หน้าหลัก / รักโบราณ / โปรดอย่ารักนางร้าย / 5 คือคนในคำทำนายหรือไม่?

แชร์

5 คือคนในคำทำนายหรือไม่?

ผู้เขียน: รอรีวัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 18:43:46

 

“นายหญิง” ไช่เสิ่งเจี๋ยก้าวขาเข้ามาในห้อง

เขาไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าอีกต่อไปแล้ว ร่างกายก็สะอาดสะอ้าน นางอยากรู้ว่า เขาใช่ชายในคำทำนายของท่านพ่อหรือเปล่า ถ้าใช่นางจะต้องช่วยชีวิตเขาให้รอดพ้นไปจากที่นี่

“เจ้าก้อนเนื้อเหม็นเน่า เจ้าคือใครกันแน่” หลี่จื้อฉิงผุดลุกขึ้นมานั่งหย่อนขาที่ข้างเตียง ใบหน้างดงามได้รูปเวลานี้ซีดเซียวไร้สีเลือด นางต้องการพิสูจน์ให้รู้แน่ชัดว่า เขาใช่องค์ชายตัวประกันจากเฉียนซีหรือไม่ หลี่จื้อฉิงจึงเลือกจะโยนเนื้อก้อนหนึ่งให้เขากระโดดงับ

“ข้าคือสัตว์เลี้ยงของท่าน” เขาตอบอย่างนอบน้อมมีมารยาท ไช่เสิ่งเจี๋ยมีแผนการในใจอยู่แล้ว

เจ้าของใบหน้าสวยงามยิ้มเหยียด

“ข้าถามว่าเจ้าคือใครกันแน่”

“นายหญิง ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน” ยังคงเป็นคำตอบเดิม

“องค์ชายท่านต้องการไปจากที่นี่หรือไม่” ในเมื่อเขาไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นใคร หลี่จื้อฉิงจึงเปิดเผยโฉมหน้าของเขาด้วยตนเอง

“นายหญิง ในเวลานี้ข้าน้อยคือสัตว์เลี้ยงของท่าน เป็นทาสรับใช้ของท่าน” สถานะของเขามีใครบ้างไม่รู้ ชายหนุ่มหรี่ตามองร่างเล็กที่นั่งหน้าซีดอยู่บนเตียงนอน “ข้าจะเป็นใครในอดีต ไม่สำคัญเท่ากับว่าเวลานี้ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน” ชายหนุ่มเดินมาคุกเข่าต่อหน้านาง

“องค์ชายข้าจะถามท่านอีกครั้ง ท่านอยากมีชีวิตรอดกลับไปเฉียนซีหรือไม่!!”

ครั้นพูดถึงดินแดนบ้านเกิดของอีกฝ่าย ชั่วเวลาหนึ่งนางสังเกตเห็นดวงตาสีนิลวูบไหวและเปลี่ยนเป็นสีเท่า แม้จะแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่หลี่จื้อฉิงที่จับตาดูอีกฝ่ายทุกการกระทำย่อมสังเกตเห็น

เขาไม่รู้ว่าสตรีตัวร้ายที่อยู่ตรงหน้าเขาต้องการสิ่งใด ไช่เสิ่งเจี๋ยจึงเล่นละครเป็นทาสรับใช้ที่ดีต่อนางไปก่อน ไม่แน่ว่าสิ่งที่นางกล่าวออกมาอาจจะเป็นแผนลวงที่ทดสอบความซื่อสัตย์ของเขาก็เป็นได้

“ไม่เลยนายหญิง ข้าน้อยอยากอยู่รับใช้ท่านที่นี่ อีกอย่างเราสองคนก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันไปแล้ว ตามธรรมเนียมของเฉียนซี เมื่อสาบานต่อหน้าฟ้าดินแล้วมิอาจบิดพลิ้วแยกจากกันได้” ไช่เสิ่งเจี๋ยขยับเข้าไปใกล้ชิดนาง

“เป็นเช่นนั้นสินะ องค์ชายคงไม่อยากกลับไปที่ดินแดนของตนเองเสียแล้ว น่าผิดหวังจริง ๆ”

“ไม่กลับแล้วนายหญิงข้าน้อยเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน”

แค่ชั่วเวลาพริบตาเดียว ไช่เสิ่งเจี๋ยก็ขยับเข้ามาใกล้ชิดนางจนไม่เหลือระยะห่าง เวลานี้เขาไม่ใช่ก้อนเนื้อเหม็นเน่าอีกต่อไปแล้ว หลี่จื้อฉิงจึงมิได้รังเกียจ

หลี่จื้อฉิงใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าของไช่เสิ่งเจี๋ย หมายให้เขาสบตากับนางยามสนทนากัน

“องค์ชาย เราสองคนต่างก็เป็นตั๊กแตนที่เกาะอยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน ในอีกหนึ่งปีช่วงเวลาเดียวกันนี้ ข้าจะส่งท่านกลับไปยังดินแดนของท่าน ขอแค่เพียงท่านจงเป็นทาสที่เชื่อฟัง” มือเรียวลูบเส้นผมนุ่มสลวยสีดำขลับที่ถูกชำระล้างเป็นอย่างดีของอีกฝ่ายอย่างเบามือ “ถึงเวลานั้นต่อให้ข้าต้องตัดแขนตัดขา ข้าก็จะหาทางปล่อยท่านไป ไม่ว่าวิธีการใดก็ตาม”

“ไม่นายหญิง ข้าไม่ไป” ชายหนุ่มเอียงใบหน้าซุกกับฝ่ายมือเล็กนุ่มนิ่มของนางท่าทางออดอ้อนราวกับลูกแมว ใครอยากจะเชื่อในสิ่งที่นางพูดก็เชื่อไป แต่เขาไม่เชื่อคำพูดโป้ปดมดเท็จที่ออกมาจากปากของนาง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไร้ความน่าเชื่อถือ สตรีที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจสารเลวมิต่างอะไรจากมารดาของตน จะปล่อยเขาไปในอีกหนึ่งปีให้หลังอย่างนั้นหรือ ให้เขาเชื่อว่าพระอาทิตย์จะขึ้นในทางทิศตะวันตกยังจะดีเสียกว่า

