เบนซ์สปอร์ตสีดำรุ่นล่าสุด ได้เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าคฤหาสถ์ ในช่วงบ่ายนิดๆ เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ บนท้องถนนการจราจร จึงไม่ค่อยติดขัดนัก ระหว่างทางไม่มีแม้แต่การสนทนาใดๆเกิดขึ้น พอรถออกตัวเขาก็ปิดเปลือกตาลงทันที จนกระทั่งถึงบ้านก็ตื่นขึ้นมาเองโดยที่ไม่ต้องให้เธอปลุก ทำให้พลอยนภัสอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าเขาแกล้งทำเป็นหลับเพราะไม่อยากที่จะสนทนากับเธอระหว่างที่อยู่ในรถด้วยกันสองคนสินะ แต่ก็ไม่ได้แปลกใจ กลวัชรไม่ชอบเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถ้าวันไหนเขาคุยด้วยกับเธอต่างหากถึงจะแปลก
พอก้าวลงจากรถได้ กลวัชรก็รีบเดินตรงเข้าไปในบ้านทันที คุณสุนันทาที่กำลังยืนดูสวนกุหลาบที่ปลูกไว้อยู่ด้านหลังของคฤหาสถ์จึงยังไม่ทันได้สังเกตุว่ามีบุคคนอื่นกำลังเดินเข้ามา ก่อนที่แก้มนุ่มๆของหญิงสูงวัยจะถูกจู่โจมหอมเข้าอย่างจัง
"คิดถึงคุณแม่จังเลยครับ" ชายหนุ่มบอกด้วยใบหน้ายิ้มแป้นพร้อมเอามือไปที่โอบรอบเอวของผู้เป็นมารดา
"ตาเก้า มาถึงแล้วเหรอลูก" คุณสุนันทาเมื่อเห็นเข้าว่าเป็นใครก็ดีใจและโผเข้าไปกอดและหอมแก้มลูกชายอีกฟอดใหญ่
"ไปๆ เข้าไปในบ้านกันลูกข้างนอกมันร้อน"คุณสุนันทาพูดขึ้นพร้อมกับดึงมือลูกชายให้เดินตามเข้าบ้านไป
"ตัวโตขึ้นนะเราน่ะ ดูซิเนี่ยกล้ามเป็นมัดๆเชียว แบบนี้สาวๆไม่พากันมากรี๊ดกร๊าดจนหัวบันไดบ้านแม่ไม่แห้งเอาหรอลูก"
"โถคุณแม่ครับ หัวบันไดไม่แห้งเขาเอาไว้ใช้กับบ้านที่มีลูกสาวไม่ใช่หรอครับ"
"ไม่รู้ล่ะ เก้าพึ่งจะกลับมา จะมาให้สาวๆที่ไหนฉกตัวไปจากแม่ตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะแม่ไม่ยอม"
"ฮ่าๆ คุณแม่สบายใจได้ครับ เพราะว่าสาวๆที่คุณแม่ว่าน่ะเก้าเอาทิ้งไว้ที่โน่นหมดเลย ไม่ได้หอบกลับมาแม้แต่คนเดียว"
"จริงๆเลยนะเรา มาๆลูกนั่งลงเดี๋ยวแม่ให้จุ๊บแจงไปเอาน้ำกับมะยงชิดลอยแก้วของโปรดเก้ามาให้" คุณสุนันทาหันไปบอกจุ๊บแจง หลานสาวป้าสายหยุด แม่ครัวคนเก่าแก่ของที่นี่ที่ขอเอาหลานมาอยู่ด้วยเพราะสงสารหลานที่พ่อแม่เลิกกันตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้จุ๊บแจงอายุ 16 แล้ว คุณสุนันทาเองก็เป็นคนส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ทั้งหมด
พลอยนภัสที่กำลังเดินตามเข้ามาในบ้านได้ทันมาเห็นที่เขากำลังหัวเราะกอดอ้อนคุณสุนันทาราวกับเด็กติดแม่ แต่กับเธอกลวัชรกลับทำหน้ายักษ์หน้าบึ้งใส่ทุกทีที่เจอกัน
"อ้าวพลอย มาชิมมะยงชิดลอยแก้วกับพี่เขาก่อนสิลูกมา กลับมาร้อนๆ" คุณสุนันทาเอ่ยชวน
"อ๋อ ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะคุณป้า เดี๋ยวพลอยต้องออกไปข้างนอกต่อน่ะค่ะ ว่าจะขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเลย"
"อย่างงั้นเหรอลูก ได้ๆ แล้วเย็นนี้พลอยจะกลับมาทานข้าวเย็นพร้อมกันหรือเปล่าล่ะ ป้าจะได้รอ"
"ไม่เป็นไรคะ คงจะทานกับเพื่อนๆข้างนอกเลย วันนี้วันเกิดข้าวฟ่างน่ะค่ะ"
"อ่ะๆโอเคไม่เป็นไรลูก ไหนๆพี่เขาก็กลับมาละ ไว้ค่อยทานด้วยกันเมื่อไหร่ก็ได้นะ พลอยรีบไปเถอะ ขอบใจมากนะลูกที่อุตส่าห์เป็นธุระไปรับพี่เขาให้"
"ค่ะคุณป้า งั้นพลอยขอตัวก่อนนะคะ"
พูดจบพลอยนภัสจึงได้โอกาสหันไปมองทางคนตัวโตเพื่อหวังว่าจะมีปฏิกิริยาใดๆจากเขา แต่เขากลับไม่ได้แม้แต่จะหันมามองเธอแต่อย่างใด
FUN CLUB.. 21:00
ที่ที่เหล่านักท่องราตรีกำลังเริ่มทยอยกันออกมาพลอยนภัสในชุดเกาะอกสีดำเข้ารูป เดินเข้าไปยังคลับหรูซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของละแวกนั้นเพื่อที่จะไปงานวันเกิดของเพื่อนสาวคนสนิท หญิงสาวโบกมือส่งสัญญาณไปยังโต๊ะเป้าหมาย ก่อนเดินเข้าไปยังมุมซึ่งเพื่อนๆของเธอรออยู่
"แหมกว่าจะมาได้นะยะ" ข้าวฟ่างในชุดเดรสเกาะอกสีแดงสั้นเกือบเสมอหู เจ้าของวันเกิดทักขึ้น พร้อมเบะปากมองบนเป็นการบอกว่าหมั่นไส้เพื่อน
"รถติดเว่อวังว่ะแก กว่าจะหลุดมาได้" เธอบอกพร้อมกับนั่งแหมะลงไป
"แกนัดทั้งหมดสิบคนไม่ใช่หรอวะ ทำไมมีมาแค่สี่ตัว" พลอยนภัสพูด พร้อมหัวเราะหลุดขำ
"แหมก็นังเอ็มมี่บอกต้องวนไปรับนังกิ๊ปซี่สุดสวยก่อน ท้อปกับเกมส์ก็กำลังตามมา ส่วนฟาน สุดที่รักของแกมาถึงแล้ว บอกไปเข้าห้องน้ำอ่ะ"
