Share

บทที่ 6

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“โรงพยาบาลโทรมา พ่อของฉันเขา..ฮึก.ฮือ..”

หญิงสาวร้องไห้ปานจะขาดใจ พยายามก้าวเท้าออกไปทันที "ไม่ได้การ ตอนนี้ฉันต้องไปโรงพยาบาล"

เย่ซิวตามมาทันในที่สุด "ให้ฉันไปกับเธอเอง"

หญิงสาวไม่อาจประคองสติได้ดังเดิม เธอต้องการไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เย่ซิวช่วยเธอปิดประตูร้านทั้งหมด

จากนั้น แท็กซี่คันหนึ่งก็เข้ามาจอดที่ข้างทาง

ทั้งสองคนรีบเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว เย่ซิวตะโกนบอกคนขับว่า "ไปโรงพยาบาล ด่วนเลยครับ!"

"ได้!"

คนขับเหยียบคันเร่งอย่างแรง จนรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวส่งเสียงร้องตกใจอย่างไม่ทันระวัง ร่างกายของเธอโน้มไปข้างหน้ากะทันหัน เกือบจะชนเข้ากับเบาะด้านหน้า

เย่ซิวเอื้อมมือไปคว้าเธออย่างรวดเร็ว

แต่การยื่นมือไปคว้าตัวเธอ กลับเป็นสร้างปัญหาขึ้นแทน

เย่ซิวรีบหยุดการกระทำดังกล่าวทันที "ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ"

หญิงสาวส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติเธอคงจะเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้จิตใจของเธอจดจ่อเพียงเรื่องของผู้เป็นพ่อเท่านั้น

ทันใดนั้น คนขับก็สบถขึ้น "ให้ตายเถอะ! ข้างหน้ารถติดเป็นบ้า ดูเหมือนจะมีอุบัติเหตุ"

"ฉันจะทำยังไงดี?" เธอกังวลมากเสียจนน้ำตาแทบเอ่อล้น

เมื่อเย่ซิวมองออกไปนอกรถ จึงเห็นว่ารถยังคงติดสะสมเป็นระยะทางยาว

ดูจากสถานการณ์แล้ว เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขได้ทัน ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง ในการแก้ปัญหาการจราจรดังกล่าวอีกด้วย

เย่ซิวหยิบเงินสิบหยวนส่งให้คนขับ "เราจะลงตรงนี้ครับ"

หลังจากพูดจบ เขาก็ดึงเธอลงจากรถ

"พี่ ตอนนี้เราควรทำยังไงดี? พ่อของฉันเขารอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว"

เธอกังวลจนน้ำตาไหลอาบแก้ม รู้สึกราวกับหัวใจถูกบดขยี้

จู่ ๆ เย่ซิวช้อนร่างเธอขึ้นแล้วพูดว่า "โรงพยาบาลอยู่ที่ไหน? ฉันจะพาเธอไปที่นั่นเอง"

หญิงสาวตกใจ "นี่…ทางไปโรงพยาบาลยังอีกไกล พี่รีบปล่อยฉันลงเถอะ"

"ไม่เป็นไร ฉันยังแข็งแรงอยู่ สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องไปช่วยพ่อเธอให้ได้"

เธอรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

เธอชี้บอกทางไปโรงพยาบาลให้เขา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงลมพัดหวีดหวิวในหูของเธอ

เย่ซิวออกแรงที่เท้าทั้งสองข้าง และความเร็วที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของเขานั้นเทียบได้กับความเร็วของกระทิงป่าที่ออกวิ่งอย่างบ้าคลั่ง!

เขาวิ่งไปตามช่องว่างระหว่างรถ

ผู้ขับขี่บนท้องถนนเหล่านั้นเห็นเงาวาบผ่าน และกระแสลมหมุนวนทำให้เอาผมของพวกเขาเสียทรงไป

"เมื่อกี้มันอะไรกัน?"

"ซุปเปอร์แมน?"

"โอ้พระเจ้า หยิบมือถือมาถ่ายรูปสิ!"

