จิ้งโฮ่วตกใจ แล้วหันไปมองนางข้าหลวงสี่นางข้าหลวงสี่ที่มาที่นี่นางก็จงใจแต่งตัวเช่นกัน นางสวมชุดผ้าไหมต่วนสีม่วงเข้มลายดอกไม้ ผมสีขาวของนางถูกหวีเกล้าอย่างเรียบร้อยเป็นมวยสูง ปักปิ่นหยกลายหรูอี้ นางทำงานในวังหลวงมาตลอด ดังนั้นทั่วทั้งร่างของนางจึงเปี่ยมไปด้วยสง่าราศีของชาววังนางย่อกายคารวะจิ้งโฮ่วเล็กน้อย "ท่านโฮ่ว ข้าขอคารวะท่าน จากนี้ไปที่จวนแห่งนี้ ข้าคนนี้จะคนรับผิดชอบดูแลพระชายา ไท่ซ่างหวงมีรับสั่งลงมา ท้องนี้สายเลือดของราชวงศ์อยู่ ไม่อนุญาตให้มีข้อผิดพลาดใดเกิดเป็นอันขาด ดังนั้นขอท่านโฮ่วโปรดให้ความร่วมมือกับข้าด้วย"จิ้งโฮ่วรีบตอบกลับทันที “แน่นอน ๆ”นางข้าหลวงสี่ดึงอาซื่อเข้ามา และเอ่ยแนะนำว่า "ท่านนี้นี่คือคนที่ฮูหยินเฒ่าหยวนส่งมาเพื่อติดตามดูแลพระชายา นางคือทายาทคนที่สี่ของตระกูลหยวน"อาซื่อพูดอย่างเสียงดังฟังชัดว่า “คารวะท่านโฮ่ว”“โอ้” จิ้งโฮ่วรีบมองไปทางอาซื่อ “ที่แท้ก็เป็นคุณหนูจากตระกูลหยวนนี่เอง”จิ้งโฮ่วเองก็นึกสงสัยอยู่ในใจ นางกลับมากลางดึกเช่นนี้ แถมมู่หรูกงกงเป็นคนมาส่งนางกลับด้วยตนเอง นางต้องก่อเรื่องอะไรสักอย่าง และฝ่าบาทลงโทษก่อนที่จะส่งนางกลับมาแน่เขาก
จิ้งโฮ่วไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้โชคร้ายนักหากว่ากันก็ตามตรงก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว วางแผนให้ลูกสาวแต่งงานกับอ๋องฉู่ด้วยความช่วยเหลือจากผู้สูงศักดิ์อย่างฉู่หมิงชุ่ย ก็ประสบความสำเร็จแล้วหากเกี่ยวดองกับฮุ่ยติ่งโฮ่วได้ การแต่งงานก็เป็นอันสำเร็จ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงพ่อตาของอ๋องฉู่ แต่ยังเป็นพ่อตาของฮุ่ยติ่งโฮ่วด้วย และได้เกี่ยวข้องกับตระกูลฉู่อีก แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อะไรเลย และลูกสาวของเขาก็กลายเป็นของมือสอง ถูกส่งคืนกลับมา ต่อไปจะแต่งงานกับใครที่ไหนได้อีก ตระกูลเศรษฐีไหนที่อยากได้นางกันเหล่า?ช่างเป็นพ่อที่น่าสงสารที่สุดในโลกแล้ว!จิ้งโฮ่วโกรธมากจนไม่ได้นอนทั้งคืน คิดว่าพรุ่งนี้เมื่อหยวนชิงหลิงอยู่ตามลำพังเมื่อไหร่ เขาจะถามนางดูหยวนชิงหลิงเองนอนไม่หลับเลยทั้งคืนเมื่อก่อนไม่ชินกับการมีคนนอนข้าง ๆ แต่ตอนนี้ไม่ชินกับการที่ไม่มีเจ้าห้าอยู่ข้าง ๆ ความเคยชินเป็นสิ่งที่น่ากลัวด้วยนิสัยของเขาแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาจะก่อเรื่องในวังขึ้นมาไหม?เขาจะตำหนินางที่ตัดสินใจแบบนี้หรือไม่? เขาต้องตำหนิแน่ และเขาต้องไม่ยอมให้อภัยด้วยข้อเสียทั้งหมดของเขา จะใครทนเขาได้นอกจากนางอีก?คุณห
