บทที่ 24 ครอบครัว “ชอบขนาดนั้น?” ชรัณละสายตาจากการมองทางมามองรอยยิ้มคนข้างๆ เธอนั่งยิ้มกับช่อดอกไม้และแหวนเพชรบนนิ้วนางตัวเองตั้งแต่ขับรถออกจากร้าน ชรัณก็พลอยได้ยิ้มตามเธอด้วย“ชอบมากค่ะ ชอบทั้งดอกไม้และคนให้”“งั้นพี่จะให้คนทำสวนเอาดอกไม้มาลงสวนบ้านเราด้วยนะ เวลาตื่นเข้ามาจะได้เห็นอะไรที่สดชื่นแต่เช้า”“รักจัง” เธอยื่นมือไปโอบปลายคางเขาอย่างมันเขี้ยว และชรัณก็ค้อมศีรษะลงมาเอาคางเกยฝ่ามือเธออย่างไม่อิดออดเช่นกัน“พี่ลืมบอกไปว่าพี่ให้เราเป็นเจ้าบ้านนะ ในทะเบียนบ้านหลังใหม่”“วะ ว่ายังไงนะคะ”“ก็ตามนั้นเราได้ยินไม่ผิดหรอก”“มันมากไปนะคะ”“มากไปตรงไหน พี่อยากให้เรามีอะไรที่เป็นชื่อเราน่ะ แล้วเดี๋ยวพี่ว่าจะให้หุ้นร้านทองกับเราด้วย”“พี่ชัช”“หือ?”“มันมากไปนะ” เธอไม่รู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่เขาให้มานั้นมันมากเกินไปจริงๆ นะ“ไม่มากไปหรอก แค่นี้พี่หาได้สบายมาก”“ทำไมน่ารักจัง แค่นี้ก็หลงไม่ไหวแล้วนะคะ”“ของของพี่ก็เหมือนของของเรานั่นแหละ ต่อไปนี้เราจะช่วยกันดูแลและส่งเสริมกันและกันนะ” เขาละมือจากพวงมาลัยรถมาจับมือเธอขึ้นไปจูบเบาๆ “พี่รักตาลนะ” เป็นคำว่ารักที่ฟังกี่ครั้งก็จั๊กจี้ห
บทที่ 25 ในอ้อมกอดชรัณ END หลังจากที่จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส นี่ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้วสำหรับการใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการของเรา ยูตะน้อยเติบโตมาอย่างดีโดยมีทั้งคุณย่าและคุณปู่ช่วยเลี้ยงและพร่ำสอนเขา ส่วนชรัณก็รับตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัว ดูแลร้านทองทุกสาขาที่มีโดยมีต้นตาลเป็นเลขาส่วนตัวเขา เธอขยับจากเด็กฝึกงานในร้านทองที่คุณแม่เฝ้าสอนงานจนมาเป็นเจ๊ใหญ่ดูแลร้านทองสาขาใหญ่แทนคุณแม่ชีวิตช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานับว่าดีมากเลยทีเดียว ทั้งการงานและชีวิตคู่ จะว่าราบรื่นก็ไม่เท่าไร ก่อนหน้านี้มีงอนกับชรัณบ้างแต่ก็เพราะยังไม่เข้าใจกันดี แต่พอเปิดใจคุยกันโดยไม่ปัดตกปัญหาเล็กน้อยก็เข้าใจกันมากขึ้น เดี๋ยวนี้เลยไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องงอนและทะเลาะกันอีก หากเกิดความสงสัยหรือรู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่ายเราจะคุยกันทันทีและช่วยกันปรับแก้ ไม่ละเลยปัญหาที่อาจสะสมเป็นปัญหาใหญ่ในภายภาคหน้าแน่นอนชรัณคลั่งรักเธอมาก มากแบบเธอกลัวว่าคนรอบข้างจะอิจฉาเอาน่ะ และเรื่องความหื่นไว้ใจเขาได้เลย ตอนนี้วางแผนไว้ว่าจะมีลูกคนที่สองและเป็นหน้าที่ของชรัณที่ต้องทำให้เธอท้องให้ได้ เขาเลยหมกมุ่นในเรื่องนั้นมากและตอนนี้ก็ย้ายเข
