แชร์

บทที่ 28

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-25 13:24:46
“หนานโจวสวมเสื้อผ้ามีระดับมากมาย” เวินหนี่พูดอย่างไร้อารมณ์ “ตราบใดที่ฉันเป็นคนซื้อเขาก็จะใส่อยู่ดี ไม่ทราบว่าคุณลู่กำลังเลือกเสื้อผ้าให้ใครอยู่งั้นเหรอคะ?”

ลู่ม่านเซิงเดินเข้าไป และทั้งสองก็มองตากันจนแทบเป็นประกายไฟอย่างไม่มีใครยอมแพ้

ลู่ม่านเซิงยกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันมารับเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ให้แฟนน่ะ โลกนี้มีเพียงสิบตัวเท่านั้น จะให้ฉันโชว์ให้ดูไหมล่ะคะ?”

น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความอวดดี

เธอสามารถซื้อเสื้อโค้ตระดับไฮเอนด์และหรูหราได้ ในขณะที่เสื้อผ้าที่เวินหนี่เลือกซื้อนั้นมีขายทั่วไป

พวกเธอไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลยในการเลือกเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย

พนักงานหยิบกล่องที่บรรจุเสื้อโค้ตรุ่นลิมิเต็ดออกมา กลิ่นชุดใหม่ก็ลอยตามมา

เวินหนี่เหลือบมองด้วยสายตาเสียดสี “คุณลู่ แค่ชุดของตัวเองคุณยังใช้เงินของคนอื่นซื้อ แน่ใจเหรอคะว่านี่ไม่ได้เป็นแบบนั้น?”

ลู่ม่านเซิงเลิกคิ้ว “คุณอิจฉาที่แฟนของฉันยอมจ่ายเงินให้ฉันงั้นเหรอคะ?”

“ฉันไม่ได้อิจฉาหรอกค่ะ” เวินหนี่พูดอย่างเรียบนิ่ง “เพียงแค่เงินนั้นมันดูไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่ ฉันกลัวว่าถ้ามีข่าวเผยแพร่ออกไปจะทำให้คุณลู่เสื่อมเสียชื่อเสีย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Hasanee Samee
สะใจมากๆเลยค้าาา
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 29

    ลู่ม่านเซิงไม่เชื่อว่าเย่หนานโจวจะมอบบัตรธนาคาร 500 ล้านบาทให้กับเธอเธอสืบมาแล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ดี และเย่หนานโจวก็แทบไม่ได้ดูแลเวินหนี่เลยเวินหนี่ทำงานเป็นเลขาของเย่หนานโจวมาเจ็ดปีแล้ว และเขาก็ไม่เคยชายตามองเธอเลยด้วยซ้ำหากเย่หนานโจวสนใจเวินหนี่ เขาจะไม่มีทางปิดบังการแต่งงาน แต่จะประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเปิดเผยมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ เวินหนี่แอบไปเป็นเด็กเสี่ยลับหลังเย่หนานโจวเธอยอมเชื่อแบบนั้นมากกว่าที่จะเชื่อว่าเย่หนานโจวให้เงินเวินหนี่ใช้“หลานชายฉันให้เงินหลานสะใภ้ใช้แล้วมันมีปัญหาตรงไหนมิทราบ? จำเป็นต้องให้คนอื่นมาสงสัยด้วยงั้นเหรอ? คุณลู่ อย่าแสร้งทำเป็นดูถูกสิ่งที่ตัวเองไม่มีไปหน่อยเลย!”ทันใดนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาระหว่างการสนทนาของทั้งสองสาวเวินหนี่หันไปมองก่อนจะเห็นเย่จื่อที่ยืนบิดเอวอยู่ เธอดูสวยสง่ามาก ชุดกี่เพ้าสีดำที่เธอสวมนั้นทำให้เธอดูเพรียวบางและสง่างาม เธอผมมัดมวย อายุเกือบห้าสิบปีแล้วแต่ไม่มีริ้วรอยบนใบหน้าเลย เธอเดินเข้ามาอย่างสง่า“คุณน้า” เวินหนี่เรียกเธออย่างแปลกใจเย่จื่อยิ้ม “บังเอิญจริง ๆ ฉันมาซื้อเสื้อผ้าสอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 30

