Share

บทที่ 27

Penulis: เซียงปู้อี๋
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเย่หนานโจวก็มืดมนลง และหัวใจของเขาก็รู้สึกหนักอึ้ง

เขาลุกขึ้นโดยไม่ได้สนใจเสียงร้องไห้ของเวินหนี่อีก เขายืนเงียบ ๆ อยู่ข้างหน้าหน้าต่าง และหยิบบุหรี่ออกมาจุด

ในอากาศเต็มไปด้วยควันและความเย็นเยือก

หลังจากสูบบุหรี่เสร็จหนึ่งมวน เขาก็ออกจากห้องนอนไปและไม่ได้กลับมาอีกเลย

วันรุ่งขึ้น

เวินหนี่มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง

เธอกุมศีรษะที่รู้สึกหนักมากกว่าเท้าเสียอีก

เธอลุกจากเตียง เทน้ำใส่แก้วแล้วตั้งสติ

เธอเดินไปล้างหน้าที่ห้องน้ำและพบว่าตาของเธอบวมมาก เดาว่าเมื่อคืนนี้คงไม่หยุดร้องไห้เลยสินะ

เธอจำได้ว่าเย่หนานโจวส่งเธอกลับมา แต่ไม่มีร่องรอยการเคลื่อนไหวอยู่ข้าง ๆ ซึ่งบ่งบอกว่าเมื่อคืนนี้เย่หนานโจวไม่ได้นอนอยู่ข้าง ๆ เธอ

แต่เธอจำได้ว่าเขาดูแลเธอเป็นเวลานาน

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใส่ใจเธอมากขนาดนี้

เวินหนี่สับสนสถานการณ์เล็กน้อยว่า ทำไมเมื่อคืนนี้เย่หนานโจวถึงได้บังเอิญอยู่เคียงข้างเธอ และส่งเธอกลับบ้าน

ดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์เสียด้วย แทนที่เย่หนานโจวจะโกรธแต่เขากลับปลอบเธอ

หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ เวินหนี่ก็ลงไปชั้นล่าง สาวใช้เตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
อีผีเปรตขอส่วนบุญ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 28

    “หนานโจวสวมเสื้อผ้ามีระดับมากมาย” เวินหนี่พูดอย่างไร้อารมณ์ “ตราบใดที่ฉันเป็นคนซื้อเขาก็จะใส่อยู่ดี ไม่ทราบว่าคุณลู่กำลังเลือกเสื้อผ้าให้ใครอยู่งั้นเหรอคะ?”ลู่ม่านเซิงเดินเข้าไป และทั้งสองก็มองตากันจนแทบเป็นประกายไฟอย่างไม่มีใครยอมแพ้ ลู่ม่านเซิงยกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันมารับเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ให้แฟนน่ะ โลกนี้มีเพียงสิบตัวเท่านั้น จะให้ฉันโชว์ให้ดูไหมล่ะคะ?”น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความอวดดีเธอสามารถซื้อเสื้อโค้ตระดับไฮเอนด์และหรูหราได้ ในขณะที่เสื้อผ้าที่เวินหนี่เลือกซื้อนั้นมีขายทั่วไปพวกเธอไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลยในการเลือกเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายพนักงานหยิบกล่องที่บรรจุเสื้อโค้ตรุ่นลิมิเต็ดออกมา กลิ่นชุดใหม่ก็ลอยตามมาเวินหนี่เหลือบมองด้วยสายตาเสียดสี “คุณลู่ แค่ชุดของตัวเองคุณยังใช้เงินของคนอื่นซื้อ แน่ใจเหรอคะว่านี่ไม่ได้เป็นแบบนั้น?”ลู่ม่านเซิงเลิกคิ้ว “คุณอิจฉาที่แฟนของฉันยอมจ่ายเงินให้ฉันงั้นเหรอคะ?”“ฉันไม่ได้อิจฉาหรอกค่ะ” เวินหนี่พูดอย่างเรียบนิ่ง “เพียงแค่เงินนั้นมันดูไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่ ฉันกลัวว่าถ้ามีข่าวเผยแพร่ออกไปจะทำให้คุณลู่เสื่อมเสียชื่อเสีย

