ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง의 모든 챕터: 챕터 1191 - 챕터 1200

1257 챕터

บทที่ 1191

แต่ปันอวิ๋นก็คิดไม่ถึง ว่าจั๋วซือหรานจะเข้าใจความหมายที่เขาอยากแสดงออกมาได้มุมปากจั๋วซือหรานยกเป็นเส้นโค้ง รอยยิ้มกลับไม่ไปถึงในดวงตาน้ำเสียงดูจืดจาง "จากคำพูดของเจ้าหุบเขา เน้นย้ำคำว่ามืดมิดสุดสว่างไสวสุดหลายครั้ง คือกำลังเตือนข้าถึงคุณสมบัติร่างการสว่างไสวสุดของเฟิงเหยียนใช่ไหม?"นางเว้นช่วง เอ่ยต่อว่า "เช่นนั้นก็พอจะอนุมานอย่างสมเหตุสมผลได้ ว่าเบื้องหลังของสำนักเมฆาวารี..."นางแหงนตา ดวงตาคู่งามสบกับดวงตาเรียวยาวของปันอวิ๋นถามขึ้นว่า "คือสภาผู้อาวุโสใช่ไหม"เส้นโค้งที่มุมปากจั๋วซือหราน มีความหมายประชดประชันอยู่ด้นาใน "มองไม่ออก เลยว่าขอบเขตธุรกิจของสภาผู้อาวุโสจะกว้างขวางขนาดนี้"ปันอวิ๋นถึงแม้จะไม่รู้ความหมายขอบเขตธุรกิจจากคำพูดของจั๋วซือหรานอย่างถูกต้อง แต่ก็ฟังออกถึงความประชดประชันในคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานได้อย่างชัดเจนปันอวิ๋นถอนหายใจเบาๆ "แค่ประโยคเดียวเจ้าก็ขบคิดจนเข้าใจได้เลย..."จั๋วซือหรานยิ้มๆ ในรอยยิ้มตอนนี้ไม่มีการประชดประชัน ดูแล้วพอเทียบกับเจตนาการประชดก่อนหน้านี้ กลับดูจริงใจเป็นพิเศษ"เจ้าหุบเขากำลังชมว่าข้าฉลาดหรือ? ขอบคุณที่ชมนะ"ปันอวิ๋นเองก็ไม่พูดอะ
더 보기

บทที่ 1192

แต่นี่นาง...ไม่กลัวที่จะบุกรังคนอื่น แล้วถูกคนอื่นจับไปเลยหรือ?นี่มันต้องมีความกล้าแค่ไหนกันนะ จึงจะตัดสินใจแบบนี้ออกมาได้?ระยะห่างจากเมืองอวิ๋นถึงเนินเขาเมฆาวารี ไม่ได้ไกลมากนักอยู่ที่หนึ่งร้อยลี้ หรือห้าสิบกิโลเมตรโดยประมาณอันที่จริงในเมืองอวิ๋น ก็สามารถมองเห็นเนินเขาลูกนั้นได้จั๋วซือหรานไปทางเนินเขาลูกนั้นไม่นานนัก...ยังไม่ทันถึงหนึ่งชั่วยามก็มาถึงตีนเขาของเนินเขาเมฆาวารีแล้วตอนอยู่ที่ตีนเขาเนินเขาเมฆาวารี นางก็เห็นศิษย์สำนักเมฆาวารีอยู่ที่ประตูภูเขาแล้ว พอเห็นนางก็ราวกับเห็นศัตรูตัวฉกาจแต่ก็ยังต้องเข้ามาขวางนางไว้ด้วยความจงรักภักดีต่อหน้าที่"คนไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าเนินเขาเมฆาวารี""ส่งตัวคนสำนักเมฆาวารีคืนมา จะถือว่าแล้วกันไป...ไม่ถือโทษโกรธเคืองอีก"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะ "แล้วกันไปหรือ...พวกเจ้าฝันหวานเกินไปแล้ว"ผลลัพธ์คือ...ตั้งแต่ที่ประตูภูเขา ไล่ขึ้นไปตลอดทาง ขบวนเชลยของจั๋วซือหรานก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆตอนที่ในที่สุดมาถึงลานกว้างตำหนักใหญ่สำนักเมฆาวารีบนไหล่เขาจำนวนเชลยของจั๋วซือหราน...เอาจริงๆ ต่อให้นางจะยกมือฟันฉับๆ แต่ก็ญังเสียเวลาอยู่"บังอา
더 보기

