Share

บทที่ 282

Author: จูน
พระชายาจี้เป็นวัณโรคแล้วจริง ๆ

หมอหลวงได้ยืนยันแล้วว่าอ๋องจี้ได้เสียเงินไปมาก เพื่อให้หมอหลวงเก็บรักษาความลับนี้ไว้ไม่ให้แพร่งพรายออกไป

แต่ว่าก่อนหน้านี้ได้มีหมอทำการรักษาแล้ว คงไม่สามารถยับยั้งข่าวนี้ไว้ได้

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พระชายาจี้ ได้ถูกหยวนชิงหลิงทำการเปิดเผยเรื่องที่เป็นวัณโรคจากจวนอ๋องหวย ก็เริ่มมีอาการไอขึ้นมา

คิดว่าไอเพราะเกิดจากลมหนาว จึงได้ให้หมอจัดยาให้ แต่ยิ่งกินยากลับยิ่งไอมากขึ้น

โรคนี้เป็นแบบกระทันหัน และเป็นอันตรายมาก

หลังจากป่วยมาแล้ว เข้าวันที่ 5 จึงเริ่มมีไข้สูง ไอไม่หยุด จึงได้เชิญหมอออกมาตรวจอีกครั้ง

ผู้ที่เป็นวัณโรค เสมือนว่ามีลางมรณะมาครอบไว้บนศีรษะ

แต่ทว่านางก็ยังไม่สิ้นหวัง เพราะในเมื่อหยวนชิงหลิงสามารถรักษาอ๋องหวยให้หายได้

ก็จะต้องมีหมอที่รักษานางให้หายได้เช่นกัน

แต่ไม่สามารถพูดได้ว่า ฝีมือการแพทย์ของหยวนชิงหลิง ไม่เป็นสองรองใคร

แต่ที่นางไม่รู้คือ หยวนชิงหลิงไม่ได้มีฝีมือการแพทย์ดีอะไร นางมีเพียงแต่ยาที่ใช้ในการรักษาเท่านั้น

ผู้ที่เป็นวัณโรคบางคนสามารถอยู่ได้หลายปี แต่ถ้าเกิดโรคขึ้นมาแบบกระทันหัน บางทีอาจจะไปเลยก็ได้

แต่อาการของพระชายาจี้เป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 283

    เดิมทีจวนจิงจ้าว มีทีมงานหนึ่งชุดที่จัดการคดีให้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ทุกปัญหาพัวพันกันเป็นคอขวด ไม่รู้ว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้อย่างไรตอนนี้มีเบาะแสแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายต่อการจัดการอย่างไรก็ตามการไขคดีภายในระยะเวลาที่กําหนดอาจเป็นเรื่องยากเพราะว่าแม้ว่าจะมีผู้ต้องสงสัย ก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และหลังจากตรวจสอบแล้วต้องหาที่อยู่เพื่อการจับกุมกล่าวอีกนัยหนึ่ง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะจับฆาตกรได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือนเพียงแต่อวี่เหวินห่าวกับคนในจวนจิงจ้าวรู้สึกโล่งใจ ตอนนี้ฆาตกรถูกจับไว้ เขาเป็นที่รู้จักในนาม ซานฮัวโร บนถนนเหอหลิ่งโจวจือ มีฉายาว่า ‘ซานฮัวโร’ เก่งเรื่องอาวุธลับ เข็มพิษ เพื่อเงินแล้วเขาทำได้ทุกอย่างตราบใดที่ฆาตกรถูกจับ แม้ว่าจะไม่ถูกจับกุมภายในเวลาที่กำหนด ทั้งฮ่องเต้และอัครมหาเสนาบดีฉู่ ก็ไม่มีคำพูดอะไรจะกล่าวอย่างไรก็ตาม ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพระเจ้าโปรดปรานอวี๋เหวินห่าวหรือไม่วันนี้ได้รับรายงานลับว่า โจวจือจะปรากฏตัวในวัดที่ถูกทำลายในเขตชานเมืองหลวงในเวลากลางคืนอวี๋เหวินห่าวไม่สนใจว่าจะเป็นข่าวจริงหรือเท็จ เขานำกำลังคนไปซุ่มโจมตีก่อน ผลปรากฏว่าเป็นข่าวจริ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 284

