Share

บทที่ 375

Penulis: จูน
หยวนชิงหลิงพยายามรั้งนางให้นางอยู่รับอาหารมื้อค่ำ แต่นางกล่าวอย่างชัดเจนว่าจะกลับไปเร็วหน่อย บอกว่านางป่วยหนัก ไม่ควรอยู่นานเกินไป

เหล่าไท่ไท่ไม่สามารถลังเลได้ ทำได้เพียงให้นางข้าหลวงสี่ไปส่งนาง

ออกจากประตูแล้วเหล่าไท่ไท่แสดงความขอบคุณนางข้าหลวงสี่ "หลานสาวคนนี้ไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก ไม่รู้จักทำอะไรเพื่อคนอื่นยังต้องให้ท่านดูแลอีกมาก"

นางข้าหลวงสี่ตกใจรีบเข้าไปผยุงเหล่าไท่ไท่ไว้ "ท่านหญิง ท่านไม่ต้องสุภาพกับบ่าว บ่าวรับไว้ไม่ไหวท่านโปรดวางใจพระชายาดีต่อบ่าว บ่าวจะต้องดูแลนางเป็นอย่างดี"

"เยี่ยงนั้นก็ต้องขอบคุณท่านมากแล้ว ท่านเป็นคนของวัง มีความรู้มาก รู้เท่าทัน เป็นคนสุขุม มีท่านคอยดูแล ข้าก็วางใจแล้ว" เหล่าไท่ไท่กล่าว

แม่นมซุนและคนขับรถม้าช่วยเหล่าไท่ไท่ขึ้นมาบนรถม้าแล้ว

เมื่อกลับมาถึงจิ้งโฮ่วจวน จิ้งโฮ่วรีบออกมาช่วย "ท่านแม่ได้พบนางหรือไม่?"

เหล่าไท่ไท่เซเล็กน้อย แล้วถอนหายใจเล็กน้อย "ได้พบแล้ว"

จิ้งโฮ่วดีใจ "แล้วพบท่านอ๋องหรือไม่?"

แม่นมซุนตอบแทน "ท่านโฮ่ว ท่านอ๋องออกมาต้อนรับเหล่าไท่ไท่ด้วยตัวเอง"

จิ้งโฮ่วยิ่งดีใจ "เยี่ยงนั้นก็ดีมาก ดีจริง ๆ"

ฮูหยินรองได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 376

    ของขวัญจากพระชายาจี้และพระชายาฉีก็ส่งมาถึงแล้วพระชายาจี้ส่งหยกเจ้าแม่กวนอิมอุ้มเด็กที่แกะสลักอย่างสวยงามและประณีตมาก มันเป็นของชั้นดีที่คุ้มค่ากับเงินจํานวนไม่น้อย คราวนี้พระชายาจี้ลงทุนอย่างหนักยอมเสียเลือดอย่างมากนางสามารถมอบของขวัญชิ้นสําคัญให้กับนางได้ หยวนชิงหลิงไม่แปลกใจเลย พระชายาจี้ให้ความสำคัญกับหน้าตาจึงต้องทำให้ดีที่สุดเสมอเมื่อเทียบกันแล้ว ของขวัญที่ฉู่หมิงชุ่ยส่งมาของพระชายาฉีค่อนข้างทรุดโทรมไปหน่อยเป็นรากโสมสองต้นยังมีตังกุยบางชนิดอีกฉู่หมิงชุ่ยมีการปฎิบัตที่เป็นรูปธรรมไม่ทำเพื่อศักดิ์ศรี นางไม่ชอบหยวนชิงหลิง และไม่อยากเห็นเธอตั้งครรภ์ ส่งของเหล่านี้มาอาจจะเป็นคนรับใช้ในจวนที่เป็นคนรับผิดชอบจัดหามาให้ท้ายที่สุดก็เป็นพี่สะใภ้ ถ้าไม่ส่งอะไรมาเลย ไม่สนใจไม่ถามไถ่ก็จะดูตระหนี่และคับแคบเกินไปถึงจะส่งอาหารหรือยาบำรุงมา ก็รู้ว่าพระชายาฉู่ก็ไม่สามารถกินได้ เยี่ยงนั้นก็ไม่จำเป็นต้องจัดการให้ดีนักนางข้าหลวงฉีจัดหาสถานที่จัดวางเจ้าแม่กวนอิมอุ้มเด็ก แต่ว่าเมื่อเช็ดจึงพบว่าด้านหลังของเจ้าแม่กวนอิมอุ้มเด็กมีรอยร้าวอยู่รอยแตกนี้ไม่ชัดนักถ้าไม่สังเกตก็คงคิดว่าเป็นลายเส้

