บททั้งหมดของ บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน: บทที่ 21 - บทที่ 30

464

บทที่ 21

เฉินเพ่ยหลินรีบหยิบมันออกมาจากถุง “ตัวนี้ค่ะ ดิฉันกลัวว่าเวินหนี่จะยุ่งจนไม่มีเวลา บังเอิญเป็นทางผ่านพอดี ก็เลยขอให้คนไปช่วยรับคืนมาให้ก่อนน่ะค่ะ”เมื่อมองดูสูทที่ไม่ใช่ของตัวเอง ดวงตาของเย่หนานโจวก็เริ่มมืดมนสูทผู้ชายจู่ ๆ เขาก็นึกถึงลู่เซินดูเหมือนว่าหลังจากที่เวินหนี่พบกับลู่เซินที่นิทรรศการ เธอก็ถือถุงใบนี้ ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดว่าของที่อยู่ด้านในคืออะไรที่แท้ก็คือสูทของลู่เซินงั้นเหรอเย่หนานโจวกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวเฉินเพ่ยหลินสังเกตว่าสีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่เธอก็รู้ด้วยว่าเย่หนานโจวเป็นคนไม่ชอบแสดงสีหน้า แต่ในใจเขาคงไม่พอใจอยู่มาก เธอถามขึ้นอีกครั้ง “ประธานเย่ ให้ดิฉันวางไว้ตรงนี้หรือไหมคะ?”เย่หนานโจวเม้มริมฝีปากแล้วพูดอย่างเย็นชา “วางไว้ตรงนั้น”เฉินเพ่ยหลินยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย “ค่ะ งั้นดิฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ”หลังจากดำเนินการทุกอย่างเสร็จ เฉินเพ่ยหลินก็ออกไปด้วยความพึงพอใจ มาดูกันว่าเวินหนี่จะยังได้รับความไว้วางใจจากเย่หนานโจวได้อีกสักกี่ครั้งเย่หนานโจวมีความขุ่นเคืองอยู่ในใจ และมันก็น่ารำคาญมากเมื่อเขาเห็นสูทตัวนี้ในเวลาทำงานพอถึงเวลาเลิกง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 22

เดินมาถึงประตูห้องส่วนตัว สภาพแวดล้อมบนชั้นสองนั้นดูหรูหรากว่ามาก และคนก็ไม่เยอะเท่ากับชั้นล่างเมื่อเปิดประตูออก คนที่อยู่ข้างในก็ตะโกนขึ้นอย่างกระตือรือร้น “ประธานลู่ ประธานลู่มาแล้ว!”“ลู่เซิน นายเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ทำไมถึงได้หล่อขนาดนี้ ทั้งหล่อทั้งรวย สาว ๆ ที่ชอบนายคงเข้าคิวยาวแน่ ๆ”ลู่เซินตอบอย่างติดตลก “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องหันกลับไปดูว่ามีหรือเปล่า”“พูดแบบนี้แสดงว่านายยังโสดอยู่งั้นเหรอ เอาล่ะ สาว ๆ ลู่เซินเป็นหนุ่มโสด ต้องรีบคว้าโอกาสกันไว้แล้วนะ!”พวกเขาพูดคุยกับลู่เซินอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะสังเกตเห็นว่าเวินหนี่ยืนอยู่ข้างหลังเขา พวกเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง จึงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “วันนี้มีแขกที่หายากมาด้วยอีกคน เวินหนี่เธอเองก็มาด้วย”เวินหนี่พูดขึ้นว่า “ขอโทษที่มาสายนะ”“เวินหนี่ เธอนี่ไม่ใจเลย ทำไมถึงไม่เคยมาร่วมงานเลี้ยงเลยล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะลู่เซิน พวกเราก็คงไม่ได้เห็นหน้าเธออีก”“แต่เวินหนี่เธอยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ”“สวยน่ะดีแล้ว ความสวยคือทุน เธอเป็นถึงเลขานุการของประธานเย่แห่งเย่กรุ๊ป แถมยังมาพร้อมกับประธานลู่อีก”หลังจากท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 23

