เยี่ยนเว่ยฉือควบม้า ส่วนทั้งสองคนใช้วิชาตัวเบาแม้ว่าทั้งสองจะมีวิทยายุทธ์ไม่เลว แต่ก็ยังไล่ตามจนเหนื่อยหอบเมื่อไล่ตามได้ทัน แต่กลับพบว่าเยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปในโรงรับจำนำโรงรับจำนำ? นางเอาเครื่องประดับทั้งสองชุดไปจำนำงั้นหรือ?นางเป็นนักต้มตุ๋นจริง ๆ งั้นหรือ?อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วทันที พลางกล่าวว่า “ไม่ได้! ปล่อยให้นางทำร้ายชาวบ้านแบบนี้ไม่ได้ ข้าต้องไปเปิดโปงนาง”“ช้าก่อน!” เย่เทียนซูจับแขนอวี๋เฟยเหยียนผู้ใจร้อนเอาไว้ พยายามปลอบว่า “ข้ารู้สึกว่าแม่นางผู้นั้นฉลาดมาก ไม่น่าจะทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้หรอก อีกอย่าง หากนางขัดสนเงินทอง ก็สามารถไปขอยืมจากศิษย์พี่ใหญ่ได้ เหตุใดต้องออกจากจวนมาต้มตุ๋นหลอกลวงด้วยเล่า?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้ว กล่าวว่า “เฮ้อ ต้องโทษข้า ข้าเป็นคนท้าทายนาง เพื่อทดสอบความสามารถของนางเอง”“ท้าทาย? ท้าทายเรื่องอันใด?”อวี๋เฟยเหยียนกล่าวต่อไป “ข้าให้นางคิดหาวิธีซ่อมแซมจวนองค์รัชทายาท”เย่เทียนซูประหลาดใจ กล่าวว่า “จวนองค์รัชทายาทออกจะใหญ่โตถึงเพียงนั้น หากจะซ่อมแซมให้ดี คงต้องใช้เงินถึงแปดพันถึงหนึ่งหมื่นตำลึง จะซ่อมได้อย่างไร? เจ้าไม่ได้ท้าทายนางด้วยเรื่องที
ทุกคนหัวเราะ เยี่ยนเว่ยฉือก็หัวเราะไปด้วย ดูจากท่าทางที่โง่เขลาของนาง เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกแกะน้อยที่พร้อมถูกเชือด!เจ้ามือยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะพนัน เยี่ยนเว่ยฉือนั่งลงตรงข้ามเขาเยี่ยนเว่ยฉือเขี่ยถั่วในกอง กล่าวว่า “นี่เล่นยังไงล่ะ?”เจ้ามือกล่าว “ง่ายดายยิ่ง ข้าจะหลับตา แล้วสุ่มหยิบถั่วหนึ่งกำมือ จากนั้นแบ่งมันออกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มละสี่เม็ด ที่เหลืออยู่เท่าไร ท่านก็แค่ทาย หากทายถูก จะจ่ายหนึ่งได้สอง”เยี่ยนเว่ยฉือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดกับตัวเองในใจ “หนึ่งต่อสอง นั่นแปลว่า หากข้าเดิมพันหนึ่งร้อยตำลึง เมื่อแพ้จะต้องเสียหนึ่งร้อยตำลึง หากชนะก็จะได้สองร้อยตำลึง ฟังดูใช้ได้ แต่กอบโกยได้ช้าไปหน่อย”นางยิ้มอย่างโง่เขลา “ได้ ลองดู!”เจ้ามือยิ้มแย้มแจ่มใส เริ่มเล่นกับเยี่ยนเว่ยฉือทันทีเยี่ยนเว่ยฉือก็ไม่ได้ลงเงินเดิมพันมากนัก เดิมพันครั้งละหนึ่งร้อยตำลึงเท่านั้นเดิมพันไปหลายครั้ง เสียมากกว่าได้ เงินเดิมพันสามพันตำลึงเหลือเพียงสองพันตำลึงในพริบตาเยี่ยนเว่ยฉือส่ายหัว ถอนหายใจ “ไม่เล่นแล้ว ไม่เล่นแล้ว ไม่สนุกแล้ว!”เมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังจะจากไป เจ้ามือก็รีบกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อ
