หยวนชิงหลิงฝืนยิ้มเจื่อนออกมา "ถ้าอย่างนั้นคุณหนูฮู้...ท่านคิดเห็นเช่นไร?"“คิดเห็นอันใด? ข้าไม่แต่งหรอก” อวี่เหวินห่าวเคร่งเครียดขึ้นมา “ทุกอย่างนั้นล้วนปรึกษาหารือกันได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้”“พอมีทางแก้ไขไหม?” หยวนชิงหลิงถามอวี่เหวินห่าวโอบเอวของนาง จากนั้นกอดนางเบา ๆ ให้นางเอนตัวลง เขาก้มลงฟังเสียงเคลื่อนไหวในท้องของนางและพูดว่า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราสักหน่อย ถ้าเจ้าเมืองจิ้งเป่ยก่อการคิดไม่ซื่อ ก็ให้เสด็จพ่อเป็นคนจัดการ มันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา? ข้าไม่ใช่พ่อพันธุ์ม้าที่จะเข้าไปเกี่ยวดองกับลูกสาวเขา เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้รึ? เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าอยากแต่ง เสด็จพ่อก็แต่งเองสิ”เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความผิดหวังเล็กน้อย "เจ้าเด็กคนนี้ขี้เกียจเกินไปแล้ว ที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังนอนได้อีก ไม่ลุกขึ้นมาทักทายพ่อบ้างเลย"หยวนชิงหลิงเอื้อมมือไปลูบท้องนาง "ท่านอย่าว่าลูกเลย ตั้งแต่กลับมา ลูกก็ไม่ขยับตัวเลย"“ไม่มีอะไรผิดปกติใช่หรือไม่?” สีหน้าของอวี่เหวินห่าวเปลี่ยนไปทันทีหยวนชิงหลิงเอ่ยว่า "ไม่หรอก ข้าเองก็ดูอยู่ อาจเป็นเพราะข้าอารมณ์ไม่ดี และขี้เกียจขยับเขยือน เด็กก็เลยไม
จิ้งโฮ่วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ลานด้านหน้าและด้านหลัง เขาสวมเสื้อคลุมบุนวมผ้าฝ้ายหนา และซ่อนตัวอยู่ด้านหลังในเรือนข้างประตูเล็ก รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากแต่เพื่อความปลอดภัย เขาเรียกให้คนไปตามฮูหยินรองเฒ่า ให้นางไปดูสถานการณ์หน่อยฮูหยินรองเฒ่าเองก็เป็นคนฉลาด ตัวจิ้งโฮ่วเองไม่ไป แล้วมาเรียกคนแก่อย่างนางให้ไป นี่มันไม่น่าตลกไปหน่อยหรือ?ดังนั้นนางจึงขอให้คนไปบอกปฏิเสธ โดยบอกว่านางรู้สึกไม่ค่อยสบายและปวดหัวมาก จึงไปไม่ได้ ทำให้จิ้งโฮ่วนั้นโกรธมากในทางกลับกัน เมื่อฮูหยินเฒ่าได้ยินว่าอวี่เหวินห่าวมาที่นี่ นางจึงให้หญิงรับใช้ซุนพานางมาที่นี่ทันทีฮูหยินเฒ่ากลัวว่าอวี่เหวินห่าวจะโกรธ แล้วระบายอารมณ์ใส่หยวนชิงหลิง จนทำร้ายทารกในครรภ์ของนาง ดังนั้นนางจึงมาช่วยเกลี้ยกล่อมแต่คาดไม่ถึงว่า เมื่อเข้ามาเห็นอวี่เหวินห่าวก้มหัวฟังเสียงลูกในท้องของหลานสาวตัวเองตลอดเวลา ท่าทางดูมีความสุขยิ่งนักนางตกตะลึงกับภาพตรงหน้านี้เล็กน้อย เหมือนใจร่วงลงพื้น"ท่านย่า!" หยวนชิงหลิงรีบผลักอวี่เหวินห่าวออก และเรียกนางอย่างเคอะเขินอวี่เหวินห่าวลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยประคองฮูหยินเฒ่า "ท่านย่า ขออภัย