หยวนชิงหลิงจึงตอบนางว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์เลือก ถ้าข้าไม่กลับ สถานการณ์จะยิ่งกดดันขึ้น ยิ่งกว่านั้นฝ่าบาทตั้งใจจะเอาความผิดนี้เพื่อมาขังข้าไว้ หากข้าถูกขัง แล้วฝ่าบาทบังคับทำอะไรเขาก็ต้องทำ แบบนั้นก็จะไม่เหลือทางเลือกอื่นให้เขาเลย”"เรื่องนี้ไท่ซ่างหวงทรงทราบหรือไม่" นางข้าหลวงสี่เอ่ยถามหยวนชิงหลิงส่ายหน้าเบา ๆ “ข้าไม่สามารถไปขอให้ไท่ซ่างหวงช่วยเรื่องนี้ได้ พระองค์ช่วยข้ามาหลายครั้งแล้ว หากครั้งนี้ยังให้เขามาเผชิญหน้ากับเสด็จพ่อเพื่อข้าล่ะก็ ข้าคงได้ทำผิดมหันต์ลงไปจริง ๆ อย่างน้อยสิ่งที่ฝ่าบาททำ ในมุมมองของพระองค์และไท่ซ่างหวง มันก็ไม่ได้ผิดอะไร"นางข้าหลวงสี่กล่าวว่า "หลายสิ่งหลายอย่างไม่มีถูกหรือผิดจริง ๆ ขึ้นอยู่กับมุมมองและความเข้าใจ"หยวนชิงหลิงยื่นแก้วให้นาง "ไปนอนกันเถอะ อย่าพูดถึงมันเลย วันนี้ผ่านไปก็กลายเป็นอีกวัน อยู่ในจวนก็ดี สามารถดูแลครรภ์นี้ได้อย่างสงบ และภายนอกจะไม่รบกวนอะไรด้วย แต่พรุ่งนี้ท่านต้องขอให้หมานเอ๋อร์เอายาส่งไปที่จวนอ๋องหวย แล้วไปที่จวนอ๋องจี้บอกพระชายาจี้ให้นางตรงมาที่จวนจิ้งโฮ่ง เพื่อมาหาข้าทีนะ""เพคะ!" นางข้าหลวงสี่วางแก้วบนโต๊ะ จากนั้นกลับมาลดม่านลงให
หยวนชิงผิงพูดว่า “ข้าไม่ไป ข้าจะอยู่ฟังที่นี่ด้วย”สักครู่หนึ่ง จิ้งโฮ่วเดินเอามือไขว้หลังเข้ามาเขาสวมชุดสีน้ำเงินปักลวดลายปลา คาดเข็มขัดหยก ก้าวเดินลงน้ำหนักเท้าทำให้ดูมีสง่าราศีเขาเข้ามาเหลือบมองหยวนชิงผิง “มาแต่เช้า มีทองให้เก็บรึอย่างไร?”“คารวะท่านพ่อ!” หยวนชิงผิงลุกขึ้นย่อกายทำความเคารพหยวนชิงหลิงก็ลุกขึ้นย่อกายทำความเคารพด้วยเช่นกัน “คารวะท่านพ่อ!”จิ้งโฮ่วว้าวุ่นใจตลอดคืน ร้อนรนกระวนกระวานเสียจนไม่สนหยวนชิงผิงที่อยู่ที่นี่ด้วย และเอ่ยถามไปตามตรงทันที “เจ้าบอกมา เมื่อคืนกลับมากลางดึกขนาดนั้น ถูกไล่กลับมาหรือไม่?”หยวนชิงหลิงขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด “ท่านพ่อ ลูกอยู่ที่จวนอ๋องได้รับความลำบาก อยากกลับมาบ้านแม่หาที่พึ่งพิง ท่านไม่ยินดีต้อนรับหรือ?”จิ้งโฮ่วที่ได้ยินก็ไม่รอให้หยวนชิงหลิงพูดจบ เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “พูดจาให้มันดี ๆ เจ้าถูกหย่ามารึเปล่า?”หยวนชิงหลิงถอนหายใจ "ถ้าท่านเห็นหนังสือหย่า ก็คงหย่าแล้ว ถ้าท่านไม่เห็นหนังสือหย่า ก็อีกไม่นาน"จิ้งโฮ่วโกรธซะจนทุบโต๊ะอย่างแรง “เจ้าอธิบายให้ข้าเข้าใจเดี๋ยวนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ถ้าเจ้าไม่บอก ข้าจะไล่เจ้าออกไป”