ตอนพิเศษ 1หลายเดือนต่อมาเราจัดงานแต่งงานเล็กๆ ในบ้าน ไม่ได้เชิญแขกมามากมาย มีแต่เครือญาติของชรัณเท่านั้น มีตักบาตรในช่วงเช้าแล้วก็ดื่มน้ำชาตามประเพณีของคนจีน ส่วนสินสอดไม่มีเพราะเราคุยกันแล้วว่าจะจัดแค่งานเท่านั้น เราเองก็มีโซ่ทองคล้องใจแล้วคือยูตะน้อยนั่นเอง แถมตอนนี้ยังมียูจินน้อยอยู่ในท้อง ผลงานอันน่าภูมิใจของชรัณเลยก็ว่าได้ เพราะเพิ่งรู้เพศลูกในท้องก่อนวันแต่งงาน เขาจึงถือโอกาสนี้เลี้ยงฉลองที่ได้ลูกสาวอย่างตั้งใจเอาไว้ด้วย“พี่ชัช ตาลเหม็นไข่ไก่ต้ม พี่เอาไปกินหมดเลยได้ไหม” ช่วงกินไข่ต้มน้ำขิงในพิธี เธอยังไม่หายแพ้ท้องและรู้สึกพะอืดพะอมมาก เห็นไข่สีขาวนวลกับน้ำขิงก็รู้สึกเวียนหัวแล้ว แถมยังเหม็นฉุนจนกลืนไม่ลงอีกด้วย“อดทนหน่อย เรากัดกินนิดเดียวก็ได้”“ไม่ไหว” ฝืนไม่ไหวจริง ถ้ากินอีกนิดเดียวเธออ้วกแตกแน่ พอเห็นสีหน้าต้นตาลไม่สู้ดีเขาจึงจัดการอ้าปากกินไข่ต้มในถ้วยของเธอจนหมด ทำให้ถูกเพื่อนแซวกันยกใหญ่ว่าเขาน่ะหิวข้าวหรือเปล่าถึงได้รีบกินขนาดนั้นหลังจากนั้นก็เป็นไปตามพิธีที่วางเอาไว้ ดำเนินมาถึงการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ อธิราชกับอีริคเป็นคนจัดแจงผ้าปูที่นอนให้เพื่อนรักพร้อมกับ
ตอนพิเศษ 2วันคลอดต้นตาลเอนหลังพิงโซฟายกขาไปพาดหน้าขาชรัณอยู่ภายในห้องพักเตรียมคลอด เธอรู้สึกชาขาและเหนื่อยจนไม่อยากขยับกายไปไหน ท้องสองท้องใหญ่กว่าท้องแรกมาก ทั้งเวลาเดินเวลานั่งจึงลำบาก แต่ดีที่มีสามีอย่างชรัณอยู่ข้างๆ กายคอยช่วยเหลือและเป็นมือให้เธอ“พอแล้วค่ะ พี่อยากกลับไปเอาของไหม ตาลอยู่รอคุณแม่ได้นะ”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่รออยู่กับเราที่นี่แหละ”“พี่ไม่ได้นอนเลยนะ อยากนอนพักสักหน่อยไหมคะ” เธอเอ็นดูคุณพ่อลูกสองมาก เขาน่ะตื่นเต้นกว่าเธออีกนะที่ว่าลูกจะคลอดน่ะ ตั้งตารอกันทั้งบ้านเลย และเจ้ายูตะน้อยก็ดีใจอยากเจอหน้าน้องแล้วด้วย“ห่วงเราเถอะ พี่พักตอนไหนก็ได้”“ตาลโอเคค่ะ ว่าแต่พี่…” ต้นตาลหลับตาพริ้มเมื่อชรัณยกมือขึ้นมาลูบแก้มเธอเบาๆ ส่งผ่านภาษากายว่าเขาน่ะโอเคมาก ห่วงก็แต่เธอคนเดียว “พี่อย่าไปไหนนะ อยู่กับตาลก่อน” เธอกลัวทุกครั้งที่จะคลอดลูก แต่ถ้ามีชรัณอยู่ข้างกายก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร แถมยังเบาใจมากด้วย“รู้ว่าเรากลัว แล้วพี่ก็ไม่ไปไหนแน่นอน”“พี่ก็ยังเป็นพี่ ทำไมพี่แสนดีขนาดนี้เนี่ย”“หึหึ”“จริงๆ นะ ถ้าตาลไม่ได้เจอกับพี่ตาลก็อาจจะยังทำงานอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ก็ขอบคุณที่ได้เจอพี่”
