ในจวนมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่แห่งหนึ่งเพียงแต่เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่แปลกไปเสียหน่อย ยามฤดูร้อนไม่มีน้ำไหลออกมา แต่จะมีน้ำไหลตอนช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ก่อนหน้านี้บ่อน้ำพุร้อนยังไม่มีน้ำ แต่เมื่อสองวันก่อนถังหยางมารายงานว่า ตาน้ำเริ่มมีน้ำไหลออกมา บ่อน้ำพุร้อนเองก็คงเริ่มมีน้ำเต็มแล้วเนื่องจากก่อนหน้านั้นนางยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ อวี่เหวินห่าวจึงไม่พานางมา อีกทั้งยังยุ่งวุ่นวายเรื่องการไขคดีนี้อีกด้วยวันนี้ความกดดันที่เหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ที่กดทับเอาไว้ได้หลุดออกไปแล้ว และทั้งคู่ก็ตัวเหม็นไปหมด ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายที่บ่อน้ำพุร้อนดีที่สุด บ่อน้ำพุร้อนอยู่ที่ด้านหลังของตำหนักเสี้ยวเยว่ ตาน้ำร้อนมีสองแห่งและอยู่ใกล้กันมาก ศาลาที่สร้างคลุมทับบ่อน้ำพุร้อนเองก็ไม่เล็กเลย มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของห้องๆหนึ่งเลยก็ว่าได้หยวนชิงหลิงมองบ่อน้ำพุร้อนนี้ บ่อน้ำพุร้อนนี้ยังมีชื่อเรียกอีกด้วย ชื่อว่า “บ่อน้ำพุผี”นางถึงกับหลุดหัวเราะออกมา “ทำไมถึงเรียกว่าบ่อน้ำพุผีล่ะ? ชื่อนี้ฟังดูแล้วน่ากลัวจัง” นางไม่มีความทรงจำอะไรเลยกับบ่อน้ำพุร้อนนี้เลยสักนิด เคยได้มาเห็นที่นี้ไหมก็ไม่รู้ใช่แล้ว เจ้
นางยกมุมปากขึ้นด้วยความเพลิดเพลินเป็นอย่างมากจากสัมผัสอันใกล้ชิดแบบนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่คิดเลยว่าเขาจะสระผมให้นาง นี่ทำให้นางคาดไม่ถึงที่จริงแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่เขาปรากฏกตัวในชีวิตนาง ทั้งเผด็จการ เอาแต่ใจ โหดร้ายและเย็นชานึกไม่ถึงจริง ๆ ใครจะไปคิดว่าเขาจะเป็นผู้ชายอบอุ่นเหมือนหมาโกลเด้นตัวใหญ่แบบนี้? “เล่าเรื่องพวกผู้หญิงของท่านมาเลยนะ!” หยวนชิงหลิงหลับตาพูด“ไม่มี มีแต่เอาใจตามใจเจ้าคนเดียว!” อวี่เหวินห่าวพูดอย่างยิ้ม ๆหยวนชิงหลิงพูด “ไม่เชื่อหรอก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของท่าน”อวี่เหวินห่าวหน้าแดง โชคดีที่หยวนชิงหลิงหันหลังให้เขา จึงไม่มีทางมองเห็นได้“ใครพูดว่าไม่ใช่?” เขาแก้ตัวเสียงอ่อนหยวนชิงหลิงหันกลับมามองเขา “ข้าบอกว่าไม่ ข้าแค่สงสัยเท่านั้น จะไม่หึงหวงจริง ๆ ท่านบอกมาเถอะ ครั้งแรกมันเกิดอะไรขึ้น?”อวี่เหวินห่าวหลบตาไม่สบตานาง “เจ้านะเจ้า ทำไมต้องถามอะไรแบบนี้? มีอะไรน่าถาม?”“ก็แค่สงสัยเท่านั้น ข้าอยากฟัง ท่านก็รีบบอกสิ” หยวนชิงหลิงเอามือโอบรอบคอของเขา เจือไปด้วยน้ำเสียงออดอ้อน“ไม่บอก!” อวี่เหวินห่าวจับตัวนางหันไปและสระผมให้นางต่อ หยวนชิงหลิงถอนหายใจเสียงเ
อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปจับหน้านางให้ค่อย ๆ หันมา “เจ้าโกรธใช่ไหม? ไหนบอกว่าไม่โกรธ เจ้ามันคนโกหก”หยวนชิงหลิงมองเขาอย่างอ่อนโยน “ไม่โกรธจริง ๆ ข้าบอกกว่าไม่โกรธก็คือไม่โกรธ ท่านก็รีบอาบน้ำเถอะ ข้าจะรอท่านที่ตำหนัก”นางพูดจบก็ขึ้นไปบนฝั่ง“เจ้าอาบเสร็จแล้วเหรอ?” อวี่เหวินห่าวตกใจ มองใบหน้ายิ้มแย้มองนาง ดูเหมือนไม่ได้โกรธจริง“อาบเสร็จแล้ว ท่านก็รีบอาบเถอะ ท่านยังไม่ได้สระผมเลย ข้ากลับไปรอท่านที่ตำหนักก่อน” หยวนชิงหลิงหยิบชุดคลุมมาสวมแล้วจูบเขากลางอากาศ มันมีเสน่ห์เย้ายวนจนพูดไม่ถูกเลยทีเดียวอวี่เหวินห่าวผิดหวังมากแต่ทว่ากลับห้องก็ดีเหมือนกัน“งั้นก็ได้ เจ้ากลับไปรอข้าที่ห้องก่อน ข้าจะรีบไปหา” เขาดำลงไปในน้ำ สองมือรีบขยี้หัวสระผม หยวนชิงหลิงหันออกไปแล้วหยิบเสื้อผ้าของเขาทั้งสะอาดและสกปรกออกไปด้วยออกไปที่บ่อน้ำพุผีข้างนอก นางพูดกับฉีหลัวและลวี่หยาว่า “ท่านอ๋องรับสั่งว่าคืนนี้พักที่ตำหนักเฝิงอี้ พวกเจ้าทั้งคู่ไปรับใช้ที่ตำหนักเฝิงอี้เถอะ ไม่ได้อยู่หลายวัน นำที่นอนไปทำความสะอาดเสียหน่อย ”“เพคะ พระชายา!” ฉีหลัวและลวี่หยาไม่สงสัยอะไรเกี่ยวกับท่านอ๋องแล้วเดินตามนางออกไปหยวนชิงห
แน่นอนเขาเห็นใครบางคนวิ่งราวกับบินมา วิ่งได้ไวมาก อย่างกับโดนผีร้ายตามไล่กัดหางซูยี่และถังหยางได้เพ่งมองดูดี ๆ ถึงกับตกใจจนพูดไม่ออกนั้นมันท่านอ๋องใช่ไหม? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?อวี่เหวินห่าวไม่มีเสื้อผ้าติดกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ในมือถือโต๊ะวางชุดชาเล็ก ๆ นั้นปิดซ่อนความน่าอับอายนั้นและรีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ตาที่จ้องมองสองคนนั้นด้วยความโกรธ “ถ้าเรื่องคืนนี้หลุดรอดออกไปได้ ระวังลิ้นของพวกเจ้าเอาไว้ด้วย!”“ท่านอ๋อง ธรณีประตู!”สายเกินไปแล้ว ภายใต้ความโกลาหลนั้น มือที่ถือโต๊ะวางชุดชาเพื่อบดบังสายตา เมื่อขาสะดุ้ดล้มลง คนก็ล้มเสียงดังลงตามไปด้วย“สวรรค์ ซูยี่ รีบเข้าไปประคองท่านอ๋องขึ้นมา ไม่ ๆ เจ้ารีบไปหยิบเสื้อผ้ามาคลุมตัวก่อนเร็ว ไอหย๊า นางข้าหลวงมาแล้ว... นางข้าหลวงสี่ท่านหยุดยืนตรงนั้นก่อน อย่าพึ่งเข้ามา เกิดเรื่องขึ้นแล้ว...”นางข้าหลวงสี่เดิมทีนางเข้ามาเพื่อหาสาเหตุว่าทำไมพระชายาถึงโกรธ ได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้น นางจึงรีบวิ่งเหมือนบินเข้าไปตำหนักเสี้ยวเยว่วุ่นวายอยู่ชั่วขณะหนึ่งอวี่เหวินห่าวห่อผ้านวม ยื่นขาออกมาให้ซูยี่นวดเหล้ายาสมุนไพร หลังของเขาเหยียดตร
