“กงกง เสด็จพ่อเองก็มีความลำบากใจ ไม่ใช่ว่าข้ามองข้ามความหวังดี หรือตั้งตนเป็นศัตรูกับพระองค์แต่อย่างไร ข้าย่อมรู้ว่าพระองค์เลือกหนทางที่ดีที่สุดสำหรับข้า ท่านอ๋องไม่ได้ชอบพอคุณหนูฮู้ ถึงแต่งเข้ามาเป็นชายารอง ก็ไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์สามีภรรยาของพวกเราอยู่แล้ว"มู่หรูกงกงรู้สึกไม่เข้าใจจึงเอ่ยถามต่อไป "ในเมื่อพระชายาทรงทราบอยู่แล้ว ทำไมถึงได้ท้าทายฝ่าบาท? พระองค์เองก็น่าจะรู้หากฝ่าบาทมีประสงค์อยากสร้างความลำบากใจให้จริง ๆ พระองค์คงไม่เรียกให้พระชายามาที่มาวังหลวง เพื่อร่วมโต๊ะเสวยนะพ่ะย่ะค่ะ หากพูดกันตามตรง หากพระองค์มีรับสั่งลงมา พระชายาก็ไม่อาจขัดราชโองการได้"หยวนชิงหลิงยิ้มอย่างขมขื่น "เสด็จพ่อทรงให้ความสำคัญกับข้ายิ่งนัก ข้าไม่อาจมองข้ามความหวังดีนั้นได้ แต่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับข้านั้น ทำให้ท่านอ๋องยังอกสั่นขวัญแขวนอยู่ เขาจะไม่ยอมให้คุณหนูฮู้แต่งเข้ามา และถ้าหากเขาฝ่าฝืนรับสั่ง หรือคืนนี้ข้าขัดแย้งกับฝ่าบาทอย่างรุนแรงขึ้นมาเล่า? กงกงลองคิดไตร่ตรองให้ดีก็จะรู้ ข้ากลับไปที่บ้านแม่ข้า และพยายามทำให้ตัวเองดูเหมือนถูกเพิกเฉยถูกทอดทิ้ง ล้วนเป็นการดีต่อข้าและลูกในท้อง อย่างน้อยก็ใน
หยวนชิงหลิงรู้สึกซาบซึ้งในความพยายามอุตสาหะของพวกนาง นางรู้ว่าการกลับไปบ้านแม่จะทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมีพวกนางสองคนอยู่ด้วย อย่างน้อยนางก็รับประกันได้ว่านางเองไม่ได้ลำบากขนาดนั้นในอีกด้านหนึ่ง อวี่เหวินห่าวรอให้หยวนชิงหลิงกลับมาที่จวน แต่สุดท้ายก็รอนางจนได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ให้เขาเข้าไปในวังเมื่อตอนที่เขาขี่ม้าเข้าไปในวัง เขาเห็นรถม้าของหยวนชิงหลิง เขาจึงควบม้าเพื่อหยุดขวางทางรถม้าไว้มู่หรูกงกงจงใจให้พวกเขาได้พบกัน ดังนั้นเขาจึงไม่เรียกให้รถวิ่งไปทางอื่นดังนั้นหลังจากรถม้าหยุดลง มู่หรูกงกงรีบพูดกับหยวนชิงหลิงว่า "พระชายา อย่าพูดถึงเรื่องในวังเด็ดขาด ด้วยนิสัยของท่านอ๋องแล้ว ข้าเกรงว่าจะไม่อาจระงับความโกรธ และอาจทำการล่วงเกินเบื้องสูงในวังได้นะพ่ะย่ะค่ะ”หยวนชิงหลิงพยักหน้าเล็กน้อย และลงจากรถม้าอวี่เหวินห่าวที่เพิ่งลงจากหลังม้าและรีบเดินไปพูดว่า "เจ้าอย่าลงมา ข้างนอกมันหนาวมาก"เขารีบกอดนางไว้ในอ้อมแขน และห่อนางด้วยเสื้อคลุมพร้อมถามว่า "เสด็จพ่อตรัสว่าอย่างไรบ้าง"หยวนชิงหลิงฝังหน้านางไว้ที่อกของเขา และสูดกลิ่นที่คุ้นเคยและปลอดภัย นางถึงได้รู้สึกผ่