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 29

    ลู่ม่านเซิงไม่เชื่อว่าเย่หนานโจวจะมอบบัตรธนาคาร 500 ล้านบาทให้กับเธอเธอสืบมาแล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ดี และเย่หนานโจวก็แทบไม่ได้ดูแลเวินหนี่เลยเวินหนี่ทำงานเป็นเลขาของเย่หนานโจวมาเจ็ดปีแล้ว และเขาก็ไม่เคยชายตามองเธอเลยด้วยซ้ำหากเย่หนานโจวสนใจเวินหนี่ เขาจะไม่มีทางปิดบังการแต่งงาน แต่จะประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเปิดเผยมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ เวินหนี่แอบไปเป็นเด็กเสี่ยลับหลังเย่หนานโจวเธอยอมเชื่อแบบนั้นมากกว่าที่จะเชื่อว่าเย่หนานโจวให้เงินเวินหนี่ใช้“หลานชายฉันให้เงินหลานสะใภ้ใช้แล้วมันมีปัญหาตรงไหนมิทราบ? จำเป็นต้องให้คนอื่นมาสงสัยด้วยงั้นเหรอ? คุณลู่ อย่าแสร้งทำเป็นดูถูกสิ่งที่ตัวเองไม่มีไปหน่อยเลย!”ทันใดนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาระหว่างการสนทนาของทั้งสองสาวเวินหนี่หันไปมองก่อนจะเห็นเย่จื่อที่ยืนบิดเอวอยู่ เธอดูสวยสง่ามาก ชุดกี่เพ้าสีดำที่เธอสวมนั้นทำให้เธอดูเพรียวบางและสง่างาม เธอผมมัดมวย อายุเกือบห้าสิบปีแล้วแต่ไม่มีริ้วรอยบนใบหน้าเลย เธอเดินเข้ามาอย่างสง่า“คุณน้า” เวินหนี่เรียกเธออย่างแปลกใจเย่จื่อยิ้ม “บังเอิญจริง ๆ ฉันมาซื้อเสื้อผ้าสอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 30

    ลู่ม่านเซิงชะงักอยู่ตรงนั้น ก่อนจะฝืนยิ้มแล้วหันกลับไป “คุณเย่จื่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”เย่จื่อมองไปที่เธอ “เสื้อคลุมตัวนั้นเธอคงไม่ได้ซื้อให้ตัวเองหรอกใช่ไหม?”ลู่ม่านเซิงหน้าแข็งทื่อ “ฉันซื้อให้คนอื่นค่ะ”เย่จื่อมองออกเพียงแต่ไม่พูด เธอยกมือกอดอกแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ลู่ม่านเซิง ยังไงคุณก็เป็นบุคคลสาธารณะ ควรรู้ว่าอะไรควรไม่ควร มีบางเรื่องที่ฉันไม่พูดเพราะเห็นแก่คุณลู่ ที่ทำเป็นมองไม่เห็นไม่ได้หมายความว่าฉันจะเห็นด้วย อย่ารอให้ถูกเปิดเผยแล้วค่อยมาเสียใจทีหลัง ฉันไม่ใช่เย่ซูเฟิน ที่จะยอมให้คุณทำอะไรก็ได้!”ใบหน้าของลู่ม่านเซิงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด หลังจากถูกพูดใส่แบบนั้น ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอกำมือแน่นก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ฉันทราบค่ะ คุณเย่จื่อ”เย่จื่อไม่แม้แต่จะมองเธอ เพียงแค่ถอนหายใจอย่างเย็นชา ลู่ม่านเซิงรู้สึกอับอาย เธอย่างก้าวสะดุดเล็กน้อย และผู้ช่วยของเธอก็เข้ามาช่วยพยุงออกไปจากตรงนั้น “เวินหนี่ เจอกันทั้งที ไปดื่มชากันเถอะ” เย่จื่อพูดด้วยรอยยิ้ม“ได้สิคะคุณน้า ข้าง ๆ มีร้านกาแฟ เราไปที่นั่นกันเถอะค่ะ”แล้วทั้งสองก็ไปนั่งในร้านกาแฟ แม้ว่าเย่จื

