“อะไรของพี่ท่าน ข้าไม่เข้าใจ”“ฟังนะ นี่เราอยู่ในอดีตของตัวเอง”ชิงเหม่ยนิ่ง ก่อนจะพูด “ข้าพอจะเข้าใจนะ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมเป็นเช่นนี้”“ก็เพราะคำอธิษฐานไง เจ้าขอให้กลับมาในอดีตใช่ไหม”“ใช่ พี่ท่าน” ชิงเหม่ยกล่าว “แต่เมื่อมาหาท่าน ข้าก็รู้สึกแปลกๆ มันเหมือนเวลาหยุดนิ่ง ท่านกับข้าไม่เปลี่ยนแปลงเลย ทั้งที่เวลาผ่านไปพอสมควร อาหารการกิน ผู้คนอื่นๆ เราก็ไม่เคยพบ”ปึงซิกคิด ก่อนจะกล่าว “วันนั้นข้าจำได้ว่า บอกเจ้าจะไปสวน แล้วข้าก็ถูกงูกัด ก่อนจะหมดลมหายใจ ข้าอธิษฐานว่าอยากพบเจ้าอีกสักครั้ง แล้วข้าก็เห็นตัวเองอยู่ในศาลเจ้า มีเสียงกระซิบว่า ข้าสามารถของได้หนึ่งอย่าง เพื่อให้คำขอเป็นจริง ข้าขอว่าอยากพบเจ้า จากนั้นจู่ๆ ข้าก็ออกจากศาลแล้วมายืนอยู่ในบ้านตัวเองอีกครั้ง”“แล้วทำไมท่านพี่จึง... จึงดูเหมือนชราอีกกว่ายี่สิบปี”“นี่สิ ที่ข้าไม่รู้” ปึงซิกครุ่นคิด “ข้าก็รู้สึกเหมือนจากที่นี่มานานหลายสิบปี แต่ข้าหายไปไหน นี่สิ ที่ข้าไม่รู้ ข้าไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”“ข้าเองกลับดูเยาวว์วัยตลอดมา”“ข้าเห็นเจ้าแล้ว ทำไมข้ามีอารมณ์นัก ข้าอยากร่วมอภิรมย์สมรัก เสพสังวาสกับเจ้านัก ข้าไม่รู้ทำไมตัวเองต้องพ
ที่น่าแปลกอีกประการ กล่าวคือ ทุกครั้งของการตั้งคำถามและสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ชิงเหม่ยกับปึงซิกมีอันต้องเกิดอารมณ์รัก อยากจะทำรัก มอบรักและโรมรันกันเกิดขึ้นทันที ครั้งนี้ก็เช่นกัน นางรู้สึกหน้าท้องร้อนวูบ และต่ำลงไป นางรู้สึกคันในถ้ำอย่างบอกไม่ถูก นางเลิกชายกี่เพ้าขึ้น “ข้ารู้สึกคันข้างในอย่างบอกไม่ถูก ซิกกอช่วยข้าด้วย” ปึงซิกยิ้มแย้ม “ข้าเอง ก็... ก็ รู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่เราพูดกันเรื่องการมาการไปการกลับ เราจะต้องเกิดความรู้สึกพิศวาส อยากร่วมหอลงโรงกันทุกทีไป ไม่ไหวล่ะ ข้าขอล่ะนะ” ปึงซิกจับชิงเหม่ยให้คว่ำหน้าลงกับพื้น แล้วยกสะโพกให้ลอยขึ้นมา นางรู้ดีว่าเขาต้องการให้ทำอะไร จึงถ่างขาออกเล็กน้อย สูดปาก เตรียมรับกับมังกรที่มันกำลังจะเข้ามา “ซิกกอ อย่าช้า ข้าอยากยิ่งนัก” แล้วปึงซิกก็นำมังกรเข้าทางด้านหลัง มันค่อยๆ ชำแรกเข้าไปอย่างชำนิชำนาญ แล้วออกแรงดันเข้าไป เริ่มจากช้าๆ และค่อยๆ แรงขึ้น จนกลายเป็นการกระแทกกระทั้น ชิงเหม่ยต้องก้มหน้าลงแนบกับพื้น รับแรงกระแทก มิฉะนั้นตัวนางจะเอนไปข้างหน้าอยู่ตลอด เรียกว่านางชำนาญมากขึ้นจ
