Share

บทที่ 221

Author: เย่ว์เหมี่ยว
สายฟ้าทมิฬก็ชะงักไป จากนั้นใบหน้าของเขาก็แดงขึ้นมาพร้อมกับกล่าว : "คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าไม่มีโอกาสได้รู้หรอก"

"ได้ มีความมุ่งมั่น แต่ว่าข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าว่าตอนก้นแตกทำไมถึงเป็นลายดอกสีแดง!" ขณะพูดโม่จุนก็ทำสัญญาณมือขึ้นมา

ทุกคนถูกคำพูดของมู่จิ่วซีทำให้ตกตะลึงไป ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของคุณหนูใหญ่มู่ถึงได้ดูกล้าได้กล้าเสียและน่าขบขันนัก

โม่จุนตอนนี้รู้สึกละอายขายหน้าอย่างมากและรีบพูดขึ้นมา : "เมื่อข้าตะโกนถึงสาม พวกเจ้าก็เริ่มได้เลย หนึ่ง สอง .... สาม!"

เมื่อคำว่าสามดังขึ้น สายฟ้าทมิฬก็เหมือนลูกธนูที่ดีดออกจากคันศร

สิ่งกีดขวางแรกคือกำแะงสูงสามเมตร สายฟ้าทมิฬเพียงกระโดดเขย่งปลายเท้าสองข้างก็ผ่านมาได้แล้ว

ส่วนมู่จิ่วซี ตอนที่เขากำลังก้าวข้ามผ่านกำแพง นางก็ดีดพุ่งตัวออกไป นางเพียงตวัดขาออกไป ตัวของนางก็ตีลังกา 360 องศาลอยกลางอากาศผ่านข้ามกำแพงไป

"ให้ตายเถอะ! นี่คือไม่ได้ใช้กำลังภายในงั้นเหรอ?" บางคนไม่พอใจจนตะโกนกล่าวออกมา

"นางไม่ได้ช้กำลังภายในจริงๆ ไม่มีกลิ่นอายของกำลังภายในลอยออกมา! แต่ว่าการระเบิดพละกำลังของนางแข็งแกร่งมาก อีกทั้งร่างกายก็เบาและยืดหยุ่นด้วย เรี่ยวแรงการควบคุมร่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 222

    สิ่งกีดขวางหลาย 10 อย่าง ตอนที่มู่จิ่วซีก็ผ่านสำเร็จ นางก็เห็นสายฟ้าทมิฬกำลังร้องไห้คลานอยู่บนสะพานไม้เดี่ยวมู่จิ่วซีก้ปรบมือกระโดดโลดเต้นและวิ่งกลับไปหา อันที่จริงสีหน้าของทหารมังกรดำล้วนละอายอย่างมาก แต่ไม่มีใครกล้าหัวเราะสายฟ้าทมิฬ ถึงอย่างไรไม่ว่าจะเป็นใคร ใครที่ได้มาเจอการแข่งแบบนี้ก็ต้องร้องไห้ทั้งนั้นทุกคนต่างเข้าใจหัวอกของสายฟ้าทมิฬในตอนนี้ ถึงอย่างไรพวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครแกร่งไปกว่าสายฟ้าทมิฬสถานการณ์แบบนี้เหมือนกับคุณปู่ตีหลานอย่างใดอย่างนั้น ระดับของพวกเขาแทบจะห่างกันคนละชั้นสีหน้าของโม่จุนยากที่จะดูได้อย่างมาก มู่จิ่วซีแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ อีกอย่างทหารมังกรดำของเขาเองก็อ่อนแอเกินไปอ่อนแอจนเขาหน้าแดง จนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีหน้ากล้าไปมองมู่จิ่วซี"สายฟ้า ลงมาลงมา เป็นผู้ชายอกสามศอก ร้องไห้อะไร" มู่จิ่วซีเดินมาถึงข้างๆ สะพานไม้เดี่ยวและยิ้มกล่าว "ไม่ใช่ว่าเจ้าอ่อนแอ แต่ว่าข้าแข็งแกร่งเกินไป เข้าใจไหม?"เดิมทีพวกเขาคิดว่ามู่จิ่วซีคงจะมาปลอบสายฟ้า แต่พอได้ฟังก็รู้สึกไม่ถูกต้อง นางกำลังชมตัวเองอยู่แต่ว่าตอนนี้ในใจคนมากมายล้วนรู้สึกแล้วว่ามู่จิ่วซีแข็งแกร่ง แค่ขนาดด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 223