บทนำนัยน์ตาดำขลับเบิกกว้างขณะจ้องมองแท่งตรวจการตั้งครรภ์ในมือ ใบหน้าเข้มขรึมไม่แสดงออกถึงความตระหนกตกใจใดๆ ทว่าหัวใจแกร่งกลับกระตุกวูบอยู่หลายครั้ง ต่างจากร่างกายของหญิงสาวที่แบกหน้ามาบอกว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขา“เธอ…มั่วเองหรือเปล่า” ประโยคแรกที่เธอรอฟังจากปากเขาหลังจากยื่นที่ตรวจครรภ์ให้ กลับเป็นประโยคแรกที่เธอสัมผัสถึงความสิ้นหวัง ใบหน้าหญิงสาวผ่าวร้อน หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้จะหาคำพูดสวยหรูหรือคำไหนมายืนยันว่าเธอไม่ได้มั่ว“ตาลไม่เคยนอนกับผู้ชายคนไหน ตาลนอนกับพี่ชัชคนเดียว และพี่ชัชเป็นคนแรกของตาล” ต้นตาลหญิงสาววัยยี่สิบสองปีเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ แววตาเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาเชื่อ ว่าเธอน่ะไม่ได้มั่วขึ้นเตียงกับผู้ชายอย่างที่เขากล่าวหาเมื่อครู่ “หนูท้อง ท้องลูกพี่ชัช”“จะให้ฉันเชื่อได้ยังไง เธอทำงานในสถานที่แบบนั้น เจอแขกมากมาย” ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรับผิดชอบ แต่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนับครั้งได้ บ้างก็อ้างว่าได้ขึ้นเตียงกับเขาทั้งที่ยังไม่เคยพูดคุยกัน และมีบางคนที่มาบอกว่าท้องกับเขาบ้างล่ะ เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ แล้วไม่ให้เขาถา
บทที่ 1 จุดเริ่มต้น แต๊ก แต๊ก แต๊กปลายนิ้วเรียวกดพิมพ์ข้อความส่งหารุ่นพี่ที่รู้จัก หลังจากหยุดพักเบรกกินข้าวเที่ยงอยู่หลังร้านสะดวกซื้อ ในที่พักประจำของพนักงานขายซึ่งผลัดเปลี่ยนกันประจำหน้าเคาน์เตอร์คิดเงินต้นตาลกะพริบตาปริบ ๆ รอข้อความตอบกลับจากรุ่นพี่อย่างจดจ่อ ขณะเดียวกันก็ตักข้าวผัดป้ายเหลืองราคาแสนถูกเพราะใกล้หมดอายุเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อาหารเที่ยงแสนถูกช่วยประทังชีวิตเธอไปมื้อ ๆ เท่านั้น เงินเดือนที่หามาได้ต้องเก็บไว้จ่ายค่าห้องและค่ากิน เหลือเก็บในแต่ละเดือนก็ไม่กี่บาท เธอจึงอยากหางานเสริมเพื่อให้ได้เงินเพิ่มอีกนิดหน่อย เพราะมีความฝันว่าอยากเรียนต่อให้จบปริญญาตรี จึงจะเก็บเงินไว้จ่ายค่าเทอมด้วย“แกจะไปทำงานแบบนั้นจริงเหรอยายตาล” เพื่อนเข้างานเวลาเดียวกับเธอเอ่ยถาม จากสีหน้าก็พอรู้ว่าเพื่อนไม่ชอบเท่าไหร่ที่เธอบอกว่าจะไปทำงานในคลับ“ก็รอให้พี่เขาตอบกลับอยู่เนี่ย ถ้าได้จริงๆ ฉันยอมทำนะ” หญิงสาวละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ไปมองหน้าเพื่อน “เปลืองตัวหน่อยแต่เงินดี”“ฉันไม่คิดว่าแกจะมีความคิดแบบนี้”“ยังไง ที่อยากไปเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์ในคลับอะเหรอ”“อือ”“ก็ไม่ได้คิดอะไรนะ มันก็คืองานและ
