All Chapters of ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: Chapter 1201 - Chapter 1210

1257 Chapters

บทที่ 1201

หลังจากหมอกลวงตาที่พันล้อมอยู่ในสมองมาตลอดนี้ ถูกพลังใสสะอาดอบอุ่นวูบหนึ่งถูกปัดออกไปดวงตาของจั๋วเฮ่ออิงก็เบิกโพลงขึ้นมาในดวงตามีประกายไม่อยากเชื่อปรากฏขึ้น ริมฝีปากเองก็เริ่มสั่นระริกขึ้นมาอันที่จริงการฟื้นคืนความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในพริบตาอย่างตอนที่จั๋วซือหรานข้ามภพมาตอนนั้น ชิ้นส่วนความทรงจำเจ้าของร่างเดิมมากมาย ก็ค่อยๆ เก็บกลับมาได้ทีละเล็กทีละน้อยตอนนี้จั๋วเฮ่ออิงเองก็ใกล้เคียง ความทรงจำไม่ใช่ว่าหลั่งทะลักเข้ามาในพริบตาแต่เป็นชิ้นส่วนความทรงจำบางส่วน ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองหลังจากหมอกลวงตาเหล่านั้นถูกกวาดออกไป ภาพที่ปรากฏขึ้นในชิ้นส่วนความทรงจำในสมองอันดับแรกในภาพนั้น คือใบหน้าสวยงามอ่อนโยนของหญิงสาวคนหนึ่ง รอยยิ้มหวาดพร้มกับใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอายหน้าแดงก่ำพูดกับเขาว่า "ข้าไม่เรียนกท่านว่าเฮ่ออิงแล้วจะให้ข้าเรียกว่าอะไรล่ะ...สา สามีดีไหม?"และเขาก็ลูบหน้านางเบาๆ "ภรรยาที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามกฏหมายของข้า เรียกว่าสามีก็ถูกแล้วนี่? ทำไมต้องหน้าแดงกัน?""..." หญิงสาวที่ใบหน้าเล็กแดงก่ำ น่าจะเพราะหน้าบางมาแต่ไหนแต่ไร ตามหลักแล้วพอถูกหยอกแบบนี้บางท
Read more

บทที่ 1202

สุ่ยจิ้งหลานที่ระวังนาง เดิมทีก็คือระวังเรื่องสถานะนี้ของนางนั่นเองตอนที่จั๋วซือหรานออกไป หางตาก็เหลือบไปเห็นร่างบางร่างหนึ่งหลบเข้าไปในมุมกำแพงจั๋วซือหรานเหลือบมองไป ดูจากชุดแล้วก็มองออกไม่ยากถึงความสูงส่งของฐานะในสำนักเมฆาวารีไหนจะสองตาที่คล้ายกับตนเองนั่นอีก...ไม่สิ บางทีควรจะพูดว่า แค่เห็นก็รู้ว่าคิ้วตาคล้ายกับจั๋วเฮ่ออิงจั๋วซือหรานเดาตัวตนฐานะของนางได้แล้ว น่าจะเป็นคุณหนูสำนักเมฆาวารี สุ่ยเชียนโยวลูกสาวคนเดียวของสุ่ยจิ้งหลานจั๋วซือหรานไม่ใช่พระโพธิสัตว์ สุ่ยเชียนโยวคนนี้หลอกน้องชายนาง แล้วยังจับน้องชายนางมาที่สำนักอีก สำหรับจั๋วซือหราน ถือว่าเป็นศัตรูคู่แค้นแต่ตอนนี้ จั๋วซือหรานก็ยังมองดวงตาสุ่ยเชียนโยวเงียบๆดวงตาของคนไม่โกหกใครจั๋วซือหรานมองไม่เห็นแววตาของผู้บริสุทธิ์จากดวงตาที่คล้ายกับตนเองคู่นี้เลยสุ่ยเชียนโยวคนนี้ แม้ร่างกายจะไม่ดี แต่ในดวงตาของนาง กลับไม่มีความใสสะอาดอยู่เลย ดวงตาค่อนข้างซับซ้อนดูท่า นางไม่เพียงแต่รู้เรื่องผู้ทดลองยาเท่านั้น แต่น่าจะค่อนข้างเข้าใจเป็นอย่างดีด้วยจั๋วซือหรานยกมุมปากเดินออกไปยังลานตำหนักหน้าเหล่าเชลยพวกนั้นพอเห็นนางออกม
Read more

