“เช็ดเหงื่อ!” ไท่ซ่างหวงตะโกนเรียกหยวนชิงหลิงรีบนำผ้าขนหนูไปซับเหงื่อเขา “พักสักครู่เถอะเพคะ ดื่มน้ำก่อนค่อยทำต่อ”“ใกล้เสร็จแล้ว เหลือแค่แกะลายมังกรซ่อนปุ่มก็เรียบร้อย” ไท่ซ่างหวงหันมามองเธอ “เรื่องของฮู่ยติ่งโฮ่ว ในเมื่อเจ้าไม่สนใจชื่อเสียงตัวเอง นำตัวเองไปเสี่ยง ก็ไม่ควรแต่งตัวปลอมตัวเป็นชาย แต่ไปปรากฏตัวด้วยฐานะพระชายาต่อหน้า และดึงดูดความสนใจของเขา”หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม “แล้วมันมีอะไรแตกต่างกัน? เขาก็รู้ว่าหม่อมฉันคือพระชายาฉู่”ไท่ซ่างหวงกล่าวต่อ “เขาแค่แสร้งเป็นไม่รู้ มองย้อนกลับไปเรื่องนี้ ชีวิตคนหนึ่งชีวิต ใครจะไปรู้ว่าถ้าเจ้าตกอยู่นกำมือเขา? เจ้าก็ตายเปล่าแล้วหรือ? แต่ถ้าเจ้ากับฐานะพระชายาและเขาเทียวไปเทียวมาเช่นนี้ ก็จะมีพยานเพิ่มมากขึ้น ถ้าเจ้าตาย ถึงหาหลักฐานไม่ได้ว่าเขาเป็นคนทำ แต่ก็ยังสามารถยัดข้อหาให้เขาได้ แบบนี้สิเจ้าตายก็มีคุณค่า”หยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดไท่ซ่างหวงแบบนี้ ก็อดชื่นชมไม่ได้ สมเป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆ“ก่อนจะลงมือทำอะไร ทางที่ดีเจ้าต้องคิดคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ แม้ตัวเองจะตายไปแล้ว ก็ไม่ให้อีกฝ่ายผ่านไปได้ด้วยดีกับเรื่องที่ทำ แบบนี้ที่ลงมือทำไปถึงจะเห็นผลไ
จักรพรรดิหมิงหยวนมองขันทีมู่หรูอย่างแฝงความนัยและส่ายหน้า “ชั่วชีวิตนี้ของเจ้าคงไม่มีทางเข้าใจหรอก”“กระหม่อมโง่เขลา ฝ่าบาทพูดถึงกระหม่อมจึงเข้าใจ” ขันทีมู่หรูพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนจักรพรรดิหมิงหยวนทรงเมินเฉยพูดเรื่องสตรีกับขันทีเฒ่า เสียเวลาอธิบายจวนอ๋องฉู่ อวี่เหวินห่าวรออย่างกระวนกระวายใจ หลังจากกลับจวนมา คนในจวนรายงานว่ากู้ซือพาหยวนชิงหลิงเข้าวัง บอกว่าเรื่องอาการป่วยของอ๋องหวย เขากำลังลังเลอยู่ว่าจะเข้าวังดีไหม ได้ยินคนบอกว่าพระชายากลับมาแล้วหยวนชิงหลิงเห็นเขาคำแรกที่พูดคือ “เสด็จพ่อให้ข้าไปรักษาอาการป่วยของอ๋องหวย” อวี่เหวินห่าวประหลาดใจเหนือความคาดหมาย “เจ้ามีความมั่นใจไหม?”หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่มี”“ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องไป” อวี่เหวินห่าวกล่าวหยวนชิงหลิงนั่งลงดื่มน้ำแก้วหนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่ไปไม่ได้ เสด็จพ่อท่านอารมณ์แปรปรวนท่านก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ถ้าข้ากล้าขัดรับสั่ง พระองค์ต้องตัดหัวข้าแน่” “ไม่หรอก!” อวี่เหวินห่าวกล่าว“ไม่ขนาดนั้นหรอก” หยวนชิงหลิงมองใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความกังวล ในใจก็รู้สึกอบอุ่นเข้าใจคนอื่นขนาดนี้ “ท่านก็อย่ากังวลมากไป ถ้าข้ารักษาไม่ไ