ที่โรงเตี๊ยมนอกเมืองหวงโจว ในยามดึกเงียบสงัด พลันปรากฏเงาร่างสีดำ กำลังพุ่งตรงมายังโรงเตี๊ยมแห่งนี้ บนหลังคาเห็นร่างนั้นค่อยๆ งัดกระเบื้องหลังคาออกมาหนึ่งแผ่น ก่อนที่จะจุดไฟใส่กระบอกไม้ พอเริ่มมีควันมันก็ก้มลงเป่าลงไปในห้องใต้หลังคามันนั่งนิ่งรอชั่วอึดใจ ก็ก้มลงมองดู ก่อนที่จะลงมืองัดหลังคาออก พอที่ตัวมันลอดลงไปได้ ในห้องนั้นเห็นเงาร่างชุดดำสะท้อนแสงจันทร์เพ็ญ ที่ส่องผ่านลูกกรงหน้าต่าง มันตรงไปยังเตียงนอนที่มีสตรีนางหนึ่งนอนหลับอยู่ มันเอื้อมมือเขย่าร่างสตรีนางนั้น แต่นางก็ไม่ตกใจตื่น เห็นมันยิ้มอย่างพออกพอใจจากนั้นมันก็เริ่มปลดสายรัดเสื้อของสตรีนางนั้นออก ค่อยๆบรรจงแหวกแยกออกจากกันช้าๆ ก่อนที่จะรูดกางเกงตามออกมาติดๆ บัดนี้ร่างของสตรีนางนั้นเหลือแต่เอี๊ยมสีแดงปักลูกไม้ตัวน้อยที่ไม่สามารถปกปิดความอวบใหญ่ของเนินอก ที่ล้นทะลักออกมา มันถูมือตัวเองไปมา พึมพำเบาๆ“แม่นางคนนี้ ช่างอวบใหญ่จริงๆ คืนนี้สวรรค์เป็นของข้าแล้ว ฮา..ฮา..”มันค่อยๆบรรจงปลดเอี๊ยมตัวน้อยออก ภาพที่ปรากฏตรงหน้า พลันคือร่างที่ขาวโพลนสะท้อนแสงจันทร์ เห็นมันตาถลนแทบหลุดออกมาจากเบ้า เรือนร่างที่แสนโสภา เนินอกที่ขา
ครู่ใหญ่นางก็เงยหน้าขึ้นมา “ถ้าท่านไม่รังเกียจ ข้าขอพลีร่างให้ท่าน เพื่อตอบแทนบุญคุณ”“แม่นาง...เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ข้าว่าท่านปรึกษาคนที่บ้านก่อนดีกว่า”“ข้าตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ข้าเป็นนักล่าเงินรางวัลเร่ร่อนไปทั่วยุทธจักร แล้ว...แล้ว...ข้าก็ยัง...ยัง...บริสุทธิ์อยู่..” นางพูดก้มหน้า อึกๆอักๆ อย่างเอียงอายเนื่องจากความคิดพลุกพล่าน จึงทำให้พิษในร่างกายกำเริบขึ้นมาอีก จนทำให้นางควบคุมสติไม่อยู่ จึงโผร่างเข้าโอบกอดบุรุษหนุ่มผู้นั้น มือของนางบังเอิญมาโดนกลางเป้ากางเกงของบุรุษหนุ่มพอดี นางรีบกุมทันที เจ้าท่อนเนื้อของบุรุษหนุ่มตื่นขึ้นมาทันทีทันใด“ท่าน...ท่าน...ช่วยข้าด้วย...ข้าต้องการ...ข้า...” นางร้องครวญคราง มือก็ขยำคลึงเคล้น จนบุรุษทนไม่ไหว“ถ้าเช่นนั้น ข้าต้องขอโทษแม่นางด้วยที่ล่วงเกิน...”กล่าวจบก็จี้จุดสลบของนาง ช้อนร่างนางอุ้มขึ้น พุ่งร่างกลับเข้าสู่ตัวเมืองอีกครั้ง ที่โรงเตี๊ยมนอกเมือง มันเคาะประตูเรียกอยู่พักใหญ่ เถ้าแก่เจ้าของก็เดินงัวเงียมาเปิดประตู“เถ้าแก่...น้องสาวข้าไม่สบายมาก ข้าขอเปิดห้องส่วนตัวที่เงียบๆให้นางพักผ่อนหน่อย”“รีบเข้ามา..ข้างนอกอากาศหนาวเ
