แชร์

4 องค์ชายตัวประกัน

ผู้เขียน: รอรีวัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 18:43:37

 

เมื่อแสงแรกของวันสาดส่องเข้ามาภายในเรือนไข่มุกของนาง หลี่จื้อฉิงที่นอนในถังน้ำตลอดทั้งคืนจึงลืมตาตื่นขึ้น ร่างเล็กลุกขึ้นจากถังน้ำ บาดแผลที่อยู่บริเวณเอวดูท่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ศีรษะรู้สึกปวดและวิงเวียนจนแทบเดินไม่ไหว

เสียงน้ำทำให้ไช่เสิ่งเจี๋ยที่นอนคุดคู้อยู่ไม่ห่างตื่นนอนพร้อมกับนาง ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้

“ตัวเจ้าเหม็นมาก” นางยังคงพูดถึงกลิ่นตัวเหม็น ๆ ของเขาไม่หยุด

“ขออภัยนายหญิง ที่ข้าน้อยมีกลิ่นเช่นนี้” ท่าทีของเขาเปลี่ยนราวกับพลิกฝ่ามือ

หญิงสาวลุกกลับไปที่เตียงนอนถอดเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มออก โดยไม่ได้สนใจว่า ไช่เสิ่งเจี๋ยจะอยู่หรือตาย ทำทุกอย่างราวกับเขาเป็นอากาศธาตุ เรือนร่างขาวเนียน สัดส่วนสวยงามราวกับรูปสลัก ผู้ที่อายดันกลายเป็นไช่เสิ่งเจี๋ยที่ต้องเบือนหน้าหนี

เสื้อผ้าชุ่มน้ำถูกนางยัดไปที่ใต้เตียงอย่างมิดชิด เมื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กสั่นกระดิ่งอยู่สองสามครั้งผ่านไปไม่นานนางกำนัลประจำเรือนไข่มุกก็กระวีกระวาดเข้ามาภายในห้อง

“ท่านหญิงตื่นบรรทมแล้ว” พวกนางไม่ได้ถามว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่กลับทำจมูกฟุดฟิดราวกับเหม็นอะไรบางอย่าง

ผู้เป็นนายของเรือนรู้ดีว่าพวกนางรู้สึกเช่นไร

“เอาตัวเขาไปอาบน้ำให้สะอาด หาข้าวหาปลาให้กิน จากนั้นค่อยพากลับมา” นางออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ราวกับไม่มีแรง

“ท่านหญิงป่วยหรือเพคะ” นางกำนัลลอบมองหลี่จื้อฉิงอย่างจับผิด

คนตัวเล็กแกล้งทำคอเสื้อหล่นเล็กน้อย ที่ไหล่ลาดเนียนมีรอยตีตราสีแดง บริเวณลำคอเองก็เช่นกัน สายตาของผู้เป็นนางกำนัลจับจ้องไปที่เตียงนอนยับยู่ยี่ ผ้าแพรสีขาวเปื้อนเลือดถูกวางเอาไว้บนนั้น

“ข้าจะป่วยหรือไม่ป่วย ไม่ใช่กงการอะไรของเจ้า” หลี่จื้อฉิงแผดเสียง ความจริงรอยแดงนั่นเป็นรอยที่นางหยิกตัวเอง

เหล่านางกำนัลก้มหน้าก้มตาไม่เอ่ยอะไร สตรีเอาแต่ใจเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ เป็นดังเช่นทุกครั้งยามที่นางไม่พอใจ ข้าวของเครื่องใช้มักจะถูกโยนใสโดยไม่สนใจว่าใครจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่

ไช่เสิ่งเจี๋ยและบรรดานางกำนัลต้องรีบพากันออกไปจากห้องนอนของนาง เพราะไม่อยากเจ็บตัวจากโทสะร้ายกาจ ของคนเอาแต่ใจ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นไช่เสิ่งเจี๋ยก็จำใจเล่นตามน้ำ นางสั่งให้เขาทำอะไรเขาก็ต้องทำ เขาเป็นองค์ชายตัวประกันแคว้นบ้านเกิดเมืองนอนแพ้สงคราม หลี่หย่าถิงและแม่ทัพปีศาจปั๋วจวิน รุกรานดินแดนเข่นฆ่าประชาชนบริสุทธิ์ เหยียบย่ำทำลายสุสานหลวงจนราพณาสูร และบีบคั้นให้ฝ่าบาทแคว้นเฉียนซี ซึ่งเป็นพระบิดาส่งเขาซึ่งเป็นองค์ชายรัชทายาทมาเป็นตัวประกันสงคราม เพื่อความสงบสุข ไช่เสิ่งเจี๋ยจำใจบอกลาบ้านเกิดเมืองนอน เดินทางมายังดินแดนที่เขาไม่รู้จัก

ไม่เพียงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดี รัชทายาทแห่งเฉียนซีถูกนำตัวไปใช้แรงงาน อดทนตกระกำลำบากอยู่ราวสี่ปี จึงถูกส่งมาเป็นของขวัญแด่บุตรสาวของหลี่หย่าถิง สตรีชั่วแห่งแคว้นฉางหมิง ทั้งแม่และลูกชั่วช้าสารเลวไม่ต่างกัน

แต่เพราะเหตุการณ์เมื่อคืน เขาต้องกลับมาคิดทบทวนเรื่องของพวกนางอีกครั้งหนึ่ง ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูกของตนเอง นอกเสียจากว่าหลี่จื้อฉิงมิใช่บุตรสาวแท้ ๆ ของนาง ข่าวลือเรื่องสัมพันธ์สวาทระหว่างแม่ทัพปีศาจปั๋วจวินกับองค์หญิงใหญ่ดูท่าจะเป็นเรื่องจริง ราชบุตรเขยเผิงเยี่ยนปิ่น องค์ชายตัวประกันจากแคว้นที่ล่มสลายไปแล้ว น่าจะไม่กล้ามีปากมีเสียงในเรื่องนี้ แม้จะถูกภรรยาของตนสวมหมวกเขียวให้ก็ตาม