เยี่ยนเว่ยฉือจ้องมองเจ้ามือที่มั่นใจในชัยชนะตรงหน้าเสียเต็มประดา อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะในใจคำกล่าวนั้นว่าอย่างไรนะ ผู้ที่คิดร้ายต่อผู้อื่น ย่อมได้รับผลร้ายเช่นกัน หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับคนที่คิดร้ายต่อผู้อื่นเช่นกันนักล่าตัวจริงมักแสดงตนว่าเป็นเหยื่อเยี่ยนเว่ยฉือวางมือที่กำถั่วไว้ตรงกลางโต๊ะพนันเป็นสัญญาณให้เจ้ามือทายเจ้ามือสุ่มทายทันที “เลขคู่!”เยี่ยนเว่ยฉือแบมือออก ปรากฏว่ามีถั่วอยู่ในฝ่ามือสามเม็ด!เจ้ามือตกใจเล็กน้อย แต่ยังคงยิ้มแย้มตอบกลับ “คุณชายน้อยช่างโชคดีเสียจริง!”เมื่อพูดจบ เจ้ามือก็ส่งเงินห้าร้อยตำลึงให้เยี่ยนเว่ยฉืออีกครั้งหลังจากผ่านไปสองรอบ เยี่ยนเว่ยฉือได้เงินไปหนึ่งพันตำลึงแล้วมีผู้หวังดีด้านข้างแนะนำให้เยี่ยนเว่ยฉือหยุดเมื่อได้กำไรแล้ว แต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับดื้อรั้นเหมือนคนโง่ที่อยากจะเดิมพันให้หนำใจเจ้ามือย่อมยินดีเป็นธรรมดา รีบคว้าถั่วในถุงมากำไว้บ้างคราวนี้เขาหยิบขึ้นมาเพียงสองเม็ด ซึ่งง่ายดายต่อการโกงเขาเอามือวางบนโต๊ะแล้วกล่าวว่า “คุณชาย เชิญ”เยี่ยนเว่ยฉือกล่าว “ข้าทายว่าเลขคู่!”รอยยิ้มบนใบหน้าของเจ้ามือแข็งค้างไปครู่หนึ่ง แต่เขาไม่ไ
เยี่ยนเว่ยฉือมองเขาด้วยรอยยิ้มครึ่ง ๆ กลาง ๆ คิดในใจว่า “เจ้าหาเรื่องใส่ตัวเองนะ อย่าได้โทษข้า!”เยี่ยนเว่ยฉือเดินกลับไปที่โต๊ะพนัน แล้วกล่าวว่า “ย่อมได้ ท่านหยิบหรือข้าหยิบดีล่ะ?”เจ้ามือรีบพูด “แน่นอนว่าต้องข้าหยิบสิ”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้าตกลงเจ้ามือล้วงมือเข้าไปในถุง แต่ไม่ได้หยิบถั่วออกมาสักเม็ด ชักมือกลับออกมาด้วยความว่างเปล่าเขาใช้วิธีโกงหน้าด้าน ๆ ไม่ว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะทายเลขคี่หรือเลขคู่ เขาก็ชนะอย่างแน่นอนเจ้ามือยิ้มเย้ยหยันแล้วกล่าวว่า “คุณชาย เชิญทายได้เลย!”เยี่ยนเว่ยฉือแตะหมัดเจ้ามือไปด้วย แล้วกล่าวว่า “เลขคี่!”เจ้ามือหัวเราะอย่างสาแก่ใจ แล้วแบมือออกพร้อมกับพูดว่า “ท่านทายผิด...”ยังพูดไม่ทันจบก็อ้าปากค้างเพราะในฝ่ามือของเขามีถั่วเม็ดเล็ก ๆ อยู่ในนั้นจริง ๆผู้คนรอบข้างต่างก็ร้องอุทาน!โอ้โห!ชนะแล้ว!สุดยอด!ว้าว!เจ้ามือชะงักตัวแข็งค้างอยู่กับที่ เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาจากหน้าผากเม็ดเป้งหากเงินหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึงนี้ไป อาชีพการงานของเขาคงถึงคราวจบสิ้น“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าโกง เจ้าโกง!”เยี่ยนเว่ยฉือผายมือยักไหล่ “พี่ใหญ่ ท่านเป็นคนหย