บทที่ 1203

ขนมชาเขียวพอได้ยินคำชมก็ดีใจ เอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจเล็กๆ ว่า "นายท่าน ไหมกู่ที่ข้าวางไว้บนตัวพวกเขา ควบคุมได้แค่วันเดียว หลังจากผ่านไปหนึ่งวันพวกเขาก็ฟื้นแล้ว""ไม่เป็นไร หนึ่งวันก็พอ" จั๋วซือหรานตอบหนึ่งวันก็เพียงพอที่จะปั่นป่วนทิศทางของสำนักเมฆาวารีแล้ว และหนึ่งวันก็เีพยงพอที่จะแพร่กระจายเรื่องเหล่านี้ออกไปด้วยจั๋วซือหรานแม้จะไม่หาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกได้แล้วก็ไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์ไม่เลือกหน้าด้วยถ้าจะให้นางต้องฆ่าคนมากขนาดนี้จริง ดาบมือในต้องยกขึ้นยกลงเสียเวลาตาย นางขี้เกียจสั่งสอนสักหน่อยก็พอแล้วเพียงแต่หลังจากที่พูดเรื่องนี้ไป เจ้าเจ็ดตัวก็ยังคงทะเลาะกันในมิติอยู่ดีไม่ใช่อะไรอื่น เป็นเพราะหุ่นเชิดความมืดที่จั๋วซือหรานรวบรวมมาให้เป็นภาชนะของพวกมัน...หน้าตาไม่เหมือนกันเป็นแบบที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ จั๋วซือหรานเข้าใจดี ครอบครัวฝาแฝดซื้ออะไรก็ต้องเหมือนกันให้ตายเถอะ แล้วนางทางนี้มีอยู่เจ็ดตัว จากนั้นหุ่นเชิดความมืดพวกนี้ก็แตกต่างกันอีกนี่จะฆ่านางให้ตายเลยใช่ไหมนะ?จั๋วซือหรานได้ยินเสียงทะเลาะกันของทั้งเจ็ดตัว เอาจริงๆ นะ...หนวกหูชมัดแต่จะว่าอย่า
Read more

บทที่ 1204

นางจึงไปรดน้ำให้กับต้นอู๋ถงเสียหน่อยจากนั้นก็บอกกับแมงมุมน้อยว่า "ข้าไม่ได้อารมณ์ไม่ดี แค่รู้สึกว่า..."จั๋วซือหรานคิดๆ ว่าควรใช้คำพูดแบบไหน สุดท้ายจึงพูดแค่ "เศร้าใจ แค่เศร้าใจเท่านั้น"โชคชะตาคงเล่นตลกกระมังถ้าจั๋วเฮ่ออิงยังอยู่ เจ้าของร่างเดิมคงไม่เจอกับวันคืนเช่นนั้นไม่แน่ คงจะเป็นองค์หญิงน้อยในมือของพ่ออยู่ตอลด ไม่ต้องแบกรับภาระหนักอึ้ง และคงไม่ถูกจั๋วหรูซินให้ฉินตวนหยางมาทำร้ายด้วยพิษกู่และก็คงไม่ตายแต่ถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะไม่เกิดเรื่องของจั๋วซือหรานอย่างนางขึ้นพอคิดเช่นนี้ นอกจากความเศร้าสลด ก็เหมือนจะไม่มีอารมณ์อื่นใดแล้วจั๋วซือหรานเดินลงมาจากบนเขา ไม่มีใครมาขวางนางก่อนหน้านี้มีคนขวางนาง นั่นก็เพราะได้ยินแค่ข่าวลือ แต่ไม่เข้าใจความสามารถของนางทว่าตอนนี้ ได้เห็นฤทธิ์เดชของนางที่เนินเขาเมฆาวารีแล้ว และการดีดนิ้วของนางที่ 'สังหาร' คนไปมากมายเมื่อครู่ พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นแค่กลอุอายที่จั๋วซือหรานให้เจ้าพวกก้อนเนื้อเตรียมไว้ล่วงหน้าในสายตาพวกเขา ความแตกต่างของพลังแบบนี้ ใครก็รู้ว่าถ้าขึ้นไปคือตายเปล่า จึงไม่มีใครออกมาตายเปล่ากันดังนั้นจั๋วซือหรานลงจึงลงเ
Read more

