Share

บทที่ 925

Author: จูน
last update Last Updated: 2023-06-18 19:00:00
กู้จือพูดอย่างเฉยชา "ถ้าทำแท้งไม่ได้ ก็แค่บีบคอตอนคลอดออกมาซะ"

หลังจากที่จิ้งโฮ่วได้ยิน ก็รีบตอบเห็นด้วย "ใช่ แค่บีบคอให้ตายซะ ปล่อยเอาไว้ขายหน้าเขาตาย"

หยวนชิงหลิงที่ได้ยินดังนั้นนางก็โกรธจนขึ้นหน้า นางไม่สนใจว่าจิ้งโฮ่วจะขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของนางหรือไม่ นางจึงหยิบแก้วบนโต๊ะแล้วขว้างใส่เขา จนหกเละเทะไปทั่วตัวเขา "ข้าจะบีบคอท่านก่อน ดีไหม? ในฐานะผู้ชาย ท่านไม่เหลือความรับผิดชอบสักนิดเลยหรือ? ท่านปู่มอบตำแหน่งโฮ่วให้ท่าน ท่านไม่คิดจะใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อรักษามันไว้ แต่กลับขายลูกสาวคนนี้คนนั้น ในท้ายที่สุดเพื่อรักษาสิ่งที่เรียกว่าความมั่งคั่ง ถึงกับยอมขายศักดิ์ศรีตัวเอง ตอนนี้เพื่อกำจัดเรื่องชั่วช้าของตัวเอง แม้แต่เด็กในครรภ์ยังจะฆ่าให้ตาย ท่านยังเป็นคนอยู่ไหม?”

จิ้งโฮ่วก้มหน้าลงไม่กล้าส่งเสียง ไม่ใช่เพราะความรู้สึกผิด แต่เป็นเพราะหยวนชิงหลิงดุร้ายเกินกว่าจะพูดตอบโต้

กู้จือไม่ได้ยินเขาเถียงกลับ และคาดเดาท่าทางขี้ขลาดของเขาได้ จึงหัวเราะเยาะเย้ยอีกครั้ง

หยวนชิงหลิงยังคงโกรธอยู่ เมื่อได้ยินนางหัวเราะเช่นนี้ นางหันหน้าไปอย่างเย็นชา "เจ้าหัวเราะอะไร เสียงหัวเราะของเจ้าดูเหมือนจะเป็
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 926

    จิ้งโฮ่วรู้ว่าเขาเผลอหลุดปากไปแล้ว เขาโบกมือแล้วพูดว่า "ไม่ ข้าแค่พูดเหลวไหลไปเท่านั้น"หยวนชิงหลิงพูดอย่างเย็นชา "ถ้าท่านยังรู้สึกเสียดายหัวของตัวเอง ก็บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องชั่วช้าที่ก่อขึ้นมาให้หมด"จิ้งโฮ่วรู้สึกไม่พอใจ "ในตอนนี้เจ้าเป็นองค์หญิงรัชทายาทแล้ว อย่าคิดว่าเจ้าจะหยาบคายกับพ่อของเจ้าได้นะ เรื่องเลวร้ายวุ่นวายอะไร? ทุกสิ่งที่พ่อทำก็เพื่อจวนโฮ่วของเราไม่ใช่หรือไง? ในตอนแรกที่เจ้าแต่งกับองค์รัชทายาทก็ไม่ได้ใช้วิธีขาวสะอาดอะไรมิใช่หรือ ทำไมไม่เห็นเจ้าพูดเล่า? กู้จือก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ตอนนี้เจ้าอยู่สูงแล้ว ลืมไปแล้วหรือว่าเมื่อก่อนเจ้าน่ารังเกียจมากแค่ไหน!”หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ หยวนชิงหลิงก็โกรธจนเจ็บแผลของนาง ช่างเจ็บปวดจริง ๆ ทำไมเจ้าของร่างเดิมถึงมีบิดาเช่นนี้? และนางมาสิงเจ้าของร่างเดิมได้อย่างไร?หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าไม้เท้าจักรพรรดิที่ไท่ซ่างหวงมอบให้นั้นมีประโยชน์ซะจริง อย่างน้อยบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปพูดด้วยนางหยิบมันออกมาอย่างช้า ๆ แล้ววางลงบนโต๊ะ "จะพูดหรือจะถูกตีว่ามา ข้าไม่อยากได้ยินคำพูดไร้สาระ""หยวนชิงหลิง เจ้ากล้าหรือ?" เมื่อจิ้งโฮ่วเห็นไม้เท้า