บทที่ 2 ครั้งแรกไม่เสียวเสมอไป NCคำถามตรงไปตรงมาทำเอาความต้นตาลนิ่งงันไปชั่วอึดใจหนึ่ง ทว่าชรัณกลับหัวเราะขบขันราวกับว่าเป็นเรื่องตลก เขากำลังทำเธอเสียความมั่นใจ“พี่ชัชหัวเราะตาลเหรอ”“อยู่กันสองคนจะให้ฉันหัวเราะใครล่ะ” ปลายนิ้วชี้เขาแตะลงปลายคางเธอเบาๆ เชยใบหน้าแดงเรื่อขึ้นสบตากัน “ว่ายังไง”ต่อให้เมามากแค่ไหนก็ได้ยินประโยคที่เขาก่อนหน้านี้ชัดเจน รูม่านตาเธอเบิกกว้างเมื่อชรัณเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ ใกล้กันชนิดที่ว่าสัมผัสลมหายใจกันได้เลยทีเดียว ปลายจมูกเชิดรั้นแตะสัมผัสกับปลายจมูกโด่งคมพอเฉียด ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะผละใบหน้าออกไป“หัวใจเธอ เต้นแรงไปนะ”“...”! หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะจนคนตรงหน้าได้ยินมัน “ตาลแค่ตื่นเต้น”“แต่เธอยังไม่ให้คำตอบฉันเลยนะสาวน้อย” เสียงกระเส่าลอดผ่านริมฝีปากหยัก ขณะที่ดวงตาคมยังวางไว้ที่ดวงหน้าของผู้หญิงตรงหน้า เฝ้ารอคำตอบจากปากเธอ“ตะ ตาลไม่เคย”“ว่ายังไงนะ” ชรัณเอียงใบหน้ามองเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีอะไรโต้แย้ง แววตาที่เคยมองเขาอย่างอยากเอาชนะเมื่อหลายนาทีก่อนกลับฉายแววใสซื่อ “เธอยังไม่เคยมีอะไรกับใครเหรอ”“...” ต้นตาลส่ายหน้าเล็กน้อย ความใสซื่อข
บทที่ 3 ไม่เจอกันเลย วันต่อมา 15:00ต้นตาลเดินถ่างขากลับไปล้มตัวนอนบนเตียงในห้องพัก วันนี้เธอขอพี่เปรี้ยวเข้างานตอนสี่โมงครึ่ง ด้วยรู้สึกไม่สบายตัวเหมือนจะเป็นไข้เอาให้ได้ สาเหตุก็เพราะเมื่อคืนนั่นแหละ หลังออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เจอเขาเธอก็กลับห้องตัวเองทันที ทั้งที่จะนอนพักที่นั่นแล้วค่อยกลับก็ได้ แต่รู้สึกละอายใจตัวเองจึงกลับมานอนซมที่ห้องดีกว่าเมื่อคืนนับไม่ได้ว่าเขาเสร็จกิจไปกี่รอบแล้วเธอเสร็จไปกี่รอบ รู้ตัวอีกทีก็ลากสังขารตัวเองกลับมาถึงห้องแล้ว ดีหน่อยที่ได้นอนพักไปหลายชั่วโมง แต่พอตื่นขึ้นความเมื่อยล้ากลับเล่นงานซะได้ ทั้งเจ็บแสบตรงกลางกายอีก“มีเซ็กซ์ครั้งแรกอย่างกับไปรบมา คนอื่นเขาเป็นเหมือนเราไหมวะ” ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอจึงดันตัวลุกขึ้นมานั่งห้อยขาขอบเตียงแล้วเลื่อนจอรับสาย(ตาลไม่มาทำงานเหรอ เธอกะดึกนะวันนี้)“วันนี้ขอลาป่วยกับหัวหน้าแล้วอะ ตาลไม่สบาย”(จริงเหรอ หรือว่าแกจะลาออกแล้ว)“ไม่รู้สิ”(แล้วทำงานที่นั่นวันแรกเป็นไง เงินดีจริงปะ)“ก็...” ต้นตาลหันมองกระเป๋าสะพาย แล้วเดินไปเปิดดูเงินสดในนั้น “ก็โอเคอยู่นะ” รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้า แต่ต้องหาย
ตอนพิเศษ 2วันคลอดต้นตาลเอนหลังพิงโซฟายกขาไปพาดหน้าขาชรัณอยู่ภายในห้องพักเตรียมคลอด เธอรู้สึกชาขาและเหนื่อยจนไม่อยากขยับกายไปไหน ท้องสองท้องใหญ่กว่าท้องแรกมาก ทั้งเวลาเดินเวลานั่งจึงลำบาก แต่ดีที่มีสามีอย่างชรัณอยู่ข้างๆ กายคอยช่วยเหลือและเป็นมือให้เธอ“พอแล้วค่ะ พี่อยากกลับไปเอาของไหม ตาลอยู่รอคุณแม่ได้นะ”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่รออยู่กับเราที่นี่แหละ”“พี่ไม่ได้นอนเลยนะ อยากนอนพักสักหน่อยไหมคะ” เธอเอ็นดูคุณพ่อลูกสองมาก