“แต่ว่าเธอก็ไม่เคยติดต่อพวกเรามาเลย และจางกุ้ยเฟิงก็ไม่เคยให้เราติดต่อเธอได้ผ่านทางเขา เพราะอย่างนั้นมันเลยกลายมาเป็นแบบนี้”ตอนนี้หลี่ฮุ่ยหรานเพิ่งจะเข้าใจว่าทำไมแม่ของเธอถึงไม่ยอมให้เธอกลับมาเยี่ยมพ่อบ้างยื้อกันมาตั้งนาน ที่แท้ก็พ่อของเธอเสียชีวิตไปแล้วนี่เอง!และสมบัติของพ่อจางฮุ่ยหรานก็อยากจะฮุบเอาไว้คนเดียวอีกด้วย!หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกปวดหัวมาก ๆ ถ้าไม่ได้หลินเฟิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ช่วยประคองไว้เธออาจจะลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้วที่จางกุ้ยหลานวางแผนนับล้านอย่างเพื่อที่จะได้กลับมาที่ตระกูลหลี่ก็เพื่อที่จะกลับมาฮุบสมบัติทั้งหมดไว้คนเดียว!“จางกุ้ยหลานอยู่ที่ไหน?”หลินเฟิงเห็นว่าหลี่ฮุ่ยหรานเริ่มจะแตกตื่นก็รีบถาม“นายคือหลินเฟิงสินะ?”หลี่กงเฉิงไม่ใช่คนที่ไม่รู้บุญคุณคนเขาส่ายหน้าไปมาพลางมองหลินเฟิง “ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณทำยังไงถึงหนีจากตระกูลกู้และตระกูลหลงได้”“แต่ในเมื่อคุณมาที่นี่แล้วผมก็ไม่มีทางปล่อยคุณไปง่าย ๆ”พูดจบเขาก็ส่งสายตาให้บอดี้การ์ดที่หลีกทางให้กับหลินเฟิงท่าทางพวกนี้ถูกหลินเฟิงมองอยู่ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าลุงของหลี่ฮุ่ยหรานต้องการจะทำอะไรถึงแม้ว่าเขาจะทำเห
“ดูเหมือนว่ารสนิยมของคุณชายหลี่หยวนจะไม่เลวจริง ๆ”ประโยคถัดไปของหลินเฟิงทำให้หลี่หยวนตกตะลึงไปชั่วครู่เขาตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า: “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณก็ยอมรับมันแล้วใช่ไหม?”“ได้!” หลี่หยวนปรบมือด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “ทุกคนในตระกูลหลี่ของฉันเป็นพยาน ถ้าพี่หลินเฟิงท่านนี้ไม่ทำให้คุณชายหลงยอมจำนน เขาก็จะต้องกินอุจจาระของสุนัขล่าเนื้อของผม!”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”“หลินเฟิง อย่าฝืนรักในศักดิ์ศรีเลย คุณชายหลี่หยวนเป็นคนขึ้นชื่อเรื่อหัวรั้น แต่ฉันก็อยากเห็นนายกินอุจจาระสุนัขเหมือนกันนะ”หลี่เยว่หรูเหน็บแนมอยู่ข้าง ๆ“หลินเฟิง คนเราต้องยึดความจริงเป็นหลัก”หลี่กงเฉิงก็รู้สึกพูดไม่ออกกับการคุยโวโอ้อวดของหลินเฟิงตอนนี้พวกเขาต่างก็ปกป้องตัวเองได้ยากแล้ว ยังต้องมาช่วยจางกุ้ยหลานอีกแค่ช่วยจางกุ้ยหลานก็ช่างเถอะ คิดไม่ถึงว่าเพื่อเป้าหมายของตัวเองแล้ว จะต้องพูดคำโกหกที่ปัญญาอ่อนแบบนี้ต่อหน้าสาธารณชนอีกด้วย คิดว่าตระกูลหลี่ของเขาต่างก็เป็นคนโง่กันหมดงั้นเหรอ?จะเชื่อคำพูดโกหกของเขางั้นเหรอ? หลี่กงเฉิงรู้สึกว่าสติปัญญาของตัวเองถูกหลินเฟิงสบประ
