Share

บทที่ 5

Penulis: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"

ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทาน

เย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"

หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"

เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"

หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"

หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย

“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”

ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ

เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอาย

เธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาว

ผมถูกถักเป็นเปียสองข้าง ทั้งร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเยาว์วัย

หญิงวัยกลางคนเยาะเย้ยและดูถูก "แหม ยัยเด็กคนนี้นี่เอง ขนาดขอทานก็ยังไม่เว้น ถ้าพ่อเธอที่อยู่โรงพยาบาลรู้เรื่องนี้เข้า ไม่รู้ว่าจะโกรธจนตายไปเลยรึเปล่า?”

ร้านทั้งสองตั้งอยู่ติดกัน แต่ธุรกิจของพวกเธอนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ร้านที่เปิดโดยหญิงสาว มักจะมีคนมาซื้อหลังเลิกงานหรือเลิกเรียนอยู่เสมอ

แต่ฝั่งเธอกลับเงียบเหงา

เมื่อวันเวลาผ่านไป หญิงวัยกลางคนย่อมเกิดความริษยาและไม่พอใจ

หญิงสาวหน้าแดงก่ำ “คุณป้า ...อย่าพูดอะไร… หยาบคายแบบนี้ได้ไหมคะ?”

ทันใดนั้นเสียงของหญิงวัยกลางคนก็แหลมปรี๊ด "ตาแกบอดหรือไงหา? แกสิป้า ดูไม่ออกเหรอว่าฉันอายุแค่สามสิบปีเท่านั้น!"

“ผมคิดว่าคุณอย่างน้อยน่าจะอายุสักห้าสิบแล้วเสียอีกนะ ป้า” เย่ซิวแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาแล้วเดินไปที่ร้านของหญิงสาว

หญิงวัยกลางคนโกรธมาก เธอพูดอย่างอาฆาตมาดร้าย "หญิงร้ายชายเลว!"

หลังจากถ่มน้ำลายลงบนพื้น เธอก็หันหลังกลับเข้าไปในร้านไป

ประกายแสงเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาของเย่ซิว เขาลอบดีดนิ้วออกไป

พลังงานสายหนึ่งจึงถูกยิงออกไปและแทรกซึมเข้าไปในจุดชีพจรจุดหนึ่งของหญิงวัยกลางคน

แต่เธอไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย

เขาเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้าน

ร้านนี้ไม่ใหญ่นัก แต่ประเภทเสื้อผ้ากลับมีครบครัน

“พี่ชาย คุณอยากได้แบบไหนเหรอคะ?”

หญิงสาวอ่อนโยนมาก ดวงตาของเธอกระจ่างใสมากเช่นกัน

เธอไม่ได้รู้สึกดูถูกหรือรังเกียจที่เย่ซิวสวมเสื้อผ้าซอมซ่อเลย

เย่ซิวมองไปรอบ ๆ

สำหรับเรื่องเสื้อผ้า เขาไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ตราบใดที่สวมใส่สบายและเหมาะกับตัว แค่นั้นก็พอแล้ว

เขาชี้ไปที่ราวแขวนเสื้อผ้าราวหนึ่ง "ชุดกีฬาสีขาวตัวนั้น และก็ชุดสีดำนั่น"

หญิงสาวพยักหน้า "พี่ชายสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรสินะ ถ้าอย่างนี้ก็ต้องใส่ไซซ์เอ็กซ์เอ็กซ์แอล รอสักครู่นะคะ..."

เย่ซิวถูกใจเสื้อผ้าสองชุดที่แขวนอยู่ด้านบน

เธอหยิบไม้สอยผ้ามา แต่ยังขาดความยาวไปอีกนิดเดียว จึงยกเก้าอี้มาปีน

แต่ไม่รู้ว่าตัวเองยืนไม่มั่นคง พริบตา ร่างเล็กก็เอนไปข้างหลัง

“กรี๊ด!!!”

หญิงสาวกรีดร้องออกมา โลกหมุนวน ความหวาดกลัวอย่างหนักหน่วงเข้าครอบงำหัวใจของเธอ

จบสิ้นแล้ว เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย

แต่เพียงชั่วครู่ต่อมา เธอก็ตกมาอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่น

เย่ซิวอุ้มหญิงสาวไว้ "เธอโอเคใช่ไหม?"

“อ๋า?!” หญิงสาวคิดว่าคราวนี้เธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะได้รับการช่วยเหลือจากเย่ซิว

บนตัวของเย่ซิวมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยส่งมา บวกกับพลังความเป็นชายที่แข็งแกร่ง

ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นระรัว เธอเขินอายมาก ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ ได้ยินเพียงเสียงหวานพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย "ขอบคุณค่ะพี่ชาย คุณปล่อยฉันลงได้ไหมคะ"

เย่ซิววางเธอลงเบา ๆ "ในอนาคตก็ระวังให้มากหน่อยนะครับ"

“อื้ม…” หญิงสาวก้มหน้างุด หน้าเธอแดงขึ้นกว่าเก่าอีก

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ชายแบบนี้

“ฉันหยิบเองแล้วกัน”