ทุกคนต่างก็อยากรู้คำตอบของเขาลู่เซินเงียบไปครู่หนึ่ง ในขณะที่ทุกคนกำลังเฝ้ามอง เขาก็ขยับริมฝีปากเล็กน้อย “ไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกนายไม่รู้จัก”แล้วความสนใจของทุกคนก็หายไปทันที“เฮ่อ ฉันนึกว่าเป็นเวินหนี่ซะอีก ที่แท้ก็ไม่ใช่ ดูเหมือนว่าพวกเราจะคิดมากกันไปเองจริง ๆ”เวินหนี่ไม่เคยคิดว่าเป็นตัวเองความสัมพันธ์เธอกับเขาสนิทกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเท่านั้นเป็นเพราะทุกคนเดามั่วกันไปเองหลังจากนั้น เธอก็ไม่ได้ตกเป็นจุดสนใจอีกต่อไป และเธอก็ผ่อนคลายที่ไม่ต้องตกเป็นหัวข้อพูดคุยของทุกคนในงานเลี้ยงรุ่น พวกผู้ชายคุยกันไปคุยกันมา ก็ถือแก้วไวน์พูดคุยกันเรื่องงาน เรื่องธุรกิจ เวินหนี่ดื่มไวน์ได้ไม่นานก็รู้สึกเวียนหัวและมึนเมา อาจเป็นเพราะเธอไม่ได้ดื่มมานานมากแล้ว เธอได้ยินเสียงคนคุยกันอย่างคลุมเครือ แถมยังเอ่ยถึงชื่อของเธอด้วย“ในบรรดาพวกเรา เวินหนี่ดูจะไปได้สวยที่สุดเลยนะ ได้อยู่รอบตัวสองประธานยักษ์ใหญ่ คงได้ประโยชน์มาไม่น้อยเลย”“ชีวิตที่สวยหรูแบบนี้ฉันไม่ต้องการหรอก ชื่อเสียงก็ไม่ชัดเจน พวกเธอไม่เคยได้ยินใช่ไหมล่ะว่า เวินหนี่เป็นลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวธรรมดา ๆ จะมีเงินซื้อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 24

แม้แต่คนที่อยากจะตบเวินหนี่ก็ยังทำได้เพียงเปลี่ยนสีหน้า และระงับความคับแค้นใจเอาไว้เย่หนานโจวจ้องมองพวกเธออย่างเย็นชา “ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกเหรอว่าพวกคุณควรขอโทษใคร!”กลุ่มเพื่อนสาวเข้าใจทันที และรีบเดินไปหาเวินหนี่พลางพูดขึ้นเสียงเบาว่า “ขอโทษนะเวินหนี่ พวกเราไม่ควรเดามั่วกันเอง พวกเรารู้ตัวแล้วว่าผิด เราจะไม่ทำมันอีก”พวกเธอรู้ว่าเย่หนานโจวทรงอิทธิพลากแค่ไหน ในที่นี้ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ก็อย่าได้คิดที่จะมีปัญหากับเย่กรุ๊ปหากทำให้เขาขุ่นเคือง ในอนาคตก็อย่าได้คิดที่จะมีชีวิตที่ดีในบริษัทเลยพวกเธอยังมีครอบครัว มีลูก มีพ่อแม่ จึงไม่กล้าเอาอาชีพของตัวเองเข้าไปเสี่ยง เวินหนี่ไม่ได้ติดใจเอาความ แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจ เธอจ้องไปที่เย่หนานโจวอย่างว่างเปล่าแล้วถามขึ้นว่า “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”เย่หนานโจวมองย้อนกลับไปที่เวินหนี่ด้วยความไม่พอใจอย่างมากเขาจับแขนเธอทั้งที่ยังโกรธอยู่และพูดขึ้นอย่างเย็นชา “กลับบ้านกับฉัน!”เวินหนี่สะบัดมือของเขาออก “ทำไมฉันต้องกลับไปกับคุณด้วย ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณสักหน่อย”การสนทนาของพวกเขาทำให้คนที่อยู่ที่นั่นงุนงงทุกคนรู้ดีว่า เวินหนี่เป็นเลข
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 25

