บททั้งหมดของ ใต้หล้าสยบรัก: บทที่ 681 - บทที่ 690

1015

บทที่ 681

อาซื่อพูดอย่างไม่สนอะไร “ชาติตระกูลอะไรไม่สำคัญหรอก ถ้าเขาเป็นคนซื่อตรงและใจดี เขารู้วรยุทธ์ และเข้าใจการก้าวไปหน้า เขาย่อมจะชนะการแข่งขันเสมอ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่มีอะไรสำเร็จเลยก็ตาม”หยวนชิงหลิงประทับใจยิ่งนัก "ข้าประหลาดใจจริงที่เจ้ามีความคิดเช่นนี้ อาซื่อ เจ้าพูดถูก สิ่งที่เจ้าว่ามานั้น ชาติตระกูลไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือนิสัยต่างหาก"ฐานะทางครอบครัวของอาซื่อก็ดี หากแต่งงานกับชายยากจนจริง ก็ไม่จำต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนิสัยที่ดีของคนอาซื่อยิ้มและหันไปหาหมานเอ๋อร์ "แล้วเจ้าล่ะ? สิ่งที่เจ้าอยากจะได้จากว่าที่สามีในอนาคต?"หมานเอ๋อร์ตกใจ "นี่ บ่าวไม่กล้าคิดหรอกเจ้าค่ะ"ตอนนี้นางเป็นแค่คนเร่ร่อนในเมืองหลวง จะไปกล้าคิดแบบนี้ได้อย่างไร? กินอิ่มนอนหลับมีชีวิตอยู่ดีก็นับว่าดีมากแล้ว“ทำไมไม่กล้าคิดกัน? ผู้หญิงทุกคนล้วนมีความฝันเกี่ยวกับอนาคต โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญชั่วชีวิตอย่างการแต่งงาน ตอนเจ้ายังเด็กเจ้าไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลยหรือ?” อาซื่อถามหมานเอ๋อร์ยิ้มอย่างเขินอาย "ตอนเด็ก ข้าเคยคิดเรื่องนี้ ข้าแค่อยากแต่งงานกับใครสักคนที่ซื่อสัตย์และดีกับข้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 682

หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้นมองนาง "เสียใจไหม?"พระชายาจี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเสียใจหรือไม่ ก้าวมาถึงจุดนี้แล้ว และข้าไม่มีทางคิดเสียใจหรือไม่เสียใจอีกแล้ว ใจของคนยากแท้หยั่งถึง ข้าพยายามที่สุด แต่เมื่อเจอคนใจร้ายจะทำอย่างไรได้? ตั้งแต่แรกข้าก็รู้แล้วว่าทุกอย่างที่ข้าให้ไป อาจไม่ได้อะไรกลับคืนมา"“เพราะเจ้ารักเขาจริงงั้นหรือ?” หยวนชิงหลิงเอ่ยถามพระชายาจี้ที่ได้ยินเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา "รัก? อาจจะใช่กระมั้ง?""ทำไมเจ้าถึงรักอ๋องจี้ล่ะ? เขามีดีอะไรตรงไหน?" หยวนชิงหลิงเอ่ยถามพระชายาจี้เอ่ยว่า "ข้ารักเขาไม่ใช่เพราะว่าเขามีดีอะไรตรงไหน แต่เพราะเขาเป็นสามีของข้า"หยวนชิงหลิงตกตะลึงจนอึ้งไป "แค่นั้นน่ะรึ?"แล้วจะเอาอะไรอีก?” พระชายาจี้มองนาง แปลกใจจริงๆ ที่ไม่เป็นการถามแบบเสียเปล่ารึ? ไม่รักสามีตัวเองแล้วใครจะรักกัน?“แล้วตอนนี้เจ้ายังรักเขาอยู่หรือเปล่า? ถึงอย่างไร เขาก็ยังเป็นสามีของเจ้าอยู่ดี” หยวนชิงหลิงถามนางตามตรรกะความคิดของตัวเองแววตาของพระชายาจี้เย็นชา "ข้าไม่คิดว่าคงเป็นเช่นนั้น"หยวนชิงหลิงถามว่า "ทำไมกัน?""เขาไม่จำเป็นต้องรักข้า แต่เ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 683