เย่ซิวหยิบไม้สอยผ้า ไปปลดเสื้อผ้าทั้งสองชุดลงมาด้วยตัวเอง

เด็กสาวชี้ไปทางซ้าย “ห้องลองเสื้ออยู่ตรงนั้นค่ะ”

เย่ซิวหยิบเสื้อผ้าและเดินตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

รูปร่างของเย่ซิวนั้นสูงโปร่ง ภายนอกอาจจะดูผ่ายผอม แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ไม่มีไขมันส่วนเกินสักนิด

ทุกตารางนิ้ว ทั้งเลือดและเนื้อของเขาล้วนเต็มไปด้วยพลังที่พร้อมจะระเบิดออกมา นับว่าสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

รูปร่างแบบนี้ของเขา หากผู้หญิงสวย ๆ เหล่านั้นได้เห็น พวกเธอจะต้องกรีดร้องออกมาทันที

เปลี่ยนไปสวมชุดกีฬาสีขาวแล้วยัดเสื้อผ้าเก่า ๆ ใส่ถุงผ้า

ลองขยับตัวเล็กน้อย ขนาดกำลังพอดีเลย

ต้องบอกว่าไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงชุดกีฬาธรรมดา ๆ แต่เมื่อมันถูกสวมอยู่บนร่างกายของเย่ซิว ก็ยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย

ใบหน้าของเขาเกลี้ยงเกลา ไว้ผมสั้น ดูทรงพลังไม่น้อย

หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย ภาพลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน

เย่ซิวพึงพอใจมาก เดินออกจากห้องลองเสื้อผ้า

ทันใดนั้นดวงตาของหญิงสาวเป็นประกาย "พี่ชาย คุณหล่อมากเลย!"

การบ่มเพาะพลังหลายปีทำให้เขามีหุ่นที่สมบูรณ์แบบมาก บวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกดีกับเขาได้อย่างง่ายดาย

ไม่รู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่ พวงแก้มที่เพิ่งหายขึ้นสีของเธอ จึงกลับมาเป็นเช่นเดิมอีกครั้ง

“มีรองเท้าไหม? ขอรองเท้าผ้าใบสีขาวให้ฉันคู่หนึ่งด้วย” เย่ซิวกล่าว

“โอ้ มีค่ะ” หญิงสาวตื่นจากภวังค์ รีบไปหารองเท้าผ้าใบสีขาวคู่หนึ่งให้เย่ซิว

เย่ซิวลองสวมมันดู และพบว่าขนาดมันพอดีและสวมสบายมาก ดีกว่ารองเท้าผ้าขาด ๆ ของเขาหลายขุม

“ทั้งหมดนี้ราคาเท่าไหร่?”

เด็กสาวคิดคำนวณ "เสื้อผ้าราคาชุดละสองร้อยหยวนค่ะ ส่วนรองเท้าหนึ่งร้อยห้าสิบหยวน...แต่ฉันขอรับจากพี่ชายแค่ห้าร้อยหยวนก็พอแล้ว"

“ไม่ได้หรอก ฉันจะให้เธอเสียเปรียบไม่ได้” เย่ซิวส่ายหน้า

ทันทีที่เขาเข้ามาในร้าย ก็พบว่าเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ มีอายุนานหลายปีแล้ว

นอกจากนี้มือเธอยังมีริ้วรอยมากมาย ไม่เนียนละเอียดเหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่ว ๆ ไป เห็นได้ชัดว่ามีชีวิตที่ยากลำบากเคี่ยวกรำ

ดูเหมือนสถานการณ์ของหญิงสาวจะไม่ได้ดีนัก

ตอนที่เธออยู่ที่หน้าประตู เหมือนกับจะได้ยินว่าพ่อของเธอป่วยเข้าโรงพยาบาลรึเปล่านะ?

แบบนี้ เย่ซิวยิ่งไม่อาจเอาเปรียบหญิงสาวตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ

แต่หญิงสาวกลับยืนกรานว่า "เมื่อครู่ พี่ชายช่วยฉันไว้ ดังนั้นฉันเลยขอให้ส่วนลดคุณก็แล้วกัน"

นี่เป็นเด็กสาวที่มีหลักการของตัวเองคนหนึ่ง ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอก็ไม่ยอมรับเงินจากเย่ซิวมากไปกว่านี้

“อืม…เอาแบบนี้แล้วกัน” เย่ซิวคิดวิธีที่จะประนีประนอม

“ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย ฉันให้เธอห้าร้อยห้าสิบหยวน ให้เธอเลี้ยงข้าวฉันดีไหม?”

หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า "เอาสิคะ ก็แค่อาหารง่าย ๆ มื้อเดียวเอง"

หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่เย่ซิวอย่างประหม่า กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ

หลายปีที่ผ่านมา มีชายหนุ่มหลายคนตามจีบเธอ

ในหมู่พวกเขา มีแม้กระทั่งเศรษฐีฐานะสูงส่งด้วย

แต่หญิงสาวก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเธอมองไปที่เย่ซิว มันกลับทำให้เธอรู้สึกแตกต่างออกไป

เย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ฉันเพิ่งลงมาจากภูเขา กินอะไรก็ได้ทั้งนั้น"

“ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี ดวงตาของเธอโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง

ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์รุ่นเก่าก็ดังขึ้น

หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาและกดรับ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ใบหน้าของเธอก็ถอดสี โทรศัพท์ร่วงลงพื้นพร้อม ๆ กับที่เธอหมดเรี่ยวแรงและทรุดตัวตามลงไป

เย่ซิวมือไวตาไว คว้าหญิงสาวเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว "เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"

Bab terkait

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 6

    “โรงพยาบาลโทรมา พ่อของฉันเขา..ฮึก.ฮือ..”หญิงสาวร้องไห้ปานจะขาดใจ พยายามก้าวเท้าออกไปทันที "ไม่ได้การ ตอนนี้ฉันต้องไปโรงพยาบาล"เย่ซิวตามมาทันในที่สุด "ให้ฉันไปกับเธอเอง"หญิงสาวไม่อาจประคองสติได้ดังเดิม เธอต้องการไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เย่ซิวช่วยเธอปิดประตูร้านทั้งหมดจากนั้น แท็กซี่คันหนึ่งก็เข้ามาจอดที่ข้างทางทั้งสองคนรีบเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว เย่ซิวตะโกนบอกคนขับว่า "ไปโรงพยาบาล ด่วนเลยครับ!""ได้!"คนขับเหยียบคันเร่งอย่างแรง จนรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วหญิงสาวส่งเสียงร้องตกใจอย่างไม่ทันระวัง ร่างกายของเธอโน้มไปข้างหน้ากะทันหัน เกือบจะชนเข้ากับเบาะด้านหน้าเย่ซิวเอื้อมมือไปคว้าเธออย่างรวดเร็วแต่การยื่นมือไปคว้าตัวเธอ กลับเป็นสร้างปัญหาขึ้นแทนเย่ซิวรีบหยุดการกระทำดังกล่าวทันที "ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ"หญิงสาวส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติเธอคงจะเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้จิตใจของเธอจดจ่อเพียงเรื่องของผู้เป็นพ่อเท่านั้นทันใดนั้น คนขับก็สบถขึ้น "ให้ตายเถอะ! ข้างหน้ารถติดเป็นบ้า ดูเหมือนจะมีอุบัติเหตุ""ฉันจะทำยังไงดี?" เธอกังวลมา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 7

    "หยุดนะ! คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเรื่องบ้า ๆ กับคนไข้ของฉัน!" หมอคนสวยโกรธมากจนหน้าขึ้นสีแดง แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจหมอชายหลายคนเมื่อเห็นการกระทำของเย่ซิว ก็พากันมาล้อมตัวเขาเอาไว้เย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจคนเหล่านี้และมองไปที่หญิงสาว "นี่คือพ่อของเธอ ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะตัดสินใจให้ช่วยหรือไม่"ในการรักษาผู้ป่วย ขั้นตอนแรกคือต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัวเสียก่อน"ฉัน... พี่ได้โปรดช่วยพ่อด้วยเถอะ อย่างไรเสียผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่มีทางแย่ไปกว่านี้แล้ว หมออย่าทำให้พี่เขาต้องลำบากใจเลย"หมอคนสวยพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า "น้องสาว อย่าไปหลงกลเขานะ เด็กคนนี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนดี!""หุบปาก!"ทันใดนั้น เย่ซิวก็ตะโกนขึ้นเสียงดังเสียงของเขาดังราวกับเสือคำรามอย่างดุร้ายทำให้ทุกคนในหอผู้ป่วยต่างตกใจ แววตาของพวกเขาก็เผยให้เห็นความกลัว มีเพียงผู้ป่วยที่ไร้สติและหญิงสาว เย่ซิวตะคอกอย่างเย็นชา "แม้แต่คนในครอบครัวเขาก็เห็นด้วย พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนี้?"หลังจากพูดแล้ว เย่ซิวจึงเพิกเฉยต่อคนที่หว่าดกลัว และเขาเริ่มดำเนินการทันทีขั้นแรก เขาฆ่าเชื้อเข็ม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 8

    อาจเป็นเพราะไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน หลิ่วเมิ่งอิ๋นจึงลืมเก็บเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเอาไว้เย่ซิวถึงกับคอแห้ง เขาละสายตาไปมองอย่างอื่นอย่างทำตัวไม่ถูกแต่ในขณะเดียวกันเขากลับลุกขึ้นนั่งสมาธิและเริ่มฝึกพระสูตรราชาแห่งยาเมื่อหกเดือนที่แล้วเขาฝึกฝนจนถึงจุดสูงสุดของศิลปะการต่อสู้ระดับเก้าและเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ที่หาได้ยากในรอบพันปี ตามที่อาจารย์ของเขาเคยกล่าวไว้ ระดับที่สูงกว่าจอมยุทธ์ระดับเก้า ถือเป็นคนละโลกกันอย่างสิ้นเชิงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาไม่ว่าเย่ซิวจะฝึกฝนมากเพียงใด เขาก็ไม่สามารถทะลวงผ่านไปอีกขั้้นได้……หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็กลับมาและเริ่มทำอาหารไม่นานนัก กลิ่นหอมก็โชยออกมาเย่ซิวหยุดฝึกฝนและเดินไปที่ห้องครัวจึงได้เห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นทำอาหารอย่างจริงจังภาพตรงหน้าให้ความรู้สึกที่อบอุ่นมากหลิ่วเมิ่งอิ๋นเป็นหญิงสาวที่มีความเป็นกุลสตรีและน่ารักอย่างไม่ต้องสงสัยปกติเด็กผู้หญิงทั่วไปในวัยนี้ยังเรียนหนังสืออยู่ แต่เธอกลับต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งของชีวิต"พี่เย่ ทำไมพี่มาที่นี่ได้ล่ะ ห้องครัวมีเต็มควันเต็มไปหมด พี่ไปรอข้างนอกเถอะ"เย่ซิวส่ายหน้า