    อวี่เหวินห่าวบอกขั้นตอนการคลี่คลายคดีอีกครั้ง แต่ปกปิดการชันสูตรพลิกศพของหยวนชิงหลิงและผู้ที่นำความลับของโจวจือมาบอกเอาไนั้นเพราะไม่ใช่ต้องการกีดกันหยวนชิงหลิง แต่อ๋องจี้อยู่ตรงนี้ เขาไม่อยากให้อ๋องจี้รู้เรื่องว่าหยวนชิงหลิงเคยเข้ารวมกับคดีนี้ส่วนที่มีคนให้เบาะแส เขายังคงต้องตรวจสอบ ยังบอกจักรพรรดิไม่ได้ในตอนนี้อ๋องจี้ได้ยินว่าฆาตกรชื่อโจวจือ ก็มีสีหน้าเรียบเฉยจักรพรรดิหมิงหยวนชื่นชมอวี่เหวินห่าว ทว่าในใจเขากลับแค้นเคือง แต่ใบหน้าของเขายังคงต้องชื่นชมอย่างปลื้มปิตทั้งยังไม่มีใจที่จะไปฝึกคัดลายมือเป็นเพื่อนจักรพรรดิหยวนหมิง เขาออกจากวังด้วยความโกรธ ตรงไปยังห้องพระชายาจี้พระชายาจี้ เพิ่งกินยาเสร็จพอดีและกำลังนอนอยู่บนเตียง เห็นเขาเข้ามาด้วยอารมณ์โกรธ อดไม่ได้ที่จะถามว่า "ท่านอ๋อง เป็นอะไรไปเพคะ?"อ๋องจี้จ้องหน้านาง "เจ้ารู้หรือไม่ อวี๋เหวินห่าวปิดคดีได้แล้ว โจวจือถูกจับไปแล้ว?"พระชายาจี้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก รีบพยุงกายลุกขึ้นนั่ง กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า "เป็นไปได้อย่างไร!""เดิมทีข้าก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้" อ๋องจี้เดินเข้ามาใกล้ ๆ สีหน้าเย็นชา "แต่ว่าข้าได้ยินเขารา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 285

    หากนางเสียชีวิตด้วยวัณโรค ไม่มีใครสงสัยในสาเหตุการตายของนาง ทั้งพ่อและพี่ชายยังคงสนับสนุนเขาอยู่ ส่วนจักรพรรดิก็ยิสงสารเขา ที่ยังไม่คลายจากความเศร้า ที่จริงแล้วที่นางเป็นวัณโรคน่าจะเป็นเพราะมาจากการดูแลอ๋องหวยนางไม่มีทางเลือก ที่จะต้องส่งมอบความสำเร็จนี้ให้อวี่เหวินห่าวถ้าไม่กดดันเขา นางก็จะสูญเสียคุณค่าการใช้ประโยชน์ไปจนหมดสิ้นหากต้องการจะควบคุมเขา จะต้องทำให้เขารู้ว่า ถ้าสูญเสียนางไป เขาจะลำบากขึ้นเป็นร้อยเท่าจวนจิงจ้าวคืนนี้มีงานเลี้ยงฉลองอวี่เหวินห่าวดื่มเหล้าเข้าไปมาก ที่สำคัญคือคืนนี้ไม่มีพิธีเป็นทางการ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ของจวนจิงจ้าวชักชวนให้ดื่ม จึงดื่มเข้าไปมากเกินปกติ ซูยี่ส่งเขากลับไปที่หน้าประตูจวนอ๋อง เขาเพิ่งจะลงจากรถม้า ก็รู้สึกอยากอาเจียน จึงรีบไปที่อ้วกที่ต้นตั๊กแตนแก่ตรงประตู อาเจียนออกมาเป็นเศษอาหารพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ ซูยี่เห็นแล้วรู้สึกตกใจและหวาดกลัว จะมีใครตายเพราะอาเจียนหรือไม่?อวี่เหวินห่าวอ้วกเสร็จแล้ว เขากลับมีสติเล็กน้อย ชี้ไปที่ ซูยี่และตะโกน "เจ้า...ขับรถเตกหลุมตกบ่อ"ซูยี่ยื่นมือพยุงเขา "ครับ ครับ ข้าผิดไปแล้ว เรากลับกันเถอะ"อวี่เหวินห่าว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 286

