“ขอโทษด้วย”หลี่ฮุ่ยหรานไม่ลังเลแม้แต่น้อย เธอในตอนนี้เลือกที่จะเชื่อใจหลินเฟิงอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าคำพูดของคนพวกนี้จะสมเหตุสมผลแค่ไหน เธอก็จะไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียวในตอนนี้ มีเพียงหลินเฟิงเท่านั้นที่คู่ควรให้เธอพึ่งพา“เนื่องจากหลี่หยวนบอกว่าเขาไปแจ้งกับคนของตระกู้และตระกูลหลงก็คงใกล้กลับมาได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็รอให้คนของตระกูลกู้และตระกูลหลงกลับมา ฉันคิดว่าพวกคุณก็ได้รู้ว่าสามีของฉันคุยโวโอ้อวดหรือเปล่า” หลี่ฮุ่ยหรานพิงตัวไปข้าง ๆหลินเฟิง ก่อนจะมองดูสายตาที่ตกตะลึงและงงงวยของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานที่อยู่รอบ ๆ แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของเธอในฐานะผู้หญิงที่แข็งแกร่ง“ถ้าหากสิ่งที่หลินเฟิงสามีของฉันพูดนั้นเกินจริงเกินไป ถ้าอย่างนั้นฉันหลี่ฮุ่ยหรานจะคุกเข่าและกราบทุกคนในตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเองโดยตรง!”“ไม่กลับคำผิดคำพูดแน่นอน!”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองไปทางหลินเฟิง แล้วมองเห็นการตอบสนองต่อความเชื่อใจตัวเองในสายของเขา“วางใจเถอะฮุ่ยหราน ผมไม่มีทางโกหกคุณ”หลินเฟิงบีบมือของหลี่ฮุ่ยหรานเพื่อปลอบใจ ก่อนที่หลี่ฮุ่ยหรานจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มอย่างที่เชื่อมั่น“ฮุ่ยหราน เธอบ
“อะไรนะ?!”ในตอนที่หลี่ฟางพูดประโยคนี้จบ คนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมด จากนั้นพวกเขาก็เริ่มครุ่นคิดถึงคำพูดประโยคนี้ของหลี่ฟางว่าหมายความว่าอย่างไร“ฟางเอ่อร์ ลูกบอกว่าตระกูลกู้จบแล้วหมายถึง....”หลี่กงเฉิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินในเวลานี้ ดังนั้นเขาเลยรีบเร่งให้ลูกชายของตัวเองบอกข่าวออกมาเพิ่มเติม“จากนี้ไปสี่ตระกูลหลักในเจียงหนาน ไม่สิ...จากนี้ไปจะเป็นสามตระกูลหลักแล้ว ตระกูลกู้จบสิ้นโดยสิ้นเชิงแล้ว” เมื่อเห็นว่าคนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่ตัวเองพูด หลี่ฟางจึงดันแว่นตาของตัวเองขึ้น แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “สมาชิกตระกูลกู้ทั้งหมดสามสิบสองคน ถูกคนฆ่าตายทั้งหมด ไม่รอดสักคน”“เฮือก...”เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฟาง คนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานทั้งหมดต่างก็สูดลมหายใจเข้าอย่างแรง“ถูกฆ่าทั้งหมด? ไม่เหลือรอดสักคน?”หลี่กงเฉิงเคลื่อนสายตาไปมองทางหลินเฟิงด้วยความยากลำบาก ก่อนจะพบว่าตอนที่หลินเฟิงได้ยินข่าวนี้ สีหน้าก็ยังนิ่งยิ่งเฉยอยู่ ราวกับว่ารู้มานานแล้ว“ตระกูลหลงล่ะ? คุณชายหลงยวนล่ะ?!”หลี่กงเฉิงคว้าคอเสื้อของลูกชายตัว
