ครู่ต่อมา เด็กในร้านก็ยกกล่องบุผ้าไหมออกมาหนึ่งกล่อง ภายในบรรจุด้วยกำไลหยกไว้สองวงสีสันโปร่งใส เนื้อสัมผัสเป็นมันวาว ถือว่าเป็นของดีทีเดียวอย่างไรก็ตาม เยี่ยนเว่ยฉือกลับขมวดคิ้วเล็กน้อยเถ้าแก่เห็นดังนั้น จึงรีบถาม “คุณชาย นี่ไม่เป็นที่น่าพอใจหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบ “ราคาถูกเกินไป”“ถูกเกินไปหรือ?” เถ้าแก่หัวเราะ “คุณชาย กำไลหยกคู่นี้มีเพียงคู่เดียวในเมืองหลวง นี่ถือเป็นราคาขั้นต่ำแล้ว”เถ้าแก่ยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว หมายความว่าหนึ่งพันตำลึงเยี่ยนเว่ยฉือโบกมือ “ไม่ได้ ไม่ได้ ราคาถูกเกินไป ผ้าไหมที่ข้าซื้อมามีมูลค่าถึงห้าพันตำลึงแล้ว กำไลหยกคู่นี้จะราคาต่ำกว่าไม่ได้เด็ดขาด”เยี่ยนเว่ยฉือโบกมือครั้งนี้ ทำให้ใบรายการในแขนเสื้อร่วงหล่นออกมาเด็กในร้านรีบเดินเข้าไปช่วยเก็บ แล้วแอบมองจำนวนเงินบนกระดาษเด็กในร้านส่งคืนให้เยี่ยนเว่ยฉือ แล้วก็ส่งสายตาให้เถ้าแก่อย่างมีนัยสำคัญเถ้าแก่เข้าใจในทันทีว่าเมื่อครู่เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้โกหกเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “คุณชายโปรดรอสักครู่”คราวนี้ เถ้าแก่เข้าไปในห้องด้านในด้วยตนเองครู่ต่อมาก็กลับออกมาพร้อมกับเครื่องประดับสองชุดชุดหนึ่
เยี่ยนเว่ยฉือควบม้า ส่วนทั้งสองคนใช้วิชาตัวเบาแม้ว่าทั้งสองจะมีวิทยายุทธ์ไม่เลว แต่ก็ยังไล่ตามจนเหนื่อยหอบเมื่อไล่ตามได้ทัน แต่กลับพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปในโรงรับจำนำโรงรับจำนำ? นางเอาเครื่องประดับทั้งสองชุดไปจำนำงั้นหรือ?นางเป็นนักต้มตุ๋นจริง ๆ งั้นหรือ?อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วทันที พลางกล่าวว่า “ไม่ได้! ปล่อยให้นางทำร้ายชาวบ้านแบบนี้ไม่ได้ ข้าต้องไปเปิดโปงนาง”“ช้าก่อน!” เย่เทียนซูจับแขนอวี๋เฟยเหยียนผู้ใจร้อนเอาไว้ พยายามปลอบว่า “ข้ารู้สึกว่าแม่นางผู้นั้นฉลาดมาก ไม่น่าจะทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้หรอก อีกอย่าง หากนางขัดสนเงินทอง ก็สามารถไปขอยืมจากศิษย์พี่ใหญ่ได้ เหตุใดต้องออกจากจวนมาต้มตุ๋นหลอกลวงด้วยเล่า?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้ว กล่าวว่า “เฮ้อ ต้องโทษข้า ข้าเป็นคนท้าทายนาง เพื่อทดสอบความสามารถของนางเอง”“ท้าทาย? ท้าทายเรื่องอันใด?”อวี๋เฟยเหยียนกล่าวต่อไป “ข้าให้นางคิดหาวิธีซ่อมแซมจวนองค์รัชทายาท”เย่เทียนซูประหลาดใจ กล่าวว่า “จวนองค์รัชทายาทออกจะใหญ่โตถึงเพียงนั้น หากจะซ่อมแซมให้ดี คงต้องใช้เงินถึงแปดพันถึงหนึ่งหมื่นตำลึง จะซ่อมได้อย่างไร? เจ้าไม่ได้ท้าทายนางด้วยเรื่องที
