คำพูดที่กล่าวไปพักหนึ่งของหลิงอวี๋ทำให้เซียวหลินเทียนนิ่งอึ้งไป เขากำลังจ้องหลิงอวี๋อย่างมึนงงมิใช่ว่าเขากลัวเสียเปรียบเลยไม่ลงมือ ทว่า… คำพูดของหลิงอวี๋คล้ายมีความจริงหลายส่วน!แต่ความนิ่งเงียบไม่กล่าวคำของเขาทำให้ลู่หนานเข้าใจผิด ลู่หนานเคยเห็นเซียวหลินเทียนถูกหลิงอวี๋ห้อยไว้บนต้นไม้ด้วยตาตัวเอง เลยหวั่นเซียวหลินเทียนจะออกมือต่อหลิงอวี๋ภายใต้อารมณ์ชั่ววูบ!แต่นี่อยู่ข้างนอก พวกเขาจะขายหน้าเพราะคนผู้นี้มิได้!“ท่านอ๋อง อาจจะมีความเข้าใจผิดบางอย่างในหมู่พวกนางจริง ๆ หาไม่แล้ว เราลองฟังที่พระชายาพูดดูเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”ลู่หนานกล่าวโน้มน้าวเมื่อเสิ่นจวนได้ยินเช่นนั้นก็รีบกล่าว “ผู้พี่ หรือว่าท่านมิเชื่อใจหม่อมฉันเพคะ? หม่อมฉันเป็นคนเช่นไรท่านยังไม่รู้แจ้งหรือ?”“ท่านดูสิ นางตบหน้าหม่อมฉัน ร่องรอยล้วนยังอยู่! อีกอย่างหม่อมฉันยังมีพยานบุคคล...”เสิ่นจวนดันเจิงจื่ออวี้ออกไป แล้วเจิงจื่ออวี้ก็กล่าวอย่างปราดเปรื่องว่า“กราบบังคมทูลท่านอ๋อง เป็นพระชายาอ๋องอี้ตบเสิ่นจวนจริงเพคะ แถมยังกล่าวว่าต้องการทำลายดวงหน้าของนาง! เราทุกคนเป็นพยานให้เสิ่นจวนได้เพคะ!”“หม่อมฉันก็เป็นพยานได้เพ
ครั้นผู้อาสุโวกล่าวจบ ประหนึ่งนึกอะไรขึ้นได้บ่ายศีรษะไปมองทางเซียวหลินเทียน ยิ้มตาหยีกล่าวคำ“ท่านอ๋องอี้ นี่คือกฎของภัตตาคารจี๋เสียงที่จะลงโทษแขกที่ทานอาหารไม่จ่ายเงิน ท่านพอพระทัยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” เซียวหลินเทียนไม่ชอบรอยยิ้มเหน็บแนมนี้ของท่านผังอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด เพียงมองไปยังหลิงอวี๋ด้วยความเย็นชาเมื่อหลิงอวี๋เห็นสายตาเขาพลันเข้าใจทันที เจ้าใช้แววตานี้สื่อเป็นนัยว่าเพียงขอโทษนาง เขาก็จะช่วยจ่ายเงินให้ทว่าหัวใจของหลิงอวี๋ล้วนถูกเขาทำให้เยือกเย็นไปแล้ว ไฉนเลยจะรู้สึกซาบซึ้งได้!หลิงอวี๋มิใช่เป็นคนที่โค้งคำนับเพื่อข้าวสารหาถัง!เซียวหลินเทียนต้องการให้นางละทิ้งหลักการของตนเพื่อเงินสองสามร้อยตำลึง แล้วนี่มีสิ่งใดแตกต่างจากท่านผังที่ทำให้นางต้องอัปยศกัน!ในเมื่อเซียวหลินเทียนต้องการแบ่งแยกชัดเจนถึงเพียงนี้ ได้ หากเขาไม่กลัวขายหน้าตำหนักอ๋องอี้ นางหลิงอวี๋ผู้นี้ก็จะไม่หวั่นเกรง!“ข้าจะใช้หนี้เอง ข้าจะคืนเอง!”“พวกเจ้าให้ข้าพบกับท่านเกิ่งเอ้อร์สักหน่อย บอกไปว่าข้ามีธุรกิจจะคุยกับเขา!”“ท่านเกิ่งเอ้อร์ของพวกเรากำลังยุ่งอยู่ มิใช่ว่าผู้ใดอยากคุยธุรกิจกับเขาก็