ความเร็วของเย่ซิวเร็วเกินไป ทำให้หญิงสาวต้องก้มศีรษะของเธอแนบลงแผ่นอกของเขาเพื่อที่จะรู้สึกดีขึ้น

เมื่อได้ยินการเต้นของหัวใจที่มั่นคงและทรงพลังของเย่ซิว เธอก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

เย่ซิววิ่งผ่านท้องถนนและตรอกซอกซอยซึ่งเดิมทีต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าครึ่งชั่วโมง แต่เขากลับมาถึงโรงพยาบาลได้ภายในสิบนาที

เขาวางหญิงสาวลง เธอรีบวิ่งไปที่หอผู้ป่วยทันที

ภายในหอผู้ป่วย มีชายวัยกลางคนนอนอ่อนแรงอยู่ในนั่น

เขามีผิวหนังหมองคล้ำและใบหน้าตอบ กลิ่นเหม็นคละคลุ้งลอยออกมาจากร่างกาย

นี้คือสภาวะใกล้ตาย

หมอหลายคนยืนอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยและส่ายหน้าเบา ๆ

"เขาไตวาย ช่วยไม่ได้แล้ว"

"น่าเสียดาย ถ้าเราสามารถทำการปลูกถ่ายไตได้เมื่อเดือนที่แล้ว เขาก็อาจจะรอดก็ได้"

ในบรรดาหมอเหล่านี้ มีหมอคนหนึ่งที่ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ

นั่นคือสาวสวยที่ดูอายุประมาณสามสิบปี

ใบหน้าของเธออ่อนเยาว์ ประกอบกับการแต่งหน้าบาง ๆ

มู่ชิงมีจมูกโด่งได้รูป และมีริมฝีปากเล็กราวกับลูกเชอร์รี่

แม้เธอจะสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ แต่ก็สามารถมองเห็นความเย่อหยิ่งที่อยู่ภายในได้ลาง ๆ

หมอผู้ชายหลายคนจ้องมองไปที่เธอเป็นครั้งคราว ด้วยความปรารถนาที่มีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่จะเข้าใจ

"พ่อ!"

หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไป เมื่อเห็นชายบนเตียงพยาบาล น้ำตาก็ไหลทันที

"คุณหมอคะ ตอนนี้พ่อเป็นยังไงบ้าง?"

หมอคนสวยถอนหายใจ "เตรียมจัดพิธีศพให้เขาเถอะ"

ดวงตาของหญิงสาวมืดลง เธอเกือบจะเป็นลมล้มพับไป

เธอส่ายหน้าอย่างแรง "ไม่ได้นะ พ่อของฉันยังอายุไม่มากเท่าไหร่เลย เขาจะตายได้ยังไง? ได้โปรดช่วยเขาด้วยนะคะ"

หมอคนสวยถอนหายใจ "เราก็อยากช่วย แต่ไม่มีไตที่เข้ากับเขาได้เลย และไตก็มีราคาอย่างน้อยห้าแสนหยวนเข้าไปแล้ว..."

เธอตระหนักดีว่าสถานะทางการเงินของครอบครัวหญิงสาวคนนี้ไม่ค่อยดีนัก

แม้จะมีไต แต่ก็เกรงว่าจะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

ใบหน้าของหญิงสาวซีดมากจนน่ากลัว เธอรู้สึกราวกับฟ้ากำลังจะถล่ม

เธอสูญเสียแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อยและเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูจากพ่อ

โลกทั้งใบกลายเป็นสีดำต่อหน้าต่อตาเธอ

เย่ซิวเดินเข้าไปในหอผู้ป่วยด้วยเช่นกัน

เมื่อมองไปที่ชายบนเตียงพยาบาล เขาก็เดินเข้าไปใกล้และตรวจชีพจรของเขาทันที

จากนั้นเขาก็พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกคนในหอผู้ป่วยตกใจ

"ไม่ต้องห่วง ฉันช่วยพ่อเธอได้"

หญิงสาวเบิกตากว้าง "พี่ นี้พี่พูดจริงเหรอ?"

ก่อนที่เย่ซิวจะทันได้ตอบ หมอชายคนหนึ่งก็แสดงท่าทีโกรธเกรี้ยว "คุณเป็นใคร? อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระที่นี่นะ!"

หมอชายอีกคนกล่าวเสริม "เขาไตวายขั้นรุนแรงแล้ว และเป็นที่ไตทั้งสองข้างด้วย ไม่มีทางที่จะช่วยชีวิตเขาได้เลย"

"คุณอยากใช้วิธีนี้หลอกผู้หญิงใช่ไหม? นั่นน่ารังเกียจมาก!"

หมอคนสวยก็ขมวดคิ้ว ความประทับใจแรกของเธอที่มีต่อเย่ซิวนั่นแย่มาก

เมื่อเผชิญกับคำถาม เย่ซิวจึงพูดอย่างใจเย็น "ไตของเขาล้มเหลวทั้งสองข้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางรอดเลย"

คุณหมอคนสวยยิ่งรังเกียจเย่ซิวมากกว่าเก่า "อย่างนั้นก็บอกฉันมาสิว่าคุณจะช่วยเขายังไง?"