ทุกคนหัวเราะ เยี่ยนเว่ยฉือก็หัวเราะไปด้วย ดูจากท่าทางที่โง่เขลาของนาง เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกแกะน้อยที่พร้อมถูกเชือด!เจ้ามือยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะพนัน เยี่ยนเว่ยฉือนั่งลงตรงข้ามเขาเยี่ยนเว่ยฉือเขี่ยถั่วในกอง กล่าวว่า “นี่เล่นยังไงล่ะ?”เจ้ามือกล่าว “ง่ายดายยิ่ง ข้าจะหลับตา แล้วสุ่มหยิบถั่วหนึ่งกำมือ จากนั้นแบ่งมันออกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มละสี่เม็ด ที่เหลืออยู่เท่าไร ท่านก็แค่ทาย หากทายถูก จะจ่ายหนึ่งได้สอง”เยี่ยนเว่ยฉือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดกับตัวเองในใจ “หนึ่งต่อสอง นั่นแปลว่า หากข้าเดิมพันหนึ่งร้อยตำลึง เมื่อแพ้จะต้องเสียหนึ่งร้อยตำลึง หากชนะก็จะได้สองร้อยตำลึง ฟังดูใช้ได้ แต่กอบโกยได้ช้าไปหน่อย”นางยิ้มอย่างโง่เขลา “ได้ ลองดู!”เจ้ามือยิ้มแย้มแจ่มใส เริ่มเล่นกับเยี่ยนเว่ยฉือทันทีเยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ได้ลงเงินเดิมพันมากนัก เดิมพันครั้งละหนึ่งร้อยตำลึงเท่านั้นเดิมพันไปหลายครั้ง เสียมากกว่าได้ เงินเดิมพันสามพันตำลึงเหลือเพียงสองพันตำลึงในพริบตาเยี่ยนเว่ยฉือส่ายหัว ถอนหายใจ “ไม่เล่นแล้ว ไม่เล่นแล้ว ไม่สนุกแล้ว!”เมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังจะจากไป เจ้ามือก็รีบกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อ
เยี่ยนเว่ยฉือจ้องมองเจ้ามือที่มั่นใจในชัยชนะตรงหน้าเสียเต็มประดา อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะในใจคำกล่าวนั้นว่าอย่างไรนะ ผู้ที่คิดร้ายต่อผู้อื่น ย่อมได้รับผลร้ายเช่นกัน หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับคนที่คิดร้ายต่อผู้อื่นเช่นกันนักล่าตัวจริงมักแสดงตนว่าเป็นเหยื่อเยี่ยนเว่ยฉือวางมือที่กำถั่วไว้ตรงกลางโต๊ะพนันเป็นสัญญาณให้เจ้ามือทายเจ้ามือสุ่มทายทันที “เลขคู่!”เยี่ยนเว่ยฉือแบมือออก ปรากฏว่ามีถั่วอยู่ในฝ่ามือสามเม็ด!เจ้ามือตกใจเล็กน้อย แต่ยังคงยิ้มแย้มตอบกลับ “คุณชายน้อยช่างโชคดีเสียจริง!”เมื่อพูดจบ เจ้ามือก็ส่งเงินห้าร้อยตำลึงให้เยี่ยนเว่ยฉืออีกครั้งหลังจากผ่านไปสองรอบ เยี่ยนเว่ยฉือได้เงินไปหนึ่งพันตำลึงแล้วมีผู้หวังดีด้านข้างแนะนำให้เยี่ยนเว่ยฉือหยุดเมื่อได้กำไรแล้ว แต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับดื้อรั้นเหมือนคนโง่ที่อยากจะเดิมพันให้หนำใจเจ้ามือย่อมยินดีเป็นธรรมดา รีบคว้าถั่วในถุงมากำไว้บ้างคราวนี้เขาหยิบขึ้นมาเพียงสองเม็ด ซึ่งง่ายดายต่อการโกงเขาเอามือวางบนโต๊ะแล้วกล่าวว่า “คุณชาย เชิญ”เยี่ยนเว่ยฉือกล่าว “ข้าทายว่าเลขคู่!”รอยยิ้มบนใบหน้าของเจ้ามือแข็งค้างไปครู่หนึ่ง แต่เขาไม่ไ
เยี่ยนเว่ยฉือมองเขาด้วยรอยยิ้มครึ่ง ๆ กลาง ๆ คิดในใจว่า “เจ้าหาเรื่องใส่ตัวเองนะ อย่าได้โทษข้า!”เยี่ยนเว่ยฉือเดินกลับไปที่โต๊ะพนัน แล้วกล่าวว่า “ย่อมได้ ท่านหยิบหรือข้าหยิบดีล่ะ?”เจ้ามือรีบพูด “แน่นอนว่าต้องข้าหยิบสิ”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าตกลงเจ้ามือล้วงมือเข้าไปในถุง แต่ไม่ได้หยิบถั่วออกมาสักเม็ด ชักมือกลับออกมาด้วยความว่างเปล่าเขาใช้วิธีโกงหน้าด้าน ๆ ไม่ว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะทายเลขคี่หรือเลขคู่ เขาก็ชนะอย่างแน่นอนเจ้ามือยิ้มเย้ยหยันแล้วกล่าวว่า “คุณชาย เชิญทายได้เลย!”