"สุดที่รักบ้านแกสิ" พลอยนภัสพูดพร้อมหันไปมองบรรยากาศรอบๆของร้าน ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาในร้านจนเริ่มแออัด เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์และโต๊ะเธออยู่ด้านในที่สุดจนกระทั่งเหล่าสมาชิกนั้นมากันจนครบ
ขณะที่ทุกคนยังคงเม้ามอยท์กันไปเรื่อยเพื่อที่จะรอจนสี่ทุ่มและแล้วไฟในคลับก็ดับลง เสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์รอบนี้ดังขึ้นในเวอร์ชั่นที่ทำให้ทุกคนยังคงดิ้นกันต่อได้กระหึ่มขึ้นมา เเสงไฟสลัวๆสาดส่องวิบวับไปมา และข้างหลังข้าวฟ่างตอนนี้กลับมีชายหนุ่มรูปหล่อผู้หนึ่งเดินถือเค้กก้อนโตมายืนรออยู่
"สุขสันต์วันเกิดค่ะ ยัยตัวดื้อ" ธาวินพูดพร้อมเอามือยีผมข้าวฟ่าง "ว้าวววว พี่วิน!! " ทุกคนต่างฮือฮา แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเค้กก้อนโตหรือเป็นเพราะคนที่ถือเค้กมากันแน่
"ขอบคุณนะคะ!! " ข้าวฟ่างดีใจกระโดดโลดเต้นก่อน จะหันไปจุ๊บแก้มขอบคุณญาติหนุ่มผู้ซึ่งเธอนับถือเป็นเสมือนพี่ชายแท้ๆ
"นี่พี่วิน ลูกพี่ลูกน้องฉันเองแล้วก็ยังเป็นเจ้าของที่นี่ด้วย" ข้าวฟ่างหันไปแนะนำชายหนุ่มกับเพื่อนๆ จากนั้นก็แนะนำเพื่อนๆแบบเรียงตัวให้ญาติหนุ่มของเธอรู้จัก
"สวัสดีครับทุกคน วันนี้วันเกิดข้าวฟ่าง ทุกคนเต็มที่ได้เลยนะครับ ทุกอย่างพี่จัดการเอง" ธาวินเอ่ยบอกเพื่อนๆของญาติสาวคนสนิท แต่สายตาเขากลับจดจ้องไปที่พลอยนภัสไม่วางตา
"น้องพลอยอยากดื่มอะไรคะ เดี๋ยวพี่สั่งให้" ธาวินเอ่ยถาม ขณะที่มีสายตาของสเตฟานเพื่อนสนิทของหญิงสาวก็จ้องมองมาอย่างไม่ลดละ
"แหมมมมพี่วิน เจ้าของวันเกิดอยู่นี่ค่ะ ต้องเทคแคร์น้องสิคะถึงจะถูก ยัยพลอยมันโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ค่ะ" ข้าวฟ่างพูดไปส่ายหัวไป ทั้งขำทั้งหมั่นไส้ญาติหนุ่มที่ดูเหมือนจะอยากดูแลเพื่อนสนิทเธอเป็นพิเศษ
"แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะสำหรับสปอนเซอร์ผู้ใจดี วันนี้สบายใจจัง ตังค์อยู่ครบ อิอิ" พูดไปก็เข้าไปกอดแขนญาติผู้พี่เหมือนเด็กน้อยที่ได้รับของขวัญถูกใจจากผู้ใหญ่ และกลับเป็นกิ๊ปซี่เพื่อนสาวสองของเธอเองที่ดูจะกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษ เพราะนางบอกว่าธาวินนั้น ตรงสเป็คนางมากจนเพื่อนๆในโต๊ะพากันออกอาการหมั่นไส้
ปาร์ตี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งตี2ร้านปิด วันนี้พลอยนภัสดื่มเข้าไปเยอะจนเมา ที่หญิงสาวกล้าเมาได้ ก็เพราะว่าเธอรู้ว่ายังไงข้าวฟ่างก็จะพาเธอไปส่งบ้านด้วยความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน ยัยคนนี้พูดอยู่เสมอว่าจะไม่แตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะหล่อนกลัวว่าจะแก่ก่อนวัยนั่นเอง
"นี่แกเดินดีๆสิยะ เมาขนาดนี้ได้ยังไงยัยบ้า" ข้าวฟ่างบ่นไปพลางบอกให้สเตฟานที่อาสาจะไปส่งหญิงสาวมาช่วยพยุงเธอแทน เพราะเธอแบกเพื่อนไม่ไหวจริงๆ
สเตฟานหนุ่มหล่อนายแบบลูกครึ่งที่ดูก็รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับพลอยนภัส แต่ติดตรงที่หญิงสาวบอกเขาว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เขาจึงทำได้แค่คอยอยู่ใกล้ๆเธอไปแบบนี้ ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ฮอตปรอทแตกมากๆ แต่กลับยังโสดทำตัวเพลบอยด์ลอยไปลอยมา และในตอนนี้ที่เขายังไม่อยากมีใครเป็นตัวเป็นตน ก็เพราะว่าเขายังต้องการรอคอยเธอ ยัยผู้หญิงขี้เมาคนนี้ คนที่ต้องให้เขาหิ้วปีกกลับบ้านหลายต่อหลายที
รถยุโรปราคาแพงค่อยๆจอดอยู่หน้ารั้วบ้านหลังเล็กโดยไม่ต้องเชื่อมกับประตูใหญ่หน้าตึก พลอยนภัสไม่ได้อยู่บนตึกใหญ่ร่วมกับคนอื่นๆ แต่เธอขอย้ายมาอยู่ที่เรือนไม้หลังเล็กสีขาวตรงส่วนปีกซ้ายของบ้านแทน เธอชอบบรรยากาศรอบๆบ้าน ที่มีสวนดอกไม้เล็กๆ มีต้นไม้รายล้อมบ้านอยู่ซึ่งดูสงบร่มรื่น
"พลอย พลอย" สเตฟานพยายามปลุกพลอยนภัสอยู่หลายครั้งแต่เธอก็ยังไม่ตื่น "เมาขนาดนี้ถ้าโดนใครทำอะไรขึ้นมาจะรู้ตัวมั้ยเนี่ย" เขาส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะควานหากุญแจรั้วในกระเป๋าหิ้วของคนตัวเล็กแล้วจึงถือวิสาสะอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน
ภายในบ้านพลอยนภัสมักจะเปิดไฟสลัวๆทิ้งไว้ เขาจัดการอุ้มเธอไปวางไว้ตรงโซฟาเบดในห้องนั่งเล่น จากนั้นจึงหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้หญิงสาวพร้อมทั้งห่มผ้าให้เธอเรีบร้อย ก่อนจะนั่งมองหน้าเธอสักพักแล้วก็อดใจไม่ไหว แอบจุ๊บไปที่หน้าผากหนึ่งที
ห้าหกปีมาแล้วที่เขาตกหลุมรักหญิงสาวตรงหน้า เขาเคยบอกชอบเธอ แต่เธอบอกเขาว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้วและอยากจะรอเขาคนนั้น ตัวเขาเองไม่เคยรู้ว่าผู้ชายที่ได้หัวใจพลอยนภัสไปนั้นคือใคร แค่ทุกวันนี้เขาขอแค่ได้คอยดูแลเธออยู่ใกล้ๆในฐานะเพื่อนสนิทก็ยังดี ตราบใดที่เธอยังไม่ได้มีเจ้าข้าวเจ้าของเป็นตัวเป็นตน
"ฝันดีนะยัยตัวดื้อ" พูดจบแล้วสเตฟานก็เดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของใครบางคนที่ยืนแอบมองอยู่ในห้องหนังสือเล็กๆของบ้านหลังนี้ซึ่งอยู่เยื้องกันกับห้องนั่งเล่น
กลวัชรเข้ามาตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เพราะยังมีอาการมึนๆกับอาการเจ็ตแล็กและยังปรับเวลาไม่ได้ จึงได้เดินเล่นเรื่อยเปื่อยก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงบ้านไม้หลังเล็กสีขาวที่เขาเคยแอบมาหลบตัวอยู่ที่นี่บ่อยๆ ยิ่งพอนึกขึ้นได้ก็เดินเรื่อยมาจนมาหยุดอยู่ที่ห้องหนังสือเล็กๆที่นี่
เขาใช้เวลาไปพอสมควรกับทั้งอัลบั้มรูปเก่าๆสมัยที่ยังเรียนอยู่มัธยม สมุดบันทึก รวมถึงหนังสือที่เคยเก็บเป็นของสะสมในตอนนั้น โดยที่เขาได้ขออนุญาตบิดามารดาว่าจะขอเก็บมันไว้ในห้องนี้ จนเวลาผ่านไปเขาก็ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาอีก และเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าบ้านไม้สีขาวหลังนี้ตอนนี้มันได้มีใครบางคนได้เข้ามาอาศัยจับจอง
กลวัชรเดินออกมาจากห้องหนังสือเล็กๆนั้นหลังจากที่ชายหนุ่มคนนั้นกลับไปแล้ว เขาเดินออกมาหยุดยืนอยู่กลางห้องรับแขก ซึ่งที่ในขณะนี้มีร่างของใครบางคนเมาและนอนหลับอยู่สายตาเขานั้นจับจ้องไปที่ใบหวาน ที่ตอนนี้ยังคงหลับสนิท โดยที่เธอไม่ได้มีความรู้สึกรับรู้เลยว่ากำลังมีคนยืนจ้องมองเธออยู่อย่างเงียบๆ แสงไฟสลัวจากโคมไฟเล็กบนชั้นวางช่วยขับให้ใบหน้าหวานนั้นยิ่งสวยนวลเด่น สเตฟานไม่ได้พาเธอเข้าไปนอนในห้องนอน แต่เลือกที่จะปล่อยให้พลอยนภัสนอนหลับอยู่ที่โซฟาเบดบริเวณห้องนั่งเล่นแทน เพราะมันเคยมีครั้งหนึ่งตอนที่ฉลองเรียนจบใหม่แล้วพลอยนภัสเมา สเตฟานและข้าวฟ่างพาเธอมาส่งที่บ้านและพาเข้าไปนอนในห้องนอน ปรากฏว่าเธออ้วกออกมาจนเลอะที่นอนไปหมด นับแต่นั้นพลอยนภัสจึงขอร้องว่าถ้าวันไหนเธอเมาแล้วมีคนพามาส่งที่บ้าน ก็ให้ทิ้งเธอนอนไว้ที่โซฟาเบดในห้องนั่งเล่นพอกลวัชรเดินออกมาหยุดมองคนตัวเล็กซึ่งยังคงนอนไร้สติอยู่ เขาตัดสินใจนั่งลงไปข้างๆ จ้องมองพินิจพิจารณาใบหน้าแสนหวานนั้นอีกครั้ง เพราะตั้งแต่เมื่อเช้าที่เขาเห็นเธอที่สนามบิน วินาทีแรกเขาเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ยอมรับกับตัวเองว่าพลอยนภัสในวันนี้จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมา
พลอยนภัสตื่นมาด้วยอาการเมาค้าง ร่างกายนั้นก็ยังรู้สึกว่ายังมึนๆ อึนๆ อยู่ ส่วนหัวนั้นก็ยิ่งหนักอึ้งจนต้องสะบัดไปมาอยู่สองสามที ไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนเธอจะเมาได้ขนสดนี้ ในขณะที่กำลังนั่งคิดทบทวนเรื่องเมื่อคืน จู่ๆ ภาพเหตุการณ์บางอย่างที่ได้เกิดขึ้นก็ผุดขึ้นมาในหัว พลอยนภัสกำลังพยายามนึกเรียบเรียงอยู่ว่าภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นคือภาพเหตุการณ์จริงหรือเป็นเพียงแค่ความฝันกันแน่หญิงสาวนึกชั่งใจชั่งน้ำหนักเหตุการณ์อยู่นาน จึงได้ให้คำตอบตัวเองได้ว่ามันต้องเป็นเพียงแค่ความฝันแน่ๆ เพราะคนอย่างกลวัชรคงไม่มีทางมาทำอะไรกับเธอแบบนั้นได้ เขาออกจะเกลียดขี้หน้าเธอเสียด้วยซ้ำ เเละเธอยังจำได้ดี ว่าตั้งแต่ที่เธอสารภาพบอกความในใจกับเขาไป เมื่อ 6 ปีก่อน โอกาสที่เธอจะได้เห็นเขาหรืออยู่ใกล้ๆ เขาก็ไม่มีอีกเลย เมื่อก่อนก็ว่าเขาไม่ค่อยจะชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นนี้ที่เขาทั้งหลบหน้าและไม่ยอมมาเจอะเจอเธออีกจนกระทั่งเขาย้ายไปอยู่อเมริกาจะว่าไปที่เธอฝันแบบนั้นได้ มันคงเป็นเพราะว่าจิตใต้สำนึกของเธอแน่ๆ คงเป็นเพราะว่าเธอดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เธอชอบเขา เเละเธอก็คิดถึงเขา จึงทำให้สมองประมวลผลออกม
