Share

บทที่ 778

Author: จูน
last update Last Updated: 2023-04-13 19:00:00
จักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เจ้าเมืองจิ้งเป่ยโลภมากเกินไปแล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้รับแต่งตั้งเป็นโฮ่ว แต่ก่อนที่เขาจะไปที่จิ้งเป่ยนั้น เขาเป็นเพียงแม่ทัพเท่านั้น

แม้ว่าในหลายปีมานี้เขาจะลำบากมาไม่น้อย แต่ราชสำนักก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเขาและครอบครัวอย่างเลวร้าย และมารดาของเขายังได้พระราชทานยศชั้นหนึ่งให้ ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งมิใช่หรือ?

อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิหมิงหยวนก็เคยชินกับพวกข้าราชบริพารทุกประเภท ดังนั้นเขาจึงส่ายหน้าเบา ๆ และตรัสว่า "คนหนุ่มสาวโกรธงอนกันง่าย เป็นข้าเองที่ขอให้นางกลับไปที่บ้านแม่เพื่อคิดทบทวนดู เมื่อทบทวนดีแล้ว ย่อมต้องใจเย็น และสงบสติอารมณ์ได้มากขึ้น”

เจ้าเมืองจิ้งเป่ยยิ้มแย้ม “เช่นนั้นหรือ? แต่ดูแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องของครอบครัวอ๋องฉู่ กระหม่อมพูดมากไปคงไม่เหมาะ ใช่แล้ว ฝ่าบาทอยากจะว่าถึงเรื่องการแต่งงานของกวงติง ไม่ทราบว่าเป็นคุณชาติตระกูลไหนพ่ะย่ะค่ะ? ฝ่าบาทอย่าได้หัวเราะเยาะกระหม่อมเลย ลูกสาวของกระหม่อมนั้นเอาแต่ใจ เกรงว่าถ้าธรรมดาจนเกินไป คงไม่เข้าตานาง”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากไม่ใช่พระชายาเอกของชินอ๋อง เขาย่อมไม่สนใจ

จักรพรรดิหมิงหยวนไม่รีบร้อนจิ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 779

    “นิสัยดีย่อมไม่เลว” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยพูดอย่างพึงพอใจ “แต่ฝ่าบาทคงต้องพยายามอย่างหนัก เขาไม่คิดให้ติงเอ๋อร์เป็นชายาเอก ไม่แปลกที่จะให้นางเป็นชายารอง”“ชายารอง? อ๋องฉู่จะแต่งชายารึ?” ฮูหยินเฒ่าตกใจเล็กน้อยโม่โม่ที่อยู่ข้าง ๆ รีบเข้ามากระซิบข้างหูนาง “ฮูหยินเฒ่าท่านลืมแล้วหรือ? ที่อารามชีหมิงเยว่คนที่ช่วยท่านในตอนนั้น พระชายาฉู่ไงล่ะเจ้าคะ”ฮูหยินเฒ่ามีที่ไหนจะกล้าลืมผู้มีพระคุณ เพียงแต่ไม่ได้ติดต่อไปทางอ๋องฉู่ เมื่อโม่โม่พูดเตือนสติจึงรีบกล่าวว่า “จำได้ ๆ”เจ้าเมืองจิ้งเป่ยที่ได้ฟังก็ประหลาดใจ จึงเอ่ยถามว่า “พระชายาฉู่อะไรหรือ? ใครเคยช่วยท่าน? ท่านแม่เป็นอะไรไปงั่นรึ?” ฮูหยินเฒ่าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่อารามชีหมิงเยว่ออกมาให้ฟัง และถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่นาง แม่จะมาเจอหน้าพวกเจ้าได้อย่างไร? ป่านนี้เกรงว่าศพคงจะเหม็นเน่าไปแล้ว”เจ้าเมืองจิ้งเป่ยถามด้วยความประหลาดใจ “มีเรื่องแบบนั้นด้วยรึ? เช่นนั้นพระชายาฉู่ก็เป็นผู้มีพระคุณของพวกเราแล้ว”“หรือไม่ใช่?” ฮูหยินเฒ่าถามเจ้าเมืองจิ้งเป่ยเศร้าสร้อย “ถ้าเป็นผู้มีพระคุณ เช่นนั้นให้นางสละตำแหน่งได้หรือไม่? ติงเอ๋อร์ของพวกเราเ

    Last Updated : 2023-04-14
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 780