เยี่ยนเว่ยฉือแตะหมัดเจ้ามือไปด้วย แล้วกล่าวว่า “เลขคี่!”เจ้ามือหัวเราะอย่างสาแก่ใจ แล้วแบมือออกพร้อมกับพูดว่า “ท่านทายผิด...”ยังพูดไม่ทันจบก็อ้าปากค้างเพราะในฝ่ามือของเขามีถั่วเม็ดเล็ก ๆ อยู่ในนั้นจริง ๆผู้คนรอบข้างต่างก็ร้องอุทาน!โอ้โห!ชนะแล้ว!สุดยอด!ว้าว!เจ้ามือชะงักตัวแข็งค้างอยู่กับที่ เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาจากหน้าผากเม็ดเป้งหากเงินหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึงนี้ไป อาชีพการงานของเขาคงถึงคราวจบสิ้น“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าโกง เจ้าโกง!”เยี่ยนเว่ยฉือผายมือยักไหล่ “พี่ใหญ่ ท่านเป็นคนหย
ทั้งสองเดินตามเยี่ยนเว่ยฉือกลับไปที่ร้านอวี้หม่านถัง พบว่าสถานะของนางเปลี่ยนไปจากคุณชาย กลายเป็นสาวใช้ในบ้านเศรษฐีแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก้มหน้าลงด้วยความขลาดเขลา ยื่นเครื่องประดับสองชุดคืนให้พร้อมกับกล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เถ้าแก่ ข้าต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง ฮูหยินของข้าไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ และได้กักขังคุณชายของข้าไว้ เครื่องประดับสองชุดนี้ข้าจึงต้องนำมาคืนท่าน คุณชายของข้ากล่าวว่าให้ท่านเลือกผ้าไหมสองพับไป ถือเป็นค่าตอบแทนที่ทำให้ท่านต้องเสียเวลา”เถ้าแก่ร้านอวี้หม่านถังแม้จะไม่พอใจนัก แต่เมื่อได้ยินว่าจะได้รับผ้าเนื้อดีสองพับโดยไม่เสียสักแดง เขาก็ไม่อาจหาคำตำหนิมาพูดได้อีก พยักหน้า “คุณชายเป็นคนใจกว้างเช่นนี้ ข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว”เถ้าแก่เดินไปยังเกวียนบรรทุกผ้าไหมทั้งห้า เลือกผ้าสองพับที่มีลวดลายและสีสันวิจิตร เห็นได้ชัดว่าเพื่อตัดเย็บอาภรณ์ให้สตรีในบ้านแม้ว่าการค้าจะไม่สำเร็จ แต่ก็ยังได้ของฟรีอยู่ เถ้าแก่จึงมีความสุขมาก……หลังจากนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็นำผ้าไหมห้าลำเกวียนกลับไปที่ร้านหลิงหลัวฟาง เถ้าแก่ของหลิงหลัวฟางก็รู้สึกงุนงงเช่นกันเยี่ยนเว่ยฉือยังคงก้มหัวลงอย่างขลาดเขล
อวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูยังคงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่หยุดปากไม่มีอะไรมากไปกว่าความฉลาดแกมโกงของเยี่ยนเว่ยฉือแต่ซ่างกวนซีกลับนึกถึงเรื่องอื่นเขาพูดพึมพำ “บ่อนซื่อเซิ่งดูเหมือนจะเป็นกิจการของน้องรองนะ”อวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูตกใจเล็กน้อย จากนั้นทั้งสองก็หัวเราะออกมาดังลั่น“ฮ่าฮ่าฮ่า ถูกต้อง ถูกต้อง บ่อนซื่อเซิ่งเป็นกิจการขององค์ชายรองซ่างกวนหลี แม่นางคนนี้ช่างโชคดีเหลือเกินที่บังเอิญไปหลอกศัตรูของศิษย์พี่ใหญ่เข้า” อวี๋เฟยเหยียนหัวเราะจนตัวโยน น้ำตาแทบจะเล็ดออกมาเย่เทียนซูก็หัวเราะร่วน “ฮ่าฮ่าฮ่า… นางเป็นดาวนำโชคจริง ๆ!”