    อวี่เหวินห่าวกุมขมับพยายามทำสมาธิ ขนาดจะยกมือยังไม่มีแรง พึมพำไปเรื่อยเปื่อยว่า "คนนอกวออกไป!" นางข้าหลวงสี่และฉีหลัวรีบออกไปปิดประตูอวี่เหวินห่าวมองไปที่นาง สีหน้ามีความรู้สึกตื้นตันใจ "เจ้า...เจ้าอย่าโกรธไปเลย" หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "ข้าไม่ได้โกรธ""เจ้าโกหก!" อวี่เหวินห่าวนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน นางไม่โกรธก็แปลกแล้ว!"ท่านดื่มจนเมาแล้ว!"เขาตบลงไปที่โต๊ะ "ข้าไม่ได้เมา"หยวนชิงหลิง ดูที่ฝ่ามือของเขาที่บวมแดงไปหมดแล้ว "พอแล้ว ข้าไม่ได้โกรธแล้ว""ข้าไม่เชื่อ เจ้าต้องโกรธแน่ ๆ" อวี่เหวินห่าวกล่าวหา เขาและระบายความโกรธออกมา "เจ้าเอาแต่ถาม ข้าบอกแล้วว่าไม่มี เจ้ายังจะถามข้าต่ออีก""ได้ ข้าผิดเอง ข้าไม่ควรถาม" หยวนชิงหลิงไม่สนใจเขาอีก สองวันนี้นางก็รู้สึกไม่สบายอยู่เหมือนกัน อวี่เหวินห่าวเริ่มเข้าสู่การสนทนา "ถามได้ แต่ไม่ใช่เอาแต่ถาม ข้าบอกแล้วว่าไม่มี เจ้าก็ไม่เชื่อยังถามอยู่อีก"หยวนชิงหลิงก็ทนไม่ไหวแล้ว "ถ้าข้าไม่เอาแต่ถาม ท่านก็ไม่ยอมพูดสิ""ก็ข้าบอกแล้วว่าไม่มี!" ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ อ่า แต่กลับปากแข็ง "แต่ในความเป็นจริงเจ้ามี!" อวี่เหวิ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 287

    อวี่เหวินห่าวก้มหัวลงและกัดไปที่ข้อมือของนาง คิดว่าต้องไม่ใช้แรงมากไป ทั้งยังไม่ยอมที่จะเสียหน้า ด้วยความโกรธจึงได้ฝังรอยฟันลงไป แต่ไม่ลึกเกิน"เราอย่ามาทะเลาะกันอีกเลย ทะเลาะกันไป ใจข้ามีแต่ความอึดอัด" เขามองหน้านาง มองเข้าไปในดวงตา ในใจยังปนไปด้วยโทสะหยวนชิงหลิงหลบตา "ได้ เราจะไม่ทะเลาะกันแล้ว""ขอกอดหน่อย!" อวี่เหวินห่าวดึงนางเข้ามากอดไว้แนบอกร่างทั้งสองแนบชิดกัน แล้วล้มตัวลงไปหยวนชิงหลิงยิ้มออกมาได้ "นี่บนพื้นนะ มีอะไรไปคุยกันบนเตียง"เขาจะขยับก็ไม่ขยับทับบนร่างของนาง แล้วก็ล้มลงไป"อวี่เหวินห่าว ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!" หยวนชิงหลิงตีไปที่แผ่นหลังของเขาเสียงกรน ดังก้องอยู่ในหูของนาง หยวนชิงหลิงปล่อยมืออย่างอ่อนแรง ดี หลับไปเลยสุดท้าย ต้องเรียกซูยี่เข้ามานำเขาย้ายออกไปหยวนชิงหลิงลูบหลังคนผู้นี้อย่างเอาเป็นเอาตาย น้ำแกงสร่างเมาก็ดื่มไม่ได้ ตียังไงก็ไม่ตื่น หยวนชิงหลิงได้แต่ปล่อยให้เขานอนไม่มีผ้าปูเตียงกับหมอนเลยเหรอ?ชอบตำหนิติเตียนความน่าเกลียดของผู้อื่น? มันเป็นความดื้อรั้นนางยิ้มออกมาแล้ว คำพูดของเขาถึงแม้ไม่น่าเชื่อถือ และอาจเป็นเพราะกลัวนางโกรธ ดังนั้นก็เลยโกหก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 288

    หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม "ถ้าเช่นนั้น เสด็จแม่ได้เคยหาหมอยาหรือหมอหลวงมารักษาท่านหรือไม่?""เคยหามารักษาแล้ว แต่ว่าข้าไม่ให้ความร่วมมือ เสด็จแม่ก็เลยโกรธมาก" อวี่เหวินห่าวกล่าวเขาถูใบหน้าของนาง "ไม่โกรธนะ?""เดิมทีก็ไม่ได้โกรธ คืนนั้นข้าก็ได้พูดแล้วว่าไม่ได้โกรธ" "เจ้าโกหก ข้าจะไม่เชื่อผู้หญิงอีกแล้ว"ถังหยางพูดถูก พูดกับผู้หญิงให้พูดความจริงแค่ครึ่งเดียวอันที่จริงแลัว มันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เดิมทีได้รับหญิงสองคนเข้ามาในวังให้เลือก แต่เขากลับเลือกอีกคน ผลก็คือเสด็จแม่ไม่เห็นด้วย เลยเปลี่ยนให้เขาใหม่ในเวลานั้น เขาเพิ่งสังเกตเห็นลักษณะบุคลิกภาพของตัวเอง เขาชอบที่จะตัดสินใจด้วยตนเองเริ่มไม่พอใจกับอํานาจเผด็จการของเสด็จแม่และขัดขืนโดยไม่รู้ตัวเขาจงใจไม่แตะต้องนางข้าหลวงเพื่อต่อต้านเสด็จแม่ แน่นอนว่ามันน่าเกลียดเกินไปจริง ๆเสด็จแม่คิดว่าเขาป่วยจริง ๆ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาก็ปฏิเสธที่จะรักษา เพราะเมื่อรักษาแล้ว เสด็จแม่ก็จะรู้เข้า และที่สําคัญที่สุดคือเขาไม่อาจยอมรับว่าเขาจงใจหลอกเสด็จแม่ ด้วยเหตุนี้หลายปีมานี้ ข้างกายเขาไม่มีแม้แต่นางสนมสักคนหลังข่าวของจวนองค์หญิ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 289

    ติดตามเขามาหลายปี ไม่มีค่าในสายตาเลยสักนิดฉางกงกงกระอักกระอ่วนกล่าวว่า "ไม่จำเป็นพ่ะย่ะค่ะ"หยวนชิงหลิงยิ้มน้อย ๆ แต่มือก็ยังคงใช้แรงนวดคลึงเหมือนเดิมคนสูงอายุ อันที่จริงก็เหมือนเด็กน้อย ต้องการให้คนมารักและเอาใจใส่นวดคลึงได้สักพัก ไท่ซ่างหวงบอกนางให้นั่งลง ยังแบ่งขนมให้นางชิ้นหนึ่ง"อาการปวดหายดีหรือยังเพคะ?" ไท่ซ่างหวงเห็นนางถาม จึงตอบไปว่า"หายดีแล้ว!" หยวนชิงหลิงกินขนม ยิ้มเล็กน้อยกับคำตอบ"โง่ขนาดนี้ เจ้าจะตายหรือไม่?" ไท่ซ่างหวงมีลิ้นที่ร้ายกาจเสมอมา หยวนชิงหลิงเบ้ปากพลางพูดว่า "ยังไม่ตาย"รู้อยู่แล้วว่ามาที่นี่ต้องโดนต่อว่าอยู่ไม่น้อยไท่ซ่างหวงถลึงตาจ้องมองนางเขม็ง "เข้าวังครั้งที่แล้ว ข้าเพียงบอกเจ้าว่า ให้เจ้าคิดทุกอย่างคิดจนถึงที่สุด คิดให้สุดทาง หรือว่าเจ้าสมองพิการไปแล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าหกมีอาการป่วยอย่างไร?”หยวนชิงหลิงถอนหายใจ คำว่าสมองพิการช่างเป็นคำที่ข้ามมิติมาบ้างแล้ว "รู้แล้ว รู้แล้ว ข้าประมาทไปชั่วขณะ" หยวนชิงหลิงสมควรถูกดุ ที่จริงวันนั้นอ๋องหวยถูวางยา นางควรจะตื่นตัวให้มากกว่านี้แต่ว่าในเวลานั้น นางคิดว่าฝ่ายตรงข้ามวางยาอ๋องหวย ไม่ได้คิดถึงตัวเอง

