ถ้าหากพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานไปยั่วยุเทพหลินเฟิงคนนี้เข้า มันก็คงจะจบลงอย่างสิ้นเชิง!เมื่อหลี่ฟางเห็นคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบต่างมองเขาด้วยความสงสัย หลี่ฟางก็กลืนน้ำลาย และขยับขัยบเข้าไปใกล้หูของพ่อตัวเองแล้วพูดว่า: “พ่อ หลินเฟิงน่ากลัวกว่าที่พ่อคิดไว้นะ!”เขาบอกเรื่องทั้งหมดกับพ่อของตัวเองที่หลินเฟิงทำกับตระกูลกู้ และเมื่อหลี่กงเฉิงฟังจบแววตาก็มืดมน จนเกือบจะสลบล้มลงไปตรงนี้คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่หลินเฟิงพูดจะเป็นความจริงทั้งหมด!ไม่ได้คุยโวโอ้อวดด้วยซ้ำคนอย่างพวกเขามองเหตุการณ์ได้ไม่ไกล จนไม่รู้ว่าเบื้องหลังของหลินเฟิงมีพลังแบบไหนด้วยซ้ำถึงขนาดอยากจะไว้ชีวิตหลินเฟิง แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนแบบนี้แล้ว หลินเฟิงปล่อยพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานให้มีชีวิตอยู่ต่อได้ก็ไม่เลวแล้ว!“ตุบ!” หลี่กงเฉิงก็คุกเข่าให้กับหลินเฟิงเช่นกัน“คุณชายหลินเฟิง ผม...ผมหลี่กงเฉิงที่สายตาสั้นมองการณ์ได้ไม่ไกล ถึงขนาดคิดเอาเองฝ่ายเดียวอยากจะวัดความสามารถของคุณชายหลินเฟิ ผมสมควรตาย!”“ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของผม มีตาหามีแววไม่!”หลี่กงเฉิง คนสำคัญอันดับสอ
แต่หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดของหลินเฟิงที่ให้หลี่หยวนทำตามที่เดิมพันไว้ ก็รู้ว่าการตบตาของเธอไม่สำเร็จ แต่เพื่อลูกชายของเธอ ก็มองไปทางหลี่กงเฉิง“ตาเฒ่า คุณรีบขอร้องคุณชายหลินเฟิงเร็วเข้าเถอะ!”ถ้าหลี่หยวนตายเพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็คงจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน“คุณชายหลินเฟิง เด็กคนนี้มีนิสัยดื้นรั้นหัวแข็ง เพียงเพื่อให้บรรยากาศคึกคักก็เลยพูดตลกไปแบบนั้น ได้โปรดคุณให้อภัยด้วย....”หลี่กงเฉิงก็ไม่ได้อยากเห็นลูกชายคนเล็กของตัวเองตายอย่างน่าหดหู่ใจเช่นอย่างนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เพียงมองหลินเฟิงอย่างอ้อนวอนเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองโง่เขลาแบบนี้ หลี่กงเฉิงก็เลยตบหน้าหลี่หยวนลูกชายของตัวเองต่อหน้าทุกคน“ยังไม่รีบกราบขอโทษคุณชายหลินเฟิงอีกเหรอ?!”หลี่หยวนถูกพ่อตบจนได้สติขึ้นมา เขารีบคุกเข่าแล้วกราบลงไป “คุณชายหลินเฟิง เมื่อครู่ผมล้อเล่นกับคุณครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกคุณอย่างแน่นอน”“หือ?”หลินเฟิงเอียงศีรษะ ก่อนจะมองไปที่หลี่เยว่หรูที่นั่งตัวสั่นคุกเข่าอยู่ไกล ๆ“ถ้าอย่างนั้นทำไมผมถึงได้ยินคนพูดว่า คุณเป็นคนที่หัวรั้นนะ?”“ถึงขั้นที่ใครบางคนก็ยังอยา