อวี๋เฟยเหยียนมองไปที่เย่เทียนซูแล้วส่ายหัว “เจ้าช่างเปลี่ยนใจง่ายเสียจริง ก่อนหน้านี้เจ้ายังบอกว่านางเป็นดาวหายนะอยู่เลย”“ข้าไม่ได้พูด!” เย่เทียนซูโต้แย้งอย่างรุนแรง “ก่อนที่ศิษย์พี่ใหญ่จะกลับมาเมืองหลวง อาจารย์ให้ข้าทำนายดวงชะตาให้เขา ผลปรากฏว่าเก้าตายหนึ่งรอด มีเพียงวิธีเดียวที่จะแก้ไขได้ นั่นคือตายแล้วฟื้น”ดังนั้น ซ่างกวนซีจึงกับยอมติดกับดักเหตุลอบสังหารแต่ไม่ตอบโต้ ก็เพื่อใช้วิธีหลบหนีความตายแล้วเปลี่ยนจากการสู้ซึ่ง ๆ หน้า ไปสู่การเคลื่
เยี่ยนเว่ยฉือคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางเองก็คงจัดว่ามีฝีมือเหมือนกัน ใครว่าการหลอกคนไม่ใช่ความสามารถอย่างหนึ่งเล่า? คนทั่วไปอย่างน้อยก็ไม่มีฝีมือการแสดงละครตบตาได้ดีเท่านางแน่!เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะร่าซ้ำอีกครั้ง “ถูกแล้ว การแสดงข้างถนนนั่นแหละ อ้อ จริงสิ ข้าไปสอบถามที่ร้านแลกเงินมาแล้ว ตั๋วเงินเหล่านี้สามารถใช้ได้ทั่วไป ไม่มีความเสี่ยงเรื่องถูกระงับการใช้งาน ท่านสบายใจได้”มุมปากของอวี๋เฟยเหยียนกระตุก คิดในใจว่าแม่นางผู้นี้ช่างคิดการณ์รอบคอบเขาโกหกว่าตั๋วเงินของตนถูกระงับการใช้งาน นางจึงจำได้ว่าต้องไปตรวจสอบว่าตั๋วเงินเหล่านี้จะถูกระงับการใช้งานหรือไม่อันที่จริงเขาเพียงพูดจาเหลวไหลเรื่อยเปื่อย!อวี๋เฟยเหยียนยิ้ม หัวเราะร่าตอบ “ได้สิ วางใจข้าเถอะ ข้าจะจัดการให้เรียบร้อยแน่นอน”“ขอบคุณมาก!” เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวจบก็หันหลังจากไปอวี๋เฟยเหยียนมองตั๋วเงินหนึ่งหมื่นตำลึงที่อยู่ตรงหน้า คิดถึงรายได้ของเยี่ยนเว่ยฉือในวันนี้แล้วก็อดขำไม่ได้ “แม่นางผู้นี้ยังซ่อนเงินส่วนตัวไว้ด้วย เจ้าคิดจะหนีไปไหนงั้นรึ?”อวี๋เฟยเหยียนเดาไม่ผิด เยี่ยนเว่ยฉือกำลังวางแผนเพื่อตนเองอยู่จริง ๆแต่นางไม่โง่หนีไปในตอน
ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองก็มาถึงแม่น้ำเสี่ยวเหลียงที่ค่อนข้างห่างไกลอีกครั้งวันนี้แตกต่างจากเมื่อวาน เพราะฉินเซียงหรูพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือได้นำกระถางกำยานออกมาด้วยฉินเซียงหรูถามอย่างสงสัย “สิ่งนี้คืออะไรหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบว่า “บริเวณริมน้ำนี้ยุงชุมนัก สิ่งนี้เอาไว้ไล่ยุงน่ะ”ฉินเซียงหรูค่อย ๆ สูดลมหายใจลึก พลางพยักหน้าแล้วพูดว่า “กลิ่นช่างสดชื่น ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าจะได้ปลากลับไปอย่างเต็มอิ่มอีกแล้ว!”ฉินเซียงหรูตกปลาอย่างเงียบ ๆ ส่วนเยี่ยนเว่ยฉือก็อ่านตำราแพทย์ที่นำติดตัวมาด้วยอย่างเงียบ ๆ เช่นกันบางครั้งที่ปลาติดเบ็ด เยี่ยนเว่ยฉือก็จะปรบมือและส่งเสียงไชโยโห่ร้องยกยออย่างเต็มที่ทั้งสองตกปลากันจนถึงตอนเย็นอีกครั้งสิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนคือคราวนี้หลังจากข้องใส่ปลาเต็ม ฉินเซียงหรูไม่ได้รีบเก็บข้าวของเดินทางกลับ แต่ตะโกนไปทางป่าว่า “ชิงโจว ออกมาเอาของสิ!”