หลี่ฮุ่ยหรานก้าวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ “พ่อของหนูล่ะ? ไหนแม่บอกว่าพ่อของหนูใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยไม่เห็นค่าเงินของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน และไม่ต้องการแม่อีกแล้วไม่ใช่เหรอ??!”“นี่.....”จางกุ้ยหลานรู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไปแล้ว สุดท้ายเธอจึงถอนหายใจลึก ๆ แล้วพูดอย่างจนปัญญา “ฮุ่ยหราน การตายของพ่อลูกเป็นเพียงเหตุสุดวิสัย แม่....ในตอนนั้นแม่เองก็ไม่ได้ตั้งใจ”“ได้ ต่อให้แม่ไม่ได้ตั้งใจ”หลี่ฮุ่ยหรานเกือบจะกัดจนฟันกรามแตก พร้อมและพูดอย่างคับแค้นใจ “ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่พูดเรื่องมรดกที่พ่อทิ้งเอาไว้ล่ะ? ทำไมแม่ถึงกีดกันหนูไม่ให้ติดต่อกับต้นตระกูลที่เมืองเจียงหนาน? ทั้งยังรีบเร่งที่อยากจะให้ตระกูลหลี่เมืองเจียนหนานทำการยอมรับใหม่อีกครั้ง?”“แม่ฉัน......แม่ฉัน......”สายตาของจางกุ้ยหลานกรอกไปมา เรื่องอื่นเธอสามารถพอที่จะเถียงถูๆไถๆข้าง ๆคู ๆได้ แต่มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้น คนที่มีความเกี่ยวข้องต่างก็อยู่ที่นี่ทั้งหมด เธอจึงไม่สามารถที่จะแก้ตัวได้อีก“โอ๊ย....”สุดท้ายจางกุ้ยหลานก็ไม่มีทางเลือก นอกจากเอะอะโวยวายเปลี่ยนหัวข้อสนทนา“ลูกสาว....ลูกรู้ไหมว่าลูกทำร้ายพวกเราตระ
“ขอโทษด้วย”หลี่ฮุ่ยหรานไม่ลังเลแม้แต่น้อย เธอในตอนนี้เลือกที่จะเชื่อใจหลินเฟิงอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าคำพูดของคนพวกนี้จะสมเหตุสมผลแค่ไหน เธอก็จะไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียวในตอนนี้ มีเพียงหลินเฟิงเท่านั้นที่คู่ควรให้เธอพึ่งพา“เนื่องจากหลี่หยวนบอกว่าเขาไปแจ้งกับคนของตระกู้และตระกูลหลงก็คงใกล้กลับมาได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็รอให้คนของตระกูลกู้และตระกูลหลงกลับมา ฉันคิดว่าพวกคุณก็ได้รู้ว่าสามีของฉันคุยโวโอ้อวดหรือเปล่า” หลี่ฮุ่ยหรานพิงตัวไปข้าง ๆหลินเฟิง ก่อนจะมองดูสายตาที่ตกตะลึงและงงงวยของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานที่อยู่รอบ ๆ แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวของเธอในฐานะผู้หญิงที่แข็งแกร่ง“ถ้าหากสิ่งที่หลินเฟิงสามีของฉันพูดนั้นเกินจริงเกินไป ถ้าอย่างนั้นฉันหลี่ฮุ่ยหรานจะคุกเข่าและกราบทุกคนในตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเองโดยตรง!”“ไม่กลับคำผิดคำพูดแน่นอน!”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองไปทางหลินเฟิง แล้วมองเห็นการตอบสนองต่อความเชื่อใจตัวเองในสายของเขา“วางใจเถอะฮุ่ยหราน ผมไม่มีทางโกหกคุณ”หลินเฟิงบีบมือของหลี่ฮุ่ยหรานเพื่อปลอบใจ ก่อนที่หลี่ฮุ่ยหรานจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มอย่างที่เชื่อมั่น“ฮุ่ยหราน เธอบ