เมื่อนึกถึงความไม่ยุติธรรมที่เธอเคยได้รับ เวินหนี่ก็ร้องไห้หนักขึ้นอีกการร้องไห้ของเธอดึงดูดสายตาของผู้คน“น้องชาย ทำให้แฟนโกรธเหรอ? เธอร้องไห้หนักขนาดนั้น ดูท่าคงจะเสียใจมากน่าดู!”ผู้คนที่เดินผ่านไปมาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนร้องไห้เช่นนี้เย่หนานโจวไม่อยากเป็นจุดสนใจ เขาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน จึงตอบไปว่า “งอลนิดหน่อยน่ะครับ อีกเดี๋ยวก็หาย”เขาอุ้มเวินหนี่ขึ้นมาเพื่อพาเธอออกไปจากตรงนั้นแต่เวินหนี่เป็นเหมือนปลาไหลที่ดิ้นอยู่ในแขนของเขาและร้องไห้เสียงดัง“ปลอบแฟนต้องใช้ความอดทน” คนที่เดินผ่านไปมาพูดขึ้น “ต้องเป็นเพราะคุณทำให้เธอไม่มีความสุข เธอถึงไม่ยอมไปกับคุณ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่โกรธโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะ”เย่หนานโจวไม่รู้ว่าเธอโกรธเรื่องอะไรเขาไม่โกรธเธอก็ดีเท่าไหร่แล้ว แล้วเธอจะมาโกรธเขาเรื่องอะไรกัน?แต่เมื่อเห็นว่าเธอร้องไห้หนัก เขาก็พูดอะไรไม่ได้เย่หนานโจวรู้สึกปวดหัว เขาไม่เคยปลอบผู้หญิงมาก่อน เขาไม่คุ้นเคยและทำอะไรไม่ถูก มันยากกว่าการทำธุรกิจเสียอีก เขาถามขึ้นว่า “เวินหนี่ ต้องทำยังไงเธอถึงจะหายโกรธ?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นและเห็นเย่หนานโจวก้มศีรษะลงมา เ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 26

เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็มองไป เห็นว่าเธอกำลังเกามือ และบนมือของเธอก็มีผื่นแดงเขาคว้าแขนเธอทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เธอเกามัน “อย่าเกา”เวินหนี่รู้สึกอึดอัดมาก “คัน”เย่หนานโจวขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงต่ำ “เธอแพ้แอลกอฮอล์แล้วยังดื่มมากขนาดนั้น”เวินหนี่รู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอลืมตาขึ้นและดูเหมือนว่าจะมองเห็นร่างของเย่หนานโจว “นี่ฉันอยู่ที่ไหน?”“บ้าน”เย่หนานโจวถอดรองเท้าและเสื้อผ้าที่เทอะทะออกแล้วคลุมผ้าห่มให้ร่างเล็กเวินหนี่มีสติขึ้นมาเล็กน้อย จำได้ว่าเธอกำลังร่วมงานเลี้ยงรุ่น และดื่มไวน์นิดหน่อยในงาน แถมยังดูเหมือนว่าจะเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยด้วยเย่หนานโจวปรากฏตัวในช่วงเวลาสำคัญ“คุณพาฉันกลับมาเหรอ?” เวินหนี่ถามเย่หนานโจวเดินไปห้องน้ำก่อนจะถือกะละมังน้ำอุ่นและผ้าเปียกออกมา แล้วเช็ดแขนให้เธออย่างอ่อนโยนแขนเล็ก ๆ ของเธอมีผื่นแดง และรอยเกา “จะมีใครอีกล่ะถ้าไม่ใช่ฉัน? ครั้งต่อไปฉันไม่อนุญาตให้เธอดื่มอีก”เขาไม่ชอบให้เธอดื่มคนที่แพ้แอลกอฮอล์มีความเสี่ยงเมื่อดื่มเวินหนี่มองไปที่เย่หนานโจว เขาเคลื่อนไหวเบา ๆ เช็ดใบหน้าและร่างกายของเธอด้วยตัวเอง ราวกับว่าเขากลายเป็นคนอ่อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 27

