Share

บทที่ 1196

Author: หูเทียนเสี่ยว
รู้สึกแค่หวงเจี้ยนถังไม่รู้พูดจาประชดประชันอะไรอยู่

จั๋วเฮ่ออิงขมวดคิ้ว จ้องหวงเจี้ยนถังเย็นชา "ถ้าจะฉีกหน้ากันจริง เจ้าจะเป็นคนแรกที่ถูกเอาไปบูชายัญ รีบๆ หุบปากซะ"

หวงเจี้ยนถังถูกคำนี้ของเขาขัดจังหวะ เดิมทียังคิดจะอาละวาด แต่พอคิดถึงสิ่งที่หญิงบ้าคนนี้พูดไว้ก่อนหน้า ว่าพอถึงเวลา จะโบกดาบมาทางเขาเป็นคนแรก...

หวงเจี้ยนถังจึงนิ่งเงียบไป

จั๋วเฮ่ออิงไม่พูดอะไรอีก แค่จ้องมองจั๋วซือหรานต่อ ในสายตาแฝงแฝงไว้ด้วยการไถ่ถาม

เห็นได้ชัดว่าความคิดก่อนหน้านี้ยังไม่หายไป ยังคิดอยากจะคุยกับจั๋วซือหรานก่อน

จั๋วซือหรานครุ่นคิด เลิกคิ้วขึ้น "ก็ไม่ใช่จะไม่ได้"

"เช่นนั้นเชิญ" จั๋วเฮ่ออิงทำสัญญาณมือเชื้อเชิญ นำจั๋วซือหรานเข้าไปในตำหนักหน้า

จั๋วซือหรานเดินเข้าไปยังตำหนักหน้า พิจารณาฉากด้านใน

สำนักเมฆาวารีไม่ถือเป็นสำนักที่ใหญ่เป็นพิเศษอะไร แต่ดูจากตำหนักหน้าและลานกว้างหน้าประตูตำหนักแล้ว ดูโอ่อ่าเอาการอยู่

พวกสำนักใหญ่ๆ เหล่านั้นจะมีขนาดโอ่อ่าแค่ไหน ไม่กล้าคิดเลยจริงๆ

"ดื่มชาไหม?" เสียงชายหนุ่มที่ดูหนักแน่นแต่อ่อนโยน ดังลอดเข้ามาจากด้านหน้า

น่าจะเพราะ เสียงนี้ในความทรงจำ อันที่จริงก็คุ้นเคยอยู่แล้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1197

    เพราะ ถ้าหากอีกฝ่ายรู้จักชีพจร รู้ว่ามีจุดสำคัญของโรคอะไรอยู่ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นแพทย์ยาพิษที่เก่งล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะใช้ยาพิษบางอย่างมาจี้จุดสำคัญของโรคนี้เข้าก็ได้ยังไม่ต้องพูดถึงใคร เอาแค่จั๋วซือหรานที่ถูกซือคงอวี้เล่นงานในวังสวนตอนนั้น ตามหลักแล้วด้วยฝีมือของนาง ไม่มีทางจะถูกวางยาเล่นงานได้แน่นอนแต่เพราะนางตอนนั้นร่างกายรับภาระจากพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงอยู่ จึงทำให้นางถูกยาเฉพาะทางเล่นงานเข้าประมาณนี้นั่นล่ะจั๋วเฮ่ออิงต้องเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวตรงหน้ายังเป็นศัตรูของสำนักอีกด้วยตามหลักแล้วไม่ควรจะปล่อยวางความระมัดระวังได้แบบนี้แต่จั๋วเฮ่ออิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงยกมือไปทางนาง ยื่นข้อมือส่งไปใต้นิ้วขาวนวลของนางดูเหมือน...ไม่มีการป้องกันใดๆ เลยจั๋วซือหรานที่สงบนิ่งอยู่ตลอด กระทั่งสีตายังดูเย็นชาอยู่หน่อยๆพริบตานี้ก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมานิ้วของนางแตะเบาๆ ลงไปบนชีพจรของจั๋วเฮ่ออิง..."บังอาจนัก! ปล่อยเขานะ!"ปลายนิ้วของจั๋วซือหรานแตกลงไปไม่เท่าไร นอกประตูก็มีร่างหนึ่งแฉลบพุ่งเข้ามา!เขาถลึงตาจ้องจั๋วซือหรานด้วยความโกรธ "กำเริบเสิบสานในเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1198