ใคร ๆ ก็รู้ว่าผู้ปกครองแห่งฉางหมิงตัวจริงคือใคร อำนาจของหลี่หย่าถิงล้นมือผนวกกับชายชู้ของนางที่คือผู้กุมอำนาจทางการทหารเอาไว้กับตนเอง แม้แต่ฮ่องเต้แห่งฉางหมิงผู้เป็นพระอนุชายังต้องยอมศิโรราบ มิกล้ามีปากมีเสียง

เสื้อผ้าแพรพรรณราคาถูก ถูกนำมาให้กับไช่เสิ่งเจี๋ย เมื่อชำระล้างร่างกายจนสะอาดสะอ้าน ก็ถูกนำตัวกลับไปที่เรือนไข่มุกของสตรีสารเลว

อากาศช่วงต้นคิมหันต์ฤดูควรจะเป็นอากาศที่เย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป แต่เป็นเพราะเมื่อคืนนางแช่อยู่ในถังน้ำทั้งคืนทำให้ร่างกายร้อนรุ่มราวกับถูกไฟเผา ประเดี๋ยวเดียวก็เปลี่ยนเป็นหนาวสั่น ผ่านไปครู่หนึ่งก็กลับมาร้อนรุ่ม อีกทั้งยังมีบาดแผลบริเวณเอวที่เจ็บปวดเจียนตาย ร่างกายที่เดิมทีอ่อนแออยู่แล้วกลับอ่อนแอยิ่งกว่าเดิม

“ท่านหญิง พระองค์ไม่สบาย” นางกำนัลประจำเรือนไข่มุกถามไถ่อย่างเป็นห่วง แม้ในใจอยากจะแช่งให้นางตาย ๆ ไปเสียก็ตาม “ให้หม่อมฉันไปตามหมอหลวงดีหรือไม่”

หลี่จื้อฉิงส่ายหัว นางไม่ต้องการให้หมอหลวงมายุ่งวุ่นวายกับร่างกายของนาง พวกเขาเป็นคนของเสด็จแม่ทั้งหมด หากหมอหลวงมาตรวจร่างกายของนางย่อมต้องพบกับสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะบาดแผลที่เอว แต่ในความโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่บ้าง อาการป่วยของนางน่าจะถูกเล่าลือไปในทางที่ผิด 

“ออกไปให้หมด” หลี่จื้อฉิงยังมีแรงก่นด่านางกำนัลของตนเอง “เจ้าก้อนเนื้อนั่นมาหรือยัง” ผู้ที่จะสามารถช่วยนางในเวลานี้ได้เหลือแค่เพียงเขาเท่านั้น เพราะชีวิตของก้อนเนื้อเหม็นเน่าที่นางไม่รู้จักชื่ออยู่ในมือของตน

หญิงรับใช้เบือนหน้าหนี ส่งสายตามองเหยียดสตรีน่ารังเกียจ ในใจนึกอยากจะฆ่าเสียให้ตาย แต่เป็นเพราะว่าชีวิตของครอบครัวของเฉินหว่านเซียนอยู่ในกำมือของสตรีผู้นี้ จึงมิอาจลงมือกระทำสิ่งใดได้ นอกจากสาปแช่งอยู่ในใจ

เฉินหว่านเซียนผุดลุกออกไปหน้าห้อง เพื่อดูว่าชายสกปรกผู้นั้นมาถึงหรือยัง เมื่อพบหน้าชายสกปรกเฉินหว่านเซียนถึงกับตะลึงในความงดงาม หล่อเหลา เส้นผมสีดำขลับถูกมัดรวบเอาไว้ง่าย ๆ ใบหน้านั่นงามยิ่งกว่าสตรีใดเสียอีก

“ท่านผู้นี้เป็นใคร” นางละล่ำละลัก ถามคำถาม

“ข้าคือคนของท่านหญิง” เขาตอบเสียงเรียบมิได้แสดงความรู้สึกใดออกไป แผ่นหลังเหยียดตรงท่าทางงดงามผ่าเผย นานมากแล้วที่ไม่ได้รู้สึกสะอาดสดชื่นเช่นนี้

“ท่านคือ...ท่านเขย” เฉินหว่านเซียนมิอยากจะเชื่อว่าเขาคือก้อนเนื้อเหม็นเน่าที่ถูกมอบให้เป็นของขวัญแก่สตรีผู้นั้น

แววตาที่หลงใหลในตัวของเขา ไช่เสิ่งเจี๋ยมิใช่ไม่รู้ว่าสตรีตรงหน้ารู้สึกเช่นไร ถ้าเป็นเช่นนั้นหญิงรับใช้ของนางปีศาจนั่น น่าจะมีประโยชน์กับเขาในวันข้างหน้า

“แม่นาง ได้โปรดอย่าเรียกข้าว่าท่านเขย ข้าเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งของท่านหญิงเท่านั้น” น้ำเสียงนุ่มทุ้ม อ่อนโยน ตอบคำถามได้อย่างน่าสงสาร

หัวใจของเฉินหว่านเซียนอ่อนยวบ บุรุษสง่างามเช่นนี้ไม่สมควรถูกนำมากักขังผูกติดกับสตรีเช่นหลี่จื้อฉิงเลยจริง ๆ

“เขามาหรือยัง” หลี่จื้อฉิงเห็นว่าเฉินหว่านเซียนออกไปนานแล้วจึงตะโกนถาม

คนตัวสูงยิ้มเล็กน้อยโค้งตัว ยิ้มโปรยเสน่ห์ให้กับเฉินหว่านเซียน

“แม่นางข้าน้อยขอตัวก่อน วันหน้าหวังว่าจะได้คุยกัน”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   5 คือคนในคำทำนายหรือไม่?

