น้ำแกงขิงที่ยกเข้ามา มหาเสนาบดีฉู่บังคับให้นางข้าหลวงสี่ดื่มลงไปก่อนเมื่อน้ำแกงขิงร้อน ๆ ตกถึงท้อง โมโม่ก็รู้สึกร้อนไปทั้งร่าง และหน้าผากก็เหงื่อซึมออกมาเล็กน้อยเหลืออีกสองคำและดื่มไม่ลงแล้ว มหาเสนาบดีฉู่จึงรับมันและดื่มลงไปให้หมด “อย่าสิ้นเปลือง”นางข้าหลวงสี่มองมือผอมแห้งแต่ยังแข็งแรงของเขาวางถ้วยนั้นลงก็รีบถามทันที “พระชายาขอให้ข้ามาถาม ตอนนี้อ๋องฉู่อยู่ที่ไหน? ฝ่าบาทได้สั่งให้นำไปขังในห้องมืดรึเปล่า”มหาเสนาบดีฉู่กอดอก และเอามือสอดเข้าไปในแขนเสื้อตัวเองด้วยความเคยชิน และกล่าวว่า “บอกให้พระชายาวางใจเถอะ ฝ่าบาทไม่ได้สั่งลงโทษอะไร แค่ไล่เขาออกจากวังเท่านั้น”“แต่ว่า” นางข้าหลวงสี่กระวนกระวายใจเหลือเกิน “เขาไม่ได้กลับจวนอ๋อง”มหาเสนาบดีฉู่วางมือเขาลงบนมือนาง “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม อดทนรอดูเหตุการณ์ไปก่อน เขาไม่ได้กลับจวน แต่ไปพระตำหนักเฉียนคุน ทำตัวขี้เกียจสังกะตายไม่ต่างจากตัวทากเลยสักนิด”“ตัวทาก?” นางข้าหลวงสี่ตกใจในแววตาของมหาเสนาบดีฉู่เจือไปด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ข้าไปที่พระตำหนักเฉียนคุน เขาก็อยู่ที่นั้น”นางข้าหลวงสี่เอ่ยอย่างหมดหนทาง “เช่นนั้นทำไมถึงไม่กลับจวนเล่า? พระชาย
“ไม่ได้เรื่อง!”อวี่เหวินห่าวหดคอหาท่าที่สบายกว่าเดิม แล้วกอดน่องไท่ซ่างหวงเอาไม่ไว้ไปไหนไท่ซ่างหวงทรงกริ้ว และตรัสขึ้นว่า “เจ้าไม่เชื่อว่าข้าไม่กล้าสั่งคนมาตัดมือเจ้าจริงงั้นรึ?”อวี่เหวินห่าวลืมตาขึ้น และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่เชื่อ”ไท่ซ่างหวงออกคำสั่งอย่างจริงจัง “ทหาร เอามือทั้งคู่ของอ๋องฉู่มาให้ข้า!”ทหารที่ได้ยินก็ชักดาบเงาแวววาวขึ้น และฟันลงไปที่มือของอวี่เหวินห่าวอย่างรวดเร็ว เร็วซะจนเกือบคล้ายสายฟ้าฟาดลงมาอวี่เหวินห่าวไม่แม้แต่กระพริบตาด้วย หนำซ้ำรอดาบนั้นฟันลงมาอีกต่างหากเสียงดัง "กรึก" ดาบยาวฟันลงบนพื้นหินอ่อนจนขึ้นสะเก็ดไฟ และเศษชิ้นส่วนปลิวว่อนรวมกัน“เจ้าเป็นสุนัขตาบอดรึ...” ไท่ซ่างหวงกริ้วมาก และขยี้ตาอย่างแรง เศษหินนั้นปลิวมาเข้าตาเขา แสบจนน้ำตาไหลไปหมดทหารทิ้งดาบลงคุกเข่ารอรับโทษฉางกงกงเข้าไปเป่าเศษผงนั้นออกจากตา ไท่ซ่างหวงกริ้วซะจนตะโกนสั่งออกไป “ไปเรียกตัวฮ่องเต้มานี่!”เมื่ออวี่เหวินห่าวได้ยินเช่นนี้ ก็ปล่อยมือจากไท่ซ่างหวงทันที และตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ รีบกระโดดปีนขึ้นไปบนคานของพระตำหนักแล้วนอนอยู่ตรงนั้นเมื่อจักรพรรดิหมิงหยวนเสด็จมาถึง อวี