หญิงรับใช้ซุนรีบเข้ามาช่วย “ข้าจะกล้ารบกวนโมโม่ได้อย่างไร? ให้บ่าวทำเถอะ”“อย่าพูดเช่นนั้นเลย” นางข้าหลวงสี่ยิ้มและกล่าวว่า “ข้าเองก็คอยรับใช้พระชายาเช่นกัน”นางยืนยันจะเก็บกวาดด้วยตัวเองฮูหยินเฒ่าจึงสั่งหญิงรับใช้ซุน “ไปเตรียมอะไรสักอย่างมาให้ท่านอ๋องและพระชายาได้ทานสักหน่อย”หญิงรับใช้ซุนรีบออกไปจัดเตรียมด้วยตัวเองรอทั้งคู่กินมื้อดึกแล้ว หมานเอ๋อร์ก็ไปเชิญท่านหมอหลวงเฉามาเมื่อเห็นหมอหลวงมา ฮูหยินเฒ่าก็รู้สึกเป็นกังวลมาก โชคดีที่ได้อาซื่อคอยปลอบว่าจงใจเรียกหมอหลวงมาเพื่อหยุดยั้งฝ่าบาท ฮูหยินเฒ่าจึงสบายใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อยหลังจากเกลี้ยกล่อมแล้วจึงขอให้ฮูหยินเฒ่ากลับไปก่อนหลังจากหมอหลวงเฉาตรวจดูอาการแล้ว ก็บอกอวี่เหวินห่าวกับหยวนชิงหลิงว่า “ท่านอ๋อง พระชายาโปรดวางพระทัย พระชายาสบายดี หากได้พักผ่อนกินดื่มตามปกติ ก็จะปลอดภัยเป็นปกติพ่ะย่ะค่ะ”อวี่เหวินห่าวดึงตัวหมอหลวงไปที่หลังฉากบังลม ใช้มือข้างนึงค้ำฉาก และขังหมอหลวงเฉาในอ้อมแขนของตัวเอง และพูดอย่างเป็นกันเองว่า "ท่านหมอหลวง หลังจากออกจากจวนแล้ว จะมีคนหยุดรอท่านอยู่ด้านนอก เพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของพระชายา ท่านจะตอบเยี่
อาซื่อออกมาช่วยประคองหมอหลวง “ท่านหมอ ข้าจะไปส่งท่านเอง”หมอหลวงถอนหายใจออกมา “แม่นางอาซื่อ ไม่ต้องไปหรอก เจ้ากลับไปดูแลพระชายาเถอะ หากเกิดอะไรขึ้น รบกวนแม่นางอาซื่อรีบมาบอกข้า น่าเสียดาย ฝ่าบาทไม่ให้ข้าอยู่ที่จวนจิ้งโฮ่ว มิฉะนั้น คงคอยเฝ้าดูแลอาการพระชายาได้”พูดจบเขาก็ขึ้นรถม้าเอง และบอกให้อาซื่อกลับไปอาซื่อกลับมาแล้วคุยกับอวี่เหวินห่าวว่า “ท่านอ๋องวางใจเถอะ หมอหลวงเฉาเป็นยอดนักโกหกโดยแท้ เขาโกหกได้แบบไม่กระพริบตาเลย ขู่ซะจนเหล่าทหารองค์รักษ์ตื่นตระหนกไปหมด”หยวนชิงหลิงหัวเราะและกระพริบตาเล็กน้อย มองไปทางอวี่เหวินห่าว “ลูกเล่นแบบนี้มีหรือที่เสด็จพ่อจะดูไม่ออก”“เขาจะดูออกหรือไม่ก็ไม่สำคัญ หลานของเขา เขาไม่กังวล ใครจะกังวลได้อีก? เขากังวลก็ต้องสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?” อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมเพื่อให้สามารถอยู่ที่นี่ได้นานขึ้นทุกวัน เขาเองก็ต้องพยายามเช่นกันอวี่เหวินห่าวกล่าวปลอบโยน "เจ้าอย่าคิดมากไปเลย แค่เลี้ยงลูกในท้องให้สบายใจ อยากกินอะไรกิน ดื่มอะไรดื่ม นอนหลับให้เพียงพอ สำหรับคนในจวน ข้าจะขอให้อาซื่อคอยจับตาดูไว้ ใครก็ตามที่รังแกเจ้าทำให้เจ้าลำบาก