นางข้าหลวงสี่ช่วยประคองนางนั่งลงและพูดปลอบ "พระชายาอย่ากังวลไปเลยนะเพคะ อาซื่อพูดจาเหลวไหลไร้สาระ ถูกขังไว้ในห้องมืดที่ไหนกัน? แม้ว่าชินอ๋องจะไม่ได้รับอนุญาตให้ค้างคืนในวัง แต่ก็มีเจ้าชายองค์อื่นในวัง เขาสามารถไปพักค้างคืนกับองค์ชายแปดได้สักคืนหนึ่ง หรืออาจจะไปอยู่กับไท่ซ่างหวงก็ได้นะเพคะ”จะให้หยวนชิงหลิงสงบใจได้อย่างไร? ในเมื่อเขาเคยได้รับความทุกข์ทรมานจากห้องมืดนั้นมาก่อน นี่ยังต้องทรมานอีกครั้งหรือ?นางอดโกรธต่อความโหดร้ายของตาเฒ่านั้นไม่ได้ ทำไมถึงได้ทำกับเจ้าห้าเช่นนี้? ใครอยากจะมายุ่งยากเป็นรัชทายาทกัน?อาซื่อก็ไม่กล้าพูดจาเหลวไหลอีก และมองไปทางนางข้าหลวงสี่เพื่อขอความช่วยเหลือนางข้าหลวงสี่ถอนหายใจ “เช่นนั้น ข้าจะไปรอที่ซอยจวนของตระกูลฉู่ให้เร็วหน่อย ดูว่าท่านมหาเสนาบดีจะกลับมาเมื่อไหร่”“ลำบากโมโม่แล้ว” หยวนชิงหลิงพูดด้วยความซาบซึ้งใจ“พระชายา อย่าพูดเกรงใจเช่นนี้กับข้าเลย ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ท่านควรพักผ่อนให้เพียงพอจะได้ไม่กระทบถึงครรภ์นะเพคะ” โมโม่พูดปลอบใจนางหยวนชิงหลิงพยักหน้ารัว ตัวเองกลับบ้านแม่มา แม้ว่านางจะแสร้งทำเหมือนสงบนิ่ง แต่ในใจนางร้อนร้นยิ่งน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 684

น้ำแกงขิงที่ยกเข้ามา มหาเสนาบดีฉู่บังคับให้นางข้าหลวงสี่ดื่มลงไปก่อนเมื่อน้ำแกงขิงร้อน ๆ ตกถึงท้อง โมโม่ก็รู้สึกร้อนไปทั้งร่าง และหน้าผากก็เหงื่อซึมออกมาเล็กน้อยเหลืออีกสองคำและดื่มไม่ลงแล้ว มหาเสนาบดีฉู่จึงรับมันและดื่มลงไปให้หมด “อย่าสิ้นเปลือง”นางข้าหลวงสี่มองมือผอมแห้งแต่ยังแข็งแรงของเขาวางถ้วยนั้นลงก็รีบถามทันที “พระชายาขอให้ข้ามาถาม ตอนนี้อ๋องฉู่อยู่ที่ไหน? ฝ่าบาทได้สั่งให้นำไปขังในห้องมืดรึเปล่า”มหาเสนาบดีฉู่กอดอก และเอามือสอดเข้าไปในแขนเสื้อตัวเองด้วยความเคยชิน และกล่าวว่า “บอกให้พระชายาวางใจเถอะ ฝ่าบาทไม่ได้สั่งลงโทษอะไร แค่ไล่เขาออกจากวังเท่านั้น”“แต่ว่า” นางข้าหลวงสี่กระวนกระวายใจเหลือเกิน “เขาไม่ได้กลับจวนอ๋อง”มหาเสนาบดีฉู่วางมือเขาลงบนมือนาง “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม อดทนรอดูเหตุการณ์ไปก่อน เขาไม่ได้กลับจวน แต่ไปพระตำหนักเฉียนคุน ทำตัวขี้เกียจสังกะตายไม่ต่างจากตัวทากเลยสักนิด”“ตัวทาก?” นางข้าหลวงสี่ตกใจในแววตาของมหาเสนาบดีฉู่เจือไปด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ข้าไปที่พระตำหนักเฉียนคุน เขาก็อยู่ที่นั้น”นางข้าหลวงสี่เอ่ยอย่างหมดหนทาง “เช่นนั้นทำไมถึงไม่กลับจวนเล่า? พระชาย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 685