“ฮุ้น...ฮุ้นกอ...เร็ว...เร็วอีก...แรงๆ...แรงๆเลย..ข้า...โอยยยย...ยย....”น่ำเจ็งทั้งเสียวทั้งเจ็บระคนกัน นางรู้สึกเหมือนกับว่าร่างของนางแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นางร้องครางออกมาพร้อมๆกับแอ่นสะโพกขึ้นรับสุดตัว นางกระตุกร่างเฮือกใหญ่ก่อนที่จะนอนลงกับพื้นเตียง เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองดังระคนทั่วห้อง“ข้า...ข้าไม่เคยรู้สึกอะไรเช่นนี้มาก่อนในชีวิตเลย ฮุ้นกอ...”เล็กเซี่ยวฮุ้นยิ้มรับ“เจ็งม่วย...เจ้าก็ทำให้ข้ามีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน”“จริง...จริงหรือฮุ้นกอ...ท่านหลอกให้ข้าดีใจหรือเปล่า..ท่านผ่านมามาก อีกทั้งแต่ละคนก็..ก็..ใหญ่กว่าข้าทั้งนั้น” พูดจบก็ซุกหน้ากับอกเล็กเซี่ยวฮุ้นอย่างเอียงอายเล็กเซี่ยวฮุ้นส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ“เจ้าไม่รู้หรอกว่า ของของเจ้านั้น ทำให้ข้ากระสันอย่างสุดแสน” พูดเสร็จก็กระแทกมังกรร้ายที่ยังคาถ้ำอยู่ อีกซ้ำยังแข็งร่างอยู่คงเดิม น่ำเจ็งสะดุ้งร่างสูดปากร้อง“อุ๊ย...ซี๊ดด...บ้าจริงๆฮุ้นกอ...แกล้งข้า...”น่ำเจ็งสูดปากร้องอีกเมื่อเล็กเซี่ยวฮุ้นกระแทกมังกรเข้าถ้ำของนาง น่ำเจ็งใช้มือ ทุบอกเล็กเซี่ยวฮุ้นอย่างแรง นางเริ่มมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเนื่องจากพิษแรงสลายไ
เล็กเซี่ยวฮุ้นจับขานางให้ถ่างออก เงยหน้าขึ้นมา“เจ็งม่วย...ข้าจะสอนให้เจ้ารับรู้ถึงความเสียวซ่านอย่างไม่เคยมีมาก่อน”กล่าวจบก็ก้มลงไปอีกครา ใช้ลิ้นโลมเลียปากคูหาสวาท ที่มีไรขนอ่อนไรขนบางตา น้ำในถ้ำสวาทเริ่มหลั่งรินออกมาตามความกำหนัด เล็กเซี่ยวฮุ้นทั้งดูดทั้งเลีย ยิ่งดูดเท่าไร น้ำเมือกใสกลับยิ่งทะลักออกมามากขึ้นอีก น่ำเจ็งเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกนางทนไม่ไหวต้องเกร็งร่างลุกขึ้นนั่ง ใช้สองมือประคองศีรษะของเล็กเซี่ยวฮุ้น ให้ฝังแน่นเข้าไปอีก “ฮุ้นกอ...พอ...พอเถอะ...ข้าจะถึงอยู่แล้ว...ข้า...”เล็กเซี่ยวฮุ้นรู้ว่าน่ำเจ็ง ใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง จึงถอนร่างออก “อูวว...ฮุ้นกอ...ทำไมท่านทำอย่างนี้...ข้า..อยาก...ข้า...”น่ำเจ็งพูดเชิงต่อว่า ที่ทำให้อารมณ์นางหยุดชะงักไม่ถึงจุดสุดยอด เล็กเซี่ยวฮุ้นไม่พูดพล่ามทำเพลงลุกขึ้นยืนจับเจ้ามังกรร้าย ที่อยากจะพ่นพิษใจจะขาด จ่อที่ปากถ้ำของนาง ดันพรวดเดียวสุดตัว น่ำเจ็งถึงกับอ้าปากค้างตาเหลือก สองมือผลักดันอกเล็กเซี่ยวฮุ้นออก“ฮุ้นกอ...โอยยย....ซี๊ดดดดดด....”ทั้งสองโรมรันพันตูกันอย่างดุเดือด ฝ่ายหนึ่งนั่งอ้าขาบนขอบเตียงอีกฝ่ายก็ยืนข้างเตียง กระแทกร่างเข้า