แม้แต่อาจารย์หมอของเธอที่เคยศึกษาด้วยในต่างประเทศก็ยังไม่กล้ารับปากว่ารักษาเขาได้

เธอไม่เชื่อหรอก เด็กหนุ่มอย่างเขาจะสามารถช่วยชีวิตคนไข้ของเธอได้

หากเธอเชื่อก็แปลว่า ทักษะทางการแพทย์ทั้งหมดที่เธอได้เรียนรู้มาตลอดหลายปีนั้นเป็นเพียงเรื่องตลอดไม่ใช่หรือ?

สายตาของเย่ซิวจ้องมองไปที่หญิงสาว สิ่งสำคัญคือต้องทำให้เธอเชื่อใจเขา เขาถึงจะสามารถช่วยเธอได้

"อวัยวะภายในทั้งห้าของร่างกายมนุษย์สอดคล้องกับธาตุทั้งห้า ตับเป็นตัวแทนของธาตุไม้ หัวใจคือธาตุไฟ ม้ามคือธาตุดิน ปอดคือทองคำ และไตคือธาตุน้ำ"

"และในบรรดาธาตุทั้งห้า ทองคือแหล่งกำเนิดน้ำ"

"ดังนั้นเพียงแค่ใช้การฝังเข็มเพื่อกระตุ้นความแข็งแรงของปอดและบำรุงไต"

"ธาตุทั้งห้าก็จะถูกกระตุ้นเพื่อสร้างวงจรหมุนเวียน และสามารถนำไปสู่การรักษาโรค"

เย่ซิวอธิบายอย่างง่าย ๆ แต่มีหมอไม่กี่คนจากทั้งหมดในอาณาจักรหลงเถิงที่สามารถกระตุ้นอวัยวะภายในทั้งห้าได้ด้วยการฝังเข็ม

ดวงตาของหญิงสาวเป็นประกายเมื่อได้ยินเช่นนั้น "จริงเหรอ? งั้นพี่ช่วยพ่อฉันด้วยนะ"

หมอคนสวยหัวเราะเย้ยหยัน "ไร้สาระ! อะไรคือปอดเป็นทอง ไตเป็นน้ำ ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ทางวิทยศาสตร์เลยสักนิด น้องสาวอย่าได้หลงกลเขา เขาดูไม่ใช่คนดีตั้งแต่แรกแล้ว "

หมอผู้ชายอีกหลายคนเมื่อเห็นหญิงสาวใสซื่อบริสุทธิ์อย่างเธอ ก็ยิ่งไม่ต้องการให้เธอถูกหลอกและพากันเอ่ยปากพูด

"ใช่แล้ว น้องสาวเธอลองมองเด็กหนุ่มคนนี้ให้ดีสิ เขาอายุเท่าไหร่ เขาจะมีความสามารถในการรักษาคนได้ยังไง?"

"ต้องเชื่อหมอสิ เรื่องรักษาคนต้องไว้ใจเรา"

"ถูกต้อง น้องสาว เธอต้องดูให้ดี ๆ เข้าไว้"

เพราะเหตุผล หญิงสาวจึงสับสนอีกครั้ง

เธอพบว่าสิ่งที่หมอพูดดูคล้ายจะถูกต้อง

เย่ซิวดูเด็กเกินไป เขาดูไม่ต่างไปจากนักเรียนมัธยมปลายด้วยซ้ำ

ในด้านทักษะทางการแพทย์ ตามสามัญสำนึกของคนทั่วไป ยิ่งอายุมากทักษะทางการแพทย์ก็จะยิ่งมากตามไปด้วย

เย่ซิวมองไปที่หญิงสาว "อย่างไรเสีย หมอก็บอกนี่เองว่าไม่สามารถช่วยพ่อของเธอ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ให้ฉันลองดูล่ะ?"

หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ถ้าอย่างนั้น... พี่ ก็ลองดูสิ"

ตอนนี้เธอไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว

โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเจียงเฉิงแล้ว

พวกเขาทุกคนบอกว่าไม่สามารถช่วยพ่อของเธอได้ และเธอเองก็หมดหวังแล้วเช่นกัน

เย่ซิวพยักหน้าและหยิบเข็มเงินที่เขามีออกมา

จู่ ๆ หมอคนสวยก็ก้าวไปข้างหน้าและตะคอกใส่เย่ซิวเสียงดัง "หยุดนะ!"