    ทหารมังกรดำและโม่จุนก็เห็นมู่จิ่วซีโค้งตัวเองจนกลายเป็นสะพานโค้ง"เห็นแล้วหรือยัง ท่านี้ให้พยายามทำทุกวันเป็นเวลา 1 ชั่วยาม จากนั้นก็ก้มงอตัวกอดขาตามเข็มนาฬิกาอีก 1 ชั่วยาม ไม่ทันจะครบเดือน ร่างกายของพวกเจ้าก็จะกระฉับกระเฉงยิ่งกว่านี้หลายเท่าแล้ว"มู่จิ่วซีก็พลิกตัวและก็ก้มงอตัวกอดขาตัวเองจนเป็นก้อนกลม จมูกชิดกับขาสองข้าง ร่างกายท่อนบนทั้งตัวแนบชิดกับขาทั้งสองข้าง"ความอ่อนตัวของคุณหนูใหญ่มู่น่าตกใจมากจริงๆ" คุณหนูใหญ่มู่กล่าวออกมาอย่างตกใจ"นี่คือทักษะพื้นฐาน หลังจากทำสองท่านี้เสร็จเป็นเวลา 1 เดือน ข้าจะสอนท่ายากกว่านี้ให้พวกเจ้า แต่ว่าเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง" มู่จิ่วซีเผยรอยยิ้มออกมา "สนามการแข่งสิ่งกีดขวางนี้ ข้าพรุ่งนี้จะส่งแบบมาให้ จากนั้นพวกเจาก็อ้างอิงตามแบบแล้วก่อสร้างก็แล้วกัน""แล้วก็มีเรื่องสำคัญอีกเรื่อง ตอนฝึกห้ามใช้กำลังภายใน ในทางตรงกันข้าม จะต้องทนรับน้ำหนัก โดยการที่ขาและมือจะต้องผูกติดกับแผ่นเหล็กแผ่นหิน แบบนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน กลังจากนั้นพวกเจ้าก็จะรู้สึกว่าต่อให้ไม่ใช้กำลังภายในก็แทบจะสามารถบินได้""คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าเองฝึกฝนมาแบบนี้งั้นเหรอ?" มีคนหนึ่งถามขึ้