“แต่ตอนนี้ ข้ามีสิ่งหนึ่งให้ท่านทำ” หลี่จื้อฉิงเอนตัวไปกับเสาของเตียงนอน นางหมดแรงจะสนทนากับเขาแล้ว คงเป็นเพราะบาดแผลที่บริเวณเอว หากรู้ว่ามันจะทรมานเช่นนี้นางคงใช้เลือดของเขาแทนเลือดของตนเอง “แต่เดี๋ยวก่อน...ข้าเชื่อใจท่านได้ใช่หรือไม่” น้ำเสียงของนางอ่อนระโหยโรยแรงเต็มที

"เชื่อใจข้าได้” เขาโกหก “นายหญิงโปรดออกคำสั่ง”

“ไปที่ร้านขายยาพรตเมฆา...บอกอาการของข้ากับพวกเขา จากนั้นจึงนำยากลับมาที่นี่” หลี่จื้อฉิงโยนป้ายหยกประจำตัวให้แก่เขา “จำประโยคนี้เอาไว้ สตรีสูงศักดิ์ร้ายกาจเอาแต่ใจ อยากกินขนมกุ้ยฮวา”

นางรู้ว่าเขาไม่ใช่คนเขลา ถ้าเจอสถานการณ์ที่แย่ไปกว่านี้เขาจะเอาตัวรอดกลับมาได้ไม่ก็หนีไป

“นายหญิงโปรดวางใจ ข้าจะรีบไปรีบกลับ” ไช่เสิ่งเจี๋ยลอบยิ้มมุมปาก นางกำลังเปิดโอกาสให้เขาหนีเช่นนั้นหรือ

หากราชบุตรเขยซึ่งเป็นบิดาของนางอยู่ คงไม่ต้องพึ่งพาเจ้าก้อนเนื้อเหม็นเน่า ตราหยกประจำตัวของนางสามารถใช้เป็นป้ายผ่านทางได้ทั้งแผ่นดินฉางหมิง หลี่จื้อฉิงเปิดโอกาสให้เขาหลบหนี และติดต่อกับคนของตนเอง หวังว่าเขาจะฉลาดและรู้ว่านางกำลังตั้งใจทำสิ่งใด

ตั้งแต่เล็กยันเติบใหญ่ นางเห็นทุกการกระทำของมารดา นางรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเสด็จแม่และแม่ทัพใหญ่ปั๋วจวิน ชายผู้นั้นเดินเข้าออกตำหนักองค์หญิงใหญ่ราวกับเป็นบ้านของตนเอง และตัวของเสด็จแม่เองก็มิได้คิดปิดบังในสิ่งที่ตนกระทำ หลี่จื้อฉิงเห็นใบหน้าของบิดาจากเจ็บปวดกลายเป็นเฉยชาในที่สุด

โชคดี ที่อย่างน้อยนางก็ยังมีเสด็จพ่อที่คอยสอนให้รู้ถูกรู้ผิด

“ท่านพ่อ” ยามเมื่ออยู่กันตามลำพังพ่อลูกนางและเผิงเยี่ยนปิ่นมักจะสนทนากันด้วยคำสามัญทั่วไป นั่งยิ่งทำให้นางสนิทสนมกับบิดามากยิ่งขึ้น

“นี่คืออะไรหรือเจ้าคะ”

“กระดานหมากรุก” เผิงเยี่ยนปิ่นตอบคำถามขอบบุตรสาวตัวน้อย

“แล้วเหตุใดจึงมีเส้นแบ่งตรงกลางล่ะเจ้าคะ”

“เด็กน้อยเจ้าดูให้ดี ๆ” ผู้เป็นบิดาผายมือไปยังกระดาน “ฝั่งสีแดงเปรียบเสมือนฉางหมิง ฝ่ายสีดำคือเฉียนซี”

“...” เด็กหญิงกอดอกมิได้เอ่ยสิ่งใดออกไป มิเข้าใจว่าบิดากำลังหมายถึงสิ่งใด และเหตุใดจึงนำสองแคว้นมาไว้บนกระดานหมาก

“จือจือ เจ้าคิดว่าฝ่ายใดจะชนะ” เผิงเยี่ยนปิ่นขอความคิดเห็น

“ลูกคิดว่าฉางหมิงเจ้าค่ะ ท่านพ่อดูสิเจ้าคะ ตัวหมากของเฉียนซีถูกกินไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงเสนาบดี กษัตริย์ ม้า และปืนอย่างละตัวเท่านั้น เหล่าทหารในกระดานถูกฉางหมิงกินไปจนหมดแล้ว ดูยังไงในกระดานนี้เฉียนซีก็ต้องพ่ายแพ้” เด็กหญิงตอบออกไปตามความรู้สึก

เผิงเยี่ยนปิ่นยิ้ม ลูบหัวบุตรสาวที่น่ารักของตนอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเริ่มเดินหมากในกระดานให้นางดู แค่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ฉางหมิงที่เต็มไปด้วยขุนพล เสนาบดี ม้า เรือ และปืน ก็ถูกเฉียนซีที่เหลือกำลังเพียงน้อยนิดจัดการจนราบคาบ รู้ตัวอีกที ก็เหลือแค่กษัตริย์เพียงตัวเดียว

“ประมาทแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น จากที่ได้เปรียบกลายเป็นเสียเปรียบ ฝ่ายของเฉียนซีเมื่อถูกไล่ล่าจนจนตรอก ก็อาศัยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายกลับมาพลิกเอาชนะแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ของฉางหมิงได้”

“...”

