หยวนชิงหลิงพยายามรั้งนางให้นางอยู่รับอาหารมื้อค่ำ แต่นางกล่าวอย่างชัดเจนว่าจะกลับไปเร็วหน่อย บอกว่านางป่วยหนัก ไม่ควรอยู่นานเกินไปเหล่าไท่ไท่ไม่สามารถลังเลได้ ทำได้เพียงให้นางข้าหลวงสี่ไปส่งนางออกจากประตูแล้วเหล่าไท่ไท่แสดงความขอบคุณนางข้าหลวงสี่ "หลานสาวคนนี้ไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก ไม่รู้จักทำอะไรเพื่อคนอื่นยังต้องให้ท่านดูแลอีกมาก"นางข้าหลวงสี่ตกใจรีบเข้าไปผยุงเหล่าไท่ไท่ไว้ "ท่านหญิง ท่านไม่ต้องสุภาพกับบ่าว บ่าวรับไว้ไม่ไหวท่านโปรดวางใจพระชายาดีต่อบ่าว บ่าวจะต้องดูแลนางเป็นอย่างดี""เยี่ยงนั้นก็ต้องขอบคุณท่านมากแล้ว ท่านเป็นคนของวัง มีความรู้มาก รู้เท่าทัน เป็นคนสุขุม มีท่านคอยดูแล ข้าก็วางใจแล้ว" เหล่าไท่ไท่กล่าวแม่นมซุนและคนขับรถม้าช่วยเหล่าไท่ไท่ขึ้นมาบนรถม้าแล้วเมื่อกลับมาถึงจิ้งโฮ่วจวน จิ้งโฮ่วรีบออกมาช่วย "ท่านแม่ได้พบนางหรือไม่?"เหล่าไท่ไท่เซเล็กน้อย แล้วถอนหายใจเล็กน้อย "ได้พบแล้ว"จิ้งโฮ่วดีใจ "แล้วพบท่านอ๋องหรือไม่?"แม่นมซุนตอบแทน "ท่านโฮ่ว ท่านอ๋องออกมาต้อนรับเหล่าไท่ไท่ด้วยตัวเอง"จิ้งโฮ่วยิ่งดีใจ "เยี่ยงนั้นก็ดีมาก ดีจริง ๆ"ฮูหยินรองได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก
ของขวัญจากพระชายาจี้และพระชายาฉีก็ส่งมาถึงแล้วพระชายาจี้ส่งหยกเจ้าแม่กวนอิมอุ้มเด็กที่แกะสลักอย่างสวยงามและประณีตมาก มันเป็นของชั้นดีที่คุ้มค่ากับเงินจํานวนไม่น้อย คราวนี้พระชายาจี้ลงทุนอย่างหนักยอมเสียเลือดอย่างมากนางสามารถมอบของขวัญชิ้นสําคัญให้กับนางได้ หยวนชิงหลิงไม่แปลกใจเลย พระชายาจี้ให้ความสำคัญกับหน้าตาจึงต้องทำให้ดีที่สุดเสมอเมื่อเทียบกันแล้ว ของขวัญที่ฉู่หมิงชุ่ยส่งมาของพระชายาฉีค่อนข้างทรุดโทรมไปหน่อยเป็นรากโสมสองต้นยังมีตังกุยบางชนิดอีกฉู่หมิงชุ่ยมีการปฎิบัตที่เป็นรูปธรรมไม่ทำเพื่อศักดิ์ศรี นางไม่ชอบหยวนชิงหลิง และไม่อยากเห็นเธอตั้งครรภ์ ส่งของเหล่านี้มาอาจจะเป็นคนรับใช้ในจวนที่เป็นคนรับผิดชอบจัดหามาให้ท้ายที่สุดก็เป็นพี่สะใภ้ ถ้าไม่ส่งอะไรมาเลย ไม่สนใจไม่ถามไถ่ก็จะดูตระหนี่และคับแคบเกินไปถึงจะส่งอาหารหรือยาบำรุงมา ก็รู้ว่าพระชายาฉู่ก็ไม่สามารถกินได้ เยี่ยงนั้นก็ไม่จำเป็นต้องจัดการให้ดีนักนางข้าหลวงฉีจัดหาสถานที่จัดวางเจ้าแม่กวนอิมอุ้มเด็ก แต่ว่าเมื่อเช็ดจึงพบว่าด้านหลังของเจ้าแม่กวนอิมอุ้มเด็กมีรอยร้าวอยู่รอยแตกนี้ไม่ชัดนักถ้าไม่สังเกตก็คงคิดว่าเป็นลายเส้