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเย่หนานโจวก็มืดมนลง และหัวใจของเขาก็รู้สึกหนักอึ้งเขาลุกขึ้นโดยไม่ได้สนใจเสียงร้องไห้ของเวินหนี่อีก เขายืนเงียบ ๆ อยู่ข้างหน้าหน้าต่าง และหยิบบุหรี่ออกมาจุดในอากาศเต็มไปด้วยควันและความเย็นเยือกหลังจากสูบบุหรี่เสร็จหนึ่งมวน เขาก็ออกจากห้องนอนไปและไม่ได้กลับมาอีกเลยวันรุ่งขึ้นเวินหนี่มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเธอกุมศีรษะที่รู้สึกหนักมากกว่าเท้าเสียอีกเธอลุกจากเตียง เทน้ำใส่แก้วแล้วตั้งสติเธอเดินไปล้างหน้าที่ห้องน้ำและพบว่าตาของเธอบวมมาก เดาว่าเมื่อคืนนี้คงไม่หยุดร้องไห้เลยสินะเธอจำได้ว่าเย่หนานโจวส่งเธอกลับมา แต่ไม่มีร่องรอยการเคลื่อนไหวอยู่ข้าง ๆ ซึ่งบ่งบอกว่าเมื่อคืนนี้เย่หนานโจวไม่ได้นอนอยู่ข้าง ๆ เธอแต่เธอจำได้ว่าเขาดูแลเธอเป็นเวลานานนี่เป็นครั้งแรกที่เขาใส่ใจเธอมากขนาดนี้เวินหนี่สับสนสถานการณ์เล็กน้อยว่า ทำไมเมื่อคืนนี้เย่หนานโจวถึงได้บังเอิญอยู่เคียงข้างเธอ และส่งเธอกลับบ้านดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์เสียด้วย แทนที่เย่หนานโจวจะโกรธแต่เขากลับปลอบเธอ หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ เวินหนี่ก็ลงไปชั้นล่าง สาวใช้เตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 28

“หนานโจวสวมเสื้อผ้ามีระดับมากมาย” เวินหนี่พูดอย่างไร้อารมณ์ “ตราบใดที่ฉันเป็นคนซื้อเขาก็จะใส่อยู่ดี ไม่ทราบว่าคุณลู่กำลังเลือกเสื้อผ้าให้ใครอยู่งั้นเหรอคะ?”ลู่ม่านเซิงเดินเข้าไป และทั้งสองก็มองตากันจนแทบเป็นประกายไฟอย่างไม่มีใครยอมแพ้ ลู่ม่านเซิงยกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันมารับเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ให้แฟนน่ะ โลกนี้มีเพียงสิบตัวเท่านั้น จะให้ฉันโชว์ให้ดูไหมล่ะคะ?”น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความอวดดีเธอสามารถซื้อเสื้อโค้ตระดับไฮเอนด์และหรูหราได้ ในขณะที่เสื้อผ้าที่เวินหนี่เลือกซื้อนั้นมีขายทั่วไปพวกเธอไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลยในการเลือกเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายพนักงานหยิบกล่องที่บรรจุเสื้อโค้ตรุ่นลิมิเต็ดออกมา กลิ่นชุดใหม่ก็ลอยตามมาเวินหนี่เหลือบมองด้วยสายตาเสียดสี “คุณลู่ แค่ชุดของตัวเองคุณยังใช้เงินของคนอื่นซื้อ แน่ใจเหรอคะว่านี่ไม่ได้เป็นแบบนั้น?”ลู่ม่านเซิงเลิกคิ้ว “คุณอิจฉาที่แฟนของฉันยอมจ่ายเงินให้ฉันงั้นเหรอคะ?”“ฉันไม่ได้อิจฉาหรอกค่ะ” เวินหนี่พูดอย่างเรียบนิ่ง “เพียงแค่เงินนั้นมันดูไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่ ฉันกลัวว่าถ้ามีข่าวเผยแพร่ออกไปจะทำให้คุณลู่เสื่อมเสียชื่อเสีย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 29