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 9

    ที่หน้าลานตระกูลจ้าว วันนี้คึกคักมากเป็นพิเศษ เหล่าคนมีอำนาจในเมืองเจียงเฉิงเดินทางมาถึงแล้ว รถยนต์หรูหราหลายคันจอดอยู่ด้านนอกวันนี้เป็นวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของจ้าวจางแห่งตระกูลจ้าว จ้าวจางเป็นที่รู้จักกันในนามบุคคลในตำนาน เขาเป็นจอมยุทธ์ระดับสามและมีธุรกิจภายใต้ชื่อของเขามากมายนอกจากบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ปแล้ว เขายังดำเนินกิจการสถานบันเทิงมากกว่าสิบแห่ง และมีเครือข่ายอิทธิพลกว้างขวางในเจียงเฉิง ตระกูลจ้าวถือว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ"บริษัทต้าเหิงเรียลเอสเตทมอบขาวหยกคู่หนึ่ง""เฉิงซิ่นแอนทีคมอบสร้อยประคำ" "โรงรับจำนำตระกูลเฉินมอบหยกหรูอี้คู่หนึ่ง"ที่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลจ้าว พ่อบ้านกำลังรายงานของขวัญจากแต่ละตระกูลที่ส่งมาด้วยเสียงดังอย่างต่อเนื่องของขวัญชิ้นใดชิ้นหนึ่งเหล่านี้มีมูลค่าถึงหกหลักเลยทีเดียวเย่ซิวมาถึงแล้วเขาถือถุงพลาสติกสีดำอยู่ในมือด้วยสีหน้าเย็นชาทันทีที่เขาปรากฏตัว เขาก็ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างมากทันทีในโอกาสสำคัญเช่นนี้ ทุกคนล้วนแต่งตัวเต็มยศเพื่อเข้าร่วมงาน มีเพียงเขาเท่านั้นที่สวมชุดกีฬา นี่มันจงใจมองข้ามระเบียบกันชัด ๆ เขาไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 10

    ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยเจี๋ยก็เดินเข้ามาจากด้านนอกทันใดนั้น แขกเหรื่อภายในงานต่างก็ลุกขึ้นยืนรัศมีอันทรงพลังแผ่ออกมาจากร่างกายของเซี่ยเจี๋ย ทำให้บอดี้การ์ดเหล่านั้นไม่กล้าเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย"คุณเซี่ย!" จ้าวจางรู้สึกประหลาดใจและรีบเดินเข้ามาหา "คุณมาได้ยังไง?"ใบหน้าของจ้าวเฉียนปรากฏรอยยิ้มกว้าง "คุณเซี่ยมาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับพ่อของผมในวันเกิดเขาสินะ?"แขกเหรื่อหลายคนมองจ้าวจางด้วยความอิจฉาเมื่อได้ยินเรื่องนี้การที่เซี่ยเจี๋ยมาร่วมแสดงความยินดีในวันเกิดด้วยตัวเองเช่นนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!หากเปรียบตระกูลจ้าวเป็นงู เซี่ยเจี๋ยก็คือมังกรใหญ่การบดขยี้ตระกูลจ้าวให้สิ้นซากเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เพียงแค่ดีดนิ้วทุกอย่างก็ราบเป็นหน้ากองได้ทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับจ้าวจางที่ยื่นมือออกมา เซี่ยเจี๋ยมีสีหน้าเย็นชาและไม่ได้แสดงทีท่าใดใด "มีค่าพอจะจับมือกับฉันด้วยเหรอ?”รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวจางแข็งค้างไปแขกเหรื่อหลายคนก็ตกตะลึงเช่นกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?เขาไม่สนใจใบหน้าบอกบุญไม่รับของจ้าวจาง เซี่ยเจี๋ยเดินผ่านเขาและโค้งคำนับต่อหน้าเย่ซิวด้วยความน้อมน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 11

