Share

บทที่ 11

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เย่ซิวสกัดหมัดได้อย่างง่ายดายพลางพูดอย่างใจเย็น “ฉันแค่มาที่นี่เพื่อตามหาคน ไม่ได้อยากจะรังแกนาย”

นักศึกษาหลายคนในบริเวณใกล้เคียงดูประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเย่ซิวสกัดหมัดของชายหนุ่มร่างกำยำได้อย่างง่ายดายเพียงใด

“เพื่อนนักศึกษาคนนี้แข็งแกร่งมาก เขาสกัดกั้นการโจมตีของจางเทาได้อย่างง่ายดาย”

“ช่างบังเอิญจริง ๆ จางเทาเป็นนักเทควันโดสายดำระดับแปด เขามีพละกำลังมาก ฉันเคยเห็นเขาเอาชนะผู้ใหญ่ห้าหกคนด้วยตัวเขาเองเลยนะ”

“ฉันก็ว่าอย่างนั้น”

จางเทาทั้งตกใจทั้งโกรธ เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถหลุดออกจากฝ่ามือของเย่ซิวได้ ใบหน้าของเขาแดงก่ำเนื่องจากใช้แรงมากเกินไป เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว ยังไม่ปล่อยฉันอีก หาเรื่องตายเรอะ?!”

เย่ซิวปล่อยมือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “เพื่อนนักศึกษา ฉันแค่อยากจะเข้าไปตามหาคน นายช่วยหลีกทางหน่อยได้ไหม?”

เขาไม่เคยไปเรียนที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงเห็นใจเพื่อนนักศึกษาเป็นพิเศษ ก็ไม่อยากทำร้ายพวกเขาเว้นเสียแต่จะจำเป็นจริง ๆ

แต่ในสายตาของจางเทา ท่าทางของเย่ซิวถือว่าเป็นการทำให้เขาอับอาย

เขาคำรามด้วยสีหน้าดุร้าย “พวกแกมัวยืนทำอะไร? มาช่วยกันจัดการมันสิ!”

จางเทาถูกรายล้อมไปด้วยลูกสมุนมากมาย

เมื่อได้ยินคำสั่งของเขา พวกนั้นก็รีบเข้ามารุมเตะต่อยเย่ซิวทันที

มีประกายเย็นวาบในดวงตาของเย่ซิว

เขาไว้หน้าอีกฝ่ายมากเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่เนื่องจากอีกฝ่ายยังคงไม่รู้สำนึก เขาก็จะไม่สุภาพอีกต่อไป

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในฐานะจอมยุทธ์ระดับเก้า การจัดการกับคนธรรมดาเหล่านี้จึงเป็นเรื่องง่ายไม่ต่างจากการกำจัดมดแมลง

คนรอบตัวไม่มีใครเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้ชัดเจน และทุกคนที่พุ่งเข้ามาหาเขาต่างก็กรีดร้องและกลิ้งไปบนพื้น

จางเทาและนักศึกษาที่อยู่บริเวณนั้นตกตะลึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เย่ซิวดูเหมือนกำลังทำเรื่องที่ไม่ได้สำคัญอะไร เพียงปัด ๆ มือเดินผ่านจางเทาและตบไหล่เขา

ทันใดนั้น จางเทาก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาพร้อมล้มลงกับพื้นและเกลือกกลิ้งอย่างบ้าคลั่ง

ร่างกายของเขารู้สึกเหมือนถูกมดนับแสนรุมกัด ให้ความรู้สึกเจ็บปวดทรมานมาก

จางเทาอดทนต่อความเจ็บปวดในร่างกายของเขาพลางตะโกนใส่เย่ซิว “ถ้าแกไม่อยากตายก็หยุดซะ ฉันมีหน้าที่ดูแลที่นี่ตามคำสั่งของอาจารย์หวัง ถ้าเขาต้องการจะฆ่าแก ก็ทำให้ได้ง่าย ๆ เหมือนขยี้มดตัวหนึ่ง!”