บทที่ 1193

และไม่รู้ว่าเพราะเสียงคมดาบสี่เสียดสีกับพื้นมันน่าขนลุกเกินไปหรือเปล่าสรุปคือ พวกเขาเงียบกันลงไปทันทียิ่งไปกว่านั้น พอคู่กับเสียงนี้ นางก็ดูมีมาดเป็นเพรชฆาตจริงๆจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น ต่อให้ไม่ต้องพูดอะไร ก็เพียงพอที่จะใช้ท่าทางของตนเอง ตอบคำถามเมื่อครู่ของคนเหล่านี้ได้แล้วนางคิดจะทำอะไร นางหมายความว่ายังไง นางหมายความว่ายังไงกันแน่?ตอนนี้พวกเขากระจ่างแจ้งในใจนางคิดจะสังหารคน ถ้าหากพวกเขาไม่ส่งตัวน้องชายนางออกมาอย่างไร้ริ้วรอย นางจะจัดการคนสำนักเมฆาวารีเสียที่นี่ซะจั๋วซือหรานเหลือบมองดวงตะวันบนท้องฟ้า พิจารณาเวลาอยู่ครู่หนึ่งเอ่ยขึ้นว่า "ก่อนจะถึงกำหนดที่ข้าบอกไว้สามวันก่อน ยังเหลืออีกครึ่งชั่วยาม"นางสะบัดดาบยาวในมือ "หลังจากครึ่งชั่วยาม ถ้าข้ายังไม่ได้สิ่งที่ข้าต้องการ ข้าจะเริ่มสังหารคนทันที"จั๋วซือหรานเหลือบมองเหล่าเชลยผาดหนึ่ง เชิดคางไปทางหวงเจี้ยนถัง "เริ่มสังหารจากคนนี้ก่อนเลย"คำพูดเหล่านี้ที่หน้าตำหนักใหญ่ของจั๋วซือหราน เพียงไม่นานก็ส่งไปถึงตำหนักหลังของสำนักเมฆาวารีหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง กำลังนั่งฟังเนื้อหารายงานด้วยสีหน้าบูดบึ้งนิ้วมือกำแน่น ในแ
더 보기

บทที่ 1194

เสียงของนางอดเข้มงวดขึ้นมาไม่ได้ "ข้ารู้ว่าข้าต้องทำอะไร! แต่เจ้านั่นล่ะ! อย่าให้ตัวตลกมาทำให้สติแตก!"ศิษย์หดคอลง ไม่กล้าพูดอะไรอีกตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีคนในสำนักเข้ามารายงาน น้ำเสียงฟังดูร้อนรนมาก "เจ้าสำนัก!""ว่ามา" สุ่ยจิ้งหลานขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นเยียบลงคนในสำนักรายงานว่า "ผู้อาวุโสอิงไปที่ตำหนักหน้าแล้ว"คำพูดของศิษย์ก่อนหน้าเหล่านั้น แค่ทำให้สุ่ยจิ้งหลานรำคาญขึ้นมาเท่านั้น แต่นางยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับแต่ตอนนี้เนื้อหาที่คนในสำนักมารายงาน กลับทำให้สุ่ยจิ้งหลานหน้าเปลี่ยนสี ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง "อะไรนะ?! เขาจะไปทำอะไร! ทำไมไม่มีใครห้ามเขาไว้!"คนในสำนักเอ่ออ่าอยู่ด้านนอก ตอบอะไรไม่ได้อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นศิษย์สำนักหรือศิษย์ที่อยู่ข้างๆ ก็รู้ดีแก่ใจ ขวางเขาหรือ? จะไปขวางอย่างไรกัน?ตัวตนของผู้อาวุโสอิงบนเนินเขาเมฆาวารีนั้นค่อนข้างพิเศษและสูงส่ง นอกจากฐานะผู้อาวุโสแล้ว เขายังมีอีกฐานะที่ทำให้คนหวาดกลัวยิ่งกว่าเขาคือสามีของเจ้าสำนัก แม้เจ้าสำนักจะแข็งแกร่ง เป็นหนึ่งไม่มีสองในเนินเขาเมฆาวารี แต่ก็ยังเคารพผ่อนปรนต่อสามีมาโดยตลอดใครจะกล้าไปขวางเขากัน?ต่อให้ก่อนหน้านี้รู
더 보기