เช้าวันจันทร์พลอยนภัสออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพราะต้องมาเตรียมเอกสารการประชุมหลายอย่าง วันนี้หญิงสาวมาถึงออฟฟิศก่อนใครๆ หัวข้อการประชุมในเช้าก็จะเกี่ยวกับการขยายสาขาใหญ่ที่ภูเก็ต ซึ่งมันเป็นการร่วมทุนกันกับบริษัทจากประเทศอังกฤษเธอจึงต้องรีบเตรียมความพร้อมเป็นพิเศษ"น้องพลอยเตรียมเอกสารทุกหัวข้อของการประชุมวันนี้พร้อมแล้วใช่มั้ยคะ" คุณนฤมลเดินมาย้ำเพื่อความแน่ใจ"พร้อมแล้วค่ะพี่มล นี่พลอยตรวจมาสามรอบแล้วนะคะ รับรองว่าไม่มีอะไรผิดพลาดค่ะ" เธอพูดพร้อมส่งเอกสารให้เลขาของชานิดาตรวจดูอีกรอบ"เรียบร้อยจริงๆ ด้วย น้องพลอยนี่ทำงานเรียบร้อยตลอดเลยนะคะ สมแล้วที่คุณกริ้งไว้ใจ" คุณนฤมลเอ่ยชมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม"งั้นเราไปกันเลยนะคะ""ไปค่ะ"9:00 ในห้องประชุมทุกคนมากันพร้อมหน้า โดยชานิดานั่งหัวโต๊ะ พร้อมด้วยชายหนุ่มหน้าใหม่สำหรับห้องประชุมในวันนี้ แต่ไม่ใหม่สำหรับบางคนที่พอจะรู้จักกันอยู่แล้วว่าเขาเป็นใครพลอยนภัสไม่กล้าที่จะจับจ้องไปยังใบหน้าหล่อเหลานั้นตรงๆ เนื่องจากภาพความฝันสุุดวาบหวิวที่อยู่ในหัวนั้นทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอวนใจที่จะจ้องสบตากับเขา พลอยนภัสรู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งกลวัชรจะต้องกลับมาดูแ
พลอยนภัสเดินตามเจ้านายหนุ่มเข้าไปในห้อง โดยที่เธอไม่ได้นึกเอะใจอะไรว่าเหตุใดเธอจึงถูกเรียกตัวเข้าพบต่อหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม กลวัชรเดินนำหน้าไปก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน เขาพิงสะโพกไปกับขอบโต๊ะแล้วยกมือขึ้นมากอดไว้ที่อก"พี่เก้ามีอะไรหรือเปล่าคะ" พลอยนภัสใช้สรรพนามเป็นกันเองเวลาอยู่กันแค่กับเขาหรือเฉพาะคนรู้จัก แต่เวลาที่ต้องเจอคนหมู่มากหรือต้องพบแขกลูกค้าที่ต้องเป็นทางการของบริษัท เธอจะให้เกียรติเขาด้วยการเรียกชื่อเต็ม ซึ่งกับชานิดาพี่สาวของเขาเธอเองก็ปฏิบัติแบบนี้เช่นกัน"คิดว่าแต่งตัวแบบนี้มาทำงาน มันเหมาะสมแล้วหรอ" ชายหนุ่มเปิดประเด็นขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่สายตาดูเข้มขึงขังพร้อมกับจ้องมองไปที่คนตรงหน้าอย่างไม่ลดละ"พลอยขอโทษค่ะ งั้นทีหลังพลอยจะแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้" พลอยนภัสก้มมองลงที่ชุดของตัวเองก็แอบตกใจเล็กน้อย วันนี้เธอใส่เป็นเดรสสีดำเปิดไหล่ข้างหนึ่งขนาดพอดีตัว ที่คอมีปกระบายขลิบขาวตั้งแต่ไหล่ซ้ายยาวลงไปถึงไหล่ขวา ความยาวของชุดอยู่สูงเลยขึ้นมาเหนือเข่าเล็กน้อย ผมสลวยเงางามถูกรวบไปไว้ที่ด้านหลังจนหมดจนเผยให้เห็นถึงลำคอขาวสะอาด อาจจะด้วยเหตุนี้กระมังที่กลวัชรคิดว
กลวัชรและธาวินพากันนั่งมองหน้าสลับกันไปมาไปยังจุดที่หญิงสาวที่ถูกเอ่ยถึงนั่งอยู่ เธออยู่ตรงนั้นสักพักจากนั้นจึงได้ประครองชายหนุ่มที่ดูแสนจะเมามายคนนั้นออกไป"ว้า ไปซะละ ไม่รู้ว่าไปต่อที่ไหนกันต่อ ไหนข้าวฟ่างบอกว่าไม่มีแฟนไง นี่กูต้องอกหักทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มจีบเลยหรอวะเนี่ย"ธาวินทำหน้าเซ็งจัดเต็มที แก้ววิสกี้ที่อยู่ในมือถูกสาดเข้าปากอีกรอบจนหมดเกลี้ยง"ฮึ จะไปไหนกันได้วะผู้หญิงกับผู้ชายสองคน มึงก็รู้ๆอยู่""แต่กูจำได้นะเว้ยว่าผู้ชายที่เมาหัวทิ่มนั่นน่ะเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกันกับน้องพลอยนี่แหละ เห็นข้าวฟ่างน้องกูบอกอยู่ แต่ดูท่าแล้วไอ้เด็กนั่นคงชอบน้องพลอยแน่ๆ เห็นมองแต่ละทีงี้ตาเยิ้มเชียว""เออๆ จะยังไงก็ช่างเหอะวันนี้กูกลับก่อนแล้วกันว่ะ พรุ่งนี้ทำงานเช้า เอาไว้จะแวะมาทักทายใหม่""อ้าวเฮ้ยอะไรของมึงวะไอ้เก้า ละนี่กูจะนั่งต่อกะใคร""มึงก็ไปหาสาวๆเอาสิวะ เยอะแยะข้างล่าง กูไปล่ะ"พูดจบกลวัชรก็รีบเดินจากไปทันทีโดยที่ไม่ฟังเสียงทัดทาน ก่อนจะปล่อยให้ธาวินนั่งบ่นหงุมหงิมตามหลัง"เออละแวะมาหากูอีกละกันมึงน่ะไหนๆก็ย้ายกลับมาอยู่ไทยละ""ตามนั้น"หน้าคอนโดสเตฟาน.."ฟานๆ ถึงแล้วตื่นได้แล้ว