    “นายหญิง” ไช่เสิ่งเจี๋ยก้าวขาเข้ามาในห้องเขาไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าอีกต่อไปแล้ว ร่างกายก็สะอาดสะอ้าน นางอยากรู้ว่า เขาใช่ชายในคำทำนายของท่านพ่อหรือเปล่า ถ้าใช่นางจะต้องช่วยชีวิตเขาให้รอดพ้นไปจากที่นี่“เจ้าก้อนเนื้อเหม็นเน่า เจ้าคือใครกันแน่” หลี่จื้อฉิงผุดลุกขึ้นมานั่งหย่อนขาที่ข้างเตียง ใบหน้างดงามได้รูปเวลานี้ซีดเซียวไร้สีเลือด นางต้องการพิสูจน์ให้รู้แน่ชัดว่า เขาใช่องค์ชายตัวประกันจากเฉียนซีหรือไม่ หลี่จื้อฉิงจึงเลือกจะโยนเนื้อก้อนหนึ่งให้เขากระโดดงับ“ข้าคือสัตว์เลี้ยงของท่าน” เขาตอบอย่างนอบน้อมมีมารยาท ไช่เสิ่งเจี๋ยมีแผนการในใจอยู่แล้วเจ้าของใบหน้าสวยงามยิ้มเหยียด“ข้าถามว่าเจ้าคือใครกันแน่”“นายหญิง ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน” ยังคงเป็นคำตอบเดิม“องค์ชายท่านต้องการไปจากที่นี่หรือไม่” ในเมื่อเขาไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นใคร หลี่จื้อฉิงจึงเปิดเผยโฉมหน้าของเขาด้วยตนเอง“นายหญิง ในเวลานี้ข้าน้อยคือสัตว์เลี้ยงของท่าน เป็นทาสรับใช้ของท่าน” สถานะของเขามีใครบ้างไม่รู้ ชายหนุ่มหรี่ตามองร่างเล็กที่นั่งหน้าซีดอยู่บนเตียงนอน “ข้าจะเป็นใครในอดีต ไม่สำคัญเท่ากับว่าเวลานี้ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน” ช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   6 ชีวิตต่อชีวิต

    อาศัยตราหยกของหลี่จื้อฉิง ไช่เสิ่งเจี๋ยสามารถเดินเข้าออกได้ทุกพื้นที่ของตำหนัก แม้กระทั่งเดินจนรอบรั้ววังหลวงแห่งฉางหมิง ก็มิมีผู้ใดกล้าขัดเมื่อเขายกป้ายขึ้น เป็นแค่เพียงธิดาขององค์หญิงใหญ่ หากนับความเข้มข้นของสายเลือดราชวงศ์นางแทบจะไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ในราชบัลลังก์นี้ด้วยซ้ำ ตามธรรมเนียมที่มีมาแต่โบราณกาล สตรีแต่งงานแล้วต้องออกเรือน แต่องค์หญิงใหญ่หลี่หย่าถิงแต่งงานกับองค์ชายจากแคว้นที่ล่มสลาย อาศัยความโปรดปรานที่ฮ่องเต้องค์ก่อนมีต่อนาง ทำให้หลี่หย่าถิงยังสามารถอาศัยอยู่ในวังหลวงแคว้นฉางหมิงได้ไม่รู้ว่าเพราะความฉลาดเฉลียว ความงดงาม หรือเล่ห์กลอันใด จากที่เป็นเพียงองค์หญิงที่เกิดจากนางกำนัลระดับล่าง ได้กลายมาเป็นสตรีทรงอำนาจอันดับหนึ่งแห่งฉางหมิง ความฉลาดและงดงามนั้นมาคู่พร้อมกับจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตพี่น้องร่วมราชบัลลังก์ที่ขวางหูขวางตาถูกหลี่หย่าถิงกำจัดทิ้งทั้งหมด เหลือเพียงฮ่องเต้หุ่นเชิดที่อ่อนแอไร้กำลังไว้ทำหน้าที่สวมมาลาสีเหลืองทองแทนนางก็เท่านั้นและเป็นเพราะอำนาจของมารดาทำให้ท่านหญิงที่เป็นเชื้อสายปลายแถวต่ำต้อยสามารถขึ้นมานั่งเทียบเท่ากับราชนิกุลที่กำเนิดจากสายเลือดของฮ่องเต้ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   7 คุณหนูจากจวนเสนาบดี