นางสลัดการเกาะกุมตนของเสี่ยวเอ้อร์ ก่อนจะยกชายกระโปรงขึ้นวิ่งรุดตามไปชั้นบนเพียงตนช่วยชีวิตท่านเกิ่งเอ้อร์ได้ ความอัปยศในวันนี้ก็จะล้างมลทินออกไปได้…หลิงอวี๋เพิ่งวิ่งถึงชั้นสองก็พลันเห็นแม่นมลี่ดึงหลิงอวี๋เอาไว้ หลิงซินยืนอยู่ทางออกใกล้บันไดอย่างพะว้าพะวังครั้นเห็นเช่นนั้นก็รีบดึงแม่นมลี่มากล่าวปลอบขวัญ “พวกเจ้าไปนั่งรอข้าเถอะ หากอยากกินสิ่งใดสั่งได้เลย!”“พวกเจ้าเชื่อข้า วันนี้พวกเราจะไม่ต้องจ่ายอาหารมื้อนี้สักเฟินเดียว!”เมื่อนางเอ่ยจบก็รีบไล่ตามขึ้นไปแม่นมลี่น้ำตาแทบไหล นางเพิ่งกลับมาก็เห็นหลิงอวี๋จะถูกลากไปประจาน!หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่แรก เมื่อกี้ก็ไม่น่าขอเทียบเชิญกับแม่นมเว่ย ควรจะขอเงินสองสามร้อยตำลึงแค่นี้ก็แก้ไขเรื่องจวนตัวเพื่อคุณหนูได้แล้วเฮ้อ จะมาเสียใจภายหลังก็ไม่ทันแล้ว!“ดูสิ หลิงอวี๋กำลังคุยโวอย่างไม่กระดากอายอีกแล้ว!”ครั้นได้ยินคำพูดนี้เสิ่นจวนที่ยืนอยู่ด้านล่างบันไดก็ลั่นวาจาเย้ยหยันทันใดนางรั้งสายตาไปยังเซียวหลินเทียนแล้วกล่าวคำ “ผู้พี่ เราขึ้นไปดูสักหน่อยเถอะ! หม่อมฉันยังไม่เคยเห็นคนที่ถูกก้างปลาติดคอตายเลยเพคะ!”“อีกทั้งเปี่ยวจิ้วก็ไปแล้วด้วย
เกิ่งเสี่ยวหาวหันหน้ากลับมามองบิดาของตนเอง พบว่าเกิ่งเสี่ยวเหยนิ่งเงียบไปแล้ว เหลือเพียงหน้าอกที่ยังกระเพื่อมแผ่วเบา“เรามาเดิมพันกันเถอะ! ภายในเวลาหนึ่งก้านธูป ข้าจะช่วยชีวิตท่านพ่อของเจ้า!”“หากข้าทำสำเร็จ เจ้าต้องยอมรับข้าเป็นพี่สาว! แต่หากข้าทำล้มเหลว ข้าจะชดใช้ให้เจ้าด้วยชีวิต!”หลิงอวี๋พบว่าคนสกุลเกิ่งผู้นี้ในแววตาค่อนข้างพอใจ แม้ว่าเขาจะพุ่งปราดมาตรงหน้าตนแล้ว แต่หมัดนั้นกลับไม่เคยโดนนางเลยอีกนัยหนึ่งคือนางอยากสร้างรายได้นั่นเอง ถ้ามีลู่ทางสายนี้ของเกิ่งเสี่ยวหาวคงจะราบรื่นยิ่งความคิดเรื่องยอมรับเป็นน้องชายนี้ก็พลันแวบสว่างเข้ากลางใจทันใด“คุณชายเกิ่ง อย่าฟังนาง! เดิมทีนางมิได้วิชาแพทย์ด้วยซ้ำ! หมอของโรงหมอยังไม่มีวิธี แล้วนางจะมีวิธีทำอะไรได้!” เจิงจื่ออวี้กล่าวดังลั่นครั้นหมอเหวินได้ยินชื่อตนหยิบยกขึ้นก็กระแอมไอเบา ๆ และกล่าวคำ“เรารอหมอหลวงจางดีกว่าเถอะ! ถ้าหมอหลวงไม่มีวิธี เช่นนั้นผู้ใดก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน! คงต้องปล่อยไปตามยถากรรมแล้ว!”แต่เกิ่งเสี่ยวหาวกลับจ้องเขม็งไปยังหลิงอวี๋และนางก็กำลังมองเขาอย่างยั่วยุเช่นกัน สายตาทั้งสองประสานกัน“เสี่ยวหาว อย่าเสียแรงเป
ฝูงชนมองไปทางท่านเกิ่งเอ้อร์อีกครั้ง พบเพียงท่านเกิ่งเอ้อร์ไอค่อกแค่กสองสามครั้งและหายใจทางปาก“มา นี่คือลูกอมเย็นสดชื่นเป็นยาอมแก้เจ็บคอ ให้ท่านพ่อเจ้าอมเสีย!”เมื่อเห็นลมหายใจเข้าออกของท่านเกิ่งเอ้อร์ค่อย ๆ สม่ำเสมอ ดังนั้นจึงถอดถุงมือหยิบยาอมแก้เจ็บคอสองสามเม็ดส่งให้เกิ่งเสี่ยวหาวครั้นเกิ่งเสี่ยวหาวเห็นสีหน้าบิดาดีขึ้นเยอะแล้วก็ถอดถุงมืออย่างเชื่อฟัง ก่อนจะแกะยาอมแล้วป้อนเข้าในปากเขาท่านเกิ่งเอ้อร์คว้าตัวเขาไว้ แค่นกล่าวสองคำ “ช่วย… นั่ง!”