วันนี้กลวัชรตื่นสาย เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง เพราะหลังจากที่เขาผละออกมาจากบ้านของพลอยนภัส เขาก็ต้องไปจัดการตัวเองที่บ้านต่อ เพราะความคั่งค้างที่ยังไม่ได้รับการปลอดปล่อยกลับมาถึงห้อง ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนที่นอน และรีบจัดการกับความทรมานที่กำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่พร้อมกับหลับตานึกถึงใบหน้าสวยหวานที่เป็นต้นเหตุของความทรมานนี้ ซึ่งเขาไม่อยากจะยอมรับเลยว่ามันเกิดมาจากเธอกลวัชรจ้องมองนิ้วที่เขาสอดใส่เข้าไปภายในตัวตนของพลอยนภัสก่อนจะค่อยๆ ยกมันขึ้นมาสูดดม ลิ้นร้อนเละเล็มออกมาเลียลิ้มชิมรสชาติ กลิ่นและรสชาติของเธอยังคงติดอยู่จนเขาสัมผัสได้ถึงความหอมหวานและเร่าร้อน มันคงจะดีถ้าเขาได้ทำอะไรต่อมิอะไรได้มากกว่านี้ชายหนุ่มเริ่มจินตนาการว่าเขาอยากจะดูดดื่ม ลูบไล้ลามเลีย อยากจะทำอะไรๆ อยากสัมผัสเธอให้ได้มากกว่านี้ เพราะดูจากรูปการณ์แล้วก็เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็ไม่ได้ขัดขืน แต่เป็นเขาเองที่ต้องเป็นฝ่ายหักห้ามใจไว้ เพราะถ้าเกิดอะไรเกินเลยไป ย่อมไม่เป็นผลดีต่อตัวเขาอย่างแน่นอนทั้งทางด้านครอบครัว แล้วไหนจะเป็นตัวหญิงสาวที่อยู่ในจินตนาการ เธอคงจะหัวเราะเยาะเขาเป็นแน่ ที่ในที่
"อื้อออ" แม้ว่าพลอยนภัสพยายามขัดขืนแต่ก็ถูกข้อมือใหญ่รวบมือทั้งสองข้างของเธอไปไว้ข้างหลัง ส่วนมืออีกข้างของเขาก็บีบเข้าที่คางมนเพื่อเปิดทางรอรับจุมพิตจากเขาอีก'เอาอีกแล้วเขาจูบเธออีกแล้ว ทำไมกันนะ' พลอยนภัสได้แต่ถามตัวเองลิ้นหนากวาดควานเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ความหอมหวานนี้ยิ่งทำให้เลือดในกายของเขาสูบฉีด กลวัชรดันเธอให้ไปชิดกับขอบโต๊ะจนจุดกึ่งกลางของทั้งสองร่างกายอยู่ในจุดๆ เดียวกัน พอเขายิ่งบดเบียดมันเข้าไปหาพลอยนภัสยิ่งสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดตรงท้องน้อยร่างบางน้อยๆ เริ่มสั่นไหวเมื่อเขารุกหนักขึ้น อาการหูอื้อตามัวปะดังปะเดเข้ามาจนยากที่จะต้านทานได้จนลิ้นเล็กๆ เริ่มดูดดึงตอบกลับเขาไปอย่างลืมตัว นาทีนั้นพลอยนภัสรู้เลยว่าเธอกำลังจะพ่ายแพ้ พ่ายแพ้ต่อเขา ต่อจูบของเขา ก็แน่ล่ะในเมื่อเขาเป็นผู้มีประสบการณ์ผ่านมาอย่างโชกโชน จะไปเทียบอะไรกับเธอผู้ที่ยังไม่เคยแม้แต่จะจูบใคร เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครกันที่จะเป็นผู้ชนะสองมือแกร่งจากที่ล็อคเคยแขนเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง ตอนนี้กลับกำลังล้วงลึกเข้าไปในคอเสื้อที่เปิดกว้างและสะกิดตุ่มไตจนมันพากันตั้งแข็งชูชัน"อื้มม/อ๊ะ.." สองเสียงหลุดออกมาพร้อมกัน กล
18:30"อ้าวเก้า กลับมาแล้วไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะลูก แล้วเดี๋ยวมาทานข้าวเย็นพร้อมกัน คุณพ่อมีเรื่องจะคุยด้วยพอดีเลย""เรื่องอะไรเหรอครับคุณแม่""ก็เรื่องงานวันเกิดคุณพ่อน่ะสิ ไปๆ ลูกไปอาบน้ำอาบท่า คุณพ่อรออยู่สักพักละ"คุณสุนันทาบอกพร้อมกับไล่ลูกชายให้ไปอาบน้ำอาบท่า พลางหันไปสั่งจุ๊บแจงที่เดินออกมาจากครัวพอดี"อ่อละก็จุ๊บแจง เดี๋ยวไปตามคุณพลอยให้มาทานข้าวเย็นด้วยนะ บอกว่าฉันกับคุณลุงมีเรื่องจะคุยด้วย""ค่ะคุณท่าน"พลอยนภัสต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอีกครั้งเมื่อจุ๊บแจงมาตามให้เธอเข้าไปพบคุณโชติและคุณสุนันทา เธอไม่อยากเข้าไปเพราะรู้ดีว่าเข้าไปแล้วจะต้องเจอใคร"เอ่อ..ฉันไม่ไปได้หรือเปล่าอ่ะจุ๊บแจง รู้สึกไม่ค่อยสบายเลย" พลอยนภัสแกล้งปด จริงๆ แล้วเธอไม่ได้เป็นอะไร แต่เพียงแค่ว่าเธอไม่อยากไปเจอใครบางคนเสียมากกว่า"แต่คุณท่านทั้งสองบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับคุณพลอยนะคะ เห็นเรียกหาคุณเก้าด้วยค่ะ"นั่นไงเธอเดาแล้วไม่มีผิด"เรื่องอะไรหรอ จุ๊บแจงพอจะรู้มั้ย""หนูไม่รู้หรอกค่ะ คุณพลอยไปถามคุณท่านเองเถอะ แหะๆ "จุ๊บแจงเองก็ได้แต่เกาหัวหัวเราะออกมา เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าพวกคุณๆ มีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกัน"งั