บทที่ 1195

จั๋วซือหรานตอนที่เห็นสายตาจั๋วเฮ่ออิงเจ้าพ่อไม่ได้เรื่องคนนี้สมองไปหมดแล้วหรือไงกันน่าจะไม่ถึงกับจงใจไม่รู้จักนางกับจั๋วหวายหรอกนะจะว่าไปตอนที่เขาออกไปจั๋วหวายยังเล็กอยู่ หลังจากโตมาก็เปลี่ยนไปเยอะ การจะจำไม่ได้ก็ปกติแล้วนางเองก็มีใบหน้าเหมือนตอนเด็กราวกับถอดแบบกันมา ยิ่งไปกว่านั้นยังคล้ายคลึงกับจั๋วเฮ่ออิงมากเขาไม่มีทางมองไม่ออกสายตาของคนเราโกหกได้ยาก จั๋วซือหรานมองออกจากในแววตาเขา เขาไม่รู้จักตนเองจริงๆเช่นนั้น เรื่องนี้ก็อธิบายได้แล้วเจ้าพ่อไม่ได้เรื่องของตนเองคนนี้ น่าจะเหมือนกับท่านอ๋องน้อย สติแตกไปหมดแล้วคิดถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็อดยกมุมปากขึ้นไม่ได้ ยกขึ้นจนเป็นยิ้มเยาะตนเองคนอื่นมีโชคชะตาที่อ้างว้าง แต่นางนี่สิ ชีวิตนี้ไปเจอกับดาวลืมเลือนอะไรมาหรือไง คนนั้นคนนี้ก็จำนางกันไม่ได้เลย?จั๋วเฮ่ออิงจ้องมองหญิงสาวสวยตรงหน้าคนนี้เดิมทีเขาก็เคยได้ยินวีรกรรมหญิงสาวคนนี้หลังมาถึงเมืองอวิ๋นและมายังเนินเขาเมฆาวารีแห่งนี้แม้จะรู้สึกว่าจุดเริ่มของนางไม่ได้ผิดอะไร แต่ถ้าจะมาฆ่าแกงกันล่ะก็ ดูจะเกินไปหน่อยเรื่องหลายเรื่องสามารถเจรจากันดีดีได้ แก้ปัญหากันดีดีได้ไม่ต้อ
더 보기

บทที่ 1196

รู้สึกแค่หวงเจี้ยนถังไม่รู้พูดจาประชดประชันอะไรอยู่จั๋วเฮ่ออิงขมวดคิ้ว จ้องหวงเจี้ยนถังเย็นชา "ถ้าจะฉีกหน้ากันจริง เจ้าจะเป็นคนแรกที่ถูกเอาไปบูชายัญ รีบๆ หุบปากซะ"หวงเจี้ยนถังถูกคำนี้ของเขาขัดจังหวะ เดิมทียังคิดจะอาละวาด แต่พอคิดถึงสิ่งที่หญิงบ้าคนนี้พูดไว้ก่อนหน้า ว่าพอถึงเวลา จะโบกดาบมาทางเขาเป็นคนแรก...หวงเจี้ยนถังจึงนิ่งเงียบไปจั๋วเฮ่ออิงไม่พูดอะไรอีก แค่จ้องมองจั๋วซือหรานต่อ ในสายตาแฝงแฝงไว้ด้วยการไถ่ถามเห็นได้ชัดว่าความคิดก่อนหน้านี้ยังไม่หายไป ยังคิดอยากจะคุยกับจั๋วซือหรานก่อนจั๋วซือหรานครุ่นคิด เลิกคิ้วขึ้น "ก็ไม่ใช่จะไม่ได้""เช่นนั้นเชิญ" จั๋วเฮ่ออิงทำสัญญาณมือเชื้อเชิญ นำจั๋วซือหรานเข้าไปในตำหนักหน้าจั๋วซือหรานเดินเข้าไปยังตำหนักหน้า พิจารณาฉากด้านในสำนักเมฆาวารีไม่ถือเป็นสำนักที่ใหญ่เป็นพิเศษอะไร แต่ดูจากตำหนักหน้าและลานกว้างหน้าประตูตำหนักแล้ว ดูโอ่อ่าเอาการอยู่พวกสำนักใหญ่ๆ เหล่านั้นจะมีขนาดโอ่อ่าแค่ไหน ไม่กล้าคิดเลยจริงๆ"ดื่มชาไหม?" เสียงชายหนุ่มที่ดูหนักแน่นแต่อ่อนโยน ดังลอดเข้ามาจากด้านหน้าน่าจะเพราะ เสียงนี้ในความทรงจำ อันที่จริงก็คุ้นเคยอยู่แล้
더 보기