เมื่อเห็นว่าเขายังยืนนิ่งอยู่ จักรพรรดิหมิงหยวนก็อดโกรธอีกครั้งไม่ได้ "ยังยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม ไสหัวไป!"อวี่เหวินห่าวเงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิหมิงหยวน "ลูกอยากขออภัยโทษกับเสด็จปู่ก่อนพ่ะย่ะค่ะ"จักรพรรดิหมิงหยวนรู้ว่าเจ้าลูกบ้านี้ปีนเสาคานพระตำหนัก จึงอดสะบัดแขนเสื้อด้วยความหงุดหงิดไม่ได้ คิดจะเดินออกไปแบบนี้ก็ดูเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป จึงกล่าวทูลลากับไท่ซ่างหวงและเดินจากไปอย่างเย็นชา“ลูกน้อมส่งเสด็จพ่อ!” อวี่เหวินห่าวกล่าวด้วยความเคารพจักรพรรดิหมิงหยวนเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอวี่เหวินห่าวที่ไม่เห็นแผ่นหลังนั้นแล้วก็คุกเข่าลงกับพื้น และพูดอย่างเศร้าสร้อยว่า “เสด็จปู่ ถ้าพระองค์ไม่ช่วยเหล่าหยวน แล้วใครจะช่วยเหล่าหยวนกันเล่า?”ไท่ซ่างหวงที่มีท่าทางสงบลงมาบ้างแล้ว จึงนั่งลงแล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้ากลับไปก่อน เดี๋ยวข้าจะสั่งการตามลงไป”“พ่ะย่ะค่ะ!” แววตาอวี่เหวินห่าวเผยแสงเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก “เช่นนั้นหลานขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ!”ไท่ซ่างหวงตรัสว่า “ไปเถอะ”อวี่เหวินห่าวออกจากวังแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกถังหยางรออยู่ข้างนอกวัง วันนี้หลังจากนางข้าหลวงสี่กลับไปแล้ว เ
เดิมทีจิ้งโฮ่วเองก็จิตใจว้าวุ่นพออยู่แล้ว เมื่อได้ยินนางบ่นไม่หยุดก็โกรธจนตบโต๊ะขึ้นมา และตวาดเสียงดังว่า “ไม่มีหน้าแล้วจะทำไม? รักษาหัวไว้ได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว”นางหวงที่เปรียบสามีดั่งท้องฟ้า ตอนนี้เห็นเขาโกรธแบบนี้ก็รีบสงบปากสงบคำ และพยายามอดกลั้นความไม่พอใจของตนเองเอาไว้จิ้งโฮ่วยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งรำคาญใจ จึงพูดอย่างเย็นชาออกมาว่า “ข้าจะไปที่นั่น”นางหวงที่ได้ยินก็เงยหน้าขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “จะไปอีกแล้ว? เมื่อคืนก็ไปที่นั่นมาแล้ว นี่ยังจะไปอีก?”“ข้าไม่อยากเห็นหน้าเหี่ยว ๆ ของเจ้า!” จิ้งโฮ่วเอามือไพล่หลังแล้วเดินออกไป พร้อมกับพูดออกมาอย่างเย็นชานางหวงรู้สึกว่าจิ้งโฮ่วพาลโกรธนางเพราะหยวนชิงหลิง จึงอดโกรธลูกสาวขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็ยิ่งโกรธ ดังนั้นจึงพาแม่บ้านไปที่นั่นหยวนชิงหลิงที่ได้ข่าวจากทางนางข้าหลวงสี่ที่กลับมารายงาน ได้ยินว่าอวี่เหวินห่าวพักค้างคืนที่พระตำหนักเฉียนคุน นางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหมานเอ๋อร์ทำซุปก๋วยเตี๋ยว และเมื่อนางกำลังจะกินนั้นก็ได้ยินว่านางหวงมาที่นี่หยวนชิงหลิงไม่ชอบแม่ของเจ้าของร่างเดิมจริง ๆนางหวงเป็