    เย่ซิวสกัดหมัดได้อย่างง่ายดายพลางพูดอย่างใจเย็น “ฉันแค่มาที่นี่เพื่อตามหาคน ไม่ได้อยากจะรังแกนาย”นักศึกษาหลายคนในบริเวณใกล้เคียงดูประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเย่ซิวสกัดหมัดของชายหนุ่มร่างกำยำได้อย่างง่ายดายเพียงใด“เพื่อนนักศึกษาคนนี้แข็งแกร่งมาก เขาสกัดกั้นการโจมตีของจางเทาได้อย่างง่ายดาย”“ช่างบังเอิญจริง ๆ จางเทาเป็นนักเทควันโดสายดำระดับแปด เขามีพละกำลังมาก ฉันเคยเห็นเขาเอาชนะผู้ใหญ่ห้าหกคนด้วยตัวเขาเองเลยนะ”“ฉันก็ว่าอย่างนั้น”จางเทาทั้งตกใจทั้งโกรธ เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถหลุดออกจากฝ่ามือของเย่ซิวได้ ใบหน้าของเขาแดงก่ำเนื่องจากใช้แรงมากเกินไป เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว ยังไม่ปล่อยฉันอีก หาเรื่องตายเรอะ?!”เย่ซิวปล่อยมือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “เพื่อนนักศึกษา ฉันแค่อยากจะเข้าไปตามหาคน นายช่วยหลีกทางหน่อยได้ไหม?”เขาไม่เคยไปเรียนที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงเห็นใจเพื่อนนักศึกษาเป็นพิเศษ ก็ไม่อยากทำร้ายพวกเขาเว้นเสียแต่จะจำเป็นจริง ๆแต่ในสายตาของจางเทา ท่าทางของเย่ซิวถือว่าเป็นการทำให้เขาอับอายเขาคำรามด้วยสีหน้าดุร้าย “พวกแกมัวยืนทำอะไร? มาช่วยกันจัดการมันสิ!”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 12

    เย่ซิวเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์โดยไม่สนใจคำเตือนของหวังเฟย การกระทำนี้ทำให้ความเย็นชาในดวงตาของหวังเฟยยิ่งทวีขึ้นไปอีกแต่เขาก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาเสียเดี๋ยวนั้นเขามักจะแสดงรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามต่อโลกภายนอกซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญมากสำหรับเขาในการจีบสาวโดยผิวเผินแล้ว เขาคงไม่สามารถทำอะไรกับเย่ซิวได้ แต่เขาแอบคิดไว้แล้วว่าจะจัดการกับเย่ซิวอย่างไรเพื่อนนักศึกษาชายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาด้วยเช่นกัน ทำให้หวังเฟยรู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้นมีคนมากมายหลั่งไหลเข้ามา จนไม่มีทางหยุดพวกเขาได้แล้วในเวลานี้ เย่ซิวเดินไปลู่เสวี่ยเอ๋อร์รูปร่างของเธอช่างสูงจริง ๆ โดยเฉพาะเรียวขางามของเธอที่เรียวและตรง เรียกได้ว่าตั้งแต่คอลงมา ขาของเธอถึงเป็นจุดนำสายตาที่สุดเธอไม่จำเป็นต้องทำอะไร ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ก็จะเป็นจุดสนใจของฝูงชนได้อย่างแท้จริง“สวัดดี คุณคือลู่เสวี่ยเอ๋อร์ใช่รึเปล่า?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอหันกลับมาเห็นเย่ซิวที่มีหน้าตาสดใส ประกอบกับดวงตาที่ใสสะอาดยืนอยู่ตรงหน้าเธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างสุภาพ “ใช่ ฉันเอง นายมีธุระอะไรเหรอ?”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 13

    หวังเฟยกดโทรศัพท์ด้วยมือทั้งสองข้างตอบกลับข้อความของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว: ไม่มีปัญหา ฉันจะโอนเงินให้เธอเดี๋ยวนี้เลยณ หอพักที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์พักอยู่ หลี่เยี่ยนอ่านข้อความที่หวังเฟยส่งมาทางโทรศัพท์มุมปากของเธอมีรอยยิ้มแปลก ๆ เธอส่งเลขบัญชีธนาคารของเธอไป ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินสองล้านโอนมาให้ทันทีที่ลบข้อความที่แจ้งว่าบัญชีของเธอได้รับโอนเงินเข้ามา เธอที่นั่งอยู่บนเตียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เสวี่ยเอ๋อร์ คืนนี้เราไปกินหม้อไฟหม่าล่ากันเถอะ ตกลงไหม?”“คืนนี้เหรอ? แต่ฉันอยากอ่านหนังสืออยู่ที่หอมากกว่า”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์มีนิสัยรักสงบ ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนนักศึกษาคนอื่นมีความรักกันแต่เธอเป็นคนเดียวที่เอาแต่สนใจเรื่องเรียน“โอ๊ย หนังสืออ่านตอนไหนก็ได้ อีกอย่าง เธอจะอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้สิ ไม่งั้นก็พลอยจะทำให้คนอื่นเขาดูโง่หมด ตอนกลางคืนไม่ต้องอ่านหรอก กินเสร็จก็ค่อยรีบกลับมา จะได้ไม่เสียเวลามาก” “แต่ว่า…” ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลังเล แต่หลี่เยี่ยนกลับไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธ“คุณน้องคะ เห็นแก่ที่ฉันช่วยเธอกันพวกผู้ชายมาให้ตั้งนาน แล้ววัน