“อะไรนะ?!”ในตอนที่หลี่ฟางพูดประโยคนี้จบ คนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมด จากนั้นพวกเขาก็เริ่มครุ่นคิดถึงคำพูดประโยคนี้ของหลี่ฟางว่าหมายความว่าอย่างไร“ฟางเอ่อร์ ลูกบอกว่าตระกูลกู้จบแล้วหมายถึง....”หลี่กงเฉิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินในเวลานี้ ดังนั้นเขาเลยรีบเร่งให้ลูกชายของตัวเองบอกข่าวออกมาเพิ่มเติม“จากนี้ไปสี่ตระกูลหลักในเจียงหนาน ไม่สิ...จากนี้ไปจะเป็นสามตระกูลหลักแล้ว ตระกูลกู้จบสิ้นโดยสิ้นเชิงแล้ว” เมื่อเห็นว่าคนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายที่ตัวเองพูด หลี่ฟางจึงดันแว่นตาของตัวเองขึ้น แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “สมาชิกตระกูลกู้ทั้งหมดสามสิบสองคน ถูกคนฆ่าตายทั้งหมด ไม่รอดสักคน”“เฮือก...”เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฟาง คนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานทั้งหมดต่างก็สูดลมหายใจเข้าอย่างแรง“ถูกฆ่าทั้งหมด? ไม่เหลือรอดสักคน?”หลี่กงเฉิงเคลื่อนสายตาไปมองทางหลินเฟิงด้วยความยากลำบาก ก่อนจะพบว่าตอนที่หลินเฟิงได้ยินข่าวนี้ สีหน้าก็ยังนิ่งยิ่งเฉยอยู่ ราวกับว่ารู้มานานแล้ว“ตระกูลหลงล่ะ? คุณชายหลงยวนล่ะ?!”หลี่กงเฉิงคว้าคอเสื้อของลูกชายตัว
ถ้าหากพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานไปยั่วยุเทพหลินเฟิงคนนี้เข้า มันก็คงจะจบลงอย่างสิ้นเชิง!เมื่อหลี่ฟางเห็นคนตระกูลหลี่ที่อยู่โดยรอบต่างมองเขาด้วยความสงสัย หลี่ฟางก็กลืนน้ำลาย และขยับขัยบเข้าไปใกล้หูของพ่อตัวเองแล้วพูดว่า: “พ่อ หลินเฟิงน่ากลัวกว่าที่พ่อคิดไว้นะ!”เขาบอกเรื่องทั้งหมดกับพ่อของตัวเองที่หลินเฟิงทำกับตระกูลกู้ และเมื่อหลี่กงเฉิงฟังจบแววตาก็มืดมน จนเกือบจะสลบล้มลงไปตรงนี้คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่หลินเฟิงพูดจะเป็นความจริงทั้งหมด!ไม่ได้คุยโวโอ้อวดด้วยซ้ำคนอย่างพวกเขามองเหตุการณ์ได้ไม่ไกล จนไม่รู้ว่าเบื้องหลังของหลินเฟิงมีพลังแบบไหนด้วยซ้ำถึงขนาดอยากจะไว้ชีวิตหลินเฟิง แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนแบบนี้แล้ว หลินเฟิงปล่อยพวกเขาตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานให้มีชีวิตอยู่ต่อได้ก็ไม่เลวแล้ว!“ตุบ!” หลี่กงเฉิงก็คุกเข่าให้กับหลินเฟิงเช่นกัน“คุณชายหลินเฟิง ผม...ผมหลี่กงเฉิงที่สายตาสั้นมองการณ์ได้ไม่ไกล ถึงขนาดคิดเอาเองฝ่ายเดียวอยากจะวัดความสามารถของคุณชายหลินเฟิ ผมสมควรตาย!”“ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานของผม มีตาหามีแววไม่!”หลี่กงเฉิง คนสำคัญอันดับสอ