หลังจากนั้นประมานหนึ่งชั่วโมงหลินเฟิงปฏิเสธคำเชิญงานเลี้ยงของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน ก่อนจะขับรถพาหลี่ฮุ่ยหรานและแม่ลูกจางซินรีบกลับคฤหาสน์ของตระกูลหลี่เมืองเจียงเป่ยรอบนี้ถือว่าเป็นผลสำเร็จไม่น้อยถึงแม้หลินเฟิงจะปฏิเสธค่าชดเชยทรัพย์สินเงินทองจากตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน แต่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ยังหาวิธีอื่นเพื่อเอาใจหลินเฟิงนั่นก็คือหลี่ฮุ่ยหรานหลี่กงเฉิงตบหน้าอกเพื่อแสดงให้เห็นว่า ในอนาคตเขาจะร่วมลงทุนอย่างเต็มที่ในหลี่ซื่อกรุ๊ป และช่วยพัฒนากิจการของหลี่ฮุ่ยหรานให้ยิ่งใหญ่และแข็งแรงและนำมรดกทั้งหมดของพ่อหลี่ฮุ่ยหรานส่งมอบให้หลี่ฮุ่ยหรานจัดการส่วนหลี่หยวนนั้นสุดท้ายการเดิมพันที่เขาสร้างขึ้นมา ก็ยังถูกพี่ใหญ่ของตัวเองบังคับให้ปฏิบัติเพียงแต่การลงโทษนั้นเบากขึ้นมาหน่อย นั่นคือการให้เขาผลัดกันจูบก้นสุนัขตัวใหญ่ที่ตัวเองเลี้ยงไว้ถึงแม้หลี่หยวนจะทำหน้ามุ่ยตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามหลังจากนั้นเขาก็ไปบ้วนปากและแปรงฟันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วันต่อมา ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ส่งคนไปย้ายหลุมฝังศพของคุณปู่หลี่ให้กลับไปยังครอบครัวนี่ก็ถือได้ว
ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะพูดแบบนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้รู้จักหลินเฟิงดี ถึงขั้นที่ยังรู้จักเธอด้วยเธอรู้นิสัยของหลินเฟิงดี และชายชราคนนี้คงจะมีปัญหาอะไรบางอย่างกับหลินเฟิงแน่ ๆ“ผู้อาวุโสท่านนี้ โปรดอย่าโกรธหลินเฟิงเลย ทำไมถึงไม่เข้าไปนั่งพักในบ้านสักหน่อย ฉันดูแล้วคุณน่าจะรอมานานแล้วสินะคะ?”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ไกลๆเห็นได้ชัดว่า เฮลิคอปเตอร์ลำนี้น่าจะจอดมานานพอสมควรแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ดึงดูดผู้คนมาล้อมดูกันเยอะขนาดนี้“หึหึ สาวน้อยมีมารยาทอย่างยิ่ง ไม่เลวเลย”อาฝูยิ้มอย่างใจดี กำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่ไม่คิดว่าหลินเฟิงจะก้าวมาข้างหน้า ขวางทางชายชราเข้าบ้านเอาไว้“มีเรื่องอะไรก็พูดตอนนี้เถอะ พูดแล้วก็รีบไป”“ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้าน ไม่จำเป็นหรอก”เมื่อเห็นหลินเฟิงไม่มีมารยาทขนาดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็เลิกคิ้วขึ้นแต่เธอคิดดูอีกครั้งหลินเฟิงไม่ใช่คนที่ไม่เคารพผู้อาวุโสถ้าหากหลินเฟิงไม่ได้มีท่าทางที่ดีต่อเขา ถ้างั้นตัวเองก็ยิ่งไม่ควรมองข้ามท่าทางของหลินเฟิงแล้วไปทำเรื่องเกินความจำเป็นดังนั้นหลี่ฮุ่ยหรานจึงหันไปพยักหน้าขอโทษกับอาฝู แล้วเดินเข้าไปใน