ประโยคหนึ่งก็ประตูผี คำหนึ่งก็ความตายคนฟัง ฟังแล้วรู้สึกตื่นตระหนกพระชายาจี้อยู่ข้างในก็ได้ยิน ใบหน้าของนางแข็งค้าง แต่นางก็กลับฝืนยิ้มออกมาก็นั่งลงบนเตียงและพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่าอวี่เหวินห่าวเข้าไปแล้วก็พบพระชายาจี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว ด้วยท่าทีที่ไม่สบาย และเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "น้องห้ามาหรือ?"อวี่เหวินห่าวจ้องมองนางแล้วเอ่ยว่า "พี่สะใภ้ ข้าต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนการพักฟื้นของท่าน แต่มีเรื่องหนึ่งที่ต้องมาสอบถามพี่สะใภ้อีกครั้ง และขอพี่สะใภ้ได้โปรดอย่าปิดบัง"พระชายาจี้เอ่ย "ไม่เป็นไรฟังจากน้ำเสียงน้องห้า ข้าเป็นคนกำลังจะตายแล้ว จึงไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง"อวีเหวินห่าวมองหน้านางอย่างเย็นชา นึกถึงว่านางส่งเจ้าแม่กวนอิมนั้นไปให้ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า "พี่สะใภ้อย่าได้ท้อแท้ โรคนี้ไม่อาจถึงตายฟังจากท่านหมอ แค่ต้องทานยาเป็นประจำอาจจะสองสามปี"พระชายาจี้นัยน์ตาสั่นไหวไปด้วยความโกรธ ในมือก็บีบถ้วยกระเบื้องสีขาวจนซีดขาวเห็นข้อกระดูก "น้องห้ายังไม่ได้เอ่ยว่ามาเพราะเหตุอันใดกัน?"อวี่เหวินห่าวเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยด้วยที่หน้าจริงจังเป็นทางการ "เป็นเช่นนี้ เมื่อวันก่อนข้
อวีเหวินห่าวถามสาวใช้ตัวน้อย "เจ้าแม่กวนอิมอุ้มลูกนั้นมีรูปร่างอย่างไร? เป็นสีอะไร?"สาวใช้ตัวน้อยที่กลัวจนร้องไห้ เมื่อครู่เมื่อถูกอวี่เหวินห่าวถาม และนางไม่รู้ก็ลังเลในสมองว่างเปล่าลิ้นก็ติดพัน "คือ...คือบ่าว บ่าวจำไม่ได้แล้วน่าจะเป็นหยกสีขาวเจ้าค่ะ"อวี่เหวินห่าวยิ้มเยาะ แล้วมองพระชายาจี้ "พี่สะใภ้ ในสายตาของท่านข้าคงดูเป็นคนโง่ที่สามารถหลอกได้ตามใจ"ดวงตาของพระชายาจี้หรี่ลง "น้องห้าเอ่ยเยี่ยงนี้หมายความว่าเยี่ยงไร?"ไม่มีความหมายอันใด เยี่ยงนั้นเรามาสอบสวนคดีกันต่อเถอะ" อวี่เหวินห่าวหมุนตัวดวงตาของพระชายาจี้เย็นชาขึ้น นางกำมือแน่นแล้วค่อย ๆ คลายออก"แม่นมฉีท่านรู้ความผิดใช่หรือไม่!" พระชายาจี้ตะวาดเสียงดังนางข้าหลวงที่กำลังทุบตีสาวใช้ตัวน้อยอยู่คุกเข่าลงสีหน้าซีดเผือดนางข้าหลวงคนนี้เป็นคนที่พระชายาจี้ให้ติดตามมาด้วยตั้งแต่เมื่อนางแต่งงาน จึงใกล้ชิดกับพระชายาจี้มากไม่ว่ามีความคิดอะไรนางล้วนเข้าใจคราวนี้ไม่รอให้พระชายาจี้เอ่ยคำ ก็ตะโกนเสียงดัง "องครักษ์ของจวนนี้อยู่ที่ใด?"มีคนเข้ามาสองคน "อยู่นี่ขอรับ!"อวี่เหวินห่าวกล่าวอย่างเย็นชา "นำนางข้าหลวงฉีออกไป แล้วโบยสามสิบไ