บทที่ 1197

เพราะ ถ้าหากอีกฝ่ายรู้จักชีพจร รู้ว่ามีจุดสำคัญของโรคอะไรอยู่ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นแพทย์ยาพิษที่เก่งล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะใช้ยาพิษบางอย่างมาจี้จุดสำคัญของโรคนี้เข้าก็ได้ยังไม่ต้องพูดถึงใคร เอาแค่จั๋วซือหรานที่ถูกซือคงอวี้เล่นงานในวังสวนตอนนั้น ตามหลักแล้วด้วยฝีมือของนาง ไม่มีทางจะถูกวางยาเล่นงานได้แน่นอนแต่เพราะนางตอนนั้นร่างกายรับภาระจากพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงอยู่ จึงทำให้นางถูกยาเฉพาะทางเล่นงานเข้าประมาณนี้นั่นล่ะจั๋วเฮ่ออิงต้องเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวตรงหน้ายังเป็นศัตรูของสำนักอีกด้วยตามหลักแล้วไม่ควรจะปล่อยวางความระมัดระวังได้แบบนี้แต่จั๋วเฮ่ออิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงยกมือไปทางนาง ยื่นข้อมือส่งไปใต้นิ้วขาวนวลของนางดูเหมือน...ไม่มีการป้องกันใดๆ เลยจั๋วซือหรานที่สงบนิ่งอยู่ตลอด กระทั่งสีตายังดูเย็นชาอยู่หน่อยๆพริบตานี้ก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมานิ้วของนางแตะเบาๆ ลงไปบนชีพจรของจั๋วเฮ่ออิง..."บังอาจนัก! ปล่อยเขานะ!"ปลายนิ้วของจั๋วซือหรานแตกลงไปไม่เท่าไร นอกประตูก็มีร่างหนึ่งแฉลบพุ่งเข้ามา!เขาถลึงตาจ้องจั๋วซือหรานด้วยความโกรธ "กำเริบเสิบสานในเ
더 보기

บทที่ 1198

ยิ่งไปกว่านั้นระดับหุ่นเชิดความมืดของสุ่ยจิ้งหลาน ยังแตกต่างกับระดับหุ่นเชิดความมืดที่จั๋วซือหรานเคยเห็นมาก่อนหน้านี้เสียอีกหวงเจี้ยนถังตามหลักการแล้วน่าจะเป็นคนที่หลอมหุ่นเชิดความมืดได้ดีมากของสำนักเมฆาวารีแล้วแต่หุ่นเชิดความมืดเหล่านั้นของเขา หลังจากจั๋วซือหรานเก็บกลับมาก็ถูกค้นคว้าจนหมดแล้วตอนนี้พอได้เห็นหุ่นเชิดความมืดของสุ่ยจิ้งหลานเหล่านี้ จั๋วซือหรานก็รู้เลยว่ามันเทียบกันไม่ได้สุ่ยจิ้งหลานคุ้นเคยกับการควบคุมหุ่นเชิดความมืดมากจั๋วซือหรานค้นพบอย่างรวดเร็ว แทนที่จะบอกว่าเป็นความยอดเยี่ยมของวิชาหุ่นเชิด สู้บอกว่าเป็นความยอดเยี่ยมของการควบคุมหุ่นเชิดเข้าต่อสู้ของนางจะดีกว่านางควบคุมหุ่นเชิดหลายตัวพร้อมกัน แบ่งงานกันไปแต่ละตัว แล้วยังมีรูปแบบขบวนทัพอีกด้วยเทียบกับสถานการณ์ที่หุ่นเชิดทั้งหมดพุ่งเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่งแล้ว การแบ่งงานกันตามหน้าที่ของแต่ละตัวตอนนี้ ดูจะตึงมือเสียกว่าจั๋วซือหรานแววตาเย็นลง ไม่มีรีรอเดิมทีนางก็ไม่ใช่คนที่จะดูถูกศัตรูอยู่แล้ว ปฏิบัติตามแนวทางที่นักยุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดในชาติที่แล้วชี้แนะมาโดยตลอด บนเชิงยุทธศาสตร์ให้ดูถูกศัตรูไว้ แต่ในเชิง
더 보기

