บททั้งหมดของ สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง: บทที่ 721 - บทที่ 730

945

บทที่ 721

“แล้วไอ้วิธีที่ดีต่อทั้งสองฝ่ายนั่น พ่อคิดออกหรือยังครับ?” ฮั่วตงเฉิงยิ้มทว่าราวกับไม่ยิ้ม ทำเป็นว่ามองความคิดในใจฮั่วจวินซานไม่ออก“ฉันได้ยินมาว่าผู้เสียหายเป็นเพื่อนของแก? งั้นก็รบกวนแกช่วยไปเจรจากับพวกเธอด้วยตัวเองหน่อย ขอแค่พวกเธอยกโทษให้ฮ่าวหรัน จะด้วยเงื่อนไขอะไรก็ได้ทั้งนั้น”“ที่แท้นี่ก็คือวิธีที่ดีต่อทั้งสองฝ่ายที่พ่อบอกเหรอ?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงถากถางของฮั่วตงเฉิง ขอบตาของฮั่วจวินซานก็กระตุก เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “คุณเวินนั่นเป็นนักเรียนของแกไม่ใช่เหรอ? ขอแค่แกออกหน้า เธอต้องไว้หน้าแกอยู่แล้ว”การแข่งขันถ่ายภาพก่อนหน้านี้ ทางฮั่วตงเฉิงก็เกิดเรื่องเกิดราวขึ้น ปล่อยให้หลินอี้หน่วนอาศัยช่องโหว่ กว่าจะแก้ไขได้ไม่ง่ายเลย วันนั้นในห้องรับรองอู๋ฮ่าวหรันก็พูดจาละลาบละล้วงเวินเหลียง บวกกับเรื่องในครั้งนี้เข้าไปอีก ฮั่วตงเฉิงไม่มีหน้าไปขอให้เวินเหลียงยกโทษให้อู๋ฮ่าวหรันจริง ๆเห็นฮั่วตงเฉิงลังเล ฮั่วจวินซานก็ชำเลืองมองเขา ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกว่า “หรือว่าจะเป็นเหมือนที่ฮ่าวหรันสารภาพ แกถูกเวินเหลียงทำให้ลุ่มหลง ยอมเห็นฮ่าวหรันติดคุก ทนเห็นลูกพี่ลูกน้องแกเกิดเรื่องได้ แต่ไม่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 722

ณ กองถ่ายเวินเหลียงที่เพิ่งถ่ายไปฉากหนึ่งกำลังอ่านบทละครอยู่ในห้องแต่งตัวทีมงานคนหนึ่งชะโงกหน้ามาที่ประตู เมื่อเห็นเวินเหลียงก็เดินเข้ามา “คุณเวิน มีคนมาหาคุณอยู่ด้านนอกน่ะ”“ใครเหรอคะ?” เวินเหลียงเงยหน้าขึ้นมาจากบทละครสถานการณ์แบบนี้ คนที่มาต้องมีความสัมพันธ์กับตัวนักแสดงอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นทีมงานคงไม่มาแจ้งโดยเฉพาะ ไม่งั้นแฟนคลับก็ต่อแถวมาเจอไอดอลกันหมดแล้ว“บอกว่าเป็นแม่ของคุณค่ะ”เวินเหลียงอึ้งไปสองสามวินาที หลังได้สติกลับมาก็ตอบกลับทีมงานไปอย่างราบเรียบว่า “แม่ฉันจากไปยี่สิบกว่าปีแล้ว คนที่อยู่ข้างนอกคงเป็นสิบแปดมงกุฎแน่ คุณไล่เขาไปก็พอแล้วค่ะ”ทีมงานประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมแอบพึมพำในใจว่า คำว่า ‘จากไป’ ที่เวินเหลียงบอกคงจะหมายถึงตายใช่ไหม?“โอเคค่ะ ฉันจะไปไล่เธอเดี๋ยวนี้”ทีมงานมาถึงข้างรถที่จอดอยู่นอกรั้วกองถ่าย พร้อมชำเลืองมองประเมินหลินเจียหมิ่นที่นั่งอยู่ในเบาะที่นั่งด้านหลังสองสามที หน้าตาก็ดูเหมือนคนปกติ แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นสิบแปดมงกุฎ!เธอพูดกับหลินเจียหมิ่นอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ “คุณไปเถอะ คุณเวินไม่ออกมาพบคุณ”คิ้วอันงดงามของหลินเจียหมิ่นขมวดเข้าหา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 723