    ลู่ม่านเซิงชะงักอยู่ตรงนั้น ก่อนจะฝืนยิ้มแล้วหันกลับไป “คุณเย่จื่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”เย่จื่อมองไปที่เธอ “เสื้อคลุมตัวนั้นเธอคงไม่ได้ซื้อให้ตัวเองหรอกใช่ไหม?”ลู่ม่านเซิงหน้าแข็งทื่อ “ฉันซื้อให้คนอื่นค่ะ”เย่จื่อมองออกเพียงแต่ไม่พูด เธอยกมือกอดอกแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ลู่ม่านเซิง ยังไงคุณก็เป็นบุคคลสาธารณะ ควรรู้ว่าอะไรควรไม่ควร มีบางเรื่องที่ฉันไม่พูดเพราะเห็นแก่คุณลู่ ที่ทำเป็นมองไม่เห็นไม่ได้หมายความว่าฉันจะเห็นด้วย อย่ารอให้ถูกเปิดเผยแล้วค่อยมาเสียใจทีหลัง ฉันไม่ใช่เย่ซูเฟิน ที่จะยอมให้คุณทำอะไรก็ได้!”ใบหน้าของลู่ม่านเซิงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด หลังจากถูกพูดใส่แบบนั้น ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอกำมือแน่นก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ฉันทราบค่ะ คุณเย่จื่อ”เย่จื่อไม่แม้แต่จะมองเธอ เพียงแค่ถอนหายใจอย่างเย็นชา ลู่ม่านเซิงรู้สึกอับอาย เธอย่างก้าวสะดุดเล็กน้อย และผู้ช่วยของเธอก็เข้ามาช่วยพยุงออกไปจากตรงนั้น “เวินหนี่ เจอกันทั้งที ไปดื่มชากันเถอะ” เย่จื่อพูดด้วยรอยยิ้ม“ได้สิคะคุณน้า ข้าง ๆ มีร้านกาแฟ เราไปที่นั่นกันเถอะค่ะ”แล้วทั้งสองก็ไปนั่งในร้านกาแฟ แม้ว่าเย่จื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 31

    เขาก็แค่ไม่ได้รักเธอเท่านั้นในสายตาของเย่จื่อ เธอและเย่หนานโจวนั้นเหมาะสมกันแต่คงต้องถามเย่หนานโจวด้วยว่าเขามีความสุขไหมที่ได้อยู่กับเธอ เย่จื่อเปลี่ยนบรรยากาศและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ฉันแค่พูดไม่กี่คำ เธอก็ออกหน้าปกป้องสามีตัวเองซะแล้ว เวินหนี่ ฉันรู้ว่าเธอรักหนานโจวมากแค่ไหน มันเป็นความโชคดีของเขา ต่อให้เขาจุดโคมไฟถึงแปดชาติก็ไม่อาจหาภรรยาแบบเธอได้อีก นี่อาจเป็นเพราะตอนเด็กเขาลำบากมามาก พอโตขึ้นถึงได้รับพรเช่นนี้”เวินหนี่สับสน “ตอนเด็กเขาไม่ได้มีชีวิตที่ดีเหรอคะ?”เขาอยู่ในตระกูลที่มีอภิสิทธิ์เช่นนี้ ก็ควรมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่าคนทั่วไปไม่ใช่เหรอสีหน้าของเย่จื่อเปลี่ยนไปแต่ก็เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น แล้วเธอก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย หนานโจวเองก็คงไม่ต้องการพูดถึงเหมือนกัน ฉันเพียงแค่หวังว่าพวกเธอจะให้ฉันได้อุ้มหลานเร็ว ๆ”เธอยังคิดด้วยว่าในอนาคตหากเกษียณแล้วจะอยู่เลี้ยงหลานที่บ้าน ตอนนี้เธอได้แต่อิจฉาคนอื่น ไว้เธอมีหลานเมื่อไหร่จะต้องพาออกไปให้บรรดาเพื่อน ๆ เหล่านั้นได้อิจฉาเธอบ้าง…ลู่ม่านเซิงกำลังถ่ายทำโฆษณา สีหน้าของเธอไม่ค่อยดีนักเพราะถูกเย่จื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 32

    เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็ตกใจ เขาขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดว่า “อยู่ที่ไหน ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”“พี่หนานโจว เกิดอะไรขึ้นคะ?” ลู่ม่านเซิงเห็นว่าเขาดูเป็นกังวลมากจึงถามขึ้น“เกิดเรื่องขึ้นกับเวินหนี่!”เย่หนานโจวไม่มีเวลามองเธอและรีบวิ่งออกไปทันทีลู่ม่านเซิงเห็นเพียงเขาดูเร่งรีบและดูเป็นห่วงเวินหนี่มาก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ตอนกลางวันเวินหนี่ยังดี ๆ อยู่เลย จู่ ๆ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหล่อนได้อย่างไรเธอมองกล่องของขวัญที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่ไม่ได้ถูกเอาไปด้วย แล้วรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นว่า “ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเวินหนี่ยังสบายดีอยู่เลย จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอได้ยังไงกัน? คงไม่ใช่เป็นเพราะว่ารู้ว่าคุณเย่อยู่ที่นี่เลยจงใจสร้างปัญหาเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณสองคนหรอกนะคะ”ใบหน้าของลู่ม่านเซิงซีดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงพูดอย่างเหมาะสม “ไม่หรอก เวินหนี่ไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้น คงมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอจริง ๆ ฉันกำลังคิดว่าฉันควรจะไปช่วยดีไหม”“พี่ม่านเซิง พี่ใจดีเกินไปแล้ว เวินหนี่คนนี้ไม่ธรรมดา” ผู้ช่วยกล่าวต่อ “พี่จะปล่อยให้เธอรังแกไม่ได้นะค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 33

    เย่จื่อยืนขวางประตูและจ้องเขม็งไปที่เย่หนานโจวเมื่อเย่หนานโจวเห็นเย่จื่อ เขาชะงักฝีเท้า ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะร้องเรียก “คุณอา”“ก็รู้ดีนี่ว่าฉันเป็นอาแก” เย่จื่อทนฟังคำพูดเหล่านั้นของเขาไม่ได้ จึงต่อว่าไปฉาดใหญ่ “แกจะทิ้งเวินหนี่ไว้คนเดียวแล้วไปหายัยมือที่สามแซ่ลู่อะไรนั่นใช่ไหม!”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วโต้กลับ “แค่ได้ยินเสียงลมก็อย่าคิดว่าฝนจะตก อย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะครับ”เมื่อเวินหนี่ได้ยินแบบนั้น เธอก็เม้มริมฝีปากด้วยรอยยิ้มขมขื่นไม่ว่าเมื่อใด คนที่เขาปกป้องก็คือลู่ม่านเซิงเสมอเย่จื่อไม่เชื่อ “คิดว่าฉันไม่รู้จักแกดีงั้นเหรอ นอกจากผู้หญิงคนนั้นยังจะมีใครที่ทำให้แกทิ้งเวินหนี่ไปได้อีก คนที่จากไปไม่บอกไม่กล่าวก็คือหล่อนไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ท้องฟ้าจะถล่มหรือหล่อนกำลังจะตายถึงได้ขาดแกไม่ได้ วันนี้แกไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนทั้งนั้น อยู่ดูแลเวินหนี่ที่นี่ซะ”ท่าทีของเย่จื่อนั้นแข็งกร้าวและเย่หนานโจวก็เคารพอาคนนี้มาก จึงตอบเธอไปอย่างใจเย็น “ผมยังมีงานที่ต้องทำ”“ต่อให้จะล้มละลาย แกก็ห้ามไป!” เย่จื่อเตือน “มีเรื่องอะไรที่สำคัญไปมากกว่าเวินห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 34

    เธอแพ้แอลกอฮอล์และคันไปทั้งตัว เย่หนานโจวเป็นคนที่คอยดูแลเธอ ทำให้เธอไม่เกาผิวของตัวเอง จริงสินะ แม้ว่าระหว่างเธอกับเย่หนานโจวจะไม่ได้มีความรัก แม้ว่าเธอจะไม่มีความสุขในตระกูลเย่ แต่บางครั้งก็ยังได้รับความสงสารจากเขาเธอชักมือออก รู้สึกขมฝาดในปากแต่ก็ยังตอบเขาไปว่า “เดี๋ยวมันก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเองค่ะ ยาแก้แพ้ใช่ว่าจะเห็นผล คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก คุณยังมีธุระที่ต้องไปทำไม่ใช่เหรอคะ? ฉันจะเปิดประตูให้เอง อย่าถือสาคำพูดของคุณอาเลย ถึงคุณจะออกไปแล้ว ฉันก็จะไม่พูดอะไรกับคุณอา”เธอเดินไปเปิดประตู แต่ก็พบว่ามันถูกล็อคและไม่สามารถเปิดจากด้านในได้“คืนนี้พวกเรานอนที่นี่กันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าประตูก็เปิดเอง ถึงตอนนั้นแล้วค่อยกลับบ้าน” เย่หนานโจวรู้ดีว่าหากเย่จื่อมามุกนี้ คืนนี้พวกเขาก็ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้แน่เวินหนี่ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้ “อ้อ”เย่หนานโจวถอดชุดสูทออก สวมเพียงเสื้อเชิ้ตของเขาแล้วมองไปที่เธออีกครั้ง “หิวหรือเปล่า?”วันนี้เวินหนี่ทานแค่อาหารเช้าไปเท่านั้นตอนอยู่กับเย่จื่อก็ดื่มกาแฟไปแค่ไม่กี่จิบ“นิดหน่อยค่ะ” เย่หนานโจวยกโทรศัพท์ในห้องขึ้น พอโทรติดปลายสายก็แทรก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 35