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 290

    ฉางกงกงยิ้มแล้วกล่าว "ท่านรีบนำกลับไปเถอะ หยกนี้หายากมาก ท่านไม่สามารถหาได้ดีขนาดนี้ นี่เป็นของที่เซียวเหยาโฮ่ว เข้าวังมาถวายไท่ซ่างหวงเมื่อสองวันก่อน พระองค์ชอบมันมาก แต่พระองค์ก็ไม่เก็บมันไว้เพื่อตัวเอง"หยวนชิงหลิงรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก กำลังจะปลีกเดินออกไป ไท่ซ่างหวงตวาด "อย่าเพิ่งไป! ตกลงเจ้าจะรับหรือไม่?".หยวนชิงหลิงรีบแย่งกล่องไปถือไว้ในมือ โค้งคำนับ "หลานสะใภ้ทูลลา"นางคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรับความหวังดีของผู้เฒ่าหยวนชิงหลิงออกจากวังเฉียนคุนแล้ว จึงถือกล่องไปหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมองไปที่กล่อง ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พลางกล่าว "นี่เป็นหยกที่เซียวเหยาโฮ่วมอบให้ไท่ซ่างหวงใช่หรือไม่? ทำไมถึงให้เจ้าหมดเลยล่ะ?""ใช่เพคะ" หยวนชิงหลิงมองพระองค์แว๊บนึง รีบถวาย "เสด็จพ่อชอบหรือไม่เพคะ? ถ้าอย่างนั้น หม่อมฉันคงจะต้องเปลี่ยนเป็น ยืมดอกไม้บูชาพระ ขอถวายฝ่าบาทเพคะ"จักรพรรดิหมิงหยวนโบกมือพลางกล่าว "ของที่ไท่ซ่างหวงให้เจ้า เจ้าก็เก็บรักษาไว้ ข้าไม่สนใจของพวกนี้ เพียงแต่ ไท่ซ่างหวงดูเหมือนจะให้ราคากับเจ้ามาก"ไท่ซ่างหวงชอบหยกนี้มาก ขนาดลูก ๆ ของเขาเห็น ไท่ซ่างหวงยังรีบใ

Latest chapter

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1015

    ซูยี่อยู่ในห้องของสุนัขป่าเช่นกัน เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวและหยวนชิงหลิงเข้ามา เขาพูดอย่างกังวล "องค์รัชทายาท พระชายา นายน้อยสุนัขป่าไม่กินอะไรเลย หาหมอหลวงดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?"อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "เขารักษาอาการป่วยของสุนัขป่าไม่ได้ จะพาเขาไปทำไม?"เขาดูสุนัขป่าน้อยสามตัวนอนอยู่บนเตียงเล็ก ร่างเล็ก ๆ ของพวกมันเบียดเสียดกัน ดูเซื่องซึม บางทีอาจเป็นเพราะพวกมันไม่ได้กินอะไรจึงดูอ่อนแอและซูบผอมเป็นพิเศษ อวี่เหวินห่าวพูดด้วยความประหลาดใจว่า "ผอมลงมากขนาดนี้เลยรึ? สุนัขป่าคงหิวมากแน่ ๆ""สุนัขป่าที่โตเต็มวัย เวลาหิวนั้นกินอาหารหนึ่งมื้อสามารถอยู่ได้นานถึงครึ่งเดือน ตอนนี้พวกมันยังเด็กและต้องกินเนื้อ" ซูยี่เลี้ยงสุนัขป่า และได้ศึกษาการเลี้ยงมามากมายอวี่เหวินห่าวหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมา เห็นสุนัขป่าหิมะตัวน้อยนอนนิ่งอยู่ในมือของเขาเหมือนก้อนสำลีเบาหวิวไม่มีน้ำหนัก "ตัวนี้ของใครกัน?""ของเสี่ยวลั่วหมี่" หยวนชิงหลิงกล่าว "ตัวเล็กที่สุดคือของเสี่ยวลั่วหมี่ ท่านดูสิแยกออกได้เลยเห็นไหม ของ เปาจื่อปากจะแหลมมาก ของทังหยวนก็หน้ากลมกว่า มันแปลกที่จะบอกว่าสุนัขป่าพวกนี้ ทั้งลักษณะนิสัยหรือรูปร่างหน้าตา พว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1014

    อวี่เหวินห่าวไม่ได้อธิบายอะไรแทนจิ้งถิง เขาแค่พูดว่า "เขาจะอยู่ในจวนสักพัก ดังนั้นเจ้าควรเปิดตาของเจ้าดูสิว่าเขาจริงใจหรือเสเเสร้ง เจ้าฉลาดมากขนาดนี้ ย่อมต้องดูออกอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงได้ยินถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาใส่ใจมิตรภาพนี้จริง ๆหยวนชิงหลิงลองคิดดูแล้ว หลังจากใช้เวลาร่วมกับจวิ้นจู่มาสองสามวัน จวิ้นจู่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผย ดังนั้นนางคงไม่หาสามีที่มีจิตใจล้ำลึกซับซ้อนหรอกนางจึงขอโทษเขา "ข้าคิดมากไป ในอนาคตข้าจะไม่พูดอะไรแบบนี้อีก"อวี่เหวินห่าวเอื้อมมือไปเชยคางนาง และมองหน้านาง "เหล่าหยวน ข้าเองก็เห็นว่านิสัยของเจ้าช่างเถรตรงจริง ๆ แม้ว่าบางครั้งเจ้าจะดุร้าย เผด็จการ และไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเจ้าทำอะไรผิด เจ้าจะต้องขอโทษอย่างแน่นอน เกรงว่าแม้จะเป็นคนรับใช้ก็ยังกล่าวคำขอโทษได้ เจ้านี่นิสัยดี ใช้ได้จริง ๆ"“ข้าเป็นคนไร้เหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ท่านจะชมข้าก็ชมสิ ทำไมต้องดุกันก่อน”อวี่เหวินห่าวหัวเราะ "รางวัลและบทลงโทษต้องแยกให้ออกจากกันอย่างชัดเจน หากเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าควรได้รับคำชมเชย หากเจ้าทำอะไรผิด ก็ต้องบอกกล่าวตักเตือ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1013