Related chapters

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 7

    "หยุดนะ! คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเรื่องบ้า ๆ กับคนไข้ของฉัน!" หมอคนสวยโกรธมากจนหน้าขึ้นสีแดง แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจหมอชายหลายคนเมื่อเห็นการกระทำของเย่ซิว ก็พากันมาล้อมตัวเขาเอาไว้เย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจคนเหล่านี้และมองไปที่หญิงสาว "นี่คือพ่อของเธอ ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะตัดสินใจให้ช่วยหรือไม่"ในการรักษาผู้ป่วย ขั้นตอนแรกคือต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัวเสียก่อน"ฉัน... พี่ได้โปรดช่วยพ่อด้วยเถอะ อย่างไรเสียผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่มีทางแย่ไปกว่านี้แล้ว หมออย่าทำให้พี่เขาต้องลำบากใจเลย"หมอคนสวยพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า "น้องสาว อย่าไปหลงกลเขานะ เด็กคนนี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนดี!""หุบปาก!"ทันใดนั้น เย่ซิวก็ตะโกนขึ้นเสียงดังเสียงของเขาดังราวกับเสือคำรามอย่างดุร้ายทำให้ทุกคนในหอผู้ป่วยต่างตกใจ แววตาของพวกเขาก็เผยให้เห็นความกลัว มีเพียงผู้ป่วยที่ไร้สติและหญิงสาว เย่ซิวตะคอกอย่างเย็นชา "แม้แต่คนในครอบครัวเขาก็เห็นด้วย พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนี้?"หลังจากพูดแล้ว เย่ซิวจึงเพิกเฉยต่อคนที่หว่าดกลัว และเขาเริ่มดำเนินการทันทีขั้นแรก เขาฆ่าเชื้อเข็ม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 8

    อาจเป็นเพราะไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน หลิ่วเมิ่งอิ๋นจึงลืมเก็บเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเอาไว้เย่ซิวถึงกับคอแห้ง เขาละสายตาไปมองอย่างอื่นอย่างทำตัวไม่ถูกแต่ในขณะเดียวกันเขากลับลุกขึ้นนั่งสมาธิและเริ่มฝึกพระสูตรราชาแห่งยาเมื่อหกเดือนที่แล้วเขาฝึกฝนจนถึงจุดสูงสุดของศิลปะการต่อสู้ระดับเก้าและเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ที่หาได้ยากในรอบพันปี ตามที่อาจารย์ของเขาเคยกล่าวไว้ ระดับที่สูงกว่าจอมยุทธ์ระดับเก้า ถือเป็นคนละโลกกันอย่างสิ้นเชิงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาไม่ว่าเย่ซิวจะฝึกฝนมากเพียงใด เขาก็ไม่สามารถทะลวงผ่านไปอีกขั้้นได้……หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็กลับมาและเริ่มทำอาหารไม่นานนัก กลิ่นหอมก็โชยออกมาเย่ซิวหยุดฝึกฝนและเดินไปที่ห้องครัวจึงได้เห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นทำอาหารอย่างจริงจังภาพตรงหน้าให้ความรู้สึกที่อบอุ่นมากหลิ่วเมิ่งอิ๋นเป็นหญิงสาวที่มีความเป็นกุลสตรีและน่ารักอย่างไม่ต้องสงสัยปกติเด็กผู้หญิงทั่วไปในวัยนี้ยังเรียนหนังสืออยู่ แต่เธอกลับต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งของชีวิต"พี่เย่ ทำไมพี่มาที่นี่ได้ล่ะ ห้องครัวมีเต็มควันเต็มไปหมด พี่ไปรอข้างนอกเถอะ"เย่ซิวส่ายหน้า

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 9

    ที่หน้าลานตระกูลจ้าว วันนี้คึกคักมากเป็นพิเศษ เหล่าคนมีอำนาจในเมืองเจียงเฉิงเดินทางมาถึงแล้ว รถยนต์หรูหราหลายคันจอดอยู่ด้านนอกวันนี้เป็นวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของจ้าวจางแห่งตระกูลจ้าว จ้าวจางเป็นที่รู้จักกันในนามบุคคลในตำนาน เขาเป็นจอมยุทธ์ระดับสามและมีธุรกิจภายใต้ชื่อของเขามากมายนอกจากบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ปแล้ว เขายังดำเนินกิจการสถานบันเทิงมากกว่าสิบแห่ง และมีเครือข่ายอิทธิพลกว้างขวางในเจียงเฉิง ตระกูลจ้าวถือว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ"บริษัทต้าเหิงเรียลเอสเตทมอบขาวหยกคู่หนึ่ง""เฉิงซิ่นแอนทีคมอบสร้อยประคำ" "โรงรับจำนำตระกูลเฉินมอบหยกหรูอี้คู่หนึ่ง"ที่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลจ้าว พ่อบ้านกำลังรายงานของขวัญจากแต่ละตระกูลที่ส่งมาด้วยเสียงดังอย่างต่อเนื่องของขวัญชิ้นใดชิ้นหนึ่งเหล่านี้มีมูลค่าถึงหกหลักเลยทีเดียวเย่ซิวมาถึงแล้วเขาถือถุงพลาสติกสีดำอยู่ในมือด้วยสีหน้าเย็นชาทันทีที่เขาปรากฏตัว เขาก็ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างมากทันทีในโอกาสสำคัญเช่นนี้ ทุกคนล้วนแต่งตัวเต็มยศเพื่อเข้าร่วมงาน มีเพียงเขาเท่านั้นที่สวมชุดกีฬา นี่มันจงใจมองข้ามระเบียบกันชัด ๆ เขาไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 10

    ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยเจี๋ยก็เดินเข้ามาจากด้านนอกทันใดนั้น แขกเหรื่อภายในงานต่างก็ลุกขึ้นยืนรัศมีอันทรงพลังแผ่ออกมาจากร่างกายของเซี่ยเจี๋ย ทำให้บอดี้การ์ดเหล่านั้นไม่กล้าเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย"คุณเซี่ย!" จ้าวจางรู้สึกประหลาดใจและรีบเดินเข้ามาหา "คุณมาได้ยังไง?"ใบหน้าของจ้าวเฉียนปรากฏรอยยิ้มกว้าง "คุณเซี่ยมาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับพ่อของผมในวันเกิดเขาสินะ?"แขกเหรื่อหลายคนมองจ้าวจางด้วยความอิจฉาเมื่อได้ยินเรื่องนี้การที่เซี่ยเจี๋ยมาร่วมแสดงความยินดีในวันเกิดด้วยตัวเองเช่นนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!หากเปรียบตระกูลจ้าวเป็นงู เซี่ยเจี๋ยก็คือมังกรใหญ่การบดขยี้ตระกูลจ้าวให้สิ้นซากเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เพียงแค่ดีดนิ้วทุกอย่างก็ราบเป็นหน้ากองได้ทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับจ้าวจางที่ยื่นมือออกมา เซี่ยเจี๋ยมีสีหน้าเย็นชาและไม่ได้แสดงทีท่าใดใด "มีค่าพอจะจับมือกับฉันด้วยเหรอ?”รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวจางแข็งค้างไปแขกเหรื่อหลายคนก็ตกตะลึงเช่นกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?เขาไม่สนใจใบหน้าบอกบุญไม่รับของจ้าวจาง เซี่ยเจี๋ยเดินผ่านเขาและโค้งคำนับต่อหน้าเย่ซิวด้วยความน้อมน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 11

    เย่ซิวสกัดหมัดได้อย่างง่ายดายพลางพูดอย่างใจเย็น “ฉันแค่มาที่นี่เพื่อตามหาคน ไม่ได้อยากจะรังแกนาย”นักศึกษาหลายคนในบริเวณใกล้เคียงดูประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเย่ซิวสกัดหมัดของชายหนุ่มร่างกำยำได้อย่างง่ายดายเพียงใด“เพื่อนนักศึกษาคนนี้แข็งแกร่งมาก เขาสกัดกั้นการโจมตีของจางเทาได้อย่างง่ายดาย”“ช่างบังเอิญจริง ๆ จางเทาเป็นนักเทควันโดสายดำระดับแปด เขามีพละกำลังมาก ฉันเคยเห็นเขาเอาชนะผู้ใหญ่ห้าหกคนด้วยตัวเขาเองเลยนะ”“ฉันก็ว่าอย่างนั้น”จางเทาทั้งตกใจทั้งโกรธ เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถหลุดออกจากฝ่ามือของเย่ซิวได้ ใบหน้าของเขาแดงก่ำเนื่องจากใช้แรงมากเกินไป เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว ยังไม่ปล่อยฉันอีก หาเรื่องตายเรอะ?!”เย่ซิวปล่อยมือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “เพื่อนนักศึกษา ฉันแค่อยากจะเข้าไปตามหาคน นายช่วยหลีกทางหน่อยได้ไหม?”เขาไม่เคยไปเรียนที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงเห็นใจเพื่อนนักศึกษาเป็นพิเศษ ก็ไม่อยากทำร้ายพวกเขาเว้นเสียแต่จะจำเป็นจริง ๆแต่ในสายตาของจางเทา ท่าทางของเย่ซิวถือว่าเป็นการทำให้เขาอับอายเขาคำรามด้วยสีหน้าดุร้าย “พวกแกมัวยืนทำอะไร? มาช่วยกันจัดการมันสิ!”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 12