“ไม่ได้เรื่อง!”อวี่เหวินห่าวหดคอหาท่าที่สบายกว่าเดิม แล้วกอดน่องไท่ซ่างหวงเอาไม่ไว้ไปไหนไท่ซ่างหวงทรงกริ้ว และตรัสขึ้นว่า “เจ้าไม่เชื่อว่าข้าไม่กล้าสั่งคนมาตัดมือเจ้าจริงงั้นรึ?”อวี่เหวินห่าวลืมตาขึ้น และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่เชื่อ”ไท่ซ่างหวงออกคำสั่งอย่างจริงจัง “ทหาร เอามือทั้งคู่ของอ๋องฉู่มาให้ข้า!”ทหารที่ได้ยินก็ชักดาบเงาแวววาวขึ้น และฟันลงไปที่มือของอวี่เหวินห่าวอย่างรวดเร็ว เร็วซะจนเกือบคล้ายสายฟ้าฟาดลงมาอวี่เหวินห่าวไม่แม้แต่กระพริบตาด้วย หนำซ้ำรอดาบนั้นฟันลงมาอีกต่างหากเสียงดัง "กรึก" ดาบยาวฟันลงบนพื้นหินอ่อนจนขึ้นสะเก็ดไฟ และเศษชิ้นส่วนปลิวว่อนรวมกัน“เจ้าเป็นสุนัขตาบอดรึ...” ไท่ซ่างหวงกริ้วมาก และขยี้ตาอย่างแรง เศษหินนั้นปลิวมาเข้าตาเขา แสบจนน้ำตาไหลไปหมดทหารทิ้งดาบลงคุกเข่ารอรับโทษฉางกงกงเข้าไปเป่าเศษผงนั้นออกจากตา ไท่ซ่างหวงกริ้วซะจนตะโกนสั่งออกไป “ไปเรียกตัวฮ่องเต้มานี่!”เมื่ออวี่เหวินห่าวได้ยินเช่นนี้ ก็ปล่อยมือจากไท่ซ่างหวงทันที และตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ รีบกระโดดปีนขึ้นไปบนคานของพระตำหนักแล้วนอนอยู่ตรงนั้นเมื่อจักรพรรดิหมิงหยวนเสด็จมาถึง อวี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 686

เมื่อเห็นว่าเขายังยืนนิ่งอยู่ จักรพรรดิหมิงหยวนก็อดโกรธอีกครั้งไม่ได้ "ยังยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม ไสหัวไป!"อวี่เหวินห่าวเงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิหมิงหยวน "ลูกอยากขออภัยโทษกับเสด็จปู่ก่อนพ่ะย่ะค่ะ"จักรพรรดิหมิงหยวนรู้ว่าเจ้าลูกบ้านี้ปีนเสาคานพระตำหนัก จึงอดสะบัดแขนเสื้อด้วยความหงุดหงิดไม่ได้ คิดจะเดินออกไปแบบนี้ก็ดูเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป จึงกล่าวทูลลากับไท่ซ่างหวงและเดินจากไปอย่างเย็นชา“ลูกน้อมส่งเสด็จพ่อ!” อวี่เหวินห่าวกล่าวด้วยความเคารพจักรพรรดิหมิงหยวนเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอวี่เหวินห่าวที่ไม่เห็นแผ่นหลังนั้นแล้วก็คุกเข่าลงกับพื้น และพูดอย่างเศร้าสร้อยว่า “เสด็จปู่ ถ้าพระองค์ไม่ช่วยเหล่าหยวน แล้วใครจะช่วยเหล่าหยวนกันเล่า?”ไท่ซ่างหวงที่มีท่าทางสงบลงมาบ้างแล้ว จึงนั่งลงแล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้ากลับไปก่อน เดี๋ยวข้าจะสั่งการตามลงไป”“พ่ะย่ะค่ะ!” แววตาอวี่เหวินห่าวเผยแสงเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก “เช่นนั้นหลานขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ!”ไท่ซ่างหวงตรัสว่า “ไปเถอะ”อวี่เหวินห่าวออกจากวังแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกถังหยางรออยู่ข้างนอกวัง วันนี้หลังจากนางข้าหลวงสี่กลับไปแล้ว เ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 687