“ท่านโกรธงั้นหรือ?” หยวนชิงหลิงเอ่ยถามอวี่เหวินห่าวส่ายหน้า “ไม่ หากจะแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าเมืองจิ้งโฮ่วเข้ามาช่วย เขาไม่ได้อยากให้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า คุณหนูฮู้คนนั้นเขาไม่ชอบ แต่บางทีเจ้าสี่อาจจะชอบก็ได้ตอนนี้เจ้าสี่เผยไต๋ออกมาแล้ว เกรงว่าก้าวต่อไปคงได้รับการสนับสนุนจากเจ้าเมืองจิ้งเป่ยไม่ได้การ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเขาไม่แต่งกับคุณหนูฮู้ ไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือของเจ้าเมืองจิ้งเป่ย แต่เจ้าเมืองจิ้งเป่ยจะช่วยเจ้าสี่ไม่ได้ และแน่นอนว่าเขาไม่สามารถช่วยเจ้าใหญ่ได้ด้วยอวี่เหวินห่าวที่คิดถึงตรงนี้ก็ลุกขึ้นนั่ง “ข้าต้องไปหาจิ้งเหยียน ไปคุยกับเขาหน่อย พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก เจ้าก็รีบพักผ่อนนะ”หยวนชิงหลิงที่เห็นสีหน้าของเขาที่จู่ ๆ ก็จริงจังขึ้นมา และยังจะไปหาเหลิ่งจิ้งเหยียนอีก ต้องมีเรื่องเร่งด่วนแน่ นางจึงกล่าวว่า “ได้ เดินทางระวังนะ”“รู้แล้ว!” เขาจูบหน้านาง แววตาเขาไม่อยากจะยอมไป “วางใจเถอะ เจ้าจะได้กลับไปเร็ว ๆ นี้”หยวนชิงหลิงขำเบา ๆ “ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก ข้าอยู่ที่นี่ก็สบายดี”“ข้าไม่วางใจ” อวี่เหวิน
สีหน้าของหยวนชิงหลิงดูโศกเศร้าขึ้นมา "ป้าสามตายแล้ว? สวรรค์ช่างกลั่นแกล้งซะจริง แต่ป้าสามเป็นญาติทางฝั่งท่านแม่ เรียกท่านแม่ไปก็ได้มิใช่หรือ?”จิ้งโฮ่วกลืนน้ำลายและพูดด้วยความยากลำบาก "อาสามของเจ้าก็ตายเช่นกัน ดังนั้นพ่อก็จะไปร่วมงานศพด้วย"“คนสองคนตายพร้อมกัน ฮวงจุ้ยตระกูลแย่ยิ่งนัก” นางข้าหลวงสี่ถอนหายใจเบา ๆจิ้งโฮ่วที่ได้ยินก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมดฮวงจุ้ยหลุมศพบรรพชนไม่ดีจริงหรือ? ทำไมเขาถึงโชคร้ายตลอดหลังจากสืบทอดตำแหน่ง?ดูเหมือนว่าคราวนี้กลับไปซ่อมแซมหลุมฝังศพของบรรพชนดู เผื่อว่าจะช่วยชีวิตวงศ์ตระกูลรุ่นถัดไปได้หรือไม่จิ้งโฮ่วเศร้าใจมาก เอาไม้ไพล่หลังเดินจากไป บรรพบุรุษหนอ ทำไมท่านไม่ปล่อยควันสีฟ้าออกมาสักเล็กน้อยให้คนรุ่นถัดไปโชคดี ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นบ้าง?ยืนอยู่ในลานบ้านสักพักไม่รู้จะไปที่ไหนดี เลยคิดว่าจะไปหานางหวง แม้ว่าจะเป็นยัยแก่หน้าเหี่ยวแล้วนั้น แต่นางก็เป็นภรรยาเอก อาจจะโชคดีก็ได้ถ้าอยู่ใกล้นางนางหวงไม่อยู่ ถามคนในห้อง คนในห้องบอกว่านางหวงถูกฮูหยินเฒ่าเรียกตัวไปแล้วท่านแม่? จิ้งโฮ่วคิดถึงฐานะอันสูงส่งของท่านแม่แล้ว และเมื่อครู่มีคนมาบอกเขาว่า ตอนที่ท่านอ