ชิงโจว?เยี่ยนเว่ยฉือมองไปยังป่าด้วยความสับสน และแน่นอนว่าครู่ต่อมาชิงโจวก็ออกจากป่ามายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้ม“ขอทำความเคารพชายารัชทายาทและคารวะท่านหมอฉิน”ฉินเซียงวางมือเท้าเอวแล้วยิ้ม “โอ้ ข้าก็ว่าเห
ซ่างกวนซีสะดุ้งเบา ๆ ขณะนั้นก็เข้าใจทันทีว่าฉินเซียงหรูหมายถึงอะไรที่แท้ฉินเซียงหรูก็รู้เจตนาของเขาอยู่แล้วฉินเซียงหรูต้องการบอกว่าการที่เขามีความรู้สึกต้องการอย่างแรงกล้ากับเยี่ยนเว่ยฉือในครั้งนี้ทำให้เกิดการกระตุ้นความร้อนภายในและสลายพิษเย็นไปได้ไม่แน่ว่าครั้งต่อไปอาจรู้สึกไม่เหมือนเดิมแม้จะมีครั้งต่อไป แต่ครั้งต่อไปที่ว่าก็อาจจะไม่มีความรู้สึกนั้นแล้วว่ากันตามตรง ล้วนเป็นเพราะยังไม่ได้สมหวัง เลยยิ่งโหยหามากขึ้นเรื่อย ๆแต่หากสำเร็จดั่งหวังไปแล้ว ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนั้นจะหายไปและหลงเหลือแต่ความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือไม่?เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซ่างกวนซีก็รีบพูดว่า “ไม่มีทางหรอก!”ฉินเซียงหรูพูดอย่างขบขัน “ไม่มีทางอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ริมฝีปากของซ่างกวนซีขยับ แต่เขาพูดไม่ออก เขาหมายจะพูดว่าความสนใจที่เขามีให้เยี่ยนเว่ยฉือนั้นไม่มีทางลดน้อยลงแต่เหตุใดต้องบอกฉินเซียงหรูเรื่องนี้ด้วย หากจะพูดก็ควรพูดกับเยี่ยนเว่ยฉือสิเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินเซียงหรูก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาท แม้ท่านจะมั่นใจว่าไม่มีทาง แต่ท่านก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของแม่นางเ
“ช่วย...” ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจนจบประโยค ซ่างกวนซีก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ข้าเอง”ฉินเซียงหรูถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนัก เขาจับกรอบประตูด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างมือตบหน้าอกของตัวเอง “องค์รัชทายาท หลอกกันเช่นนี้ ถึงตายได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพิ่งสูญเสียชีวิตสามปีให้กับท่าน ไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่นะพ่ะย่ะค่ะ! เฮ้อ!”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”ฉินเซียงหรูที่เห็นคราบน้ำบนรองเท้าของซ่างกวนซีก็รู้ว่าเขายืนอยู่ในลานเป็นเวลานานจนเนื้อตัวของเขาเปื้อนน้ำค้างไปหมดแล้วฉินเซียงหรูเม้มปากเล็กน้อยแล้วพูดว่า “องค์รัชทายาทไม่ต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อว่าราชกิจหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“เรื่องราวยังไม่ชัดเจน ข้าไม่มีอารมณ์ไปเข้าเฝ้าหรอก!”