เล็กเซี่ยวฮุ้นขบคิดอยู่ พลันเอ่ยว่า “เจ็งม่วย...มีวิธีสุดท้ายที่ข้าจะช่วยท่านได้ เจ้าจะยินยอมหรือไม่?”“ทำอย่างไรฮุ้นกอ...”“ข้าจะเอาเข้าทางนี้แทน เพื่อให้เจ้าถึงเป็นครั้งที่ห้า ก่อนที่จะครบกำหนดเวลาพิษกำเริบ” เล็กเซี่ยวฮุ้นกล่าวพร้อมกับแหวกแก้มก้นทั้งสองของนางอ้าออกโดยมังกรร้ายยังคารูสวาทอยู่ พร้อมกับใช้นิ้วชี้จิ้มสัมผัสถูไถไปที่ ปากถ้ำน้อยๆ อีกถ้ำหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน น่ำเจ็งสะดุ้งหดร่างหนี“อุ๊ย...ฮุ้นกอ...นี่..นี่มัน...เออ...เออ..จะเข้าไปได้อย่างไรกัน..ข้า...”“ข้าก็ไม่เคยเหมือนกัน เคยอ่านแต่ในตำรา เราต้องลองดูไม่มีเวลาอีกแล้ว เจ็งม่วย หรือว่าเจ้าจะให้ข้าเอาเข้าที่เดิมอีกครั้ง”“ไม่...ไม่นะฮุ้นกอ...ที่เดิมของข้ามันไม่ไหวอีกแล้ว...เอาเถอะ...เอาก็เอา...” กล่าวจบนางก็ก้มหน้าไปกับพื้น อย่างเอียงอายด้วยความไม่เคยระคนความแปลกใหม่ที่จะได้ลิ้มรสสวาทจากถ้ำแห่งใหม่นี้เล็กเซี่ยวฮุ้นค่อยๆ ถอนมังกรที่เปียกแฉะออกมาช้าๆ มือหนึ่งแหวกแก้มก้นน่ำเจ็งอ้าออก อีกมือหนึ่งป้ายเอาน้ำเมือกจากถ้ำแรก มาป้ายที่ถ้ำด้านหลัง แล้วจับหัวมังกรร้ายจ่อปากถ้ำหลัง ดันเข้าไปทันที“อูววว...ซี๊ดดด...จะ...เจ็บ...เจ็บ...เอ
ชั่วลัดนิ้วมือเดียวกระบี่ของชายชุดแพรแทงใส่หน้าอกชายเสื้อดำ พลันหนังสือเล่มหนึ่งหลุดจากอก ชายชุดแพรควงกระบี่เป็นวง ชายเสื้อดำตื่นตระหนก ด้วยสภาวะอันเร่าร้อนรุนแรงเช่นนี้ มือกระบี่ชุดแพรซัดกระบี่ใส่ข้อมือชายเสื้อดำ พลันที่กระบี่หลุดจากมือชายเสื้อดำเตรียมล่าถอย แต่ไม่ทันที่บุรุษชุดแพรรุกไล่ใส่จุดหัวใจ บุรุษชุดดำทั้งแตกตื่นลนลาน ทั้งเคลือบแคลงสงสัย ครุ่นคิดขึ้น “ไฉนเลยมันไวปานนี้” เมื่อมันรู้สึกตัว พลันเห็นเพียงจุดเลือดปรากฏรอยวงบนหน้าอก ชายเสื้อดำก้มมองดูตัวเอง พลันทรุดลงกับพื้น “มันต้องเป็นของข้า” เขากล่าววาจาสุดท้ายพลันขาดใจพร้อมลมหายใจห้วงสุดท้าย รวดเร็วปานสายฟ้า บุรุษชุดแพรตวัดกระบี่ลงฝัก แล้วก้มลงเก็บหนังสือเล่มนั้น โดยไม่ใส่ใจชายเสื้อดำที่กรุดกองอยู่กับพื้น เสี้ยวอึดใจนั้นสตรีนางหนึ่งออกจากที่ซ่อน พลางกล่าวเสียงดัง “ฮุ้นกอ ข้ากลัวยิ่ง” นางกล่าวเสียงอ่อนหวาน ส่งสายตาหยดย้อย “นี่หนังสือใดหรือ” “หนังสือที่สตรีไม่ควรเห็น มันอันตรายยิ่งนัก หากตกไปในมือสตรี โดยเฉพาะสตรีอ่อนหวานอย่างเจ้า” “ขอข