    ยิ่งไปกว่านั้นระดับหุ่นเชิดความมืดของสุ่ยจิ้งหลาน ยังแตกต่างกับระดับหุ่นเชิดความมืดที่จั๋วซือหรานเคยเห็นมาก่อนหน้านี้เสียอีกหวงเจี้ยนถังตามหลักการแล้วน่าจะเป็นคนที่หลอมหุ่นเชิดความมืดได้ดีมากของสำนักเมฆาวารีแล้วแต่หุ่นเชิดความมืดเหล่านั้นของเขา หลังจากจั๋วซือหรานเก็บกลับมาก็ถูกค้นคว้าจนหมดแล้วตอนนี้พอได้เห็นหุ่นเชิดความมืดของสุ่ยจิ้งหลานเหล่านี้ จั๋วซือหรานก็รู้เลยว่ามันเทียบกันไม่ได้สุ่ยจิ้งหลานคุ้นเคยกับการควบคุมหุ่นเชิดความมืดมากจั๋วซือหรานค้นพบอย่างรวดเร็ว แทนที่จะบอกว่าเป็นความยอดเยี่ยมของวิชาหุ่นเชิด สู้บอกว่าเป็นความยอดเยี่ยมของการควบคุมหุ่นเชิดเข้าต่อสู้ของนางจะดีกว่านางควบคุมหุ่นเชิดหลายตัวพร้อมกัน แบ่งงานกันไปแต่ละตัว แล้วยังมีรูปแบบขบวนทัพอีกด้วยเทียบกับสถานการณ์ที่หุ่นเชิดทั้งหมดพุ่งเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่งแล้ว การแบ่งงานกันตามหน้าที่ของแต่ละตัวตอนนี้ ดูจะตึงมือเสียกว่าจั๋วซือหรานแววตาเย็นลง ไม่มีรีรอเดิมทีนางก็ไม่ใช่คนที่จะดูถูกศัตรูอยู่แล้ว ปฏิบัติตามแนวทางที่นักยุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดในชาติที่แล้วชี้แนะมาโดยตลอด บนเชิงยุทธศาสตร์ให้ดูถูกศัตรูไว้ แต่ในเชิง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1199

    พอได้ยินสุ่ยจิ้งหลานโต้แย้งกลับมา จั๋วซือหรานก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรนางเอ่ยต่อเสียงเรียบว่า "ข้าอาจจะพูดไร้สาระก็ได้...แต่ว่าเจ้าสำนักสุ่ยเป็นถึงเจ้าสำนักเมฆาวารีแท้ๆ แต่ดูไม่ค่อยจะพิถีพิถันเท่าไรเลยนะ"จั๋วซือหรานมองนางสายตาเย็นชา "เก็บชายสมองพังกลับมาเป็นสามีแบบนี้ ไม่สนว่าเขาจะแต่งงานแล้วหรือยัง มีครอบครัวแล้วหรือยัง ในบ้านมีภรรยายังรอให้เขากลับไปหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานยิ่งพูด สีหน้าสุ่ยจิ้งหลานก็ยิ่งขาวซีด"พอเก็บกลับมาก็แต่งงานทันที ถ้าไม่รู้คงได้คิดว่าเจ้าสำนักสุ่ยขาดผู้ชายเป็นแน่ เอาจริงๆ ถ้าหากเขามีภรรยาอยู่แล้วล่ะ? ดังนั้นข้าถึงบอกว่าเจ้าสำนักสุ่ยนี่ไม่พิถีพิถันเอาซะเลย"จั๋วซือหรานมองนางอย่างเย็นชา "เป็นถึงเจ้าสำนักเมฆาวารี แต่ดันทำตัวเป็นอนุภรรยาเสียอย่างนั้น?"คำพูดเหล่านี้ของจั๋วซือหราน ในที่สุดก็ทำให้อารมณ์ของสุ่ยจิ้งหลานพังทลายลงอย่างสิ้นเชิงหญิงสาวที่บุกมาบนเนินเขาเมฆาวารีคนนี้ ดูเหมือนแค่พูดไม่กี่คำ ก็ฉีกหน้ากากภาพลักษณ์ครอบครัวที่นางพยายามสร้างมาอย่างยาวนานลงได้ง่ายๆ เลยดวงตาสุ่ยจิ้งหลานแดงก่ำ นางเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาว่า"ไม่มี! เขาไม่มีบ้าน! บ้านของเขาคื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1200