เกิ่งเสี่ยวหาวรีบคุกเข่าลงทันควัน พยุงเขาขึ้นนั่งหายใจได้ราบรื่นมากแบบนี้ทำให้ท่านเกิ่งเอ้อร์รู้สึกสบายขึ้นเยอะเมื่ออมยาอมแก้เจ็บคอที่หลิงอวี๋ให้ไว้ในปาก ความรู้สึกเจ็บปวดแผดเผาที่ถูกก้างปลาแทงในลำคอก็เริ่มมลายหายไปอย่างช้า ๆเขามองไปยังหลิงอวี๋ด้วยความซึ้งใจ เมื่อครู่เขาพูดไม่ได้เพราะถูกก้างปลาแทงคอ ทว่าก็รู้กระจ่างถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวและเขาก็รู้ด้วยว่าถ้าไม่มีหลิงอวี๋ ตนก็คงสิ้นใจไปธารเหลือง(1)แล้วจริง ๆ“ดียิ่ง… ขอบคุณพระชายาอ๋องอี้...”ท่านเกิ่งเอ้อร์บีบมือเกิ่งเสี่ยวหาวอย่างลึกซึ้งพ่อลูกเกิ่งเสี่ยวหาวมีความสัมพันธ์แน่
วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋กำลังคิดว่าต้องพูดคุยเรื่องธุรกิจกับเกิ่งเสี่ยวหาว นางสั่งให้หลิงเยวี่ยเชื่อฟังแม่นมลี่ จากนั้นก็ออกตำหนักพร้อมกับหลิงซินหลิงซินได้สวมเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ซื้อใหม่และกำลังถือกระปุกยารักษาแผลที่หลิงอวี๋เตรียมไว้ เดินตามนางออกตำหนักอย่างเบิกบานคราวนี้พอทั้งสองคนมาถึงภัตตาคารจี๋เสียงก็ได้รับการปฏิบัติแตกต่างไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิงเสี่ยวเอ้อร์ของร้านคนนั้นก็ไม่เหมือนเมื่อวานแล้ว สีได้หน้าผันแปรใหม่ครั้นเห็นหลิงอวี๋ก็กล่าวอย่างเคารพนบน้อม “พระชายาอ๋องอี้ ท่านมาแล้ว คุณชายน้อยเหลือห้องส่วนตัวไว้ให้ท่านที่ชั้นสามขอรับ!”“ท่านขึ้นไปดื่มชาก่อนเถิด กระผมจะส่งคนไปแจ้งคุณชายน้อยและท่านเอ้อร์เดี๋ยวนี้ขอรับ!”หลิงอวี๋ผงกศีรษะด้วยรอยยิ้มแล้วเดินตามขึ้นไปชั้นสามการตกแต่งของชั้นนี้หรูหราโอ่อ่ากว่าชั้นสองเสียอีก!เมื่อวานหลิงอวี๋วุ่นอยู่กับการช่วยคน ไม่ได้สังเกตให้ละเอียดวันนี้มีเวลาว่างแล้วจึงได้ดูละเอียดถี่ถ้วนหลิงซินสับสนวุ่นใจจนทำสิ่งใดไม่ถูก สถานที่หรูหราแห่งนี้ทำให้นางรู้สึกประหม่ายิ่งผ่านไปสักพักหนึ่ง เสี่ยวเอ้อร์ก็ยกชาดีกับขนมอบมาหลิงอวี๋ดึงหลิงซินให้นั่งล
สีหน้าของท่านเกิ่งเอ้อร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมาหลิงอวี๋แย้มรอยยิ้ม “ท่านเอ้อร์ ท่านกล้าเปิดบ่อนการพนัน กล้าปล่อยเงินกู้! แต่กลับมิกล้าผูกมิตรกับผู้หญิงคนหนึ่ง! นี่ดูไม่คล้ายนิสัยของท่านเลย!”ท่านเกิ่งเอ้อร์กระแอมไอเบา ๆ พลางพูด “นั่นมันไม่เหมือนกัน พระชายากับข้าต่างก็รู้ดี เรื่องบางเรื่องให้อยู่ได้แค่ในที่ลับ ไม่สามารถให้มาอยู่ในที่แจ้งได้!”หลิงอวี๋พยักหน้า “แต่ผลมันไม่เหมือนกันหรือ? เขาคิดจะจัดการท่าน จะที่ลับหรือที่แจ้งเจ้าก็หนีไม่พ้นหรอก!”“ท่านไม่ให้เสี่ยวหาวไปทำให้ผู้สูงศักดิ์ขุ่นเคือง แต่ผู้สูงศักดิ์คิดจะจัดการท่าน จะไปทำให้ขุ่นเคืองหรือไม่ผลก็ไม่ต่างกัน!”สีหน้าของท่านเกิ่งเอ้อร์เรียบนิ่ง พลางพูด “นี่พระชายากำลังขู่ข้า หรือว่าจะตีสนิทแทนท่านอ๋องเล่า?”“แน่นอนว่าไม่ใช่”หลิงอวี๋โบกมือ พลางยิ้มเย็นชาแล้วพูด “เมื่อวานข้าก็พูดไปแล้ว ว่าเซียวหลินเทียนก็คือเซียวหลินเทียน ส่วนข้าก็คือข้า! หนี้ที่ข้าติดไว้ข้าจะชดใช้คืนเอง!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าติดหนี้อยู่มากถึงเพียงนี้ เซียวหลินเทียนไม่เคยสนใจข้าอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ของข้ากับเขาก็มิได้ดี ท่านเอ้อร์อย่ามาพูดว่าไม่รู