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 377

    ประโยคหนึ่งก็ประตูผี คำหนึ่งก็ความตายคนฟัง ฟังแล้วรู้สึกตื่นตระหนกพระชายาจี้อยู่ข้างในก็ได้ยิน ใบหน้าของนางแข็งค้าง แต่นางก็กลับฝืนยิ้มออกมาก็นั่งลงบนเตียงและพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่าอวี่เหวินห่าวเข้าไปแล้วก็พบพระชายาจี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว ด้วยท่าทีที่ไม่สบาย และเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "น้องห้ามาหรือ?"อวี่เหวินห่าวจ้องมองนางแล้วเอ่ยว่า "พี่สะใภ้ ข้าต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนการพักฟื้นของท่าน แต่มีเรื่องหนึ่งที่ต้องมาสอบถามพี่สะใภ้อีกครั้ง และขอพี่สะใภ้ได้โปรดอย่าปิดบัง"พระชายาจี้เอ่ย "ไม่เป็นไรฟังจากน้ำเสียงน้องห้า ข้าเป็นคนกำลังจะตายแล้ว จึงไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง"อวีเหวินห่าวมองหน้านางอย่างเย็นชา นึกถึงว่านางส่งเจ้าแม่กวนอิมนั้นไปให้ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า "พี่สะใภ้อย่าได้ท้อแท้ โรคนี้ไม่อาจถึงตายฟังจากท่านหมอ แค่ต้องทานยาเป็นประจำอาจจะสองสามปี"พระชายาจี้นัยน์ตาสั่นไหวไปด้วยความโกรธ ในมือก็บีบถ้วยกระเบื้องสีขาวจนซีดขาวเห็นข้อกระดูก "น้องห้ายังไม่ได้เอ่ยว่ามาเพราะเหตุอันใดกัน?"อวี่เหวินห่าวเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยด้วยที่หน้าจริงจังเป็นทางการ "เป็นเช่นนี้ เมื่อวันก่อนข้

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 378

    อวีเหวินห่าวถามสาวใช้ตัวน้อย "เจ้าแม่กวนอิมอุ้มลูกนั้นมีรูปร่างอย่างไร? เป็นสีอะไร?"สาวใช้ตัวน้อยที่กลัวจนร้องไห้ เมื่อครู่เมื่อถูกอวี่เหวินห่าวถาม และนางไม่รู้ก็ลังเลในสมองว่างเปล่าลิ้นก็ติดพัน "คือ...คือบ่าว บ่าวจำไม่ได้แล้วน่าจะเป็นหยกสีขาวเจ้าค่ะ"อวี่เหวินห่าวยิ้มเยาะ แล้วมองพระชายาจี้ "พี่สะใภ้ ในสายตาของท่านข้าคงดูเป็นคนโง่ที่สามารถหลอกได้ตามใจ"ดวงตาของพระชายาจี้หรี่ลง "น้องห้าเอ่ยเยี่ยงนี้หมายความว่าเยี่ยงไร?"ไม่มีความหมายอันใด เยี่ยงนั้นเรามาสอบสวนคดีกันต่อเถอะ" อวี่เหวินห่าวหมุนตัวดวงตาของพระชายาจี้เย็นชาขึ้น นางกำมือแน่นแล้วค่อย ๆ คลายออก"แม่นมฉีท่านรู้ความผิดใช่หรือไม่!" พระชายาจี้ตะวาดเสียงดังนางข้าหลวงที่กำลังทุบตีสาวใช้ตัวน้อยอยู่คุกเข่าลงสีหน้าซีดเผือดนางข้าหลวงคนนี้เป็นคนที่พระชายาจี้ให้ติดตามมาด้วยตั้งแต่เมื่อนางแต่งงาน จึงใกล้ชิดกับพระชายาจี้มากไม่ว่ามีความคิดอะไรนางล้วนเข้าใจคราวนี้ไม่รอให้พระชายาจี้เอ่ยคำ ก็ตะโกนเสียงดัง "องครักษ์ของจวนนี้อยู่ที่ใด?"มีคนเข้ามาสองคน "อยู่นี่ขอรับ!"อวี่เหวินห่าวกล่าวอย่างเย็นชา "นำนางข้าหลวงฉีออกไป แล้วโบยสามสิบไ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 379