    ฮู้กวงติงรู้ว่า หากวันนี้พ่อของนางพูดถึงเรื่องแต่งงาน ในใจของนางจึงรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ตลอด เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งให้ทราบ ใจนางก็เต้นโครมครามอยู่ตลอด นางรีบสงบสติอารมณ์และเดินตามสาวใช้ออกไป“ท่านย่า ท่านพ่อ!” ฮู้กวงติงก้าวเข้ามาทำความเคารพ เมื่อรู้ว่ากำลังพูดถึงการแต่งงานของตัวเอง ใบหน้าของนางก็แดงระเรื่อขึ้นมาเจ้าเมืองจิ้งโฮ่วยิ้มแย้มเมื่อมองลูกสาวของตัวเอง ในใต้หล้านี้จะมีผู้หญิงคนไหนสวยงามได้เท่านี้อีก? น่าเสียดายแม่ของนางด่วนจากไปเร็ว“ติงเอ๋อร์ นั่งลงก่อน พ่อกับท่านย่าของเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องใหญ่ เพียงแต่เรื่องนี้อยากถามความคิดเห็นเจ้าก่อน” เจ้าเมืองจิ้งโฮ่วเอ่ยขึ้นมาฮู้กวงติงนั่งลง ริมฝีปากสีแดงสดยิ้มแย้มออกมาและเอ่ยว่า “ท่านพ่อเชิญพูด”“พ่อรู้ดีว่าเจ้าเป็นคนมีจิตใจสูงส่งมาเสมอ จึงอาจไม่ยอมเป็นอนุได้ อันที่จริงพวกสามัญชนนี้อาจเรียกว่าอนุ แต่ในราชวงค์นั้นก็คือชายารอง เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร?" เจ้าเมืองจิ้งโฮ่วพยายามพูดให้มันดูสูงส่งขึ้นเล็กน้อย แต่พอมีคำว่าอนุต่อท้ายแล้ว มันดูไม่น่าสูงส่งเอาสักเท่าไหร่นัก ฮู้กวงติงใบหน้าแดงก่ำและเอ่ยเสียงเบาว่า “ลูกเต็มใจเจ้าค่ะ”เจ้าเ

    Last Updated : 2023-04-14
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 781

    ”ก็อ่อนกว่าท่าน!” ฮู้กวงติงห้ามไม่ให้เขาพูดจาเสีย ๆ หาย ๆ กับคนที่ตัวเองรัก “แล้วหล่อกว่าท่านด้วย”“เจ้า...” เคราของเจ้าเมืองจิ้งเป่ยกระเพื่อมไปหมด “อ่อนกว่าข้า ดูดีกว่าข้า แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ชายชราคนหนึ่ง ปีนี้เขาอายุสี่สิบหกปีแล้ว ส่วนเจ้าอายุแค่สิบเจ็ด เขาแก่กว่าเจ้าตั้งสามสิบปีเชียว"“ยี่สิบเก้าปี!” ฮู้กวงติงพูดแก้ให้"อายุยี่สิบเก้าปีก็มากเกินพอที่จะเป็นพ่อของเจ้า และก็เป็นปู่ของเจ้าได้ด้วย" เจ้าเมืองจิ้งเป่ยโกรธมากจนหัวใจจะวาย "ไม่เอา อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก"“ไม่ใช่เขาข้าไม่แต่ง” ฮู้กวงติงพูดออกมาเบา ๆ“เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องจัดการ เจ้าคิดเองไม่ได้”“ใครพูดแบบนั้น?” ฮู้กวงติงปฏิเสธ"เจ้าเพิ่งพูดไปเองนะ" เจ้าเมืองจิ้งเป่ยตบโต๊ะอย่างแรง เขาถลึงตาโตในดวงตาเหมือนมีเปลวไฟไม่มีผิดฮู้กวงติงตบโต๊ะและถลึงตากว้าง “ข้าไม่เคยพูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ ชีวิตของข้า ข้าตัดสินใจของข้าเอง ข้าอยากแต่งงานกับใครขึ้นอยู่กับข้า ไม่ใช่ท่าน พูดสั้น ๆ เลยนะ ถ้าข้าไม่ได้แต่งงานกับฝ่าบาท ข้าก็จะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น"“ข้าจะฆ่าเจ้า เจ้าเด็กบ้านี่!” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยยกมือขึ้นกำลังจ

    Last Updated : 2023-04-14
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 782