“ท่านเอ้อร์รวดเร็วดีมาก!”หลิงอวี๋ชอบที่จะคบค้าสมาคมกับคนฉลาดมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าท่านเกิ่งเอ้อร์เข้าใจสิ่งสำคัญที่อยู่ข้างในได้ทันที ก็ยิ่งชื่นชมท่านเกิ่งเอ้อร์นางเอ่ยขึ้นมาอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ท่านเอ้อร์ ข้านั้น ก็มิได้ชอบที่จะเข้าไปอยู่ในเรื่องถูก ๆ ผิด ๆ อะไรเช่นกัน!”“ในเมื่อท่านเอ้อร์ให้ความสนใจ ต่อไปหากมีการคบค้าสมาคมใดที่หาเงินได้ ข้าก็จะร่วมงานกับแค่ท่านเอ้อร์เท่านั้น!”“หากท่านเอ้อร์หลอกข้า! เช่นนั้นเราจะคบค้ากันแค่ครั้งเดียว!”หลิงอวี๋เอ่ยคำพูดที่แฝงความนัย “ข้าหวังว่าเราจะใจเดียวกัน พยายามหาเงินก็เพียงพอแล้ว!”“ย่อมแน่อยู่แล้ว! ข้าเองก็คิดเพียงแค่จะพยายามหาเงินเท่านั้น!”ท่านเกิ่งเอ้อร์เข้าใจความนัยของหลิงอวี๋ จึงยิ้มพลางพยักหน้าขอเพียงไม่เข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งภายในราชสำนัก เขาก็ไม่คิดอะไรให้มากเรื่องหรอก!“เช่นนั้นเรามาพูดกันให้ชัดเลยแล้วกัน นี่คือตำรับโอสถ!”“ท่านเอ้อร์ไปลองสรรพคุณโอสถ หลังจากแน่ใจว่าจะร่วมงานกันแล้ว เสี่ยวหาวก็ไปรวบรวมเครื่องยาสมุนไพรตามตำรับ แล้วค่อยเลือกสถานที่หนึ่งเพื่อเตรียมผลิตในจำนวนมาก!”หลิงอวี๋เอาตำรับยาที่เขียนไว้แล้วส่งให้
“เย่หรง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอ้างว่าเคยจับตัวหลิงอวี๋ได้มิใช่หรือ? เหตุใดนางมิสังหารหลิงอวี๋แล้วชิงหยกหล้าสุขาวดีไปเล่า?”หลิงอวี๋ถามคำถามที่ตนคิดมิตกออกไปเย่หรงจึงหัวเราะเยาะออกมา “ข้ารู้เหตุผลในเรื่องนี้!”“ข้าได้ยินมาว่า หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิญญาณ ต้องใช้ยาสลายเลือดเนื้อของผู้ครอบครองในขณะที่คนผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่จึงจะนำมันไปได้ มิเช่นนั้นหยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของผู้ครอบครอง!”“เครื่องยาสมุนไพรที่พิเศษนี้ก็มีเพียงที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และเมื่อขุดเครื่องยาสมุนไพรนี้ออกมาแล้วจะต้องใช้ภายในครึ่งชั่วยาม มิเช่นนั้นก็จะเฉาตายไป!”“ดังนั้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงทำได้เพียงต้องพาหลิงอวี๋กลับมาที่เมืองหลวงแดนเทพ และเข้าสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อหาเครื่องยาสมุนไพรนั้น จึงจะสามารถนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาจากตัวหลิงอวี๋ได้!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ขนลุกซู่ เข้าใจเหตุผลแล้วว่าเหตุใดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงมิสังหารตน!จริงสิ หรือว่านี่จะเป็นสาเหตุที่เซียวหลินเทียนมิสังหารนางเช่นกัน?เขาเองก็อยากได้หยกหล้าสุขาวดีที่ตัวนางด้วยใช่หรือไม่?แต่เมื่อคิดอีกแง่หนึ่ง หลิงอวี๋ก็รู้ส