บทที่ 1205

จั๋วซือหรานเป็นคนฉลาดมาแต่ไหนแต่ไหร บางครั้ง อาจจะต้องการเพียงจุดเดียวเท่านั้นจากนั้นเรื่องราวมากมายในสมอง ก็จะเชื่อมโยงออกมาเป็นเส้นได้ทันทีรายละเอียดมากมายแต่เดิม จะร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วสระเย็นที่เฟิงเหยียนอยู่ อักขระประหลาดบนตัวเขา สุราเหมันต์ในน้ำเต้าของเขาจั๋วซือหรานตอนนี้พอย้อนคิดขึ้นมา ก็รู้สึกว่าตนเองแค่ยอมรับการมีอยู่ของสิ่งเหล่านั้น และรู้ถึงบทบาทหน้าที่สิ่งเหล่านั้นเท่านั้นเองไม่ว่าจะอักขระคำสาป สระเย็นหรือว่าสุราน้ำเต้า ก็ล้วนมีไว้เพื่อสะกดพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงบนตัวเฟิงเหยียนเท่านั้น เพื่อไม่ให้พลังศักดิ์สิทธิ์ทำร้ายร่างกายเขามากเกินไปแต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าสิ่งเหล่านี้มันมาอย่างไรกันแน่ สร้างออกมาได้อย่างไร?พอคิดถึงอักขระคำสาปทั้งตัวของสุ่ยจิ้งหลาน หุ่นเชิดความมืดที่ถูกบูชายัญทิ้ง...รวมถึงหวงเจี้ยนถังที่วิชาหุ่นเชิดธรรมดา แต่หลอมสกัดหุ่นเชิดได้ไม่เลว และเพราะการหลอมหุ่นเชิดความมืดสะสมกรรมไว้มากเกินไป คนจึงได้มีสภาพเหมือนศพแห้งไปแล้วและยังมีคำพูดที่มีเชิงเตือนหน่อยๆ ของปันอวิ๋นก่อนหน้านี้ ทำให้นางเข้าใจได้รางๆ ว่าเบื้องหลังของสำนักเมฆาวารี
Read more

บทที่ 1206

ถึงอย่างไร ถ้าหากนางเดาไม่ผิดล่ะก็ เป็นไปได้มากว่า พละกำลังหลังจากบูชายัญหุ่นเชิดความมืดเหล่านั้น ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นวัตถุดิบสิ้นเปลืองอย่างหนึ่งสำหรับสุราน้ำเต้าของเขา พลังที่เก็บอยู่ในอักขระคำสาปของเขา และวัสดุสิ้นเปลืองในสระเย็นของเขาก็เป็นได้?เรื่องมากมายในใจจั๋วซือหราน สว่างจ้าขึ้นมาทันทีทันใดจั๋วซือหรานร้องชิขึ้นมา เอียงตาสบกับสายตาซับซ้อนของปันอวิ๋นนางเลิกคิ้ว จากนั้นก็หัวเราะ "เจ้าหุบเขาทำไมมองข้าเช่นนั้น?"ปันอวิ๋นเงียบไปพักหนึ่ง "แค่รู้สึกโชคดี ที่ไม่ได้ไปผิดใจอะไรกับเจ้า"จั๋วซือหรานยกมุมปากยิ้มปันอวิ๋นถามขึ้น "ดูท่า เจ้าไปเนินเขาเมฆาวารีครั้งนี้ น่าจะแก้ปัญหาได้แล้วสินะ?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ถือว่าแก้ได้แล้วกระมัง แล้วก็...ยังได้ญาติเพิ่มมาด้วย?"จั๋วซือหรานรู้สึกว่าคำพูดนี้ขอตนเองไม่ได้ถูกไปทั้หงมด ถึงอย่างไรตนเองก็ไม่ได้คิดจะไปนับญาติแต่ในตอนนี้ นางก็ยังคิดคำที่ดีกว่าไม่ออกคำพูดนี้ทำเอาปันอวิ๋นงงงัน "นับญาติ?""อืม" จั๋วซือหรานพยักหน้าเบาๆ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว "สามีของสุ่ยจิ้งหลานคนนั้น..."นางพูด พลางยกมุมปาก เผยรอยยิ้มเย้ยหยัน จากนั้นจึงเรียกออกมาอย่างแผ่วเบา
Read more