    เมื่อออกมาจากประตูวัง ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินตามหาเส้นทางไปยังร้านขายพรตเมฆา แต่เป็นเพราะนางมิได้บอกเอาไว้ว่า ร้านขายยาตั้งอยู่บนถนนเส้นไหน เขาที่เพิ่งออกมาจากพื้นที่กักขังทาสงุนงงไปหมด กอปรกับนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ออกมาเดินตลาดของเหมืองหลวงแห่งฉางหมิง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่คุ้นเคย หากเป็นเช่นนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอร้านขายตามที่นางบอก หากกลับไปช้า ไม่แน่ว่านางจะหาเรื่องเอาผิดกับเขาในขณะที่กำลังคิดหาวิธี ชายเสื้อของไช่เสิ่งเจี๋ยก็ถูกดึงจากด้านหลัง เมื่อหันกลับไปเป็นสตรีตัวเล็กสวมชุดสีฟ้าสดใส เส้นผมสีดำสนิทถูกเกล้าเก็บขึ้นเป็นทรงอย่างดี ร่างเล็กผอมบางดวงตากระจ่างใสงดงาม ยืนส่งยิ้มตาหยีอยู่ด้านหลังเขา“ขอรับคุณหนู”“เจ้าหลงทางหรือไม่” น้ำเสียงของนางกระจ่างใสราวกับสายน้ำเหลียนซูเยว่นั่งจิบน้ำชากินขนมอยู่บนชั้นสองของร้านอาหารชาดแดง นางเห็นบุรุษผู้หนึ่งยืนหันรีหันขวาง เข้าออกซอยนั้นทีซอยนี้ที วนไปวนมาแล้วกลับมาที่เดิม คนตัวเล็กเห็นแล้วอดที่จะเข้าช่วยเหลือไม่ได้ แม้ใบหน้าจะงดงามโดดเด่น แต่กระนั้นก็อยู่ในชุดอาภรณ์เนื้อหยาบ ที่ฉางหมิงแบ่งชนชั้นกันชัดเจน ถึงจะหน้าตาดีแต่หากเป็นเพียงชนชั้นต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   8 น่าสงสาร?

    ร้านขายยาที่สภาพภายนอกโดยทั่วไปไม่แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ไช่เสิ่งเจี๋ยมิรู้ว่าเหตุใดจึงต้องเป็นที่นี่เท่านั้น ชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้าน มีลูกค้าและหลงจู๊ทำการค้าขายกันตามปกติ มิมีสิ่งใดพิเศษหรือผิดแผกไปจากร้านอื่น ๆผนังด้านหนึ่งของร้านมีลิ้นชักไม้ตั้งเรียงราย แต่ละชั้นมีตัวอักษรสลักเป็นชื่อของตัวยาชนิดต่าง ๆ เดาว่าน่าจะเพื่อความสะดวกในการจัดเทียบยาชนิดต่าง ๆ ตรงลิ้นชักเหล่านั้นมีโต๊ะไม้ยาวเท่ากับผนังลิ้นชัก พนักงานในร้านล้วนแล้วแต่กุลีกุจอทำหน้าที่ของตนเอง กลิ่นหอมของสมุนไพรอบอวลไปทั่วทั้งร้านบรรยากาศเรียบง่าย มีแสงส่องเข้ามาภายใน อากาศถ่ายเทเหมาะกับการเป็นร้านขายยา“คุณชายต้องการสิ่งใด” เด็กในร้านเห็นเขายืนเก้กังอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเดินเข้าไปถามไถ่เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือ“สตรีร้ายกาจเอาแต่ใจ”ยังพูดไม่ทันจบประโยคเด็กหนุ่มที่มาต้อนรับเขาในคราแรกผายมือให้ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินไปยังจุดที่เถ้าแก่ชรานั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือในสุด ที่กำลังวุ่นวายกับการจัดเทียบยา“นายท่าน สตรีตัวร้ายมีเรื่องแล้ว” เด็กหนุ่มกระซิบกับเถ้าแก่ชรา ไช่เสิ่งเจี๋ยเลิกคิ้วเล็กน้อย สังเกตปฏิกิริยายาที่ชั่งตวงอยู่เมื่อครู่ถูกวางล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   9 ยืมมือ

    “ข้าคิดว่าท่านจะหนีไปเสียแล้วองค์ชาย”เมื่อกลืนยาลงท้องไปแล้วนางถึงได้พูดกับเขาไช่เสิ่งเจี๋ยลอบมองสตรีตัวร้ายที่นั่งเอนหลังพิงกายอยู่บนเตียงนอน“ข้าจะหนีไปได้อย่างไรนายหญิง ข้าน่ะเป็นทาสที่ซื่อสัตย์” ชายหนุ่มยิ้มและกล่าวอย่างเอาอกเอาใจหญิงสาวรู้ดีว่ารอยยิ้มที่เขามอบให้แก่นางมันสุดแสนจะเสแสร้ง“รอยยิ้มของท่านช่างดูจริงใจเสียจริง”“ข้าย่อมจริงใจต่อนายหญิงอยู่แล้ว” เขาบอก ก่อนจะเพิ่งนึกอะไรได้ “นายหญิง อาการป่วยของท่านเป็นอย่างไร แผลที่เอวของท่านล่ะยังเจ็บอยู่หรือไม่”ใบหน้างดงามซีดเซียว ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบว่าไม่เป็นไร“ข้าจะนอนแล้วเจ้าออกไปได้แล้ว” กินยาแล้วง่วง นางจึงเอ่ยปากไล่เขาออกไปให้พ้นหน้า “ข้าเห็นหน้าเจ้าแล้วนอนไม่หลับ” นางบ่นแต่ถึงนางจะไล่ให้เขาออกไป แต่ไช่เสิ่งเจี๋ยก็มิคิดจะเดินออกไป นางไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน เขาเกรงว่านางจะหิวตายก่อนที่เขาจะได้ออกไปจากที่นี่“นายหญิง ท่านยังไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน”“ข้าไม่หิว”“ไม่ได้ขอรับ เกิดท่านหิวจนตายขึ้นมา ที่สัญญาเอาไว้ว่าฤดูร้อนปีหน้าข้าจะได้กลับไปเฉียนซีก็ล้มเหลวหมดสิ”น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสุดแสนจะอ่อนโยน หากใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   10 รอยยิ้มขมขื่น

