าจะกลับไปเอา"เยี่ยนเว่ยฉือแกล้งกลับเข้าไปในห้องเพื่อหยิบของ แต่จริง ๆ แล้วนางไปเดินเล่นหลังจากนั้นไม่นาน นางก็กลับมาที่ห้องตำราและยื่นปิ่นปักผมอีกอันให้กับซ่างกวนซีหลังจากที่ซ่างกวนซีได้ปิ่นปักผม รูม่านตาของเขาก็หดตัวลงและพูดด้วยความประหลาดใจ "นี่คือ... ปิ่่นหางหงส์! ยังเหลืออยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร?"อวี๋เฟยเหยียนก้าวไปข้างหน้าและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?"ซ่างกวนซีหยิบปิ่นปักผมมาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็พูดด้วยความตกใจ "มันเป็นขนหงส์สีทองจริง ๆ! นี่คือสมบัติที่ฝังไปพร้อมร่างเสด็จแม่ของข้า!"ตอนที่เขาดูภาพวาดเมื่อครู่ เขาไม่สามารถบอกวัสดุหรือสีได้ แต่ตอนนี้เขามีมันอยู่ในมือแล้ว และซ่างกวนซีก็จำที่มาของปิ่นปักผมนี้ได้ทันที!“หา?!” อวี๋เฟยเหยียนและเยี่ยนเว่ยฉ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 218 มีใครเคยเห็นเจ้าปักปิ่นนี้บ้าง

    เยี่ยนเว่ยฉือสะดุ้งเล็กน้อย อวี๋เฟยเหยียนจริงจังเช่นนี้ หรือว่าซ่างกวนซีจะโกรธอีกแล้ว?เยี่ยนเว่ยฉือพูดอย่างรู้สึกผิด “ข้าแค่ไปตกปลาเอง หากองค์รัชทายาทไม่ชอบ พรุ่งนี้ข้าไม่ไปแล้วดีหรือไม่?"อวี๋เฟยเหยียนพูดอย่างจนใจ "มันไม่เกี่ยวกับเรื่องตกปลา เจ้ารีบตามมาเถอะ ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง"เยี่ยนเว่ยฉือถามอย่างร้อนใจ "ท่านจะไปด้วยหรือไม่?"หากมีคนนอกอยู่ด้วย อย่างน้อยซ่างกวนซีก็จะไม่ลงมือกับนาง!อวี๋เฟยเหยียนไม่รู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังคิดอะไรอยู่แน่นอนว่าเขาต้องไป เขายังต้องหาทางแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันเขาจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้าจะไปกับเจ้า”เยี่ยนเว่ยฉือถอนหายใจด้วยความโล่งอกและตามอวี๋เฟยเหยียนไปห้องตำราหลังจากเข้ามาในห้องตำรา ซ่างกวนซีไม่ได้อ้อมค้อม และส่งกระดาษให้เยี่ยนเว่ยฉือดูเยี่ยนเว่ยฉือเพียงเหลือบมองก็รู้ว่าภาพวาดนั้นคืออะไรนางพูดด้วยความประหลาดใจ "ไม่จริงน่า คนจากบ่อนพนันเจอจวนองค์รัชทายาทเร็วขนาดนี้เลยหรือ?"ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าเคยเห็นรูปนี้หรือไม่? รู้หรือไม่ว่าทางบ่อนกำลังตามหาปิ่นนี้อยู่ ปิ่นนี้... เป็นของเจ้าหรือเปล่า?"คำถามหนึ่งชุดทำให้เยี่ยนเว่ยฉือรู้