เขาน่ะตื่นเต้นกว่าเธออีกนะที่ว่าลูกจะคลอดน่ะ ตั้งตารอกันทั้งบ้านเลย และเจ้ายูตะน้อยก็ดีใจอยากเจอหน้าน้องแล้วด้วย“ห่วงเราเถอะ พี่พักตอนไหนก็ได้”“ตาลโอเคค่ะ ว่าแต่พี่…” ต้นตาลหลับตาพริ้มเมื่อชรัณยกมือขึ้นมาลูบแก้มเธอเบาๆ ส่งผ่านภาษากายว่าเขาน่ะโอเคมาก ห่วงก็แต่เธอคนเดียว “พี่อย่าไปไหนนะ อยู่กับตาลก่อน” เธอกลัวทุกครั้งที่จะคลอดลูก แต่ถ้ามีชรัณอยู่ข้างกายก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร แถมยังเบาใจมากด้วย“รู้ว่าเรากลัว แล้วพี่ก็ไม่ไปไหนแน่นอน”“พี่ก็ยังเป็นพี่ ทำไมพี่แสนดีขนาดนี้เนี่ย”“หึหึ”“จริงๆ นะ ถ้าตาลไม่ได้เจอกับพี่ตาลก็อาจจะยังทำงานอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ก็ขอบคุณที่ได้เจอพี่”
ตอนพิเศษ 1หลายเดือนต่อมาเราจัดงานแต่งงานเล็กๆ ในบ้าน ไม่ได้เชิญแขกมามากมาย มีแต่เครือญาติของชรัณเท่านั้น มีตักบาตรในช่วงเช้าแล้วก็ดื่มน้ำชาตามประเพณีของคนจีน ส่วนสินสอดไม่มีเพราะเราคุยกันแล้วว่าจะจัดแค่งานเท่านั้น เราเองก็มีโซ่ทองคล้องใจแล้วคือยูตะน้อยนั่นเอง แถมตอนนี้ยังมียูจินน้อยอยู่ในท้อง ผลงานอันน่าภูมิใจของชรัณเลยก็ว่าได้ เพราะเพิ่งรู้เพศลูกในท้องก่อนวันแต่งงาน เขาจึงถือโอกาสนี้เลี้ยงฉลองที่ได้ลูกสาวอย่างตั้งใจเอาไว้ด้วย“พี่ชัช ตาลเหม็นไข่ไก่ต้ม พี่เอาไปกินหมดเลยได้ไหม” ช่วงกินไข่ต้มน้ำขิงในพิธี เธอยังไม่หายแพ้ท้องและรู้สึกพะอืดพะอมมาก เห็นไข่สีขาวนวลกับน้ำขิงก็รู้สึกเวียนหัวแล้ว แถมยังเหม็นฉุนจนกลืนไม่ลงอีกด้วย“อดทนหน่อย เรากัดกินนิดเดียวก็ได้”“ไม่ไหว” ฝืนไม่ไหวจริง ถ้ากินอีกนิดเดียวเธออ้วกแตกแน่ พอเห็นสีหน้าต้นตาลไม่สู้ดีเขาจึงจัดการอ้าปากกินไข่ต้มในถ้วยของเธอจนหมด ทำให้ถูกเพื่อนแซวกันยกใหญ่ว่าเขาน่ะหิวข้าวหรือเปล่าถึงได้รีบกินขนาดนั้นหลังจากนั้นก็เป็นไปตามพิธีที่วางเอาไว้ ดำเนินมาถึงการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ อธิราชกับอีริคเป็นคนจัดแจงผ้าปูที่นอนให้เพื่อนรักพร้อมกับ
บทที่ 25 ในอ้อมกอดชรัณ END หลังจากที่จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส นี่ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้วสำหรับการใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการของเรา ยูตะน้อยเติบโตมาอย่างดีโดยมีทั้งคุณย่าและคุณปู่ช่วยเลี้ยงและพร่ำสอนเขา ส่วนชรัณก็รับตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัว ดูแลร้านทองทุกสาขาที่มีโดยมีต้นตาลเป็นเลขาส่วนตัวเขา เธอขยับจากเด็กฝึกงานในร้านทองที่คุณแม่เฝ้าสอนงานจนมาเป็นเจ๊ใหญ่ดูแลร้านทองสาขาใหญ่แทนคุณแม่ชีวิตช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานับว่าดีมากเลยทีเดียว ทั้งการงานและชีวิตคู่ จะว่าราบรื่นก็ไม่เท่าไร