บทที่ 1199

พอได้ยินสุ่ยจิ้งหลานโต้แย้งกลับมา จั๋วซือหรานก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรนางเอ่ยต่อเสียงเรียบว่า "ข้าอาจจะพูดไร้สาระก็ได้...แต่ว่าเจ้าสำนักสุ่ยเป็นถึงเจ้าสำนักเมฆาวารีแท้ๆ แต่ดูไม่ค่อยจะพิถีพิถันเท่าไรเลยนะ"จั๋วซือหรานมองนางสายตาเย็นชา "เก็บชายสมองพังกลับมาเป็นสามีแบบนี้ ไม่สนว่าเขาจะแต่งงานแล้วหรือยัง มีครอบครัวแล้วหรือยัง ในบ้านมีภรรยายังรอให้เขากลับไปหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานยิ่งพูด สีหน้าสุ่ยจิ้งหลานก็ยิ่งขาวซีด"พอเก็บกลับมาก็แต่งงานทันที ถ้าไม่รู้คงได้คิดว่าเจ้าสำนักสุ่ยขาดผู้ชายเป็นแน่ เอาจริงๆ ถ้าหากเขามีภรรยาอยู่แล้วล่ะ? ดังนั้นข้าถึงบอกว่าเจ้าสำนักสุ่ยนี่ไม่พิถีพิถันเอาซะเลย"จั๋วซือหรานมองนางอย่างเย็นชา "เป็นถึงเจ้าสำนักเมฆาวารี แต่ดันทำตัวเป็นอนุภรรยาเสียอย่างนั้น?"คำพูดเหล่านี้ของจั๋วซือหราน ในที่สุดก็ทำให้อารมณ์ของสุ่ยจิ้งหลานพังทลายลงอย่างสิ้นเชิงหญิงสาวที่บุกมาบนเนินเขาเมฆาวารีคนนี้ ดูเหมือนแค่พูดไม่กี่คำ ก็ฉีกหน้ากากภาพลักษณ์ครอบครัวที่นางพยายามสร้างมาอย่างยาวนานลงได้ง่ายๆ เลยดวงตาสุ่ยจิ้งหลานแดงก่ำ นางเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาว่า"ไม่มี! เขาไม่มีบ้าน! บ้านของเขาคื
더 보기

บทที่ 1200

จั๋วซือหรานกระทั่งตั้งตัวไม่ทันว่าจั๋วเฮ่ออิงเข้ามาอยู่ตรงหน้าตนเองเมื่อไรเขาจับคมแหลมที่สุ่ยจิ้งหลานโบกเข้ามาเมื่อครู่เอาไว้การโจมตีนี้สุ่ยจิ้งหลานซัดมาหาจั๋วซือหราน ดังนั้นพูดได้ว่าตรงไปตรงมาสุดๆฝ่ามือของจั๋วเฮ่ออิง รู้สึกเหมือนถูกเฉือนออกไปอย่างไรอย่างนั้นแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือเลยจั๋วเฮ่ออิงมองภรรยาตรงหน้า ในสายตาเขาไม่มีความโกรธแค้นใด ยังคงสงบนิ่งพูดแค่ว่า "ให้นางพูดให้จบ"ดวงตาสุ่ยจิ้งหลานเบิกโพลงเลื่อนลอย ริมฝีปากสั่นระริก เหมือนต้องการจะเรียกเขาอีกสักครั้ง แต่กลับไม่อาจเปล่งเสียงอะไรออกมาได้เลยครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า "นาง...พูดแต่เรื่องไร้สาระนะ...""ไม่เป็นไร ให้นางพูดให้จบ" จั๋วเฮ่ออิงเสียงเรียบ "ต่อให้จะไร้สาระ แต่ให้นางพูดให้จบก่อนก็ยังไม่สาย"จั๋วซือหรานมองร่างสูงใหญ่ตรงหน้า อันที่จริงในใจก็ค่อนข้างสงบอยู่ก่อนหน้านี้เพราะเรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน และรู้สึกประหลาดใจที่จู่ๆ จั๋วเฮ่ออิงก็กระโจนตัวออกมา แต่ตอนนี้หลังจากตั้งสติได้ ในใจก็ค่อนข้างสงบพอควรเพียงแต่ตอนนี้ ในสมองกลับค่อยๆ มีภาพร่างสูงใหญ่นั้นในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมแล่นออกมาร่าง
더 보기
이전
1
...
118119120121122
...
126
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status