หลี่ฮุ่ยหรานก้าวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ “พ่อของหนูล่ะ? ไหนแม่บอกว่าพ่อของหนูใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยไม่เห็นค่าเงินของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน และไม่ต้องการแม่อีกแล้วไม่ใช่เหรอ??!”“นี่.....”จางกุ้ยหลานรู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไปแล้ว สุดท้ายเธอจึงถอนหายใจลึก ๆ แล้วพูดอย่างจนปัญญา “ฮุ่ยหราน การตายของพ่อลูกเป็นเพียงเหตุสุดวิสัย แม่....ในตอนนั้นแม่เองก็ไม่ได้ตั้งใจ”“ได้ ต่อให้แม่ไม่ได้ตั้งใจ”หลี่ฮุ่ยหรานเกือบจะกัดจนฟันกรามแตก พร้อมและพูดอย่างคับแค้นใจ “ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่พูดเรื่องมรดกที่พ่อทิ้งเอาไว้ล่ะ? ทำไมแม่ถึงกีดกันหนูไม่ให้ติดต่อกับต้นตระกูลที่เมืองเจียงหนาน? ทั้งยังรีบเร่งที่อยากจะให้ตระกูลหลี่เมืองเจียนหนานทำการยอมรับใหม่อีกครั้ง?”“แม่ฉัน......แม่ฉัน......”สายตาของจางกุ้ยหลานกรอกไปมา เรื่องอื่นเธอสามารถพอที่จะเถียงถูๆไถๆข้าง ๆคู ๆได้ แต่มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้น คนที่มีความเกี่ยวข้องต่างก็อยู่ที่นี่ทั้งหมด เธอจึงไม่สามารถที่จะแก้ตัวได้อีก“โอ๊ย....”สุดท้ายจางกุ้ยหลานก็ไม่มีทางเลือก นอกจากเอะอะโวยวายเปลี่ยนหัวข้อสนทนา“ลูกสาว....ลูกรู้ไหมว่าลูกทำร้ายพวกเราตระ
“ขอโทษด้วย”หลี่ฮุ่ยหรานไม่ลังเลแม้แต่น้อย เธอในตอนนี้เลือกที่จะเชื่อใจหลินเฟิงอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าคำพูดของคนพวกนี้จะสมเหตุสมผลแค่ไหน เธอก็จะไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียวในตอนนี้ มีเพียงหลินเฟิงเท่านั้นที่คู่ควรให้เธอพึ่งพา“เนื่องจากหลี่หยวนบอกว่าเขาไปแจ้งกับคนของตระกู้และตระกูลหลงก็คงใกล้กลับมาได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็รอให้คนของตระกูลกู้และตระกูลหลงกลับมา ฉันคิดว่าพวกคุณก็ได้รู้ว่าสามีของฉันคุยโวโอ้อวดหรือเปล่า” หลี่ฮุ่ยหรานพิงตัวไปข้าง ๆหลินเฟิง ก่อนจะมองดูสายตาที่ตกตะลึงและงงงวยของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานที่อยู่รอบ ๆ แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของเธอในฐานะผู้หญิงที่แข็งแกร่ง“ถ้าหากสิ่งที่หลินเฟิงสามีของฉันพูดนั้นเกินจริงเกินไป ถ้าอย่างนั้นฉันหลี่ฮุ่ยหรานจะคุกเข่าและกราบทุกคนในตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเองโดยตรง!”“ไม่กลับคำผิดคำพูดแน่นอน!”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองไปทางหลินเฟิง แล้วมองเห็นการตอบสนองต่อความเชื่อใจตัวเองในสายของเขา“วางใจเถอะฮุ่ยหราน ผมไม่มีทางโกหกคุณ”หลินเฟิงบีบมือของหลี่ฮุ่ยหรานเพื่อปลอบใจ ก่อนที่หลี่ฮุ่ยหรานจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มอย่างที่เชื่อมั่น“ฮุ่ยหราน เธอบ