    เขากลับมาที่จวนอย่างไม่สบอารมณ์ หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาขมวดคิ้ว นางรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลงนามพันธมิตรอีกเป็นแน่ ดังนั้นนางจึงปลอบเขาอวี่เหวินห่าวพูดด้วยความโกรธ "เสด็จพ่อจงใจทำให้ข้าลำบาก จูกั๋วกงเห็นด้วยหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยรึอย่างไร?"หยวนชิงหลิงหัวเราะ "ท่านอยู่ในเกมและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป จึงไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องการให้ท่านเอาแรงสนับสนุนจากจูกั๋วกงมาให้ได้ ไม่ใช่แค่แรงสนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันจะเป็นแรงสนับสนุนงานในอนาคตทั้งหมดของท่าน เพราะตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถปราบปรามตี้เว่ยหมิงอย่างออกหน้าได้ นั้นก็คือตัวเขาที่เป็นพ่อตา”อวี่เหวินห่าวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "เจ้าหมายความว่า เสด็จพ่อก็มองตี้เว่ยหมิงออกด้วยหรือ?"หยวนชิงหลิงยืนพิงเขา "เสด็จพ่อย่อมต้องรู้มากกว่าท่านอยู่แล้ว เหมือนที่ท่านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าพระองค์ลำเอียงเข้าข้างพี่ใหญ่เสมอ จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงรู้อยู่แก่ใจ พระองค์แค่ให้โอกาสพี่ใหญ่เสมอ แต่เมื่อเจอโอกาสที่เหมาะสม ก็ควรจัดการไม่ใช่หรอกหรือ? ความคิดของพระองค์ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจงทำตามที่พระองค์ต้องการเถอะ จัดก

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1012

    พระชายาจี้พูดจบก็กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้เก้าอี้ที่นางนั่งนั้นใหญ่มาก แต่นางผอมมากเนื่องจากป่วยมาเป็นเวลานาน เก้าอี้นั้นยังมีพื้นที่เหลืออีกมาก ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นนั่งบนเก้าอี้กว้างตัวใหญ่ประจัญหน้ากับพวกขุนนางกว่าสิบคนที่อยู่ตรงนั้นแม่ทัพซุยไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวคนที่เหลือก็เงียบและก้มหน้าเช่นกันพระชายาจี้รออยู่สักพัก ก่อนที่จะกล่าวอย่างใจเย็นว่า "องค์รัชทายาทคือผู้กำหนดชะตา ถ้าเจ้าปฏิบัติตามให้ดี เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่งคั่งและมั่งคั่งในภายภาคหน้า วันนี้ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ ทุกคนไปเถอะ รักษาตัวด้วย"หลังจากพูดจบ นางก็ยืนขึ้น และเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง แผ่นหลังบาง ๆ ของนางตั้งตรงดูยิ่งใหญ่ราวกับว่าสามารถแบกท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่งแรงสนับสนุนของอวี่เหวินห่าวสูงขึ้นเรื่อย ๆอย่างไรก็ตาม มีคน ๆ ​​หนึ่งที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อยู่เสมอ ถึงกับตำหนิเขาตรง ๆ ต่อหน้าท้องพระโรงทำให้บรรยากาศของวันนั้นแย่เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่จักรพรรดิหมิงหยวนก็ยังกริ้วจนหน้าดำจูกั๋วกงคนนี้คือ จูหรูเพ่ย เป็นพ่อตาของตี้เว่ยหมิงเมื่อก่อน