“ฉันเป็นแม่ของเขา เธอให้เขามารับสายซะ”ผู้ช่วยอึ้งไปครู่หนึ่งแม่ของคุณเวินเหลียง?แต่ว่าถ้าเป็นแม่ของคุณเวินเหลียง จะเป็นหมายเลขทั่วไปได้ยังไง?เห็นได้ชัดว่าคุณเวินเหลียงไม่รู้จักหมายเลขนี้ผู้ช่วยหันกลับไปมองทีหนึ่ง ทีมงานหน้าเซ็ตมาเรียกให้เวินเหลียงไปลองเข้าฉากแล้ว เธอจึงบอกกับคนที่อยู่ปลายสายไปว่า “ขอโทษนะคะ ตอนนี้คุณเวินเหลียงกำลังทำงานอยู่ ถ้ามีเรื่องด่วนอะไรก็บอกฉันมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะช่วยเอาไปบอกให้คุณเอง ถ้าไม่มีเรื่องด่วนละก็ รบกวนคุณต่อสายมาใหม่หลังจากที่คุณเวินเหลียงเลิกงานแล้วนะคะ”“ฉันเป็นแม่ของเขา ไม่ใช่คนอื่นคนไกลอะไร เธอส่งโทรศัพท์ให้เขาซะ!” น้ำเสียงของหลินเจียหมิ่นเคร่งขรึม พร้อมกับเน้นย้ำอีกรอบผู้ช่วย: “ขอโทษนะคะ คุณเวินเหลียงกำลังทำงานอยู่ค่ะ ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไร ฉันวางสายแล้วนะคะ รอคุณเวินเหลียงเลิกงานคุณค่อยโทรมาใหม่นะคะ”หลังวางสายผู้ช่วยก็หยิบแก้วน้ำเดินเขาไปที่หน้าเซ็ตถ่ายทำเวินเหลียงกำลังถ่ายฉากต่อสู้กับนักแสดงอีกคนอยู่ ผู้ช่วยของนักแสดงคนนั้นเองก็รอสแตนด์บายอยู่รอบ ๆ หน้าเซ็ตเช่นกันทั้งสองคนพูดคุยกัน ไม่รู้คุยกันไปถึงเรื่องหลอกลวงในอินเทอร์เน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 724

หลินเจียหมิ่นอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะต่อสายให้คนขับรถขับรถมา แต่น่าเสียดายที่รถของเวินเหลียงขับออกไปไกลแล้วเธอนั่งมองวิวถนนนอกหน้าต่างผ่านหน้าต่างอยู่บนเบาะที่นั่งด้านหลัง ในใจผุดความหงุดหงิดขึ้นมาสายหนึ่งไม่นึกเลยว่าคนตระกูลเวินจะหลอกเวินเหลียงว่าเธอตายไปแล้ว?ถ้าเป็นอย่างนี้ หากเธอต้องการบรรลุเป้าหมายก็ต้องทำให้เวินเหลียงเชื่อก่อนว่าเธอคือแม่ของเวินเหลียงถึงจะได้พอลองมาคิดดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว หลินเจียหมิ่นก็รู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลถ้าเวินเหลียงคิดว่าแม่ของตัวเองตายไปแล้วจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นแล้วจู่ ๆ คนที่เคยบาดหมางกับตนมาก่อนไปบอกว่าเป็นแม่ของเธอ เธอก็จะต้องโกรธ เธอจะคิดว่าคนคนนั้นเสียสติไปแล้ว แต่ไม่ใช่การพูดออกมาอย่างเยือกเย็นว่า ‘ฉันไม่มีแม่ แม่ฉันจากไปนานแล้ว’เวินเหลียงราวกับรู้อยู่นานแล้วว่าเธอจะพูดอะไรหรือบางทีเวินเหลียงอาจจะรู้ตัวตนของเธอตั้งนานแล้วก็ได้ ถึงได้สุขุมขนาดนั้น?หวนนึกไปถึงแววตาของเวินเหลียงเมื่อครู่นี้ คงจะเป็นอย่างนี้แล้วเวินเหลียงรู้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?หลินเจียหมิ่นหวนนึกไปเมื่อตอนเจอกันที่โรงพยาบาลครั้งก่อน การตอบสนองของเวินเหลียงไม่เหม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 725