    จั๋วซือหรานกระทั่งตั้งตัวไม่ทันว่าจั๋วเฮ่ออิงเข้ามาอยู่ตรงหน้าตนเองเมื่อไรเขาจับคมแหลมที่สุ่ยจิ้งหลานโบกเข้ามาเมื่อครู่เอาไว้การโจมตีนี้สุ่ยจิ้งหลานซัดมาหาจั๋วซือหราน ดังนั้นพูดได้ว่าตรงไปตรงมาสุดๆฝ่ามือของจั๋วเฮ่ออิง รู้สึกเหมือนถูกเฉือนออกไปอย่างไรอย่างนั้นแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือเลยจั๋วเฮ่ออิงมองภรรยาตรงหน้า ในสายตาเขาไม่มีความโกรธแค้นใด ยังคงสงบนิ่งพูดแค่ว่า "ให้นางพูดให้จบ"ดวงตาสุ่ยจิ้งหลานเบิกโพลงเลื่อนลอย ริมฝีปากสั่นระริก เหมือนต้องการจะเรียกเขาอีกสักครั้ง แต่กลับไม่อาจเปล่งเสียงอะไรออกมาได้เลยครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า "นาง...พูดแต่เรื่องไร้สาระนะ...""ไม่เป็นไร ให้นางพูดให้จบ" จั๋วเฮ่ออิงเสียงเรียบ "ต่อให้จะไร้สาระ แต่ให้นางพูดให้จบก่อนก็ยังไม่สาย"จั๋วซือหรานมองร่างสูงใหญ่ตรงหน้า อันที่จริงในใจก็ค่อนข้างสงบอยู่ก่อนหน้านี้เพราะเรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน และรู้สึกประหลาดใจที่จู่ๆ จั๋วเฮ่ออิงก็กระโจนตัวออกมา แต่ตอนนี้หลังจากตั้งสติได้ ในใจก็ค่อนข้างสงบพอควรเพียงแต่ตอนนี้ ในสมองกลับค่อยๆ มีภาพร่างสูงใหญ่นั้นในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมแล่นออกมาร่าง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1201