    นางข้าหลวงฉีร้องไห้แล้วกล่าว "พระชายาไม่ต้องรู้สึกเสียใจกับบ่าว ท่านป่วยอยู่อย่าได้โมโห บ่าวไม่เป็นไร"พระชายาจี้ในใจทั้งเจ็บปวดทั้งโกรธเคือง กัดฟันแล้วเอ่ยว่า "ข้าจะล้างแค้นให้ท่านแน่นอน"นางข้าหลวงฉีสูดหายใจเข้า "คิดไม่ถึงว่าเพื่อสิ่งเล็ก ๆ นี้ท่านอ๋องจะทำขนาดนี้ เดิมนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร รู้ดีอยู่แล้วก็ไม่ควรโกรธแค่คำพูดไม่กี่คำ คำสาปแช่งไม่กี่ประโยคเขาถึงกับมาหาถึงที่ยังมีเรื่องคดีของพระสนมหลิว พระชายาท่านต้องระวังเขาไว้ เขารู้จุดอ่อนของท่านแล้ว เรื่องพระสนมหลิวเขาก็รู้แน่ชัด" พระชายาจี้เอ่ยอย่างเย็นชา "ตอนนี้เขาคาดหวังว่าจะได้เป็นรัชทายาทและมีความมั่นใจ แต่ว่าความมั่นใจของเขาล้วนขึ้นอยู่กับการตั้งครรภ์ของหยวนชิงหลิง ถ้าไม่มีครรภ์นั้นแล้วเขาจะกล้าเย่อหยิ่งอะไร?"นางข้าหลวงฉีกล่าวอย่าประหลาดใจ "พระชายา ท่านจะต้องไม่ทำ ตอนนี้ในวังมีสายตากี่คู่ที่กำลังจ้องมองอยู่? เมื่อถูกเปิดโปงก็จะไม่มีที่ให้หันหลังกลับแล้ว นี่เทียบไม่ได้กับจวนของพวกเรา"พระชายาจี้เอ่ยอย่างเคร่งขรึม "ท่านวางใจ ข้าจะไม่ลงมือกับหยวนชิงหลิง ได้ยินมาว่าทารกในครรภ์ของนางไม่แข็งแรงสาเหตุเป็นเพราะได้รับยาต้มจื