ถ้าหากพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานไปยั่วยุเทพหลินเฟิงคนนี้เข้า มันก็คงจะจบลงอย่างสิ้นเชิง!เมื่อหลี่ฟางเห็นคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบต่างมองเขาด้วยความสงสัย หลี่ฟางก็กลืนน้ำลาย และขยับขัยบเข้าไปใกล้หูของพ่อตัวเองแล้วพูดว่า: “พ่อ หลินเฟิงน่ากลัวกว่าที่พ่อคิดไว้นะ!”เขาบอกเรื่องทั้งหมดกับพ่อของตัวเองที่หลินเฟิงทำกับตระกูลกู้ และเมื่อหลี่กงเฉิงฟังจบแววตาก็มืดมน จนเกือบจะสลบล้มลงไปตรงนี้คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่หลินเฟิงพูดจะเป็นความจริงทั้งหมด!ไม่ได้คุยโวโอ้อวดด้วยซ้ำคนอย่างพวกเขามองเหตุการณ์ได้ไม่ไกล จนไม่รู้ว่าเบื้องหลังของหลินเฟิงมีพลังแบบไหนด้วยซ้ำถึงขนาดอยากจะไว้ชีวิตหลินเฟิง แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนแบบนี้แล้ว หลินเฟิงปล่อยพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานให้มีชีวิตอยู่ต่อได้ก็ไม่เลวแล้ว!“ตุบ!” หลี่กงเฉิงก็คุกเข่าให้กับหลินเฟิงเช่นกัน“คุณชายหลินเฟิง ผม...ผมหลี่กงเฉิงที่สายตาสั้นมองการณ์ได้ไม่ไกล ถึงขนาดคิดเอาเองฝ่ายเดียวอยากจะวัดความสามารถของคุณชายหลินเฟิ ผมสมควรตาย!”“ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของผม มีตาหามีแววไม่!”หลี่กงเฉิง คนสำคัญอันดับสอ
แต่หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดของหลินเฟิงที่ให้หลี่หยวนทำตามที่เดิมพันไว้ ก็รู้ว่าการตบตาของเธอไม่สำเร็จ แต่เพื่อลูกชายของเธอ ก็มองไปทางหลี่กงเฉิง“ตาเฒ่า คุณรีบขอร้องคุณชายหลินเฟิงเร็วเข้าเถอะ!”ถ้าหลี่หยวนตายเพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็คงจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน“คุณชายหลินเฟิง เด็กคนนี้มีนิสัยดื้นรั้นหัวแข็ง เพียงเพื่อให้บรรยากาศคึกคักก็เลยพูดตลกไปแบบนั้น ได้โปรดคุณให้อภัยด้วย....”หลี่กงเฉิงก็ไม่ได้อยากเห็นลูกชายคนเล็กของตัวเองตายอย่างน่าหดหู่ใจเช่นอย่างนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เพียงมองหลินเฟิงอย่างอ้อนวอนเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองโง่เขลาแบบนี้ หลี่กงเฉิงก็เลยตบหน้าหลี่หยวนลูกชายของตัวเองต่อหน้าทุกคน“ยังไม่รีบกราบขอโทษคุณชายหลินเฟิงอีกเหรอ?!”หลี่หยวนถูกพ่อตบจนได้สติขึ้นมา เขารีบคุกเข่าแล้วกราบลงไป “คุณชายหลินเฟิง เมื่อครู่ผมล้อเล่นกับคุณครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกคุณอย่างแน่นอน”“หือ?”หลินเฟิงเอียงศีรษะ ก่อนจะมองไปที่หลี่เยว่หรูที่นั่งตัวสั่นคุกเข่าอยู่ไกล ๆ“ถ้าอย่างนั้นทำไมผมถึงได้ยินคนพูดว่า คุณเป็นคนที่หัวรั้นนะ?”“ถึงขั้นที่ใครบางคนก็ยังอยา