เดิมทีจิ้งโฮ่วเองก็จิตใจว้าวุ่นพออยู่แล้ว เมื่อได้ยินนางบ่นไม่หยุดก็โกรธจนตบโต๊ะขึ้นมา และตวาดเสียงดังว่า “ไม่มีหน้าแล้วจะทำไม? รักษาหัวไว้ได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว”นางหวงที่เปรียบสามีดั่งท้องฟ้า ตอนนี้เห็นเขาโกรธแบบนี้ก็รีบสงบปากสงบคำ และพยายามอดกลั้นความไม่พอใจของตนเองเอาไว้จิ้งโฮ่วยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งรำคาญใจ จึงพูดอย่างเย็นชาออกมาว่า “ข้าจะไปที่นั่น”นางหวงที่ได้ยินก็เงยหน้าขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “จะไปอีกแล้ว? เมื่อคืนก็ไปที่นั่นมาแล้ว นี่ยังจะไปอีก?”“ข้าไม่อยากเห็นหน้าเหี่ยว ๆ ของเจ้า!” จิ้งโฮ่วเอามือไพล่หลังแล้วเดินออกไป พร้อมกับพูดออกมาอย่างเย็นชานางหวงรู้สึกว่าจิ้งโฮ่วพาลโกรธนางเพราะหยวนชิงหลิง จึงอดโกรธลูกสาวขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็ยิ่งโกรธ ดังนั้นจึงพาแม่บ้านไปที่นั่นหยวนชิงหลิงที่ได้ข่าวจากทางนางข้าหลวงสี่ที่กลับมารายงาน ได้ยินว่าอวี่เหวินห่าวพักค้างคืนที่พระตำหนักเฉียนคุน นางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหมานเอ๋อร์ทำซุปก๋วยเตี๋ยว และเมื่อนางกำลังจะกินนั้นก็ได้ยินว่านางหวงมาที่นี่หยวนชิงหลิงไม่ชอบแม่ของเจ้าของร่างเดิมจริง ๆนางหวงเป็
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 688

อาซื่อที่อดทนอยู่ครู่หนึ่งแล้วนั้น เมื่อได้ยินหยวนชิงหลิงสั่งลงมาก็รีบลุกขึ้น และเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ฮูหยิน พระชายาของพวกเราต้องการพักผ่อน เชิญท่านกลับไปก่อน”นางหวงคิดว่าสามีไม่ชอบนางแล้ว ลูกสาวที่ถูกหย่ากลับมายังกล้าด่านางอีก ก็พาลโกรธเลือดขึ้นหน้า “พระชายาอันใดกัน? ถูกหย่ากลับมาแล้ว ยังจะถือยศถืออย่างอะไรอีก? ข้าเป็นแม่เจ้านะ เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดจาหยาบคายเช่นนี้กับข้าได้?”“ลากออกไป!” หยวนชิงหลิงโกรธจนปวดท้องขึ้นมา จึงพูดสั่งอาซื่อออกไปตรง ๆ อาซื่อคว้าเอวนางหวงไว้ นางหวงตกใจมาก “เจ้าคิดจะทำอะไร...อ๊ะ ปล่อยข้านะ...”อาซื่อออกแรงยกเอวนาง อุ้มนางออกไปข้างนอก และพบว่ามีคนสองคนกำลังรีบเดินเข้ามา อาซื่อที่ได้เห็นก็ดีใจ และวางนางหวงลงทันที “ท่านอ๋องมาแล้ว!”อวี่เหวินห่าวก้าวเข้าไปพร้อมเสียงตะโกนของนาง หยวนชิงหลิงที่ออกมาพอดี ก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดลมหายใจที่คุ้นเคย เสื้อผ้าที่คุ้นเคย และริบฝีปากที่คุ้นเคยที่ประทับลงบนหน้าผาก นางยื่นมือไปกอดเขาเอาไว้ รู้สึกน้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความดีใจนางข้าหลวงสี่และหมานเอ๋อร์รีบถอยออกไปปิดประตูนางหวงที่อยู่ด้านนอกทั้งตกใจและดีใจ “ลูกเขยของข้าม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 689