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 217 เรื่องสำคัญ

    เยี่ยนเว่ยฉือเข้าใจว่าฉินเซียงหรูต้องการบอกว่าการร่วมรักระหว่างสามีภรรยานั้นสอดคล้องกับกฎแห่งธรรมชาติและธรรมชาติของมนุษย์ดังนั้นนางไม่จำเป็นต้องอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานมากนักเยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าช้า ๆ บ่งบอกว่าตนเข้าใจเพราะถึงอย่างไรนางก็เป็นคนยุคใหม่ ถึงแม้ตอนนั้นจะน่าอาย แต่เรื่องที่จบแล้วก็ถือว่าแล้วกันไปตอนนี้ดูเหมือนว่าคนที่ปล่อยวางไม่ได้ก็คือซ่างกวนซี ไม่อย่างนั้นเหตุใดเขาถึงไม่กล้ามาทานอาหารเย็นเล่า?ทว่าเยี่ยนเว่ยฉือเดาผิด สาเหตุที่ซ่างกวนซีไม่กลับมาทานอาหารเย็นกับนางก็เพราะมีเรื่องสำคัญต้องจัดการซ้ำยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยด้วย……ณ ห้องตำราซ่างกวนซีกำลังมองภาพวาดในมือและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเขาถามอวี๋เฟยเหยียน “เจ้าแน่ใจหรือว่าปิ่นปักผมในภาพนี้เป็นของเว่ยฉือ? เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้น ๆ?”อวี๋เฟยเหยียนตอบว่า “ศิษย์พี่ใหญ่เคยเห็นมาก่อนหรือ? ปิ่นที่ท่านเคยเห็นคงเป็นของพี่สะใภ้ ปิ่นนี้เป็นปิ่นคู่”ภาพวาดนี้เป็นภาพที่อันกั๋วกงส่งมอบแด่ฮ่องเต้คังอู่เมื่อตอนเข้าเฝ้าว่าราชการเช้าของวันนี้ฮ่องเต้คังอู่ไม่ได้ปิดบังเหล่าขุนนาง แต่กลับพิมพ์ภาพวาดนี้ออกมาและมี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 216 คนฉลาด

    ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองก็มาถึงแม่น้ำเสี่ยวเหลียงที่ค่อนข้างห่างไกลอีกครั้งวันนี้แตกต่างจากเมื่อวาน เพราะฉินเซียงหรูพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือได้นำกระถางกำยานออกมาด้วยฉินเซียงหรูถามอย่างสงสัย “สิ่งนี้คืออะไรหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบว่า “บริเวณริมน้ำนี้ยุงชุมนัก สิ่งนี้เอาไว้ไล่ยุงน่ะ”ฉินเซียงหรูค่อย ๆ สูดลมหายใจลึก พลางพยักหน้าแล้วพูดว่า “กลิ่นช่างสดชื่น ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าจะได้ปลากลับไปอย่างเต็มอิ่มอีกแล้ว!”ฉินเซียงหรูตกปลาอย่างเงียบ ๆ ส่วนเยี่ยนเว่ยฉือก็อ่านตำราแพทย์ที่นำติดตัวมาด้วยอย่างเงียบ ๆ เช่นกันบางครั้งที่ปลาติดเบ็ด เยี่ยนเว่ยฉือก็จะปรบมือและส่งเสียงไชโยโห่ร้องยกยออย่างเต็มที่ทั้งสองตกปลากันจนถึงตอนเย็นอีกครั้งสิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนคือคราวนี้หลังจากข้องใส่ปลาเต็ม ฉินเซียงหรูไม่ได้รีบเก็บข้าวของเดินทางกลับ แต่ตะโกนไปทางป่าว่า “ชิงโจว ออกมาเอาของสิ!”ชิงโจว?เยี่ยนเว่ยฉือมองไปยังป่าด้วยความสับสน และแน่นอนว่าครู่ต่อมาชิงโจวก็ออกจากป่ามายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้ม“ขอทำความเคารพชายารัชทายาทและคารวะท่านหมอฉิน”ฉินเซียงวางมือเท้าเอวแล้วยิ้ม “โอ้ ข้าก็ว่าเห