“อะไรนะ?!”ในตอนที่หลี่ฟางพูดประโยคนี้จบ คนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมด จากนั้นพวกเขาก็เริ่มครุ่นคิดถึงคำพูดประโยคนี้ของหลี่ฟางว่าหมายความว่าอย่างไร“ฟางเอ่อร์ ลูกบอกว่าตระกูลกู้จบแล้วหมายถึง....”หลี่กงเฉิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินในเวลานี้ ดังนั้นเขาเลยรีบเร่งให้ลูกชายของตัวเองบอกข่าวออกมาเพิ่มเติม“จากนี้ไปสี่ตระกูลหลักในเจียงหนาน ไม่สิ...จากนี้ไปจะเป็นสามตระกูลหลักแล้ว ตระกูลกู้จบสิ้นโดยสิ้นเชิงแล้ว” เมื่อเห็นว่าคนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่ตัวเองพูด หลี่ฟางจึงดันแว่นตาของตัวเองขึ้น แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “สมาชิกตระกูลกู้ทั้งหมดสามสิบสองคน ถูกคนฆ่าตายทั้งหมด ไม่รอดสักคน”“เฮือก...”เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฟาง คนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานทั้งหมดต่างก็สูดลมหายใจเข้าอย่างแรง“ถูกฆ่าทั้งหมด? ไม่เหลือรอดสักคน?”หลี่กงเฉิงเคลื่อนสายตาไปมองทางหลินเฟิงด้วยความยากลำบาก ก่อนจะพบว่าตอนที่หลินเฟิงได้ยินข่าวนี้ สีหน้าก็ยังนิ่งยิ่งเฉยอยู่ ราวกับว่ารู้มานานแล้ว“ตระกูลหลงล่ะ? คุณชายหลงยวนล่ะ?!”หลี่กงเฉิงคว้าคอเสื้อของลูกชายตัว
ถ้าหากพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานไปยั่วยุเทพหลินเฟิงคนนี้เข้า มันก็คงจะจบลงอย่างสิ้นเชิง!เมื่อหลี่ฟางเห็นคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบต่างมองเขาด้วยความสงสัย หลี่ฟางก็กลืนน้ำลาย และขยับขัยบเข้าไปใกล้หูของพ่อตัวเองแล้วพูดว่า: “พ่อ หลินเฟิงน่ากลัวกว่าที่พ่อคิดไว้นะ!”เขาบอกเรื่องทั้งหมดกับพ่อของตัวเองที่หลินเฟิงทำกับตระกูลกู้ และเมื่อหลี่กงเฉิงฟังจบแววตาก็มืดมน จนเกือบจะสลบล้มลงไปตรงนี้คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่หลินเฟิงพูดจะเป็นความจริงทั้งหมด!ไม่ได้คุยโวโอ้อวดด้วยซ้ำคนอย่างพวกเขามองเหตุการณ์ได้ไม่ไกล จนไม่รู้ว่าเบื้องหลังของหลินเฟิงมีพลังแบบไหนด้วยซ้ำถึงขนาดอยากจะไว้ชีวิตหลินเฟิง แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนแบบนี้แล้ว หลินเฟิงปล่อยพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานให้มีชีวิตอยู่ต่อได้ก็ไม่เลวแล้ว!“ตุบ!” หลี่กงเฉิงก็คุกเข่าให้กับหลินเฟิงเช่นกัน“คุณชายหลินเฟิง ผม...ผมหลี่กงเฉิงที่สายตาสั้นมองการณ์ได้ไม่ไกล ถึงขนาดคิดเอาเองฝ่ายเดียวอยากจะวัดความสามารถของคุณชายหลินเฟิ ผมสมควรตาย!”“ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของผม มีตาหามีแววไม่!”หลี่กงเฉิง คนสำคัญอันดับสอ