เย่หรงแสดงสีหน้าสับสนออกมา “ภรรยาของแม่ทัพเฉิงมีเนื้องอกในสมอง สองปีมานี้นางกินยาไปมิน้อยแต่ก็มิดีขึ้น!”“ได้ยินว่าอาการป่วยของฮูหยินเฉิงแย่ลงเรื่อย ๆ แม้แต่คนรอบตัวนางก็จำมิได้แล้ว...”“ใต้หล้านี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรักษาโรคนี้ได้!”“แม่ทัพเฉิงกับภรรยาของเขามีความสัมพันธ์ที่ดีมาก หากข้าสามารถหาคนผู้นี้ แล้วช่วยภรรยาของแม่ทัพเฉิงให้หายจากโรคนี้ได้ แม่ทัพเฉิงก็จะเป็นสายลับที่ดีที่สุด!”หลิงอวี๋กลอกตาใส่เย่หรง “สรุปแล้วเป็นผู้ใดกันที่สามารถรักษาโรคเช่นนี้ได้? เหตุใดท่านทำราวกับเป็นนักเล่าเรื่อง เอาแต่ทำให้รอฟังอยู่นั่น!”เย่หรงมองหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เจ้ารู้จักสตรีคนหนึ่งที่ตระกูลเฉียวเสนอรางวัลค่าหัวหรือไม่?”“หลิงอวี๋! นางคือคนเดียวในใต้หล้าที่สามารถรักษาโรคของฮูหยินเฉิงได้!”หลิงอวี๋!หลิงอวี๋ตะลึงไปทันที ที่แท้คนที่เย่หรงพูดถึงก็คือตน!“หลิงอวี๋มีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยม นางผ่าท้องมารดาของข้าหลวงเก๋อรักษาโรคประหลาดท้องโตของนางจนหายได้!”“มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้นที่จะสามารถทำการผ่าตัดเนื้องอกในสมองของฮูหยินเฉิงได้!”เย่หรงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วเอ่ย “แต่ขนาดต
หลิงอวี๋มองไปทางเย่หรงอย่างสงสัย “สระเก้ามังกรมีรายละเอียดอะไรหรือ?”เย่หรงยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกมา “เจ้าลองคิดดู หากเป็นเพียงการคุมขังนักโทษจำนวนหนึ่ง จำเป็นต้องส่งแม่ทัพเฉิงที่สำคัญเช่นนี้ไปด้วยหรือ?”“ราชวงศ์มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปที่ภูเขาด้านหลัง ก็เพื่อจะปิดบังความลับเอาไว้!”“ในสระมังกรที่ภูเขาด้านหลังมีสัตว์เทพอยู่… และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นมังกรฟ้าที่เป็นพาหนะของหลงอี้ในตอนนั้น!”“ข้าไปสืบจากคนมามากมาย แต่คนที่รู้เรื่องราวภายในมีอยู่น้อยนัก นี่คือสิ่งที่ข้าอนุมานได้จากเบาะแสบางส่วน!”เย่หรงยิ่งพูดก็ยิ่งสนุก “ข้าถึงขนาดสงสัยว่าแผ่นดินไหวเมื่อสองร้อยปีก่อนมิใช่ภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากมังกรฟ้าต่างหาก!”“ก่อนหน้านี้สระเก้ามังกรก็มีเครื่องยาสมุนไพรอยู่มากเช่นกัน และราชวงศ์ก็มิได้ห้ามให้ผู้บำเพ็ญตนไปเก็บสมุนไพร แต่นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นั้น ราชวงศ์ก็มิอนุญาตให้ใครไปเก็บสมุนไพรที่ภูเขาด้านหลังของสระเก้ามังกรมาเป็นเวลาเกือบสองร้อยปีแล้ว!”“ข้าไปถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่เชิงเขามา ผู้สูงอายุคนหนึ่งในกลุ่มพวกเขาบอกว่า เมื่อนานมาแล้วจะได้ยินเสียงร้องประหลาดอยู่เป็นบางครั้ง