หลังจากนั้นประมานหนึ่งชั่วโมงหลินเฟิงปฏิเสธคำเชิญงานเลี้ยงของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน ก่อนจะขับรถพาหลี่ฮุ่ยหรานและแม่ลูกจางซินรีบกลับคฤหาสน์ของตระกูลหลี่เมืองเจียงเป่ยรอบนี้ถือว่าเป็นผลสำเร็จไม่น้อยถึงแม้หลินเฟิงจะปฏิเสธค่าชดเชยทรัพย์สินเงินทองจากตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน แต่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ยังหาวิธีอื่นเพื่อเอาใจหลินเฟิงนั่นก็คือหลี่ฮุ่ยหรานหลี่กงเฉิงตบหน้าอกเพื่อแสดงให้เห็นว่า ในอนาคตเขาจะร่วมลงทุนอย่างเต็มที่ในหลี่ซื่อกรุ๊ป และช่วยพัฒนากิจการของหลี่ฮุ่ยหรานให้ยิ่งใหญ่และแข็งแรงและนำมรดกทั้งหมดของพ่อหลี่ฮุ่ยหรานส่งมอบให้หลี่ฮุ่ยหรานจัดการส่วนหลี่หยวนนั้นสุดท้ายการเดิมพันที่เขาสร้างขึ้นมา ก็ยังถูกพี่ใหญ่ของตัวเองบังคับให้ปฏิบัติเพียงแต่การลงโทษนั้นเบากขึ้นมาหน่อย นั่นคือการให้เขาผลัดกันจูบก้นสุนัขตัวใหญ่ที่ตัวเองเลี้ยงไว้ถึงแม้หลี่หยวนจะทำหน้ามุ่ยตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามหลังจากนั้นเขาก็ไปบ้วนปากและแปรงฟันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วันต่อมา ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ส่งคนไปย้ายหลุมฝังศพของคุณปู่หลี่ให้กลับไปยังครอบครัวนี่ก็ถือได้ว
ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะพูดแบบนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้รู้จักหลินเฟิงดี ถึงขั้นที่ยังรู้จักเธอด้วยเธอรู้นิสัยของหลินเฟิงดี และชายชราคนนี้คงจะมีปัญหาอะไรบางอย่างกับหลินเฟิงแน่ ๆ“ผู้อาวุโสท่านนี้ โปรดอย่าโกรธหลินเฟิงเลย ทำไมถึงไม่เข้าไปนั่งพักในบ้านสักหน่อย ฉันดูแล้วคุณน่าจะรอมานานแล้วสินะคะ?”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ไกลๆเห็นได้ชัดว่า เฮลิคอปเตอร์ลำนี้น่าจะจอดมานานพอสมควรแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ดึงดูดผู้คนมาล้อมดูกันเยอะขนาดนี้“หึหึ สาวน้อยมีมารยาทอย่างยิ่ง ไม่เลวเลย”อาฝูยิ้มอย่างใจดี กำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่ไม่คิดว่าหลินเฟิงจะก้าวมาข้างหน้า ขวางทางชายชราเข้าบ้านเอาไว้“มีเรื่องอะไรก็พูดตอนนี้เถอะ พูดแล้วก็รีบไป”“ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้าน ไม่จำเป็นหรอก”เมื่อเห็นหลินเฟิงไม่มีมารยาทขนาดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็เลิกคิ้วขึ้นแต่เธอคิดดูอีกครั้งหลินเฟิงไม่ใช่คนที่ไม่เคารพผู้อาวุโสถ้าหากหลินเฟิงไม่ได้มีท่าทางที่ดีต่อเขา ถ้างั้นตัวเองก็ยิ่งไม่ควรมองข้ามท่าทางของหลินเฟิงแล้วไปทำเรื่องเกินความจำเป็นดังนั้นหลี่ฮุ่ยหรานจึงหันไปพยักหน้าขอโทษกับอาฝู แล้วเดินเข้าไปใน
