All Chapters of มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน: Chapter 221 - Chapter 230

507 Chapters

บทที่ 221

สายฟ้าทมิฬก็ชะงักไป จากนั้นใบหน้าของเขาก็แดงขึ้นมาพร้อมกับกล่าว : "คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าไม่มีโอกาสได้รู้หรอก""ได้ มีความมุ่งมั่น แต่ว่าข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าว่าตอนก้นแตกทำไมถึงเป็นลายดอกสีแดง!" ขณะพูดโม่จุนก็ทำสัญญาณมือขึ้นมาทุกคนถูกคำพูดของมู่จิ่วซีทำให้ตกตะลึงไป ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของคุณหนูใหญ่มู่ถึงได้ดูกล้าได้กล้าเสียและน่าขบขันนักโม่จุนตอนนี้รู้สึกละอายขายหน้าอย่างมากและรีบพูดขึ้นมา : "เมื่อข้าตะโกนถึงสาม พวกเจ้าก็เริ่มได้เลย หนึ่ง สอง .... สาม!"เมื่อคำว่าสามดังขึ้น สายฟ้าทมิฬก็เหมือนลูกธนูที่ดีดออกจากคันศรสิ่งกีดขวางแรกคือกำแะงสูงสามเมตร สายฟ้าทมิฬเพียงกระโดดเขย่งปลายเท้าสองข้างก็ผ่านมาได้แล้วส่วนมู่จิ่วซี ตอนที่เขากำลังก้าวข้ามผ่านกำแพง นางก็ดีดพุ่งตัวออกไป นางเพียงตวัดขาออกไป ตัวของนางก็ตีลังกา 360 องศาลอยกลางอากาศผ่านข้ามกำแพงไป"ให้ตายเถอะ! นี่คือไม่ได้ใช้กำลังภายในงั้นเหรอ?" บางคนไม่พอใจจนตะโกนกล่าวออกมา"นางไม่ได้ช้กำลังภายในจริงๆ ไม่มีกลิ่นอายของกำลังภายในลอยออกมา! แต่ว่าการระเบิดพละกำลังของนางแข็งแกร่งมาก อีกทั้งร่างกายก็เบาและยืดหยุ่นด้วย เรี่ยวแรงการควบคุมร่า
Read more

บทที่ 222

สิ่งกีดขวางหลาย 10 อย่าง ตอนที่มู่จิ่วซีก็ผ่านสำเร็จ นางก็เห็นสายฟ้าทมิฬกำลังร้องไห้คลานอยู่บนสะพานไม้เดี่ยวมู่จิ่วซีก้ปรบมือกระโดดโลดเต้นและวิ่งกลับไปหา อันที่จริงสีหน้าของทหารมังกรดำล้วนละอายอย่างมาก แต่ไม่มีใครกล้าหัวเราะสายฟ้าทมิฬ ถึงอย่างไรไม่ว่าจะเป็นใคร ใครที่ได้มาเจอการแข่งแบบนี้ก็ต้องร้องไห้ทั้งนั้นทุกคนต่างเข้าใจหัวอกของสายฟ้าทมิฬในตอนนี้ ถึงอย่างไรพวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครแกร่งไปกว่าสายฟ้าทมิฬสถานการณ์แบบนี้เหมือนกับคุณปู่ตีหลานอย่างใดอย่างนั้น ระดับของพวกเขาแทบจะห่างกันคนละชั้นสีหน้าของโม่จุนยากที่จะดูได้อย่างมาก มู่จิ่วซีแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ อีกอย่างทหารมังกรดำของเขาเองก็อ่อนแอเกินไปอ่อนแอจนเขาหน้าแดง จนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีหน้ากล้าไปมองมู่จิ่วซี"สายฟ้า ลงมาลงมา เป็นผู้ชายอกสามศอก ร้องไห้อะไร" มู่จิ่วซีเดินมาถึงข้างๆ สะพานไม้เดี่ยวและยิ้มกล่าว "ไม่ใช่ว่าเจ้าอ่อนแอ แต่ว่าข้าแข็งแกร่งเกินไป เข้าใจไหม?"เดิมทีพวกเขาคิดว่ามู่จิ่วซีคงจะมาปลอบสายฟ้า แต่พอได้ฟังก็รู้สึกไม่ถูกต้อง นางกำลังชมตัวเองอยู่แต่ว่าตอนนี้ในใจคนมากมายล้วนรู้สึกแล้วว่ามู่จิ่วซีแข็งแกร่ง แค่ขนาดด
Read more