แต่หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดของหลินเฟิงที่ให้หลี่หยวนทำตามที่เดิมพันไว้ ก็รู้ว่าการตบตาของเธอไม่สำเร็จ แต่เพื่อลูกชายของเธอ ก็มองไปทางหลี่กงเฉิง“ตาเฒ่า คุณรีบขอร้องคุณชายหลินเฟิงเร็วเข้าเถอะ!”ถ้าหลี่หยวนตายเพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็คงจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน“คุณชายหลินเฟิง เด็กคนนี้มีนิสัยดื้นรั้นหัวแข็ง เพียงเพื่อให้บรรยากาศคึกคักก็เลยพูดตลกไปแบบนั้น ได้โปรดคุณให้อภัยด้วย....”หลี่กงเฉิงก็ไม่ได้อยากเห็นลูกชายคนเล็กของตัวเองตายอย่างน่าหดหู่ใจเช่นอย่างนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่เพียงมองหลินเฟิงอย่างอ้อนวอนเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองโง่เขลาแบบนี้ หลี่กงเฉิงก็เลยตบหน้าหลี่หยวนลูกชายของตัวเองต่อหน้าทุกคน“ยังไม่รีบกราบขอโทษคุณชายหลินเฟิงอีกเหรอ?!”หลี่หยวนถูกพ่อตบจนได้สติขึ้นมา เขารีบคุกเข่าแล้วกราบลงไป “คุณชายหลินเฟิง เมื่อครู่ผมล้อเล่นกับคุณครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกคุณอย่างแน่นอน”“หือ?”หลินเฟิงเอียงศีรษะ ก่อนจะมองไปที่หลี่เยว่หรูที่นั่งตัวสั่นคุกเข่าอยู่ไกล ๆ“ถ้าอย่างนั้นทำไมผมถึงได้ยินคนพูดว่า คุณเป็นคนที่หัวรั้นนะ?”“ถึงขั้นที่ใครบางคนก็ยังอยา
หลังจากนั้นประมานหนึ่งชั่วโมงหลินเฟิงปฏิเสธคำเชิญงานเลี้ยงของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน ก่อนจะขับรถพาหลี่ฮุ่ยหรานและแม่ลูกจางซินรีบกลับคฤหาสน์ของตระกูลหลี่เมืองเจียงเป่ยรอบนี้ถือว่าเป็นผลสำเร็จไม่น้อยถึงแม้หลินเฟิงจะปฏิเสธค่าชดเชยทรัพย์สินเงินทองจากตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน แต่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ยังหาวิธีอื่นเพื่อเอาใจหลินเฟิงนั่นก็คือหลี่ฮุ่ยหรานหลี่กงเฉิงตบหน้าอกเพื่อแสดงให้เห็นว่า ในอนาคตเขาจะร่วมลงทุนอย่างเต็มที่ในหลี่ซื่อกรุ๊ป และช่วยพัฒนากิจการของหลี่ฮุ่ยหรานให้ยิ่งใหญ่และแข็งแรงและนำมรดกทั้งหมดของพ่อหลี่ฮุ่ยหรานส่งมอบให้หลี่ฮุ่ยหรานจัดการส่วนหลี่หยวนนั้นสุดท้ายการเดิมพันที่เขาสร้างขึ้นมา ก็ยังถูกพี่ใหญ่ของตัวเองบังคับให้ปฏิบัติเพียงแต่การลงโทษนั้นเบากขึ้นมาหน่อย นั่นคือการให้เขาผลัดกันจูบก้นสุนัขตัวใหญ่ที่ตัวเองเลี้ยงไว้ถึงแม้หลี่หยวนจะทำหน้ามุ่ยตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามหลังจากนั้นเขาก็ไปบ้วนปากและแปรงฟันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วันต่อมา ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานก็ส่งคนไปย้ายหลุมฝังศพของคุณปู่หลี่ให้กลับไปยังครอบครัวนี่ก็ถือได้ว