ในเวลานี้ จางกุ้ยหลานก็ขยับเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าที่น่าตื้นเต้น“ลูกสาว ดูสิ ดูสิ ทับทิมเม็ดใหญ่ขนาดนี้ คุณภาพดีกว่าเครื่องประดับทั้งหมดที่เคยเห็นในงานจิวเวอรี่อีก! แม่เจ้า จะขายได้เท่าไหร่กันเชียว....”“แม่!”หลี่ฮุ่ยหรานโกรธขึ้นมาเล็กน้อย: “ของล้ำค่าขนาดนี้อย่าแตะต้องซี้ซั้วได้ไหม? พวกเรายังต้องส่งคืนกลับไปอีกนะ!”“อะไรนะ? ส่งกลับคืน?!”จางกุ้ยหลานสะดุ้งโหยง ก่อนจะซ่อนกล่องไว้ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างรวดเร็วเธอมองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความประหลาดใจ: “ลูกสาว ชื่อของลูกถูกเขียนไว้ข้างบนอย่างชัดเจน แสดงว่ามันมอบให้กับลูก แล้วจะส่งสิ่งนี้กลับไปได้อย่างไร?!”“มันมีค่ามากเกินไป หนูรับไว้ไม่ได้”หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้าราวกับกลองเขย่า“คนเขามีน้ำใจ ลูกจะส่งกลับคืนไปได้ยังไง?”จางกุ้ยหลานกลอกตาไปที่ลูกสาวของตัวเองที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้ ยังไงซะทับทิมเม็ดนี้เธอก็ไม่คิดที่จะส่งกลับคืนไปแน่“พี่ พี่รับไว้เถอะ นี่เป็นของขวัญจากความตั้งใจดีของครอบครัวของคุณชายหลินเฟิง เพื่อเฉลิมฉลองการแต่งงานของพี่กับคุณชายหลินเฟิง” จางซินพูดโน้มน้าว“หลินเฟิง คุณส่งคืนกลับไปเถอะ ฉันไม่อยากให้คุณติดหนี้น้ำใจค
เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงจะเดินผ่านเธอไปไล่ตามหลินเสวี่ยฮุ่ยถังหว่านก็เอียงตัวไปขวางทางหลินเฟิงไว้ จากนั้นแอ่นอกที่ขาวผ่องของตัวเอง และเค้นถามด้วยหน้าตาหึงหวง“หลินเฟิง ที่นอกประตูคือใครงั้นเหรอ?”ในเวลานี้ หลี่ฮุ่ยหรานสวมชุดนอนและกำลังเดินหาวออกมารอให้เธอเห็นถังหว่านที่อยู่ตรงที่ประตู ก็สะดุ้งตกใจขึ้นมาทันทีสายตาของทั้งสองสาวมองสบกัน ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าอันตรายปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงดังเปรี้ยะ “ทำแล้วเหรอ?!”ถังหว่านกัดฟันถาม“ทำแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับแอ่นหน้าอก“ฉันไม่เชื่อ!”ถังหว่านกัดฟัน ก่อนที่เธอจะแสดงท่าทางพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่!”หลี่ฮุ่ยหรานเท้าสะโพกและยืนเคียงข้างหลินเฟิง เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ“หลี่ฮุ่ยหราน ฉันคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงอย่างคุณ จะเดินมาถึงขั้นนี้ได้...ต้องบอกว่า คุณมีความสามารถอยู่บ้างนะ”ถังหว่านหายใจอย่างแรงด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร“หึ ขอบคุณสำหรับคำชมนะ”หลี่ฮุ่ยหรานจงใจพิงตัวไปทางหลินเฟิงมากขึ้น และยกริมฝีปากแดงขึ้นเป็นมุม นี่คือรอยยิ้มของผู้ชนะ“หยุด!”ในที่สุด หลินเฟิงที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้
“บ้าเอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว!”จวงฉุนรีบถีบประตูห้องทำงานของหัวหน้าโรงงานทันทีสิ่งแรกที่เขาเห็นคือเริ่นโหย่วไฉที่เหงื่อไหลท่วมตัวและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาและอิ่นนั่วเจียผู้มีเสน่ห์กำลังนั่งอยู่บนโซฟา“อิอิอิ…”จวงฉุนเลียริมฝีปากและเผยรอยยิ้มหื่นกามออกมาทันทีตอนนี้เขาโยนคำพูดของเริ่นโหย่วไฉไปไกลโพ้นทันที เพียงแค่จ้องมองไปที่หุบเขาที่คอเสื้อของอิ่นนั่วเจียแล้วแสยะยิ้มพูดว่า:“คุณอิ่นนั่วเจีย ผมมารับคุณแล้ว”"โอ้?"