บทที่ 223

ทหารมังกรดำและโม่จุนก็เห็นมู่จิ่วซีโค้งตัวเองจนกลายเป็นสะพานโค้ง"เห็นแล้วหรือยัง ท่านี้ให้พยายามทำทุกวันเป็นเวลา 1 ชั่วยาม จากนั้นก็ก้มงอตัวกอดขาตามเข็มนาฬิกาอีก 1 ชั่วยาม ไม่ทันจะครบเดือน ร่างกายของพวกเจ้าก็จะกระฉับกระเฉงยิ่งกว่านี้หลายเท่าแล้ว"มู่จิ่วซีก็พลิกตัวและก็ก้มงอตัวกอดขาตัวเองจนเป็นก้อนกลม จมูกชิดกับขาสองข้าง ร่างกายท่อนบนทั้งตัวแนบชิดกับขาทั้งสองข้าง"ความอ่อนตัวของคุณหนูใหญ่มู่น่าตกใจมากจริงๆ" คุณหนูใหญ่มู่กล่าวออกมาอย่างตกใจ"นี่คือทักษะพื้นฐาน หลังจากทำสองท่านี้เสร็จเป็นเวลา 1 เดือน ข้าจะสอนท่ายากกว่านี้ให้พวกเจ้า แต่ว่าเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง" มู่จิ่วซีเผยรอยยิ้มออกมา "สนามการแข่งสิ่งกีดขวางนี้ ข้าพรุ่งนี้จะส่งแบบมาให้ จากนั้นพวกเจาก็อ้างอิงตามแบบแล้วก่อสร้างก็แล้วกัน""แล้วก็มีเรื่องสำคัญอีกเรื่อง ตอนฝึกห้ามใช้กำลังภายใน ในทางตรงกันข้าม จะต้องทนรับน้ำหนัก โดยการที่ขาและมือจะต้องผูกติดกับแผ่นเหล็กแผ่นหิน แบบนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน กลังจากนั้นพวกเจ้าก็จะรู้สึกว่าต่อให้ไม่ใช้กำลังภายในก็แทบจะสามารถบินได้""คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าเองฝึกฝนมาแบบนี้งั้นเหรอ?" มีคนหนึ่งถามขึ้
Read more

บทที่ 224

"นายท่าน พวกเราจะยังมีอะไรที่จะชนะนางได้บ้างขอรับ?"หัวสมองของโม่จุนมึนงงไปหมด เขากระแอมในลำคอเพื่อให้พูดชัดและกล่าวออกมาอย่างโมโห : "คุณหนูใหญ่มู่นั้นคมในฝักจริงๆ พวกเจ้าไม่มีอะไรที่จะไปชนะนางได้ พวกเราทหารมังกรดำเหมือนกับเอาหน้าไปกวาดพื้น วันนี้คือโอกาส พวกเจ้าคิดว่าหากมีอะไรที่แข็งแกร่ง ก็ขอประลองกับนาง ขอไม่ได้ขออะไรมาก ขอแค่ชนะนางครั้งเดียว เพื่อกู้หน้าของข้าหน่อยจะได้ไหม?""อะไรก็ได้งั้นเหรอขอรับ? พวกเรายังไม่ได้ขอประลองต่อสู้กับนางเลย?""ไอโง่ แข่งพละกำลังงั้นเหรอ นางคือผู้หญิง จะแข็งแกร่งกว่าได้ยังไง พละกำลังนางสู้ผู้ชายไม่ได้แน่นอน""แข่งยิงธนูไง ฝนทมิฬคือเซียนมือธนู ยิง 100 ดอก โดน 100 ดอก เขาจะต้องชนะแน่นอน""ใช่ๆๆ คุณหนูใหญ่มู่ต่อให้แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีทางแข็งแกร่งไปทุกอย่างหรอก แบบนั้นคงไม่ใช่คนแล้ว?"....โม่จุนได้ยินพวกเขาพูดกันไปมา ในใจของเขาอันที่จริงอยากให้พวกเขาได้แลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับมู่จิ่วซีมากกว่านี้ แบบนั้นเขไาม่เพียงแต่พัฒนาความสามารถของทหารมังกรดำ ยังสามารถเข้าใจผู้หญิงคนนี้มากขึ้นได้ดด้วยมู่จิ่วซีไม่รู้ว่านางเองในตอนนี้เหมือนกับสมบัติในสายตาของโม่จุน รอ
Read more