เห็นได้ชัดว่าเธอรู้ดีว่าถูกใครทำร้ายในเหตุการณ์อันตรายก่อนหน้านี้เมื่อวานหลี่เหวินเชากลับมาพึ่งพาเธอ เดิมทีเธอคิดว่าหลี่เหวินเชาไม่เหมือนกับจางซิน ดังนั้นเธอจึงจัดการตำแหน่งที่ว่างให้หลี่เหวินเชาแต่คิดไม่ถึงเลยว่าต่อมาหลี่เหวินเชาจะหักหลังเธอ“หากแกไม่ใช่น้องชายของฉัน ฉันคงฆ่าแกไปนานแล้ว!”หลี่ฮุ่ยหรานดุด่าเสียงดังลั่นและในตอนที่โดนด่า หลี่เหวินเชาก็ทำได้เพียงหดคอและก้มหน้าลงหลินเฟิงที่ไม่เคยเห็นหลี่ฮุ่ยหรานโกรธมากขนาดนี้มาก่อน รีบเอื้อมมือไปปลอบใจ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโถมตัวเข้าหาหลินเฟิงโดยตรงพร้อมกับร้องไห้ในวินาทีถัดมา“หลินเฟิง มันเป็นเพราะอะไร เพราะอะไรกัน....”“คนในครอบครัวของฉันต่างก็เป็นแบบนี้กันหมดได้ยังไง?”“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ ผมอยู่ที่แล้ว”หลินเฟิงตบหลังของหลี่ฮุ่ยหรานเบา ๆ พร้อมกับปลอบโยนเธออย่างระมัดระวัง“พี่ ขอโทษ....ผม....ผมก็ ถูกบังคับไม่มีทางเลือกเหมือนกัน....”หลี่เหวินเชาอธิบายอย่างอึกอักไม่กล้าพูด“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากฟังแกอธิบาย”หลี่ฮุ่ยหรานเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งจริง ๆเธอใช้เวลาไม่นานก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว พร้อมกับ
“ผู้หญิงคนนั้นผมบังเอิญเจอตอนกำลังคุยเรื่องธุรกิจที่ประเทศเวน่า เธอ....เธอเป็นฝ่ายยั่วยวนผมและให้ผม...แค่กแค่ก.....”“ให้ผมลงทุนที่ดินสองผืน จนได้กำไรไม่น้อย”ประธานโจวพูดอย่างอ่อนแรงว่า :“ด้วยเหตุนี้ผมก็ตกหลุมพลางของเธอ และไว้ใจเธอมาก”“แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอหนีไปจากผมแล้วแถม...แถมยังเอาทรัพย์สินส่วนใหญ่ของบริษัทผมไปด้วย แค่กแค่กแค่ก...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ประธานโจวก็โกรธมากอย่างเห็นได้ชัด“หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ผม...ผมก็คงไม่หวาดกลัวว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปจะดีเด่นขึ้นมา....”“เป็นแบบนี้นี่เอง”หลินเฟิงรู้สึกสะเทือนใจประธานโจวบอกว่าเขาพบกับฉู่ฮวาจิ่นที่ประเทศเวน่าหรือว่าฉู่ฮวาจิ่นคนนี้จะเป็นคนประเทศเวน่า?“ใช่....ใช่แล้ว คุณ...คุณชายหลิน”ประธานโจวที่เห็นว่าหลินเฟิงสนใจผู้หญิงคนนั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงรีบพูดว่า:“ผู้หญิงคนนั้นแพ้ดอกลิลลี่ อีกทั้งแพ้อย่างรุนแรง”“แพ้ดอกลิลลี่?”หลินเฟิงแอบจดจำไว้ในใจ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เลือกที่จะฆ่าประธานโจวโดยตรง แต่ถามเขาเกี่ยวกับฉู่ฮวาจิ่น ก็ยังได้ข้อมูลอะไรบางอย่างด้วยแน่นอนว่า เรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องที่โกหกขึ้นมาแต่เมื่อ