กลวัชรที่กำลังเหมือนคนขาดสติ นาทีนี้เขาไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น ริมฝีปากแสนหวานนี้กำลังทำให้เขายิ่งมึนเมากับรสจูบแสนเร่าร้อนนี้เข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เขารู้สึกไม่อยากควบคุมตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขาอยากจูบเธอ อยากกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว จนใครหน้าไหนก็ไม่สามารถมาแตะต้องเธอได้อีกที่ผ่านมาเขาพยายามแล้ว พยายามไม่อยู่ใกล้ ทำเป็นไม่มองไม่สนใจ แต่ร่างกายและหัวใจก็ไม่เคยปฏิบัติตาม ทุกครั้งที่เห็นหรือรับรู้ว่ามีพลอยนภัสอยู่ในระยะใกล้ๆ สายตามันก็มักจะคอยสอดส่องมองหาไปจนเจอเธออยู่จนได้บ่อยครั้งที่เขาชอบจินตนาการถึงภาพเธอแล้วช่วยเหลือตัวเอง แต่ความรู้สึกที่ได้มามันก็ไม่เคยเติมเต็ม มันเหมือนกับว่าเราอยากกินสเต๊กเนื้อ แต่กลับได้กินสเต๊กที่ทำมาจากเต้าหู้แทน เหมือนกับความรู้สึกของเขาที่ต่อให้เขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่ข้างในมันก็ยังคงเรียกร้องอยากที่จะได้รับสัมผัสจากตัวเธอจริงๆเขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเขาถูกยึดติดอยู่กับอะไรสักอย่าง ซึ่งเขาก็พยายามปฏิเสธมาตลอดว่าเขาไม่ได้กำลังยึดติดอยู่กับเธอ แต่เวลานี้พลอยนภัสกำลังทำให้เขาปั่นป่วน ใจเขา
พลอยนภัสนึกชั่งใจอยู่สักพัก หลังจากที่ชานิดาโทรมาไหว้วานว่าให้เธอช่วยชงชาร้อนที่เธอมักดื่มอยู่เป็นประจำไปให้กลวัชรที่ห้องที เพราะตอนนี้ชายหนุ่มมีอาการเมาและปวดศีรษะบอกตามตรงใจเธอยังแอบหวั่นๆ จากเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำอยู่ไม่หายที่ถูกเขากอดเอาไว้อยู่ในอ้อมแขนตอนที่เต้นรำด้วยกัน เธอยังนึกกลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งอะไรเธออีก แต่ลึกๆ อีกใจก็แอบเป็นห่วง เพราะช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาเธอก็เห็นว่าเขาดื่มไปมากจริงๆ แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่ในเวลานี้เขาไม่ได้อยู่กับลลิตาหญิงสาวตัดสินใจจัดการหาเสื้อคลุมมาคลุมทับชุดนอนตัวสั้นที่เธอใส่อยู่อีกชั้น เพื่อที่จะได้ปกปิดร่างกายไม่ให้ดูน่าเกลียดเนื่องจากว่ากำลังเตรียมตัวที่จะเข้านอนเเล้ว หากก็แต่ว่าชานิดาก็ได้โทรมาเสียก่อนพลอยนภัสจัดการต้มน้ำร้อนจากกาน้ำร้อนในห้องที่มีให้ประจำอยู่แล้ว จากนั้นจึงชงชาที่เธอพกติดตัวมาและชอบดื่มเวลาปวดหัวหรือนอนไม่หลับใส่ขวดน้ำร้อนแบบพกพาแล้วจึงรีบเดินไปยังห้องพักหลังที่กลวัชรพักอยู่ตามที่ชานิดาบอกซึ่งเธอพึ่งรู้ว่าอยู่ห่างจากห้องพักเธอไปเพียงแค่สามสี่หลังใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึง เธอจึงลองเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง แต่ภายในห้อง
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จึงส่องสว่างพอที่จะสาดส่องลงมายังผืนน้ำและชายหาดสีขาวที่สะท้อนเห็นเงาพระจันทร์อยู่ในทะเล ยิ่งถ้าใครได้มาเดินกับคนรู้ใจ คงจะต้องเป็นค่ำคืนที่โรแมนติกมากก็ว่าได้ พลอยนภัสก้มถอดรองเท้าแล้วเอามาถือไว้ในมือ ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงไปยังขอนไม้ที่นอนเกยอยู่ริมชายหาดไรอันยังคงจ้องมองมายังใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างไม่อาจละสายตาไปได้ จนพลอยนภัสเองก็รู้สึกเขิน"คุณไรอันแอบมองพลอยเหรอคะ" ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออกมา เพราะถูกหญิงสาวจับได้ว่าเขาแอบมองทั้งๆ ที่เขาไม่ได้แอบ แต่กำลังมองเธออยู่แบบเต็มๆ ต่างหาก"ก็คุณพลอยสวย""แหม ชมกันซึ่งหน้าแบบนี้ พลอยก็เขินแย่สิคะ""ผมพูดจริงๆ ครับ แล้วที่ผมบอกว่ามีเรื่องอยากถามคุณพลอย ผมอยากจะถามว่า คุณพลอยมีแฟนหรือยัง ผมชอบคุณ ถ้าเผื่อว่าคุณยังไม่มีใครผมอยากจะขอโอกาสได้ให้เราได้เรียนรู้จักกันมากขึ้น"พลอยนภัสถึงกับอึ้งในคำถามที่ไรอันถามออกมาตรงๆ ไม่คิดว่าเขาจะรุกเร็วขนาดนี้ อย่างว่า ไรอันเติบโตมาในสังคมตะวันตก คนที่นั่นเมื่อมีอะไรก็มักจะพูดกันออกมาตรงๆ ไปเลยเพื่อความกระจ่าง"เอ่อ..พลอยว่ามันเร็วไปนะคะ เราพึ่งจะรู้จักกันเอง อีกอย่างคุณไรอันก็เป็