“เด็กน้อย ในอนาคตวันข้างหน้า” เผิงเยี่ยนปิ่นหยิบหมากกษัตริย์ที่อยู่ในฝั่งของเฉียนซีส่งให้กับบุตรสาว “เจ้าจะต้องช่วยให้หมากตัวนี้กลับบ้านเกิด”

“ลูก!!” นางไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะคิดอีกกี่ตลบก็ไม่เข้าใจ

“หากเจ้าอยากจะหยุดหายนะที่จะเกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้ เจ้าจะต้องพาหมากตัวนี้กลับคืนสู่มาตุภูมิ ยุติเคราะห์ร้ายของมวลมนุษย์”

“ท่านอธิบายอีกสักหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ” หลี่จื้อฉิงยังไม่เข้าใจ

“ถึงเวลานั้นเจ้าจะรู้ได้ด้วยตัวของเจ้าเอง”

คำทำนายของบิดา มีครั้งไหนไม่เกิดขึ้นจริงบ้าง นางจดจำสิ่งที่บิดาเคยบอกเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ถึงเวลานางจะรู้ด้วยตนเองว่า ควรลงมือกระทำสิ่งใด สวรรค์จะชี้แนะแนวทางให้แก่นางเอง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   6 ชีวิตต่อชีวิต

    อาศัยตราหยกของหลี่จื้อฉิง ไช่เสิ่งเจี๋ยสามารถเดินเข้าออกได้ทุกพื้นที่ของตำหนัก แม้กระทั่งเดินจนรอบรั้ววังหลวงแห่งฉางหมิง ก็มิมีผู้ใดกล้าขัดเมื่อเขายกป้ายขึ้น เป็นแค่เพียงธิดาขององค์หญิงใหญ่ หากนับความเข้มข้นของสายเลือดราชวงศ์นางแทบจะไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ในราชบัลลังก์นี้ด้วยซ้ำ ตามธรรมเนียมที่มีมาแต่โบราณกาล สตรีแต่งงานแล้วต้องออกเรือน แต่องค์หญิงใหญ่หลี่หย่าถิงแต่งงานกับองค์ชายจากแคว้นที่ล่มสลาย อาศัยความโปรดปรานที่ฮ่องเต้องค์ก่อนมีต่อนาง ทำให้หลี่หย่าถิงยังสามารถอาศัยอยู่ในวังหลวงแคว้นฉางหมิงได้ไม่รู้ว่าเพราะความฉลาดเฉลียว ความงดงาม หรือเล่ห์กลอันใด จากที่เป็นเพียงองค์หญิงที่เกิดจากนางกำนัลระดับล่าง ได้กลายมาเป็นสตรีทรงอำนาจอันดับหนึ่งแห่งฉางหมิง ความฉลาดและงดงามนั้นมาคู่พร้อมกับจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตพี่น้องร่วมราชบัลลังก์ที่ขวางหูขวางตาถูกหลี่หย่าถิงกำจัดทิ้งทั้งหมด เหลือเพียงฮ่องเต้หุ่นเชิดที่อ่อนแอไร้กำลังไว้ทำหน้าที่สวมมาลาสีเหลืองทองแทนนางก็เท่านั้นและเป็นเพราะอำนาจของมารดาทำให้ท่านหญิงที่เป็นเชื้อสายปลายแถวต่ำต้อยสามารถขึ้นมานั่งเทียบเท่ากับราชนิกุลที่กำเนิดจากสายเลือดของฮ่องเต้ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   7 คุณหนูจากจวนเสนาบดี

    เมื่อออกมาจากประตูวัง ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินตามหาเส้นทางไปยังร้านขายพรตเมฆา แต่เป็นเพราะนางมิได้บอกเอาไว้ว่า ร้านขายยาตั้งอยู่บนถนนเส้นไหน เขาที่เพิ่งออกมาจากพื้นที่กักขังทาสงุนงงไปหมด กอปรกับนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ออกมาเดินตลาดของเหมืองหลวงแห่งฉางหมิง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่คุ้นเคย หากเป็นเช่นนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอร้านขายตามที่นางบอก หากกลับไปช้า ไม่แน่ว่านางจะหาเรื่องเอาผิดกับเขาในขณะที่กำลังคิดหาวิธี ชายเสื้อของไช่เสิ่งเจี๋ยก็ถูกดึงจากด้านหลัง เมื่อหันกลับไปเป็นสตรีตัวเล็กสวมชุดสีฟ้าสดใส เส้นผมสีดำสนิทถูกเกล้าเก็บขึ้นเป็นทรงอย่างดี ร่างเล็กผอมบางดวงตากระจ่างใสงดงาม ยืนส่งยิ้มตาหยีอยู่ด้านหลังเขา“ขอรับคุณหนู”“เจ้าหลงทางหรือไม่” น้ำเสียงของนางกระจ่างใสราวกับสายน้ำเหลียนซูเยว่นั่งจิบน้ำชากินขนมอยู่บนชั้นสองของร้านอาหารชาดแดง นางเห็นบุรุษผู้หนึ่งยืนหันรีหันขวาง เข้าออกซอยนั้นทีซอยนี้ที วนไปวนมาแล้วกลับมาที่เดิม คนตัวเล็กเห็นแล้วอดที่จะเข้าช่วยเหลือไม่ได้ แม้ใบหน้าจะงดงามโดดเด่น แต่กระนั้นก็อยู่ในชุดอาภรณ์เนื้อหยาบ ที่ฉางหมิงแบ่งชนชั้นกันชัดเจน ถึงจะหน้าตาดีแต่หากเป็นเพียงชนชั้นต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   8 น่าสงสาร?