    Last Updated : 2023-06-19
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 927

    "ไม่...ไม่มีแล้ว" เมื่อเห็นนางเป็นแบบนี้ จิ้งโฮ่วก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกหยวนชิงหลิงกุมมือตัวเอง สูดหายใจเข้าลึก และกลืนยารักษาหัวใจ "ไม่ บอกข้า บอกข้ามา ข้าทนได้ อย่างน้อยที่สุดข้าแค่โกรธจนตาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม นั่นมันเรื่องท่านไม่เกี่ยวกับข้า"เมื่อเห็นว่านางเริ่มหอบและต้องกินยา จิ้งโฮ่วจึงรู้ได้ว่านางกำลังโกรธมาก ดังนั้นจึงต้องตอบอย่างซื่อสัตย์ ท้ายที่สุดจวนจิ้งโฮ่วต้องยังจำเป็นที่จะต้องพึ่งพานาง และมันคงไม่ดีถ้านางโกรธขึ้นมาจริง ๆเขาเลยตอบไปตามจริง ในจำนวนเหล่านี้มีสตรีที่แต่งงานแล้วมากกว่าสิบคน ต่างก็ล้วนเป็นภริยาของพวกขุนนางข้าราชบริพารหลังจากที่หยวนชิงหลิงได้ฟัง นางก็โกรธมากจนแทบจำไม่ได้ นางแค่สับสนว่าใบหน้าของหยวนปาหลงนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้หญิงได้อย่างไร?นางมองเขา เขามีหน้าตาที่ดีจริง ๆ เขาอายุสี่สิบปี รูปร่างของเขาดูอ่อนกว่าวัยไม่มากนัก เขามีดวงตาดอกท้อที่มีเสน่ห์คู่หนึ่ง และเขายังเคยได้ฝึกวรยุทธ์มาบ้าง แม้ว่าเขาจะถดถอยไปแล้วครึ่งหนึ่งด้วยสุรานารีก็ตาม แต่พื้นฐานของเขายังคงอยู่จิ้งโฮ่วพึมพำ "หลายปีมานี้ไม่มีทางเลือก บางครั้งเราต้องติดสินบนบ้าง ไม่เช่นนั้นด้ว

    Last Updated : 2023-06-19
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 928

    หยวนชิงหลิงไม่ได้โกรธเคืองหรือผิดหวังในชั่วขณะนั้น อันที่จริงในครอบครัวของนางไม่มีผู้อาวุโสที่ไว้ใจได้นอกจากท่านย่าของนางเท่านั้นแม้แต่แม่ของเจ้าของร่างเดิมอย่างนางหวงก็มาหานางในวันนั้น และนางก็ไม่ได้พูดอะไรหรือเห็นใจสักคำ แต่กลับเอาแต่พูดถึงการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานกับอนุโจวไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของลูกสาวของตัวเองที่ให้กำเนิดทารกสามคนจนเกือบตายแม่สามีที่โหดร้าย และแม่ตัวเองก็เย็นชาอมหิต ถ้าไม่ใช่เพราะคำปลอบโยนอย่างจริงใจของนางข้าหลวงสี่ก่อนนอนทุกวัน นางคงทรุดลงไปแล้วจริง ๆเมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ นางข้าหลวงสี่รู้สึกเสียใจแทนนางและพูดว่า "อย่ากังวลกับเรื่องนั้น รักษาสุขภาพอยู่เดือนให้ดี ไม่ต้องกังวลกับสิ่งใดอื่นในตอนนี้ มันจะทำลายสุขภาพเอาได้ นอนเถอะเพคะ"หยวนชิงหลิงขานรับและหลับตาแม้ว่าใจจะกระวนกระวาย แต่ก็เหนื่อยล้ามากเหลือเกิน และหลังจากนั้นไม่นานก็ผล็อยหลับไปนางหลับไปหนึ่งชั่วยาม และเมื่อนางตื่นขึ้นมา นางก็เห็นเจ้าห้านั่งอ่านหนังสืออยู่ข้าง ๆ นางสีหน้าของเขาดูจดจ่อมาก เขาพลิกหน้ากระดาษไปทีละหน้า หยวนชิงหลิงไม่ขยับเขยือนและมองเขาอยู่แบบนั้นมีหนังสือประเภทเด