ทว่าหลังกดส่งไป ข้าง ๆ ข้อความกลับปรากฏเครื่องหมายอัศเจรีย์สีแดงแสนสะดุดตาขึ้นมาหมายเลขนี้ถูกเวินเหลียงบล็อกไปเช่นกันนัยน์ตาของหลินเจียหมิ่นประกายความดำมืดออกมาสายหนึ่งในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล ก็มีแต่ต้องใช้ไม้แข็งแล้ววันต่อมา ขณะที่เวินเหลียงอยู่ในกองถ่าย เธอได้รับสายจากคุณครูโรงเรียนอนุบาลของฟู่ซือฝานผู้ช่วยถือโทรศัพท์ที่มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาให้ เธอมองหน้าจอก่อนจะกดรับสายคุณครูที่อยู่ปลายสายพูดขึ้นว่า “คุณแม่ซือฝานคะ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาที่โรงเรียนอนุบาล บอกว่าเป็นยายของซือฝาน จะพาตัวซือฝานไปค่ะ”หัวใจเวินเหลียงเต้นตึกตัก ๆ พร้อมรีบตอบกลับไปว่า “ห้ามให้เธอพาตัวฝานฝานไปเด็ดขาด”“เรื่องนี้เราทราบค่ะ แต่ตอนนี้เธอไม่ยอมออกไปจากโรงเรียนอนุบาล บอกจะเจอคุณให้ได้”เวินเหลียงขมวดคิ้วมุ่น เธอเงียบไปอยู่สองสามวินาที ก่อนจะตอบไปว่า “เอาโทรศัพท์ให้เธอหน่อยค่ะ”“ได้ค่ะ”เสียงกึก ๆ กัก ๆ ระลอกหนึ่งแว่วดังขึ้นมาเสียงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นมาจากปลายสาย “เสี่ยวเหลียง ในที่สุดเธอก็รับสายแม่ได้สักที”เวินเหลียงแสยะยิ้ม “คุณหลิน คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”“เธอคือลูกสาวของฉัน ฉันก็แค่อยาก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 726

เธอรู้อยู่แล้วว่าที่หลินเจียหมิ่นมาครั้งนี้เพราะมีจุดประสงค์ที่แท้ก็เป็นเพราะเรื่องนี้นี่เองแค่เวินเหลียงครุ่นคิดเล็กน้อยก็รู้แล้วว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ในใจเธอแสยะยิ้มคนตระกูลอู๋ไปหาคำอธิบายกับตระกูลฮั่วตามที่ฟู่เจิงบอก ตระกูลฮั่วอยากปกป้องหลินอี้หน่วน จึงคิดหาวิธีช่วยอู๋ฮ่าวหรันออกมาฉะนั้นหลินเจียหมิ่นจึงมาที่นี่เขาทิ้งเธอไปยี่สิบกว่าปี วันนี้กลับมาเพื่อหลินอี้หน่วนอาหลานรักกันสุดหัวใจจริง ๆ!เมื่อเห็นสีหน้าเย้ยหยันของเวินเหลียง หลินเจียหมิ่นก็คีบอาหารให้เธออย่างไม่เร็วและไม่ช้าอีกคำหนึ่ง สีหน้าแฝงไปด้วยความอ่อนโยน “เสี่ยวเหลียง ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอค่อนข้างต่อต้านกับเรื่องนี้ แต่แม่ทำไปเพราะหวังดีกับเธอทั้งนั้น เธอลองคิดดูสิ เธอกับเพื่อนเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง ฮ่าวหรันเองก็เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น เขาไม่ได้มีเจตนาร้าย ปล่อยให้เขาติดคุกมันไม่น่าเสียดายเหรอ? ขอแค่เธอยอมให้อภัย ตระกูลอู๋ตระกูลฮั่วก็จะรู้สึกซาบซึ้งใจ นี่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตและอาชีพการงานของเธอมากทีเดียวนะ ทำไมต้องทำตัวสุดโต่ง ทำให้เสียหายไปด้วยกันทั้งสองฝ่ายด้วยล่ะ?”“อีกอย่างแค่คิดเธอก็รู้แล้ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 727