บทที่ 225

มู่จิ่วซีรับรู้ถึงสายตาที่หยั่งเชิงลึกของโม่จุน นางหันไปมองเขาครู่หนึ่ง จากนั้นก็เผยฟันยิ้มแฉ่งให้กับเขาในใจก็คิดว่าชายคงนี้คงจะคิดฉวยโอกาสให้กับตัวนางเอง กลัวว่านางเองคงจะยิงธนูไม่เป็นสินะนางเองถ้าต้องถูกผู้ชายชาติหมดคนนี้มองจนทะลุปรุโปร่ง นางจะยังเรียกตัวเองว่าราชินีแห่งราตรีได้หรอ?"ก้อนหินเยอะแยะไปหมด พวกเราไปช่วยหยิบมาให้" มีคนกล่าวขึ้นมา ทุกคนต่างก็ช่วยกันเก็บก้อนหิวแถวนั้นจากนั้นก็มีคนเอาเป้าธนูมาวางตั้งเอาไว้ ไม่นานนักด้านหน้าของมู่จิ่วซีก็มีหินมาวางไว้กองหนึ่ง ด้านหน้าของฝนทมิฬก็มีหินกองหนึ่งวางเอาไว้เช่นกันมู่จิ่วซีหยิบหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งขึ้นมาถือและกล่าว : "ดูว่าใครเขวี้ยงโดนจุดแดงตรงกลางใช่ไหม?"ฝนทมิฬเหลือบมองครู่หนึ่งและพูดขึ้นมา : "ใช่ คุณหนูใหญ่คิดว่าระยะประมาณนี้พอจะได้ไหม?""แล้วแต่เจ้าเลย" มู่จิ่วซียิ้มกล่าว"งั้นเราก็แข่งที่ระยะ 30 เมตรแล้วกัน" ฝนทมิฬเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นมามู่จิ่วซีพยักหน้า พวกทหารย้ายเป้าธนูถอยออกไปอีกให้ห่างเป็นระยะทางประมาณ 30 เมตรระยะห่างถึงขนาดนี้ การจะปาให้โดนจุดแดงใจกลางถือว่ายากมาก การกะเรี่ยวแรงไม่อาจพลาดไปได้เลย
Read more

บทที่ 226

"เหน็บแนมเขาคนเดียวซะที่ไหนล่ะ ทุกคนต่างก็ล้วนโดนหางเลขไปด้วย""ใช่น่ะสิ พวกเจ้าบอกทีว่าที่คุณหนูใหญ่มู่พูดว่าพวกเรามันสวะ ทำไมข้าถึงได้รู้สึกว่าพวกเราดูจะคล้ายขึ้นมาจริงๆ""ถ้าต้องประลองกับนางพวกเรามันก็สวะจริงๆ""ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ พวกเราร่ำเรียนกันมาตั้งหลายปี ทำไมทักาะแต่ละอย่างของเราถึงเทียบกับนางไม่ติด""ที่เลวร้ายที่สุดคือ คุณหนูใหญ่มู่แต่ก่อนเป็นคุณหนูใหญ่ผู้ลากมากดีที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เพียงพริบตานางก็กลับมามีความสามารถหลากหลาย สั่นสะเทือนผู้คนไปทั้งใต้หล้า""ช่างอัศจรรย์""บุตรสาวของพระผู้เป็นเจ้าหรือไง""ฮือๆ พวกเราแพ้โคตรอนาถเลย...ไม่มีหน้าไปเจอคนแล้ว...""นายท่านเสียหน้าจนไม่มีให้จะเสียแล้ว"รอบด้านต่างมีเสียงดังขึ้นไปทั่ว มู่จิ่วซีได้ยินก็เกือบจะหัวเราะออกมา"เจ้ายิงธนูไม่เป็นใช่ไหม?" ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โม่จุนมาอยู่ข้างกายนาง เสียงอันแผ่วเบาของเขาได้ดังขึ้นข้างหูของนางมู่จิ่วซีเอื้อมมืออกมาและผลักเขาออกไปและก็กล่าว : "พูดดีๆ ก็ได้ จะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ทำไม ถ้าข้าพลาดมือไป เจ้าได้สิ้นชีพแน่"โม่จุนตกตะลึงไป จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาเขาก็โกรธขึ้นมา
Read more