    เมื่อหลายปีก่อน…นางเคยสงสัยว่าเหตุใดมารดาจึงไม่เคยแสดงออกว่ารักนางเลยสักครั้ง เด็กหญิงนั่งหย่อนขาลงในสระบัว เป็นจุดที่เงียบสงบที่หลี่จื้อฉิงมักจะมานั่งทอดอารมณ์ หลีกลี้หนีจากผู้คน เด็กหญิงนั่งหลบอยู่ตรงโขดหิน บดบังด้วยไม้ดอกพุ่มเล็ก ๆ เนื่องด้วยส่วนสูงของเด็กหญิง หากไม่สังเกตก็จะไม่เห็นว่านางมานั่งหลบอยู่ตรงนี้“ถิงเอ๋อร์ เจ้าไม่กลัวว่าองค์ชายนั่นจะมาพบเราเหรอ”“ไม่กลัวหรอก ปั๋วจวิน ท่านก็รู้ดีว่าเพราะอะไร” สตรีตัวเล็กเรือนร่างอวบอิ่มนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่ม วงแขนเรียวเล็กกอดคอเขาเอาไว้ “ที่ข้าแต่งงานกับเขาเพราะอะไรไม่ใช่ท่านไม่รู้ ท่านก็รู้ว่าข้าน่ะรักท่านเพียงผู้เดียว” หลี่หย่าถิงซบลงกับอกแกร่ง“น่าเสียดายที่ในเวลานั้นเราสองคนยังไม่มีอำนาจถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นเราคงจะตบแต่งเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องกันไปแล้ว” น้ำเสียงของปั๋วจวินเศร้าหมอง“เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป” หลี่หย่าถิงไม่อยากเอ่ยถึงในเวลานั้นทั้งนางและเขาต่างก็ไร้อำนาจอยู่ในมือ ปั๋วจวินเป็นเพียงองครักษ์ระดับล่าง ส่วนนางแม้จะเป็นเชื้อพระวงศ์ก็จริง แต่เป็นเพราะมารดามีชาติกำเนิดต่ำต้อยทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น นางถูกห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   11 แบกความหวัง

    ไช่เสิ่งเจี๋ยยังคงวนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวนาง ทหารยามที่ทำร้ายเขาถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในคุกหลวงเรียบร้อยแล้ว เหตุผลที่ไม่มีเหตุผลก็คือเขาทำร้ายคนของนาง หลี่จื้อฉิงถามเขาแล้วว่า ต้องการให้นางลงโทษด้วยวิธีการใด เขาตอบแค่เพียงว่าให้ขังเอาไว้ในคุกหลวงตลอดชีวิตมิได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกต่อไปนางมิรู้ว่าเขามีแผนการใด เขาสามารถร้องขอให้นางลงโทษทหารยามผู้นั้นให้หนักและรุนแรงกว่านี้ได้แต่เขาก็ไม่ทำเวลาผ่านพ้นไปจนถึงกลางฤดูร้อน ช่วงนี้เสด็จแม่ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับนางสักเท่าไร ส่งผลให้หลี่จื้อฉิงไม่ต้องนั่งปั้นหน้าทำตัวร้ายกาจตามความต้องการของนาง ราชบุตรเขยเสด็จพ่อของนางไปบำเพ็ญพรตนานกว่าที่คิด ไม่มีกำหนดกลับมาวังหลวงเสียที ไม่แน่ว่าเขาอาจจะหนีไปแล้วก็ได้ เมื่อคิดเช่นนั้นนางยิ่งรู้สึกหดหู่ฤดูกาลนี้หมู่มวลดอกไม้เบ่งบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอบอวล ช่วงเวลาแสนสงบของนางจบลงที่การถูกเรียกตัวเข้าไปพบพระมารดา ข้างกายของเสด็จแม่ในยามนี้เคียงข้างด้วยปั๋วจวินดังเช่นทุกครั้ง เป็นภาพที่นางเห็นจนชินตา มิได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   12 ค่อยคิดบัญชีในคราวหลัง

    ที่ลำคอของไช่เสิ่งเจี๋ยรู้สึกร้อนราวกับถูกไฟลวก มีความรู้สึกวิตกกังวลพร้อมกับลางสังหรณ์แปลกประหลาด ผ่านไปครู่หนึ่งปลอกคอที่เขาสวมใส่ก็เย็นเฉียบคล้ายกับถูกแช่อยู่ในน้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะสิ่งใดดลใจ ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินออกมาจากเรือนไข่มุก มุ่งหน้าไปยังทางทิศตะวันออก อันเป็นเส้นทางเดินไปยังสระบัวที่อยู่ระหว่างทางไปตำหนักบูรพาของหลี่หย่าถิงตูม!! คล้ายกับเสียงของสิ่งของหนัก ๆ ตกลงไปในน้ำตอนที่เขาเดินไปยังจุดที่ได้ยินเสียง ปั๋วจวินเดินสวนเขาออกมา เดินผ่านเขาไปด้วยสีหน้าท่าทางร้อนรนจนน่าประหลาดใจ ไช่เสิ่งเจี๋ยมมิอยากให้อีกฝ่ายจดจำได้ว่า เขาคือใครจึงก้มหน้าก้มตา ทำความเคารพโดยมิได้เอ่ยสิ่งใด ปั๋วจวินหันหลังกลับไปมองยังจุดที่เดินออกมาอยู่หลายครา เมื่อเขาจากไปแล้วไช่เสิ่งเจี๋ยจึงรีบไปยังจุดที่เขาเพิ่งจะออกมาผิวน้ำกระเพื่อมไหว รองเท้าปักลายดอกมู่ตานถูกถอดเอาไว้ริมตลิ่ง เขาจำได้ว่าเป็นของใคร ทุกอย่างถูกคาดเดาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ไช่เสิ่งเจี๋ยรีบกระโดดลงไปในน้ำหลี่จื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26