ที่น่าแปลกอีกประการ กล่าวคือ ทุกครั้งของการตั้งคำถามและสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ชิงเหม่ยกับปึงซิกมีอันต้องเกิดอารมณ์รัก อยากจะทำรัก มอบรักและโรมรันกันเกิดขึ้นทันที ครั้งนี้ก็เช่นกัน นางรู้สึกหน้าท้องร้อนวูบ และต่ำลงไป นางรู้สึกคันในถ้ำอย่างบอกไม่ถูก นางเลิกชายกี่เพ้าขึ้น “ข้ารู้สึกคันข้างในอย่างบอกไม่ถูก ซิกกอช่วยข้าด้วย” ปึงซิกยิ้มแย้ม “ข้าเอง ก็... ก็ รู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่เราพูดกันเรื่องการมาการไปการกลับ เราจะต้องเกิดความรู้สึกพิศวาส อยากร่วมหอลงโรงกันทุกทีไป ไม่ไหวล่ะ ข้าขอล่ะนะ” ปึงซิกจับชิงเหม่ยให้คว่ำหน้าลงกับพื้น แล้วยกสะโพกให้ลอยขึ้นมา นางรู้ดีว่าเขาต้องการให้ทำอะไร จึงถ่างขาออกเล็กน้อย สูดปาก เตรียมรับกับมังกรที่มันกำลังจะเข้ามา “ซิกกอ อย่าช้า ข้าอยากยิ่งนัก” แล้วปึงซิกก็นำมังกรเข้าทางด้านหลัง มันค่อยๆ ชำแรกเข้าไปอย่างชำนิชำนาญ แล้วออกแรงดันเข้าไป เริ่มจากช้าๆ และค่อยๆ แรงขึ้น จนกลายเป็นการกระแทกกระทั้น ชิงเหม่ยต้องก้มหน้าลงแนบกับพื้น รับแรงกระแทก มิฉะนั้นตัวนางจะเอนไปข้างหน้าอยู่ตลอด เรียกว่านางชำนาญมากขึ้นจ
“อะไรของพี่ท่าน ข้าไม่เข้าใจ”“ฟังนะ นี่เราอยู่ในอดีตของตัวเอง”ชิงเหม่ยนิ่ง ก่อนจะพูด “ข้าพอจะเข้าใจนะ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมเป็นเช่นนี้”“ก็เพราะคำอธิษฐานไง เจ้าขอให้กลับมาในอดีตใช่ไหม”“ใช่ พี่ท่าน” ชิงเหม่ยกล่าว “แต่เมื่อมาหาท่าน ข้าก็รู้สึกแปลกๆ มันเหมือนเวลาหยุดนิ่ง ท่านกับข้าไม่เปลี่ยนแปลงเลย ทั้งที่เวลาผ่านไปพอสมควร อาหารการกิน ผู้คนอื่นๆ เราก็ไม่เคยพบ”ปึงซิกคิด ก่อนจะกล่าว “วันนั้นข้าจำได้ว่า บอกเจ้าจะไปสวน แล้วข้าก็ถูกงูกัด ก่อนจะหมดลมหายใจ ข้าอธิษฐานว่าอยากพบเจ้าอีกสักครั้ง แล้วข้าก็เห็นตัวเองอยู่ในศาลเจ้า มีเสียงกระซิบว่า ข้าสามารถของได้หนึ่งอย่าง เพื่อให้คำขอเป็นจริง ข้าขอว่าอยากพบเจ้า จากนั้นจู่ๆ ข้าก็ออกจากศาลแล้วมายืนอยู่ในบ้านตัวเองอีกครั้ง”“แล้วทำไมท่านพี่จึง... จึงดูเหมือนชราอีกกว่ายี่สิบปี”“นี่สิ ที่ข้าไม่รู้” ปึงซิกครุ่นคิด “ข้าก็รู้สึกเหมือนจากที่นี่มานานหลายสิบปี แต่ข้าหายไปไหน นี่สิ ที่ข้าไม่รู้ ข้าไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”“ข้าเองกลับดูเยาวว์วัยตลอดมา”“ข้าเห็นเจ้าแล้ว ทำไมข้ามีอารมณ์นัก ข้าอยากร่วมอภิรมย์สมรัก เสพสังวาสกับเจ้านัก ข้าไม่รู้ทำไมตัวเองต้องพ
เมื่อตื่นมา ภาพที่เห็นคือ!!!ปึงซิกกับโกวเนี้ยน้อยนั่น สลับหัว สลับเท้ากัน โดยโกวเนี้ยจับมังกรเขารูดขึ้นรูดลง หน้าตัวเองก็เชิดขึ้น แอ่นก้นโด่ง ร้องครวญครางอย่างเสียวซ่านปึงซิกกำลังสอดใส่สอดวัตถุคล้ายกับงู มันยาวๆ ปลายทั้งสองข้างมีหัวคล้ายเห็ด มันโค้งงอได้ด้วย เอาปลายด้านหนึ่งทิ่มเข้าที่รูสะโพก อีกปลายอีกอยู่ที่ปากถ้ำของนาง เมื่อชักเข้าชักออก จึงเหมือนกำลังสอดใส่ทั้งสองทวารนั้นพร้อมกันนี่เอง นางจึงร้องอย่างเสียวซ่านโอยยยย ท่านพี่… ข้าจะออกแล้วววว……โอยยยย…….