    เย่ซิวเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์โดยไม่สนใจคำเตือนของหวังเฟย การกระทำนี้ทำให้ความเย็นชาในดวงตาของหวังเฟยยิ่งทวีขึ้นไปอีกแต่เขาก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาเสียเดี๋ยวนั้นเขามักจะแสดงรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามต่อโลกภายนอกซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญมากสำหรับเขาในการจีบสาวโดยผิวเผินแล้ว เขาคงไม่สามารถทำอะไรกับเย่ซิวได้ แต่เขาแอบคิดไว้แล้วว่าจะจัดการกับเย่ซิวอย่างไรเพื่อนนักศึกษาชายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาด้วยเช่นกัน ทำให้หวังเฟยรู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้นมีคนมากมายหลั่งไหลเข้ามา จนไม่มีทางหยุดพวกเขาได้แล้วในเวลานี้ เย่ซิวเดินไปลู่เสวี่ยเอ๋อร์รูปร่างของเธอช่างสูงจริง ๆ โดยเฉพาะเรียวขางามของเธอที่เรียวและตรง เรียกได้ว่าตั้งแต่คอลงมา ขาของเธอถึงเป็นจุดนำสายตาที่สุดเธอไม่จำเป็นต้องทำอะไร ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ก็จะเป็นจุดสนใจของฝูงชนได้อย่างแท้จริง“สวัดดี คุณคือลู่เสวี่ยเอ๋อร์ใช่รึเปล่า?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอหันกลับมาเห็นเย่ซิวที่มีหน้าตาสดใส ประกอบกับดวงตาที่ใสสะอาดยืนอยู่ตรงหน้าเธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างสุภาพ “ใช่ ฉันเอง นายมีธุระอะไรเหรอ?”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 13

    หวังเฟยกดโทรศัพท์ด้วยมือทั้งสองข้างตอบกลับข้อความของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว: ไม่มีปัญหา ฉันจะโอนเงินให้เธอเดี๋ยวนี้เลยณ หอพักที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์พักอยู่ หลี่เยี่ยนอ่านข้อความที่หวังเฟยส่งมาทางโทรศัพท์มุมปากของเธอมีรอยยิ้มแปลก ๆ เธอส่งเลขบัญชีธนาคารของเธอไป ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินสองล้านโอนมาให้ทันทีที่ลบข้อความที่แจ้งว่าบัญชีของเธอได้รับโอนเงินเข้ามา เธอที่นั่งอยู่บนเตียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เสวี่ยเอ๋อร์ คืนนี้เราไปกินหม้อไฟหม่าล่ากันเถอะ ตกลงไหม?”“คืนนี้เหรอ? แต่ฉันอยากอ่านหนังสืออยู่ที่หอมากกว่า”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์มีนิสัยรักสงบ ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนนักศึกษาคนอื่นมีความรักกันแต่เธอเป็นคนเดียวที่เอาแต่สนใจเรื่องเรียน“โอ๊ย หนังสืออ่านตอนไหนก็ได้ อีกอย่าง เธอจะอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้สิ ไม่งั้นก็พลอยจะทำให้คนอื่นเขาดูโง่หมด ตอนกลางคืนไม่ต้องอ่านหรอก กินเสร็จก็ค่อยรีบกลับมา จะได้ไม่เสียเวลามาก” “แต่ว่า…” ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลังเล แต่หลี่เยี่ยนกลับไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธ“คุณน้องคะ เห็นแก่ที่ฉันช่วยเธอกันพวกผู้ชายมาให้ตั้งนาน แล้ววัน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 14

    ฟุ่บ! ฟุ่บ!จางเทาและคนอื่น ๆ คุกเข่าลงตรงนั้นและรีบคำนับอย่างรวดเร็วแม้แต่คนที่ดุร้ายอย่างหมาป่าตาเดียวยังถูกเย่ซิวเล่นเสียน่วมแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย“พี่ใหญ่ พวกเราผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ”“อย่าฆ่าผมเลย ผมยังมีพ่อแม่มีพี่น้องต้องดูแล คิดเสียว่าฉันเป็นลูหมาตัวหนึ่ง แล้วปล่อยผมไปเถอะ”“พี่ใหญ่ ถ้าพี่ไว้ชีวิตผม ผมจะแนะนำน้องสาวให้รู้จัก ผมยกแฟนตัวเองให้พี่เลยก็ยังได้”……ดวงตาของเย่ซิวเย็นชา คนเหล่านี้ไม่สมควรตาย แต่ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ง่าย ๆ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบยาหนึ่งเม็ดออกมาจากกระเป๋าแล้วบดมันจากนั้นเขาก็เปิดปากคนเหล่านี้อย่างไร้ความปราณี พลางยัดยาเข้าไป และบังคับให้พวกเขากลืนจางเทาและคนอื่น ๆ รู้สึกหวาดกลัว“ไม่ต้องกังวล ยาตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงมากนัก พวกนายแค่ต้องกินยาแก้พิษปีละครั้ง ไม่อย่างนั้นเลือดจะออกจากทวารทั้งเจ็ดจนตาย”“ถ้าพวกแกหยุดทำความชั่วภายในหนึ่งปี ฉันจะให้ยาถอนพิษ”“แน่นอนว่าพวกแกจะไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ได้ แต่พวกเขาก็จะบอกพวกแกอย่างแน่นอนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ”จางเทาและคนอื่น ๆ ต่างก็ดูซีดเซียวหลังจากที่เห็นว่าเย่ซิวน่ากลัวเพียงใด