บทล่าสุด

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   44 เหตุใดต้องให้นางเลือก

    หลี่จื้อฉิงฟื้นบนรถม้าที่บุนวมเป็นอย่างดี หัวเล็ก ๆ ของนางหนุนอยู่บนตักของไช่เสิ่งเจี๋ยถ้านางเดาไม่ผิด แม้ว่านางจะร้องขอให้เขาปล่อยนางทิ้งเอาไว้ที่ตำบลนั้น แต่เขาไม่ยอมปล่อย พาตัวนางกลับเฉียนซีแทบจะทันทีที่ทุกอย่างพร้อมแล้วนางขอไปนั่งแยกรถม้าคนละคันกับเขา แต่บุรุษผู้นี้เอาแต่ใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินยอมให้นางกระทำตามอำเภอใจ ส่วนเหลียนซูเยว่ตั้งแต่ปะทะคารมกันในวันนั้น นางก็ไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรกันอีก หลี่จื้อฉิงขอร้องให้เสี่ยวซีอย่าได้ไปบอกเรื่องนี้กับไช่เสิ่งเจี๋ย คราแรกนางเองก็ไม่ยอม แต่เป็นเพราะหลี่จื้อฉิงคุกเข่า เสี่ยวซีจึงจำใจยอมสิ่งที่นางอยากรู้ที่สุดในเวลานี้ คือหนึ่งในอดีตนางร้ายกาจเพียงไหน สองนางทำร้ายอะไรเขาไปบ้าง สามเขาสังหารมารดาของนางและขับไล่บิดาของนางให้ไปร่อนเร่ตกระกำลำบากจริงไหม แล้วที่เขาช่วงชิงนำตัวนางมาจากซีหยางเว่ยเจียงเป็นเพราะเหตุผลใดมือเล็กกระตุกชายเสื้อของไช่เสิ่งเจี๋ยเบา ๆ“หิวหรือ”“ไม่ใช่ ท่านเห็นข้าเป็นหมูหรือไง” นางแหวใส่&ldq

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   43 ราวกับภาพสะท้อนในกระจกเงา

    ตื่นเช้ามา นางแทบจะนอนทับอยู่บนตัวของไช่เสิ่งเจี๋ย หลี่จื้อฉิงค่อย ๆ กระดึ๊บตัวเองออกมาจากอ้อมอกของเขา โดยพยายามทำตัวให้เงียบที่สุดแต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอมปล่อย นางรู้สึกว่าเขาตื่นแล้วแต่ยังคงแกล้งหลับอยู่เช่นนั้น“ถ้าตื่นแล้วก็ปล่อยข้าเถอะ” นางดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมา“อีกสักพักเถอะ” อยากหยุดเวลานี้เอาไว้เสียจริง ๆ“มันเช้าแล้ว ต่างคนต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องไปทำ” นั่นสิ หน้าที่? ว่าแต่นางต้องทำอะไร ปกติเมื่อตื่นเช้านางจะลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวไปสอนหนังสือเด็ก ๆ ที่สำนักศึกษาประจำหมู่บ้าน พอซีหยางเว่ยเจียงพานางออกมา วันทั้งวันนางก็ได้แต่นั่งอยู่บนรถม้าถ้าไม่อ่านหนังสือก็เดินหมาก กิจวัตรประจำวันของนางเปลี่ยนไปมากเมื่อกลับไปยังวังหลวงแห่งเฉียนซีเขาก็มีวิธีการเอาคืนนาง แน่นอนว่าตอนที่เขาอยู่ฉางหมิงถูกปฏิบัติเช่นไร นางก็จะได้รับบทเรียนเช่นเดียวกันกับเขามื้อเช้าก่อนออกเดินทาง มีเหลียนซูเยว่ร่วมโต๊ะอาหารด้วย คิดเอาไว้แล้วไม่มีผิดเป็นหลี่จื้อฉิงจริ

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   42 อยากเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

    ไช่เสิ่งเจี๋ยตั้งใจพาตัวนางกลับ แต่กลับถูกซีหยางเว่ยเจียงรั้งเอาไว้ และพูดคุยกันครู่หนึ่ง หากไม่ใช่ว่าเพราะที่หนีรอดปลอดภัยออกมาจากฉางหมิงได้เป็นเพราะฮ่องเต้หยุนเหมินละก็ เขาคงจะสังหารมันเสียตั้งแต่ตอนนี้“นางลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว ไช่เสิ่งเจี๋ย หากอยากให้นางมีความสุข เจ้าอย่าได้รื้อฟื้นความทรงจำของนางให้กลับคืนมาอีก ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้น ความทุกข์ในอดีตที่นางเคยได้รับก็ลืมไปหมดแล้วเช่นกัน” ซีหยางเว่ยเจียงทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะปล่อยให้เขาพาตัวของหลี่จื้อฉิงกลับมาพร้อมกัน ใบหน้าของนางซีดเซียว ไช่เสิ่งเจี๋ยถลกกระโปรงนางขาข้างขวาของนางที่เคยเรียวสวยไร้ริ้วรอย บัดนี้มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ มองผิวเผินภายนอกดูปกติดี แต่เห็นนางเดินกะโผลกกะเผลก นางกลายเป็นสตรีพิการไปแล้วหรือลืมความทุกข์ความเจ็บปวดไปหมดแล้วงั้นหรือ และเป็นเขาที่จำได้อยู่เพียงผู้เดียวฮ่าฮ่า!!เขาได้แต่หัวเราะออกมาอย่างขมขื่นประตูห้องพักภายในโรงเต