โกวเนี้ยกระตุก แล้วก็ฟุบลงหมดแรง……ตลอดเวลา ชิงเหม่ยคลึงถันตัวเอง พร้อมใช้นิ้วถูไถไปมาที่เม็ดกระสันพอเกิดอารมณ์มากจนระงับไม่อยู่ ก็เลยยัดนิ้วลงไปจนสุด นางกระตุกน้ำเสียวออกมาท่วมนิ้วแล้ว…….น้ำเยิ้มๆ… อย่างนั้นเหมือนมันล่อให้ปึงซิกเข้ามาเขาก้มลง จัดนางถ่างขาแล้วเลียย จนนางร้องโอ้ยยยย..เขาส่งนิ้วของตัวเองเข้าไปในถ้ำ ชักเข้าออก ควาน เป็นวงสว่านชิงเหม่ยเสียวเพลินอยู่อย่างนั้นมารู้สึกตัวก็สะดุ้งโหยง เมื่อเขาจัดการมุดมังกรเข้าไปในถ้ำมันร้อนฉ่า เต็มหน้าขา แล้วเขาก็ค่อย ๆ ดันเข้า มันคับแน่นมากโอย ซิกกอ เบา อูยยยยย… ซิกกอ อูยยยย…ซิ
ปึงซิกตบอีกสองทีติดกัน แล้วก็บีบก้นของโกวเนี้ย ไม่ปีบเปล่า ปากก็พร่ำพูดว่า สะโพกนางน่านัก น่านัก...แล้วปึกซิกก็ควักมังกรของเขาออกยื่น ที่บัดนี้ชิงเหม่ยมีเวลาคิดคำนวณ มันน่าจะมีขนาดราว 6 นิ้วครึ่งได้ เขานำออกมาให้โกวเนี้ยดูดชิม วนไปมา โกวเนี้ยดูดรอบหัวมังกรที่บานเบอะราวกับเห็ดชิงเหม่ยเห็นแล้วนางก็วูบวาบขึ้นมาอีกแล้วปึงซิกก็ดึงตัวโกวเนี้ยให้ลุกนั่ง เขาสวมกอดนางจากด้านหลัง เอามือจับถันพลางบี้ยอดถัน โกวเนี้ยครางออกมา ขณะที่ชิงเหม่ยกลับเสียวราวกับปึงซิกบี้ถันตนเองเขายกสะโพกตัวเอง แล้วจับมังกรถูไถไปตามแผ่นหลังของโกวเนี้ย ก่อนจะถูไปตามลำคอ ซอกหูชิงหม่ยรู้สึกถึงความร้อนของมังกรนั้นกับผิวหน้าตนเองเมื่อเขาจับหน้าโกวเนี้ยให้หันมาอมมังกรของเขา นางแทบจะเห็นว่าตนเองกำลังอมดูดมังกรของเขาแทบจะทันทีนางรู้สึกถึงความร้อนผ่าวของมังกรได้ นางหลับตามือเริ่มเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ จับเข้าตรงโหนกถ้ำของตนเอง แล้วเอานิ้วกลางบดทาบกับร่องหน้าปากถ้ำ ซึ่งตอนนี้มันเปียกโชกแล้วชิงเหม่ยเสียวจนต้องบดถ้ำสวาทของนางกับนิ้วตัวเองอย่างแรง ซักครู่รู้สึกราวว่าแท่งมังกรของเขาล้วงสวนเข้ามาตรงขานาง ถูกตรงง่ามก้นกึกๆ…จนคิดว
“ดูซิ เรือนร่างเจ้าเด็กชัดๆ อย่างมากก็เพียงสิบสามสิบสี่” ชิงเหม่ยก้มดูเรือนร่างตัวเอง แล้วพลันพบตนเองเป็นโกวเนี้ยน้อยเมื่อก่อนจากมาไคเฟิงจริงๆ ด้วย นางออกจากอ้อมกอดเขาทันที “แต่ข้าไม่เด็กแล้วนะ แม้ข้าจะเพียงสิบสามสิบสี่” “ข้าเชื่อ” ปึงซิกตอบ ด้วยสายตานั้นเขาแทบจะมองทะลุเข้าไปในอาภรณ์ของนาง และส่งความหมายบอกเป็นนัย ทว่าเขากลับกล่าวเป็นอย่างอื่นเสีย “อย่ากล่าววาจาอื่นต่อไปเลย นี่น้ำชา จิบเสีย แก้หนาว” ปึงซึกเลื่อนถาดน้ำชาที่มีป้านน้ำชาและจอกชาวางอยู่มาให้ตรงหน้า