ขณะที่เย่ซื่อฝานกำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้ววิ่งไปหาที่โต๊ะตำรา จากนั้นก็หยิบจดหมายเชิญส่งให้หลิงอวี๋“วันนี้อย่าเพิ่งไปที่หอธุวดารา ช่วงปลายเดือนนี้พวกเขาจะจัดงานประมูลพิเศษขึ้นมา ถึงเวลานั้นจะมีคนรวยมากหลายไปเข้าร่วมงานประมูลนี้!”“หอธุวดาราส่งจดหมายเชิญมาให้ข้าสองสามฉบับ ถึงเวลานั้นพวกเราไปด้วยกัน จะได้ช่วยเจ้าขายให้ได้ราคาดี”“เจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋รับจดหมายเชิญมาแล้วขอลากลับก่อนเมื่อนางมาถึงที่ประตูก็พบกับเย่หรงที่กลับมาพอดีเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเขาปลอดภัยดี จึงเอ่ยออกไป “ข้ากังวลว่าท่านจะมิได้กลับมาอย่างปลอดภัย ท่านมิเป็นอะไรก็ดีแล้ว!”เย่หรงยิ้มอย่างเก้อเขิน “ตอนนั้นเสือไล่ตามพวกเราจนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง กระทั่งเสือหายไป ข้าก็กลับไปหาพวกเจ้า แต่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ข้าจึงได้ออกไปก่อน!”“เฮ้อ หากข้ามิออกไปก่อนก็คงดี จะได้เห็นเสือปีกกาฬ!”เย่หรงมิได้บอกหลิงอวี๋ว่า เขาได้ยินจ้าวหรุ่ยหรุ่ยรวบรวมกำลังคนเพื่อจับตัวเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ เขาต้องการให้หลิงอวี๋ช่วยอยู่พอดี จึงตามหาหลิงอวี๋ไปทั่ว“เจ้าพบสมบัติอะไร
หลังจากคุยเรื่องไป่หลี่ไห่จบแล้ว หลิงอวี๋ก็หยิบเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนที่ตนมิรู้จักออกมาแล้วเอ่ย “ท่านอาจารย์ นี่คือเครื่องยาสมุนไพรที่ข้าเก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่ง ท่านช่วยข้าดูทีว่าคืออะไร?”เย่ซื่อฝานเห็นดังนั้นก็สนใจขึ้นมาทันที แล้วอธิบายให้หลิงอวี๋ฟังทีละอย่างสุดท้ายเย่ซื่อฝานก็เอ่ยขึ้นมา “ข้าสามารถซื้อเครื่องยาสมุนไพรที่เจ้านำมาเหล่านี้ในราคาตลาดได้ แต่นอกจากพวกนี้แล้วหอโอสถซ่างกู่ของเรามิต้องการ หากเจ้าอยากจะขายในราคาดี ให้ไปที่ตลาดเครื่องยาสมุนไพร...”“เดี๋ยวนะ นี่คืออะไร?”เย่ซื่อฝานดูไปก็คัดแยกเครื่องยาสมุนไพรไปด้วย และเมื่อเขาเห็นเครื่องยาสมุนไพรที่ดูคล้ายโสมแต่ก็มิคล้าย เขาก็หยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียด“ท่านอาจารย์ ข้าเองก็มิแน่ใจเช่นกันว่าสิ่งนี้คืออะไร!”หลิงอวี๋เห็นว่าเย่ซื่อฝานพิจารณาเครื่องยาสมุนไพรที่ดูแปลกประหลาดนี้จึงเอ่ยขึ้นมา“ข้าได้กลิ่นโสม แต่กลับดูมีพิษ!”ในตอนที่เย่ซื่อฝานคัดแยกเครื่องยาสมุนไพร เขาจะสวมถุงมือพิเศษไว้ เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็พยักหน้า “ความรู้สึกของเจ้ามิผิด เครื่องยาสมุนไพรนี้มีพิษจริง ๆ!”“เจ้ารอประเดี๋ยว ข้าจำได้ว่าในตำราโบราณเคย