    Last Updated : 2023-06-20
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 929

    “ไม่เพียงแค่ฮูหยินชางเท่านั้น แต่ยังมีฮูหยินของขุนนางข้าราชการทั้งน้อยใหญ่อีกกว่าสิบคนที่มีความสัมพันธ์กับเขา…”อวี่เหวินห่าวทนไม่ไหวอีกต่อไป "ไม่ใช่ใช่ไหม? เหล่าหยวน พ่อของเจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ ทำไมเขาถึงทำเช่นนี้? เขาเสพติดการเป็นชู้กับชาวบ้านหรือเปล่า"หยวนชิงหลิงแบมือ "ท่านว่าจะทำอย่างไรต่อ?"ดวงตาของอวี่เหวินห่าวเบิกกว้าง "ข้าจะทำอะไรได้อีก? ส่งเขาไป ถ้าเรื่องนี้ความแตกออกมา จวนจิ้งโฮ่วจะกลายเป็นตะแกรง? ถูกประนามด่าสาปจนตายเป็นแน่"“ข้าก็คิดอย่างนั้น ข้าหาวิธีบอกเขาให้ออกไปได้แล้ว” หยวนชิงหลิงพูดอย่างโกรธเคืองอวี่เหวินห่าวตกตะลึงอย่างมากและนึกถึงกู้จือขึ้นมา จึงเอ่ยถามไปว่า "เขายอมรับว่าลูกของกู้จือเป็นของเขาหรือไม่?""ไม่อยากยอมรับ แต่ข้าคาดว่าเป็นของเขาแน่ เขาบอกว่าเขาจะบีบคอเด็กหลังจากที่เด็กเกิดมา" หยวนชิงหลิงรู้สึกละอายใจเมื่อพูดออกมาอวี่เหวินห่าวพูดอะไรไม่ออก "เป็นไปได้ คนที่ทำงานใหญ่ เขาก็ต้องโหดร้ายมากพอ"“โหดร้ายและไร้ความปรานี? นับรวมเขาไม่ได้จริง ๆ เขาแค่เด็ดลูกพลับอ่อน จัดการแต่เรื่องง่าย ๆ เพียงเท่านั้น”อวี่เหวินห่าวไม่เห็นด้วย "อย่างน้อยเขาก็กล้าหาญกว่าข้

    Last Updated : 2023-06-20
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 930