นางข้าหลวงฉีร้องไห้แล้วกล่าว "พระชายาไม่ต้องรู้สึกเสียใจกับบ่าว ท่านป่วยอยู่อย่าได้โมโห บ่าวไม่เป็นไร"พระชายาจี้ในใจทั้งเจ็บปวดทั้งโกรธเคือง กัดฟันแล้วเอ่ยว่า "ข้าจะล้างแค้นให้ท่านแน่นอน"นางข้าหลวงฉีสูดหายใจเข้า "คิดไม่ถึงว่าเพื่อสิ่งเล็ก ๆ นี้ท่านอ๋องจะทำขนาดนี้ เดิมนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร รู้ดีอยู่แล้วก็ไม่ควรโกรธแค่คำพูดไม่กี่คำ คำสาปแช่งไม่กี่ประโยคเขาถึงกับมาหาถึงที่ยังมีเรื่องคดีของพระสนมหลิว พระชายาท่านต้องระวังเขาไว้ เขารู้จุดอ่อนของท่านแล้ว เรื่องพระสนมหลิวเขาก็รู้แน่ชัด" พระชายาจี้เอ่ยอย่างเย็นชา "ตอนนี้เขาคาดหวังว่าจะได้เป็นรัชทายาทและมีความมั่นใจ แต่ว่าความมั่นใจของเขาล้วนขึ้นอยู่กับการตั้งครรภ์ของหยวนชิงหลิง ถ้าไม่มีครรภ์นั้นแล้วเขาจะกล้าเย่อหยิ่งอะไร?"นางข้าหลวงฉีกล่าวอย่าประหลาดใจ "พระชายา ท่านจะต้องไม่ทำ ตอนนี้ในวังมีสายตากี่คู่ที่กำลังจ้องมองอยู่? เมื่อถูกเปิดโปงก็จะไม่มีที่ให้หันหลังกลับแล้ว นี่เทียบไม่ได้กับจวนของพวกเรา"พระชายาจี้เอ่ยอย่างเคร่งขรึม "ท่านวางใจ ข้าจะไม่ลงมือกับหยวนชิงหลิง ได้ยินมาว่าทารกในครรภ์ของนางไม่แข็งแรงสาเหตุเป็นเพราะได้รับยาต้มจื
เห็นหยวนชิงหลิงร้องไห้ ดวงตาของอวี่เหวินห่าวก็ร้อนผ่าว นอกจากกอดนางไว้แล้ว ก็ไม่สามารถเอ่ยอะไรได้อีก"อวี่เหินห่าว ข้าคิดถึงบ้าน ข้าอยากกลับบ้าน" หยวนชิงหลิงร้องไห้ออกมาเสียงดังมีลูกสาวกี่คนกันที่หลังจากแต่งงานแล้วยังสามารถกลับไปบ้านเดิมได้?มีลูกสาวกี่คนที่เมื่อตั้งครรภ์แล้วมีมารดามาเยี่ยมมาคอยดูแล? เพื่อจัดการเสื้อผ้าตัวน้อยและถุงเท้าคู่เล็ก ๆ ให้หลาน คอยบอกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญตอนตั้งครรภ์เธอถูกทิ้งไว้ที่มุมหนึ่งในสถานที่ไหนเวลาใดชีวิตนี้ ล้วนไม่สามารถพบแม่ได้อีกแล้วแม่จะรู้ไหมว่าเธออยู่ที่ไหน?อวี่เหวินห่าวคิดว่านางคิดถึงท่านยาจึงรีบเช็ดน้ำตาให้นาง "ได้ ได้ ข้าจะบอกให้ลวี่หยาไปเชิญท่านย่ามาเดี่ยวนี้ ข้าจะให้นางพักอยู่กับเจ้าดีหรือไม่?"หยวนชิงหลิงส่ายหัว ร้องไห้เสียใจยิ่งกว่าเดิมอวี่เหวินห่าวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปแล้ว เขาไม่มีวิธีสำหรับความทุกข์ใจของนาง คำพูดเอาใจใด ๆ ก็ล้วนไร้ประโยชน์นางข้าหลวงฉีก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วกล่าว "ท่านอ๋อง ไท่ซางหวงเสด็จมาเพคะ"อวี่เหวินห่าวตกใจเงยหน้าขึ้นมา "อะไรนะ?""จริงเพคะ ตอนนี้ทุกคนล้วนอยู่ด้านนอกแ