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 31

    เขาก็แค่ไม่ได้รักเธอเท่านั้นในสายตาของเย่จื่อ เธอและเย่หนานโจวนั้นเหมาะสมกันแต่คงต้องถามเย่หนานโจวด้วยว่าเขามีความสุขไหมที่ได้อยู่กับเธอ เย่จื่อเปลี่ยนบรรยากาศและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ฉันแค่พูดไม่กี่คำ เธอก็ออกหน้าปกป้องสามีตัวเองซะแล้ว เวินหนี่ ฉันรู้ว่าเธอรักหนานโจวมากแค่ไหน มันเป็นความโชคดีของเขา ต่อให้เขาจุดโคมไฟถึงแปดชาติก็ไม่อาจหาภรรยาแบบเธอได้อีก นี่อาจเป็นเพราะตอนเด็กเขาลำบากมามาก พอโตขึ้นถึงได้รับพรเช่นนี้”เวินหนี่สับสน “ตอนเด็กเขาไม่ได้มีชีวิตที่ดีเหรอคะ?”เขาอยู่ในตระกูลที่มีอภิสิทธิ์เช่นนี้ ก็ควรมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่าคนทั่วไปไม่ใช่เหรอสีหน้าของเย่จื่อเปลี่ยนไปแต่ก็เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น แล้วเธอก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย หนานโจวเองก็คงไม่ต้องการพูดถึงเหมือนกัน ฉันเพียงแค่หวังว่าพวกเธอจะให้ฉันได้อุ้มหลานเร็ว ๆ”เธอยังคิดด้วยว่าในอนาคตหากเกษียณแล้วจะอยู่เลี้ยงหลานที่บ้าน ตอนนี้เธอได้แต่อิจฉาคนอื่น ไว้เธอมีหลานเมื่อไหร่จะต้องพาออกไปให้บรรดาเพื่อน ๆ เหล่านั้นได้อิจฉาเธอบ้าง…ลู่ม่านเซิงกำลังถ่ายทำโฆษณา สีหน้าของเธอไม่ค่อยดีนักเพราะถูกเย่จื

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 32

    เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็ตกใจ เขาขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดว่า “อยู่ที่ไหน ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”“พี่หนานโจว เกิดอะไรขึ้นคะ?” ลู่ม่านเซิงเห็นว่าเขาดูเป็นกังวลมากจึงถามขึ้น“เกิดเรื่องขึ้นกับเวินหนี่!”เย่หนานโจวไม่มีเวลามองเธอและรีบวิ่งออกไปทันทีลู่ม่านเซิงเห็นเพียงเขาดูเร่งรีบและดูเป็นห่วงเวินหนี่มาก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ตอนกลางวันเวินหนี่ยังดี ๆ อยู่เลย จู่ ๆ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหล่อนได้อย่างไรเธอมองกล่องของขวัญที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่ไม่ได้ถูกเอาไปด้วย แล้วรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นว่า “ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเวินหนี่ยังสบายดีอยู่เลย จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอได้ยังไงกัน? คงไม่ใช่เป็นเพราะว่ารู้ว่าคุณเย่อยู่ที่นี่เลยจงใจสร้างปัญหาเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณสองคนหรอกนะคะ”ใบหน้าของลู่ม่านเซิงซีดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงพูดอย่างเหมาะสม “ไม่หรอก เวินหนี่ไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้น คงมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอจริง ๆ ฉันกำลังคิดว่าฉันควรจะไปช่วยดีไหม”“พี่ม่านเซิง พี่ใจดีเกินไปแล้ว เวินหนี่คนนี้ไม่ธรรมดา” ผู้ช่วยกล่าวต่อ “พี่จะปล่อยให้เธอรังแกไม่ได้นะค

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 33

    เย่จื่อยืนขวางประตูและจ้องเขม็งไปที่เย่หนานโจวเมื่อเย่หนานโจวเห็นเย่จื่อ เขาชะงักฝีเท้า ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะร้องเรียก “คุณอา”“ก็รู้ดีนี่ว่าฉันเป็นอาแก” เย่จื่อทนฟังคำพูดเหล่านั้นของเขาไม่ได้ จึงต่อว่าไปฉาดใหญ่ “แกจะทิ้งเวินหนี่ไว้คนเดียวแล้วไปหายัยมือที่สามแซ่ลู่อะไรนั่นใช่ไหม!”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วโต้กลับ “แค่ได้ยินเสียงลมก็อย่าคิดว่าฝนจะตก อย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะครับ”เมื่อเวินหนี่ได้ยินแบบนั้น เธอก็เม้มริมฝีปากด้วยรอยยิ้มขมขื่นไม่ว่าเมื่อใด คนที่เขาปกป้องก็คือลู่ม่านเซิงเสมอเย่จื่อไม่เชื่อ “คิดว่าฉันไม่รู้จักแกดีงั้นเหรอ นอกจากผู้หญิงคนนั้นยังจะมีใครที่ทำให้แกทิ้งเวินหนี่ไปได้อีก คนที่จากไปไม่บอกไม่กล่าวก็คือหล่อนไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ท้องฟ้าจะถล่มหรือหล่อนกำลังจะตายถึงได้ขาดแกไม่ได้ วันนี้แกไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนทั้งนั้น อยู่ดูแลเวินหนี่ที่นี่ซะ”ท่าทีของเย่จื่อนั้นแข็งกร้าวและเย่หนานโจวก็เคารพอาคนนี้มาก จึงตอบเธอไปอย่างใจเย็น “ผมยังมีงานที่ต้องทำ”“ต่อให้จะล้มละลาย แกก็ห้ามไป!” เย่จื่อเตือน “มีเรื่องอะไรที่สำคัญไปมากกว่าเวินห