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 380

    เห็นหยวนชิงหลิงร้องไห้ ดวงตาของอวี่เหวินห่าวก็ร้อนผ่าว นอกจากกอดนางไว้แล้ว ก็ไม่สามารถเอ่ยอะไรได้อีก"อวี่เหินห่าว ข้าคิดถึงบ้าน ข้าอยากกลับบ้าน" หยวนชิงหลิงร้องไห้ออกมาเสียงดังมีลูกสาวกี่คนกันที่หลังจากแต่งงานแล้วยังสามารถกลับไปบ้านเดิมได้?มีลูกสาวกี่คนที่เมื่อตั้งครรภ์แล้วมีมารดามาเยี่ยมมาคอยดูแล? เพื่อจัดการเสื้อผ้าตัวน้อยและถุงเท้าคู่เล็ก ๆ ให้หลาน คอยบอกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญตอนตั้งครรภ์เธอถูกทิ้งไว้ที่มุมหนึ่งในสถานที่ไหนเวลาใดชีวิตนี้ ล้วนไม่สามารถพบแม่ได้อีกแล้วแม่จะรู้ไหมว่าเธออยู่ที่ไหน?อวี่เหวินห่าวคิดว่านางคิดถึงท่านยาจึงรีบเช็ดน้ำตาให้นาง "ได้ ได้ ข้าจะบอกให้ลวี่หยาไปเชิญท่านย่ามาเดี่ยวนี้ ข้าจะให้นางพักอยู่กับเจ้าดีหรือไม่?"หยวนชิงหลิงส่ายหัว ร้องไห้เสียใจยิ่งกว่าเดิมอวี่เหวินห่าวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปแล้ว เขาไม่มีวิธีสำหรับความทุกข์ใจของนาง คำพูดเอาใจใด ๆ ก็ล้วนไร้ประโยชน์นางข้าหลวงฉีก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วกล่าว "ท่านอ๋อง ไท่ซางหวงเสด็จมาเพคะ"อวี่เหวินห่าวตกใจเงยหน้าขึ้นมา "อะไรนะ?""จริงเพคะ ตอนนี้ทุกคนล้วนอยู่ด้านนอกแ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 381

    ในช่วงสองปีทีผ่านมาเจ้าหกป่วย เจ้าห้าตาบอด เจ้าเก้ายังเด็กนัก และองค์ชายคนอื่นแต่งงานแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้กำเนิดบุตรเสด็จปู่ไม่ได้เอ่ยอะไรแต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกกังวลใจอยู่ ต่อหน้าจักรวรรดิหมิงหยาง เขาได้เอ่ยเพียงแค่สองสามประโยคเสด็จปู่เริ่มรู้สึกร้อนใจแล้ว จักรพรรดิ์หมิงหยางในฐานะลูกที่กตัญญูก็ต้องรู้สึกวิตกกังวลเช่นกัน มีเพียงเหล่าขุนนางเท่านั้นที่คิดว่าผู้ใดให้กำเนิดบุตรชายก่อนก็จะได้รับเลือกเป็นรัชทายาทอวี่เหวินห่าวไม่ได้เอ่ยอะไรกับไป เกรงว่าจะเป็นการหยาบคาย"นำเข้ามา!" ชายชรากล่าวกับฉางกงกงเสียงดังฉางกงกงรับกล่องอาหารจากมือของข้าหลวงในวังแล้วยื่นให้นางข้าหลวงสี่ "นี่เป็นรางวัลจากไท่ซ่างหวงประทานให้พระชายา นางข้าหลวงนำไปมอบให้พระชายาเสวยเถอะ"นางข้าหลวงสี่รับมาแล้วถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวว่า "เกรงว่าอาจจะทำให้ไท่ซ่างหวงต้องเสียพระทัย เพราะวันนี้พระชายาเสวยอะไรก็ล้วนอาเจียนออกมาหมด"ฉางกงกงเอ่ย "เจ้าก็เพียงแค่รับมันไป เสวยหนึ่งคำก็นับว่าได้ตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของไท่ซ่างหวงแล้วนางข้าหลวงสี่รับมา ย่อกายลงแล้วถอยหลังไปนางข้าหลวงสี่ถือกล่องอาหารแล้วกลับไป หยวนชิงหลิงถาม "ไ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 382