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 215 เจ้าไม่ให้อิสระข้า ข้าก็จะทำให้เจ้าต้องบริสุทธิ์ต่อไป

    ซ่างกวนซีสะดุ้งเบา ๆ ขณะนั้นก็เข้าใจทันทีว่าฉินเซียงหรูหมายถึงอะไรที่แท้ฉินเซียงหรูก็รู้เจตนาของเขาอยู่แล้วฉินเซียงหรูต้องการบอกว่าการที่เขามีความรู้สึกต้องการอย่างแรงกล้ากับเยี่ยนเว่ยฉือในครั้งนี้ทำให้เกิดการกระตุ้นความร้อนภายในและสลายพิษเย็นไปได้ไม่แน่ว่าครั้งต่อไปอาจรู้สึกไม่เหมือนเดิมแม้จะมีครั้งต่อไป แต่ครั้งต่อไปที่ว่าก็อาจจะไม่มีความรู้สึกนั้นแล้วว่ากันตามตรง ล้วนเป็นเพราะยังไม่ได้สมหวัง เลยยิ่งโหยหามากขึ้นเรื่อย ๆแต่หากสำเร็จดั่งหวังไปแล้ว ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนั้นจะหายไปและหลงเหลือแต่ความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือไม่?เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็รีบพูดว่า “ไม่มีทางหรอก!”ฉินเซียงหรูพูดอย่างขบขัน “ไม่มีทางอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ริมฝีปากของซ่างกวนซีขยับ แต่เขาพูดไม่ออก เขาหมายจะพูดว่าความสนใจที่เขามีให้เยี่ยนเว่ยฉือนั้นไม่มีทางลดน้อยลงแต่เหตุใดต้องบอกฉินเซียงหรูเรื่องนี้ด้วย หากจะพูดก็ควรพูดกับเยี่ยนเว่ยฉือสิเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินเซียงหรูก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาท แม้ท่านจะมั่นใจว่าไม่มีทาง แต่ท่านก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของแม่นางเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 214 นี่คือชาอะไร

    “ช่วย...” ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจนจบประโยค ซ่างกวนซีก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ข้าเอง”ฉินเซียงหรูถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนัก เขาจับกรอบประตูด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างมือตบหน้าอกของตัวเอง “องค์รัชทายาท หลอกกันเช่นนี้ ถึงตายได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพิ่งสูญเสียชีวิตสามปีให้กับท่าน ไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่นะพ่ะย่ะค่ะ! เฮ้อ!”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”ฉินเซียงหรูที่เห็นคราบน้ำบนรองเท้าของซ่างกวนซีก็รู้ว่าเขายืนอยู่ในลานเป็นเวลานานจนเนื้อตัวของเขาเปื้อนน้ำค้างไปหมดแล้วฉินเซียงหรูเม้มปากเล็กน้อยแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาทไม่ต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อว่าราชกิจหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“เรื่องราวยังไม่ชัดเจน ข้าไม่มีอารมณ์ไปเข้าเฝ้าหรอก!”ซ่างกวนซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมาฉินเซียงหรูอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัน พลางขยับหลีกทางหลบไปข้าง ๆ แล้วพูดว่า “เช่นนั้น เชิญองค์รัชทายาทเข้ามาเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ซ่างกวนซีเดินเข้าไปในห้องของฉินเซียงหรูฉินเซียงจุดตะเกียงน้ำมัน และจุดเตาเผาดินแดงขนาดเล็ก จากนั้นก็เริ่มต้มชาเมื่อเห็นเช่นนั้น ซ่างกวนซีก็พูดว่า “ไม่ต้องต้มชา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 213 ทักษะด้านการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม

    “ท่านอย่าเข้าไป!” ฉินเซียงหรูเอื้อมมือไปคว้าอวี๋เฟยเหยียน แต่คว้าได้เพียงชายเสื้อ ทำให้ห้ามไว้ไม่ทันจากนั้นเขาก็เห็นอวี๋เฟยเหยียนผลักประตูด้วยความกระวนกระวายใจเสียงดังตึงตังทำให้บุรุษและสตรีบนเตียงแข็งค้างอยู่กับที่อวี๋เฟยเหยียนคาดไม่ถึงว่าเขาจะได้เห็นซ่างกวนซีจับเยี่ยนเว่ยฉือกดลงในท่านั้นแม้ทั้งสองคนจะแต่งตัวมิดชิด แต่ท่าทางของพวกเขา...ทำให้คนที่เห็นจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนซ่างกวนซีหันไปมองอวี๋เฟยเหยียนด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยไฟลุกโชนไม่รู้ว่าโมโหเพราะถูกรบกวนหรือโมโหเพราะไม่ได้เติมเต็มความปรารถนา!อวี๋เฟยเหยียนเองก็แข็งตัวอยู่กับที่ หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาฝืนใจพูดออกมา “ศะ...ศิษย์พี่ใหญ่ ตะ...ตัวท่านละลายแล้วหรือ?”นี่มันคำถามบ้าอะไรกัน!!เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกอายและโกรธมาก นางผลักซ่างกวนซีด้วยกำลังทั้งหมดและรีบออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองเมื่อเห็นนางวิ่งออกไป ฉินเซียงหรูก็ส่ายหัวอย่างยินดีบนความทุกข์ของคนอื่น “จิ๊ ๆ ๆ ที่แท้ซ่างกวนซีก็ยังบริสุทธิ์อยู่นี่เอง! ฮ่า ๆ ๆ!”ขณะเดียวกันซ่างกวนซีก็ลุกขึ้นนั่ง เขามองไปที่อวี๋เฟยเหยียนซึ่งยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม พลา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 212 เรียนรู้ที่จะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง

    เมื่อเห็นความดื้อรั้นของเขา เยี่ยนเว่ยฉือจึงพูดว่า “เช่นนั้นหากท่านไม่อ่าน ข้าก็จะอธิบายให้ฟัง”อธิบาย? อธิบายอะไร? ซ่างกวนซีเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความยากลำบากเยี่ยนเว่ยฉือสงบจิตสงบใจและกล่าวว่า “ท่าร่วมประเวณีท่าแรกเรียกว่าตาแปะเข็นรถ หลังจากทั้งสองถอดอาภรณ์ออกหมดแล้ว ให้บุรุษเริ่ม…”“หยุดพูด!” เมื่อซ่างกวนซีได้ยินเสียงใสเหมือนระฆังเงินของเยี่ยนเว่ยฉือ กล่าวถึงเรื่องน่าอายในห้องหอนั่น กลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาเลยทว่าเยี่ยนเว่ยฉือกลับประหลาดใจที่ได้พบว่า “โอ้ องค์รัชทายาท ท่านหน้าแดงแล้วนี่ ท่านร้อนรึ? ท่านรู้สึกร้อนแล้วใช่หรือไม่?”ซ่างกวนซีไม่อยากยอมรับ แต่เขาก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาจริง ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นเยี่ยนเว่ยฉือที่เห็นว่าได้ผล นางก็เริ่มพูดอย่างไม่หยุดหย่อนทันที โดยพรรณนาถึงเนื้อหาในตำราอย่างสมจริงท่าบางท่าที่ยากจะอธิบาย นางก็พยายามสาธิตท่าทางเหล่านั้นด้วยตัวเองโชคดีที่นางใส่เสื้อผ้ามิดชิด จึงไม่ถึงกับมองไปแล้วทิ่มแทงสายตาอะไรมากนักแต่ถึงกระนั้น ก็ไม่สามารถต้านทานภาพที่จินตนาการขึ้นในหัวได้เลยทุกครั้งที่เยี่ยนเว่ยฉืออธิบายท่าทาง ในหัวขอ

DMCA.com Protection Status