ผ่านไปได้ไม่นาน รถมายบัคของหลินเฟิงก็มาจอดลงที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลหลี่เขามาที่นี่ครั้งล่าสุดก็เมื่องานศพของหลี่ชานเหอหลินเฟิงมองไปรอบ ๆ บริเวณคฤหาสน์ตระกูลหลี่ ในใจก็ตัดสินใจสิ่งหนึ่งได้วันนี้เขาจะพาหลี่ฮุ่ยหรานกลับไปอยู่ที่อ่าวเทียนสุ่ยคฤหาสน์นี้ก็เก็บเอาไว้จางกุ้ยหลานกับหลานสาวของเธอไปเถอะถ้าเกิดว่าเธอรู้ตัวแล้วไม่มาหาเรื่องเขาอีกในตอนที่เขากำลังจะกดกริ่งนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอเป็นเบอร์แปลกหน้าหลินเฟิงไม่ได้ลังเล เขาจึงกดรับสายทันทีในตอนนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงที่ทั้งเข็มแข็งและเข้มงวดของชายแก่คนหนึ่ง“เฟิงเอ่อร์ ไม่คิดเลยนะว่าแกจะยังมีชีวิตอยู่”น้ำเสียงนี้ทำให้เขานึกย้อนไปถึงช่วงเวลาในอดีต มือที่จับโทรศัพท์อยู่สั่นอย่างรุนแรง เขาพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองก่อนจะพูดออกไปด้วยเสียงราบเรียบ “ดูแล้วการที่ผมยังมีชีวิตอยู่จะทำให้คุณแปลกใจมาก ๆ งั้นเหรอ?”“หึหึ เฟิงเอ่อร์ยังคิดแค้นฉันอยู่เหรอ?”น้ำเสียงนั้นเหมือนกับว่าลอดผ่านหูของเขาเข้าไปที่สมอง“เสิ่นหานเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้รับคำแต่เปลี่ยนเป็นย้อนถามแทน“เปล่า ไม่ใช่เสิ่นหานแต่เจียงโจวเกิดเรื่อง
Read more