ฝนตกอย่างต่อเนื่องจนเวลาผ่านไปหลายชั่วยามก็ยังคงไม่หยุดตก ภูมิอากาศเมืองลั่วหยางมิเคยเป็นเช่นนี้เลย ด้วยเหตุใดกัน ฝนจึงตกมิหยุดหย่อน “เจ้าพักที่เรือนข้าก็ได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ ข้าจะให้คนรับใช้มาปรนนิบัติเจ้า พรุ่งนี้ข้าจะให้คนแจ้งแก่บิดาเจ้าว่ามิได้ไปเที่ยวเถลไถลที่ไหน เพียงไปดูบัวในบึงแล้วฝนตกหนัก จึงมาพักยังเรือนของมิตรสหาย” “ท่านสอนให้ข้าโกหกบิดา” “ดีกว่าให้บอกว่าเจ้าอยู่ในเรือนบุรุษ มิดีหรือ” ชิงเหม่ยเอียงอาย!!... คืนนั้น นอนพักในห้องรับรอง หลังนางแกล้ง
สักพักเขาเบี่ยงตัวออก เผยให้เห็นแผงอกแน่น กล้ามเนื้อตามตัวที่เต็มไปด้วยลูกคลื่นและความแข็งแรง หน้าท้องเขาเป็นกล้ามเนื้อหกรูป มังกรเขาเล่าก็ใหญ่โต ขนาดมือท่อนแขนโกวเนี้ย ยามนี้มันเต็มไปด้วยมัดเชือกหนาที่เลื้อยรัดรอบ ศีรษะมังกรเล่า ก็เบ่งบานราวหัวเห็ดแดงคล้ำที่เติบโตเต็มที่ มันขยับหงึกหงึก บ่งบอกความแข็งแรง ย้ำอีกเพื่อบอกให้นายมันกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งปึงซิกจับมันค่อยๆ มุดแทรกผ่านร่องก้นของนวลนางและค่อยๆ หายเข้าไปภายในถ้ำเขาขยับอย่างช้าๆ เป็นจังหวะจะโคน อย่างช้าๆ อย่างช้าๆ เสียงสูดปากของคนทั้งสองแทรกกลางความเงียบของยามบ่ายและลมโชยเบาทันใดนั้นเอง! มีเสียงตะโกนเรียกแทรกซิกน้อยของแม่ อยู่ไหน พ่อเจ้ามีธุระให้กระทำซิกน้อย รีบมาบัดเดี๋ยวนี้นั่นเอง สวรรค์พังหลายลง ปึงซิกรีบหยุดชิงเหม่ยจำใจต้องรีบลอบออกจากเรือนชายชู้!!!นางเฝ้าคิดถึงฉากกิจกรรมนี้ทุกคืน เฝ้าคิดว่าโกวเนี้ยน้อยนั่นคือตัวเองหวังว่า สักวันหนึ่ง มันจะเป็น... มันจะเป็นแล้วทุกอย่างก็ไม่มีโอกาสเกิดขึ้น บิดาพานางย้ายถิ่นฐานเสียก่อน... กาลเวลาล่วงเลยมาถึงสิบปี ตลอดเวลาที่บิดาคร่ำเคร่งกับการทำมาหากินเลี้ยงดูนาง ธิดาน้อ
อี้อึ้งรีบกลับเรือนของตนแล้วเฝ้าโคจรพลังให้ถูกทาง นางต้องโคจรพลังหยางก่อนเที่ยงคืน จากนั้นสองชั่วยามผ่านไปนางต้องโคจรพลังหยินจากขวาวนกลับซ้าย ผ่านไปอีกสองชั่วยาม นางต้องโคจรพลังหยินกลับจากซ้ายมาขวา ก่อนย่ำรุ่งจึงค่อยกลับมาโคจรพลังหยางวนไปทั่วร่างกาย นางทำตาม จนกระทั่งเวลาผ่านไป ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ นางผ่อนลมหายใจห้วงหนึ่งแล้วกักเก็บพลังไว้ ก่อนจะทดสอบลอบพุ่งขึ้นหลังคา ปรากฎว่าทุกอย่างล้วนแล้วแต่ง่ายดายมาก นางสามารถพุ่งทะยานไปที่ใดก็ง่าย เพียงลัดนิ้วเดียว นางกลับมาที่เรือน เข้าห้องเล็กเซี่ยวฮุ้น แล้วปลุกเขาให้ตื่น “ฮุ้นกอ ข้าจะมารักษาท่าน” ฮุ้นกอของนางค่อยๆ ลุกอย่างงัวเงีย