นี่เป็นร่างกายที่เหมือนกับเทพเพียงแต่พลังชี่แท้ของเขายังคงเป็นขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน“ถ้าหากฉันเรียนรู้ที่จะลอยตัวได้ และปล่อยคาถา ก็จะเป็นเทพจริงๆ แล้วใช่ไหม?”“หรือพูดว่า...ขอบเขตเทพ?”หลินเฟิงลังเลเล็กน้อยหรือว่าร่างกายของเขาตอนนี้ได้บรรลุขอบเขตเทพแล้ว?นี่คือระดับขั้นที่อยู่เหนือแดนแปรภาพยอดฝีมือขอบเขตเทพทั่วทั้งประเทศมังกร สามารถใช้นิ้วนับได้หลินเฟิงตั้งสติ กวาดสายตามองลูกสมุนที่คุกเข่ากราบเขาอยู่รอบๆ ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ไสหัวไป”“ครับครับครับ ท่านเทพผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราไสหัวไป จะไปเดี๋ยวนี้ครับ”“รีบไป...ไม่ รีบไสหัวไป ไสหัวไปสิ...”มองดูพวกลูกสมุนหลายสิบคนที่ทิ้งอาวุธหนีไป หลินเฟิงกลับไม่ได้ตามไปโจมตีเขาไม่ใช่คนที่ฆ่าไม่เลือก คนเหล่านี้ถึงแม้จะมีโทษประหาร แต่ไม่มีความท่าทีจะต่อสู้แล้ว แลก็ไม่ได้ขวางทางหลินเฟิงเช่นนั้นหลินเฟิงก็ขี้เกียจจะสนใจ“เอาล่ะ”หลินเฟิงยื่นมือไปจับคอเสื้อของหลี่เหวินเชา เหมือนกับยกลูกไก่ขึ้นมาส่วนประธานโจว ตอนนี้หน้าเละเทะ คนทั้งคนเหลือลมหายใจอยู่แค่เพียงครึ่งเดียวดูท่าเพื่อที่จะรอดชีวิต หลี่เหวินเชาลงมือไดด้อย่างไ
“พรวด!”หลินเฟิงไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ เขายกเท้าขึ้น เตะร่างกายท่อนบนของหานเวยจนระเบิดออกมองดูเลือดสดและเนื้อที่กระเด็นไปทั่ว สีหน้าของประธานโจวกับหลี่เหวินเชาเปลี่ยนไปซีดขาวโดยสิ้นเชิง“นี่...นี่เขาแม่งใช่คนเหรอ?”ประธานโจวเหลือบมองหลี่เหวินเชา อยากจะตบหน้าเขาต่อหน้าทุกคน เขาแม่งเชิญพญายมมาจากที่ไหนกัน?หรือว่าตั้งใจอยากจะฆ่าเขางั้นเหรอ?“ผม...เป็นไปได้ยังไง...”หลี่เหวินเชาหน้าตาโศกเศร้า สีหน้าของเขาแย่ยิ่งกว่าประธานโจว คนทั้งคนแทบเหมือนกับถูกสูบกระดูกอ่อน ตัวอ่อนทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างสั่นเทาถ้าหากหลินเฟิงตามมาจะไม่ฆ่าเขาได้ในทันทีเลยเหรอ?นึกถึงเรื่องเลห่านี้ที่ตัวเองทำ และคำพูดรุนแรงที่เขาพูดกับหลินเฟิงเมื่อครู่นี้ เขาก็อดไม่ได้ที่อยากจะตบหน้าตัวเอง“นี่...ทำยังไงดี?”หลี่เหวินเชางุนงงไปหมด เขาพยายามคิดหาวิธีให้ตัวเองรอดชีวิตไปได้ และในตอนนี้เอง เขาก็เห็นสายตาที่ดุเดือดของประธานโจวที่มีต่อเขาเช่นเดียวกันหลี่เหวินเชาที่กำลังกระวนกระวายในตอนแรก เป็นเหมือนกับหมาป่าที่ถูกต้อนจนสิ้นหวัง กลับเผยสายตาดุดันออกมาใส่ประธานโจว “ทั้งหมดเป็นเพราะแกข่มขู่ฉัน! แม่งเอ๊ย!”หลี่เหวิน
ตอนนี้ ทุกคนต่างคิดว่าคนที่พ่ายแพ้และมีเลือดไหลออกมาก็คือหลินเฟิงแต่...“แค่กแค่กแค่ก.พี่ใหญ่ รีบ...รีบหนี”เสียงไอที่อ่อนแรงดังขึ้นมาท่ามกลางหมอกควัน“อะไรกัน?!”หานเวยที่กุมข้อมือที่หักของตัวเอง คุกเข่าอยู่บนพื้นถลึงตาโต เขาได้ยินอะไร?เขาเหมือนกับได้ยินเสียงที่อ่อนแรงของน้องชายตัวเองแถมยังให้เขาหนีไปอีก?ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่?ไม่ถึงสองวินาที ควันฝุ่นหายไปจนหมด ในที่สุดหานเวยก็เห็นภาพตรงหน้าแล้วเห็นเพียงแค่หลินเฟิงยื่นหมัดออกมาอย่างเงียบสงบคิดไม่ถึงว่าจะโจมตีโดนหน้าอกของหานกั๋วโดยตรงแบบนี้!