บทที่ 227

โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี จากนั้นก็หันมองจี๋เฟิงและกล่าว : "จี๋เฟิงคือทหารมังกรดำพอจะจัดอันดับได้ว่าเป็นผู้พิทักษ์เงาแนวหน้า 20 คนแรก""20 คนแรก? แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?" มู่จิ่วซีหันมองจี๋เฟิงและกลับตกใจเล็กน้อยใบหน้าอันเรียบเฉยปกติของจี๋เฟิงดูเหมือนจะขยับเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองมู่จิ่วซีและกล่าว : "ได้โปรดคุณหนูใหญ่มู่สั่งสอน ข้าน้อยอย่างข้าพอจะเข้าใจถึงความเก่งกาจผู้พิทักษ์เงาของแคว้นศัตรู""พวกนั้นน่ะเหรอ เจ้าไม่ต้องไปเข้าใจหรอก ไม่ต่างกับพวกเจ้าเท่าไหร่" ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีทำให้กลุ่มทหารมังกรดำส่งเสียงร้องระงมกันออกมาโม่จุนก็กล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ : "จากที่ข้าดูแล้ว พวกเจ้าอาจเทียบไม่ติดด้วยซ้ำ! ขายหน้านัก"โม่จุนรู้สึกชายหน้าจริงๆ เขาพามู่จิ่วซีมาที่ค่ายของทหารมังกรดำเพื่อให้นางได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งผู้พิทักษ์เงาของแคว้นเกาอวิ๋นใครจะไปคิดว่ากลับแพ้ยับเยิน อีกทั้งระดับยังห่างชั้นกันแบบต่อให้หวดม้าไล่ตามก็ตามไม่ทันประเภทนั้น มันทำให้เขารู้สึกใจหายวาบหากแคว้นศัตรูมีมู่จิ่วซี เขารู้สึกว่าเขาคงได้แต่ต้องกังวลจนผมบนหัวได้ล่วงหมดแน่แต่ที่ยังดีคือมู่จิ่วซีคือคนของแคว้นเกาอว
Read more

บทที่ 228

"ได้! วันนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้า ขอเพียงเจ้าชนะ ข้าจะให้เจ้าได้เป็นผู้พิทักษ์เงาข้างกายของโม่จุน""คุณหนูใหญ่มู่ ท่านไม่ได้เป็นคนกำหนด" จี๋เฟิงหันไปมองโม่จุนครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวออกมาพร้อมกับอดกลั้นดวงตาที่แดงฉานโม่จุนหัวเราะยิ้มขึ้นมาและก็กล่าว : "จี๋เฟิง ถ้าหากเจ้าสามารถเอาชนะคุณหนูใหญ่มู่ได้ อย่าว่าแต่ตำแหน่งผู้พิทักษ์เงาข้างกาย ข้าจะให้เจ้าได้เป็นพี่ใหญ่ผู้พิทักษ์เงาข้างกายของข้าก็ยังได้!""ท่านอ๋อง ท่านพูดจริงอย่างงั้นหรือ?" จี๋เฟิงกล่าวขึ้นมาอย่างดีใจ ทหารมังกรดำคนอื่นก็ล้วนตกใจขึ้นมาเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างล้วนอิจฉาถึงอย่างไรการได้อยู่ข้างกายท่านผู้สำเร็จราชการแทนก็ดูน่าเกรงขามแล้ว อีกทั้งยังได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์มากมาย ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย"แน่นอนว่าที่ข้าพูดไปสามารถกล่าวได้ว่า พวกเจ้าที่นี่ทั้งหมดขอเพียงสามารถเอาประลองเอาชนะคุณหนูใหญ่มู่ได้ พวกเจ้าก็ล้วนจะสามารถเป็นผู้พิทักษ์เงาข้างกายข้าได้เช่นกัน" โม่จุนก็ได้ใช้สิ่งล่อใจนี้กับพวกเขา ทหารมังกรดำต่างล้วนถูกชักนำอารมณ์จนฮึกเหิมสายตาพวกเขาที่มองไปยังมู่จิ่วซีราวกับกำลังหมายปองหมั่นโถวร้อนๆ อย่างใดอย่างนั้น"พ
Read more