    จิ้งโฮ่วพูดด้วยความโกรธ "นี่มันเรื่องของข้า ข้าไม่ได้บอกว่าจะจัดการกับมันอย่างไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเขา? หากมีอะไรเกิดขึ้น ข้าจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง"เขาไม่ยอมไปที่หนานเจียงเพื่อใช้ชีวิตอย่างทุรกันดาน ปราศจากความเจริญรุ่งเรืองและความมั่งคั่งในเมืองหลวง ไม่ใช่ท่านโฮ่วของราชสำนัก แต่เป็นเพียงสามัญชนเหมือนคนอื่นทั่วไปเขารู้สึกโกรธเล็กน้อยกับความปากมากของหยวนชิงหลิงไม่เคยมีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้หลายคนรู้เรื่องนี้แล้ว แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดเรื่องขึ้นจริง แต่มันเป็นความผิดของนางที่มาวุ่นวายเองเองถังหยางโน้มน้าวอย่างจริงจัง "ท่านโฮ่ว ผู้หญิงเหล่านี้ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ฮูหยินชางทำให้ท่านหัวขาดได้เลยนะ แล้วฮูหยินคนอื่นอีกเล่า? ครอบครัวสามีของพวกนางมีหรือปล่อยท่านไปได้? ท่านรีบไป ออกไปจากที่นี่ อย่างน้อยที่สุดก็เอาชีวิตรอดได้ และรัชทายาทก็ไม่ต้องมาพลอยลำบากไปด้วย"จิ้งโฮ่วพูดอย่างไม่พอใจ "เจ้ามักพูดว่าข้าจะทำให้เขาเดือดร้อน ข้าไปทำให้เขาเดือดร้อนอย่างไร? ไม่ใช่เขาที่ไปมีเรื่องวุ่นวายกับพวกนางสักหน่อย เป็นแค่เรื่องซุบซิบเล็กน้อยมิใช่หรือ? แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้ว? เขาเป็

    Last Updated : 2023-06-21
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 931

    คาดไม่ถึงว่าในขณะที่กำลังจะพาจิ้งโฮ่วออกไปนั้น ฮูหยินเฒ่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย นางมีอาการเส้นเลือดในสมองแตกอย่างกะทันหัน แต่นางก็ได้รับการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว แต่นางก็ยังพูดไม่ค่อยได้ และครึ่งร่างก็ขยับไม่ได้ เมื่อหยวนชิงหลิงได้ทราบนั้น นางรู้สึกกระวนกระวายใจมากที่ไม่สามารถกลับไปที่บ้านของนางได้ในช่วงที่อยู่เดือนเช่นนี้ นี่เป็นธรรมเนียม ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงขอให้เจ้าห้าและหมอหลวงไปเยี่ยมเมื่ออวี่เหวินห่าวและหมอหลวงมาถึง จิ้งโฮ่วและนางหวงฮูหยินของเขาก็ยืนอยู่ข้างเตียงดูแลฮูหยินเฒ่าอยู่ฮูหยินเฒ่ายังคงหลับอยู่ ใบหน้าของนางแดงก่ำ หมอหลวงบอกว่าหลังจากเกิดโรคลมนางเซื่องซึมมาก และสถานการณ์ก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย ยังคงมีความเสี่ยงอยู่จิ้งโฮ่วถึงกับร้องไห้จนตาบวม เขาดึงอวี่เหวินห่าวออกมาและพูดว่า "ข้ารู้ว่าพวกท่านกำลังจะพาข้าไป ข้าเองก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน การอยู่ในเมืองหลวงมันอันตรายจริง ๆ ข้ายอมไปแล้ว แต่รออีกสองสามวัน หลังจากอาการของฮูหยินเฒ่าทรงตัวข้าจะไปเอง ไม่เช่นนั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนางหลังจากที่ข้าออกไป ก็จะไม่มีใครส่งศพนางเลยแม้แต่คนเดียว”อวี่เหวินห่าวมองไปที

    Last Updated : 2023-06-21
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 932