ลู่ม่านเซิงไม่เชื่อว่าเย่หนานโจวจะมอบบัตรธนาคาร 500 ล้านบาทให้กับเธอเธอสืบมาแล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ดี และเย่หนานโจวก็แทบไม่ได้ดูแลเวินหนี่เลยเวินหนี่ทำงานเป็นเลขาของเย่หนานโจวมาเจ็ดปีแล้ว และเขาก็ไม่เคยชายตามองเธอเลยด้วยซ้ำหากเย่หนานโจวสนใจเวินหนี่ เขาจะไม่มีทางปิดบังการแต่งงาน แต่จะประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเปิดเผยมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ เวินหนี่แอบไปเป็นเด็กเสี่ยลับหลังเย่หนานโจวเธอยอมเชื่อแบบนั้นมากกว่าที่จะเชื่อว่าเย่หนานโจวให้เงินเวินหนี่ใช้“หลานชายฉันให้เงินหลานสะใภ้ใช้แล้วมันมีปัญหาตรงไหนมิทราบ? จำเป็นต้องให้คนอื่นมาสงสัยด้วยงั้นเหรอ? คุณลู่ อย่าแสร้งทำเป็นดูถูกสิ่งที่ตัวเองไม่มีไปหน่อยเลย!”ทันใดนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาระหว่างการสนทนาของทั้งสองสาวเวินหนี่หันไปมองก่อนจะเห็นเย่จื่อที่ยืนบิดเอวอยู่ เธอดูสวยสง่ามาก ชุดกี่เพ้าสีดำที่เธอสวมนั้นทำให้เธอดูเพรียวบางและสง่างาม เธอผมมัดมวย อายุเกือบห้าสิบปีแล้วแต่ไม่มีริ้วรอยบนใบหน้าเลย เธอเดินเข้ามาอย่างสง่า“คุณน้า” เวินหนี่เรียกเธออย่างแปลกใจเย่จื่อยิ้ม “บังเอิญจริง ๆ ฉันมาซื้อเสื้อผ้าสอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 30

ลู่ม่านเซิงชะงักอยู่ตรงนั้น ก่อนจะฝืนยิ้มแล้วหันกลับไป “คุณเย่จื่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”เย่จื่อมองไปที่เธอ “เสื้อคลุมตัวนั้นเธอคงไม่ได้ซื้อให้ตัวเองหรอกใช่ไหม?”ลู่ม่านเซิงหน้าแข็งทื่อ “ฉันซื้อให้คนอื่นค่ะ”เย่จื่อมองออกเพียงแต่ไม่พูด เธอยกมือกอดอกแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ลู่ม่านเซิง ยังไงคุณก็เป็นบุคคลสาธารณะ ควรรู้ว่าอะไรควรไม่ควร มีบางเรื่องที่ฉันไม่พูดเพราะเห็นแก่คุณลู่ ที่ทำเป็นมองไม่เห็นไม่ได้หมายความว่าฉันจะเห็นด้วย อย่ารอให้ถูกเปิดเผยแล้วค่อยมาเสียใจทีหลัง ฉันไม่ใช่เย่ซูเฟิน ที่จะยอมให้คุณทำอะไรก็ได้!”ใบหน้าของลู่ม่านเซิงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด หลังจากถูกพูดใส่แบบนั้น ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอกำมือแน่นก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ฉันทราบค่ะ คุณเย่จื่อ”เย่จื่อไม่แม้แต่จะมองเธอ เพียงแค่ถอนหายใจอย่างเย็นชา ลู่ม่านเซิงรู้สึกอับอาย เธอย่างก้าวสะดุดเล็กน้อย และผู้ช่วยของเธอก็เข้ามาช่วยพยุงออกไปจากตรงนั้น “เวินหนี่ เจอกันทั้งที ไปดื่มชากันเถอะ” เย่จื่อพูดด้วยรอยยิ้ม“ได้สิคะคุณน้า ข้าง ๆ มีร้านกาแฟ เราไปที่นั่นกันเถอะค่ะ”แล้วทั้งสองก็ไปนั่งในร้านกาแฟ แม้ว่าเย่จื
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
47
DMCA.com Protection Status