นางจับเขาให้นั่งขัดสมาธิ แล้วนางก็ทาบฝ่ามือเข้าด้านหลังเขา นางค่อยๆ ถ่ายทอดพลังโคจรจากขวามาซ้าย จากซ้ายมาขวา แล้ววนเวียนไปทั่วร่างเขา เล็กเซี่ยวฮุ้นรู้สึกเลือดลมสูบฉีดไปทั่วทั้งร่าง พลันแขนขามีกำลังขึ้นมาอย่างประหลาด “โอ้ว มังกรของข้าผงาดได้แล้ว” เขาถึงกับต้องตะโกนอย่างดีใจ อี้อึ้งค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ แล้วนางก็ก้ม
“ข้าก็ชอบ ชอบมาก ถ้าไม่เคยพบนางใดน่าเลียเช่นเจ้ามาก่อน” กล่าวจบบุรุษต่างชาติลุกขึ้น แล้วอุ้มนางลอยขึ้น ก่อนที่จะจ่อปากถ้ำของนางเข้ากับมังกรสีชมพู แล้วใช้มือซ้ายของตนจับมังกรจ่อ แล้วดันเอวให้มังกรเข้าไปอย่างช้าๆทั้งหมดนี้กระทำในน้ำอี้อึ้งมิเคยมาก่อน นางตื่นเต้นยิ่งนัก“โอ้ว” “ดีใช่ไหม” นางมิกล่าวตอบ แต่ยกเอวของตนแล้วกระแทกลง แรงกระเพื่อมส่งต่อผิวน้ำให้โยกไหว นากอคอเขาแล้วโยกตัวเองขึ้นลง เขาจับเอวนาง ประคองไว้ นางก็โยกขึ้นใส่กระหน่ำอย่างสุดเสียวซ่าน เขาพานางไปทีโขดหินริมลำธารจับตัวนางพาดกับโขดหิน ก่อนจะดันมังกรเข้าไป“อ้า บนบก ได้อีกอารมณ์” นางบอก“ของเจ้าบนไหนๆ ก็เสียวคับแน่นสุด” ชายชาวต่างชาติพูดไปโยกไป ก่อนจะหันมาบด คลึง คว้านมังกรเขาใส่ถ้ำนางมิหยุดหย่อนนางร้องอู้อี้ไม่หยุด สักพักเขาก็หยุด“อย่าเพิ่งเร่งเลย ข้าอยากมีความสุขกับเจ้านานๆ” เขากล่าว “ข้านอนลงนะ”กล่าวแล้วบุรุษร่างใหญ่ที่มังกรมโหฬารก็นอนลง อี้อึ้งเข้าใจดี “นางคร่อมตัวเขา แล้วหันถ้ำไปจ่อที่ปากเขา เขาบรรจงส่งลิ้นโลมเลียทั้งปากถ้ำและในถ้ำอย่างหิวกระหาย ขณะ
“ท่านช่างกล้าหาญนัก” “เจ้ากล่าวเกินไปแล้ว ข้าก็แค่พ่อค้าคนหนึ่ง” อี้อึ้งทำทีลุกขึ้น แต่ล้ม บุรุษชาวตะวันตกโผเข้าประคอง มือของเขาสัมผัสถันนาง เขารีบกล่าวขอโทษ “มิเป็นไร” “มิได้ ข้าเป็นชาย” “ท่านเป็นผู้มีพระคุณ ช่วยชีวิตข้า มากกว่านี้ที่ท่านต้องการ ข้าก็ให้ได้” บุรุษแย้มยิ้ม นางทำทีเขินอาย “ไปพักทางด้านนั้นเถอะ” เขาชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่นักชายป่า “ตั้งแต่ข้าเกิดมา 20 ปี ข้ามิเคยพบพานสตรีจีนนางใดสวยงามเท่าเจ้ามาก่อน” “ท่านกำลังชมข้าเกินจริง” “มิเกินจริงหรอก” “เดี๋ยวก่อน ท่านว่าท่านอายุเพียง 20 ปีหรือ” “ใช่ ทำไม ข้าดูแก่กว่าอายุหรือ” “ท่านดูเป็นผู้ใหญ่มาก อาจจะเป็นเพราะท่านเดินทางมามาก พบเห็นผู้คนมากมาย ได้รับประสบการณ์ล้ำค่า มันทำให้ท่านเข้าใจชีวิต” “ข้าว่าท่านกล่าวเกินจริงมากกว่า” อี้อึ้ลอบคำนวณปีเกิดของเขา “ท่านเกิดปีใด” “ถ้าตามอย่างชาวตะวันตก เจ้าอาจมิเข้าใจ แต่หากตามคติของชาวจีน ถ้าเกิดปีกุน อายุจึงย