ใครจะไปรู้ว่ารอยยิ้มของจวงฉุนไม่ได้ทำให้อิ่นนั่วเจียตกใจหรืองุนงง เธอยิ้มให้จวงฉุนแล้วพูดว่า:"ฉันรอคุณมานานแล้ว""รอผม?"จวงฉุนตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ที่แท้คุณหญิงอิ่นนั่วเจียก็สนใจผมด้วย ดังนั้นการเตรียมการทั้งหมดนี้เกินความจำเป็นไปแล้ว!”ขณะที่จวงฉุนกำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สวีโจวที่เดินเข้ามาเห็นอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้เถ้าแก่ในห้องทำงาน สีหน้าของเขาดูตกตะลึงเล็กน้อย“พี่สวี มีอะไรหรือเปล่า?”นักบู๊ตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ ของสวีโจว จึงรีบถามแต่สวีโจวกลับไม่สนใจคนข้างหลังเขา กลับก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขน
“ใช่ครับ!”เริ่นโหย่วไฉพูดอย่างกระวนกระวาย: "คุณรีบพาคนมาที่นี่เร็วๆ เถอะครับ ทางด้านผม... ผมจะต้านไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว!"“ต้านไม่อยู่?”จางฉุนรู้สึกตกใจเล็กน้อยหรือว่าคนที่อยู่ข้างกายอิ่นนั่วเจียจะเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?ที่นี่เริ่นโหย่วไฉมีผู้คุ้มกันนับร้อยคน เขาคนเดียวสามารถจัดการผู้คุ้มกันทั้งหมดได้?”จางฉุนไม่เชื่อเรื่องนี้แต่ไม่นานความคิดอีกอย่างก็ผุดขึ้นมาในใจเขาเริ่นโหย่วไฉคนนี้คงจะพูดเกินจริงไปมากอยากได้ผลประโยชน์จากตัวเองเพิ่มมากขึ้นหลังจากสาปแช่งจิ้งจอกแก่แล้ว จางฉุนก็เพียงแต่เร่งฝีเท้าของลูกน้องเขาให้เร็วขึ้นเท่านั้นแต่ที่แปลกคือระหว่างทางกลับเงียบสงบมากและพวกยามโรงงานเสื้อผ้าที่อยู่ที่นี่แต่เดิมก็หายไปไหนไม่รู้"เดี๋ยวก่อน!"สวีโจวยื่นมือออกไปเพื่อหยุดทุกคนไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าเขาจ้องดูใบหน้าที่ใจร้อนของจางฉุนแล้วขมวดคิ้วพูด:“คุณ...จางฉุน หรือว่าคุณไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติบ้างหรือ?”“ไม่ปกติอะไร?”ในขณะนี้จางฉุนเอาแต่นึกถึงรูปร่างที่น่าสะพรึงกลัวและใบหน้าที่งดงามของอิ่นนั่วเจียเพียงเท่านั้นยิ่งระยะทางใกล้เข้ามา เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าไฟที่อยู่ด้านล่
“นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนของรองผู้จัดการหลงซิ่วด้วยหรือเปล่า?”"เอ่อ... ใช่"พูดอย่างตรงไปตรงมา จวงฉุนก็เป็นแค่สุนัขของหลงซิ่วเนื่องจากเขาไม่ใช่นักบู๊และไม่ได้รู้จักผู้คนมากมาย เขาจึงถูกหลงซิ่วส่งมาที่เมืองเจิ้งเต๋อทำหน้าที่เป็นผู้นำเล็กๆ ของคนเหล่านี้แต่คนเหล่านี้จากตระกูลหลงล้วนเป็นนักบู๊ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาจึงดูถูกจวงฉุนที่เป็นคนโลภโมบและหื่นกามอย่างเขาดังนั้นครั้งนี้พวกเขาถูกเรียกมา เพราะเห็นแก่หน้าของหลงซิ่วเท่านั้น