บทที่ 1207

จั๋วซือหรานไม่มีความรู้สึกแบบนั้น นางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมในใจมากสุดก็แค่รู้สึกไม่ค่อยดี แต่ไม่ได้ไปถึงจุดนั้นความทรงจำเจ้าของร่างเดิม เหมือนถูกกั้นไว้ด้วยกระจกชั้นหนึ่งในสมองของนางต่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่าภายในทุกข์ยากลำบากเพียงใดแต่ก็ไม่มีความอบอุ่นใดอยู่ถึงแม้นางจะไม่มีความรู้สึกแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่จะไม่เข้าใจจิตใจจั๋วหวายในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเติบโตของเด็กชาย คือการอยู่ด้วยกันและการชี้แนะของพ่อในความทรงจำเขา ไม่มีมันเลยสักวันคนอื่นล้วนมีพ่ออยู่ด้วย แต่เขาทำได้แค่ปลอบใจตัวเองอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ มีพี่สาวอยู่กับตนเองเขาคิดมาตลอดว่าคนคนนั้นตายไปแล้วแต่ตอนนี้พี่สาวกลับบอกตนเองว่า เขายังอยู่มาตลอด แค่ไม่ได้กลับมาอีกเลยเท่านั้นความรู้สึกจมดิ่งนี้ ไม่เหมือนกับการที่เขาตายไปแล้วอย่างสิ้นเชิงแล้วยังไม่สามารถโกรธแค้นได้ ถึงอย่างไร เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ...เหตุผลถึงจะเข้าใจแล้ว แต่ก็ยังคงเสียใจจั๋วหวายตาแดงก่ำ ในที่สุดก็กลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่ โถมใบหน้าซบลงที่ไหล่ของพี่สาวอย่างแรงน้ำตาซึมเข้าไปในเนื้อผ้าบนไหล่จั๋วซือหรานอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานยกมือขึ้นมา ตบเบา
Read more

บทที่ 1208

ตอนนี้ จึงเอ่ยถามขึ้นเสียงต่ำ "เจ้ายังไหวไหม?"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว จากนั้นจึงถอนหายใจ "ไม่ค่อยดีเท่าไร"ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดอยู่ว่าจะปลอบอย่างไร แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่มีนิสัยปลอบใจคนก็เลยไม่พูดอะไรไปพักหนึ่งจากนั้นจึงได้ยินจั๋วซือหรานพูดด้วยอาการขมวดคิ้ว "ผิดแผนเสียแล้ว ถ้ามีปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้ไวหน่อย ก็คงไม่ปล่อยหวงเจี้ยนถังไปแล้ว ต้องพาเขาลงไปด้วย ทักษะการหลอมสกัดหุ่นเชิดความมืดของเขา ยังพอมีประโยชน์อยู่"ปันอวิ๋นฟังถึงจุดนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา "เท่านี้หรือ?"จั๋วซือหรานมองเขาแล้วจึงได้ยินเขาพูดว่า "ก็แค่หลอมหุ่นเชิดความมืดนี่ ข้าเองก็ทำได้นะ"จั๋วซือหรานคิดๆ แล้วมันก็จริง ถึงแม้หุ่นเชิดความมืดของปันอวิ๋นจะสะอาดกว่ามาก ไม่เหมือนหุ่นเชิดที่หวงเจี้ยนถังหลอมสกัดออกมา เต็มไปด้วยอักขระคำสาปและไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบถึงประสิทธิภาพหรือไม่แต่ว่า เขาเองก็ไม่ใช่ว่าจะลองดูไม่ได้จั๋วซือหรานยิ้มถามว่า "นั่นสิ เช่นนั้นเจ้าจะช่วยข้าไหม?"ปันอวิ๋นยิ้มตอบว่า "แล้วเจ้าจะแต่งงานกับข้าไหมล่ะ?"จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำนี้ ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆปันอวิ๋นร้องชิ เหมือนเดาได้ว่านางจะมีปฏิกิริยา
Read more