    หลังจากหมอกลวงตาที่พันล้อมอยู่ในสมองมาตลอดนี้ ถูกพลังใสสะอาดอบอุ่นวูบหนึ่งถูกปัดออกไปดวงตาของจั๋วเฮ่ออิงก็เบิกโพลงขึ้นมาในดวงตามีประกายไม่อยากเชื่อปรากฏขึ้น ริมฝีปากเองก็เริ่มสั่นระริกขึ้นมาอันที่จริงการฟื้นคืนความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในพริบตาอย่างตอนที่จั๋วซือหรานข้ามภพมาตอนนั้น ชิ้นส่วนความทรงจำเจ้าของร่างเดิมมากมาย ก็ค่อยๆ เก็บกลับมาได้ทีละเล็กทีละน้อยตอนนี้จั๋วเฮ่ออิงเองก็ใกล้เคียง ความทรงจำไม่ใช่ว่าหลั่งทะลักเข้ามาในพริบตาแต่เป็นชิ้นส่วนความทรงจำบางส่วน ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองหลังจากหมอกลวงตาเหล่านั้นถูกกวาดออกไป ภาพที่ปรากฏขึ้นในชิ้นส่วนความทรงจำในสมองอันดับแรกในภาพนั้น คือใบหน้าสวยงามอ่อนโยนของหญิงสาวคนหนึ่ง รอยยิ้มหวาดพร้มกับใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอายหน้าแดงก่ำพูดกับเขาว่า "ข้าไม่เรียนกท่านว่าเฮ่ออิงแล้วจะให้ข้าเรียกว่าอะไรล่ะ...สา สามีดีไหม?"และเขาก็ลูบหน้านางเบาๆ "ภรรยาที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามกฏหมายของข้า เรียกว่าสามีก็ถูกแล้วนี่? ทำไมต้องหน้าแดงกัน?""..." หญิงสาวที่ใบหน้าเล็กแดงก่ำ น่าจะเพราะหน้าบางมาแต่ไหนแต่ไร ตามหลักแล้วพอถูกหยอกแบบนี้บางท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1202

    สุ่ยจิ้งหลานที่ระวังนาง เดิมทีก็คือระวังเรื่องสถานะนี้ของนางนั่นเองตอนที่จั๋วซือหรานออกไป หางตาก็เหลือบไปเห็นร่างบางร่างหนึ่งหลบเข้าไปในมุมกำแพงจั๋วซือหรานเหลือบมองไป ดูจากชุดแล้วก็มองออกไม่ยากถึงความสูงส่งของฐานะในสำนักเมฆาวารีไหนจะสองตาที่คล้ายกับตนเองนั่นอีก...ไม่สิ บางทีควรจะพูดว่า แค่เห็นก็รู้ว่าคิ้วตาคล้ายกับจั๋วเฮ่ออิงจั๋วซือหรานเดาตัวตนฐานะของนางได้แล้ว น่าจะเป็นคุณหนูสำนักเมฆาวารี สุ่ยเชียนโยวลูกสาวคนเดียวของสุ่ยจิ้งหลานจั๋วซือหรานไม่ใช่พระโพธิสัตว์ สุ่ยเชียนโยวคนนี้หลอกน้องชายนาง แล้วยังจับน้องชายนางมาที่สำนักอีก สำหรับจั๋วซือหราน ถือว่าเป็นศัตรูคู่แค้นแต่ตอนนี้ จั๋วซือหรานก็ยังมองดวงตาสุ่ยเชียนโยวเงียบๆดวงตาของคนไม่โกหกใครจั๋วซือหรานมองไม่เห็นแววตาของผู้บริสุทธิ์จากดวงตาที่คล้ายกับตนเองคู่นี้เลยสุ่ยเชียนโยวคนนี้ แม้ร่างกายจะไม่ดี แต่ในดวงตาของนาง กลับไม่มีความใสสะอาดอยู่เลย ดวงตาค่อนข้างซับซ้อนดูท่า นางไม่เพียงแต่รู้เรื่องผู้ทดลองยาเท่านั้น แต่น่าจะค่อนข้างเข้าใจเป็นอย่างดีด้วยจั๋วซือหรานยกมุมปากเดินออกไปยังลานตำหนักหน้าเหล่าเชลยพวกนั้นพอเห็นนางออกม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1203