ไม้เถียฮว๋านี่น่าจะเป็นไม้ที่แข็งที่สุดในโลกแล้ว? แข็งกว่าเหล็กธรรมดา ๆ ตั้งสองเท่าในยุคปัจจุบัน ไม้เถียฮว๋าเป็นพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ คนสมัยก่อนใช้ไม้เถียฮว๋าแทนโลหะ ส่วนประกอบในคอมอย่างวิดเจ็ตก็มีใช้ไม้เถียฮว๋า แต่ราคาเองก็ล้วนค่อนข้างแพงแต่วันนี้เธอเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไท่ซ่างหวงใช้เลื่อย เลื่อยมันให้สั้นลง อีกทั้งไม้ที่แข็งขนาดนี้ การแกะสลักต้องเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากแน่? ไม่ได้ใช้มีดแกะสลักเพชรมาแกะเหรอ?“ไท่ซ่างหวงทรงแกะสลักด้วยพระองค์เองแบบนี้ ไม่น่าใช่ไม้เถียฮว๋า!” หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่เชื่อนางข้าหลวงสี่กล่าวอย่างยิ้มแย้ม “นี่เป็นสิ่งที่ไท่ซ่างหวงเท่านั้นที่ทรงแกะสลักได้ ทหารองค์รักษ์ธรรมดา ๆ ล้วนไม่อาจทำได้ ”“อาการประชวรของไท่ซ่างหวง เดินยังไม่ค่อยมีแรงเลย ทำไมถึงสามารถแกะสลักไม้ที่แข็งขนาดนี้ได้ล่ะ? ” หยวนชิงหลิงถามด้วยความสงสัย ได้ยินแบบนี้ดูเหมือนไท่ซ่างว่าจะทรงแข็งแกร่งเก่งกาจมาก“การที่เดินไม่ค่อยมีแรงเป็นเพราะอาการประชวร ตอนสมัยไท่ซ่างหวงหนุ่ม ๆ ถือได้ว่าเป็นนักรบผู้กล้ามีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเป่ยถัง พระองค์ทรงฝึกฝนทั้งกำลังภายนอกและภายใน ตอนนี้พระองค์อายุมาก
“ข้าฝึกดื่มเหล้ามาแล้ว มิฉะนั้นวันหลังจะลำบากมาก พรุ่งนี้ถึงแม้จะต้องไปจวนอ๋องหวย ท่านก็ดื่มกับข้าสักหน่อยแล้วกัน” หยวนชิงหลิงเชื้อเชิญด้วยความจริงใจทันใดนั้นอวี่เหวินห่าวพึ่งค้นพบว่าตัวเองไม่อาจต้านทานความจริงใจของนางได้เขายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “ตามใจ ข้าเองก็อยากดื่มสักแก้ว” จะต้องหาข้ออ้างไม่ใช่หรือ? ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้นางคิดว่าพูดอะไรเขาก็ฟังทุกอย่างหยวนชิงหลิงรู้สึกว่าตัวเองคงต้องดื่มอีกหลายพันแก้วเพื่อไม่ให้เมา หลังจากจุดอ่อนถูกค้นพบอย่างน้อยหนึ่งจุด จุดอ่อนนี้นั้น อาจกลายเป็นภัยคุมคามใหญ่ได้ฝีมือของแม่นมฉี สามารถทำอาหารรสเลิศได้หลายประเภทวัตถุดิบที่ธรรมดาที่สุด เมื่ออยู่ในมือนาง ล้วนกลายเป็นของเลิศรสได้อย่างน่าอัศจรรย์ หยวนชิงหลิงกินแล้วก็ยิ้มไม่หยุดและพูดว่า “พี่รองพูดตลอดว่าพ่อครัวหลวงทำอาหารอร่อย เขายังไม่เคยกินกับข้าวที่แม่นมฉีทำเลย ถ้าได้กินแล้วละก็ เกรงว่าจะเก็บกระเป๋ารีบย้ายมาอยู่ยาวแน่”อวี่เหวินห่าวมองนาง “เจ้ากับพี่รองดูสนิทกันนะ”หยวนชิงหลิงรินเหล้าให้เขาและรินให้ตัวเองเต็มแก้ว แก้วเล็ก ๆ นี้ใส่เหล้าได้ประมาณคำนึง เหล้าสีใส กลิ่นหอมเตะจมูกหยวนชิงหลิ