    เมื่อเวลาผ่านไปเขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและสงบลงเย่หนานโจวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังจ้องมองเขา มุมปากจึงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “มองฉันแบบนี้นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่”เวินหนี่เชิดคางขึ้น เมื่อถูกเขาจับได้จึงเบือนหน้าหนีอย่างร้อนตัว “เปล่าค่ะ”“เมื่อกี้เธอแอบมองฉันชัด ๆ”เวินหนี่ตอกกลับ “ถ้าคุณไม่ได้มองฉันอยู่ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าฉันแอบมองคุณ”“ก็ได้ ฉันแอบมองเธอจริง ๆ นั่นแหละ” เย่หนานโจวยอมรับ เขาแอบสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ สิ่งนี้ทำให้เวินหนี่พูดไม่ออก เธอแค่รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วมากเย่หนานโจวยื่นสเต็กที่หั่นแล้วให้เธอ “หั่นเสร็จแล้ว กินสิ”เวินหนี่มีความสุขกับการดูแลเอาใจใส่ของเขา และรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ เพียงแค่เย่หนานโจวก้าวเข้าหาเธอเพียงก้าวเดียว เธอก็รู้สึกราวกับว่าโลกนี้มันช่างสวยงามเธอหยิบมีดและส้อมขึ้นมาก่อนจะพูดว่า “คุณรู้ไหมว่าฉันคิดอะไรตอนที่มองคุณเมื่อกี้นี้”เย่หนานโจวจิบไวน์อย่างสงสัย “คิดอะไร?”“ฉันกำลังคิดว่าหลายปีที่ผ่านมา ฉันโชคดีมาก ไม่เคยลำบากในชีวิตหรือการทำงานเลย” เวินหนี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อก่อนครอบครัวของฉันไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่พ่อก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 36

    มันน่าจดจำมากแค่ไหนสำหรับเธอแต่สำหรับเย่หนานโจวมันไม่มีค่าพอให้พูดถึงด้วยซ้ำเธอรู้สึกเสียใจ สำหรับเย่หนานโจวมันไม่ควรค่าแก่การจดจำเลยสินะ“เงียบทำไม?” เย่หนานโจวฉุนเฉียวเมื่อเห็นว่าเธอยังคงเงียบ เขาจับคางของเธอขึ้นมา “ฉันพูดแทงใจดำงั้นเหรอ?”เวินหนี่มองเขา จ้องมองดวงตาที่เย็นชาของเขาแล้วถามออกไปว่า “เย่หนานโจว ในใจของคุณเคยมีประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงบ้างไหม?”เย่หนานโจวมองเธอ เขารู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ จู่ ๆ ก็มีใบหน้าคลุมเคลือของหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นในหัวของเขา เขาส่ายหัวและจับมือเวินหนี่แน่น “เธอยังไม่ได้ตอบฉัน เธอชอบเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ?”เวินหนี่ตอบกลับ “ฉันชอบเขามาก”หนึ่งประโยคจุดชนวนความโกรธในใจของเย่หนานโจว“แต่...อื้อ…”ก่อนที่เวินหนี่จะพูดจบ เย่หนานโจวก็จูบลงบนริมฝีปากของเธอด้วยความโกรธสิ่งนี่ทำให้เธอประหลาดใจเล็กน้อย เธอเบิกตากว้าง และเห็นเย่หนานโจวจูบเธออย่างบ้าคลั่งราวกับกำลังระบายความโกรธ เขาค่อย ๆ วางมือลงบนเอวของเธอร่างกายของเขาร้อนผ่าวราวกับน้ำร้อนลวกที่กัดกร่อนเธอทีละน้อย“เย่หนานโจว...”เวินหนี่เรียกชื่อของเขา แต่มันก็เหมือนยิ่งเร่งปฏิกิริยาทำให้เย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status