    ขนมชาเขียวพอได้ยินคำชมก็ดีใจ เอ่ยขึ้นอย่างภาคภูมิใจเล็กๆ ว่า "นายท่าน ไหมกู่ที่ข้าวางไว้บนตัวพวกเขา ควบคุมได้แค่วันเดียว หลังจากผ่านไปหนึ่งวันพวกเขาก็ฟื้นแล้ว""ไม่เป็นไร หนึ่งวันก็พอ" จั๋วซือหรานตอบหนึ่งวันก็เพียงพอที่จะปั่นป่วนทิศทางของสำนักเมฆาวารีแล้ว และหนึ่งวันก็เีพยงพอที่จะแพร่กระจายเรื่องเหล่านี้ออกไปด้วยจั๋วซือหรานแม้จะไม่หาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกได้แล้วก็ไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์ไม่เลือกหน้าด้วยถ้าจะให้นางต้องฆ่าคนมากขนาดนี้จริง ดาบมือในต้องยกขึ้นยกลงเสียเวลาตาย นางขี้เกียจสั่งสอนสักหน่อยก็พอแล้วเพียงแต่หลังจากที่พูดเรื่องนี้ไป เจ้าเจ็ดตัวก็ยังคงทะเลาะกันในมิติอยู่ดีไม่ใช่อะไรอื่น เป็นเพราะหุ่นเชิดความมืดที่จั๋วซือหรานรวบรวมมาให้เป็นภาชนะของพวกมัน...หน้าตาไม่เหมือนกันเป็นแบบที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ จั๋วซือหรานเข้าใจดี ครอบครัวฝาแฝดซื้ออะไรก็ต้องเหมือนกันให้ตายเถอะ แล้วนางทางนี้มีอยู่เจ็ดตัว จากนั้นหุ่นเชิดความมืดพวกนี้ก็แตกต่างกันอีกนี่จะฆ่านางให้ตายเลยใช่ไหมนะ?จั๋วซือหรานได้ยินเสียงทะเลาะกันของทั้งเจ็ดตัว เอาจริงๆ นะ...หนวกหูชมัดแต่จะว่าอย่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1204

    นางจึงไปรดน้ำให้กับต้นอู๋ถงเสียหน่อยจากนั้นก็บอกกับแมงมุมน้อยว่า "ข้าไม่ได้อารมณ์ไม่ดี แค่รู้สึกว่า..."จั๋วซือหรานคิดๆ ว่าควรใช้คำพูดแบบไหน สุดท้ายจึงพูดแค่ "เศร้าใจ แค่เศร้าใจเท่านั้น"โชคชะตาคงเล่นตลกกระมังถ้าจั๋วเฮ่ออิงยังอยู่ เจ้าของร่างเดิมคงไม่เจอกับวันคืนเช่นนั้นไม่แน่ คงจะเป็นองค์หญิงน้อยในมือของพ่ออยู่ตอลด ไม่ต้องแบกรับภาระหนักอึ้ง และคงไม่ถูกจั๋วหรูซินให้ฉินตวนหยางมาทำร้ายด้วยพิษกู่และก็คงไม่ตายแต่ถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะไม่เกิดเรื่องของจั๋วซือหรานอย่างนางขึ้นพอคิดเช่นนี้ นอกจากความเศร้าสลด ก็เหมือนจะไม่มีอารมณ์อื่นใดแล้วจั๋วซือหรานเดินลงมาจากบนเขา ไม่มีใครมาขวางนางก่อนหน้านี้มีคนขวางนาง นั่นก็เพราะได้ยินแค่ข่าวลือ แต่ไม่เข้าใจความสามารถของนางทว่าตอนนี้ ได้เห็นฤทธิ์เดชของนางที่เนินเขาเมฆาวารีแล้ว และการดีดนิ้วของนางที่ 'สังหาร' คนไปมากมายเมื่อครู่ พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นแค่กลอุอายที่จั๋วซือหรานให้เจ้าพวกก้อนเนื้อเตรียมไว้ล่วงหน้าในสายตาพวกเขา ความแตกต่างของพลังแบบนี้ ใครก็รู้ว่าถ้าขึ้นไปคือตายเปล่า จึงไม่มีใครออกมาตายเปล่ากันดังนั้นจั๋วซือหรานลงจึงลงเ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status