นางข้าหลวงสี่เข้าไปเห็นหยวนชิงหลิงใบหน้าดูซีดขาว,นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวใช้สองมือกุมท้องไว้อาซื่อเห็นนางข้าหลวงสี่มาแล้ว จึงรีบดึงมือนางเข้ามา “โมโม่ ท่านรีบดูอาการพระชายาที พระชายาปวดท้อง”“เกิดอะไรขึ้นเพคะ?” นางข้าหลวงสี่นั่งลงที่เก้าอี้ตัวเล็กข้างหยวนชิงหลิง และลูบท้องนางเบา ๆ “เจ็บไหมเพคะ?”หยวนชิงหลิงหายใจเข้าลึก “ไม่ได้เจ็บมาก แค่ปวดนิดหน่อยเท่านั้น”นางข้าหลวงสี่ตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย “หรืออาจจะกระเทือนถึงครรภ์”หยวนชิงหลิงโบกมือเล็กน้อย “ไม่เป็นไร อาจจะเป็นเพราะข้าเครียดเกินไป พักสักหน่อยคงดีขึ้น”โมโม่มองนาง “ทำไมถึงต้องกลับบ้านแม่ล่ะเพคะ? เป็นพระประสงค์ฝ่าบาทหรือ?”“เป็นความคิดข้าเอง ข้าอยากกลับบ้านแม่ไปพักสักระยะหนึ่ง โมโม่อย่าถามอีกเลยนะ รีบไปกันเถอะ” หยวนชิงหลิงเอ่ยตามนั้นนางข้าหลวงสี่จึงหันไปหามู่หรูกงกง และลากเขาออกไปด้านข้าง “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? พระชายาทรงครรภ์อยู่เช่นนี้ ทำไมถึงให้นางกลับบ้านแม่ได้? สถานการณ์ในจวนจิ้งโฮ่วทางนั้น ไม่ใช่ฝ่าบาทจะไม่ทรงทราบสักหน่อย”มู่หรูกงกงถอนหายใจออกมาเบา ๆ “พระชายาเป็นคนขอด้วยตัวเองเอง ฝ่าบาทต้องการให้อ๋องฉู่รับคุณหนูฮู้เ
อวี่เหวินห่าวใกล้จะเป็นบ้าเต็มทีแล้วเขาได้ยินจักรพรรดิหมิงหยวนให้เขาแต่งกับอะไรนะคุณหนูแตงกวาบ้าบออะไรสักอย่าง เขาโกรธจนแทบอยากจะอาละวาดออกมาเขาคุกเข่าลงกับพื้น และเอ่ยอย่างดื้อรั้นว่า “ไม่แต่ง ใครก็ไม่อยากแต่งทั้งนั้น จะแตงกวาฟักเขียวจากไหนก็ไม่แต่ง”“ไอลูกอกตัญญู เจ้าบังอาจนัก!” จักรพรรดิหมิงหยวนเองก็รู้ว่าต้องเป็นเช่นนี้ แต่ก็ยังโกรธจนปวดสมองกันบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ"ในชีวิตนี้ของลูกมีเพียงหยวนชิงหลิงเป็นพระชายาเท่านั้น และจะไม่มีชายารองพ่ะย่ะค่ะ" อวี่เหวินห่าวกล่าวจักรพรรดิหมิงหยวนทรงกริ้วจัด จึงตบเข้าที่หัวลูกหัวดื้อนี่เข้าไปสักที “เจ้ามีโอกาสมิใช่รึ? กะอีแค่สตรีนางเดียว ถ้าแต่งไปแล้วไม่ชอบก็อย่าไปแตะต้องนาง ให้นางอยู่แต่ในจวนเงียบ ๆ ไปมันจะไปเดือดร้อนพวกเจ้าสามีภรรยานักรึ?"อวี่เหวินห่าวถูกตบจนกะโหลกสะเทือน แต่จักรพรรดิหมิงหยวนกลับเจ็บมือแทนซะนี่เส้นเลือดบนหน้าผากอวี่เหวินห่าวเต้นตุ้บ ๆ “เสด็จพ่อ ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไมต้องแต่งกับนางด้วย? ข้าไม่ชอบนาง เข้ากับนางไม่ได้ การแต่งงานกับนางจะเป็นการทำร้ายนางไปชั่วชีวิต ข้าทำสิ่งโหดร้ายเช่นนี้ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"“โหด