สีหน้าของจักรพรรดิหมิงหยวนผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่มู่หรูกงกงกลับรู้สึกโศกเศร้า "เพียงแต่ได้ยินมาหลายคนบอกว่า หมอรักษารักษาตัวเองไม่ได้..."มู่หรูกงกงลอบชำเลืองมองจักรพรรดิหมิงหยวน จักรพรรดิหมิงหยวนจ้องเขม็งมองมาเขาอย่างดุดันมู่หรูกงกงรีบก้มหัวลงทันที นี่จะโจ่งแจ้งเกินไปหรือไม่?เขาพิจารณาตัวเอง ช่วงนี้เขาจะลำพองตัวเกินไปแล้ว กล้าคาดเดาความคิดในพระทัยฝ่าบาทได้แต่ในเมื่อฝ่าบาททรงมองออก แต่ก็ยังพูดทิ้งท้ายไว้ว่า "ทารกในครรภ์ของพระชายาไม่หายไป แต่ไท่ซ่างหวง และไทเฮาทรงคาดหวังและรอคอยอยู่"จักรพรรดิหมิงหยวนเคาะโต๊ะ "เอาล่ะ หุบปากซะ!""พ่ะย่ะค่ะ บ่าวพูดมากไปแล้ว" มู่หรูกงกงพูดจบแล้วนั้น จึงค่อยขออภัยโทษจากฝ่าบาทจักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกให้ใจอ่อน แต่ก็กังวลเรื่องหลานของตัวเองจึงกลั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “ไปบอกเจ้าห้าไปได้ทุกวันได้นานขึ้นครึ่งชั่วยาม กินข้าวกับนางสามมื้อ จับตาดูให้นางกินข้าวไว้ สั่งให้หมอหลวงเฉาไปอยู่เตรียมพร้อมที่จวนจิ้งโฮ่ว หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นให้รีบมารายงานข้าทันที”มีรอยยิ้มแอบแฝงในแววตามู่หรูกงกง “พ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะรีบไปถ่ายทอดรับสั่งของพระองค์ที่จว
ดูเหมือนว่าจักรพรรดิหมิงหยวนจะรู้สึกสะเทือนพระทัยอยู่บ้าง ผู้หญิงอ่อนแอ แต่เป็นมารดาที่แข็งแกร่งที่หยวนชิงหลิงดื้อรั้นไม่เชื่อฟัง ก็เป็นอีกหนทางในการปกป้องไม่ใช่หรือ?สำหรับนางในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือลูกในท้องของนางเองสำหรับความคิดที่เจ้าห้ามาเสนอ การรับคุณหนูฮู้เป็นลูกสาวบุญธรรมมันก็ได้เหมือนกัน แต่เป็นการดียิ่งกว่าที่จะไม่แต่งกับราชวงศ์การแต่งเข้าราชวงศ์ ชั่วชีวิตนี้เจ้าเมืองจิ้งเป่ยเป็นคนกตัญญูและรักลูกสาวมาก หากให้คุณหนูฮู้แต่งกับเจ้าห้า เขาย่อมต้องไตรตรองก่อนนอกจากนี้เจ้าเมืองจิ้งเป่ยอาจไม่จำเป็นต้องคิดก่อการกบฏ เขาแค่มีความทะเยอทะยาน ถ้าเขาได้เป็นพ่อตาของฮ่องแต่ เขาก็ต้องรู้ว่าลูกสาวของเขาจะกลายเป็นองค์หญิงรัชทายาท และเป็นฮ่องเฮา...เมื่อจักรพรรดิหมิงหยวนคิดเรื่องนี้ เขาก็ผงะไปชั่วครู่หนึ่ง ในแผนของเขา เขาเพิกเฉยต่อคนผู้หนึ่งมาโดยตลอดเวลาอย่างไม่รู้ตัวเลย นั่นก็คือหยวนชิงหลิงเขาตั้งใจผลักดันเจ้าห้า ดังนั้นเขาจึงคิดอย่างมีเหตุผลว่าคุณหนูฮู้จะกลายเป็นองค์หญิงรัชทายาท หรือแม้แต่ฮ่องเฮาในอนาคตแล้วหยวนชิงหลิงเล่า? ถ้าหากนางให้กำเนิดลูกชายได้ สถานะจะสูงส่งล้ำค่าขนาดไ