ศพของหานกั๋วห้อยอยู่ที่แขนของหลินเฟิง แขนกับศีรษะตก ไม่มีลมหายใจแล้ว!“อะไร?!”หานเวยตกตะลึงจนหน้าถอดสี น้องชายของเขาถูกหมัดธรรมดาๆ แบบนี้...ฆ่าตายงั้นเหรอ?!”“ฮะ?!”หลี่เหวินเชาก็แสดงความตกตะลึงออกมากับผลลัพธ์แบบนี้เป็นเพราะเขารู้ว่าหลินเฟิงก็เป็นนักบู๊ถึงแม้จจะออกจากเมืองเจียงโจวไประยะหนึ่งแล้ว แต่เขาได้ยินมาจากที่ต่างๆ ว่าความสามารถของหลินเฟิงนั้นแข็งแกร่งมากด้วยเหตุนี้ เขาจึงเตือนประธานโจวโดยเฉพาะและประธานโจวก็ไม่ได้สะเพร่า จ่ายเงินไปก้อนใหญ่ เชิญพี่น้องตระกูลหาน
“ในเมื่อพวกนายหาที่ตาย งั้นฉันก็จะตอบสนองพวกนาย!”หลินเฟิงสายตาเย็นชา พลิกฝ่ามือตบออกไป ทำให้หมัดของหานเวยแตกหักทันที“หือ?!”ความรู้สึกที่กระดูกแตกหักนั้นชัดเจนจนดังเข้ามาในหัวของหลินเฟิงหลังจากเสียงร้องโอดครวญของหานเวย หลินเฟิงกลับยืนอยู่กับที่และมองฝ่ามือของตัวเองด้วยความตกตะลึง เขาจำได้ว่า...ตัวเองน่าจะไม่ได้มีแรงมากมายขนาดนี้หรอกมั้ง?”ตามแผนการย้อนโจมตีที่หลินเฟิงวางแผนเอาไว้เขาจะผลักกำปั้นที่ดุดันของหานเวยออก จากนั้นใช้หมัดอีกข้างหนึ่งโจมตีกลับ ต่อยหน้าผากของหานเวยจนแตก ทำให้เขาตายในทันทีแต่สิ่งที่ทำให้หลินเฟิงประหลานใจเล็กน้อยก็คือ ฝ่ามือที่เขาทำเพื่อป้องกันการโจมตีของหานเวย กลับเป็นเหมือนกับมีดสับเต้าหู้ ที่ตัดทั้งกำปั้นของหานเวยโดยตรงภายใต้ความแอบตกตะลึง หลินเฟิงกลับลืมที่จะโจมตีต่อไปเขายืนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม มองฝ่ามือของตัวเองด้วยความงุนงง“พลังชี่แท้ภายในร่างกายไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่นิด มีเพียงหนึ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือระดับความแข็งแกร่งของร่างกายของฉัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”หลินเฟิงตั้งตัวไม่ได้ชั่วขณะ“ไอ้หนุ่ม นายใช้วิธีชั่วร้ายอะไร?!”เห็
เถ้าแก่โจวเห็นสองพี่น้องตระกูลหานพูดออกมา เขาก็ขมวดคิ้ว และบ่นพึมพำในใจเขาหันหน้ามองไปทางหลี่เหวินเชา“นายมั่นใจว่าเขาก็คือหลินเฟิง? สามีของหลี่ฮุ่ยหราน?”“ถูกต้อง!”หลี่เหวินเชาจ้องมองหลินเฟิง และแสยะยิ้มพูดว่า: “ประธานโจว คุณวางใจได้ ต่อให้เขากลายเป็นขี้เถ้าผมก็จำได้”“หึ ถ้าหากไม่ใช่ นายรู้จุดจบนะ”ประธานโจวยิ้มเยาะได้ยินคำพูดแบบนี้ หลี่เหวินเชาตัวสั่นไปหมด และก็รีบยิ้มประจบสอพอพูดว่า:“ประธานโจวพูดอะไรกันครับ ผมจะกล้าหลอกคุณได้ยังไงล่ะ?!”“คนผู้นี้ก็คือหลินเฟิงแน่นอน ถ้าหากผมพูดผิด คุณก็ฆ่าผมได้เลย!”“อีกอย่าง ผมยังค้างเงินคุณอยู่อีกสี่ร้อยห้าสิบล้านบาท!”ต่อให้ทำเพื่อเอาหลี่ซื่อกรุ๊ปมาจำนำ ผมก็ไม่สามารถบอกคุณได้ ถูกไหมครับ?”หลินเฟิงที่อยู่กลางวงล้อมรอบถือว่าได้ยินชัดเจนแล้วที่แท้หลี่เหวินเชาติดหนี้ประธานโจวคนนี้ ถูกบีบบังคับให้คิดหาวิธี จึงทำได้แค่เอาพี่สาวของตัวเองออกมาเป็นเกาะกำบัง“ไอ้เวร...”หลินเฟิงสีหน้าดุดัน ครอบครัวของหลี่ฮุ่ยหรานทำไมถึงไร้มนุษยธรรมแบบนี้? เอาเปรียบหลี่ฮุ่ยหรานอย่างถึงที่สุด?“หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ที่ไหน?”เมื่อเห็นว่าคนที่ออยู่รอบๆ จะลงมือ