ลูกคนนี้ค่อนข้างจะดื้อรั้นไปหน่อย แต่ก็มีความสามารถอยู่บ้างเสียที่ใจร้อนไปไม่สิ พอได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบเรื่องสำคัญ ก็เริ่มดื้อรั้นพยายามขัดขืนอวี่เหวินห่าวกล่าวว่า "หากเสด็จพ่อระแวงในตัวของเจ้าเมืองจิ่งเป่ย ก็ไม่จำเป็นต้องให้ลูกแต่งกับคุณหนูฮู้ก็ได้ เสด็จพ่อก็รับคุณหนูฮู้เป็นบุตรบุญธรรม แต่งตั้งให้นางเป็นองค์หญิง และขอให้นางเข้าวังอยู่เป็นเพื่อนเสด็จแม่มันก็ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”จักรพรรดิหมิงหยวนจ้องมองเขาด้วยความโกรธ "เหมือนกันอย่างไร?"เจ้าเด็กคนนี้ไม่รู้จักความเหมาะสมเอาซะเลยหลังจากแต่งงานกับคุณหนูฮู้แล้ว เจ้าเมืองจิ่งเป่ยก็จะกลายเป็นพ่อตาของเขา นี่เป็นการยกย่อง และสนับสนุนเขามากขนาดไหน?ดูเหมือนว่าจะต้องลับคมอีกสักหน่อย แม้ว่าขอบเหลี่ยมจะไม่โค้งมน แต่อย่างน้อยด้านคมก็ต้องมนลงอีกสักเล็กน้อยจักรพรรดิหมิงหยวนทรงกริ้วมาก ตวามคิดที่ว่ารับคุณหนูฮู้เป็นบุตรบุญธรรม ตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเมื่อมองดูในตอนนี้ นี่ก็เป็นกลยุทธ์ที่เป็นไปได้เรื่องยุ่งยากก็ได้เกิดขึ้นแล้ว หยวนชิงหลิงที่ถูกไล่ให้กลับบ้านแม่ไป เจ้าเด็กดื้อคนนี้ หากไม่สั่งสอนเสียบ้าง เกรงว่าวั
จิ้งโฮ่วตกใจ แล้วหันไปมองนางข้าหลวงสี่นางข้าหลวงสี่ที่มาที่นี่นางก็จงใจแต่งตัวเช่นกัน นางสวมชุดผ้าไหมต่วนสีม่วงเข้มลายดอกไม้ ผมสีขาวของนางถูกหวีเกล้าอย่างเรียบร้อยเป็นมวยสูง ปักปิ่นหยกลายหรูอี้ นางทำงานในวังหลวงมาตลอด ดังนั้นทั่วทั้งร่างของนางจึงเปี่ยมไปด้วยสง่าราศีของชาววังนางย่อกายคารวะจิ้งโฮ่วเล็กน้อย "ท่านโฮ่ว ข้าขอคารวะท่าน จากนี้ไปที่จวนแห่งนี้ ข้าคนนี้จะคนรับผิดชอบดูแลพระชายา ไท่ซ่างหวงมีรับสั่งลงมา ท้องนี้สายเลือดของราชวงศ์อยู่ ไม่อนุญาตให้มีข้อผิดพลาดใดเกิดเป็นอันขาด ดังนั้นขอท่านโฮ่วโปรดให้ความร่วมมือกับข้าด้วย"จิ้งโฮ่วรีบตอบกลับทันที “แน่นอน ๆ”นางข้าหลวงสี่ดึงอาซื่อเข้ามา และเอ่ยแนะนำว่า "ท่านนี้นี่คือคนที่ฮูหยินเฒ่าหยวนส่งมาเพื่อติดตามดูแลพระชายา นางคือทายาทคนที่สี่ของตระกูลหยวน"อาซื่อพูดอย่างเสียงดังฟังชัดว่า “คารวะท่านโฮ่ว”“โอ้” จิ้งโฮ่วรีบมองไปทางอาซื่อ “ที่แท้ก็เป็นคุณหนูจากตระกูลหยวนนี่เอง”จิ้งโฮ่วเองก็นึกสงสัยอยู่ในใจ นางกลับมากลางดึกเช่นนี้ แถมมู่หรูกงกงเป็นคนมาส่งนางกลับด้วยตนเอง นางต้องก่อเรื่องอะไรสักอย่าง และฝ่าบาทลงโทษก่อนที่จะส่งนางกลับมาแน่เขาก