หลิงอวี๋จัดการเครื่องยาสมุนไพรที่เก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่งครั้งนี้ วางแผนว่าจะนำไปขายบางส่วนก่อนจากนั้นค่อยไปซื้อโอสถกลับมานางนึกขึ้นได้ว่า เมื่อวานนางและเย่หรงแยกทางกันที่ภูเขาหมางหลิ่งเพื่อหนีเสือ หลังจากนั้นก็มิได้เจอเย่หรงอีก มิรู้ว่าเขากลับมาอย่างปลอดภัยหรือไม่หลิงอวี๋จึงไปที่บ้านตระกูลเย่ก่อนเมื่อมาถึงบ้านตระกูลเย่ นางก็ถามคนเฝ้ายามว่าเย่หรงกลับมาแล้วหรือไม่คนเฝ้ายามยิ้มแล้วเอ่ยตอบ “กลับมาแล้วขอรับ แต่ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว บอกว่าจะไปหาสหาย! จริงสิ แม่นางสิง เขาบอกว่าหากท่านมา ให้ท่านรอเขากลับมาด้วย!”“ได้ ข้าจะไปที่ห้องปรุงโอสถของอาจารย์ข้าก่อนก็แล้วกัน!”หลิงอวี๋ได้รู้ว่าเย่หรงมิเป็นอะไรก็สบายใจแล้วนางมาที่ห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝาน เย่ซื่อฝานกำลังกลั่นโอสถอยู่ เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มา เขาก็เอ่ยถามออกไป “เมื่อวานพวกเจ้าพบเสือปีกกาฬหรือ?”“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ก็รู้ด้วยหรือ?”หลิงอวี๋ทอดถอนใจที่ข่าวกระจายเร็วเกินไป แม้แต่คนที่มิออกจากบ้านเช่นเย่ซื่อฝานก็ยังรู้เรื่อง!“ท่านผู้อาวุโสของเจ้าถูกผู้นำตระกูลเก๋อ ตระกูลเฉียวและตระกูลจงเจิ้งเชิญไปตั้งแต่เช้าเพื่อหารือเรื่องการจับเ
สีหน้าของหลงอิงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก นางมิอาจปฏิเสธได้เพราะสิ่งที่หลิงอวี๋พูดมานั้นเป็นความจริง หากเป็นนาง ใครกล้ามาทำลายบ้านของนาง นางก็จะมิยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่!และท่าทางมิยี่หระต่อความตายของหลิงอวี๋ ก็ทำให้หลงอิงมองเห็นความมุ่งมั่นของนางหากคิดจะใช้วิธีการข่มขู่ให้หลิงอวี๋มอบยาแก้พิษให้นั้นคงเป็นไปมิได้แน่!ทว่าหากปล่อยให้เหมียวหยางถูกพิษจนตาย เช่นนี้ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าวิชาพิษของหอโอสถไป๋เป่าด้อยกว่าสิงอวี๋!แต่หากให้เหมียวหยางยอมรับต่อหน้าธารกำนัลว่าเขาทำลายเรือนของหลิงอวี๋ ก็จะทำให้ไป่หลี่ไห่และหอโอสถไป๋เป่าอับอายขายหน้าเช่นกันฝีมือมิสู้เขาแต่คิดจะไปแก้แค้นเขา จะทางไหนก็ล้วนอับอายทั้งนั้น!ไป่หลี่ไห่รู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้จึงได้ส่งหลงอิงไป เขาอยากจะอาศัยการข่มขู่ของตระกูลหลง และความสัมพันธ์ส่วนตัวของหลงอิงกับสิงอวี๋ ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งมาบีบให้สิงอวี๋มอบยาแก้พิษให้ตอนนี้หากไม้อ่อนใช้กับหลิงอวี๋มิได้ผล ภารกิจของหลงอิงก็มิสามารถสำเร็จได้“เสี่ยวอวี๋ เช่นนั้นถอยกันคนละก้าวดีหรือไม่ ข้าจะให้เหมียวหยางชดเชยเงินสร้างเรือนใหม่ให้เจ้า เจ้าก็มิต้องให้เขาขอโทษต