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 224

    "นายท่าน พวกเราจะยังมีอะไรที่จะชนะนางได้บ้างขอรับ?"หัวสมองของโม่จุนมึนงงไปหมด เขากระแอมในลำคอเพื่อให้พูดชัดและกล่าวออกมาอย่างโมโห : "คุณหนูใหญ่มู่นั้นคมในฝักจริงๆ พวกเจ้าไม่มีอะไรที่จะไปชนะนางได้ พวกเราทหารมังกรดำเหมือนกับเอาหน้าไปกวาดพื้น วันนี้คือโอกาส พวกเจ้าคิดว่าหากมีอะไรที่แข็งแกร่ง ก็ขอประลองกับนาง ขอไม่ได้ขออะไรมาก ขอแค่ชนะนางครั้งเดียว เพื่อกู้หน้าของข้าหน่อยจะได้ไหม?""อะไรก็ได้งั้นเหรอขอรับ? พวกเรายังไม่ได้ขอประลองต่อสู้กับนางเลย?""ไอโง่ แข่งพละกำลังงั้นเหรอ นางคือผู้หญิง จะแข็งแกร่งกว่าได้ยังไง พละกำลังนางสู้ผู้ชายไม่ได้แน่นอน""แข่งยิงธนูไง ฝนทมิฬคือเซียนมือธนู ยิง 100 ดอก โดน 100 ดอก เขาจะต้องชนะแน่นอน""ใช่ๆๆ คุณหนูใหญ่มู่ต่อให้แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีทางแข็งแกร่งไปทุกอย่างหรอก แบบนั้นคงไม่ใช่คนแล้ว?"....โม่จุนได้ยินพวกเขาพูดกันไปมา ในใจของเขาอันที่จริงอยากให้พวกเขาได้แลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับมู่จิ่วซีมากกว่านี้ แบบนั้นเขไาม่เพียงแต่พัฒนาความสามารถของทหารมังกรดำ ยังสามารถเข้าใจผู้หญิงคนนี้มากขึ้นได้ดด้วยมู่จิ่วซีไม่รู้ว่านางเองในตอนนี้เหมือนกับสมบัติในสายตาของโม่จุน รอ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 225

    มู่จิ่วซีรับรู้ถึงสายตาที่หยั่งเชิงลึกของโม่จุน นางหันไปมองเขาครู่หนึ่ง จากนั้นก็เผยฟันยิ้มแฉ่งให้กับเขาในใจก็คิดว่าชายคงนี้คงจะคิดฉวยโอกาสให้กับตัวนางเอง กลัวว่านางเองคงจะยิงธนูไม่เป็นสินะนางเองถ้าต้องถูกผู้ชายชาติหมดคนนี้มองจนทะลุปรุโปร่ง นางจะยังเรียกตัวเองว่าราชินีแห่งราตรีได้หรอ?"ก้อนหินเยอะแยะไปหมด พวกเราไปช่วยหยิบมาให้" มีคนกล่าวขึ้นมา ทุกคนต่างก็ช่วยกันเก็บก้อนหิวแถวนั้นจากนั้นก็มีคนเอาเป้าธนูมาวางตั้งเอาไว้ ไม่นานนักด้านหน้าของมู่จิ่วซีก็มีหินมาวางไว้กองหนึ่ง ด้านหน้าของฝนทมิฬก็มีหินกองหนึ่งวางเอาไว้เช่นกันมู่จิ่วซีหยิบหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งขึ้นมาถือและกล่าว : "ดูว่าใครเขวี้ยงโดนจุดแดงตรงกลางใช่ไหม?"ฝนทมิฬเหลือบมองครู่หนึ่งและพูดขึ้นมา : "ใช่ คุณหนูใหญ่คิดว่าระยะประมาณนี้พอจะได้ไหม?""แล้วแต่เจ้าเลย" มู่จิ่วซียิ้มกล่าว"งั้นเราก็แข่งที่ระยะ 30 เมตรแล้วกัน" ฝนทมิฬเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นมามู่จิ่วซีพยักหน้า พวกทหารย้ายเป้าธนูถอยออกไปอีกให้ห่างเป็นระยะทางประมาณ 30 เมตรระยะห่างถึงขนาดนี้ การจะปาให้โดนจุดแดงใจกลางถือว่ายากมาก การกะเรี่ยวแรงไม่อาจพลาดไปได้เลย