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 574

    ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 573

    ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 572

    ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 571

    “เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 570

    เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 569

    “นี่มันไม่เหมาะสมนะ ไอ้คนผีทะเล ปล่อยฉัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะ!”ถังเขอเข่อพยายามดิ้นสุดชีวิต ปลายผมมัดแกละทั้งสองข้างสะบัดไปมาอย่างแรงโครม!เย่ซิววางเธอลงบนโซฟาเบา ๆ ด้วยสีหน้าเอือมระอา “เงียบได้แล้ว คุณนี่เล่นใหญ่จริง ๆ ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณสักหน่อย”ถังเขอเข่อขดตัวพลางมองเย่ซิวด้วยสายตาหวาดระแวง “ยังจะบอกว่าไม่คิดอะไรอีกเหรอ สายตาคุณมันฟ้องถึงความหื่นกระหายลึก ๆ ในใจคุณหมดแล้วคุณอยากได้ฉันล่ะสิ ฮือฮือฮือ คุณปู่ช่วยหนูด้วย”เย่ซิวได้แต่ยกมือกุมขมับพลางถอนหายใจ ก่อนหยิบขวดยาโยนให้เธอ “คุณรู้จักจอมยุทธ์ใช่ไหม?”ถังเขอเข่อพยักหน้า “รู้สิ”“โอสถนี่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย คุณกินมันตอนนี้เลย เดี๋ยวผมจะช่วยคุณบำเพ็ญและซึมซับยาให้ไวขึ้น ถ้าคุณไม่มีพลังป้องกันตัวเลย การถือสิทธิบัตรสำคัญในมือแบบนี้มันอันตรายเกินไป”ถังเขอเข่อรับขวดยามาด้วยความสงสัย “แค่กินยาไม่กี่เม็ดจะทำให้ฉันกลายเป็นจอมยุทธ์ยอดฝีมือได้เลยเหรอ?”“แน่นอนว่าไม่ได้” เย่ซิวตอบเรียบ ๆ “แต่จะทำให้คุณหุ่นดีขึ้น ผิวขาวขึ้น เส้นผมก็เงางามขึ้นด้วย”เย่ซิวรู้เรื่องนี้มาได้สักพักแล้วถ้าอยากให้ผู้หญิงหันมาสน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 568

    ถังเขอเข่อมองเย่ซิวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “เมื่อกี้นี้ฉันรบกวนคุณหรือเปล่านะ”เย่ซิวตอบกลับ “ถูกต้อง แล้วคุณจะชดเชยยังไงดีล่ะ?”ถังเขอเข่อตกใจก่อนจะรีบถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความระวัง “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นนะ”เย่ซิวหัวเราะลั่น “ไม่ล้อคุณแล้ว รีบพาผมไปดูผลงานเถอะ”หากหุ่นยนต์นี้ทำสำเร็จ เขาก็จะสามารถเริ่มต้นแผนการที่ยิ่งใหญ่ของเขาได้ทันทีถังเขอเข่อพาเย่ซิวเข้าไปในโรงงาน มุ่งหน้าไปยังส่วนที่ใช้สำหรับผลิตแบตเตอรี่รุ่นใหม่เย่ซิวเห็นแบตเตอรี่สีดำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจำนวนมาก โดยที่ปลายด้านหนึ่งมีสายเชื่อมต่ออยู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ถังเขอเข่ออธิบาย “อย่าดูถูกเจ้าแบตเตอรี่นี่เพราะมันขนาดเล็กเชียว ถ้าเอาไปติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้า มันจะสามารถวิ่งได้ไกลถึงห้าร้อยกิโลเมตรเลยล่ะ”เย่ซิวหรี่ตาอย่างไม่เชื่อแบตเตอรี่อันแค่นี้จะทำให้รถวิ่งไกลขนาดนั้นได้จริงเหรอ?เมื่อเห็นสายตาของเย่ซิว ถังเขอเข่อก็รู้ว่าเขายังไม่เชื่อ เธอจึงเอ่ย “ฉันให้ติดตั้งแบตเตอรี่ในหุ่นยนต์แล้ว ลองดูไหมล่ะ?”เย่ซิวพยักหน้าถังเขอเข่อปีนขึ้นไปบนหุ่นยนต์และเริ่มใช้งานอย่างคล่องแคล่วครั้งนี้ไม่มี