อวี่เหวินห่าวพูดอย่างโกรธเคือง “คืนนี้ที่ข้าตกระกำลำบากแบบนี้ สุดท้ายคนที่ผิดคือข้างั้นรึ?”“ท่านอ๋องไม่ผิด” ถังหยางที่ได้บรรลุทักษะงี่เง่าไร้สาระนี้ถึงระดับสูงสุดแล้ว “แต่พระชายาเองก็ไม่ผิดเช่นกัน ถ้าผิดคงผิดที่ไม่ควรหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก ยกตัวอย่างเช่น พระชายาไม่ใส่ใจผู้หญิงที่ผ่านมาของท่านอ๋องเลย ท่านอ๋องรู้สึกมีความสุขไหมพ่ะย่ะค่ะ?”อวี่เหวินห่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คงไม่มีความสุข แต่ว่าคืนนี้คงไม่น่าเวทนาขนาดนี้”“ความยากลำบากเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เห็นได้ชัดเลยว่าพระชายาให้ความสำคัญกับท่านอ๋องมากจริง ๆ ในใจนางมีท่านอ๋องอยู่ ดังนั้นกระหม่อมคิดว่าท่านอ๋องควรไปหาพระชายาเพื่อยอมรับผิดเรื่องนี้”อวี่เหวินห่าวจ้องเขม็ง “ยอมรับผิด? เมื่อกี้เจ้าพึ่งบอกว่าข้าไม่ผิดอะไรเลย”“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวว่าถูกหรือผิดนะพ่ะย่ะค่ะ ระหว่างสามีภรรยามีแบ่งแยกถูกผิดจริง ๆ ที่ไหน? หนีไม่พ้นการปลอบง้อ รัก แล้ววันเวลาเหล่านั้นก็ผ่านพ้นไป” ถังหยางพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมให้เจ้านายทั้งสองทะเลาะกันเป็นปัญหารุนแรง จวนอ๋องยากที่จะมีวันคืนอันสงบสุขอวี่เหวินห่าวถูกหลอกเข้าเต็มเปา เขาคล้อยต
แต่ปัญหาก็คือ หลังจากนี้ใจเขาจะจดจ่ออยู่กับนางหรือไม่? เขาพูดออกมาคำเดียวว่า องค์ชายก็เป็นเช่นนี้ในยุคสมัยนี้ หากผู้ชายมีฐานะการเงินดีหน่อยก็สามารถมีภรรยาและนางสนมได้มากมาย ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับเขา กับนางในตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าแท้จริงจะใช่รักหรือไม่ หากแม้ว่าคือรัก ก็คงเป็นรักที่จืดจางไปแล้ว ไม่สามารถจะเก็บความหวานชื่นไว้ในใจจนชั่วชีวิตได้ แต่มองจากปัญหาการหย่าร้างที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ก็พอที่จะทำความเข้าใจได้อย่างน้อยในยุคปัจจุบันนี้ก็สามารถทำการหย่าได้ แต่ในสมัยนี้ หากว่าสามีเปลี่ยนใจไปแต่งกับนางสนมอื่น ผู้ที่เป็นภรรยาทำได้แค่อดทนและอยู่อย่างเงียบ ๆ ตลอดไป อีกทั้งยังต้องเป็นธุระจัดการหาสนมให้สามี ชั่วชีวิตนี้จึงต้องข้ามผ่านความเสียใจ และความน่าสงสารไปให้ได้"พระชายา เข้าบรรทมได้แล้วเพคะ" นางข้าหลวงสี่เดินผ่านมาหยวนชิงหลิงลุกขึ้นนั่ง เรียกให้นางข้าหลวงเข้ามาหา "นางข้าหลวง ข้าขอถามเจ้าที บรรดาเชื้อพระวงศ์ของพวกเราชาวราชวงศ์เป่ยถัง ยินดีรับนางสนมหรือไม่?"เอ่อ...แม้ว่าเวลานี้จะไม่ยอมรับนางสนม ต่อไปอาจจะยอมรับนางสนมก็เป็นได้ เพื่อที่จะได้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง พระชายาไม่ต้องกังวล