หยวนชิงหลิงฝืนยิ้มเจื่อนออกมา "ถ้าอย่างนั้นคุณหนูฮู้...ท่านคิดเห็นเช่นไร?"“คิดเห็นอันใด? ข้าไม่แต่งหรอก” อวี่เหวินห่าวเคร่งเครียดขึ้นมา “ทุกอย่างนั้นล้วนปรึกษาหารือกันได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้”“พอมีทางแก้ไขไหม?” หยวนชิงหลิงถามอวี่เหวินห่าวโอบเอวของนาง จากนั้นกอดนางเบา ๆ ให้นางเอนตัวลง เขาก้มลงฟังเสียงเคลื่อนไหวในท้องของนางและพูดว่า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราสักหน่อย ถ้าเจ้าเมืองจิ้งเป่ยก่อการคิดไม่ซื่อ ก็ให้เสด็จพ่อเป็นคนจัดการ มันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา? ข้าไม่ใช่พ่อพันธุ์ม้าที่จะเข้าไปเกี่ยวดองกับลูกสาวเขา เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้รึ? เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าอยากแต่ง เสด็จพ่อก็แต่งเองสิ”เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความผิดหวังเล็กน้อย "เจ้าเด็กคนนี้ขี้เกียจเกินไปแล้ว ที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังนอนได้อีก ไม่ลุกขึ้นมาทักทายพ่อบ้างเลย"หยวนชิงหลิงเอื้อมมือไปลูบท้องนาง "ท่านอย่าว่าลูกเลย ตั้งแต่กลับมา ลูกก็ไม่ขยับตัวเลย"“ไม่มีอะไรผิดปกติใช่หรือไม่?” สีหน้าของอวี่เหวินห่าวเปลี่ยนไปทันทีหยวนชิงหลิงเอ่ยว่า "ไม่หรอก ข้าเองก็ดูอยู่ อาจเป็นเพราะข้าอารมณ์ไม่ดี และขี้เกียจขยับเขยือน เด็กก็เลยไม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 690

จิ้งโฮ่วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ลานด้านหน้าและด้านหลัง เขาสวมเสื้อคลุมบุนวมผ้าฝ้ายหนา และซ่อนตัวอยู่ด้านหลังในเรือนข้างประตูเล็ก รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากแต่เพื่อความปลอดภัย เขาเรียกให้คนไปตามฮูหยินรองเฒ่า ให้นางไปดูสถานการณ์หน่อยฮูหยินรองเฒ่าเองก็เป็นคนฉลาด ตัวจิ้งโฮ่วเองไม่ไป แล้วมาเรียกคนแก่อย่างนางให้ไป นี่มันไม่น่าตลกไปหน่อยหรือ?ดังนั้นนางจึงขอให้คนไปบอกปฏิเสธ โดยบอกว่านางรู้สึกไม่ค่อยสบายและปวดหัวมาก จึงไปไม่ได้ ทำให้จิ้งโฮ่วนั้นโกรธมากในทางกลับกัน เมื่อฮูหยินเฒ่าได้ยินว่าอวี่เหวินห่าวมาที่นี่ นางจึงให้หญิงรับใช้ซุนพานางมาที่นี่ทันทีฮูหยินเฒ่ากลัวว่าอวี่เหวินห่าวจะโกรธ แล้วระบายอารมณ์ใส่หยวนชิงหลิง จนทำร้ายทารกในครรภ์ของนาง ดังนั้นนางจึงมาช่วยเกลี้ยกล่อมแต่คาดไม่ถึงว่า เมื่อเข้ามาเห็นอวี่เหวินห่าวก้มหัวฟังเสียงลูกในท้องของหลานสาวตัวเองตลอดเวลา ท่าทางดูมีความสุขยิ่งนักนางตกตะลึงกับภาพตรงหน้านี้เล็กน้อย เหมือนใจร่วงลงพื้น"ท่านย่า!" หยวนชิงหลิงรีบผลักอวี่เหวินห่าวออก และเรียกนางอย่างเคอะเขินอวี่เหวินห่าวลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยประคองฮูหยินเฒ่า "ท่านย่า ขออภัย
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
6768697071
...
102
DMCA.com Protection Status