ซ่างกวนซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมาฉินเซียงหรูอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัน พลางขยับหลีกทางหลบไปข้าง ๆ แล้วพูดว่า “เช่นนั้น เชิญองค์รัชทายาทเข้ามาเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ซ่างกวนซีเดินเข้าไปในห้องของฉินเซียงหรูฉินเซียงจุดตะเกียงน้ำมัน และจุดเตาเผาดินแดงขนาดเล็ก จากนั้นก็เริ่มต้มชาเมื่อเห็นเช่นนั้น ซ่างกวนซีก็พูดว่า “ไม่ต้องต้มชา
“ท่านอย่าเข้าไป!” ฉินเซียงหรูเอื้อมมือไปคว้าอวี๋เฟยเหยียน แต่คว้าได้เพียงชายเสื้อ ทำให้ห้ามไว้ไม่ทันจากนั้นเขาก็เห็นอวี๋เฟยเหยียนผลักประตูด้วยความกระวนกระวายใจเสียงดังตึงตังทำให้บุรุษและสตรีบนเตียงแข็งค้างอยู่กับที่อวี๋เฟยเหยียนคาดไม่ถึงว่าเขาจะได้เห็นซ่างกวนซีจับเยี่ยนเว่ยฉือกดลงในท่านั้นแม้ทั้งสองคนจะแต่งตัวมิดชิด แต่ท่าทางของพวกเขา...ทำให้คนที่เห็นจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนซ่างกวนซีหันไปมองอวี๋เฟยเหยียนด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยไฟลุกโชนไม่รู้ว่าโมโหเพราะถูกรบกวนหรือโมโหเพราะไม่ได้เติมเต็มความปรารถนา!อวี๋เฟยเหยียนเองก็แข็งตัวอยู่กับที่ หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาฝืนใจพูดออกมา “ศะ...ศิษย์พี่ใหญ่ ตะ...ตัวท่านละลายแล้วหรือ?”นี่มันคำถามบ้าอะไรกัน!!เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกอายและโกรธมาก นางผลักซ่างกวนซีด้วยกำลังทั้งหมดและรีบออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองเมื่อเห็นนางวิ่งออกไป ฉินเซียงหรูก็ส่ายหัวอย่างยินดีบนความทุกข์ของคนอื่น “จิ๊ ๆ ๆ ที่แท้ซ่างกวนซีก็ยังบริสุทธิ์อยู่นี่เอง! ฮ่า ๆ ๆ!”ขณะเดียวกันซ่างกวนซีก็ลุกขึ้นนั่ง เขามองไปที่อวี๋เฟยเหยียนซึ่งยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม พลา
เมื่อเห็นความดื้อรั้นของเขา เยี่ยนเว่ยฉือจึงพูดว่า “เช่นนั้นหากท่านไม่อ่าน ข้าก็จะอธิบายให้ฟัง”อธิบาย? อธิบายอะไร? ซ่างกวนซีเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความยากลำบากเยี่ยนเว่ยฉือสงบจิตสงบใจและกล่าวว่า “ท่าร่วมประเวณีท่าแรกเรียกว่าตาแปะเข็นรถ หลังจากทั้งสองถอดอาภรณ์ออกหมดแล้ว ให้บุรุษเริ่ม…”“หยุดพูด!” เมื่อซ่างกวนซีได้ยินเสียงใสเหมือนระฆังเงินของเยี่ยนเว่ยฉือ กล่าวถึงเรื่องน่าอายในห้องหอนั่น กลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาเลยทว่าเยี่ยนเว่ยฉือกลับประหลาดใจที่ได้พบว่า “โอ้ องค์รัชทายาท ท่านหน้าแดงแล้วนี่ ท่านร้อนรึ? ท่านรู้สึกร้อนแล้วใช่หรือไม่?”ซ่างกวนซีไม่อยากยอมรับ แต่เขาก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาจริง ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นเยี่ยนเว่ยฉือที่เห็นว่าได้ผล นางก็เริ่มพูดอย่างไม่หยุดหย่อนทันที โดยพรรณนาถึงเนื้อหาในตำราอย่างสมจริงท่าบางท่าที่ยากจะอธิบาย นางก็พยายามสาธิตท่าทางเหล่านั้นด้วยตัวเองโชคดีที่นางใส่เสื้อผ้ามิดชิด จึงไม่ถึงกับมองไปแล้วทิ่มแทงสายตาอะไรมากนักแต่ถึงกระนั้น ก็ไม่สามารถต้านทานภาพที่จินตนาการขึ้นในหัวได้เลยทุกครั้งที่เยี่ยนเว่ยฉืออธิบายท่าทาง ในหัวขอ