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   41 ถูกความจริงกระแทกเข้าเต็มแรง

    ไม้เท้าของนางที่พิงอยู่กับกำแพงถูกใครสักคนเตะจนหล่นลงไปอยู่ที่พื้น หลี่จื้อฉิงค่อย ๆ ย่อกายลงเอื้อมมือไปเก็บไม้เท้าของตนเอง แต่มันกลับถูกผู้คนที่มาร่วมงานเทศกาล เหยียบย่ำ และเตะให้ออกห่างจากนางไปเรื่อย ๆ หลี่จื้อฉิงถอดใจ ไม่ตามไปเก็บทั้งที่ไม้เท้าอันนั้นเป็นของที่ท่านตาทำให้กับนาง เพราะกลัวว่าตนจะพลัดหลงกับซีหยางเว่ยเจียงตอนที่นางถอดใจไป และกลับไปยืนพิงกับกำแพงเฝ้ารอให้ซีหยางเว่ยเจียงกลับมา ไม้เท้าอันนั้นกลับถูกใครบางคนนำมาส่งคืนให้กับนาง“ในที่สุดก็หาท่านเจอเสียที” รอยยิ้มเย็นยะเยือกปรากฏอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มที่เพิ่งจะปรากฏตัวหลี่จื้อฉิงกลืนน้ำลายลงคอ ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“จือจือ ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอเสียที”คนตัวเล็กเม้มปากของตนเอง สัมผัสได้ถึงความไม่ปลอดภัย นางไม่ได้กล่าวสิ่งใดกับบุรุษที่มีท่าทีคุกคามนาง แต่กลับหมุนตัวตั้งท่าจะเดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด“จะไปไหน” ไช่เสิ่งเจี๋ยคว้ามือข้างที่นางใช้จับไม้เท้า

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   40 ใช่หรือไม่ใช่

    หิมะตกหนักจึงทำให้การเดินทางยากลำบาก องครักษ์ของซีหยางเว่ยเจียงรายงานว่า ที่หมู่บ้านข้างหน้ามีงานเทศกาล ระหว่างรอให้หิมะละลาย ทั้งสองพระองค์สามารถเที่ยวเล่นที่นั่นได้ก่อนเมื่อพร้อมค่อยออกเดินทางอีกครั้งซีหยางเว่ยเจียงจึงจำใจพานางไปเที่ยวเล่นในเมือง ความสัมพันธ์ของเขาและนางในเวลานี้แน่นแฟ้นขึ้นเป็นเท่าตัว อยากหยุดเวลาเช่นนี้เอาไว้เหลือเกินเนื่องด้วยขาของนางเป็นอุปสรรคต่อการเดิน ทั้งสองคนจึงไม่ได้เร่งรีบนัก“คืนนี้เราพักที่โรงเตี๊ยมดีกว่า จะได้ไม่ต้องกลับไปที่ค่ายพักแรม” ซีหยางเว่ยเจียงเสนอซึ่งนางเองก็เห็นด้วยกับเขา ถ้ามืดค่ำกว่านี้เดินทางออกไปขึ้นรถม้าเพื่อกลับค่ายพักแรมที่คนของพวกเขาตั้งเอาไว้คงไม่สะดวกเท่าไร ประกอบกับขาของนางเดินนาน ๆ ไม่ได้ จะให้เขาแบกไปจนถึงค่ายก็กลัวหลังเขาจะหักเสียก่อน“ก็ดีเหมือนกัน เราสองคนจะได้อยู่ฉลองงานเทศกาลในเมือง” นางกระชับมือของซีหยางเว่ยเจียง ยิ้มให้เขารอยยิ้มนั้น เขาอยากให้นางยิ้มให้เขาเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ และตลอดไป แต่ลางสังหรณ์กำ

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   39 โกหกคำโต

    ไม่รู้สึกถึงความคุ้นเคยเลยสักอย่าง แม้แต่กระทั่งตัวของซีหยางเว่ยเจียงเอง นางก็ไม่ได้รู้สึกคุ้นเคย หลี่จื้อฉิงมองทัศนียภาพของแคว้นหยุนเหมินมาตลอดการเดินทาง บ้านเรือนประชาชน เป็นภาพที่นางไม่คุ้นตา และแทบไม่มีความรู้สึกผูกพันกับที่นี่เลยสักนิด หญิงสาวพยายามนึกอยู่หลายครั้งว่าที่นี่คือที่ไหน ตรงนั้นคืออะไร แม้กระทั่งเรื่องพื้นฐานอย่างขนบธรรมเนียมบางอย่างของหยุนเหมินนางก็จำไม่ได้มันเป็นเรื่องน่าแปลก เพราะในขณะที่นางจำเนื้อหาในตำราซานสือจิ้งได้ แต่กลับจำเรื่องกฎระเบียบของที่นี่ไม่ได้เลย“ฝ่าบาท” นางสะกิดเรื่องบุรุษที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันกับนาง“ว่าอย่างไร” สิ่งเดียวที่เขากลัวนั่นก็คือ กลัวว่าสักวันนางจะจำเรื่องราวในอดีตได้ ทุกครั้งที่นางเรียกเขา และทำสีหน้าเช่นนั้น ซีหยางเว่ยเจียงจึงรู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ต้องปั้นหน้ายิ้มแย้ม ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องการครอบครองนางเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว เขาก็คงไม่ตัดสินใจทำเช่นนี้“ก่อนหน้าที่ฝ่าบาทจะครองราชย์ หม่อมฉันเคยเรียกพระองค์ว่าอย่างไรเหรอเพคะ” มีช

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   38 กลับคืนสถานะเดิมหรือ?

