เสิ่นจวนเห็นเจิงจื่ออวี้เสียหน้าก็พลันช่วยพูดทันควัน “อย่าว่าแต่เรื่องดูแคลนอันใดเจ้า ตัวข้าสามารถดูแคลนเจ้าได้ประเดี๋ยวนี้เลย!”“หากเจ้าไม่มีเงินกินข้าวจริง ๆ มาเป็นนางรับใช้ให้ข้าสักวัน แล้วข้าจะช่วยค่าอาหารของวันนี้แก่เจ้าเป็นเช่นไร?”สตรีที่กำลังจ้องหลิงอวี๋อย่างอาฆาตคือฉินรั่วซือ น้องสาวของฉินซานนางทนไม่ไหวเลยกล่าวเสียงเย็นชา“เสิ่นจวน นางเลือกภัตตาคารจี๋เสียงแล้วกลับยังต้องการให้เจ้าออกเงินช่วยอีกรึ!”“นางยังติดหนี้เกิ่งเอ้อเหยอยู่เลย ถ้านางจะเข้าไปยืมอีกก็ไม่เห็นจะเป็นไร! ลำบากขนาดนี้แล้วยังจะกลัวอะไรอีก!”คุณหนูคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก แม้การพรรณนานี้จะหยาบ แต่เหมาะกับหลิงอวี๋ยิ่ง!เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจหลิงอวี๋กลับเต้นผิดจังหวะ คาดมิถึงว่านี้คือภัตตาคารที่เกิ่งเอ้อเหยเปิดกิจการ?นางกำลังใคร่ครวญว่า จะไถ่ถอนมรดกตกทอดวงศ์ตระกูลของเซียวหลินเทียนกลับมาอย่างไรดีและคืนเงินกู้ดอกเบี้ยสูงที่ตัวเองติดค้าง!นี่คือการหลับในแล้ววิ่งชนหมอนจริงๆ(1)ชัด ๆ!ในบรรดาร้านยาสมุนไพรพวกนั้นไม่มีความรู้สรรพคุณยาเสียเลย แต่เกิ่งเอ้อเหยเป็นคนในยุทธภพเช่นนี้ต้องรู้เป็นแน่!
Read more