ในช่วงสองปีทีผ่านมาเจ้าหกป่วย เจ้าห้าตาบอด เจ้าเก้ายังเด็กนัก และองค์ชายคนอื่นแต่งงานแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้กำเนิดบุตรเสด็จปู่ไม่ได้เอ่ยอะไรแต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกกังวลใจอยู่ ต่อหน้าจักรวรรดิหมิงหยาง เขาได้เอ่ยเพียงแค่สองสามประโยคเสด็จปู่เริ่มรู้สึกร้อนใจแล้ว จักรพรรดิ์หมิงหยางในฐานะลูกที่กตัญญูก็ต้องรู้สึกวิตกกังวลเช่นกัน มีเพียงเหล่าขุนนางเท่านั้นที่คิดว่าผู้ใดให้กำเนิดบุตรชายก่อนก็จะได้รับเลือกเป็นรัชทายาทอวี่เหวินห่าวไม่ได้เอ่ยอะไรกับไป เกรงว่าจะเป็นการหยาบคาย"นำเข้ามา!" ชายชรากล่าวกับฉางกงกงเสียงดังฉางกงกงรับกล่องอาหารจากมือของข้าหลวงในวังแล้วยื่นให้นางข้าหลวงสี่ "นี่เป็นรางวัลจากไท่ซ่างหวงประทานให้พระชายา นางข้าหลวงนำไปมอบให้พระชายาเสวยเถอะ"นางข้าหลวงสี่รับมาแล้วถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวว่า "เกรงว่าอาจจะทำให้ไท่ซ่างหวงต้องเสียพระทัย เพราะวันนี้พระชายาเสวยอะไรก็ล้วนอาเจียนออกมาหมด"ฉางกงกงเอ่ย "เจ้าก็เพียงแค่รับมันไป เสวยหนึ่งคำก็นับว่าได้ตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของไท่ซ่างหวงแล้วนางข้าหลวงสี่รับมา ย่อกายลงแล้วถอยหลังไปนางข้าหลวงสี่ถือกล่องอาหารแล้วกลับไป หยวนชิงหลิงถาม "ไ
หยวนชิงหลิงถูกเสลี่ยงยกออกไป ไท่ซ่างหวงนั่งอยู่ตรงกลางโถงมองเห็นตั้งแต่แรกแล้ว เขาขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า "นางออกมาทำไม?"หยวนชิงหลิงมองจากระยะไกลก็เห็นถึงความไม่ชอบใจของไท่ซ่างหวง เสด็จปู่มาถึงจวนเพื่อเยี่ยมนางยังแต่งกายแบบนี้?อวี่เหวินห่าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วอุ้มหยวนชิงหลิงเข้ามาเป็นเพราะคำพูดของหมอหลวงบอกว่านางไม่สามารถลงมาเดินได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเช็ดตัวหรืออาบน้ำเข้าล้วนต้องอุ้มไปหยวนชิงหลิงรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนไร้ประโยชน์ จึงอดที่จะตีแขนของเขาไม่ได้ "ปล่อยข้าลงเดินสักก้าวสองก้าวจะเป็นเยี่ยงไร?""ไม่ได้ หมอหลวงบอกว่าเจ้าไม่สามารถลุกจากเตียงลงมาเดินได้" อวี่เหวินห่าวกล่าว แล้ววางนางลงบนเก้าอี้ "เจ้าไม่เชื่อฟังอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ตอนข้าไม่อยู่ในจวน เจ้าก็มักจะแอบลงจากเตียง"หยวนชิงหลิงเอ่ย "ถ้าข้าไม่เดินสักก้าวสองก้าว ขาก็ใช้การไม่ได้แล้ว"นางมองไปยังไท่ซ่างหวง "เสด็จปู่ ท่านคิดเยี่ยงนั้นหรือไม่เพคะ?"ไท่ซ่างหวงมองเธอชั่วครู่ จากนั้นก็หันไปมองอวี่เหวินห่าวแล้วเอ่ยว่า "ตอนเจ้าออกมาไม่รู้จักมัดนางไว้กับเตียง?"“ถ้ามัดไว้แล้วยังไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่รู้จักจัดการสักที?"อวี่เห