ทั้งสองเดินตามเยี่ยนเว่ยฉือกลับไปที่ร้านอวี้หม่านถัง พบว่าสถานะของนางเปลี่ยนไปจากคุณชาย กลายเป็นสาวใช้ในบ้านเศรษฐีแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือก้มหน้าลงด้วยความขลาดเขลา ยื่นเครื่องประดับสองชุดคืนให้พร้อมกับกล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เถ้าแก่ ข้าต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง ฮูหยินของข้าไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ และได้กักขังคุณชายของข้าไว้ เครื่องประดับสองชุดนี้ข้าจึงต้องนำมาคืนท่าน คุณชายของข้ากล่าวว่าให้ท่านเลือกผ้าไหมสองพับไป ถือเป็นค่าตอบแทนที่ทำให้ท่านต้องเสียเวลา”เถ้าแก่ร้านอวี้หม่านถังแม้จะไม่พอใจนัก แต่เมื่อได้ยินว่าจะได้รับผ้าเนื้อดีสองพับโดยไม่เสียสักแดง เขาก็ไม่อาจหาคำตำหนิมาพูดได้อีก พยักหน้า “คุณชายเป็นคนใจกว้างเช่นนี้ ข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว”เถ้าแก่เดินไปยังเกวียนบรรทุกผ้าไหมทั้งห้า เลือกผ้าสองพับที่มีลวดลายและสีสันวิจิตร เห็นได้ชัดว่าเพื่อตัดเย็บอาภรณ์ให้สตรีในบ้านแม้ว่าการค้าจะไม่สำเร็จ แต่ก็ยังได้ของฟรีอยู่ เถ้าแก่จึงมีความสุขมาก……หลังจากนั้น เยี่ยนเว่ยฉือก็นำผ้าไหมห้าลำเกวียนกลับไปที่ร้านหลิงหลัวฟาง เถ้าแก่ของหลิงหลัวฟางก็รู้สึกงุนงงเช่นกันเยี่ยนเว่ยฉือยังคงก้มหัวลงอย่างขลาดเขล
อวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูยังคงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่หยุดปากไม่มีอะไรมากไปกว่าความฉลาดแกมโกงของเยี่ยนเว่ยฉือแต่ซ่างกวนซีกลับนึกถึงเรื่องอื่นเขาพูดพึมพำ “บ่อนซื่อเซิ่งดูเหมือนจะเป็นกิจการของน้องรองนะ”อวี๋เฟยเหยียนและเย่เทียนซูตกใจเล็กน้อย จากนั้นทั้งสองก็หัวเราะออกมาดังลั่น“ฮ่าฮ่าฮ่า ถูกต้อง ถูกต้อง บ่อนซื่อเซิ่งเป็นกิจการขององค์ชายรองซ่างกวนหลี แม่นางคนนี้ช่างโชคดีเหลือเกินที่บังเอิญไปหลอกศัตรูของศิษย์พี่ใหญ่เข้า” อวี๋เฟยเหยียนหัวเราะจนตัวโยน น้ำตาแทบจะเล็ดออกมาเย่เทียนซูก็หัวเราะร่วน “ฮ่าฮ่าฮ่า… นางเป็นดาวนำโชคจริง ๆ!”อวี๋เฟยเหยียนมองไปที่เย่เทียนซูแล้วส่ายหัว “เจ้าช่างเปลี่ยนใจง่ายเสียจริง ก่อนหน้านี้เจ้ายังบอกว่านางเป็นดาวหายนะอยู่เลย”“ข้าไม่ได้พูด!” เย่เทียนซูโต้แย้งอย่างรุนแรง “ก่อนที่ศิษย์พี่ใหญ่จะกลับมาเมืองหลวง อาจารย์ให้ข้าทำนายดวงชะตาให้เขา ผลปรากฏว่าเก้าตายหนึ่งรอด มีเพียงวิธีเดียวที่จะแก้ไขได้ นั่นคือตายแล้วฟื้น”ดังนั้น ซ่างกวนซีจึงกับยอมติดกับดักเหตุลอบสังหารแต่ไม่ตอบโต้ ก็เพื่อใช้วิธีหลบหนีความตายแล้วเปลี่ยนจากการสู้ซึ่ง ๆ หน้า ไปสู่การเคลื่
