หลินเฟิงค่อย ๆ เอ่ยออกมา “ท่านผู้นำซ่ง ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ครับ”“รอให้ผมได้ตรวจชีพจรของท่านก่อนเถอะครับ” “ได้......”หลินเฟิงเดินไปอยู่ตรงหน้าชายชราซ่ง แล้ววางนิ้วบนข้อมือของชายชราชั่วครู่ค่อย ๆ สัมผัสชีพจรของชายชราอย่างละเอียดคิ้วของหลินเฟิงค่อย ๆ ขมวดขึ้น ชั่วพริบตาก็ค่อย ๆ คลายลง แล้วก็ขมวดขึ้นอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน ซ่งเฉียนเฉิงอดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ว่า “เจ้าหนู นายไหวไหมเนี่ย?”ชายชราซ่งเอ่ยปลอบใจ “เจ้าหนูไม่ต้องกังวล มีปัญหาอะไร นายพูดมาเลยไม่เป็นไรหรอก”ในเวลานี้หลินเฟิงก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“เจ้าหลิน อาการของพ่อผมเป็นยังไงบ้าง?” ซ่งเฉียนคุนรีบก้าวฉับมาด้านหน้าและเอ่ยถามหลินเฟิงตอบ “อาการของพ่อคุณหนักมาก ช่วงแรก ๆ ที่ฝึกการต่อสู้กับคนอื่นมีโรคซุกซ่อนแฝงอยู่” “พอต่อมาไม่บำรุงร่างกาย สูบบุหรี่ ติดเหล้าเมายา อาการเลยแย่ลง บวกกับพ่อของคุณอายุมากถึงเจ็ดสิบปีแล้ว” “อายุขัยมาจนถึงอายุสูงสุดของคนทั่วไปแล้ว ไม่มีวิธีรักษาแล้วล่ะครับ” “ฮะ?”เมื่อซ่งเฉียนคุนได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกราวกับทั้งร่างถูกฟ้าผ่า ถอยร่นไปหลายก้าวรู้สึกเสียใจมากอยู่ภายในใจ แต่ก
Read more