ก่อนหน้านี้มีงอนกับชรัณบ้างแต่ก็เพราะยังไม่เข้าใจกันดี แต่พอเปิดใจคุยกันโดยไม่ปัดตกปัญหาเล็กน้อยก็เข้าใจกันมากขึ้น เดี๋ยวนี้เลยไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องงอนและทะเลาะกันอีก หากเกิดความสงสัยหรือรู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่ายเราจะคุยกันทันทีและช่วยกันปรับแก้ ไม่ละเลยปัญหาที่อาจสะสมเป็นปัญหาใหญ่ในภายภาคหน้าแน่นอนชรัณคลั่งรักเธอมาก มากแบบเธอกลัวว่าคนรอบข้างจะอิจฉาเอาน่ะ และเรื่องความหื่นไว้ใจเขาได้เลย ตอนนี้วางแผนไว้ว่าจะมีลูกคนที่สองและเป็นหน้าที่ของชรัณที่ต้องทำให้เธอท้องให้ได้ เขาเลยหมกมุ่นในเรื่องนั้นมากและตอนนี้ก็ย้ายเข
บทที่ 24 ครอบครัว “ชอบขนาดนั้น?” ชรัณละสายตาจากการมองทางมามองรอยยิ้มคนข้างๆ เธอนั่งยิ้มกับช่อดอกไม้และแหวนเพชรบนนิ้วนางตัวเองตั้งแต่ขับรถออกจากร้าน ชรัณก็พลอยได้ยิ้มตามเธอด้วย“ชอบมากค่ะ ชอบทั้งดอกไม้และคนให้”“งั้นพี่จะให้คนทำสวนเอาดอกไม้มาลงสวนบ้านเราด้วยนะ เวลาตื่นเข้ามาจะได้เห็นอะไรที่สดชื่นแต่เช้า”“รักจัง” เธอยื่นมือไปโอบปลายคางเขาอย่างมันเขี้ยว และชรัณก็ค้อมศีรษะลงมาเอาคางเกยฝ่ามือเธออย่างไม่อิดออดเช่นกัน“พี่ลืมบอกไปว่าพี่ให้เราเป็นเจ้าบ้านนะ ในทะเบียนบ้านหลังใหม่”“วะ ว่ายังไงนะคะ”“ก็ตามนั้นเราได้ยินไม่ผิดหรอก”“มันมากไปนะคะ”“มากไปตรงไหน พี่อยากให้เรามีอะไรที่เป็นชื่อเราน่ะ แล้วเดี๋ยวพี่ว่าจะให้หุ้นร้านทองกับเราด้วย”“พี่ชัช”“หือ?”“มันมากไปนะ” เธอไม่รู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่เขาให้มานั้นมันมากเกินไปจริงๆ นะ“ไม่มากไปหรอก แค่นี้พี่หาได้สบายมาก”“ทำไมน่ารักจัง แค่นี้ก็หลงไม่ไหวแล้วนะคะ”“ของของพี่ก็เหมือนของของเรานั่นแหละ ต่อไปนี้เราจะช่วยกันดูแลและส่งเสริมกันและกันนะ” เขาละมือจากพวงมาลัยรถมาจับมือเธอขึ้นไปจูบเบาๆ “พี่รักตาลนะ” เป็นคำว่ารักที่ฟังกี่ครั้งก็จั๊กจี้ห
บทที่ 23 อยู่ด้วยกันนะ หัวใจดวงน้อยเต้นคร่อมจังหวะ วันนี้มันจะไม่แปลกไปจากเดิมหากชรัณไม่ชวนเธอออกมาเที่ยวแบบนี้ ซึ่งจุดหมายปลายทางยังไม่รู้แน่ชัดว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหน“พี่จะพาตาลกลับค่ำไหม กลัวลูกร้องไห้กลัวพ่อแม่เหนื่อย”“ไม่กลัวค่ำหรอก”“ค่ะ” ทว่าหางตาเหลือบเห็นผ้าอ้อมลูกวางอยู่ที่วางของข้างประตูฝั่งคนขับ เธอเอียงคอมองแล้วอมยิ้มจนชรัณต้องหันมามองหน้า “นี่พี่เอาผ้าอ้อมลูกมาทำไมเหรอคะ”“ก็มันคิดถึงนี่นา พี่ติดกลิ่นเด็ก”“ถามจริง พี่ติดกลิ่นลูกเหรอคะ”“อืม กลิ่นเราก็หอม”“บ้าน่า จะมาติดกลิ่นตาลทำไม” เธอเขินเขาจนไม่อยากยอมรับในสิ่งที่ชรัณพูดมา “พี่ติดกลิ่นลูกพอเข้าใจได้ แต่พี่ติดกลิ่นตาลตาลไม่เข้าใจค่ะ มันหอมตรงไหน”“เด็กหนอเด็ก”“ว่ายังไงคะคุณลุง” เธออยากเย้าแหย่เขาเล่นเหมือนกัน