Bab terbaru

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 958

    เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 957

    กระทิงคลั่งคำรามเสียงต่ำ กล้ามเนื้อทั่วร่างพองตัวขึ้น ก่อนพุ่งทะยานอยู่แนวหน้า ใบหน้าของเขาสวมหน้ากากสีดำ ทำให้ไม่มีใครสามารถมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงได้ หมัดของเขาซัดออกไปด้วยพลังอันเกรี้ยวกราด ทำลายทหารกองทัพอัคคีแดงกว่าสิบคนที่ขวางหน้าให้แหลกเป็นจุณ เขาโจมตีไปยังจุดที่อ่อนแอที่สุดของกองทัพอัคคีแดง กระแทกเปิดเส้นทางด้วยพลังอันมหาศาล ผู้ติดตามด้านหลังของเขาต่างขว้างระเบิดออกไปอย่างไม่เสียดาย ส่งผลให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ รูปขบวนที่ยากลำบากนักกว่าจะจัดเรียงขึ้นมาได้ กลับถูกทำลายลงอีกครั้ง แม่ทัพพยัคฆ์ขาวจำต้องแบ่งกำลังบางส่วนออกไปเพื่อกดดันกระทิงคลั่ง ใบหน้าของเขามืดมนพลางเอ่ยถามรองแม่ทัพที่อยู่ข้างกาย “สถานการณ์ความสูญเสียเป็นอย่างไร?” “เรียนแม่ทัพ จนถึงตอนนี้เราสูญเสียไปกว่าหนึ่งหมื่นนายแล้ว” “อะไรนะ?!” แม่ทัพพยัคฆ์ขาวหน้าถอดสี “เราเสียทหารไปมากขนาดนี้ได้ยังไง?” การรบเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นานแท้ ๆ แต่กลับมีความสูญเสียร้ายแรงเช่นนี้ต้องรู้ไว้ว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา กองทัพอัคคีแดงเปิดฉากการรบกับศัตรูมากกว่าร้อยครั้ง แต่ยอดผู้เสียชีวิตยังไม่เกินแปดถึงเก้าพันนาย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 956

    อย่างไรก็ตาม เมื่อหุ่นยนต์สามตัวปรากฏขึ้น สมาชิกตระกูลหลายคนต่างก็หัวใจเต้นแรง ราวกับถูกค้อนเหล็กที่มองไม่เห็นกระแทกเข้าอย่างจัง ผู้นำตระกูลเฒ่าออกแรงบีบที่วางแขนของเก้าอี้จนแตกละเอียด เส้นเลือดที่คอโป่งขึ้นอย่างชัดเจน "หุ่นยนต์ในตำนาน! พวกเขาจะมีมันได้อย่างไร? ต้องเป็นฝีมือของประเทศหลงเถิงแน่ ๆ!" ในขณะนั้น ทุกสายตาทั่วโลกจับจ้องมายังที่แห่งนี้ เพียงแค่หุ่นยนต์สามตัว ก็สามารถต้านกองทัพอัคคีแดงที่มีกำลังพลห้าหมื่นนายเอาไว้ได้ พวกเขาใช้การโจมตีระยะไกลทุกรูปแบบ แม้แต่รถถังก็ถูกนำมาใช้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายหุ่นยนต์ทั้งสามตัวนี้ได้ กลับกัน กองทัพอัคคีแดงกลับถูกโจมตีจนสูญเสียกำลังพลไปกว่าสองพันนาย แม้แต่กองทัพอัคคีแดงที่ไม่เคยพ่ายแพ้ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสิ้นหวังแบบนี้จะสู้ต่อไปได้อย่างไร? แต่ไม่นานพวกเขาก็เห็นแสงแห่งความหวัง เพราะกระสุนและอาวุธทั้งหมดของหุ่นยนต์ทั้งสามตัวถูกใช้จนหมดสิ้นแล้ว แม่ทัพพยัคฆ์ขาวจับโอกาสนี้ได้ทันที และออกคำสั่งผ่านวิทยุสื่อสาร "กระจายกำลังออกไป แล้วโจมตีจากระยะไกล!เจ้ายักษ์พวกนี้ไม่มีทางมีพลังงานเหลือมากนัก รอให้พวกมันขยับไม่ไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 955

    จักรกลมังกรดำทั้งสามตัวก็เตรียมพร้อมเสร็จสิ้น และพุ่งตรงสู่สนามรบทันทีภายใต้คำสั่งของเย่ซิวเปลวไฟที่พ่นออกจากใต้ฝ่าเท้าของหุ่นยนต์สร้างแรงขับมหาศาล ทำให้พวกมันพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่มุ่งหน้าเข้าสู่แนวหน้าของสนามรบในขณะที่หลายประเทศที่กำลังสังเกตการณ์อยู่ต่างเชื่อมั่นว่าสำนักโอสถกำลังจะถูกทำลายในไม่ช้า และพวกเขาก็เตรียมชมความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ด้วยท่าทีสนุกสนานแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่อยู่ในแนวหลังของกองทัพกำลังนั่งคิดวางแผนว่าจะจัดการสิ่งต่าง ๆ อย่างไรหลังจากบุกยึดสำนักโอสถได้สำเร็จรายงานสถานการณ์จากแนวหน้าถูกส่งมายังเขาอย่างต่อเนื่อง“รุกหน้าไปอีกสามสิบไมล์”“รุกหน้าอีกสี่สิบเจ็ดไมล์”“รุกหน้าไปอีกหกสิบแปดไมล์แล้ว”……“แย่แล้ว นั่นมันอะไรกัน?!”ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปอย่างราบรื่น จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนอย่างตื่นตระหนกดังผ่านวิทยุสื่อสารและทำลายสมาธิของแม่ทัพพยัคฆ์ขาวในทันทีเขาเงยหน้าขึ้นมองจอภาพโดยอัตโนมัติเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า เขาก็เบิกตากว้างทันทีจู่ ๆ ก็ปรากฏสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาสามตัวในสนามรบพวกมันสูงกว่าสิบเมตร มีโครงสร้างที่โค้งมนและดุดัน ทำให้แผ่แรงกดดันม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 954