ประธานโจว ประธานโจว! ผมพาคนมาแล้ว!”“รบกวนคุณให้พรรคพวกของคุณลงมือ กำจัดหลินเฟิงคนนี้ซะ!”หลี่เหวินเชาลงจากรถ ตะโกนไปด้วย พร้อมทั้งวิ่งไปในโรงงานร้าง“หึหึ...”แต่ในตอนนี้ ชายแก่ที่ดูอายุประมาณหกสิบปี สวมชุดสูทลายทาง ปากคาบซิการ์เดินออกมาจากภายในโรงงานหลินเฟิงก็จำคนคนนี้ได้เช่นกันตอนนั้นที่งานประมูล เคยพูดคุยกับหลี่ฮุ่ยหรานหลินเฟิงจำได้ว่า คนคนนี้เหมือนจะยังถูกคนนอกเรียกว่าหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเจิ้งเต๋อนามสกุลโจวตอนนั้น ข้างกายของเขายังมีฉู่ฮวาจิ่นติดตามอยู่ด้วยเมื่อเห็นหลินเฟิงลงมาจากรถ และเดินเข้ามาด้วยท่าทางสบายใจ ประธานโจวคนนี้ก็สูบซิการ์ พ่นควันออกมา และหัวเราะเบาๆ พูดว่า:“นายคือหลินเฟิง สามีของหลี่ฮุ่ยหราน?”“ถูกต้อง”หลินเฟิงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของเขา เหลือบมองหลี่เหวินเชาที่อยู่ข้างๆ ตระกูลโจว และส่ายหน้าด้วยความเหยียดหยาม:“เดิมทีคิดว่าช่วงเวลาที่นายออกจากเมืองเจียงโจว น่าจะมีความคืบหน้าอยู่บ้าง แต่คิดไม่ถึงว่านายจะไร้ยางอายแบบนี้”“หึ ไร้ยางอายก็ต้องดูว่าเป็นใคร!”หลี่เหวินเชาพูดยิ้มเยาะ: “สำหรับขยะแบบนาย ไม่มีคำพูดอะไรที่น่าประนีประนอมด้วย!”“
“หลี่เหวินเชา? พี่สาวนายล่ะ?”หลินเฟิงตะโกนขึ้นเสียงดัง ทำให้หลี่เหวินเชาตกใจจนเกือบโยนโทรศัพท์มาในตอนที่เขาเห็นว่าคนที่มาถึงคือหลินเฟิง ก็ทำสีหน้าไม่พอใจทันที“ไม่รู้ อย่ามาถามฉัน!”หลังจากตอบกลับด้วยความหงุดหงิด หลี่เหวินเชาก็ตกอยู่ในโลกเกมของตัวเองอีกครั้งหลินเฟิงเห็นภาพนี้ ก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยโดยเฉพาะเรื่องที่หลี่เหวินเชาคนนี้เอาเท้าวางไว้บนโต๊ะที่ปกติหลี่ฮุ่ยหรานไว้ใช้ทำงาน ถึงขั้นที่เอกสารจำนวนมากถูกเหยียบจนมีรอยเท้า“เอ๊ะ? หัวหน้าหลิน?”ในตอนนี้ เลขาที่หลี่ฮุ่ยหรานโยกย้ายมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปของเมืองเจียงโจวเห็นหลินเฟิง เธอจำหลินเฟิงได้แน่นอนอยู่แล้วเธอรีบดึงหลินเฟิงไปที่ด้านข้างและพูดเสียงเบาว่า:“โทรศัพท์ของประธานหลี่หายไปเมื่อคืน พวกเราหาทั้งคนก็ตามหาไม่พบ เมื่อครู่ประธานหลี่ไปเยี่ยมแม่ของเธอที่โรงพยาบาลแล้ว“ประธานหลี่กำชับกับฉัน หากเห็นคุณกลับมาก็ให้บอกเธอสักคำ”หลินเฟิงฟังเลขาที่อยู่ข้างๆ อธิบายกับเขากลับรู้สึกได้ว่าหลี่เหวินเชากำลังแอบมองเขาอยู่รอตอนที่หลินเฟิงมองไปทางหลี่เหวินเชา เขาก็รีบเคลื่อนสมาธิไปที่บนโทรศัพท์ ปากก็ตะโกนไม่หยุดแสร้งทำท่าเป็นใช้