จะว่าไปก็ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันนานแล้ว ก็ตั้งแต่คลอดลูกนั่นแหละ ทุ่มเทเวลาให้ยูตะตัวน้อยจนลืมไปเลยว่าต้องใช้เวลาอยู่กับคนข้างๆ เหมือนกัน “พี่จะพาตาลไปไหนเนี่ย ไม่ได้จะพาไปเดินห้างเหรอ”“เปล่า”“แล้วไปไหน” เขาพาเธอขับไปในเมืองก็จริง แต่ไม่ได้ขับตามเส้นทางไปห้างนี่นา“เดี๋ยวก็รู็เองนั่นแหละ”“ชอบทำให้ตาลหัวใจเต
บทที่ 22 หลงรักหมดหัวใจ หลังจากอยู่โรงพยาบาลจนหมอให้กลับบ้านได้ ต้นตาลกับชรัณก็กลับมาอยู่บ้านของแม่เพราะแม่ไม่ให้ไปอยู่คอนโดฯตามลำพัง มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน“พี่ชัชจะพาลูกไปไหนคะ” เธอนั่งปั๊มนมอยู่แต่เหลือบเห็นว่าชรัณกำลังอุ้มลูกเดินออกไปจากห้อง ห้องนอนชรัณนั่นแหละแต่แม่ให้ช่างมาทำให้ใหม่และน่าอยู่กว่าเดิมอีก ภายในห้องสะอาดและโล่งมาก แม่ขนของในห้องออกไปจนหมดและเอาของของยูตะเข้ามาไว้แทน“จะพาลงไปหาแม่หน้าร้านน่ะ เราปั๊มนมเสร็จแล้วก็ตามลงไปนะ”“ระวังนะคะ”“ครับ...”จะว่าเธอหวงลูกก็ว่าไปเถอะ ก็ชรัณหลงลูกและยังหวงลูกกว่าเธออีก เขาน่ะหยิบจับอะไรก็คล่องมือไปหมด ช่วยแบ่งเบาภาระไปจากเธอได้เยอะเลย ส่วนแม่กับพ่อก็ช่วยเลี้ยงยูตะบ้างเป็นบางเวลา เพราะท่านยังต้องเปิดร้านขายทองทุกวัน และสาขาใหม่ของชรัณเขาก็แวะไปดูบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนมากสั่งงานกันผ่านการโทร. มากกว่า“ยูตะนะยูตะ พออยู่กับพ่อหนูก็หลับปุ๋ยเชียว” เธอปั๊มนมเสร็จแล้วก็ลงไปหาลูกกับชรัณ อันที่จริงยูตะต้องนอนแล้วแต่พ่อเขาเห่อลูก อยากอุ้มให้เขาหลับไปในอ้อมแขนตัวเอง และก็ได้ผลเพราะยูตะชอบนอนตอนเวลาพ่อเขาอุ้มมากกว่านอนบนเบาะนุ่มๆ ซะอีก
บทที่ 21 เด็กชายปิยดนัย แซ่โง้ว สายของวันต่อมาต้นตาลเดินอุ้ยอ้ายมาขึ้นรถเพื่อจะออกไปดูบ้านกับชรัณตามที่นัดหมายกับทางโครงการเอาไว้ เขาบอกเธอว่าโครงการอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซึ่งเดินทางไปร้านทองสาขาใหญ่ได้สะดวกมาก ไม่เกินสามสิบนาทีก็ถึงแล้วและมีสิ่งเอื้ออำนวยมากกว่าแถวคอนโดฯ เพราะใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสดที่คนมีตังค์เขาไปเดินเลือกซื้อของ“พี่ดูไว้ราคาเริ่มต้นสิบกว่าล้าน” ชรัณหันมามองหน้าต้นตาลซึ่งเธอกำลังอึ้งงันอยู่“สิบกว่าล้านบาท แล้วพี่มีเงินมากขนาดนั้นเหรอ”“ก็มีนะ เงินเก็บพี่แล้วก็แม่ให้มาบางส่วน แต่ส่วนที่แม่ให้มาพี่จะเอาไปซื้อของเข้าบ้าน แล้วก็เตรียมของให้ลูกด้วย”“อ๋อ คนรวยเขาพูดกันง่ายๆ แบบนี้เลยเนอะ ถ้าเป็นตาลคงห่วงว่าจะหาเงินไหนมาผ่อนมาซื้อกินอะไรแบบนั้นมากกว่า”“เราก็รวยเถอะ เงินที่พี่ให้เราไม่เคยเอาออกมาใช้เลย”“ก็อยากเก็บไว้ใช้ตอนฉุกเฉินไงคะ แต่ไม่ถึงกับรวยอะไรหรอก” เป็นเงินสองแสนก้อนแรกที่เก็บได้เลยก็ว่าได้ ชรัณโอนให้ทุกเดือนแถมแม่กับพ่อเขายังแอบโอนใส่บัญชีให้อีก เธอไม่ได้เป็นคนให้เลขบัญชีกับพวกท่านหรอก คนที่เอาให้ท่านก็นั่งอยู่หลังพวงมาลัยนี่แหละ มารู้ตัวอีกทีก็เงินเข