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1011

    มีแม่ทัพแซ่ซุยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยอยู่กับตี้เว่ยหมิงมาก่อน และตี้เว่ยหมิงได้ติดต่อเขาแล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาจี้พูด เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า "ข้อเสนอขององค์รัชทายาทที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ต่างอะไรไปกว่าการกระทำของคนขี้ขลาด คิดว่าด้วยการสนับสนุนของต้าโจว เป่ยถังของเราจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขรึ และเช่นกันด้วยวิธีนี้ เป่ยถังของเราจะต้องมองสีหน้าท่าทีของต้าโจวในทุก ๆ เรื่องงั้นหรือ? นี่คิดว่ามันคงไม่เหมาะกระมั่ง”พระชายาจี้มองเขา น้ำเสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย “แม่ทัพซุย แม้ว่าข้าจะเป็นผู้หญิง แต่ข้าก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่องค์รัชทายาทเสนอเป็นพันธมิตร มิใช่การยอมจำนน ทำไมเจ้าต้องสังเกตสีหน้าท่าทางต้าโจวทุกอย่างด้วย?”แม่ทัพซุยพูดอย่างแข็งกร้าว "พระชายาคงไม่เข้าใจสินะ? เมื่อพันธมิตรถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน ข้อจำกัดทางทหารไม่ใช่เรื่องที่ดี"พระชายาจี้ถึงกับขำ แววตาของนางดูเย็นชาขึ้นมา "จริงหรือ? แล้วทำไมข้าถึงได้ยินว่าสนธิสัญญานี้หมายถึงการไม่รุกรานกัน? หรือว่าแม่ทัพซุยมีความคิดที่จะรุกรานแคว้นอื่น"แม่ทัพซุยตกตะลึง "นี่...ข้าย่อมไม่มีอยู่แล้ว"“ในเมื่อไม่มี เจ

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1010

    หยวนชิงหลิงไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวลั่วหมี่ยังมีไข้อยู่นางยิ้มและพูดว่า "เสด็จย่า พวกเขาอาจจะงอแง เกรงว่าจะทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยได้เพคะ"ไทเฮาทรงมีสีพระพักตร์นิ่งเฉย และตรัสอย่างไม่พอใจว่า “เกรงว่าคนแก่อย่างข้าจะอ่อนล้า หรือไม่วางใจให้ข้าดูแลพวกเขากัน? กลัวว่าพวกเขาอยู่กับข้าแล้วจะดูแลไม่ดี ไม่มีนมให้กินอย่างนั้นรึ” หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ดูพระองค์พูดสิเพคะ พระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้ายได้อย่างไร? พระองค์ออกจะรักเหมือนเป็นหัวแก้วหัวแหวน... "“บุ้ย ๆ ๆ หัวแก้วหัวแหวนอะไรกัน ไม่ใช่ลูกสาวสักหน่อย แต่เป็นทองคำต่างหาก ทองคำของข้า” ไทเฮาทรงตรัสแปลก ๆ ขณะอุ้มเสี่ยวลั่วหมี่ไว้นางเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยวนชิงหลิงและพูดอย่างเย็นชาว่า "อย่าพูดไร้สาระ แค่อยู่ในวังสักสองสามวัน ไว้หายดีแล้วค่อยให้เจ้ามารับไป หากยังกังวลใจ ให้ไปหาไท่ซ่างหวงให้รับรองให้เจ้าเถอะ”หยวนชิงหลิงได้ยินว่านางถึงกับยกไท่ซ่างหวงออกมาแบบนี้ นางจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร นางจึงจำใจต้องส่งลูกที่เพิ่งครบเดือนให้ห่างอกนางเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ ทุกวันนี้นางก็แทบไม่มีเวลา

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1009

    ในเมื่อเสด็จพ่อเห็นด้วย จะให้เขามาหารือกับเหล่าขุนนางเพื่อเรียกแรงสนับสนุน แล้วทำไมเขาต้องไปหาเสียงเห็นชอบด้วยจักรพรรดิหมิงหยวนมองเขาอย่างแฝงความนัย เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ "ไปซะ"อวี่เหวินห่าวออกไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า มันยังเป็นความเคลื่อนไหวอันเฉียบแหลมของเสด็จพ่อ ที่ไม่ได้แสดงจุดยืนของพระองค์ออกมา และเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเหล่าขุนนางอย่างเงียบ ๆ หากพระองค์แสดงจุดยืนออกมา หลายคนจะเอียนเอียงคล้อยตามพระองค์ทันที ถ้าพระองค์ไม่พูดอะไร พระองค์ก็จะรู้ความคิดทุกคนจริง ๆ ว่าใครอยู่ข้างตี้เว่ยหมิงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาจากไป จักรพรรดิหมิงหยวนก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักประวัติศาสตร์ในอนาคตเขียนส่งเดชให้เขาเป็นแพะรับบาป การแสร้งทำเป็นบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำได้น่าจะเป็นการดีกว่าเขากำลังกินหมานโถ่วและกังวลใจเกี่ยวกับเสี่ยวลั่วหมี่วันนี้เสี่ยวลั่วหมี่มีไข้ อันที่จริงไม่ใช่แค่เสี่ยวลั่วหมี่ แต่เด็กทั้งสามคนมีอาการไอเล็กน้อยเพียงแต่ร่างกายของเสี่ยวลั่วหมี่นั้นไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงมี

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1008

    หลังจากเลิกว่าราชกิจแล้ว อวี่เหวินห่าวก็ไม่ย่อมไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไปหอตำราหลวงหาจักรพรรดิหมิงหยวนจักรพรรดิหมิงหยวนมักจะกินอาหารเช้าหลังจากเลิกว่าราชกิจในยามเช้า มีโจ๊กและหมานโถ่วอยู่ในห้องทำงานของจักรพรรดิ หลังจากกินโจ๊กชามหนึ่ง ก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า"เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่าเจ้ากับแม่ทัพเฉินแห่งต้าโจว? ถึงเป็นเหตุผลให้เจ้าวิ่งเต้นขนาดนี้?”อวี่เหวินห่าวไม่ได้กินอาหารเช้าเช่นกัน และตอนนี้เขาหิวมาก เมื่อเห็นว่าเขาหยุดกินโจ๊กแล้ว เขาคิดว่าเขาไม่เอาหมานโถ่วแล้ว จึงเอื้อมมือไปหยิบหมานโถ่ว “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม..."จักรพรรดิหมิงหยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาและชี้ไปที่เขา "วางลงซะ!"อวี่เหวินห่าวถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นสายตาพ่อตัวเองเป็นประกายเช่นนั้น เขาแอบบ่นว่าขี้งกและวางหมานโถ่วกลับที่เดิมจักรพรรดิหมิงหยวนหยิบหมานโถ่วขึ้นมาเช็ด จากนั้นค่อย ๆ ปอกลอกเปลือกนอกออกและกินมัน โดยทิ้งอวี่เหวินห่าวที่อยู่ข้าง ๆอวี่เหวินห่าวพูดอย่างเศร้าใจ "กระหม่อมก็หิวเหมือนกัน เมื่อเช้านี้ตื่นมา แม่นมบอกว่าเสี่ยวลั่วหมี่ตัวร้อนเล็กน้อย กระหม่อมจึงรีบไปดูก่อน ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารเช้า"เมื่อได้ยินว

  • ใต้หล้าสยบรัก   บทที่ 1007

    เขาพูดเสียงดังในท้องพระโรง "เป่ยโม่และเสียนเป่ยเป็นดั่งหมาป่าทะเยอทะยาน พวกเขาจับตามองเป่ยถังมานานแล้ว แต่เป็นเพราะทหารม้าที่แข็งแกร่งของเป่ยถั งและเหล่ายอดนักรบจึงขับไล่พวกเขากลับไปได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลับมารุกรานอีกตอนนี้ต้าโจวได้พัฒนาอาวุธและรถออกศึกได้ หากทั้งสองแคว้นเป็นพันธมิตรกัน ต้าโจวสามารถช่วยเป่ยถังปรับปรุงอาวุธและยุทโทปกรณ์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันทางทหารของเป่ยถังได้ และร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ นี่เป็นประโยชน์ระยะยาวสำหรับเป่ยถัง รัชทายาททรงมีพระวินิจฉัยที่ลึกซึ้ง นั่นเป็นผลดีต่อราษฏร และเขายังคิดถึงระยะยาวสำหรับเป่ยถัง ส่วนแม่ทัพตี้เว่ยหมิงที่เจตนาพูดจาให้คนอื่นตกใจนั้นก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ว่าไปแล้วเป่ยถังไม่ได้ไปรุกรานโม่เป่ยกับเสียนเป่ย หากพวกเขาไปรุกรานต้าโจว มีหรือจะปล่อยเป่ยถังไว้? หรือถึงตอนนั้นต้องยกแคว้นให้เพื่อสงบศึกกัน? "ในตอนนั้นเป่ยถังพ่ายแพ้ให้กับเป่ยโม่ ถูกทหารสามหมื่นนายล้อมไว้ ในท้ายที่สุด แม่ทัพตี้เว่ยหมิงถูกส่งไปเจรจาสงบศึก ยกเมืองที่เป่ยโม่ต้องการถึงจะยอมถอยทัพนี่เป็นความอัปยศอดสูของเป่ยถังเสมอ และม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status