ในเวลานี้ จางกุ้ยหลานก็ขยับเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าที่น่าตื้นเต้น“ลูกสาว ดูสิ ดูสิ ทับทิมเม็ดใหญ่ขนาดนี้ คุณภาพดีกว่าเครื่องประดับทั้งหมดที่เคยเห็นในงานจิวเวอรี่อีก! แม่เจ้า จะขายได้เท่าไหร่กันเชียว....”“แม่!”หลี่ฮุ่ยหรานโกรธขึ้นมาเล็กน้อย: “ของล้ำค่าขนาดนี้อย่าแตะต้องซี้ซั้วได้ไหม? พวกเรายังต้องส่งคืนกลับไปอีกนะ!”“อะไรนะ? ส่งกลับคืน?!”จางกุ้ยหลานสะดุ้งโหยง ก่อนจะซ่อนกล่องไว้ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างรวดเร็วเธอมองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความประหลาดใจ: “ลูกสาว ชื่อของลูกถูกเขียนไว้ข้างบนอย่างชัดเจน แสดงว่ามันมอบให้กับลูก แล้วจะส่งสิ่งนี้กลับไปได้อย่างไร?!”“มันมีค่ามากเกินไป หนูรับไว้ไม่ได้”หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้าราวกับกลองเขย่า“คนเขามีน้ำใจ ลูกจะส่งกลับคืนไปได้ยังไง?”จางกุ้ยหลานกลอกตาไปที่ลูกสาวของตัวเองที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้ ยังไงซะทับทิมเม็ดนี้เธอก็ไม่คิดที่จะส่งกลับคืนไปแน่“พี่ พี่รับไว้เถอะ นี่เป็นของขวัญจากความตั้งใจดีของครอบครัวของคุณชายหลินเฟิง เพื่อเฉลิมฉลองการแต่งงานของพี่กับคุณชายหลินเฟิง” จางซินพูดโน้มน้าว“หลินเฟิง คุณส่งคืนกลับไปเถอะ ฉันไม่อยากให้คุณติดหนี้น้ำใจค
เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงจะเดินผ่านเธอไปไล่ตามหลินเสวี่ยฮุ่ยถังหว่านก็เอียงตัวไปขวางทางหลินเฟิงไว้ จากนั้นแอ่นอกที่ขาวผ่องของตัวเอง และเค้นถามด้วยหน้าตาหึงหวง“หลินเฟิง ที่นอกประตูคือใครงั้นเหรอ?”ในเวลานี้ หลี่ฮุ่ยหรานสวมชุดนอนและกำลังเดินหาวออกมารอให้เธอเห็นถังหว่านที่อยู่ตรงที่ประตู ก็สะดุ้งตกใจขึ้นมาทันทีสายตาของทั้งสองสาวมองสบกัน ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าอันตรายปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงดังเปรี้ยะ “ทำแล้วเหรอ?!”ถังหว่านกัดฟันถาม“ทำแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับแอ่นหน้าอก“ฉันไม่เชื่อ!”ถังหว่านกัดฟัน ก่อนที่เธอจะแสดงท่าทางพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่!”หลี่ฮุ่ยหรานเท้าสะโพกและยืนเคียงข้างหลินเฟิง เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ“หลี่ฮุ่ยหราน ฉันคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงอย่างคุณ จะเดินมาถึงขั้นนี้ได้...ต้องบอกว่า คุณมีความสามารถอยู่บ้างนะ”ถังหว่านหายใจอย่างแรงด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร“หึ ขอบคุณสำหรับคำชมนะ”หลี่ฮุ่ยหรานจงใจพิงตัวไปทางหลินเฟิงมากขึ้น และยกริมฝีปากแดงขึ้นเป็นมุม นี่คือรอยยิ้มของผู้ชนะ“หยุด!”ในที่สุด หลินเฟิงที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้