    เกาเจี๋ยและสือโต้วถอยร่นออกมาอยู่ด้านนอก ปล่อยให้ครรลองทุกอย่างมันดำเนินต่อไป โดยที่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปกีดขวางได้ทั้งสองคนแปลงกายกลับมาอยู่ในร่างเดิม เฝ้ามองคนสองคนสนทนากัน“เจ้าหมอนั่นโกหกท่านอา” สือโต้วบ่น“ก็ทุกอย่างมันถูกลิขิตมาให้เป็นเช่นนี้ พวกเราจะไปทำอะไรได้ล่ะ” เกาเจี๋ยโบกพัดขนนกยูงของตนเองไปมา “อย่างไรเราก็ต้องส่งนางกลับเข้าสู่ห้วงวัฏสงสารเดิมแบบที่ควรจะเป็น เรายื่นมือเข้ามาสอดก็นับว่าวุ่นวายเกินพอแล้ว หากท่านซือมิ่งรู้ มีหวังพวกเราได้ถูกบ่นจนหูชา”“ว่าแต่แล้วไข่ใบนั้นท่านเอาเขาไปเก็บไว้ที่ไหน”ในวันที่หลี่จื้อฉิงตกลงมาจากผาตัดใจ ในครรภ์ของนางมีหนึ่งชีวิต พวกเขาทั้งสองคนจึงอาสานำเด็กคนนั้นไปใส่ไว้ในไข่ ใช้พลังเซียนบำรุงดูแลอยู่ในตำหนักเซียนของมหาเทพ แล้วจึงลงมาช่วยเหลือนางบนโลกมนุษย์ พวกเขาเองมิอาจปล่อยให้ความพยายามของมหาเทพสูญเปล่าได้ จึงไม่สนว่าเมื่อกลับคืนสู่ฟ้าเบื้องบนแล้ว และนางรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จะลงโทษเขาหรือไม่

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   37 พบนางแล้ว

    ได้รับข่าวจากนายอำเภอในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ทางทิศใต้ของแคว้น ส่งรายงานมาว่า พบสตรีที่อาจจะเป็นคนที่เขากำลังตามหาอยู่ ซีหยางเว่ยเจียงก็รีบขี่ม้าเร็วออกมาจากจากเมืองหลวงในทันที ใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์เขาจึงมาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง“นางอยู่ไหน” เขาถามเข้าเรื่องในทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้เอ่ยเรื่องอื่นจ้าวตู้รู้อยู่แล้วว่าฮ่องเต้แห่งหยุนเหมินจะเสด็จประพาสมายังหมู่บ้านเล็ก ๆ ของตน จึงให้ชาวบ้านออกมาเตรียมต้อนรับ แต่อีกฝ่ายดูท่าจะอยากพบคนมากกว่า จึงรีบตอบคำถามของนายเหนือหัว“อยู่ที่บ้านของผู้เฒ่าเกาพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”“นำทางไป” ซีหยางเว่ยเจียงขึ้นม้าและให้จ้าวตู้วิ่งนำทางบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ปรากฏอยู่ตรงหน้า ซีหยางเว่ยเจียงไม่อยากให้นางตื่นตระหนกตกใจ เพราะจากคำรายงานของนายอำเภอกล่าวว่านางความจำเสื่อมและได้รับบาดเจ็บ ได้พบหน้ากันในเวลานี้ไม่แน่ว่านางอาจจะจำเขาไม่ได้“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ไม่ต้องตามมา”

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   36 เรื่องราวเกี่ยวกับนาง

    เขาตามหาหลี่จื้อฉิงมาตลอดสามปี เวลานี้ไช่เสิ่งเจี๋ยสามารถรวบรวมแผ่นดินเฉียนซีให้เป็นปึกแผ่นได้แล้ว และขึ้นครองราชย์สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้แห่งแผ่นดินเฉียนซี ฉางหมิงที่เคยรุ่งเรืองทรงอำนาจ ถูกเขาเผาทำลายทิ้งจนราบคาบ หลี่หย่าถิงถูกเขาจับตรึงเอาไว้กับโซ่ตรวนขนาดใหญ่ ไม่ยอมให้นางเห็นเดือนเห็นตะวันอีกต่อไป บัญชีหนี้แค้นที่ติดค้างเขาเอาไว้ถูกเอาคืนทบต้นทบดอกฉางหมิงกลายเป็นประเทศราชของเฉียนซีที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไช่เสิ่งเจี๋ยปลดปล่อยเชื้อพระวงศ์ที่ถูกจับมาเป็นตัวประกันกลับคืนสู่ดินแดนบ้านเกิดของตน รวมถึงบิดาของหลี่จื้อฉิงกับคนรักของเขา เหล่าทหารและคนของที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับเขาถูกตัดหัวประหารทั้งสิ้น ปั๋วจวินถูกเขาจับและตัดศีรษะเสียบประจานเอาไว้ที่กำแพงเมือง ครอบครัวของเขาถูกยึดทรัพย์ และใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก คุณหนูปั๋วจำใจต้องแต่งงานเป็นอนุภรรยาของขุนนางในเฉียนซี ส่วนปั๋วเจิ้งเวลานี้กลายเป็นเพียงนายกองธรรมดาไช่เสิ่งเจี๋ยทำทุกอย่างเพื่อสนองให้กับสิ่งที่ตนเองและประชาชนเฉียนซีสูญเสียไป มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาติดค้างในใจ นั่นก็คือการหายตัวไปของนา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status