    อวี่เหวินห่าวเห็นนางมองไปที่เสี่ยวลั่วหมี่อยู่ตลอดก็พูดว่า "อย่ารังเกียจไปเลย น่าเกลียดก็น่าเกลียดนิดหน่อย แต่เจ้าก็คลอดออกมาเอง ยอมรับเถอะนะ"หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ "ดูอย่างไรว่าน่าเกลียด?"“ตัวเหลือง ๆ ย่น ๆ เหมือนลูกหนูตัวเล็ก ข้าคิดว่าไม่ควรเรียกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ น่าจะเรียกเสี่ยวเหล่าสู่มากกว่า” อวี่เหวินห่าวยื่นมือออกไปอุ้มเขาไว้ “อย่าอุ้มนานเกินไป แผลยังไม่หายดี”เขามองลงไปที่เสี่ยวลั่วหมี่พลันรู้สึกขี้เหร่มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่หัวใจของเขาเต้นแรงเล็กน้อยเมื่อเห็นคนตัวเล็ก ๆ ที่เงียบสงบนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา ที่มีส่วนค่อนข้างคล้ายกับตัวเอง มันรู้สึกแปลกมากและมองไปก็คล้ายกับเหล่าหยวน จึงอดที่จะก้มหน้าจูบนางไม่ได้ลูกหนูสีเหลืองตัวเล็กนี้ แล้วมันทำไมกันล่ะ?“เขาตัวเหลืองค่อนข้างผิดปกติ” หยวนชิงหลิงกล่าว"อันที่จริงตาขาวก็เป็นสีเหลือง" อวี่เหวินห่าวกังวลเล็กน้อย "มีอะไรผิดปกติหรือไม่"“แค่เฝ้าสังเกตดูก่อน ไม่ต้องกังวลไป” หยวนชิงหลิงกล่าว“หนำซ้ำยังผอมมาก หรือว่าไม่ได้กินนม” อวี่เหวินห่าวอุ้มไปไว้ที่เปล หลังจากเปรียบเทียบทั้งสามคน ก็รู้สึกว่าเสี่ยวลั่วหมี่มีอะไรบางอย่าง

    Last Updated : 2023-06-22
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 933

    หยวนชิงหลิงยิ้ม "ข้าชอบนะ"ชื่อที่ราชวงศ์ตั้งให้ต้องบอกความหมายและความนัยนางชอบชื่อทั้งสามมากการได้เป็นมนุษย์มีชีวิตที่สงบสุขและร่มเย็น และชื่อสกุลอวี่ที่สอดคล้องกันก็เหมาะกับชื่อนี้เช่นกันอวี่เหวินห่าวชอบคำว่ากตัญญูเขาเห็นชัดเจนว่าที่เหล่าหยวนให้กำเนิดพวกเขานั้นลำบากเพียงใด ดังนั้นในอนาคตลูก ๆ จะต้องกตัญญูต่อเหล่าหยวนกู้จือถูกส่งกลับไปที่อารามชีหมิงเยว่ หยวนชิงหลิงมอบยาไร้กังวลให้แก่นาง และขอให้แม่นมฉีไปที่นั่นเพื่อดูแลนางจิ้งโฮ่วไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาใด ๆ ในช่วงนี้ และทุ่มเทดูแลฮูหยินเฒ่าในจวนเพียงเท่านั้นตอนนี้ฮูหยินเฒ่าคือผู้ช่วยชีวิตของเขา นางตายไม่ได้เป็นขาด แต่นางก็อยู่อย่างสบายไม่ได้เช่นเดียวกันอนุโจวคิดว่าเขาทำเช่นนี้เพื่อแสดงละคร และเห็นเขาดูแลฮูหยินเฒ่าอย่างหนัก นางแอบพูดกับเขาว่า "ท่านโฮ่วไม่ต้องลำบากดูแล ให้คนรับใช้มาปรนนิบัตินางเถิด ฮูหยินเฒ่าไร้ประโยชน์ ใช้การไม่ได้แล้ว"หลังจากได้ยิน จิ้งโฮ่วก็โกรธเป็นอย่างมากจนตบหน้านางลงไป และพูดอย่างโกรธเคือง "เจ้าหมายความว่าอย่างไรที่ไร้ประโยชน์ ถ้าเจ้ากล้าพูดเรื่องไร้สาระ ข้าจะฉีกปากเจ้าเป็นชิ้น ๆ"จิ้งโฮ่วโปรดปร

    Last Updated : 2023-06-22

Latest chapter

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

DMCA.com Protection Status