สีหน้าท่าทางของหลินเจียหมิ่นที่โรงพยาบาลครั้งก่อน เธอยังจำได้แม่นเวินเหลียงเบือนตัวมองหลินเจียหมิ่น “ถ้าคุณไม่มาหาฉันแล้วบีบฉันให้ยอมอภัยให้อู๋ฮ๋าวหรัน บางทีฉันอาจจะเข้าใจคุณก็ได้”หลินเจียหมิ่นยังคงทำหน้าตาระรื่น “เสี่ยวเหลียง เธอจะโกรธฉันก็ได้ จะแค้นฉันก็ตามใจ เพื่ออี้หน่วนฉันเลยต้องทำแบบนี้ อันที่จริงทีแรกฉันก็ไม่ได้คิดจะคลอดเธอออกมาด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นฉันกับลุงฮั่วของเธอก็คงไม่ยากลำบากกันขนาดนั้น เธออภัยให้ฮ่าวหรันเถอะนะ ถือเสียว่าตอบแทนบุญคุณที่ฉันตั้งท้องและคลอดเธอออกมาสิบเดือนก็แล้วกัน สิ่งที่ฉู่เจี้ยนจวินติดค้างฉัน เธอก็คืนแทนเขามาด้วยเลยแล้วกัน”เวินเหลียงนึกไม่ถึงเลยว่า หลินเจียหมิ่นจะพูดอ้างศีลธรรมมาบังคับเธอได้อย่างมีเหตุผลเต็มปากเต็มคำแบบนั้น“ฉันจะบอกคุณให้ชัดเจนเลยนะ ไม่มีทาง เกิดแต่ไม่เลี้ยง ไม่สู้ไม่เกิดมาดีกว่า นี่ไม่ใช่บุญคุณแต่เป็นความแค้น”“เสี่ยวเหลียง ตอนนี้อารมณ์เธอกำลังพลุ่งพล่านอยู่ อาจเลือกผิดได้ง่าย ยังไงเธอกลับไปคิดดี ๆ จะดีกว่า” ชะงักไปครู่หนึ่งหลินเจียหมิ่นก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ฉันได้ยินมาว่า คราวก่อนที่ตระกูลอู๋มา ฟู่เจิงเป็นคนช่วยเธอจัดการเรื่องนี้ให
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 728

เวินเหลียงฟื้นคืนสติขึ้นมาอย่างสับสนมึนงง เธอลืมตาขึ้นมองเพดานสีขาวสะอาด ใจเหม่อลอยเมื่อหวนนึกไปถึงเรื่องก่อนที่ตัวเองจะหมดสติไป น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้สึกตัว หายลับไปตรงจอนหูตามขอบตา ในใจโศกเศร้าเสียใจอย่างไร้ที่เปรียบ ยากจะรับไหวจนหายใจไม่ออกเธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่านั่นจะเป็นเพียงความฝัน เมื่อตื่นขึ้นมาหลินเจียหมิ่นจะไม่เคยมาเจียงเฉิง เธอยังคงเป็นลูกสาวของเวินหย่งคัง“อาเหลียง ไม่ต้องร้องไห้นะ” มือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นเข้ามา นิ้วมือเรียวยาวเช็ดน้ำตาที่ขอบตาของเวินเหลียงเบา ๆ “หมอบอกว่า ตอนนี้เธอต้องทำใจให้สงบ ไม่งั้นจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ”สายตาของเวินเหลียงตกไปที่คนตรงหน้า ลำคอขยับขึ้นลง พร้อมน้ำเสียงปนสะอึกสะอื้น “ฟู่เจิง”“อืม ฉันอยู่นี่”ฟู่เจิงช้อนหลังหลังของเธอเอาไว้ จากนั้นก็ประคองเธอลุกขึ้นมา ก่อนจะสอดหมอนใบหนึ่งเข้าไปในหลังของเธอเวินเหลียงฉวยโอกาสกอดเขาเอาไว้ พร้อมอิงศีรษะไปบนไหล่ของเขา น้ำตาไหลไปด้วยพลางพูดปนน้ำเสียงร้องไห้ไปด้วยว่า “ฟู่เจิง ฉันไม่ใช่ลูกของพ่อ ฉันเป็นลูกชู้...”ฟู่เจิงสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง เมื่อเห็นขอบตาที่ทั้งบวมและแดงของเวินเหลียง ในใจของเขาก็เจ็
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 729