    หยวนชิงหลิงถูกเสลี่ยงยกออกไป ไท่ซ่างหวงนั่งอยู่ตรงกลางโถงมองเห็นตั้งแต่แรกแล้ว เขาขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า "นางออกมาทำไม?"หยวนชิงหลิงมองจากระยะไกลก็เห็นถึงความไม่ชอบใจของไท่ซ่างหวง เสด็จปู่มาถึงจวนเพื่อเยี่ยมนางยังแต่งกายแบบนี้?อวี่เหวินห่าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วอุ้มหยวนชิงหลิงเข้ามาเป็นเพราะคำพูดของหมอหลวงบอกว่านางไม่สามารถลงมาเดินได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเช็ดตัวหรืออาบน้ำเข้าล้วนต้องอุ้มไปหยวนชิงหลิงรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนไร้ประโยชน์ จึงอดที่จะตีแขนของเขาไม่ได้ "ปล่อยข้าลงเดินสักก้าวสองก้าวจะเป็นเยี่ยงไร?""ไม่ได้ หมอหลวงบอกว่าเจ้าไม่สามารถลุกจากเตียงลงมาเดินได้" อวี่เหวินห่าวกล่าว แล้ววางนางลงบนเก้าอี้ "เจ้าไม่เชื่อฟังอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ตอนข้าไม่อยู่ในจวน เจ้าก็มักจะแอบลงจากเตียง"หยวนชิงหลิงเอ่ย "ถ้าข้าไม่เดินสักก้าวสองก้าว ขาก็ใช้การไม่ได้แล้ว"นางมองไปยังไท่ซ่างหวง "เสด็จปู่ ท่านคิดเยี่ยงนั้นหรือไม่เพคะ?"ไท่ซ่างหวงมองเธอชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปมองอวี่เหวินห่าวแล้วเอ่ยว่า "ตอนเจ้าออกมาไม่รู้จักมัดนางไว้กับเตียง?"“ถ้ามัดไว้แล้วยังไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่รู้จักจัดการสักที?"อวี่เห

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 383

    "อืม ข้ารู้สึกไม่เวียนหัวเท่าไหร่ ทานไปแล้วก็ไม่รู้สึกอยากอาเจียนไม่รู้ว่ามันคืออะไร ตอนนี้ฤดูใบไม้ร่วงแล้วก็ไม่รู้ว่ามะพร้าวมาจากไหน"เมืองหลวงตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ในฤดูใบไม้ร่วงอากาศค่อนข้างหนาว ส่วนมะพร้าวอยู่ทางตอนใต้แต่ว่าตอนนี้แล้วใครจะสามารถเก็บรักษามะพร้าวไว้ได้?อวี่เหวินห่าวเอ่ย "ในวังสิ่งใดที่ต้องการแล้วไม่มี? ถึงไม่มีก็ขอให้คนส่งมาจากทางใต้ได้ องครักษ์เงาของเสด็จปู่นั้นน่าทึ่ง""องครักษ์เงา?""อืม องครักษ์เงาถูกก่อตั้งขึ้นสมัยเสด็จปู่ ครั้งหนึ่งมีชื่อว่าเชิงเว่ยเฟิงคอยสอดแนมข่าวในหมู่ประชาชนและขุนนางต่อมาหลังจากเสด็จพ่อขึ้นครองราชย์ องครักษ์เงาก็เสื่อมถอยลง เป็นผู้ที่คอยจัดการปัญหาให้เสด็จปู่"เป็นครั้งแรกที่หยวนชิงหลิงได้ยิน เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยเห็นราชองครักษ์สวมชุดสีดำสนิททั้งชุด แต่ไม่รู้ว่าเป็นองครักษ์เงา"ข้าเกรงว่าจะคอยวิ่งเป็นธุระรายงานข่าวสารใช่หรือไม่? ข้าเห็นว่าข่าวของไท่ซ่างหวงนั้นว่องไวเป็นอย่างมาก เกรงว่าองครักษ์เงาเหล่านี้ยังคงสืบข่าวให้เขาอยู่” หยวนชิงหลิงกล่าวอวี่เหวินห่าวเอ่ย "ไม่แปลก ไม่มีอะไรน่าตกใจภายในราชวงศ์ ไม่มีอะไรที่จะสามารถหลบซ่อนจากเสด

Bab terbaru

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status