    ในตอนแรกมีเครื่องบินรบหลายลำพยายามจะเข้ามาทิ้งระเบิดใส่สำนักโอสถก่อนแต่ยังไม่ทันจะเข้าใกล้ก็โดนขีปนาวุธสอยร่วงไปหกลำจนต้องถอยหนีกันแทบไม่ทันเมื่อไม่สามารถใช้การโจมตีทางอากาศได้สำเร็จ จึงต้องอาศัยการปะทะทางภาคพื้นดินแทนกองทัพอัคคีแดงจำนวนห้าหมื่นนายข้ามแนวเทือกเขามา ก่อนจะเผชิญกับการโจมตีด้วยอาวุธหนักจากสำนักโอสถอย่างรุนแรงแม่ทัพพยัคฆ์ขาวผู้มีร่างกายสูงใหญ่ทรงพลัง หนวดเครายาว และดวงตาโตเหมือนระฆังทองแดง เขามองไปยังแนวการยิงจากฝั่งสำนักโอสถด้วยสีหน้าดูแคลน “อาวุธพวกนี้มันแค่อุปกรณ์ตกยุคตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อนที่เราทิ้งไปแล้วด้วยซ้ำระยะยิงก็สั้น แรงทำลายก็ต่ำ ส่งคำสั่งออกไปให้โต้กลับซะ ให้พวกมันได้รู้ว่าการทำสงครามสมัยใหม่มันเป็นยังไง”คำสั่งถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นกองทัพอัคคีแดงก็เปิดฉากยิงถล่มใส่แนวป้องกันของสำนักโอสถทันทีสำนักโอสถต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างหนักภายใต้เสียงระเบิดที่ดังสนั่น การโจมตีเพียงระลอกเดียวก็ทำให้คนของสำนักโอสถล้มตายไปสี่ถึงห้าร้อยคนที่แนวป้องกันของสำนักโอสถมีกำลังพลเพียงประมาณหมื่นนายเท่านั้นหากยังคงเสียกำลังคนในอัตรานี้ พวกเขาคงไม่สา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 953

    ผู้นำตระกูลโทรศัพท์หาจักรพรรดิแห่งประเทศจ้านฉงตี้ แต่คำตอบที่ได้รับก็แทบไม่ต่างกันหลังวางสายเขาก็เตะโต๊ะตรงหน้าจนแตกกระจายด้วยความโกรธลูกชายทั้งสองคนไม่กล้าแม้แต่จะพูดเพราะรู้ดีว่าพ่อของพวกเขาเวลาโกรธนั้นน่ากลัวเพียงใดผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้นำตระกูลก็พยายามสงบสติอารมณ์ลง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก“ถ้าไอ้พวกเจ้าเล่ห์ทั้งสองคนนั้นยังไม่รู้ว่าสำนักโอสถได้รับการสนับสนุนจากประเทศหลงเถิงมากขนาดไหน พวกมันคงไม่ยอมลงมือแน่ในเมื่อเป็นแบบนี้งั้นเราจะลงมือเอง ส่งคำสั่งฉันไปให้กองทัพอัคคีแดงบุกโจมตีสำนักโอสถและให้พยัคฆ์ขาวเป็นผู้นำทัพ”พยัคฆ์ขาวเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งของประเทศจ้านและยังติดอันดับสิบแม่ทัพที่เก่งที่สุดในโลกอีกด้วยชายผู้นี้เป็นที่นับถืออย่างสูงในหมู่ทหาร การที่เขานำกองทัพออกศึกจะช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับทหารได้อย่างมหาศาลลูกชายทั้งสองของเขามีสีหน้าแปลก ๆ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “พ่อครับ การส่งแม่ทัพพยัคฆ์ขาวไปจัดการกับแค่สำนักโอสถน้อย ๆ แบบนี้ มันจะดูเกินไปหรือเปล่าครับ”ผู้นำตระกูลแค่นเสียงหึ “ประเทศหลงเถิงเคยพูดไว้ว่าแม้แต่สิงโตก็ยังต้องใช้พลังเต็ม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 952