ตอนที่จิ้งโฮ่วได้สติขึ้นมานั้นก็เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของหยวนชิงหลิงเขาตื่นตระหนกเหมือนอสรพิษกำลังกัดแขนขาของเขาไปทั่วทั้งร่าง เขาตัวสั่น และคว้ามือของหยวนชิงหลิงเอาไว้ "ฉู่หมิงชุ่ยพูดอย่างนั้นจริงหรือ? ฝ่าบาททรงกริ้วมากจริงหรือ?"หยวนชิงหลิงมองไปยังคนผู้น่าสงสารตรงหน้า และพูดว่า "ท่านพ่อ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ตอนนี้ข้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ฝ่าบาทจะให้ข้ากลับไปหาครอบครัวของข้าได้อย่างไร? ท่านควรรีบคิดหาทางนะ"จิ้งโฮ่วทรุดตัวลงกับเก้าอี้เอน ปากของเขากระตุกสองสามครั้ง ตายแน่ครั้งนี้ ฉู่หมิงชุ่ยช่างน่าเกลียด ตัวเองตายไปคนเดียวก็ดีแล้ว ยังจะมาลำบากลากพวกเขาจวนจิ้งโฮ่วให้ตามตกไปด้วยฝ่าบาทต้องทรงกริ้วมากแน่เขามองไปที่ท้องของหยวนชิงหลิง โอ้สวรรค์ แค่สี่เดือน ท้องทั้งใหญ่ืและกลมมากดูเหมือนจะเป็นลูกสาว ตายแน่ ไม่ได้การแล้วเมื่อนึกถึงตรงนี้ จิ้งโฮ่วก็ยิ่งหดหู่ใจ นึกถึงตัวเองที่ใช้เวลาไปครึ่งชีวิต ไม่ต่างจากสุนัขและแมลงวันที่ไร้ยางอายไร้ศักดิ์ศรีแล้วนั้น อาชีพการงานของเขาไม่มีความเจริญก้าวหน้าใด และความรุ่งโรจน์ของจวนจิ้งโฮ่วก็ไม่เหมือนดั่งวันวาน มีแต่จะตกต่ำมากขึ้นเรื่อย ๆนับตั้งแต่ที่เ
จิ้งโฮ่วดูออกว่านางคิดอย่างไรจึงถอนหายใจออกมา “อาสะใภ้รอง สมองท่านกลับไปแล้วหรือ? ในเมืองหลวงหายาก ท่านก็ไปหาที่ยากจนทุรกันดานเสียสิ? ขายลูกชายลูกสาวเยอะแยะ ให้สักสิบตำลึง อย่าว่าแต่ลูกชายเลย ลูกสะใภ้ก็ให้ท่านได้”ฮูหยินรองเฒ่าได้สติกลับมา “ใช่แล้ว ๆ ได้เรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง”ช่วงนี้ฮูหยินเฒ่าเริ่มกลับเข้ามาดูแลจัดการเรื่องในจวนแล้ว นางเองก็กังวลว่าอาจจะมีสถานการณ์พลิกกลับไปอีก ตอนนี้นางจัดการเรื่องนี้ เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตคนในจวน นางจึงเป็นคนสำคัญที่สุดทางด้านหยวนชิงหลิงหลังจากจิ้งโฮ่วไปแล้ว หยวนชิงผิงถามอย่างตื่นตระหนก “พี่ใหญ่ นั้นเรื่องจริงหรือ?” หยวนชิงหลิงยิ้มและยกนิ้วจุ๊ปาก “แค่ขู่เขาให้ตกใจน่ะ” หยวนชิงผิงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมถึงต้องขู่เขาล่ะ?”หยวนชิงหลิงยิ้มและตอบกลับว่า “แบบนี้ เขาก็ไม่มีเวลามาก่อกวนข้าแล้ว” เขาต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของผู้คนจำนวนมากในจวนนางจูงหยวนชิงผิงและเอ่ยว่า “พวกเราไปหาท่านย่า ไปคารวะท่านย่ากันเถอะ”หยวนชิงผิงเองก็ยังอยากถามต่ออย่างละเอียด แต่ไปพบท่านย่าและค่อยคุยก็ยังไม่สาย อย่างไรเสียพี่ใหญ่ต้องอธิ