    เจ้าเมืองจิ้งเป่ยมองลูกสาวตัวเอง เขารู้สึกอยากตายขึ้นมาจริง ๆการกลับมาที่เมืองหลวงในคราวนี้ เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่า เขาจะนำพาเกียรติยศศักดิ์ศรีที่ตระกูลฮู้ควรได้รับเขารู้ว่าฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับชัยชนะในครั้งนี้ เขาจึงกลับมาอย่างกล้าหาญองอาจ วันนี้ในวังนั้น เขายังท้าทายฝ่าบาทแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่บรรลุเป้าหมาย แต่เขาจะต้องชนะอย่างแน่นอนดังนั้นตอนที่ออกจากวังแล้วกลับจวนมานั้น เขากลับมาด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมหารู้ไม่ว่า ความเพียรพยายามที่เขาสั่งสมมา แค่ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ เขาก็ถูกลูกสาวของเขาเอารองเท้าตบจนเละไม่มีชิ้นดี ตบหน้าชราของเขาจนเขามึนงงไปหมดแล้วนี่คืออะไร? เขาจงใจสร้างบรรยากาศออกมาอย่างล้ำลึก พยายามชักใยฝ่าบาท แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ฝ่าบาทก็ชักใยลูกสาวสุดที่รักของเขางั้นรึ?เหมือนโดนน้ำเย็นนี้สาดเข้าดับไฟแห่งการต่อสู้เข้าอย่างจังเขาแก่กว่าฮ่องเต้หนึ่งปี เขาก็เป็นพ่อตาของฮ่องเต้อย่างนั้นรึ?โอ้สวรรค์ รับไม่ได้แต่เมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้ แต่ตัวเขาเองก็ยังโกรธอยู่ เขาเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันแล้วลูกสาวก็ยื่นคำขาดมาว่า ถ้าฝ่าบาทไม่ต้องการนาง น

    Last Updated : 2023-04-15
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 783

    แม่ทัพหนุ่มฮู้ท่าทางเฉยชามากกับเรื่องนี้ “แต่งกับฝ่าบาทแล้วอย่างไร? นั่นคือสิ่งที่นางคิดหวังอยู่ในใจ จะว่าไปฝ่าบาทก็ไม่ได้แก่นัก เขายังอ่อนเยาว์ ยังมีสง่าราศี ดูเหมือนยังสามสิบไม่มีผิด”“พ่อแก่กว่าเขาแค่หนึ่งปีเท่านั้น” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยพูดอย่างขุ่นเคืองแม่ทัพหนุ่มฮู้ถึงกับอึ้งไป เขาเพ่งมองดูพ่ออย่างละเอียดและพูดว่า "จริงหรือ? โอ้สวรรค์ ท่านพ่อ ท่านดูเหมือนอายุหกสิบปี แล้วทำไมท่านดูแก่กว่าฝ่าบาทตั้งหลายสิบปีกัน?"“ที่จิ้งเป่ยนั้นช่างทุรกันดาร พ่อเจ้าทำงานอย่างหนักเพื่อประเทศชาติ ถึงได้แก่กว่าอย่างไรเล่า” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยโกรธมากแม้ว่าผู้ชายจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตา แต่วีรบุรุษจะทำตัวเหมือนไม้ใกล้ฝั่งไม่ได้ เขาเพิ่งอายุสี่สิบเท่านั้น ยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง การแต่งงานภรรยากับอนุหลายคนนั้นไม่ใช่ปัญหา"ฝ่าบาทเองก็ทรงงานหนักเพื่อชาติบ้านเมืองทุกวันมิใช่หรือ? ในท้ายที่สุด นี่ก็เป็นเพียงปัญหาเท่านั้น" แม่ทัพหนุ่มฮู้รู้สึกกังวลอย่างมาก มองเขาอย่างอ้ำอึ้ง "ท่านพ่อ ข้าเป็นลูกชายของท่านหรือไม่?"“เจ้าพูดบ้าอะไรของเจ้า?” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยยกมือตบ แต่พลาดตบไม่โดน “เจ้ากับน้องเจ้า

    Last Updated : 2023-04-15
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 784

    มู่หรูกงกงเข้ามาพร้อมน้ำชา จากนั้นก็ถอยออกไปจักรพรรดิหมิงหยวนจิบน้ำชาแล้วตรัสว่า "แล้วเรื่องแต่งงานของลูกสาวสุดที่รักของเจ้า ยังต้องการอะไรอีกหรือ?"เจ้าเมืองจิ้งเป่ยกลืนน้ำลาย และมองไปที่พระพักตร์ของจักรพรรดิหมิงหยวนทำไมไม่มีริ้วรอยบนใบหน้าบ้างเลย? ทำไมทั้งคิ้ว ตา ปาก จมูกทั้งหมดถึงดูดีได้ขนาดนี้? ท่านอ๋องทุกคนล้วนเหมือนเขา ทั้งหล่อเหลาและสง่างาม เขาเคยเห็นฮ่องเต้ตอนยังหนุ่ม เกรงว่าเขาน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ดูดีที่สุดในเมืองหลวงเป็นแน่เป็นคนที่เปรียบแล้วเหนือกว่าคนอื่นจริง ๆ น่าคับแค้นใจนัก“หือ?” จักรพรรดิหมิงหยวนเหลือบมองไปอย่างเย็นชา สายตาราวกับมีแสงเฉียบคมฉายแวว “เจ้าเป็นอะไร?”เจ้าเมืองจิ้งเป่ยรีบเก็บอาการ และก็รู้ว่าวันนี้เขาต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จให้ได้ จึงถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า "อันที่จริง กระหม่อมเข้าใจความหมายของลูกสาวของกระหม่อมผิดไป ลูกสาวของกระหม่อมไม่ได้อยากแต่งงานกับอ๋องฉู่พ่ะย่ะค่ะ""โอ้? นางอยากจะแต่งงานกับใครรึ นางชอบใครอยู่?" จักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกโล่งใจ เขาเองไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หยวนซือและเจ้าห้าลำบาก เขาแค่อยากเป็นพ่อที่มีเมตตาในสายตาพวกเขาเจ้าเมืองจิ