    ร้านขายยาที่สภาพภายนอกโดยทั่วไปไม่แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ไช่เสิ่งเจี๋ยมิรู้ว่าเหตุใดจึงต้องเป็นที่นี่เท่านั้น ชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้าน มีลูกค้าและหลงจู๊ทำการค้าขายกันตามปกติ มิมีสิ่งใดพิเศษหรือผิดแผกไปจากร้านอื่น ๆผนังด้านหนึ่งของร้านมีลิ้นชักไม้ตั้งเรียงราย แต่ละชั้นมีตัวอักษรสลักเป็นชื่อของตัวยาชนิดต่าง ๆ เดาว่าน่าจะเพื่อความสะดวกในการจัดเทียบยาชนิดต่าง ๆ ตรงลิ้นชักเหล่านั้นมีโต๊ะไม้ยาวเท่ากับผนังลิ้นชัก พนักงานในร้านล้วนแล้วแต่กุลีกุจอทำหน้าที่ของตนเอง กลิ่นหอมของสมุนไพรอบอวลไปทั่วทั้งร้านบรรยากาศเรียบง่าย มีแสงส่องเข้ามาภายใน อากาศถ่ายเทเหมาะกับการเป็นร้านขายยา“คุณชายต้องการสิ่งใด” เด็กในร้านเห็นเขายืนเก้กังอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเดินเข้าไปถามไถ่เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือ“สตรีร้ายกาจเอาแต่ใจ”ยังพูดไม่ทันจบประโยคเด็กหนุ่มที่มาต้อนรับเขาในคราแรกผายมือให้ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินไปยังจุดที่เถ้าแก่ชรานั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือในสุด ที่กำลังวุ่นวายกับการจัดเทียบยา“นายท่าน สตรีตัวร้ายมีเรื่องแล้ว” เด็กหนุ่มกระซิบกับเถ้าแก่ชรา ไช่เสิ่งเจี๋ยเลิกคิ้วเล็กน้อย สังเกตปฏิกิริยายาที่ชั่งตวงอยู่เมื่อครู่ถูกวางล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   9 ยืมมือ

    “ข้าคิดว่าท่านจะหนีไปเสียแล้วองค์ชาย”เมื่อกลืนยาลงท้องไปแล้วนางถึงได้พูดกับเขาไช่เสิ่งเจี๋ยลอบมองสตรีตัวร้ายที่นั่งเอนหลังพิงกายอยู่บนเตียงนอน“ข้าจะหนีไปได้อย่างไรนายหญิง ข้าน่ะเป็นทาสที่ซื่อสัตย์” ชายหนุ่มยิ้มและกล่าวอย่างเอาอกเอาใจหญิงสาวรู้ดีว่ารอยยิ้มที่เขามอบให้แก่นางมันสุดแสนจะเสแสร้ง“รอยยิ้มของท่านช่างดูจริงใจเสียจริง”“ข้าย่อมจริงใจต่อนายหญิงอยู่แล้ว” เขาบอก ก่อนจะเพิ่งนึกอะไรได้ “นายหญิง อาการป่วยของท่านเป็นอย่างไร แผลที่เอวของท่านล่ะยังเจ็บอยู่หรือไม่”ใบหน้างดงามซีดเซียว ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบว่าไม่เป็นไร“ข้าจะนอนแล้วเจ้าออกไปได้แล้ว” กินยาแล้วง่วง นางจึงเอ่ยปากไล่เขาออกไปให้พ้นหน้า “ข้าเห็นหน้าเจ้าแล้วนอนไม่หลับ” นางบ่นแต่ถึงนางจะไล่ให้เขาออกไป แต่ไช่เสิ่งเจี๋ยก็มิคิดจะเดินออกไป นางไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน เขาเกรงว่านางจะหิวตายก่อนที่เขาจะได้ออกไปจากที่นี่“นายหญิง ท่านยังไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน”“ข้าไม่หิว”“ไม่ได้ขอรับ เกิดท่านหิวจนตายขึ้นมา ที่สัญญาเอาไว้ว่าฤดูร้อนปีหน้าข้าจะได้กลับไปเฉียนซีก็ล้มเหลวหมดสิ”น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสุดแสนจะอ่อนโยน หากใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   10 รอยยิ้มขมขื่น

    เมื่อหลายปีก่อน…นางเคยสงสัยว่าเหตุใดมารดาจึงไม่เคยแสดงออกว่ารักนางเลยสักครั้ง เด็กหญิงนั่งหย่อนขาลงในสระบัว เป็นจุดที่เงียบสงบที่หลี่จื้อฉิงมักจะมานั่งทอดอารมณ์ หลีกลี้หนีจากผู้คน เด็กหญิงนั่งหลบอยู่ตรงโขดหิน บดบังด้วยไม้ดอกพุ่มเล็ก ๆ เนื่องด้วยส่วนสูงของเด็กหญิง หากไม่สังเกตก็จะไม่เห็นว่านางมานั่งหลบอยู่ตรงนี้“ถิงเอ๋อร์ เจ้าไม่กลัวว่าองค์ชายนั่นจะมาพบเราเหรอ”“ไม่กลัวหรอก ปั๋วจวิน ท่านก็รู้ดีว่าเพราะอะไร” สตรีตัวเล็กเรือนร่างอวบอิ่มนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่ม วงแขนเรียวเล็กกอดคอเขาเอาไว้ “ที่ข้าแต่งงานกับเขาเพราะอะไรไม่ใช่ท่านไม่รู้ ท่านก็รู้ว่าข้าน่ะรักท่านเพียงผู้เดียว” หลี่หย่าถิงซบลงกับอกแกร่ง“น่าเสียดายที่ในเวลานั้นเราสองคนยังไม่มีอำนาจถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นเราคงจะตบแต่งเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องกันไปแล้ว” น้ำเสียงของปั๋วจวินเศร้าหมอง“เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป” หลี่หย่าถิงไม่อยากเอ่ยถึงในเวลานั้นทั้งนางและเขาต่างก็ไร้อำนาจอยู่ในมือ ปั๋วจวินเป็นเพียงองครักษ์ระดับล่าง ส่วนนางแม้จะเป็นเชื้อพระวงศ์ก็จริง แต่เป็นเพราะมารดามีชาติกำเนิดต่ำต้อยทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น นางถูกห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   11 แบกความหวัง