บทที่ 20 เตรียมตัวเป็นคุณพ่อ ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่สามสิบหกของการอุ้มท้อง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเธอลากชรัณไปตรวจอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกในท้อง เพราะไม่อยากลุ้นเอาตอนคลอด ก่อนจะไปอัลตราซาวนด์เธอกับชรัณพนันกันไว้ ต้นตาลลงเงินหนึ่งหมื่นบาทพนันว่าลูกในท้องคือผู้ชาย ส่วนชรัณพนันว่าเป็นผู้หญิงและวางเงินพนันหนึ่งแสนบาท ซึ่งผลออกมาเป็นพี่น่าพอใจเพราะต้นตาลเป็นฝ่ายชนะพนันเพราะลูกเป็นผู้ชายตัวจ้ำม่ำเลยล่ะ“วันนี้ตาลไม่ไปนอนบ้านพี่ได้ไหม อยากนอนกับพี่ชัชที่ห้องค่ะ” ต้นตาลเอาคางมาเกยกับลาดไหล่ของชรัณขณะที่เขาเอนหลังพิงหัวเตียงพิมพ์ข้อความตอบกลับลูกน้องที่ร้านทองอยู่ชายหนุ่มเหลือบตามองคนตัวเล็กแล้วปิดมือถือ“ทำไมไม่อยากไปนอนบ้านพี่”“ก็ตาลเกรงใจคุณป้านี่นา ท่านพลอยนอนไม่หลับเพราะตาลตั้งหลายคืน” ตั้งแต่ท้องแก่มาแม่ของชรัณก็ไม่ให้เธอนอนคนเดียว เวลาชรัณติดงานที่ร้านก็จะให้เธอไปนอนที่ร้านทองสาขาใหญ่คือบ้านเขานั่นแหละ ซึ่งเธอก็ไม่แย้งอะไรหรอก แต่ท้องแก่แล้วตะคิวก็เป็นบ่อยขึ้น พอนอนกับแม่แล้วท่านเทียวตื่นมาบีบขาให้เธอบ่อยๆ นอนไม่ค่อยเต็มอิ่มด้วย เธอทั้งเกรงใจและไม่อยากให้ท่านลำบากใจ“แม่พี่เต็มใจ เราคิดมากไป
บทที่ 19 ใส่ใจไม่ได้แปลว่ามีใจ“มึงมาทำอะไรแต่เช้าวะเนี่ย” โลกมันก็ชอบเหวี่ยงคนรู้จักมาเจอเขาจริงๆ เลย “หรือว่ามึงเพิ่งออกมาจากคลับ” อธิราชหรี่ตามองชรัณ ซึ่งเพื่อนเขายังนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจเฉิบอยู่เลย“มาใส่บาตร”“ว้าว! สงสัยนรกไม่เปิดรับคนใจบุญอย่างมึงแล้วแหละ”“หึหึ ตลกนะไอ้สั*ว์”“กูเห็นคนหน้าคุ้นอยู่ตรงนั้น” อธิราชชี้นิ้วไปยังร้านหมูปิ้ง ซึ่งคนที่ยืนก้มหน้าทำตัวมีพิรุธก็คือต้นตาล ชรัณลอบยิ้มมุมปาก รู้สึกเอ็นดูเธอมากกว่าแต่อธิราชไม้ทันได้เห็นเขายิ้มหรอก“คนก็หน้าเหมือนกันหมด คุ้นอะไรนักหนา”“กูคุ้นจริงๆ นะ เหมือนเคยเห็นกันที่ไหนแถมตอนเดินผ่านมาเธอยังทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นผีแน่ะ”“ก็มึงหน้าเหมือนผี”“บ้าน่า กูหล่อขนาดนี้นะ”ชรัณหัวเราะในคอเบาๆ ซึ่งเพื่อนก็หล่อจริงๆ นั่นแหละ อันนี้เขาไม่เถียงอธิราชเลย“แล้วมึงมาทำอะไรในเมืองแต่เช้า”“มางาน ก็เลยแวะหาของกินก่อน”“อ๋อ งั้นสั่งกาแฟมากินดิ กูจ่ายเอง”“ได้”ชรัณเหลือบไปมองคนตัวเล็ก เมื่อไม่เห็นเธออยู่หน้าร้ายหมูปิ้งจึงไลน์ไปหา ไม่นานต้นตาลก็ตอบกลับมา พร้อมกับส่งรูปว่าเธอนั่งอยู่ร้านโจ๊กในตลอดนั่นเอง“ถอนหายใจทำไม” อธิราชเอี้ยวหน้ามาถามเ