อาซื่อที่อดทนอยู่ครู่หนึ่งแล้วนั้น เมื่อได้ยินหยวนชิงหลิงสั่งลงมาก็รีบลุกขึ้น และเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ฮูหยิน พระชายาของพวกเราต้องการพักผ่อน เชิญท่านกลับไปก่อน”นางหวงคิดว่าสามีไม่ชอบนางแล้ว ลูกสาวที่ถูกหย่ากลับมายังกล้าด่านางอีก ก็พาลโกรธเลือดขึ้นหน้า “พระชายาอันใดกัน? ถูกหย่ากลับมาแล้ว ยังจะถือยศถืออย่างอะไรอีก? ข้าเป็นแม่เจ้านะ เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดจาหยาบคายเช่นนี้กับข้าได้?”“ลากออกไป!” หยวนชิงหลิงโกรธจนปวดท้องขึ้นมา จึงพูดสั่งอาซื่อออกไปตรง ๆ อาซื่อคว้าเอวนางหวงไว้ นางหวงตกใจมาก “เจ้าคิดจะทำอะไร...อ๊ะ ปล่อยข้านะ...”อาซื่อออกแรงยกเอวนาง อุ้มนางออกไปข้างนอก และพบว่ามีคนสองคนกำลังรีบเดินเข้ามา อาซื่อที่ได้เห็นก็ดีใจ และวางนางหวงลงทันที “ท่านอ๋องมาแล้ว!”อวี่เหวินห่าวก้าวเข้าไปพร้อมเสียงตะโกนของนาง หยวนชิงหลิงที่ออกมาพอดี ก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดลมหายใจที่คุ้นเคย เสื้อผ้าที่คุ้นเคย และริบฝีปากที่คุ้นเคยที่ประทับลงบนหน้าผาก นางยื่นมือไปกอดเขาเอาไว้ รู้สึกน้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความดีใจนางข้าหลวงสี่และหมานเอ๋อร์รีบถอยออกไปปิดประตูนางหวงที่อยู่ด้านนอกทั้งตกใจและดีใจ “ลูกเขยของข้าม
หยวนชิงหลิงฝืนยิ้มเจื่อนออกมา "ถ้าอย่างนั้นคุณหนูฮู้...ท่านคิดเห็นเช่นไร?"“คิดเห็นอันใด? ข้าไม่แต่งหรอก” อวี่เหวินห่าวเคร่งเครียดขึ้นมา “ทุกอย่างนั้นล้วนปรึกษาหารือกันได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้”“พอมีทางแก้ไขไหม?” หยวนชิงหลิงถามอวี่เหวินห่าวโอบเอวของนาง จากนั้นกอดนางเบา ๆ ให้นางเอนตัวลง เขาก้มลงฟังเสียงเคลื่อนไหวในท้องของนางและพูดว่า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราสักหน่อย ถ้าเจ้าเมืองจิ้งเป่ยก่อการคิดไม่ซื่อ ก็ให้เสด็จพ่อเป็นคนจัดการ มันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา? ข้าไม่ใช่พ่อพันธุ์ม้าที่จะเข้าไปเกี่ยวดองกับลูกสาวเขา เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้รึ? เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าอยากแต่ง เสด็จพ่อก็แต่งเองสิ”เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความผิดหวังเล็กน้อย "เจ้าเด็กคนนี้ขี้เกียจเกินไปแล้ว ที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังนอนได้อีก ไม่ลุกขึ้นมาทักทายพ่อบ้างเลย"หยวนชิงหลิงเอื้อมมือไปลูบท้องนาง "ท่านอย่าว่าลูกเลย ตั้งแต่กลับมา ลูกก็ไม่ขยับตัวเลย"“ไม่มีอะไรผิดปกติใช่หรือไม่?” สีหน้าของอวี่เหวินห่าวเปลี่ยนไปทันทีหยวนชิงหลิงเอ่ยว่า "ไม่หรอก ข้าเองก็ดูอยู่ อาจเป็นเพราะข้าอารมณ์ไม่ดี และขี้เกียจขยับเขยือน เด็กก็เลยไม