    ไช่เสิ่งเจี๋ยยังคงวนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวนาง ทหารยามที่ทำร้ายเขาถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในคุกหลวงเรียบร้อยแล้ว เหตุผลที่ไม่มีเหตุผลก็คือเขาทำร้ายคนของนาง หลี่จื้อฉิงถามเขาแล้วว่า ต้องการให้นางลงโทษด้วยวิธีการใด เขาตอบแค่เพียงว่าให้ขังเอาไว้ในคุกหลวงตลอดชีวิตมิได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกต่อไปนางมิรู้ว่าเขามีแผนการใด เขาสามารถร้องขอให้นางลงโทษทหารยามผู้นั้นให้หนักและรุนแรงกว่านี้ได้แต่เขาก็ไม่ทำเวลาผ่านพ้นไปจนถึงกลางฤดูร้อน ช่วงนี้เสด็จแม่ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับนางสักเท่าไร ส่งผลให้หลี่จื้อฉิงไม่ต้องนั่งปั้นหน้าทำตัวร้ายกาจตามความต้องการของนาง ราชบุตรเขยเสด็จพ่อของนางไปบำเพ็ญพรตนานกว่าที่คิด ไม่มีกำหนดกลับมาวังหลวงเสียที ไม่แน่ว่าเขาอาจจะหนีไปแล้วก็ได้ เมื่อคิดเช่นนั้นนางยิ่งรู้สึกหดหู่ฤดูกาลนี้หมู่มวลดอกไม้เบ่งบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอบอวล ช่วงเวลาแสนสงบของนางจบลงที่การถูกเรียกตัวเข้าไปพบพระมารดา ข้างกายของเสด็จแม่ในยามนี้เคียงข้างด้วยปั๋วจวินดังเช่นทุกครั้ง เป็นภาพที่นางเห็นจนชินตา มิได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   12 ค่อยคิดบัญชีในคราวหลัง

    ที่ลำคอของไช่เสิ่งเจี๋ยรู้สึกร้อนราวกับถูกไฟลวก มีความรู้สึกวิตกกังวลพร้อมกับลางสังหรณ์แปลกประหลาด ผ่านไปครู่หนึ่งปลอกคอที่เขาสวมใส่ก็เย็นเฉียบคล้ายกับถูกแช่อยู่ในน้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะสิ่งใดดลใจ ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินออกมาจากเรือนไข่มุก มุ่งหน้าไปยังทางทิศตะวันออก อันเป็นเส้นทางเดินไปยังสระบัวที่อยู่ระหว่างทางไปตำหนักบูรพาของหลี่หย่าถิงตูม!! คล้ายกับเสียงของสิ่งของหนัก ๆ ตกลงไปในน้ำตอนที่เขาเดินไปยังจุดที่ได้ยินเสียง ปั๋วจวินเดินสวนเขาออกมา เดินผ่านเขาไปด้วยสีหน้าท่าทางร้อนรนจนน่าประหลาดใจ ไช่เสิ่งเจี๋ยมมิอยากให้อีกฝ่ายจดจำได้ว่า เขาคือใครจึงก้มหน้าก้มตา ทำความเคารพโดยมิได้เอ่ยสิ่งใด ปั๋วจวินหันหลังกลับไปมองยังจุดที่เดินออกมาอยู่หลายครา เมื่อเขาจากไปแล้วไช่เสิ่งเจี๋ยจึงรีบไปยังจุดที่เขาเพิ่งจะออกมาผิวน้ำกระเพื่อมไหว รองเท้าปักลายดอกมู่ตานถูกถอดเอาไว้ริมตลิ่ง เขาจำได้ว่าเป็นของใคร ทุกอย่างถูกคาดเดาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ไช่เสิ่งเจี๋ยรีบกระโดดลงไปในน้ำหลี่จื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • โปรดอย่ารักนางร้าย   บทนำ

    อาการบาดเจ็บที่หน้าแข้งด้านขวารุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ หลี่จื้อฉิง ค่อย ๆ ประคับประคองร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลไปตามเส้นทางอันมืดมิดในป่าชานเมือง เสียงลมหายใจของนางเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและอ่อนแรง โชคดีที่ในป่ายามค่ำคืนนั้นมืดสนิท อีกทั้งยังเป็นคืนข้างแรม ทำให้การเคลื่อนไหวของนางยังไม่ถูกจับได้ร่างเล็กเห็นโพรงไม้เล็ก ๆ ที่พอจะยัดเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นได้ จึงค่อย ๆ เสือกตัวเข้าไปแอบ แม้จะไม่รู้ว่าด้านในเต็มไปด้วยสิ่งใด ขืนเดินป้วนเปี้ยนทั้งที่ขาเจ็บเช่นนี้ หากไม่ถูกคนกลุ่มนั้นสังหาร ก็คงหนาวตาย เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงตัดสินใจเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่มุ่งหน้ามายังทิศที่นางหลบซ่อน หลี่จื้อฉิงใช้มือเล็กปิดปากของตนเองเอาไว้ไม่กล้าปริปากส่งเสียงใด ๆ ออกไปในเวลานี้ไม่มีผู้ใดที่นางไว้ใจได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งมารดาและบิดาของนางเอง“ท่านหญิงออกมาเถอะ องค์หญิงใหญ่ให้พวกเราออกมาตามหาท่าน” หนึ่งในคนกลุ่มนั้นตะโกนร้องเรียก“เสด็จแม่ทรงคิดถึงท่านหญิงนะพ่ะย่ะค่ะ” คนผู้นั้นยังคงเอ่ยถึงสตรีสูงศักดิ์ผู้เป็นเจ้านายของตนเองแต่ใครจะเชื่อกัน หากก่อนหน้านั้นนางไม่ไปได้ยินแผนการลับของหลี่หย่าถิงผู้เป็นม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24

บทล่าสุด

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   12 ค่อยคิดบัญชีในคราวหลัง