บทที่ 229

มู่จิ่วซียิ้มกล่าว : "จี๋เฟิง จริงๆ แล้วข้าสามารถโจมตีเจ้าได้ตั้งแต่แรก" มู่จิ่วซีตีไม้เรียวกับมือตัวเองและก็กล่าว "ข้าเคยบอกแล้ว ข้าเป็นแต่กระบวนท่าสังหาร ข้าสู้กับเจ้าไปตั้งหลายกระบวนท่าขนาดนั้น อันที่จริงมันไม่ควรด้วยซ้ำ"ประโยคนี้ทำให้จี๋เฟิงสีหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา"ไม่พอใจสินะ ต่อเลย แต่ว่ากระบวนท่าของข้าต่อจากนี้จะล้วนเป็นกระบวนท่าสังหาร พวกเจ้าทุกคนจับตาไว้ให้ดีล่ะ เรียนได้ก็เรียน เรียนไม่ได้ก็รู้ไว้ซะว่าตัวเองโง่มากแค่ไหน" จู่ๆ มู่จิ่วซีก็พูดขึ้นมาพร้อมกับน้ำเสียงอันคมกริบบรรยากาศอึมครึมได้แผ่ซ่านออกมารอบตัวของนาง จิตสังการที่กระหายเลือดอันรุนแรงได้ปกคุลมไปทั่วทุกบริเวณทหารมังกรดำที่อยู่ตรงนั้นต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที พวกเขาแต่ละคนมีสีหน้าซีดขาวแม้แต่โม่จุน็ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่มืดครึ้ม ราวกับว่าเขาได้เจอกับศัตรูที่สุดยอดในใจของเขารู้สึกตกใจอย่างมาก บรรยากาศกลิ่นอายของมู่จิ่วซีแบบนี้สิ ถึงจะเป็นการแสดงพลังที่แท้จริงของนาง แม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะรับรู้ได้ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนในครั้งนี้นางเหมือนกับได้ปกครองขุมนรกไว้ทั้งหมด ส่วนนางก็คือจักรพรรดินีของขุมนรกนี้ ข
Read more

บทที่ 230

ในตอนสุดท้ายเขาถูกมู่จิ่วซีใช้ฝ่าเท้าเตะกวาด ขาเรียวยาวของนางวาดเตะออกมาตั้งฉากกลับลำตัวของนาง ตรงส่วนปลายรองเท้าได้ปรากฎใบมีดแหลมคมเฉือนไปตรงลำคอของจี๋เฟิง"พี่ใหญ่จี๋เฟิง!" หลายคนกระโจนเข้ามาช่วย พวกเขาคิดว่าจี๋เฟิงถูกมู่จิ่วซีฆ่าตายไปแล้ว"เขาไม่เป็นไร" มู่จิ่วซีปัดฝุ่นตามลำตัวและพูดออกมา "นอกจากรวดเร็ว รุนแรงและแม่นยำแล้ว ร่างกายอันยืดหยุ่นคงจะเป็นกุญแจไปสู่ชัยชนะ แล้วก็ ต้องเข้าใจอีกว่าอวัยวะส่วนไหนที่ควรจะเอามารับแบดเจ็บแทนเพื่อปกป้องชีวิต นี่เป็นวิธีช่วยชีวิตตัวเองในตอนที่วิกฤติที่สุด""คุณหนูใหญ่มู่ ทำไมบนตัวของเจ้าถึงได้มีอาวุธลับมากมาย?" บางคนที่ทั้งสงสัยและกังวลก็ได้ถามขึ้นมามู่จิ่วซีก้ยิ้มกล่าว : "ข้ากลัวตายไง ดังนั้นขอเพียงว่าซ่อนไว้ได้ ข้าก็จะซ่อนเอาไว้ตามร่างกาย เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน อีกเรื่องหนึ่ง หากตัวเองถูกจับได้ การมีสิ่งของซ่อนไว้ได้มากขึ้นแม้เพียงหนึ่งชิ้น บางทีก็อาจช่วยชีวิตเอาไว้ได้ แน่นอนว่าสามารถเอาไว้ใช้ปลิดชีพตัวเองก็ได้ เผื่อว่าจะทนการถูกทรมานไม่ไหว"มู่จิ่วซีเผยไพ่ลับก้นหีบออกมาหลายใบ แต่ว่าในผมของนางยังมีสิ่งของที่ยังไม่ถูกเผยออกมาให้เห็น นางเอ
Read more
PREV
1
...
2122232425
...
51
DMCA.com Protection Status