“แต่ว่าอื้อ...”ฟู่เจิงจูบลงบนริมฝีปากของเธอ ปิดกั้นคำพูดที่เธออยากจะพูดออกมาเอาไว้ที่ลำคอปลายจมูกชนปลายจมูก ถูริมฝีปากเบา ๆ ฟู่เจิงมองดวงตาที่แดงก่ำพลางน้ำตาไหลของเธอ ก่อนจะเอ่ยว่า “ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้เธอไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นรู้ไหม?”เวินเหลียงเม้มริมฝีปากพร้อมมองเขาอย่างน่าสงสารฟู่เจิงเปลี่ยนเรื่องคุย “เมื่อคืนเธอไม่ได้กินข้าวใช่ไหม? ฉันให้คนเตรียมโจ๊กให้เธอแล้ว กินสักหน่อยดีไหม?”“ไม่อยากกิน”แม้จะรู้สึกว่าท้องว่าง แต่ตอนนี้เธอไม่มีความอยากอาหารใด ๆ ทั้งนั้น“ไม่กินก็ไม่กิน” ฟู่เจิงไม่ได้บังคับ “ตอนนี้เช้ามืดแล้ว นอนสักเดี๋ยวก็แล้วกัน ตื่นมาคงจะดีขึ้น”เวินเหลียงเม้มริมฝีปาก เธอไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมานอนลงบนเตียงใหม่อีกครั้ง เธอมองฟู่เจิงที่อยู่ข้างเตียงทีหนึ่ง นัยน์ตาแฝงไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ “คุณจะไปไหนหรือเปล่า?”“ไม่ไป ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ”ฟู่เจิงถอดเสื้อโค้ตออก เขาปิดไฟแล้วนั่งลงข้างตัวเวินเหลียง พร้อมใช้แขนพาดอยู่บนตัวเธอและตบเบา ๆ “นอนเถอะ”“คุณเองก็ห่มผ้าห่มหน่อยสิ กลางคืนมันหนาว” เวินเหลียงพูดพลางเลิกผ้าห่มออกแล้วแบ่งให้เขาห่มด้วยครึ่งหนึ่งฟู่เจิงถือโอกา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 730

ภายในห้องมืดสนิท มองเห็นสีหน้าของเวินเหลียงได้ไม่ชัดฟู่เจิงเห็นเธอเงียบก็คิดว่าเธอยังเจ็บปวดใจเพราะชาติกำเนิดของตัวเอง เสียใจเพราะการกระทำของหลินเจียหมิ่นอยู่ฟู่เจิงกอดเธอเอาไว้จากด้านหลังแล้วพูดกระซิบขึ้นว่า “อาเหลียง เธอรู้ไหมว่าวันนั้นคุณย่าพูดอะไรกับฉันเป็นการส่วนตัว?”ไม่รอให้เวินเหลียงตอบกลับ เขาก็พูดต่อเลย “เขาบอกฉันว่าฟู่หรงไม่ใช่พ่อของฉัน อันที่จริงเขาเป็นลุงของฉัน”เวินเหลียงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่งถ้าฟู่หรงเป็นลุงของเขา งั้นแม่ของเขา...ก็คือฟู่ชิงเยว่?“ทำไมฉันถึงต้องไปเป็นลูกของลุงน่ะเหรอ? เพราะว่าแม่ฉันไปเป็นเมียน้อยของคนอื่น ฉันเป็นลูกนอกสมรส แต่ถึงจะเปลี่ยนพ่อแม่แล้วฉันก็ยังเป็นลูกนอกสมรสอยู่ดี...”เวินเหลียงรีบพลิกตัวมากอดเขาเอาไว้ ในใจทุกข์ใจอย่างไร้ที่เปรียบ “ขอโทษนะ...”ตอนนั้นเธอถามเขาว่าคุณย่าพูดอะไรกับเขา เขาบ่ายเบี่ยงไป เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เธอรู้ชาติกำเนิดแสนน่ารังเกียจของเขาทว่าตอนนี้เขากลับแหวกรอยแผลด้วยตัวเองเพื่อปลอบเธอ“ฉันอยากบอกเธอว่าไม่มีอะไรที่เราผ่านไปไม่ได้หรอกนะ ฉันเลือกชาติกำเนิดของฉันไม่ได้ แต่ฉันตัดสินใจเลือกและตัดสินใจเรื่อง
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
7172737475
...
95
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status