ครึ่งชั่วยามต่อมา อวี่เหวินห่าวมองผู้หญิงไร้ยางอายที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้วยความรังเกียจเสื้อแขนกว้างตัวนั้นดึงออกไปแล้วครึ่งหนึ่ง สองมือที่วางบนช่วงคอ, ช่วงบ่าและไหปลาร้า..ออกแรงเกาบนใบหน้า, บนไหปลาร้า, บนคอล้วนเป็นรอยผื่นแดงและขึ้นตุ่มแดง ๆ เป็นเม็ด ๆ เต็มไปหมดบนพื้นเต็มไปด้วยตะเกียบข้าวปลาอาหารที่เลอะเทอะกระจัดกระจายไปหมด แม่นมฉีกับลวี่หยารีบพากันออกไป นางข้าหลวงสี่เองก็ฉลาด หลบออกไปเตรียมน้ำแกงสร่างเมาตัวเป่าเองก็รีบออกไปก่อนที่พายุฝนจะมาถึง ก่อนที่ชามใบแรกจะเขวี้ยงลงกับพื้น มันก็หนีเอาชีวิตรอดออกไปแล้วสุราหอมหมื่นหลี้ เขาสาบาน แก้วเดียวจริง ๆเขาค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วถอยหลังออกไปหยวนชิงหลิงหยิบไม้เท้าทรงอำนาจนั้นขึ้นแล้วเคาะลงกับโต๊ะอย่างแรง พร้อมตะโกนอย่างสุดเสียง “เจ้าลองดูสิ?”อวี่เหวินห่าวรู้สึกอยากฆ่านางขึ้นมาชีวิตนี้ของเขาเกลียดที่สุดคือการถูกข่มขู่หยวนชิงหลิงคันไปหมดทั้งตัว ดื่มครั้งแรกไม่เห็นมีอาการแพ้เลยสักนิด แล้วทำไมครั้งนี้ถึงเกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้?เธอยังมีสติรับรู้ แต่ก็ทนไม่ได้กับความคันไปถึงกระดูกนี่ราวกับอาการคันนี่มันมาจากเลือด เธอรื้อหายาในกล่องยา แต่ก็
เธอรู้สึกไม่สบายใจอีกครั้ง กล่องยาก็พัฒนาขึ้นอีกแล้ว เป็นที่แน่ชัดว่าการพัฒนาของกล่องยาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกันกับการพัฒนาของสมองเธอนี่เป็นการค้นพบครั้งใหญ่ อย่างน้อยก็ทำให้เธอมีความหวังขึ้นมาพร้อมด้วยการพัฒนาของกล่องยาและการพัฒนาของสมอง เธออาจควบคุมกล่องยานี่ได้อย่างสมบูรณ์อย่าเพิ่งไปสนเรื่องนั้น ตอนนี้มีสเตรปโตมัยซินแล้ว สามารถให้ฉีดสเตรปโตมัยซินได้ติดต่อกันสิบห้าวัน เพื่อให้อาการคงที่เธอจัดเก็บของในกล่องยาวางให้เรียบร้อย ครีมทาริดสีดวงทวารและกลีเซอรีน อินีม่าล้วนมีอยู่ในนี้ แต่ของพวกนี้ไม่ค่อยได้ใช้บ่อย เลยวางพวกมันได้ที่ด้านล่างสุดของกล่องกลับไปที่ข้างเตียง เห็นอวี่เหวินห่าวนอนหลับเหมือนหมูตายยังไงอย่างงั้น เขาไม่ได้ดื่มเยอะ? ทำไมเมาได้ขนาดนี้?มองใบหน้าของเขาที่มีรอยเล็บสามเส้นบนแก้มทั้งซ้ายทั้งขวา หยวนชิงหลิงรู้สึกผิดขึ้นมา ไม่น่าเลย พรุ่งนี้เขาจะไปกลับที่สำนักงานผู้ตรวจการยังไง?เธอหาวออกมารู้สึกง่วงนอนแล้ว เลยปีนคลานขึ้นไปทางฝั่งด้านของเขาแล้วเข้าไปนอนตอนปีนขึ้นไป ก็ทำให้อีกคนสะดุ้งตื่นเสียแล้วอวี่เหวินห่าวที่นอนหลับสนิทไปแล้ว ก็ตื่นขึ้นมา สมองแจ่มใสขึ้นมาทันทีที่