    ที่ลำคอของไช่เสิ่งเจี๋ยรู้สึกร้อนราวกับถูกไฟลวก มีความรู้สึกวิตกกังวลพร้อมกับลางสังหรณ์แปลกประหลาด ผ่านไปครู่หนึ่งปลอกคอที่เขาสวมใส่ก็เย็นเฉียบคล้ายกับถูกแช่อยู่ในน้ำไม่รู้ว่าเป็นเพราะสิ่งใดดลใจ ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินออกมาจากเรือนไข่มุก มุ่งหน้าไปยังทางทิศตะวันออก อันเป็นเส้นทางเดินไปยังสระบัวที่อยู่ระหว่างทางไปตำหนักบูรพาของหลี่หย่าถิงตูม!! คล้ายกับเสียงของสิ่งของหนัก ๆ ตกลงไปในน้ำตอนที่เขาเดินไปยังจุดที่ได้ยินเสียง ปั๋วจวินเดินสวนเขาออกมา เดินผ่านเขาไปด้วยสีหน้าท่าทางร้อนรนจนน่าประหลาดใจ ไช่เสิ่งเจี๋ยมมิอยากให้อีกฝ่ายจดจำได้ว่า เขาคือใครจึงก้มหน้าก้มตา ทำความเคารพโดยมิได้เอ่ยสิ่งใด ปั๋วจวินหันหลังกลับไปมองยังจุดที่เดินออกมาอยู่หลายครา เมื่อเขาจากไปแล้วไช่เสิ่งเจี๋ยจึงรีบไปยังจุดที่เขาเพิ่งจะออกมาผิวน้ำกระเพื่อมไหว รองเท้าปักลายดอกมู่ตานถูกถอดเอาไว้ริมตลิ่ง เขาจำได้ว่าเป็นของใคร ทุกอย่างถูกคาดเดาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ไช่เสิ่งเจี๋ยรีบกระโดดลงไปในน้ำหลี่จื

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   11 แบกความหวัง

    ไช่เสิ่งเจี๋ยยังคงวนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวนาง ทหารยามที่ทำร้ายเขาถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในคุกหลวงเรียบร้อยแล้ว เหตุผลที่ไม่มีเหตุผลก็คือเขาทำร้ายคนของนาง หลี่จื้อฉิงถามเขาแล้วว่า ต้องการให้นางลงโทษด้วยวิธีการใด เขาตอบแค่เพียงว่าให้ขังเอาไว้ในคุกหลวงตลอดชีวิตมิได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกต่อไปนางมิรู้ว่าเขามีแผนการใด เขาสามารถร้องขอให้นางลงโทษทหารยามผู้นั้นให้หนักและรุนแรงกว่านี้ได้แต่เขาก็ไม่ทำเวลาผ่านพ้นไปจนถึงกลางฤดูร้อน ช่วงนี้เสด็จแม่ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับนางสักเท่าไร ส่งผลให้หลี่จื้อฉิงไม่ต้องนั่งปั้นหน้าทำตัวร้ายกาจตามความต้องการของนาง ราชบุตรเขยเสด็จพ่อของนางไปบำเพ็ญพรตนานกว่าที่คิด ไม่มีกำหนดกลับมาวังหลวงเสียที ไม่แน่ว่าเขาอาจจะหนีไปแล้วก็ได้ เมื่อคิดเช่นนั้นนางยิ่งรู้สึกหดหู่ฤดูกาลนี้หมู่มวลดอกไม้เบ่งบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอบอวล ช่วงเวลาแสนสงบของนางจบลงที่การถูกเรียกตัวเข้าไปพบพระมารดา ข้างกายของเสด็จแม่ในยามนี้เคียงข้างด้วยปั๋วจวินดังเช่นทุกครั้ง เป็นภาพที่นางเห็นจนชินตา มิได

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   10 รอยยิ้มขมขื่น

    เมื่อหลายปีก่อน…นางเคยสงสัยว่าเหตุใดมารดาจึงไม่เคยแสดงออกว่ารักนางเลยสักครั้ง เด็กหญิงนั่งหย่อนขาลงในสระบัว เป็นจุดที่เงียบสงบที่หลี่จื้อฉิงมักจะมานั่งทอดอารมณ์ หลีกลี้หนีจากผู้คน เด็กหญิงนั่งหลบอยู่ตรงโขดหิน บดบังด้วยไม้ดอกพุ่มเล็ก ๆ เนื่องด้วยส่วนสูงของเด็กหญิง หากไม่สังเกตก็จะไม่เห็นว่านางมานั่งหลบอยู่ตรงนี้“ถิงเอ๋อร์ เจ้าไม่กลัวว่าองค์ชายนั่นจะมาพบเราเหรอ”“ไม่กลัวหรอก ปั๋วจวิน ท่านก็รู้ดีว่าเพราะอะไร” สตรีตัวเล็กเรือนร่างอวบอิ่มนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่ม วงแขนเรียวเล็กกอดคอเขาเอาไว้ “ที่ข้าแต่งงานกับเขาเพราะอะไรไม่ใช่ท่านไม่รู้ ท่านก็รู้ว่าข้าน่ะรักท่านเพียงผู้เดียว” หลี่หย่าถิงซบลงกับอกแกร่ง“น่าเสียดายที่ในเวลานั้นเราสองคนยังไม่มีอำนาจถึงเพียงนี้ ไม่เช่นนั้นเราคงจะตบแต่งเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องกันไปแล้ว” น้ำเสียงของปั๋วจวินเศร้าหมอง“เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป” หลี่หย่าถิงไม่อยากเอ่ยถึงในเวลานั้นทั้งนางและเขาต่างก็ไร้อำนาจอยู่ในมือ ปั๋วจวินเป็นเพียงองครักษ์ระดับล่าง ส่วนนางแม้จะเป็นเชื้อพระวงศ์ก็จริง แต่เป็นเพราะมารดามีชาติกำเนิดต่ำต้อยทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น นางถูกห