    “ยังมีขีปนาวุธรุ่นล่าสุดที่ชื่อหลงเถิงเก้าและอาวุธข่มขวัญในจำนวนที่ไม่สามารถระบุได้ด้วยครับ”“ว่าไงนะ?!”ข่าวนี้ทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปทันที สีหน้าของทุกคนดูไม่สู้ดีนักผู้นำตระกูลกระชากเอกสารในมือลูกชายมาพิจารณาอย่างละเอียดหลังอ่านจบ สีหน้าของเขาก็เริ่มซีดเผือด ก่อนจะสั่งให้ลูกชายเปิดทีวีไปที่ช่องข่าวต่างประเทศจากนั้นพวกเขาก็เลือกชมการประกาศของผู้แถลงข่าวจากประเทศหลงเถิงที่เพิ่งออกอากาศไป“สวัสดีตอนค่ำผู้ชมทุกท่าน วันนี้เราขอแทรกข่าวด่วนสำคัญประเทศของเราได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสำนักโอสถแล้ว และในอนาคตเราจะมีความร่วมมือในด้านการเกษตร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และชีววิทยาในทุกมิติเราได้ขายอาวุธเชิงกลยุทธ์บางส่วนออกไปเพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัย ทุกท่านโปรดอย่าได้ตื่นตระหนก ขอเพียงประเทศต่าง ๆ ไม่เป็นศัตรูกับสำนักโอสถก็จะไม่ถูกโจมตี สำนักโอสถก็เหมือนกับประเทศหลงเถิงของเราที่มุ่งมั่นสู่การพัฒนาอันสงบสุข”หลังดูข่าวจบ บรรยากาศรอบตัวผู้นำตระกูลก็เต็มไปด้วยไอสังหารเข้มข้นชายชราในวัยหนุ่มเคยเป็นคนที่โหดเหี้ยมไร้ปรานีและฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ความอาฆาตและไอสังหาร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 951

    พื้นที่ในเขตนี้มีการป้องกันที่แน่นหนาอย่างถึงขีดสุด เรียกได้ว่าเข้มงวดมากแม้แต่พลังจิตของเย่ซิวก็ไม่สามารถทะลุผ่านเข้าไปได้หลังจากสังเกตการณ์อยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ได้ข้อสรุปด้วยพลังของเขาในตอนนี้ไม่มีทางที่จะฝ่าเข้าไปโดยไม่ต้องเสียอะไรเลยแน่เมื่อมาถึงส่วนลึกที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่เทคนิคยืนรออยู่แล้วพอเห็นนายกรัฐมนตรีกับร่างแยกของเขา ทุกคนก็แสดงความเคารพอย่างเต็มที่หลังจากพูดคุยทักทายกันเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ก็พาร่างแยกเข้าไปในโกดังของที่เย่ซิวต้องการทั้งหมดถูกเตรียมไว้พร้อมแล้วรวมถึงระบบป้องกันขีปนาวุธอีกสามชุดขีปนาวุธระยะกลางและระยะสั้นจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบลูก และอาวุธข่มขวัญอีกห้าลูกของทั้งหมดถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเหมือนภูเขาขนาดย่อมร่างแยกยกมือขึ้น ก่อนที่แหวนผนึกของจะเปล่งแสงออกมา และดูดของเหล่านั้นเข้าไปทั้งหมดโชคดีที่แหวนผนึกของได้รับการอัปเกรดมาแล้ว ไม่งั้นคงไม่สามารถเก็บของจำนวนมากขนาดนี้ได้ในครั้งเดียวแน่แต่หลังจากเก็บของทั้งหมดแล้วก็ถึงขีดจำกัดของแหวนผนึกของพอดีนายกรัฐมนตรีมองด้วยสายตาอิจฉา “นี่ใช่แหวนผนึกของในตำนานหรือเปล่า ยังมีเหลืออีกไหม ผมสามารถจ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 950

    นายกรัฐมนตรีเองก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ไช่จื้อจึงเดินทางกลับไปยังหน่วยงานด้วยความตื่นเต้นเพื่อเริ่มเตรียมการสร้างสายการผลิตส่วนนายกรัฐมนตรีก็ลงนามในเอกสารด้วยตัวเองสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ทุกอย่างจะได้รับการจัดการเป็นลำดับแรก เป้าหมายคือต้องสร้างให้ได้หนึ่งพันตัวในเวลาที่สั้นที่สุดนายกรัฐมนตรีรออยู่ที่บริษัทเพื่อรอรับร่างแยกที่มาร่างแยกธาตุทองก็มาถึงหน้าบริษัทในเวลาตีสามห้าสิบทันทีที่มาถึงก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปทันที“สวัสดีครับท่านนายกฯ” ร่างแยกทักทายด้วยความเคารพ“ฮ่า ๆ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก” นายกรัฐมนตรีหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ของที่เตรียมไว้พร้อมแล้ว เราไปกันเถอะ”ประเทศหลงเถิงมีสำรองไว้จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันขีปนาวุธ ขีปนาวุธ หรืออาวุธข่มขวัญของเหล่านี้โดยปกติแล้วจะไม่ขายให้คนนอกเพราะถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูงสุดในโลกปัจจุบันร่างแยกธาตุทองหยิบขวดขนาดใหญ่สองขวดออกมาจากแหวนผนึกของก่อนจะยื่นให้กับนายกรัฐมนตรี “นี่คือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ สำหรับท่านและผู้บริหารระดับสูงของประเทศหลงเถิงในขวดแรกคือยาเม็ดล้างไขกระดูกชั้นเลิศ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะช่วยฟื้นฟูร่างกา

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status