    Last Updated : 2023-04-15
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 785

    หยวนชิงหลิงมองนาง รู้สึกทั้งแปลกและประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูกแววตาของนาง...คล้ายกับสายตาของไทเฮาที่มีทั้งความรักและเป็นห่วง"ขอบใจนะ" หยวนชิงหลิงพูดได้แค่นี้ ไม่แน่ใจว่านางหมายความว่าอะไรกันแน่ฮู้กวงติงกล่าวว่า "ข้านำยาบำรุงครรภ์มาให้ท่าน และเตรียมพวกของเล่นเด็กมานิดหน่อย หวังว่าท่านจะชอบนะเพคะ"ขณะที่นางพูด ก็ลุกขึ้นยกของขวัญที่นางนำมาให้ด้วยตัวเองหยวนชิงหลิงมองดูพวกของล้ำค่า และพวกของเล่นที่นางพูดถึง หยวนชิงหลิงถึงกับชะงักไป นอกจากป๋องแป๋งกับลูกบอลแล้ว ที่เหลือเป็นอาวุธทั้งหมดมีทั้งแส้ยาว มีดสั้น กล่องอาวุธลับ และขลุ่ยเลาหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าขลุ่ยเลาจะมีกลไกซ่อนอยู่แน่นอนว่านางหยิบขลุ่ยเลานั้นขึ้นมา และกดไปที่รูที่สาม และเสียง "หวือ" ก็ดังขึ้น พร้อมเข็มเงินก็พุ่งออกมาและปักแน่นอยู่ที่ประตูหยวนชิงหลิงถึงกับพูดอะไรไม่ออก“ไม่ชอบหรือ?” ฮู้กวงติงเอ่ยถาม“ชอบสิ ชอบ” หยวนชิงหลิงที่ได้สติมองไปที่นาง และเห็นว่านางมองมาทางนางเหมือนแม่ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนโยน จนน้ำตาแทบไหลออกมาสถานการณ์ต่อไปที่เกิดขึ้นยิ่งคิดก็ยิ่งน่าฉงนฮู้กวงติงสวมบทบาทเป็นฮูหยินเฒ่าอย่างเต็มที่ นา

    Last Updated : 2023-04-16
  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 786

    หยวนชิงหลิงกลับไปหาเจ้าห้า แล้วเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับฮู้กวงติงให้เขาฟังจากนั้นนางก็รวบรวมความกล้า เอ่ยเดาอย่างระมัดระวังว่า “นางคงไม่ได้ชอบพอเสด็จพ่อหรอกนะ? ข้ารู้สึกว่านางวางท่าทีเหมือนผู้ใหญ่? และนางยังบอกอีกว่า หากไม่คุกเข่าในวันนี้วันหลังคงไม่เหมาะแล้ว มันจะเป็นไปได้ไหม?”หลังจากได้ยินเช่นนี้ อวี่เหวินห่าวรู้สึกไม่ยินดีเท่าไหร่ แต่ไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นในแววตาของเขาได้ "อะไรนะ? ไม่ชอบข้า แต่ชอบตาเฒ่าอย่างเสด็จพ่อ บอกได้เลยว่าคงไม่เคยพบผู้ชายดี ๆ มาก่อน อ่อนประสบการณ์จริง ๆ"หยวนชิงหลิงเลิกคิ้ว “เสียดาย? ให้ข้าไปขอร้องให้เอาไหม?”อวี่เหวินห่าวโบกมือ “ช่างเถอะ แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน ข้าจะไว้ชีวิตนางแล้วกัน”หยวนชิงหลิงนั่งลงข้างเตียงและพูดว่า "นี่เป็นเพียงการเดาของข้า มันอาจจะไม่ใช่ความจริง ตอนแรกข้าคิดว่านางหยิ่งจองหอง แต่เจอนางในวันนี้ กลับไม่เป็นเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าข่าวลือข้างนอกเป็นเรื่องโกหก""นางเติบใหญ่อยู่ที่จิ้งเป่ย และชื่อเสียงของนางก็กระจายมาถึงเมืองหลวงที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่มันจะถูกบิดเบือน" อวี่เหวินห่าวรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้

    Last Updated : 2023-04-16

Latest chapter

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status