จิ้งโฮ่วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ลานด้านหน้าและด้านหลัง เขาสวมเสื้อคลุมบุนวมผ้าฝ้ายหนา และซ่อนตัวอยู่ด้านหลังในเรือนข้างประตูเล็ก รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากแต่เพื่อความปลอดภัย เขาเรียกให้คนไปตามฮูหยินรองเฒ่า ให้นางไปดูสถานการณ์หน่อยฮูหยินรองเฒ่าเองก็เป็นคนฉลาด ตัวจิ้งโฮ่วเองไม่ไป แล้วมาเรียกคนแก่อย่างนางให้ไป นี่มันไม่น่าตลกไปหน่อยหรือ?ดังนั้นนางจึงขอให้คนไปบอกปฏิเสธ โดยบอกว่านางรู้สึกไม่ค่อยสบายและปวดหัวมาก จึงไปไม่ได้ ทำให้จิ้งโฮ่วนั้นโกรธมากในทางกลับกัน เมื่อฮูหยินเฒ่าได้ยินว่าอวี่เหวินห่าวมาที่นี่ นางจึงให้หญิงรับใช้ซุนพานางมาที่นี่ทันทีฮูหยินเฒ่ากลัวว่าอวี่เหวินห่าวจะโกรธ แล้วระบายอารมณ์ใส่หยวนชิงหลิง จนทำร้ายทารกในครรภ์ของนาง ดังนั้นนางจึงมาช่วยเกลี้ยกล่อมแต่คาดไม่ถึงว่า เมื่อเข้ามาเห็นอวี่เหวินห่าวก้มหัวฟังเสียงลูกในท้องของหลานสาวตัวเองตลอดเวลา ท่าทางดูมีความสุขยิ่งนักนางตกตะลึงกับภาพตรงหน้านี้เล็กน้อย เหมือนใจร่วงลงพื้น"ท่านย่า!" หยวนชิงหลิงรีบผลักอวี่เหวินห่าวออก และเรียกนางอย่างเคอะเขินอวี่เหวินห่าวลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยประคองฮูหยินเฒ่า "ท่านย่า ขออภัย
หญิงรับใช้ซุนรีบเข้ามาช่วย “ข้าจะกล้ารบกวนโมโม่ได้อย่างไร? ให้บ่าวทำเถอะ”“อย่าพูดเช่นนั้นเลย” นางข้าหลวงสี่ยิ้มและกล่าวว่า “ข้าเองก็คอยรับใช้พระชายาเช่นกัน”นางยืนยันจะเก็บกวาดด้วยตัวเองฮูหยินเฒ่าจึงสั่งหญิงรับใช้ซุน “ไปเตรียมอะไรสักอย่างมาให้ท่านอ๋องและพระชายาได้ทานสักหน่อย”หญิงรับใช้ซุนรีบออกไปจัดเตรียมด้วยตัวเองรอทั้งคู่กินมื้อดึกแล้ว หมานเอ๋อร์ก็ไปเชิญท่านหมอหลวงเฉามาเมื่อเห็นหมอหลวงมา ฮูหยินเฒ่าก็รู้สึกเป็นกังวลมาก โชคดีที่ได้อาซื่อคอยปลอบว่าจงใจเรียกหมอหลวงมาเพื่อหยุดยั้งฝ่าบาท ฮูหยินเฒ่าจึงสบายใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อยหลังจากเกลี้ยกล่อมแล้วจึงขอให้ฮูหยินเฒ่ากลับไปก่อนหลังจากหมอหลวงเฉาตรวจดูอาการแล้ว ก็บอกอวี่เหวินห่าวกับหยวนชิงหลิงว่า “ท่านอ๋อง พระชายาโปรดวางพระทัย พระชายาสบายดี หากได้พักผ่อนกินดื่มตามปกติ ก็จะปลอดภัยเป็นปกติพ่ะย่ะค่ะ”อวี่เหวินห่าวดึงตัวหมอหลวงไปที่หลังฉากบังลม ใช้มือข้างนึงค้ำฉาก และขังหมอหลวงเฉาในอ้อมแขนของตัวเอง และพูดอย่างเป็นกันเองว่า "ท่านหมอหลวง หลังจากออกจากจวนแล้ว จะมีคนหยุดรอท่านอยู่ด้านนอก เพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของพระชายา ท่านจะตอบเยี่