พระชายาจี้เป็นวัณโรคแล้วจริง ๆหมอหลวงได้ยืนยันแล้วว่าอ๋องจี้ได้เสียเงินไปมาก เพื่อให้หมอหลวงเก็บรักษาความลับนี้ไว้ไม่ให้แพร่งพรายออกไปแต่ว่าก่อนหน้านี้ได้มีหมอทำการรักษาแล้ว คงไม่สามารถยับยั้งข่าวนี้ไว้ได้วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พระชายาจี้ ได้ถูกหยวนชิงหลิงทำการเปิดเผยเรื่องที่เป็นวัณโรคจากจวนอ๋องหวย ก็เริ่มมีอาการไอขึ้นมาคิดว่าไอเพราะเกิดจากลมหนาว จึงได้ให้หมอจัดยาให้ แต่ยิ่งกินยากลับยิ่งไอมากขึ้นโรคนี้เป็นแบบกระทันหัน และเป็นอันตรายมากหลังจากป่วยมาแล้ว เข้าวันที่ 5 จึงเริ่มมีไข้สูง ไอไม่หยุด จึงได้เชิญหมอออกมาตรวจอีกครั้งผู้ที่เป็นวัณโรค เสมือนว่ามีลางมรณะมาครอบไว้บนศีรษะแต่ทว่านางก็ยังไม่สิ้นหวัง เพราะในเมื่อหยวนชิงหลิงสามารถรักษาอ๋องหวยให้หายได้ก็จะต้องมีหมอที่รักษานางให้หายได้เช่นกันแต่ไม่สามารถพูดได้ว่า ฝีมือการแพทย์ของหยวนชิงหลิง ไม่เป็นสองรองใครแต่ที่นางไม่รู้คือ หยวนชิงหลิงไม่ได้มีฝีมือการแพทย์ดีอะไร นางมีเพียงแต่ยาที่ใช้ในการรักษาเท่านั้นผู้ที่เป็นวัณโรคบางคนสามารถอยู่ได้หลายปี แต่ถ้าเกิดโรคขึ้นมาแบบกระทันหัน บางทีอาจจะไปเลยก็ได้แต่อาการของพระชายาจี้เป
เดิมทีจวนจิงจ้าว มีทีมงานหนึ่งชุดที่จัดการคดีให้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ทุกปัญหาพัวพันกันเป็นคอขวด ไม่รู้ว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้อย่างไรตอนนี้มีเบาะแสแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายต่อการจัดการอย่างไรก็ตามการไขคดีภายในระยะเวลาที่กําหนดอาจเป็นเรื่องยากเพราะว่าแม้ว่าจะมีผู้ต้องสงสัย ก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และหลังจากตรวจสอบแล้วต้องหาที่อยู่เพื่อการจับกุมกล่าวอีกนัยหนึ่ง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะจับฆาตกรได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือนเพียงแต่อวี่เหวินห่าวกับคนในจวนจิงจ้าวรู้สึกโล่งใจ ตอนนี้ฆาตกรถูกจับไว้ เขาเป็นที่รู้จักในนาม ซานฮัวโร บนถนนเหอหลิ่งโจวจือ มีฉายาว่า ‘ซานฮัวโร’ เก่งเรื่องอาวุธลับ เข็มพิษ เพื่อเงินแล้วเขาทำได้ทุกอย่างตราบใดที่ฆาตกรถูกจับ แม้ว่าจะไม่ถูกจับกุมภายในเวลาที่กำหนด ทั้งฮ่องเต้และอัครมหาเสนาบดีฉู่ ก็ไม่มีคำพูดอะไรจะกล่าวอย่างไรก็ตาม ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพระเจ้าโปรดปรานอวี๋เหวินห่าวหรือไม่วันนี้ได้รับรายงานลับว่า โจวจือจะปรากฏตัวในวัดที่ถูกทำลายในเขตชานเมืองหลวงในเวลากลางคืนอวี๋เหวินห่าวไม่สนใจว่าจะเป็นข่าวจริงหรือเท็จ เขานำกำลังคนไปซุ่มโจมตีก่อน ผลปรากฏว่าเป็นข่าวจริ