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   9 ยืมมือ

    “ข้าคิดว่าท่านจะหนีไปเสียแล้วองค์ชาย”เมื่อกลืนยาลงท้องไปแล้วนางถึงได้พูดกับเขาไช่เสิ่งเจี๋ยลอบมองสตรีตัวร้ายที่นั่งเอนหลังพิงกายอยู่บนเตียงนอน“ข้าจะหนีไปได้อย่างไรนายหญิง ข้าน่ะเป็นทาสที่ซื่อสัตย์” ชายหนุ่มยิ้มและกล่าวอย่างเอาอกเอาใจหญิงสาวรู้ดีว่ารอยยิ้มที่เขามอบให้แก่นางมันสุดแสนจะเสแสร้ง“รอยยิ้มของท่านช่างดูจริงใจเสียจริง”“ข้าย่อมจริงใจต่อนายหญิงอยู่แล้ว” เขาบอก ก่อนจะเพิ่งนึกอะไรได้ “นายหญิง อาการป่วยของท่านเป็นอย่างไร แผลที่เอวของท่านล่ะยังเจ็บอยู่หรือไม่”ใบหน้างดงามซีดเซียว ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบว่าไม่เป็นไร“ข้าจะนอนแล้วเจ้าออกไปได้แล้ว” กินยาแล้วง่วง นางจึงเอ่ยปากไล่เขาออกไปให้พ้นหน้า “ข้าเห็นหน้าเจ้าแล้วนอนไม่หลับ” นางบ่นแต่ถึงนางจะไล่ให้เขาออกไป แต่ไช่เสิ่งเจี๋ยก็มิคิดจะเดินออกไป นางไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน เขาเกรงว่านางจะหิวตายก่อนที่เขาจะได้ออกไปจากที่นี่“นายหญิง ท่านยังไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน”“ข้าไม่หิว”“ไม่ได้ขอรับ เกิดท่านหิวจนตายขึ้นมา ที่สัญญาเอาไว้ว่าฤดูร้อนปีหน้าข้าจะได้กลับไปเฉียนซีก็ล้มเหลวหมดสิ”น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสุดแสนจะอ่อนโยน หากใ

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   8 น่าสงสาร?

    ร้านขายยาที่สภาพภายนอกโดยทั่วไปไม่แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ไช่เสิ่งเจี๋ยมิรู้ว่าเหตุใดจึงต้องเป็นที่นี่เท่านั้น ชายหนุ่มเดินเข้าไปในร้าน มีลูกค้าและหลงจู๊ทำการค้าขายกันตามปกติ มิมีสิ่งใดพิเศษหรือผิดแผกไปจากร้านอื่น ๆผนังด้านหนึ่งของร้านมีลิ้นชักไม้ตั้งเรียงราย แต่ละชั้นมีตัวอักษรสลักเป็นชื่อของตัวยาชนิดต่าง ๆ เดาว่าน่าจะเพื่อความสะดวกในการจัดเทียบยาชนิดต่าง ๆ ตรงลิ้นชักเหล่านั้นมีโต๊ะไม้ยาวเท่ากับผนังลิ้นชัก พนักงานในร้านล้วนแล้วแต่กุลีกุจอทำหน้าที่ของตนเอง กลิ่นหอมของสมุนไพรอบอวลไปทั่วทั้งร้านบรรยากาศเรียบง่าย มีแสงส่องเข้ามาภายใน อากาศถ่ายเทเหมาะกับการเป็นร้านขายยา“คุณชายต้องการสิ่งใด” เด็กในร้านเห็นเขายืนเก้กังอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเดินเข้าไปถามไถ่เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือ“สตรีร้ายกาจเอาแต่ใจ”ยังพูดไม่ทันจบประโยคเด็กหนุ่มที่มาต้อนรับเขาในคราแรกผายมือให้ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินไปยังจุดที่เถ้าแก่ชรานั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือในสุด ที่กำลังวุ่นวายกับการจัดเทียบยา“นายท่าน สตรีตัวร้ายมีเรื่องแล้ว” เด็กหนุ่มกระซิบกับเถ้าแก่ชรา ไช่เสิ่งเจี๋ยเลิกคิ้วเล็กน้อย สังเกตปฏิกิริยายาที่ชั่งตวงอยู่เมื่อครู่ถูกวางล

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   7 คุณหนูจากจวนเสนาบดี

    เมื่อออกมาจากประตูวัง ไช่เสิ่งเจี๋ยเดินตามหาเส้นทางไปยังร้านขายพรตเมฆา แต่เป็นเพราะนางมิได้บอกเอาไว้ว่า ร้านขายยาตั้งอยู่บนถนนเส้นไหน เขาที่เพิ่งออกมาจากพื้นที่กักขังทาสงุนงงไปหมด กอปรกับนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ออกมาเดินตลาดของเหมืองหลวงแห่งฉางหมิง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่คุ้นเคย หากเป็นเช่นนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอร้านขายตามที่นางบอก หากกลับไปช้า ไม่แน่ว่านางจะหาเรื่องเอาผิดกับเขาในขณะที่กำลังคิดหาวิธี ชายเสื้อของไช่เสิ่งเจี๋ยก็ถูกดึงจากด้านหลัง เมื่อหันกลับไปเป็นสตรีตัวเล็กสวมชุดสีฟ้าสดใส เส้นผมสีดำสนิทถูกเกล้าเก็บขึ้นเป็นทรงอย่างดี ร่างเล็กผอมบางดวงตากระจ่างใสงดงาม ยืนส่งยิ้มตาหยีอยู่ด้านหลังเขา“ขอรับคุณหนู”“เจ้าหลงทางหรือไม่” น้ำเสียงของนางกระจ่างใสราวกับสายน้ำเหลียนซูเยว่นั่งจิบน้ำชากินขนมอยู่บนชั้นสองของร้านอาหารชาดแดง นางเห็นบุรุษผู้หนึ่งยืนหันรีหันขวาง เข้าออกซอยนั้นทีซอยนี้ที วนไปวนมาแล้วกลับมาที่เดิม คนตัวเล็กเห็นแล้วอดที่จะเข้าช่วยเหลือไม่ได้ แม้ใบหน้าจะงดงามโดดเด่น แต่กระนั้นก็อยู่ในชุดอาภรณ์เนื้อหยาบ ที่ฉางหมิงแบ่งชนชั้นกันชัดเจน ถึงจะหน้าตาดีแต่หากเป็นเพียงชนชั้นต่