หยวนชิงหลิงรู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูกอาจกล่าวได้ว่าในสายตาของทุกคน นางตกระกำลำบากกลับมา ลูกสาวที่แต่งงานแล้วถูกครอบครัวของสามีรังเกียจ จนกลับบ้านแม่มาแบบนี้จะเหลืออะไรน่าดูอีกแต่ไม่คาดคิดเลยว่าฮูหยินเฒ่าจะปกป้องนางเช่นนี้ต้องตกต่ำจึงจะได้เห็นจิตใจคนนี่เป็นความจริงฮูหยินเฒ่าเห็นแค่ขอบตานางเปียกชื้น ยังคิดว่านางเจ็บปวดเศร้าใจ จึงปลอบโยนนางอีกหยวนชิงผิงเองก็กล่าวว่า “พี่ใหญ่ ท่านเองก็ฟังท่านย่าอยู่ที่จวนดูแลครรภ์ให้ดี เรื่องอื่นไม่ต้องไปสน ใครมาก่อกวนท่าน ข้าจะจัดการมันเอง”หยวนชิงหลิงยิ้มทั้งน้ำตา “ได้ ขอบคุณพวกเจ้านะ”อย่างไรก็ตาม ฮูหยินเฒ่าและหยวนชิงผิงปฏิบัติต่อนางอย่างอ่อนโยน แต่คนอื่น ๆ กลับปฏิบัติกับนางไม่ดีเลยสักนิดแน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าทำให้นางอับอายโดยตรง แต่ในครึ่งวัน ทุกคนในจวนต่างพูดว่านางถูกท่านอ๋องทอดทิ้ง และพวกเขาจะหย่ากับนางหลังจากให้กำเนิดลูกลูกสะใภ้ของฮูหยินรองหลวนซรื่อ เห็นหยวนชิงหลิงเดินผ่านทางเดินระเบียงในตอนเที่ยง และด่าออกมาอย่างเย็นชาว่า "ภรรยาที่ถูกทิ้ง!"เมื่ออาซื่อได้ยิน จึงพุ่งไปข้างหน้า และนางได้เอ่ยถามอย่างดุร้ายว่า "สงบปากเจ้าบ้าง"เดิม
อาซื่อพูดอย่างไม่สนอะไร “ชาติตระกูลอะไรไม่สำคัญหรอก ถ้าเขาเป็นคนซื่อตรงและใจดี เขารู้วรยุทธ์ และเข้าใจการก้าวไปหน้า เขาย่อมจะชนะการแข่งขันเสมอ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่มีอะไรสำเร็จเลยก็ตาม”หยวนชิงหลิงประทับใจยิ่งนัก "ข้าประหลาดใจจริงที่เจ้ามีความคิดเช่นนี้ อาซื่อ เจ้าพูดถูก สิ่งที่เจ้าว่ามานั้น ชาติตระกูลไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือนิสัยต่างหาก"ฐานะทางครอบครัวของอาซื่อก็ดี หากแต่งงานกับชายยากจนจริง ก็ไม่จำต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนิสัยที่ดีของคนอาซื่อยิ้มและหันไปหาหมานเอ๋อร์ "แล้วเจ้าล่ะ? สิ่งที่เจ้าอยากจะได้จากว่าที่สามีในอนาคต?"หมานเอ๋อร์ตกใจ "นี่ บ่าวไม่กล้าคิดหรอกเจ้าค่ะ"ตอนนี้นางเป็นแค่คนเร่ร่อนในเมืองหลวง จะไปกล้าคิดแบบนี้ได้อย่างไร? กินอิ่มนอนหลับมีชีวิตอยู่ดีก็นับว่าดีมากแล้ว“ทำไมไม่กล้าคิดกัน? ผู้หญิงทุกคนล้วนมีความฝันเกี่ยวกับอนาคต โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญชั่วชีวิตอย่างการแต่งงาน ตอนเจ้ายังเด็กเจ้าไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลยหรือ?” อาซื่อถามหมานเอ๋อร์ยิ้มอย่างเขินอาย "ตอนเด็ก ข้าเคยคิดเรื่องนี้ ข้าแค่อยากแต่งงานกับใครสักคนที่ซื่อสัตย์และดีกับข้า