เยี่ยนเว่ยฉือคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางเองก็คงจัดว่ามีฝีมือเหมือนกัน ใครว่าการหลอกคนไม่ใช่ความสามารถอย่างหนึ่งเล่า? คนทั่วไปอย่างน้อยก็ไม่มีฝีมือการแสดงละครตบตาได้ดีเท่านางแน่!เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะร่าซ้ำอีกครั้ง “ถูกแล้ว การแสดงข้างถนนนั่นแหละ อ้อ จริงสิ ข้าไปสอบถามที่ร้านแลกเงินมาแล้ว ตั๋วเงินเหล่านี้สามารถใช้ได้ทั่วไป ไม่มีความเสี่ยงเรื่องถูกระงับการใช้งาน ท่านสบายใจได้”มุมปากของอวี๋เฟยเหยียนกระตุก คิดในใจว่าแม่นางผู้นี้ช่างคิดการณ์รอบคอบเขาโกหกว่าตั๋วเงินของตนถูกระงับการใช้งาน นางจึงจำได้ว่าต้องไปตรวจสอบว่าตั๋วเงินเหล่านี้จะถูกระงับการใช้งานหรือไม่อันที่จริงเขาเพียงพูดจาเหลวไหลเรื่อยเปื่อย!อวี๋เฟยเหยียนยิ้ม หัวเราะร่าตอบ “ได้สิ วางใจข้าเถอะ ข้าจะจัดการให้เรียบร้อยแน่นอน”“ขอบคุณมาก!” เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวจบก็หันหลังจากไปอวี๋เฟยเหยียนมองตั๋วเงินหนึ่งหมื่นตำลึงที่อยู่ตรงหน้า คิดถึงรายได้ของเยี่ยนเว่ยฉือในวันนี้แล้วก็อดขำไม่ได้ “แม่นางผู้นี้ยังซ่อนเงินส่วนตัวไว้ด้วย เจ้าคิดจะหนีไปไหนงั้นรึ?”อวี๋เฟยเหยียนเดาไม่ผิด เยี่ยนเว่ยฉือกำลังวางแผนเพื่อตนเองอยู่จริง ๆแต่นางไม่โง่หนีไปในตอน
ถึงเวลาอาหารเย็น เยี่ยนเว่ยฉือ ซ่างกวนซี และอวี๋เฟยเหยียนที่เป็นแขกต่างก็รับประทานอาหารร่วมกันเยี่ยนเว่ยฉือมองอาหารเลิศรสบนโต๊ะ แล้วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “จางมามาเก่งจริง ๆ ทำอาหารได้เก่งนัก!”อวี๋เฟยเหยียนพูดด้วยความภาคภูมิใจ “นั่นแน่อยู่แล้ว จางมามาเป็นพี่เลี้ยงของข้า ไม่ว่าจะซักผ้า ทำอาหาร นั่นแน่อยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่นางไม่ชำนาญ”เยี่ยนเว่ยฉือเม้มปากแล้วแอบบ่นในใจ ‘ดังนั้นจึงเลี้ยงดูรัฐทายาทเช่นท่านกลายเป็นคนไร้ค่า ที่ต้องมาขอข้าวที่จวนองค์รัชทายาทกินเพราะไม่มีเงินสินะ’อวี๋เฟยเหยียนหันไปถามซ่างกวนซี “ศิษย์พี่ใหญ่ ร่างกายของท่านดีขึ้นหรือยัง?”แม้ว่าเขาไม่อยากยอมรับ แต่ซ่างกวนซีก็ยังต้องพยักหน้า เพราะพบว่ายาขมสองถ้วยของเยี่ยนเว่ยฉือมีประโยชน์ต่อการรักษาอาการป่วยของเขาจริง ๆเยี่ยนเว่ยฉือที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล แค่ไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น มีข้าอยู่ทั้งคน จะรักษาเขาไม่ได้เชียวหรือ?”“อ้อ? พูดถึงเรื่องนี้ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าร่ำเรียนวิชารักษาโรคมาจากไหน? เรียนจากสำนักใด? เจ้าสำนักเป็นใครกัน?” อวี๋เฟยเหยียนพยายามสืบหาข้อมูลของเยี่ยนเว่ยฉ