หลังจากนั้นไม่นานฉินเซียงหรูก็กลับมามือเปล่า ทำเอาทุกคนสับสนเยี่ยนเว่ยฉือถามว่า “ยาล่ะ? หมอฉิน ยาของท่านล่ะ?”ฉินเซียงหรูกล่าวด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “พิษกู่เย็นกระจายออกมาจากภายในร่างกายขององค์รัชทายาท ดังนั้นจึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยความร้อนจากภายนอก แต่มีวิธีบรรเทาพิษเย็นได้ และบางทีมันอาจอยู่นานจนอาการของพิษหายไป”“เลิกพูดอ้อมค้อมเสียที รีบเข้าประเด็นเสีย!” อวี๋เฟยเหยียนกังวลจะแย่อยู่แล้วฉินเซียงหรูกระตุกมุมปากด้วยความกระดากและพูดต่อ “เช่นนั้นก็ต้อง... กระตุ้นความร้อนภายในขององค์รัชทายาท”“ความร้อนภายใน? ความร้อนภายในคืออะไร?” อวี๋เฟยเหยียนไม่เข้าใจแต่เยี่ยนเว่ยฉือดูเหมือนจะนึกอะไรออกนางจำได้ว่าคนที่แข็งตายจะมีอาการประสาทหลอนจากความร้อนภายในขณะพวกเขากำลังจะตาย ร่างกายของพวกเขาจะร้อนมากจนต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกก่อนจะเสียชีวิตดังนั้นคนจำนวนมากที่แข็งตายจึงถูกพบในสภาพเปลือยเปล่าแต่สิ่งที่เรียกว่าความร้อนภายในนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา ไม่ใช่ของจริงแล้วความร้อนภายในที่แท้จริงคืออะไรกัน?คืออาการเลือดลมพุ่งสูงขึ้นหลังออกกำลังกาย อาการร้อนชื้นในม้ามและกระเพาะเนื่องจากไฟในตั
“ระดมพลังปราณไม่ได้รึ?” อวี๋เฟยเหยียนมองซ่างกวนซีด้วยความตกใจหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็นึกอะไรออกและมองไปที่ฉินเซียงหรูอย่างรวดเร็ว “ท่านหมอฉิน ก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่าเถาชิงเกิงจะทำให้ศิษย์พี่ไม่สามารถใช้กำลังภายในได้ แต่ท่านได้ให้ยาถอนพิษไปแล้วไม่ใช่หรือ?”ฉินเซียงหรูขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เถาชิงเกิงมีความเป็นพิษมาก การดื่มยาถอนพิษสามารถถอนพิษได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถถอนฤทธิ์ยาได้ ฤทธิ์ยาของมันคือทำให้คนไม่สามารถระดมกำลังภายในของตนได้ และจะใช้เวลาประมาณห้าวัน ฤทธิ์ยาจึงจะถูกขับออกจากร่างกายไปพร้อมของเสีย แต่ใครจะรู้ว่าองค์รัชทายาทจะโชคร้าย รอเพียงห้าวันก็ยังผ่านไปไม่ไหว”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำอย่างไรดี? องค์รัชทายาทจะถูกแช่แข็งอยู่แล้ว! จริงสิ แช่น้ำร้อน แช่น้ำร้อนได้หรือไม่?” เยี่ยนเว่ยฉือถามอย่างกังวลฉินเซียงหรูมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือและพูดต่อ “แม่นางเยี่ยน พิษกู่เย็นแสดงอาการมาจากภายใน ความร้อนจากภายนอกมีแต่จะบังคับให้พิษกลับเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เป็นอันตรายมากยิ่งกว่าเดิม”อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง วิชาสหัสเหมันต์กระตุ้นพลังหยินมากจนทำให้เกิดความเย็น ศิษย์พี่ฝึกวิชาสหัส
ขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังง้อซ่างกวนซี ฉินเซียงหรูก็ถูกสอบปากคำเช่นกันอวี๋เฟยเหยียนพาชิงโจวและฉินซานมาด้วย โดยพวกเขายืนล้อมรอบฉินเซียงหรูกันคนละมุมเป็นรูปสามเหลี่ยมฉินเซียงหรูยิ้มเจื่อน “อะไร...ของพวกท่านเนี่ย?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า “หมอฉิน วันนี้ท่านกับพี่สะใภ้ของข้าไปทำอะไรมากันแน่?”ฉินเซียงหรูชี้ไปที่ข้องใส่ปลาที่อยู่อีกด้านหนึ่งแล้วตอบว่า “ก็ตกปลาอย่างไรเล่า นี่ ได้ปลามาเยอะเลยนะ!”อวี๋เฟยเหยียนเหลือบมองข้องใส่ปลาแล้วถามว่า “หมอฉิน ท่านอย่าคิดว่าตนคนฉลาดอยู่คนเดียวแล้วคิดว่าผู้อื่นโง่สิ แค่เวลาบ่ายช่วงสั้น ๆ ท่านตกปลาได้มากมายถึงเพียงนี้เลยรึ? ใครจะเชื่อกัน?”ฉินเซียงหรูยิ้มตาหยีและพูดว่า “นั่นเป็นเพราะเหยื่อที่แม่นางเยี่ยนทำอย่างไรเล่า ข้าจะบอกพวกท่านให้ มันวิเศษมากจริง ๆ ไม่มีปลาตัวไหนที่ผ่านไปแล้วไม่ติดเบ็ดเลย หากรัฐทายาทอวี๋ไม่เชื่อ วันพรุ่งไปดูด้วยกันไหมล่ะขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ข้าไม่ว่าง ข้าต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรมกลาโหม!”ฉินเซียงหรูยิ้มบาง ๆ “ไปนั่งดื่มชาทั้งวันน่ะหรือขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนสะดุ้งเบา ๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทะ...
เยี่ยนเว่ยฉือเห็นซ่างกวนซีที่ดูไม่พอใจ ก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยความระมัดระวังและถามว่า “องค์รัชทายาท...วันนี้ไปเข้าเฝ้าเหนื่อยหรือไม่?”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ไปเข้าเฝ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยาม แต่ข้าต้องใช้เวลาทั้งวันตามหาเจ้า เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าทำหูทวนลมไม่ฟังที่ข้าพูดหรือ? กล้าดีอย่างไรถึงได้แอบออกไป?”เยี่ยนเว่ยฉือรีบพูด “เปล่านะ ก็องค์รัชทายาทสั่งไม่ให้ข้าออกไปคนเดียว ข้าก็ไม่ได้ไปคนเดียวสักหน่อย ข้าไปกับท่านหมอฉินไม่ใช่หรือ?”“ไปกับเขากับเจ้าไปคนเดียวมันต่างกันตรงไหน? เขาไม่มีวิทยายุทธ์เลยแม้แต่น้อย หากเผชิญกับอันตรายเข้า เจ้าจะปกป้องเขาหรือเขาจะปกป้องเจ้าล่ะ?” ซ่างกวนซีรู้สึกโมโหจริง ๆ ไม่มีวี่แววว่าจะหามือสังหารที่ลอบสังหารเยี่ยนเว่ยฉือพบเลยเยี่ยนเว่ยฉือรู้ดีว่าซ่างกวนซีมีเจตนาดีแต่นางซ่อนตัวอยู่ในจวนองค์รัชทายาทตลอด แล้วจะตามหามือสังหารเจอได้อย่างไรเยี่ยนเว่ยฉือใช้แขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคล้องแขนของซ่างกวานซีซ่างกวนซีจะผละออกตามสัญชาตญาณเยี่ยนเว่ยฉือเห็นเช่นนั้นจึงรีบพูด “โอ๊ย ๆ องค์รัชทายาทอย่าขยับสิ คนเขายังเจ็บมืออยู่เลยนะ”ซ่างกวนซีตกใจเล็กน้อย และรีบมองไ