อวี่เหวินห่าวหันหลังให้นางแล้วเก็บซ่อนความโกรธนั้นแล้วพูดกับนางว่า “สักสามหรือห้าคนได้”หยวนชิงหลิงตกใจมาก เดิมทีคิดว่าคนสองคนก็เยอะแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามีตั้งสามหรือห้าคนแบบนี้ ในฐานะคนยุคปัจจุบัน จึงไม่สามารถเข้าใจได้จริง ๆ เหตุผลที่ผู้ชายหานางบำเรอได้และก็ไม่สามารถเข้าใจเหตุผลเพื่อสืบทายาทได้เธอเองก็หันหลังให้เขา ในใจรู้สึกโกรธมาก โกรธแทนหญิงสาวเหล่านั้นดูอย่างลวี่หยาเป็นตัวอย่าง ผู้หญิงไม่ได้เต็มใจทำงานบ้าน ใครเต็มใจยอมเป็นเครื่องผลิตทายาทให้ผู้ชายบ้าง? แต่ภายใต้อำนาจพวกนางทำได้แค่ยอมจำนน เพราะสถานะต้อยต่ำของตัวเองเหล่าผู้หญิงผู้น่าสงสารพวกนั้น ปล่อยให้คนร้ายอย่างอวี่เหวินห่าวกระทำการชั่วร้ายย่ำยีงั้นหรือ?แต่ถ้าตอนนี้ไล่พวกนางออกจากจวน ในสังคมชนชั้นศักดินาแบบนี้ พวกนางยังสามารถหาคนดี ๆ แต่งงานด้วยได้ไหม?หยวนชิงหลิงโกรธมาก อวี่เหวินห่าวก็โกรธมากคำพูดของนางหมายความว่าไง? เห็นเขาเป็นคนยังไง? เรื่องนางบำเรออีก สนมนางบำเรอเขาก็ไม่มี มีนางเป็นพระชายาคนเดียว ยังน่ารังเกียจชนิดที่ไม่อยากแตะต้องทั้งคู่โกรธหายใจฟึดฟัด สุดท้ายไม่มีใครหลับได้เลยสักคนหลับตา ด่าสาปอยู่ในใจ ฟ
ระหว่างทาครีมทางแป้ง กับไปแบบหน้าเหมือนแมว อวี่เหวินห่าวเลือกอย่างแรกแต่เขาคิดผิดที่ไว้ใจหยวนชิงหลิงแป้งของนางไม่ดี ทาลงบนหน้าแล้วก็หลุดออกมาเป็นแผ่น ๆ เหมือนคนเป็นโรคเรื้อนอย่างไรอย่างนั้นสุดท้าย หมอหลวงมอบยาน้ำชนิดหนึ่งมาทา ไม่เห็นรอยแดงแล้ว แต่ใบหน้าดูซีดเซียวเหมือนคนป่วยหนักอย่างไรก็ตามนี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้วกินมื้อเช้าอย่างง่าย ๆ และขึ้นรถม้าออกไปใช้เวลาประมาณสองก้านธูปก็ถึงจวนอ๋องหวยแล้วต้องจอดรถม้าบนตรอกที่ไกลออกไป เพราะประตูหน้าประตูหลังมีรถม้าจอดอยู่เต็มไปหมดมีราชรถจอดอยู่สองคัน สนมหลู่เฟยเสด็จมาถึงเมื่อคืนวานนี้จ่างกงจู่อวี่เหวินจิ้งเพิ่งมาถึงเมื่อไม่กี่วันมานี้ และยังมีหยวนชิงหลิงที่กำลังทักทายอวี่เหวินหลิงชิงอ๋องหลายพระองค์ก็อยู่ที่จวนอ๋องผลัดเปลี่ยนเฝ้าเวรยามดึก กลัวว่าจะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดกับอ๋องหวย ข้างกายก็มีคนอยู่ ในหมู่พวกเขาก็มีคู่สามีภรรยาอ๋องจี้ที่ขยันขันแข็งที่สุด ก่อนหน้านั้นที่พระสนมหลู่เฟยมาถึง เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นสองสามีภรรยานี้จัดการ นางในข้ารับใช้อีกทั้งพ่อบ้านก็อยู่ที่จวนอ๋องหวยนี้ด้วย เพราะเนื่องจากราชโองการฝ่าบาทเ