"เป็นไงคะเก้าลิตาเก่งมั้ย คุณไรอันนี่สุดยอดจริงๆ เลยค่ะ ลิตาต้องขอโทษคุณพลอยด้วยนะคะที่มาฉกคุณไรอันไป" สิ้นเสียงเพลงจบลง ลิตาที่เห็นท่าทีแปลกๆ ของกลวัชรที่มีต่อพลอยนภัส จึงได้รีบเดินแยกออกจากไรอันมาทันที เธอรู้สึกไม่ไว้ใจ สายตาที่กลวัชรมองพลอยนภัสมันแปลกๆ เขาเองยังไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นเลย ดังนั้นเธอจึงต้องกันไว้ก่อนอันที่จริงจะว่าไปแล้วมิสเตอร์ไรอันคนนี้ก็น่าสนใจดี ทั้งความหล่อก็พอๆ กันกับกลวัชร แถมความรวยไม่ต้องพูดถึง เธอก็อยากที่จะทำความรู้จักกับเขาอีกสักหน่อย จะได้เผื่อเอาไว้เป็นตัวเลือกได้หากวันใดต้องพลาดจากกลวัชรอีกแต่ถ้าจะให้เลือกเลยตอนนี้ลลิตาอยากครอบครองกลวัชรมากกว่า เขาดูมีเสน่ห์ดึงดูด ดูเร่าร้อน เธออยากรู้นักว่าเรื่องบนเตียงเขาจะเผ็ดร้อนขนาดไหน เพราะที่ผ่านๆ มาเขาเอาแต่ปฏิเสธเธอมาตลอดทั้งๆ ที่เธอเองก็สวยขนาดนี้"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไรอันไม่ใช่ของพลอยซะหน่อย อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะคุณลิตา""แหมถึงตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่ แต่วันหน้าก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะคะคุณไรอัน" ลลิตาที่หันไปมองสบตากับไรอัน จนชายหนุ่มเองต้องส่งสายตาหวานเยิ้มไปทางพลอยนภัสเพื่อสื่อความหมายให้รู้"ผมก็หวังว่าอย่า
ไรอันภายมือออกมารอรับ พลอยนภัสจึงได้วางมือเล็กลงไปบนฝ่ามือใหญ่ การกระทำทุกอย่างถูกมองไปด้วยสายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะ หากแต่ว่าต่างกันที่ความรู้สึกวินาทีที่พลอยนภัสวางมือเรียวเล็กของเธอลงไป กลวัชรรู้สึกเหมือนว่าตัวเขามันชาๆ แบบบอกไม่ถูก ราวกับว่าใครเอาอะไรมาบีบหัวใจเขาเล่น รู้สึกหูอื้อคล้ายกับว่าความดันกำลังพุ่งขึ้นสูง เขาพยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงไม่ชอบภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ายิ่งตอนที่ไอ้เจ้าฝรั่งนั่นเดินจูงมือพลอยนภัสออกไปยังหน้าฟลอร์ ที่ขณะนี้มีเสียงเปียโนดังคลอขึ้น เขาก็อดที่จะมองตามไปจนสุดตาไม่ได้ ทำได้ก็เพียงกระดกไวน์อีกกว่าครึ่งแก้วที่เหลือหมดรวดเดียว"อะไรกันคะเก้า นี่ไวน์นะคะ ดื่มราวกับว่าน้ำเปล่า"ลลิตาอดแปลกใจในพฤติกรรมของชายหนุ่มไม่ได้"ผมอยากเต้นรำแล้ว เราออกไปเต้นรำกันเถอะลิตา"กลวัชรเอ่ยชวนเมื่อเห็นว่านั่งอยู่ตรงนี้ไปก็ไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น เขาน่าจะต้องทำบางสิ่งบางอย่าง"คุณพลอยจับมือผมไว้นะครับ แล้วก้าวตามผมช้าๆ ไม่ต้องกลัวเหยียบผมหรอกครับ""พลอยจะพยายามเป็นนักเรียนที่ดีนะคะ"แล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะออกมา ซึ่งในสายตาไรอัน พลอยนภัสเป็นผู้หญ
"เอ่อ วรรณก็ไม่รู้ว่าควรถามดีมั้ยนะคะ แต่เพื่อหลานชาย... คือว่าอย่างนี้ค่ะ วรรณอยากจะถามว่าหนูพลอยน่ะมีแฟนหรือยังคะ" กลวัชรที่สายตากำลังจดจ่ออยู่ที่คู่หนุ่มสาวที่กำลังช่วยกันเลือกอาหารอยู่ตรงซุ้มฝั่งตรงข้ามก็ถึงกับชะงักกับประโยคที่ได้ยิน"คุณจารุวรรณถามทำไมหรือคะ""แหมก็คุณพี่สุดูสิคะ ปกติไม่เห็นตาไรอันจะสนใจเข้าหาผู้หญิงคนไหนเลยค่ะ มีแต่โดนเข้าหา แต่นี่พอเห็นหนูพลอยล่ะก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ แถมเมื่อกี้ก็รีบขอให้หนูพลอยเป็นคนเทคแคร์ตัวเองคืนนี้อีก ที่วรรณถามเพราะจะได้บอกตาไรอันถูกน่ะค่ะว่าควรหยุดหรือควรลุยไปเลย เพราะหนูพลอยเองก็น่ารักจริงๆ วรรณชอบ ถ้ายังไม่มีเจ้าของ ก็จะได้จองไปเป็นหลานสะใภ้"และแล้วกลวัชรเองก็ถึงบางอ้อ สรุปว่าผู้ชายตัวสูงรูปร่างดีที่ยืนอยู่ข้างๆ พลอยนภัสนั้นจริงๆ คือตัวแทนบริษัทอังกฤษที่เข้ามาประชุมกับเขาตอนนั้น แถมตอนนี้ยังเป็นหลานชายแท้ๆ ของหุ้นส่วนบริษัทที่เขากำลังจะทำธุรกิจร่วมอีกด้วย"จริงๆ ดิฉันก็ยังไม่เห็นว่าแกจะมีแฟนเลยนะคะคุณจารุวรรณ เห็นมีก็แต่เพื่อนๆ กัน เคยถามเจ้าตัวเองก็บอกว่ายังไม่เจอใครที่ชอบ สงสัยคราวนี้คงจะเจอแล้วล่ะมั้งคะ""นี่จริงเหรอคะเนี่ย โอ้ยดีใจแ