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 226

    "เหน็บแนมเขาคนเดียวซะที่ไหนล่ะ ทุกคนต่างก็ล้วนโดนหางเลขไปด้วย""ใช่น่ะสิ พวกเจ้าบอกทีว่าที่คุณหนูใหญ่มู่พูดว่าพวกเรามันสวะ ทำไมข้าถึงได้รู้สึกว่าพวกเราดูจะคล้ายขึ้นมาจริงๆ""ถ้าต้องประลองกับนางพวกเรามันก็สวะจริงๆ""ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ พวกเราร่ำเรียนกันมาตั้งหลายปี ทำไมทักาะแต่ละอย่างของเราถึงเทียบกับนางไม่ติด""ที่เลวร้ายที่สุดคือ คุณหนูใหญ่มู่แต่ก่อนเป็นคุณหนูใหญ่ผู้ลากมากดีที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เพียงพริบตานางก็กลับมามีความสามารถหลากหลาย สั่นสะเทือนผู้คนไปทั้งใต้หล้า""ช่างอัศจรรย์""บุตรสาวของพระผู้เป็นเจ้าหรือไง""ฮือๆ พวกเราแพ้โคตรอนาถเลย...ไม่มีหน้าไปเจอคนแล้ว...""นายท่านเสียหน้าจนไม่มีให้จะเสียแล้ว"รอบด้านต่างมีเสียงดังขึ้นไปทั่ว มู่จิ่วซีได้ยินก็เกือบจะหัวเราะออกมา"เจ้ายิงธนูไม่เป็นใช่ไหม?" ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โม่จุนมาอยู่ข้างกายนาง เสียงอันแผ่วเบาของเขาได้ดังขึ้นข้างหูของนางมู่จิ่วซีเอื้อมมืออกมาและผลักเขาออกไปและก็กล่าว : "พูดดีๆ ก็ได้ จะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ทำไม ถ้าข้าพลาดมือไป เจ้าได้สิ้นชีพแน่"โม่จุนตกตะลึงไป จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาเขาก็โกรธขึ้นมา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 227

    โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี จากนั้นก็หันมองจี๋เฟิงและกล่าว : "จี๋เฟิงคือทหารมังกรดำพอจะจัดอันดับได้ว่าเป็นผู้พิทักษ์เงาแนวหน้า 20 คนแรก""20 คนแรก? แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?" มู่จิ่วซีหันมองจี๋เฟิงและกลับตกใจเล็กน้อยใบหน้าอันเรียบเฉยปกติของจี๋เฟิงดูเหมือนจะขยับเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองมู่จิ่วซีและกล่าว : "ได้โปรดคุณหนูใหญ่มู่สั่งสอน ข้าน้อยอย่างข้าพอจะเข้าใจถึงความเก่งกาจผู้พิทักษ์เงาของแคว้นศัตรู""พวกนั้นน่ะเหรอ เจ้าไม่ต้องไปเข้าใจหรอก ไม่ต่างกับพวกเจ้าเท่าไหร่" ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีทำให้กลุ่มทหารมังกรดำส่งเสียงร้องระงมกันออกมาโม่จุนก็กล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ : "จากที่ข้าดูแล้ว พวกเจ้าอาจเทียบไม่ติดด้วยซ้ำ! ขายหน้านัก"โม่จุนรู้สึกชายหน้าจริงๆ เขาพามู่จิ่วซีมาที่ค่ายของทหารมังกรดำเพื่อให้นางได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งผู้พิทักษ์เงาของแคว้นเกาอวิ๋นใครจะไปคิดว่ากลับแพ้ยับเยิน อีกทั้งระดับยังห่างชั้นกันแบบต่อให้หวดม้าไล่ตามก็ตามไม่ทันประเภทนั้น มันทำให้เขารู้สึกใจหายวาบหากแคว้นศัตรูมีมู่จิ่วซี เขารู้สึกว่าเขาคงได้แต่ต้องกังวลจนผมบนหัวได้ล่วงหมดแน่แต่ที่ยังดีคือมู่จิ่วซีคือคนของแคว้นเกาอว

