หลังจากผ่านไปเพียงครู่เดียว ร้านผ้าไหมก็เต็มไปด้วยผ้าจำนวนห้าเกวียนด้วยกันเถ้าแก่ยื่นใบรายการให้เยี่ยนเว่ยฉือ ระบุว่าจำนวนเงินห้าพันตำลึงราคาที่แจ้งมานั้นสูงกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัดอย่างไรก็ตาม เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้สนใจและไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดมากนัก ยัดใบเสร็จลงในถุงผ้าของตนเองเมื่อเห็นเช่นนั้น เถ้าแก่ก็ยิ้มกริ่ม คิดในใจ ‘ไม่เพียงแต่จะร่ำรวยมากเท่านั้น ยังไม่เฉลียวฉลาดอีกด้วย’เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมองขบวนเกวียน แล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าตามข้ามาแล้วกัน ข้ายังต้องไปซื้อของอย่างอื่นอีก แล้วค่อยกลับจวนพร้อมกัน”กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พวกเขาอาจจะกลับมาช้าสักหน่อยเถ้าแก่รีบพูด “ได้ ได้ขอรับ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องรีบร้อน พวกเจ้าจงดูแลคุณชายให้ดี! ได้ยินหรือไม่?”คนขับเกวียนพยักหน้ารับคำจากนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็นำขบวนผ้าทั้งห้าเกวียนออกไป แล้วเดินต่อไปตามถนนที่คึกคักในเมืองหลวงขณะเดิน นางก็มองไปรอบ ๆ ชัดเจนว่ากำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่อวี๋เฟยเหยียนที่ซ่อนตัวอยู่นึกสงสัย “นางจะทำอะไรกันนะ?”เย่เทียนซูส่ายหัว “จิตใจสตรียากแท้หยั่งถึง”อวี๋เฟยเหยียนเม้มปาก “การกระทำดูไม่ต่างจากนักต้มตุ๋นใน
ครู่ต่อมา เด็กในร้านก็ยกกล่องบุผ้าไหมออกมาหนึ่งกล่อง ภายในบรรจุด้วยกำไลหยกไว้สองวงสีสันโปร่งใส เนื้อสัมผัสเป็นมันวาว ถือว่าเป็นของดีทีเดียวอย่างไรก็ตาม เยี่ยนเว่ยฉือกลับขมวดคิ้วเล็กน้อยเถ้าแก่เห็นดังนั้น จึงรีบถาม “คุณชาย นี่ไม่เป็นที่น่าพอใจหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือตอบ “ราคาถูกเกินไป”“ถูกเกินไปหรือ?” เถ้าแก่หัวเราะ “คุณชาย กำไลหยกคู่นี้มีเพียงคู่เดียวในเมืองหลวง นี่ถือเป็นราคาขั้นต่ำแล้ว”เถ้าแก่ยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว หมายความว่าหนึ่งพันตำลึงเยี่ยนเว่ยฉือโบกมือ “ไม่ได้ ไม่ได้ ราคาถูกเกินไป ผ้าไหมที่ข้าซื้อมามีมูลค่าถึงห้าพันตำลึงแล้ว กำไลหยกคู่นี้จะราคาต่ำกว่าไม่ได้เด็ดขาด”เยี่ยนเว่ยฉือโบกมือครั้งนี้ ทำให้ใบรายการในแขนเสื้อร่วงหล่นออกมาเด็กในร้านรีบเดินเข้าไปช่วยเก็บ แล้วแอบมองจำนวนเงินบนกระดาษเด็กในร้านส่งคืนให้เยี่ยนเว่ยฉือ แล้วก็ส่งสายตาให้เถ้าแก่อย่างมีนัยสำคัญเถ้าแก่เข้าใจในทันทีว่าเมื่อครู่เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้โกหกเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “คุณชายโปรดรอสักครู่”คราวนี้ เถ้าแก่เข้าไปในห้องด้านในด้วยตนเองครู่ต่อมาก็กลับออกมาพร้อมกับเครื่องประดับสองชุดชุดหนึ่