บทที่ 1209

ปันอวิ๋นไม่พูดอะไรเลย พูดมากก็ผิดมากสมองหญิงของหญิงสาวคนนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ พูดเกินมาสักคำอาจะถูกนางแกะรอยบางอย่างออกมาจากในน้ำเสียงได้เลยปันอวิ๋นเม้มปากนิ่งงันอยู่พักหนึ่งจั๋วหวายล้างหน้ากลับมาแล้ว ปันอวิ๋นก็ยังไม่พูดอะไรจั๋วหวายล้างหน้าจนสะอาด แต่จมูกกับดวงตายังคงแดงรื้นเสียงเองก็ยังมีแววสะอื้นอยู่ แต่น้ำเสียงกลับสงบลงไปไม่น้อย ตั้งใจถามจั๋วซือหรานว่า "ท่านพี่ แล้วต่อจากนี้ พวกเราไปไหนกันล่ะ? เรื่องที่สำนักเมฆาวารีคือจบแล้วใช่ไหม?""จบแล้ว" จั๋วซือหรานเท้าคางบนโต๊ะ ดูเอื่อยๆ เฉื่อยๆใครมาเห็นสภาพนี้ของนาง ก็คงมองไม่ออกว่านางเคยขึ้นไปดีดนิ้วล้มเชลยลงไปตั้งมากมายบนเนินเขาเมฆาวารีแน่นอน"งั้นพวกเรากลับกันไหม?" จั๋วหวายถาม เขาเม้มปาก เอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว "ข้าคิดถึงท่านแม่แล้ว"เดิมทียังไม่ได้รู้สึกคิดถึงท่านแม่ขนาดนั้น แต่หลังจากรู้เรื่องของท่านพ่อจั๋วหวายก็รู้สึกคิดถึงท่านแม่ขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้หลายปีมานี้ ความทรมานในใจท่านแม่...จั๋วซือหรานครุ่นคิด "ตาหลักแล้วก็ไม่ใช่จะไม่ได้นะ เดิมทีก็ตัดสินใจไว้แบบนี้นั่นล่ะ แต่ตอนนี้ มีเรื่องอื่นที่อยากไปทำเสียแล้ว"จั๋วซือหรานมองจ
Read more

บทที่ 1210

เดิมทีปันอวิ๋นยังรู้สึกลังเลต่อเรื่องที่จั๋วซือหรานคิดจะกลับไปหุบเขาหมื่นพิษพร้อมกับเขาแต่หลังจากที่จั๋วซือหรานยกกับข้าวเหล่านั้นเข้ามา ความคิดของปันอวิ๋นก็ไม่เหลือความลังเลอีกเลยก็แค่กลับหุบเขาหมื่นพิษเองนี่ กลับก็กลับสิวันต่อมาบรรยากาศเศร้าหมองหดหุ่แต่เดิมบนสำนักเมฆาวารี ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงฉับพลันเพราะใครก็คิดไม่ถึง ว่าคนที่ตายไปแล้วแท้ๆ!คนที่ตายไปแล้วและถูกจัดการศพเรียบร้อย แค่รอตั้งศพสักสองสามวัน ก็ไปจัดพิธีฝังพร้อมกันได้พวกนั้นกลับทยอยกัน 'คืนชีพ' ขึ้นมาแล้ว!เหล่าศิษย์ที่เศร้าโศกเสียใจเพราะการตายของพวกเขา หลังจากผ่านความตกตะลึงและความสับสนวุ่นวายไปครู่หนึ่งก็เริ่มดีอกดีใจกันขึ้นมา"ให้ตายเถอะ! พวกเจ้ายังไม่ตาย!""แม่นางจั๋วคนนั้น เดิมทีไม่ได้คิดจะสังหารคนอยู่นี่นี่นา!""ข้าคิดว่าพวกเจ้าตายไปแล้วเสียอีก!""นางออมมือให้แบบนี้ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ!"นี่คือเสียงแห่งความยินดีแต่หลังจากเสียงแห่งความยินดี ก็มีเสียงอื่นปรากฏขึ้นแล้วมาจากคนที่ตายแล้วฟื้นพวกนั้น"คนนอกยังรู้จักออมมือมีเมตตาเลย แต่เจ้าสำนักกลับ...ทอดทิ้งพวกเราหรือ?""ข้ายังคิดว่าข้าจะตายแล้วเสี
Read more
PREV
1
...
119120121122123
...
126
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status