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 228

    "ได้! วันนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้า ขอเพียงเจ้าชนะ ข้าจะให้เจ้าได้เป็นผู้พิทักษ์เงาข้างกายของโม่จุน""คุณหนูใหญ่มู่ ท่านไม่ได้เป็นคนกำหนด" จี๋เฟิงหันไปมองโม่จุนครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวออกมาพร้อมกับอดกลั้นดวงตาที่แดงฉานโม่จุนหัวเราะยิ้มขึ้นมาและก็กล่าว : "จี๋เฟิง ถ้าหากเจ้าสามารถเอาชนะคุณหนูใหญ่มู่ได้ อย่าว่าแต่ตำแหน่งผู้พิทักษ์เงาข้างกาย ข้าจะให้เจ้าได้เป็นพี่ใหญ่ผู้พิทักษ์เงาข้างกายของข้าก็ยังได้!""ท่านอ๋อง ท่านพูดจริงอย่างงั้นหรือ?" จี๋เฟิงกล่าวขึ้นมาอย่างดีใจ ทหารมังกรดำคนอื่นก็ล้วนตกใจขึ้นมาเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างล้วนอิจฉาถึงอย่างไรการได้อยู่ข้างกายท่านผู้สำเร็จราชการแทนก็ดูน่าเกรงขามแล้ว อีกทั้งยังได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์มากมาย ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย"แน่นอนว่าที่ข้าพูดไปสามารถกล่าวได้ว่า พวกเจ้าที่นี่ทั้งหมดขอเพียงสามารถเอาประลองเอาชนะคุณหนูใหญ่มู่ได้ พวกเจ้าก็ล้วนจะสามารถเป็นผู้พิทักษ์เงาข้างกายข้าได้เช่นกัน" โม่จุนก็ได้ใช้สิ่งล่อใจนี้กับพวกเขา ทหารมังกรดำต่างล้วนถูกชักนำอารมณ์จนฮึกเหิมสายตาพวกเขาที่มองไปยังมู่จิ่วซีราวกับกำลังหมายปองหมั่นโถวร้อนๆ อย่างใดอย่างนั้น"พ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 229

    มู่จิ่วซียิ้มกล่าว : "จี๋เฟิง จริงๆ แล้วข้าสามารถโจมตีเจ้าได้ตั้งแต่แรก" มู่จิ่วซีตีไม้เรียวกับมือตัวเองและก็กล่าว "ข้าเคยบอกแล้ว ข้าเป็นแต่กระบวนท่าสังหาร ข้าสู้กับเจ้าไปตั้งหลายกระบวนท่าขนาดนั้น อันที่จริงมันไม่ควรด้วยซ้ำ"ประโยคนี้ทำให้จี๋เฟิงสีหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา"ไม่พอใจสินะ ต่อเลย แต่ว่ากระบวนท่าของข้าต่อจากนี้จะล้วนเป็นกระบวนท่าสังหาร พวกเจ้าทุกคนจับตาไว้ให้ดีล่ะ เรียนได้ก็เรียน เรียนไม่ได้ก็รู้ไว้ซะว่าตัวเองโง่มากแค่ไหน" จู่ๆ มู่จิ่วซีก็พูดขึ้นมาพร้อมกับน้ำเสียงอันคมกริบบรรยากาศอึมครึมได้แผ่ซ่านออกมารอบตัวของนาง จิตสังการที่กระหายเลือดอันรุนแรงได้ปกคุลมไปทั่วทุกบริเวณทหารมังกรดำที่อยู่ตรงนั้นต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที พวกเขาแต่ละคนมีสีหน้าซีดขาวแม้แต่โม่จุน็ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่มืดครึ้ม ราวกับว่าเขาได้เจอกับศัตรูที่สุดยอดในใจของเขารู้สึกตกใจอย่างมาก บรรยากาศกลิ่นอายของมู่จิ่วซีแบบนี้สิ ถึงจะเป็นการแสดงพลังที่แท้จริงของนาง แม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะรับรู้ได้ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนในครั้งนี้นางเหมือนกับได้ปกครองขุมนรกไว้ทั้งหมด ส่วนนางก็คือจักรพรรดินีของขุมนรกนี้ ข

Latest chapter

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status