จวงฉุนก็ไม่มีอำนาจที่จะสั่งพวกเขาได้เลยจวงฉุนก็รู้ดีถึงเรื่องนี้เช่นกันดังนั้นเอาหลงซิ่วออกมาเป็นโล่ไม่อย่างนั้น คนพวกนี้คงหันหลังแล้วจากไปทันที“ก็ได้ งั้นเราควรรีบลงมือปฏิบัติการ หากหลี่ซื่อกรุ๊ปพบเห็นเรา เราคงเดือดร้อนแน่”“อย่ากังวล คนจากหลี่ซื่อกรุ๊ปจะไม่รู้เรื่องนี้”จวงฉุนยิ้มอย่างเย็นชาเขาคิดว่าเขาทำหน้าที่เก็บความลับได้ดีมาก แต่เกรงว่าจวงฉุนคิดจนหัวระเบิดก็ยังไม่เข้าใจอิ่นนั่วเจียจริงๆ แล้วเป็นคนของหลี่ซื่อกรุ๊ปและคนที่อยู่ข้างกายอิ่นนั่วเจีย ไม่ใช่บอดี้การ์ดส่วนตัวของอิ่นนั่วเจีย แต่เป็นคนของกลุ่มหลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ควรยุ่งด้วยมา
“เถ้าแก่เริ่น ผมว่าผมเป็นคนใจดีมากและไม่ชอบใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา คุณเชื่อผมไหม?”หลินเฟิงไม่ตอบคำถามที่น่ากระอักกระอ่วนอย่างยิ่งของเริ่นโหย่วไฉ แต่กลับถามคำถามด้วยรอยยิ้มแทนคำถามนี้ของหลินเฟิง ทำให้ใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้“แม่งเอ๊ย”“ทำร้ายคนของฉันไปหลายคนในพริบตาเดียว ยังพูดว่าเราถูกล้อมรอบโดยแกเพียงผู้เดียว ตอนนี้แกยังบอกฉันอีกว่าแกเป็นคนใจดี ไม่ชอบแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงอีกเหรอ?”เริ่นโหย่วไฉเกือบจะกลอกตาไปด้านหลังศีรษะแต่เมื่อลองคิดดูดีๆ เขาเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?เขาเหลือบมองหลินเฟิง และเห็นได้ชัดจากท่าทางเยาะเย้ยว่าหลินเฟิงกำลังล้อเลียนเขาเป็นที่ชัดเจนว่าคำถามของหลินเฟิงในเวลานี้เป็นการเสียดสีต่อเริ่นโหย่วไฉเริ่นโหย่วไฉก็มีตอบสนองกลับมาได้ และรู้สึกซับซ้อนขึ้นมาทันใดเขาใช้ชีวิตเร่ร่อนในเมืองเจิ้งเต๋อมาครึ่งชีวิตแล้ว ระมัดระวังและหวาดกลัวอยู่เสมอ พยายามตัดสินใจเลือกทุกอย่างให้ปลอดภัยที่สุดแต่วันนี้การกระโดดซ้ำๆ ของเขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจนักบู๊เลยเขาไม่สามารถเข้าใจความสามารถของหลินเฟิงได้เลยยิ่งกว่าพระเอกบู๊
“ผิดแล้ว เถ้าแก่เริ่น จากที่ผมดู เป็นพวกคุณที่ถูกผมล้อมเอาไว้เพียงคนเดียว"อีกทั้ง......"รอยยิ้มของหลินเฟิงลึกมากขั้น“แถมยังส่งคนที่อยู่เบื้องหลังที่จัดการหลี่ซื่อกรุ๊ปของผมมาตรงหน้าผมอีกด้วย ประหยัดเวลาที่ผมไม่ต้องตามหาพวกเขาทีละคน มันสะดวกจริงๆ”“อ๊ะ? นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่? นายคนเดียวล้อมพวกเราไว้..”ก่อนที่ เริ่นโหย่วไฉจะพูดจบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปจากความมั่นใจในชัยชนะกลายเป็นความตกตะลึงจากนั้นความตื่นตระหนกก็เกิดขึ้นหลินเฟิงกระโดดออกจากห้องทำงานและกลายเป็นเงาที่พร่ามัวทันทีเขาพุ่งเข้าไปในกลุ่มลูกสมุนจำนวนหลายร้อยคน ลำพังคนเดียวอย่างเปิดเผย“อ๊ากกกก!”"เอื้อกกก!"“อ้าก แขนฉัน แขนฉัน!”ท่ามกลางเสียงโอดครวญของพวกอันธพาลที่นี่ หลินเฟิงก็เหมือนกับสิงโตที่พุ่งเข้าใส่ฝูงแกะ และไม่มีใครหยุดเขาได้ด้วยซ้ำก่อนที่พวกอันธพาลเหล่านี้จะตอบโต้ หลินเฟิงก็ได้เคลื่อนไหวไปแล้ว เขาตัดแขนหรือต้นขาของพวกเขาอย่างไม่ใส่ใจ ราวกับว่าเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนทำให้พวกเขาสูญเสียความสามารถในการโจมตีหลายๆ คนมองเห็นเงาดำแวบผ่านไปและรู้สึกเจ็บปวดอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อมองลงไป