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 567

    “ฉันก็อยากบำเพ็ญตนกับนายบ้าง” หลิวอวิ้นเอ่ยพร้อมกับส่งสายตายั่วยวน“อืม…” เย่ซิวแสร้งทำเป็นลังเล “ต้องดูว่าคุณจะทำให้ผมประทับใจได้ยังไง”หลิวอวิ้นบิดเอวอย่างเซ็กซี่ พลางเดินเข้าหาเย่ซิวทีละก้าวเอวของเธอไม่ได้บางเฉียบ ดูมีเนื้อมีหนัง แต่ไม่อ้วนเกินไปและสมส่วนพอดี ผู้หญิงในวัยนี้แหละที่มีเสน่ห์ที่สุดเธอเริ่มเต้นโพลแดนซ์โดยไม่มีเสาอยู่ตรงหน้าเย่ซิวใครที่รู้จักโพลแดนซ์ก็คงเข้าใจดีว่ามันเป็นการเต้นแบบไหนเย่ซิวไม่คิดเลยว่าหลิวอวิ้นจะยอมไปเรียนเต้นแบบนี้เพื่อทำให้เขาประทับใจร่างกายของเธอยืดหยุ่นและนุ่มนวล ราวกับงูน้ำที่เลื้อยอย่างไร้ข้อต่อหลิวอวิ้นเลื้อยมาถึงตัวเขา ก่อนกระซิบข้างหูเบา ๆ “ฉันมีความคิดที่บ้าบิ่นนิดหน่อย นายกล้าลองไหมล่ะ?”เย่ซิวเลิกคิ้ว “ไหนว่ามาสิ”หลิวอวิ้นยิ้มขำ “ให้ฉันบำเพ็ญตนกับนายพร้อมกับเสวี่ยเอ๋อร์ไงล่ะ”“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” เย่ซิวมองเธออย่างไม่อยากเชื่อ “ถ้าเธอรู้เข้า ความสัมพันธ์ของพวกคุณได้พังแน่”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยอมให้เขาบำเพ็ญตนกับสาว ๆ คนอื่นได้ แต่คงไม่มีทางยอมบำเพ็ญตนพร้อมกับหลิวอวิ้นแน่นอนแต่สิ่งที่เธอพูดก็ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อเห็นใบ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 566

    เมื่อควบคุมพิษในตัวได้แล้ว ก็โทรหาพี่สาวแล้วบอกเธอว่าคิดถึง ตอนนี้พี่สาวเธอเป็นหนึ่งในคนสำคัญของเย่ซิวแล้วขอแค่ลดทิฐิลงสักนิดและกลับไปอย่างว่าง่าย จากนั้นก็ค่อยหาโอกาสเข้าใกล้เย่ซิว แล้วเรื่องวางยาพิษจะกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ”คำพูดนี้ทำให้เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวั่นไหว“ตกลง ฉันจะทำ!”คิดเพียงไม่นานเธอก็ตอบตกลงในทันที ในช่วงเวลาที่อยู่กับสำนักเบญจพิษ ความแค้นของเธอที่มีต่อเย่ซิวก็เริ่มสะสมขึ้นเรื่อย ๆตอนนี้ก็มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว เธอไม่คิดจะปล่อยให้หลุดมือไปแน่นอน“ดี งั้นฉันขอให้เธอประสบความสำเร็จเร็ว ๆ ก็แล้วกัน!”สายลมพัดผ่านอีกครั้ง คุณลี่ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเซี่ยชิงชิงกำยาพิษในมือแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาต “เย่ซิว เราจะได้เห็นดีกัน!”……คืนนี้สาว ๆ หลายคนกลับมาที่บ้านกันหมดส่วนเย่ซิวก็กลับมาถึงบ้านเร็วกว่าปกติหนึ่งชั่วโมง พอเห็นเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น สาว ๆ ต่างทิ้งท่าทีสำรวมและมาล้อมรอบเขากลิ่นหอมจากร่างกายของพวกเธอลอยมาแตะจมูกทันที กระตุ้นให้เลือดในกายเย่ซิวสูบฉีดเร็วขึ้นระหว่างที่กลับบ้าน เย่ซิวได้แวะไปสวนสมุนไพรเพื่อเก็บเครื่องยาสมุนไพรจำนวนมากมากลั่นเ

DMCA.com Protection Status