“เสวี่ยฮุ่ย รอฉันก่อน…….”เสียงยิ่งอยู่ยิ่งไกลออกไป สีหน้าของสาวงามทั้งสองจ้องมองไปที่หลินเฟิงค่อยๆ เปลี่ยนไปเย็นชา“เธอคือยอดฝีมือที่ผมพบเจอที่หนานโจวก่อนหน้านี้ ผมจ้างเธอให้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเสวี่ยฮุ่ย”หลินเฟิงตอบโดยไม่มีพิรุธ“บอดี้การ์ดส่วนตัว...เอ๊ะ? ทำไมทุกคนออกไปตั้งแต่เช้าแล้วละ?”ขณะเดียวกัน หมิงอิ่งอิ่งซึ่งมีรอยคล้ำใต้ตาก็เดินออกมาจากในห้อง ทรงผมของเธอยุ่งเหยิงไปหมด เห็นได้ชัดว่ามื่อคืนไม่ได้นอนเห็นการปรากฏตัวของเธอ หลี่ฮุ่ยหรานก็ถลึงตาโต มองไปทางหลินเฟิงอย่างไม่น่าเชื่อ“เธอชื่อหมิงอิ่งอิ่ง เพื่อที่จะซ่อนตัวจากตระกูลซือหม่า ก็เลยมาอยู่ที่นี่ช่วงระยะเวลาหนึ่งก็เท่านั้น”หลินเฟิงฝืนอธิบายออกไป“สวัสดีจ้า ฉันชื่อหมิงอิ่งอิ่ง”ถึงแม้สีหน้าจะไม่ดี แต่หมิงอิ่งอิ่งก็ยังที่จะทักทายกับหลี่ฮุ่ยหรานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“หลินเฟิง ที่บ้านของคุณยังมีผู้หญิงอีกกี่คนกัน?” หลี่ฮุ่ยหรานเงียบไม่พูดจา และถามขึ้นอย่างช้า ๆ“ไม่มีแล้ว เธอเป็นคนสุดท้ายแล้ว”หลินเฟิงรีบพูดยืนยัน“คุณถังหว่าน ฉันหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว สามารถกลับเข้ากองได้ตั้งแต่วันนี้” ในเวลานี้ หลานเฟยสวมชุ
ถังหว่านเลิกคิ้วขึ้น และบอกเป็นนัย ๆออกมาหลินเฟิงครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วกล่าวว่า: “เมื่อไม่กี่วันก่อน ผมได้ไปช่วยหลิวหย่งทวงที่ดินผืนหนึ่งคืนมา ที่ดินผืนนี้ก่อนหน้านี้เป็นของตระกูลเซี่ยง และในที่ดินนั้นมีโรงงานและเครื่องจักรใหม่ล่าสุดของพวกเขาอยู่ด้วย“อ้อ?”ถังหว่านได้ยินข่าวนี้ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นทันที"ถูกต้อง ผมเหมาโรงงานจากหลิวหย่งในราคาต่ำ และตอนนี้โรงงานก็อยู่ในมือผมแล้ว ดังนั้นผมจึงเตรียมที่จะ.......""ฮ่าฮ่า สมแล้วที่เป็นหัวหน้าผู้ผลิตยาแห่งบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง""ถังหว่านตัดบทหลินเฟิงทันทีและพูดว่า “บอกมาสิว่าหลิวหย่งเสนอราคาไว้เท่าไหร่ ฉันจะซื้อโรงงานนี้ทั้งหมดเลย!”"อ้อ ลืมบอกไป ฉันยังจะให้ค่าคอมมิชชั่นคุณอีก 20% ด้วยนะ"ถังหว่านหรี่ตามองหลินเฟิงและกะพริบตาปริบ ๆ“ไม่”หลินเฟิงส่ายหน้า จากนั้นมองไปที่ถังหว่าน: “ขอโทษด้วยคุณถังหว่าน ผมตัดสินใจที่จะขายโรงงานนี้ให้กับฮุ่ยหราน ขายให้หลี่ซื่อกรุ๊ป”“อะไรนะ?!”ถังหว่านลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาของถังหว่านก็ฉายแววผิดหวังออกมา เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง งั้นฉันรู้แล้วล่ะ”