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 34

    เธอแพ้แอลกอฮอล์และคันไปทั้งตัว เย่หนานโจวเป็นคนที่คอยดูแลเธอ ทำให้เธอไม่เกาผิวของตัวเอง จริงสินะ แม้ว่าระหว่างเธอกับเย่หนานโจวจะไม่ได้มีความรัก แม้ว่าเธอจะไม่มีความสุขในตระกูลเย่ แต่บางครั้งก็ยังได้รับความสงสารจากเขาเธอชักมือออก รู้สึกขมฝาดในปากแต่ก็ยังตอบเขาไปว่า “เดี๋ยวมันก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเองค่ะ ยาแก้แพ้ใช่ว่าจะเห็นผล คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก คุณยังมีธุระที่ต้องไปทำไม่ใช่เหรอคะ? ฉันจะเปิดประตูให้เอง อย่าถือสาคำพูดของคุณอาเลย ถึงคุณจะออกไปแล้ว ฉันก็จะไม่พูดอะไรกับคุณอา”เธอเดินไปเปิดประตู แต่ก็พบว่ามันถูกล็อคและไม่สามารถเปิดจากด้านในได้“คืนนี้พวกเรานอนที่นี่กันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าประตูก็เปิดเอง ถึงตอนนั้นแล้วค่อยกลับบ้าน” เย่หนานโจวรู้ดีว่าหากเย่จื่อมามุกนี้ คืนนี้พวกเขาก็ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้แน่เวินหนี่ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้ “อ้อ”เย่หนานโจวถอดชุดสูทออก สวมเพียงเสื้อเชิ้ตของเขาแล้วมองไปที่เธออีกครั้ง “หิวหรือเปล่า?”วันนี้เวินหนี่ทานแค่อาหารเช้าไปเท่านั้นตอนอยู่กับเย่จื่อก็ดื่มกาแฟไปแค่ไม่กี่จิบ“นิดหน่อยค่ะ” เย่หนานโจวยกโทรศัพท์ในห้องขึ้น พอโทรติดปลายสายก็แทรก

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 35

    เมื่อเวลาผ่านไปเขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและสงบลงเย่หนานโจวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังจ้องมองเขา มุมปากจึงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “มองฉันแบบนี้นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่”เวินหนี่เชิดคางขึ้น เมื่อถูกเขาจับได้จึงเบือนหน้าหนีอย่างร้อนตัว “เปล่าค่ะ”“เมื่อกี้เธอแอบมองฉันชัด ๆ”เวินหนี่ตอกกลับ “ถ้าคุณไม่ได้มองฉันอยู่ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าฉันแอบมองคุณ”“ก็ได้ ฉันแอบมองเธอจริง ๆ นั่นแหละ” เย่หนานโจวยอมรับ เขาแอบสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ สิ่งนี้ทำให้เวินหนี่พูดไม่ออก เธอแค่รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วมากเย่หนานโจวยื่นสเต็กที่หั่นแล้วให้เธอ “หั่นเสร็จแล้ว กินสิ”เวินหนี่มีความสุขกับการดูแลเอาใจใส่ของเขา และรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ เพียงแค่เย่หนานโจวก้าวเข้าหาเธอเพียงก้าวเดียว เธอก็รู้สึกราวกับว่าโลกนี้มันช่างสวยงามเธอหยิบมีดและส้อมขึ้นมาก่อนจะพูดว่า “คุณรู้ไหมว่าฉันคิดอะไรตอนที่มองคุณเมื่อกี้นี้”เย่หนานโจวจิบไวน์อย่างสงสัย “คิดอะไร?”“ฉันกำลังคิดว่าหลายปีที่ผ่านมา ฉันโชคดีมาก ไม่เคยลำบากในชีวิตหรือการทำงานเลย” เวินหนี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อก่อนครอบครัวของฉันไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่พ่อก

Bab terbaru

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status