“สหาย!”หลังจากที่เริ่นโหย่วไฉตะโกนใส่หลินเฟิง เขาก็มองไปที่กลุ่มสกายของเขาและออกคำสั่งเสียงดัง:"พวกนายแค่ลากผู้ชายคนนั้นออกไป!"“คุณชายจวงฉุนจะกลับมาแล้ว รอให้เขามาถึง เขาพายอดฝีมือของตระกูลหลง ก็สามารถฆ่าไอ้หมอนี่ได้โดยตรง!”"เรารอดูการแสดงก็พอ!""ดี!"ไม่พูดไม่ได้ว่า เริ่นโหย่วไฉหัวหน้าเล็กคนนี้มีเกียรติมากพอสมควรต่อหน้าพวกอันธพาลพวกนี้หลังจากเขาออกคำสั่ง ลูกสมุนพวกนี้ก็ล้อมรอบห้องทำงานที่หลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียอยู่เอาไว้ท่าทางแบบนี้ ไม่ได้จะสู้ตายกับหลินเฟิงแค่อยากล้อมหลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียไว้ที่นี่เท่านั้น"ต่ำทราม!"อิ่นนั่วเจียก็มองความคิดของเริ่นโหย่วไฉออก ยกคิ้วขึ้นทันที จากนั้นชี้ไปที่เริ่นโหย่วไฉและพูดด่าทอ“ต่ำทราม? หึ อิ่นนั่วเจีย อย่าคิดว่าเธอเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งประเทศมังกร แล้วไม่มีใครกล้าแตะต้องเธอ!”“เธอในตอนนี้ไม่มีคนหนุนหลัง กลับยังอยากพึ่งพาตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้นมา เธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”“น่ารังเกียจจริงๆ”อิ่นนั่วเจียกำหมัดแน่นจริงๆแล้วเริ่นโหย่วไฉก็พูดถูกครั้งนี้อิ่นนั่วเจียอยากสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวงการบันเทิงของประเทศมังกร ด้วยความพ
ครั้งนี้หลินเฟิงไม่ปล่อยไปอีกแล้ว คว้าคอเสื้อของเขาแล้วกดไว้กับผนังอย่างแรง“อ๊า!”เริ่นโหย่วไฉท้ายทอยกระแทกกับกับกำแพงอย่างแรงเจ็บจนเขาร้องโอดครวญออกมา“เถ้าแก่เริ่น ดูเหมือนคุณจะยังไม่สามารถเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจนนักนะ!”หลินเฟิงเข้าไปหาเริ่นโหย่วไฉแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม:"ตอนนี้ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้ายแล้ว"หลินเฟิงเอื้อมมือไปหยิบเช็คจำนวนยี่สิบห้าล้านจากในกระเป๋า ต่อหน้าเริ่นโหย่วไฉ“คุณอยากเป็นสุนัขของตระกูลหลง ถูกผมบีบคอตายตอนนี้ หรือคุณอยากจะบอกทุกสิ่งที่คุณรู้ให้ผมฟัง”เมื่อเห็นหลินเฟิงฉีกเช็คแล้วโยนลงพื้น ใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉก็บิดเบี้ยวด้วยความเสียใจ“ฉัน...ฉัน...”เริ่นโหย่วไฉพูดคำเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเขาตกอยู่ในความสับสนอย่างสิ้นเชิง“ตัดสินใจไม่ได้เหรอ? งั้นผมช่วยคุณเอง”หลินเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา ประสานนิ้วเข้าด้วยกันเพื่อรวบรวมกระแสพลังชี่แท้ แทงมันไปที่จุดตันเถียนของเขาทันใดนั้นพลังชี่แท้เป็นเกลียวถูกหลินเฟิงปล่อยเข้าสู่ร่างกายของเริ่นโหย่วไฉในขณะที่พลังชี่แท้ยังคงหมุนวนและขยายตัวต่อไปพลังชี่แท้นี้ยังคงกระแทกอยู่ในร่างของเริ่นโหย่วไฉไม่หยุด ทำให้เขาต้องกรี