แต่หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดของหลินเฟิงที่ให้หลี่หยวนทำตามที่เดิมพันไว้ ก็รู้ว่าการตบตาของเธอไม่สำเร็จ แต่เพื่อลูกชายของเธอ ก็มองไปทางหลี่กงเฉิง“ตาเฒ่า คุณรีบขอร้องคุณชายหลินเฟิงเร็วเข้าเถอะ!”ถ้าหลี่หยวนตายเพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็คงจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน“คุณชายหลินเฟิง เด็กคนนี้มีนิสัยดื้นรั้นหัวแข็ง เพียงเพื่อให้บรรยากาศคึกคักก็เลยพูดตลกไปแบบนั้น ได้โปรดคุณให้อภัยด้วย....”หลี่กงเฉิงก็ไม่ได้อยากเห็นลูกชายคนเล็กของตัวเองตายอย่างน่าหดหู่ใจเช่นอย่างนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เพียงมองหลินเฟิงอย่างอ้อนวอนเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองโง่เขลาแบบนี้ หลี่กงเฉิงก็เลยตบหน้าหลี่หยวนลูกชายของตัวเองต่อหน้าทุกคน“ยังไม่รีบกราบขอโทษคุณชายหลินเฟิงอีกเหรอ?!”หลี่หยวนถูกพ่อตบจนได้สติขึ้นมา เขารีบคุกเข่าแล้วกราบลงไป “คุณชายหลินเฟิง เมื่อครู่ผมล้อเล่นกับคุณครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกคุณอย่างแน่นอน”“หือ?”หลินเฟิงเอียงศีรษะ ก่อนจะมองไปที่หลี่เยว่หรูที่นั่งตัวสั่นคุกเข่าอยู่ไกล ๆ“ถ้าอย่างนั้นทำไมผมถึงได้ยินคนพูดว่า คุณเป็นคนที่หัวรั้นนะ?”“ถึงขั้นที่ใครบางคนก็ยังอยา
หลังจากนั้นประมานหนึ่งชั่วโมงหลินเฟิงปฏิเสธคำเชิญงานเลี้ยงของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน ก่อนจะขับรถพาหลี่ฮุ่ยหรานและแม่ลูกจางซินรีบกลับคฤหาสน์ของตระกูลหลี่เมืองเจียงเป่ยรอบนี้ถือว่าเป็นผลสำเร็จไม่น้อยถึงแม้หลินเฟิงจะปฏิเสธค่าชดเชยทรัพย์สินเงินทองจากตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน แต่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ยังหาวิธีอื่นเพื่อเอาใจหลินเฟิงนั่นก็คือหลี่ฮุ่ยหรานหลี่กงเฉิงตบหน้าอกเพื่อแสดงให้เห็นว่า ในอนาคตเขาจะร่วมลงทุนอย่างเต็มที่ในหลี่ซื่อกรุ๊ป และช่วยพัฒนากิจการของหลี่ฮุ่ยหรานให้ยิ่งใหญ่และแข็งแรงและนำมรดกทั้งหมดของพ่อหลี่ฮุ่ยหรานส่งมอบให้หลี่ฮุ่ยหรานจัดการส่วนหลี่หยวนนั้นสุดท้ายการเดิมพันที่เขาสร้างขึ้นมา ก็ยังถูกพี่ใหญ่ของตัวเองบังคับให้ปฏิบัติเพียงแต่การลงโทษนั้นเบากขึ้นมาหน่อย นั่นคือการให้เขาผลัดกันจูบก้นสุนัขตัวใหญ่ที่ตัวเองเลี้ยงไว้ถึงแม้หลี่หยวนจะทำหน้ามุ่ยตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามหลังจากนั้นเขาก็ไปบ้วนปากและแปรงฟันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วันต่อมา ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ส่งคนไปย้ายหลุมฝังศพของคุณปู่หลี่ให้กลับไปยังครอบครัวนี่ก็ถือได้ว
ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะพูดแบบนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้รู้จักหลินเฟิงดี ถึงขั้นที่ยังรู้จักเธอด้วยเธอรู้นิสัยของหลินเฟิงดี และชายชราคนนี้คงจะมีปัญหาอะไรบางอย่างกับหลินเฟิงแน่ ๆ“ผู้อาวุโสท่านนี้ โปรดอย่าโกรธหลินเฟิงเลย ทำไมถึงไม่เข้าไปนั่งพักในบ้านสักหน่อย ฉันดูแล้วคุณน่าจะรอมานานแล้วสินะคะ?”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ไกลๆเห็นได้ชัดว่า เฮลิคอปเตอร์ลำนี้น่าจะจอดมานานพอสมควรแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ดึงดูดผู้คนมาล้อมดูกันเยอะขนาดนี้“หึหึ สาวน้อยมีมารยาทอย่างยิ่ง ไม่เลวเลย”อาฝูยิ้มอย่างใจดี กำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่ไม่คิดว่าหลินเฟิงจะก้าวมาข้างหน้า ขวางทางชายชราเข้าบ้านเอาไว้“มีเรื่องอะไรก็พูดตอนนี้เถอะ พูดแล้วก็รีบไป”“ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้าน ไม่จำเป็นหรอก”เมื่อเห็นหลินเฟิงไม่มีมารยาทขนาดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็เลิกคิ้วขึ้นแต่เธอคิดดูอีกครั้งหลินเฟิงไม่ใช่คนที่ไม่เคารพผู้อาวุโสถ้าหากหลินเฟิงไม่ได้มีท่าทางที่ดีต่อเขา ถ้างั้นตัวเองก็ยิ่งไม่ควรมองข้ามท่าทางของหลินเฟิงแล้วไปทำเรื่องเกินความจำเป็นดังนั้นหลี่ฮุ่ยหรานจึงหันไปพยักหน้าขอโทษกับอาฝู แล้วเดินเข้าไปใน
ในเวลานี้ จางกุ้ยหลานก็ขยับเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าที่น่าตื้นเต้น“ลูกสาว ดูสิ ดูสิ ทับทิมเม็ดใหญ่ขนาดนี้ คุณภาพดีกว่าเครื่องประดับทั้งหมดที่เคยเห็นในงานจิวเวอรี่อีก! แม่เจ้า จะขายได้เท่าไหร่กันเชียว....”“แม่!”หลี่ฮุ่ยหรานโกรธขึ้นมาเล็กน้อย: “ของล้ำค่าขนาดนี้อย่าแตะต้องซี้ซั้วได้ไหม? พวกเรายังต้องส่งคืนกลับไปอีกนะ!”“อะไรนะ? ส่งกลับคืน?!”จางกุ้ยหลานสะดุ้งโหยง ก่อนจะซ่อนกล่องไว้ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างรวดเร็วเธอมองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความประหลาดใจ: “ลูกสาว ชื่อของลูกถูกเขียนไว้ข้างบนอย่างชัดเจน แสดงว่ามันมอบให้กับลูก แล้วจะส่งสิ่งนี้กลับไปได้อย่างไร?!”“มันมีค่ามากเกินไป หนูรับไว้ไม่ได้”หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้าราวกับกลองเขย่า“คนเขามีน้ำใจ ลูกจะส่งกลับคืนไปได้ยังไง?”จางกุ้ยหลานกลอกตาไปที่ลูกสาวของตัวเองที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้ ยังไงซะทับทิมเม็ดนี้เธอก็ไม่คิดที่จะส่งกลับคืนไปแน่“พี่ พี่รับไว้เถอะ นี่เป็นของขวัญจากความตั้งใจดีของครอบครัวของคุณชายหลินเฟิง เพื่อเฉลิมฉลองการแต่งงานของพี่กับคุณชายหลินเฟิง” จางซินพูดโน้มน้าว“หลินเฟิง คุณส่งคืนกลับไปเถอะ ฉันไม่อยากให้คุณติดหนี้น้ำใจค