เยี่ยนเว่ยฉือควบม้า ส่วนทั้งสองคนใช้วิชาตัวเบาแม้ว่าทั้งสองจะมีวิทยายุทธ์ไม่เลว แต่ก็ยังไล่ตามจนเหนื่อยหอบเมื่อไล่ตามได้ทัน แต่กลับพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปในโรงรับจำนำโรงรับจำนำ? นางเอาเครื่องประดับทั้งสองชุดไปจำนำงั้นหรือ?นางเป็นนักต้มตุ๋นจริง ๆ งั้นหรือ?อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วทันที พลางกล่าวว่า “ไม่ได้! ปล่อยให้นางทำร้ายชาวบ้านแบบนี้ไม่ได้ ข้าต้องไปเปิดโปงนาง”“ช้าก่อน!” เย่เทียนซูจับแขนอวี๋เฟยเหยียนผู้ใจร้อนเอาไว้ พยายามปลอบว่า “ข้ารู้สึกว่าแม่นางผู้นั้นฉลาดมาก ไม่น่าจะทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้หรอก อีกอย่าง หากนางขัดสนเงินทอง ก็สามารถไปขอยืมจากศิษย์พี่ใหญ่ได้ เหตุใดต้องออกจากจวนมาต้มตุ๋นหลอกลวงด้วยเล่า?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้ว กล่าวว่า “เฮ้อ ต้องโทษข้า ข้าเป็นคนท้าทายนาง เพื่อทดสอบความสามารถของนางเอง”“ท้าทาย? ท้าทายเรื่องอันใด?”อวี๋เฟยเหยียนกล่าวต่อไป “ข้าให้นางคิดหาวิธีซ่อมแซมจวนองค์รัชทายาท”เย่เทียนซูประหลาดใจ กล่าวว่า “จวนองค์รัชทายาทออกจะใหญ่โตถึงเพียงนั้น หากจะซ่อมแซมให้ดี คงต้องใช้เงินถึงแปดพันถึงหนึ่งหมื่นตำลึง จะซ่อมได้อย่างไร? เจ้าไม่ได้ท้าทายนางด้วยเรื่องที
ทุกคนหัวเราะ เยี่ยนเว่ยฉือก็หัวเราะไปด้วย ดูจากท่าทางที่โง่เขลาของนาง เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกแกะน้อยที่พร้อมถูกเชือด!เจ้ามือยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะพนัน เยี่ยนเว่ยฉือนั่งลงตรงข้ามเขาเยี่ยนเว่ยฉือเขี่ยถั่วในกอง กล่าวว่า “นี่เล่นยังไงล่ะ?”เจ้ามือกล่าว “ง่ายดายยิ่ง ข้าจะหลับตา แล้วสุ่มหยิบถั่วหนึ่งกำมือ จากนั้นแบ่งมันออกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มละสี่เม็ด ที่เหลืออยู่เท่าไร ท่านก็แค่ทาย หากทายถูก จะจ่ายหนึ่งได้สอง”เยี่ยนเว่ยฉือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดกับตัวเองในใจ “หนึ่งต่อสอง นั่นแปลว่า หากข้าเดิมพันหนึ่งร้อยตำลึง เมื่อแพ้จะต้องเสียหนึ่งร้อยตำลึง หากชนะก็จะได้สองร้อยตำลึง ฟังดูใช้ได้ แต่กอบโกยได้ช้าไปหน่อย”นางยิ้มอย่างโง่เขลา “ได้ ลองดู!”เจ้ามือยิ้มแย้มแจ่มใส เริ่มเล่นกับเยี่ยนเว่ยฉือทันทีเยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ได้ลงเงินเดิมพันมากนัก เดิมพันครั้งละหนึ่งร้อยตำลึงเท่านั้นเดิมพันไปหลายครั้ง เสียมากกว่าได้ เงินเดิมพันสามพันตำลึงเหลือเพียงสองพันตำลึงในพริบตาเยี่ยนเว่ยฉือส่ายหัว ถอนหายใจ “ไม่เล่นแล้ว ไม่เล่นแล้ว ไม่สนุกแล้ว!”เมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังจะจากไป เจ้ามือก็รีบกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อ