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   6 ชีวิตต่อชีวิต

    อาศัยตราหยกของหลี่จื้อฉิง ไช่เสิ่งเจี๋ยสามารถเดินเข้าออกได้ทุกพื้นที่ของตำหนัก แม้กระทั่งเดินจนรอบรั้ววังหลวงแห่งฉางหมิง ก็มิมีผู้ใดกล้าขัดเมื่อเขายกป้ายขึ้น เป็นแค่เพียงธิดาขององค์หญิงใหญ่ หากนับความเข้มข้นของสายเลือดราชวงศ์นางแทบจะไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ในราชบัลลังก์นี้ด้วยซ้ำ ตามธรรมเนียมที่มีมาแต่โบราณกาล สตรีแต่งงานแล้วต้องออกเรือน แต่องค์หญิงใหญ่หลี่หย่าถิงแต่งงานกับองค์ชายจากแคว้นที่ล่มสลาย อาศัยความโปรดปรานที่ฮ่องเต้องค์ก่อนมีต่อนาง ทำให้หลี่หย่าถิงยังสามารถอาศัยอยู่ในวังหลวงแคว้นฉางหมิงได้ไม่รู้ว่าเพราะความฉลาดเฉลียว ความงดงาม หรือเล่ห์กลอันใด จากที่เป็นเพียงองค์หญิงที่เกิดจากนางกำนัลระดับล่าง ได้กลายมาเป็นสตรีทรงอำนาจอันดับหนึ่งแห่งฉางหมิง ความฉลาดและงดงามนั้นมาคู่พร้อมกับจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตพี่น้องร่วมราชบัลลังก์ที่ขวางหูขวางตาถูกหลี่หย่าถิงกำจัดทิ้งทั้งหมด เหลือเพียงฮ่องเต้หุ่นเชิดที่อ่อนแอไร้กำลังไว้ทำหน้าที่สวมมาลาสีเหลืองทองแทนนางก็เท่านั้นและเป็นเพราะอำนาจของมารดาทำให้ท่านหญิงที่เป็นเชื้อสายปลายแถวต่ำต้อยสามารถขึ้นมานั่งเทียบเท่ากับราชนิกุลที่กำเนิดจากสายเลือดของฮ่องเต้ได้

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   5 คือคนในคำทำนายหรือไม่?

    “นายหญิง” ไช่เสิ่งเจี๋ยก้าวขาเข้ามาในห้องเขาไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าอีกต่อไปแล้ว ร่างกายก็สะอาดสะอ้าน นางอยากรู้ว่า เขาใช่ชายในคำทำนายของท่านพ่อหรือเปล่า ถ้าใช่นางจะต้องช่วยชีวิตเขาให้รอดพ้นไปจากที่นี่“เจ้าก้อนเนื้อเหม็นเน่า เจ้าคือใครกันแน่” หลี่จื้อฉิงผุดลุกขึ้นมานั่งหย่อนขาที่ข้างเตียง ใบหน้างดงามได้รูปเวลานี้ซีดเซียวไร้สีเลือด นางต้องการพิสูจน์ให้รู้แน่ชัดว่า เขาใช่องค์ชายตัวประกันจากเฉียนซีหรือไม่ หลี่จื้อฉิงจึงเลือกจะโยนเนื้อก้อนหนึ่งให้เขากระโดดงับ“ข้าคือสัตว์เลี้ยงของท่าน” เขาตอบอย่างนอบน้อมมีมารยาท ไช่เสิ่งเจี๋ยมีแผนการในใจอยู่แล้วเจ้าของใบหน้าสวยงามยิ้มเหยียด“ข้าถามว่าเจ้าคือใครกันแน่”“นายหญิง ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน” ยังคงเป็นคำตอบเดิม“องค์ชายท่านต้องการไปจากที่นี่หรือไม่” ในเมื่อเขาไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นใคร หลี่จื้อฉิงจึงเปิดเผยโฉมหน้าของเขาด้วยตนเอง“นายหญิง ในเวลานี้ข้าน้อยคือสัตว์เลี้ยงของท่าน เป็นทาสรับใช้ของท่าน” สถานะของเขามีใครบ้างไม่รู้ ชายหนุ่มหรี่ตามองร่างเล็กที่นั่งหน้าซีดอยู่บนเตียงนอน “ข้าจะเป็นใครในอดีต ไม่สำคัญเท่ากับว่าเวลานี้ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน” ช

  • โปรดอย่ารักนางร้าย   4 องค์ชายตัวประกัน

    เมื่อแสงแรกของวันสาดส่องเข้ามาภายในเรือนไข่มุกของนาง หลี่จื้อฉิงที่นอนในถังน้ำตลอดทั้งคืนจึงลืมตาตื่นขึ้น ร่างเล็กลุกขึ้นจากถังน้ำ บาดแผลที่อยู่บริเวณเอวดูท่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ศีรษะรู้สึกปวดและวิงเวียนจนแทบเดินไม่ไหวเสียงน้ำทำให้ไช่เสิ่งเจี๋ยที่นอนคุดคู้อยู่ไม่ห่างตื่นนอนพร้อมกับนาง ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้“ตัวเจ้าเหม็นมาก” นางยังคงพูดถึงกลิ่นตัวเหม็น ๆ ของเขาไม่หยุด“ขออภัยนายหญิง ที่ข้าน้อยมีกลิ่นเช่นนี้” ท่าทีของเขาเปลี่ยนราวกับพลิกฝ่ามือหญิงสาวลุกกลับไปที่เตียงนอนถอดเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มออก โดยไม่ได้สนใจว่า ไช่เสิ่งเจี๋ยจะอยู่หรือตาย ทำทุกอย่างราวกับเขาเป็นอากาศธาตุ เรือนร่างขาวเนียน สัดส่วนสวยงามราวกับรูปสลัก ผู้ที่อายดันกลายเป็นไช่เสิ่งเจี๋ยที่ต้องเบือนหน้าหนีเสื้อผ้าชุ่มน้ำถูกนางยัดไปที่ใต้เตียงอย่างมิดชิด เมื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กสั่นกระดิ่งอยู่สองสามครั้งผ่านไปไม่นานนางกำนัลประจำเรือนไข่มุกก็กระวีกระวาดเข้ามาภายในห้อง“ท่านหญิงตื่นบรรทมแล้ว” พวกนางไม่ได้ถามว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่กลับทำจมูกฟุดฟิดราวกับเหม็นอะไรบางอย่างผู้เป็นนายของเรือนรู้ดีว่าพวกนาง

DMCA.com Protection Status