จิ้งโฮ่วไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้โชคร้ายนักหากว่ากันก็ตามตรงก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว วางแผนให้ลูกสาวแต่งงานกับอ๋องฉู่ด้วยความช่วยเหลือจากผู้สูงศักดิ์อย่างฉู่หมิงชุ่ย ก็ประสบความสำเร็จแล้วหากเกี่ยวดองกับฮุ่ยติ่งโฮ่วได้ การแต่งงานก็เป็นอันสำเร็จ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงพ่อตาของอ๋องฉู่ แต่ยังเป็นพ่อตาของฮุ่ยติ่งโฮ่วด้วย และได้เกี่ยวข้องกับตระกูลฉู่อีก แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อะไรเลย และลูกสาวของเขาก็กลายเป็นของมือสอง ถูกส่งคืนกลับมา ต่อไปจะแต่งงานกับใครที่ไหนได้อีก ตระกูลเศรษฐีไหนที่อยากได้นางกันเหล่า?ช่างเป็นพ่อที่น่าสงสารที่สุดในโลกแล้ว!จิ้งโฮ่วโกรธมากจนไม่ได้นอนทั้งคืน คิดว่าพรุ่งนี้เมื่อหยวนชิงหลิงอยู่ตามลำพังเมื่อไหร่ เขาจะถามนางดูหยวนชิงหลิงเองนอนไม่หลับเลยทั้งคืนเมื่อก่อนไม่ชินกับการมีคนนอนข้าง ๆ แต่ตอนนี้ไม่ชินกับการที่ไม่มีเจ้าห้าอยู่ข้าง ๆ ความเคยชินเป็นสิ่งที่น่ากลัวด้วยนิสัยของเขาแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาจะก่อเรื่องในวังขึ้นมาไหม?เขาจะตำหนินางที่ตัดสินใจแบบนี้หรือไม่? เขาต้องตำหนิแน่ และเขาต้องไม่ยอมให้อภัยด้วยข้อเสียทั้งหมดของเขา จะใครทนเขาได้นอกจากนางอีก?คุณห
หยวนชิงหลิงจึงตอบนางว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์เลือก ถ้าข้าไม่กลับ สถานการณ์จะยิ่งกดดันขึ้น ยิ่งกว่านั้นฝ่าบาทตั้งใจจะเอาความผิดนี้เพื่อมาขังข้าไว้ หากข้าถูกขัง แล้วฝ่าบาทบังคับทำอะไรเขาก็ต้องทำ แบบนั้นก็จะไม่เหลือทางเลือกอื่นให้เขาเลย”"เรื่องนี้ไท่ซ่างหวงทรงทราบหรือไม่" นางข้าหลวงสี่เอ่ยถามหยวนชิงหลิงส่ายหน้าเบา ๆ “ข้าไม่สามารถไปขอให้ไท่ซ่างหวงช่วยเรื่องนี้ได้ พระองค์ช่วยข้ามาหลายครั้งแล้ว หากครั้งนี้ยังให้เขามาเผชิญหน้ากับเสด็จพ่อเพื่อข้าล่ะก็ ข้าคงได้ทำผิดมหันต์ลงไปจริง ๆ อย่างน้อยสิ่งที่ฝ่าบาททำ ในมุมมองของพระองค์และไท่ซ่างหวง มันก็ไม่ได้ผิดอะไร"นางข้าหลวงสี่กล่าวว่า "หลายสิ่งหลายอย่างไม่มีถูกหรือผิดจริง ๆ ขึ้นอยู่กับมุมมองและความเข้าใจ"หยวนชิงหลิงยื่นแก้วให้นาง "ไปนอนกันเถอะ อย่าพูดถึงมันเลย วันนี้ผ่านไปก็กลายเป็นอีกวัน อยู่ในจวนก็ดี สามารถดูแลครรภ์นี้ได้อย่างสงบ และภายนอกจะไม่รบกวนอะไรด้วย แต่พรุ่งนี้ท่านต้องขอให้หมานเอ๋อร์เอายาส่งไปที่จวนอ๋องหวย แล้วไปที่จวนอ๋องจี้บอกพระชายาจี้ให้นางตรงมาที่จวนจิ้งโฮ่ง เพื่อมาหาข้าทีนะ""เพคะ!" นางข้าหลวงสี่วางแก้วบนโต๊ะ จากนั้นกลับมาลดม่านลงให