เยี่ยนเว่ยฉือจ้องมองเจ้ามือที่มั่นใจในชัยชนะตรงหน้าเสียเต็มประดา อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะในใจคำกล่าวนั้นว่าอย่างไรนะ ผู้ที่คิดร้ายต่อผู้อื่น ย่อมได้รับผลร้ายเช่นกัน หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับคนที่คิดร้ายต่อผู้อื่นเช่นกันนักล่าตัวจริงมักแสดงตนว่าเป็นเหยื่อเยี่ยนเว่ยฉือวางมือที่กำถั่วไว้ตรงกลางโต๊ะพนันเป็นสัญญาณให้เจ้ามือทายเจ้ามือสุ่มทายทันที “เลขคู่!”เยี่ยนเว่ยฉือแบมือออก ปรากฏว่ามีถั่วอยู่ในฝ่ามือสามเม็ด!เจ้ามือตกใจเล็กน้อย แต่ยังคงยิ้มแย้มตอบกลับ “คุณชายน้อยช่างโชคดีเสียจริง!”เมื่อพูดจบ เจ้ามือก็ส่งเงินห้าร้อยตำลึงให้เยี่ยนเว่ยฉืออีกครั้งหลังจากผ่านไปสองรอบ เยี่ยนเว่ยฉือได้เงินไปหนึ่งพันตำลึงแล้วมีผู้หวังดีด้านข้างแนะนำให้เยี่ยนเว่ยฉือหยุดเมื่อได้กำไรแล้ว แต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับดื้อรั้นเหมือนคนโง่ที่อยากจะเดิมพันให้หนำใจเจ้ามือย่อมยินดีเป็นธรรมดา รีบคว้าถั่วในถุงมากำไว้บ้างคราวนี้เขาหยิบขึ้นมาเพียงสองเม็ด ซึ่งง่ายดายต่อการโกงเขาเอามือวางบนโต๊ะแล้วกล่าวว่า “คุณชาย เชิญ”เยี่ยนเว่ยฉือกล่าว “ข้าทายว่าเลขคู่!”รอยยิ้มบนใบหน้าของเจ้ามือแข็งค้างไปครู่หนึ่ง แต่เขาไม่ไ
เยี่ยนเว่ยฉือมองเขาด้วยรอยยิ้มครึ่ง ๆ กลาง ๆ คิดในใจว่า “เจ้าหาเรื่องใส่ตัวเองนะ อย่าได้โทษข้า!”เยี่ยนเว่ยฉือเดินกลับไปที่โต๊ะพนัน แล้วกล่าวว่า “ย่อมได้ ท่านหยิบหรือข้าหยิบดีล่ะ?”เจ้ามือรีบพูด “แน่นอนว่าต้องข้าหยิบสิ”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าตกลงเจ้ามือล้วงมือเข้าไปในถุง แต่ไม่ได้หยิบถั่วออกมาสักเม็ด ชักมือกลับออกมาด้วยความว่างเปล่าเขาใช้วิธีโกงหน้าด้าน ๆ ไม่ว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะทายเลขคี่หรือเลขคู่ เขาก็ชนะอย่างแน่นอนเจ้ามือยิ้มเย้ยหยันแล้วกล่าวว่า “คุณชาย เชิญทายได้เลย!”เยี่ยนเว่ยฉือแตะหมัดเจ้ามือไปด้วย แล้วกล่าวว่า “เลขคี่!”เจ้ามือหัวเราะอย่างสาแก่ใจ แล้วแบมือออกพร้อมกับพูดว่า “ท่านทายผิด...”ยังพูดไม่ทันจบก็อ้าปากค้างเพราะในฝ่ามือของเขามีถั่วเม็ดเล็ก ๆ อยู่ในนั้นจริง ๆผู้คนรอบข้างต่างก็ร้องอุทาน!โอ้โห!ชนะแล้ว!สุดยอด!ว้าว!เจ้ามือชะงักตัวแข็งค้างอยู่กับที่ เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาจากหน้าผากเม็ดเป้งหากเงินหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึงนี้ไป อาชีพการงานของเขาคงถึงคราวจบสิ้น“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าโกง เจ้าโกง!”เยี่ยนเว่ยฉือผายมือยักไหล่ “พี่ใหญ่ ท่านเป็นคนหย