ภายในงาน...หลังจากที่จัดการเหล่าบาร์บีคิวกับจุ๊บแจงเสร็จแล้ว พลอยนภัสจึงได้โอกาสเดินเข้าไปหาคุณโชติ พร้อมของขวัญที่เธอเตรียมไว้ให้ท่าน"สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณลุง""อ้าวพลอย หายไปไหนมาลูก ลุงกับป้าก็มองหาอยู่""นั่นสิ พี่ก็ว่าจะโทรตาม แต่เห็นตาเก้าบอกว่าเราแอบไปนั่งกินบาร์บีคิวกันอยู่สองคนกับจุ๊บแจงทางโน้น น่าตีนักไม่ชวนกันเลย""แหะๆ พอดีพลอยหิวน่ะค่ะพี่กริ้ง เลยชวนจุ๊บแจงไปแอบกินกัน นี่ของขวัญที่พลอยตั้งใจเก็บเงินซื้อให้คุณลุงค่ะ หวังว่าคุณลุงคงจะชอบ ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพวกเราไปนานๆ นะคะ"พูดจบก็เข้าไปกอดประมุขของบ้าน ซึ่งเป็นทั้งผู้มีพระคุณและยังเปรียบเสมือนญาติแท้ๆ อีกคน ที่คอยอุปการะเลี้ยงดูเธออย่างดีมาตลอด"ขอบใจมากๆ นะลูก ทีหลังไม่ต้องลำบากเก็บเงินมาซื้ออะไรให้ลุงหรอก พลอยเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเถอะ""พลอยเต็มใจค่ะ พลอยอยากตอบแทนพระคุณที่คุณลุงกับคุณป้าเมตตาพลอย""ถ้าพลอยอยากตอบแทนลุงกับป้า ก็แค่ตั้งใจทำงาน ช่วยพี่ๆ เขาดูแลกิจการของครอบครัวเราเท่านี้ลุงกับป้าก็พอใจแล้วล่ะลูก" คุณสุนันทากล่าวเสริมท้าย ก่อนจะเข้ามากอดพลอยนภัสด้วยอีกคน"พลอยขอบคุณคุณลุ
คืนวันงานเลี้ยง.."โอ้โห วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่สวยหล่อเหมาะสมกันมากๆ เลยค่ะ" ชานิดาที่พึ่งเดินเข้ามาภายในห้องเอ่ยชม"หมายความว่ายังไงกันลูก นี่สรุปว่าแม่สวยแค่วันนี้วันเดียวเองเท่านั้นเหรอ" คุณสุนันทาแกล้งเหย้าลูก"ใครบอกล่ะคะ คุณแม่ก็สวยทุกวันน่ะแหละค่ะ แต่ว่าวันนี้สวยเป็นพิเศษไง""แก้ตัวเก่งจริงๆ เลยลูกคนนี้""สงสัยจะเหมือนคุณพ่อน่ะค่ะ"อะไรกันเล่ายัยเด็กคนนี้นี่ อย่าโยงเข้ามาหาพ่อสิ พ่อไม่เกี่ยวนะ"สามคนพ่อแม่ลูกต่างพากันหัวเราะเสียงดังที่คุณโชติต้องรีบออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยต้องแก้ตัวอะไรกับคุณสุนันทาเลย เพราะมีแต่พูดบอกความจริงทุกอย่างตั้งแต่รู้จักแต่งงานกันมา มีแต่รักและก็ซื่อสัตย์จึงไม่มีเรื่องที่จะต้อง คอยโกหกปิดบังก๊อกๆ ..."เสร็จกันหรือยังครับ"กลวัชรวันนี้ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม มันทำให้เขายิ่งดูโดดเด่น บวกกับเขารักที่จะดูแลรูปร่างอยู่เสมอ จึงทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ หญิงแท้หญิงเทียมที่ได้เห็นเขาต่างก็ไม่อยากจะละสายตากันเลยทีเดียว แม้ว่าภายนอกอาจจะดูเงียบขรึม แต่เวลาเขายิ้มทีหนึ่งกับทำให้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นราวกับว่าคนละคน อย่างกับสีดำที่เปลี่ยนมาเป็นสีขาว ราวกับซาตานที่เปลี่ยนมาเทพบุ
หลังจากชิ่งหนีออกมาได้พลอยนภัสก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินบ่นออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด ซึ่งเอาจริงๆเธอไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทำไมกลวัชรถึงเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดเหมือนกันกับเธอ"อ้าวมาแล้วเหรอพลอย ลงมาสิ"พลอยนภัสวางชุดคลุมกับผ้าเช็ดตัวไว้ที่เก้าอี้ริมสระ ก่อนจะหย่อนตัวลงไปในสระขนาดใหญ่ที่กั้นด้วยกระจกส่วนวิวด้านหน้าเป็นทะเลสีฟ้าที่มองออกไปได้ไกลสุดสายตา"สดชื่นจังเลยค่ะพี่กริ้ง""ก็นั่นน่ะสิ พี่ถึงตามตาเก้ามาด้วย""อะไรนะคะ นี่พี่กริ้งโทรตามเขามาทำไมล่ะคะ เขาออกจะเกลียดพลอยขนาดนั้น เขาทนเห็นหน้าพลอยไม่ได้หรอกค่ะ""ก็ไม่เห็นจะว่าอะไรนะ พี่ก็บอกตาเก้าอยู่นะว่าพี่อยู่กับพลอย แล้วตาเก้าก็มาเนี่ย"ในขณะที่สองสาวกำลังมโนกันไป อีกฝั่งหนึ่งของสระก็มีสาวสวยคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อกลวัชรออกมาเสียงดังจนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง"เก้าคะ ทางนี้ค่ะ""มาแล้วเหรอครับลิตา"กลวัชรเดินตรงเข้าไปหาเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะจุ๊บแก้มทักทายกันแบบวัฒนธรรมตะวันตก"แหม คุณลุงมาจัดงานวันเกิดที่รีสอร์ทอาโรจน์แท้ๆ เก้ากลับไม่ชวนลิตาสักคำ ปล่อยให้ลิตามารู้จากอาโรจน์เอาเอง น่าน้อยใจนะคะ"ลลิตาพูดพลางทั้งเกาะแขนแถมเอาหน้าเข้าไปซบกับอกเปลือยเปล