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”เริ่นโหย่วไฉหน้าตาโศกเศร้าเขาเป็นเพียงเจ้าของโรงงานเสื้อผ้าเล็กๆ ที่ต้องการสร้างรายได้ แม้ว่าจะมีอำนาจอยู่บ้าง แต่แค่ชื่อโรงงานเสื้อผ้าของเขาก็สามารถฟังออกโรงงานเสื้อผ้าหลงชิ่งจะเป็นโรงงานใหญ่โตอะไรได้ล่ะ?เงินที่เขาได้รับมาแค่พอเลี้ยงชีพพรรคพวกเมื่อครู่ได้เท่านั้นมีจวงฉุนจากตระกูลหลงมาก่อน บังคับให้ลูกน้องของเขาทำเครื่องแบบมากกว่าสิบชุดภายในเวลาไม่กี่วันใช้เพื่อปกปิดความเคลื่อนไหวของพวกเขาเขาจำนนต่อผลประโยชน์และการบังคับ ตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับจวงฉุนและคนอื่นๆ อย่างเชื่อฟัง แต่คิดไม่ถึงว่าวันถัดมา เขาจะกลับมาอวดดีกับเขาอีกเขาและพรรคพวกได้ทำลายอุปกรณ์มูลค่าหนึ่งหมื่นล้านของหลี่ซื่อกรุ๊ป!แม่เจ้า นั่นมันหนึ่งหมื่นล้านเลยนะ!เมื่อได้ยินข่าวนี้เริ่นโหย่วไฉก็ตกใจจนสติแทบกระเจิง หากหลี่ซื่อกรุ๊ปตรวจสอบมาจนถึงเขาจวงฉุนของตระกูลหลงอาจจะสามารถหลบหนีไปได้ส่วนทางด้านเขาก็ซวย!ไม่ต้องพูดถึงการที่อิ่นนั่วเจียมาเยี่ยมเยียนด้วยตนเองแถมยังเอากดกระดุมของเขามาด้วย ซึ่งทำให้เขาตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้นภายใต้การแสดง เงินทอง และออเดอร์ของอิ่นนั่วเจีย ในที่ส
“เขาขู่กรรโชคผมบ่อยมากในช่วงนี้”"ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีภูมิหลังอย่างตระกูลหลง ผมคงสั่งให้ลูกน้องของผมฆ่าเขาไปแล้ว!"เมื่อพูดถึงตรงนี้ รอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของเริ่นโหย่วไฉก็กลายเป็นความจนปัญญา"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง"หลินเฟิงพยักหน้า จากนั้นเหมือนจะนึกถึงบางอย่างได้ จึงมองไปที่เริ่นโหย่วไฉแล้วพูดว่า:“อ่อใช่ครับ เรื่องกระดุมที่คุณเพิ่งพูดเมื่อครู่นี้ผลิตที่นี่จริงๆ ใช่มั้ยครับ”“ถูก...ถูกต้องแล้ว”เริ่นโหย่วไฉตกตะลึงไปชั่วขณะ เขารู้สึกงุนงงเล็กน้อยหลังจากที่เขาพูดสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้ออกมา หลินเฟิงและอิ่นนั่วเจียก็ไม่ได้แสดงท่าทางกระวนกระวายหรือตึงเครียดอะไรออกมาตรงกันข้าม คนหนึ่งกลับสงบและมีสติมากกว่าอีกคน“พวกคุณอย่ากังวลเรื่องกระดุมเลย นี่มันก็สายมากแล้ว ผมคิดว่าจวงฉุนกับลูกน้องของเขาใกล้จะกลับมาแล้ว”"ถ้าคุณไม่ไปตอนนี้ ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว"เริ่นโหย่วไฉ่พูดเร่งด้วยความร้อนรนในเมื่อเขาต้องการให้อิ่นนั่วเจียหนีไปและมอบเงินเช็คคงเหลือจำนวนยี่สิบห้าล้านบาทให้เขา!หากอิ่นนั่วเจียถูกจวงฉุนจับได้ เขาจะไปเอาเงินจากใคร?ตอนนี้กลับเป็นเริ่นโหย่วไฉที่งวิตกกังวลมากที่ส