ทั้งสองเดินตามเยี่ยนเว่ยฉือกลับไปที่ร้านอวี้หม่านถัง พบว่าสถานะของนางเปลี่ยนไปจากคุณชาย กลายเป็นสาวใช้ในบ้านเศรษฐีแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก้มหน้าลงด้วยความขลาดเขลา ยื่นเครื่องประดับสองชุดคืนให้พร้อมกับกล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เถ้าแก่ ข้าต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง ฮูหยินของข้าไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ และได้กักขังคุณชายของข้าไว้ เครื่องประดับสองชุดนี้ข้าจึงต้องนำมาคืนท่าน คุณชายของข้ากล่าวว่าให้ท่านเลือกผ้าไหมสองพับไป ถือเป็นค่าตอบแทนที่ทำให้ท่านต้องเสียเวลา”เถ้าแก่ร้านอวี้หม่านถังแม้จะไม่พอใจนัก แต่เมื่อได้ยินว่าจะได้รับผ้าเนื้อดีสองพับโดยไม่เสียสักแดง เขาก็ไม่อาจหาคำตำหนิมาพูดได้อีก พยักหน้า “คุณชายเป็นคนใจกว้างเช่นนี้ ข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว”เถ้าแก่เดินไปยังเกวียนบรรทุกผ้าไหมทั้งห้า เลือกผ้าสองพับที่มีลวดลายและสีสันวิจิตร เห็นได้ชัดว่าเพื่อตัดเย็บอาภรณ์ให้สตรีในบ้านแม้ว่าการค้าจะไม่สำเร็จ แต่ก็ยังได้ของฟรีอยู่ เถ้าแก่จึงมีความสุขมาก……หลังจากนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็นำผ้าไหมห้าลำเกวียนกลับไปที่ร้านหลิงหลัวฟาง เถ้าแก่ของหลิงหลัวฟางก็รู้สึกงุนงงเช่นกันเยี่ยนเว่ยฉือยังคงก้มหัวลงอย่างขลาดเขล
อวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูยังคงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่หยุดปากไม่มีอะไรมากไปกว่าความฉลาดแกมโกงของเยี่ยนเว่ยฉือแต่ซ่างกวนซีกลับนึกถึงเรื่องอื่นเขาพูดพึมพำ “บ่อนซื่อเซิ่งดูเหมือนจะเป็นกิจการของน้องรองนะ”อวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูตกใจเล็กน้อย จากนั้นทั้งสองก็หัวเราะออกมาดังลั่น“ฮ่าฮ่าฮ่า ถูกต้อง ถูกต้อง บ่อนซื่อเซิ่งเป็นกิจการขององค์ชายรองซ่างกวนหลี แม่นางคนนี้ช่างโชคดีเหลือเกินที่บังเอิญไปหลอกศัตรูของศิษย์พี่ใหญ่เข้า” อวี๋เฟยเหยียนหัวเราะจนตัวโยน น้ำตาแทบจะเล็ดออกมาเย่เทียนซูก็หัวเราะร่วน “ฮ่าฮ่าฮ่า… นางเป็นดาวนำโชคจริง ๆ!”อวี๋เฟยเหยียนมองไปที่เย่เทียนซูแล้วส่ายหัว “เจ้าช่างเปลี่ยนใจง่ายเสียจริง ก่อนหน้านี้เจ้ายังบอกว่านางเป็นดาวหายนะอยู่เลย”“ข้าไม่ได้พูด!” เย่เทียนซูโต้แย้งอย่างรุนแรง “ก่อนที่ศิษย์พี่ใหญ่จะกลับมาเมืองหลวง อาจารย์ให้ข้าทำนายดวงชะตาให้เขา ผลปรากฏว่าเก้าตายหนึ่งรอด มีเพียงวิธีเดียวที่จะแก้ไขได้ นั่นคือตายแล้วฟื้น”ดังนั้น ซ่างกวนซีจึงกับยอมติดกับดักเหตุลอบสังหารแต่ไม่ตอบโต้ ก็เพื่อใช้วิธีหลบหนีความตายแล้วเปลี่ยนจากการสู้ซึ่ง ๆ หน้า ไปสู่การเคลื่