วันรุ่งขึ้น ขณะที่หลิงอวี๋กับผู้รอบรู้กำลังกินอาหารเช้ากันอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้นมาหลิงอวี๋กับผู้รอบรู้มองหน้ากันแล้วระวังตัวขึ้นมาทันที“ผู้ใด?”ผู้รอบรู้เอ่ยถามเสียงดัง“สิงอวี๋ ข้าเอง หลงอิง!”เสียงของหลงอิงเอ่ยขึ้นมาผู้รอบรู้จึงมองหลิงอวี๋แล้วหลิงอวี๋ก็นึกเรื่องที่ตนวางยาพิษเหมียวหยางขึ้นมาได้เหมียวหยางถูกพิษกำเริบขึ้นมาแล้ว ตอนนี้หลงอิงก็นับว่าเป็นศิษย์น้องหญิงของเหมียวหยาง นางคงมาขอยาแก้พิษให้เหมียวหยางกระมัง?“พี่ใหญ่ เปิดประตูเถิด!”เมื่อผู้รอบรู้ได้รับอนุญาตจากหลิงอวี๋แล้วก็เปิดประตูออกหลงอิงเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม นางพานางรับใช้มาด้วยหนึ่งคนผู้รอบรู้โบกมือให้หลิงอวี๋อยู่ด้านหลังหลงอิง เป็นการบอกหลิงอวี๋ว่าข้างนอกไม่มีใครแล้ว“สิงอวี๋ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปที่ภูเขาหมางหลิ่งมา พบสมบัติอะไรหรือไม่?”หลงอิงมีท่าทางอยากรู้อยากเห็น “ข้าได้ยินมาด้วยว่ามีเสือปีกกาฬสัตว์อสูรพันปีปรากฏตัวที่ภูเขาหมางหลิ่ง เป็นความจริงหรือ?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่านางมิได้เอ่ยถึงเรื่องเหมียวหยาง นางก็มิได้เอ่ยถึงเช่นกัน จากนั้นก็พยักหน้าแล้วเอ่ยออกมา “เป็นความจริง มันกัดคนตายไปมา
“สตรีที่กล่าวหาว่าเจ้าช่วยเซียวหลินเทียนที่ภูเขาหมางหลิ่งวันนี้นั่นน่ะหรือ?”ผู้รอบรู้นึกขึ้นมาได้ ว่ากันว่าใบหน้าของสตรีผู้นั้นก็ถูกเซียวหลินเทียนกรีดเช่นกัน จึงคลุมผ้าคลุมไว้“พี่ใหญ่ เป็นนาง! ข้าลืมเรื่องราวในอดีตไป ตอนที่ข้ารู้สึกตัวนางบอกว่าข้าเป็นนางรับใช้ของนาง ข้ายังเชื่อคิดว่าเป็นความจริง!”เมื่อหลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำกับตน ก็ตื่นเต้นจนตัวสั่นไปหมด“ข้านึกมิออกว่าตนเองเป็นใคร แต่บางครั้งในหัวของข้าก็จะมีบางช่วงบางตอนแวบเข้ามา… หลังจากที่หน้ากากผิวหนังมนุษย์ของเซียวหลินเทียนถูกทำลายไป แล้วข้าก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาอย่างชัดเจน เขาก็คือคนที่ปรากฏขึ้นมาในภาพที่ข้าเห็น!”“พี่ใหญ่ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกข้าว่า เซียวหลินเทียนเตะลูกชายของข้าจนตาย ข้าเห็นลูกชายของข้าในภาพเหล่านั้น ทั้งยังเห็นว่าเซียวหลินเทียนให้คนเฆี่ยนตีข้าด้วย!”“จ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกว่า ที่เซียวหลินเทียนไล่ล่าข้าก็เพราะว่าข้าสังหารสตรีที่เขารักที่สุดไป! แต่ข้ามิรู้เรื่องเหล่านี้เลย ข้านึกอะไรมิออกทั้งนั้น!”“พี่ใหญ่ ข้ามิเชื่อคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่ดูจากการแสดงออกของเซียวหลินเทียนในวันนี้แล้ว ก