เย่ซิวยิ้ม เขาเป็นคนเดียวที่บดขยี้ศัตรูมาโดยตลอด ไม่เคยถูกพวกมันบดขยี้ได้เลย

ฉากนี้ทำให้นักศึกษาที่อยู่รอบตัวพวกเขาเบิกตากว้างและมองไปที่แผ่นหลังของเย่ซิว

“ว้าว เพื่อนนักศึกษาคนนี้เท่มาก!”

“เขาเป็นปรมาจารย์ด้านวรยุทธ์หรือเปล่า?”

“เร็วเข้า เร็วเข้า รีบเข้าไป ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เต้นอยู่ข้างในนั้น!”

……

คำพูดปลุกผู้ตกในห้วงฝัน จุดประสงค์ของนักศึกษาชายเหล่านี้ที่มาที่นี่คือการชมการเต้นรำของลู่เสวี่ยเอ๋อร์

เย่ซิวเดินเข้าไปในห้องซ้อมเต้น และดวงตาของเขาทอแสงเป็นประกาย

ในนั้นล้วนมีแต่เพื่อนนักศึกษาสาวสวยหุ่นดี

บ้างก็สวมกางเกงรัดรูป บ้างก็สวมกระโปรงสั้น กำลังเต้นรำราวกับผีเสื้อ

ความอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวาปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเธอ

สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในที่แห่งนี้คือหญิงสาวที่อยู่ตรงกลาง

เธอเป็นเด็กสาวที่สวมกางเกงยีนส์และเสื้อเชิ้ตสีขาว

เธอมีใบหน้างดงามที่สามารถนำความหายนะมาสู่ประเทศและประชาชนได้

อีกทั้งยังเธอยังสูงมาก มีความสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบร้อยแปดสิบเห็นจะได้

เธอมีผมสีดำตรงยาวถึงเอว ผูกด้วยริบบิ้นสีสันสดใสเพียงเท่านั้น

ผิวของเธอขาวเปล่งปลั่ง

ดวงตาสองข้างงดงามราวกับอัญมณีสีดำสองชิ้นที่เปล่งประกายเจิดจ้า

รอยยิ้มหวานราวกับน้ำผึ้งทำให้ใจคนเต้นรัวและตกหลุมรักได้ตั้งแต่แรกเห็น

เพื่อนนักศึกษาหญิงคนอื่น ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอก็กลายเป็นเพียงสิ่งที่ขับทำให้เธอโดดเด่นขึ้นเท่านั้น

ตรงอีกมุมหนึ่งของห้อง เพื่อนนักศึกษาชายที่มีใบหน้าสง่างามและดูสูงส่งกำลังมองหญิงสาวที่อยู่ตรงกลางด้วยความหลงใหล

ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างและหันไปมองซิวเย่ ดวงตาของเขามึนตึงขึ้น “เกิดอะไรขึ้น? ไอ้คนไร้ประโยชน์จางเทานั่นปล่อยให้คนเข้ามาได้งั้นเหรอ?!”

ชื่อของเขาคือหวังเฟย มาจากตระกูลร่ำรวยและมีภูมิหลังครอบครัวที่แข็งแกร่ง

นอกจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเขาแล้ว เขายังถูกรายล้อมไปด้วยผู้หญิงมากหน้าหลายตาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

แต่หลังจากพบกับลู่เสวี่ยเอ๋อร์ เขาก็รู้สึกหลงสเน่ห์เธอทันที และสาบานกับตัวเองว่าจะต้องแต่งงานกับเธอให้ได้

เพื่อที่จะจีบลู่เสวี่ยเอ๋อร์ เขาใช้วิธีการมากมาย

แต่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ยังคงไม่หวั่นไหว

หากตัวตนของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ไม่ได้พิเศษเหมือนเขา เขาคงใช้วิธีที่ก้าวร้าวกว่านี้ไปนานแล้ว

เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จ เขาสั่งให้จางเทาลูกสมุนของเขาคอยเป็นผู้นำกลุ่มอันธพาล ไม่ว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์ไปที่ไหน เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไล่คนรอบตัวเธอออกไป

แต่ในขณะนี้ จู่ ๆ เย่ซิวก็บุกเข้ามา ซึ่งเท่ากับเป็นการทำให้เขาขุ่นเคืองที่ถูกเหยียบถิ่นของเขา

แต่ทว่าเขาก็มีความฉลาดเฉลียวเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ดวงตาของเขาเคร่งขรึม จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินไปหาเย่ซิว

“เพื่อนนักศึกษา ที่นี่คือห้องซ้อมเต้น นายมาผิดที่หรือเปล่า?”

เย่ซิวมองเพื่อนนักศึกษาชายที่ดูสง่างามคนนี้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาพลางยิ้มอย่างใจดี “ไม่หรอก ฉันมาตามหาคนที่นี่ นายรู้ไหมว่าใครคือลู่เสวี่ยเอ๋อร์?”

“นายมีธุระกับเธอเหรอ?”

“ก็ประมาณนั้น” เย่ซิวมีสีหน้าคลุมเครือเล็กน้อย

เรื่องไข่มุกราชาแห่งยานั้นสำคัญอย่างยิ่งและเขาจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรู้

“ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ไม่อยู่ที่นี่ นายมาหาผิดที่แล้ว เธอเพิ่งจะออกไปเมื่อกี้นี้เอง”

“อย่างงั้นเหรอ?” เย่ซิวผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก เขารู้สึกว่านี่เป็นเพียงครั้งแรกที่เขาได้พบกับเพื่อนนักศึกษาชายคนนี้ จึงไม่มีความแค้นระหว่างกันและเขาก็ไม่จำเป็นต้องโกหกด้วย “โอเค ขอบใจนายมาก งั้นฉันไปก่อนล่ะ”

เขาหันหลังกำลังจะจากไป

แต่ขณะนี้กลุ่มสาว ๆ ก็เต้นเสร็จแล้วเช่นกัน

เด็กสาวคนหนึ่งถือขวดน้ำแร่ไว้ในมือและวิ่งไปหาหญิงสาวที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด “เสวี่ยเอ๋อร์ เต้นเหนื่อยไหม? มาดื่มน้ำกันเถอะ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเธอ และแสดงรอยยิ้มแสนหวานที่ฆ่าคนได้ออกมา “ขอบใจนะ!”

เย่ซิวหยุดชะงัก จากนั้นก็หันกลับมามองเพื่อนนักศึกษาชายคนเดิม “เพื่อนนักศึกษาคนนี้นี่ใจร้ายไปหน่อยรึเปล่า? มาหลอกกันเสียได้”

หวังเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นายคงหูฝาดแล้ว ออกไปจากที่นี่เถอะ”

เย่ซิวเพิกเฉย สายตาของเขาจ้องมองไปที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์

ประกายเย็นวาบฉายผ่านดวงตาของหวังเฟย

เขาถือว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์เป็นสมบัติส่วนตัวของเขาแล้ว และไม่มีใครได้รับอนุญาตให้โลภอยากได้เธอหรือแม้แต่จะมองมาที่เธอด้วยซ้ำ

ในขณะนี้ พฤติกรรมของเย่ซิวทิ่มแทงเข้าลึกถึงจิตใจของเขาแล้ว

เขายื่นคำขาดให้กับเย่ซิว “ออกไปจากที่นี่ซะ! ไม่อย่างนั้นนายจะต้องรับผลที่ตามมา!”

เย่ซิวขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะ? ครอบครัวนายเป็นคนก่อตั้งมหาวิทยาลัยนี้เหรอ?!”

“ถึงครอบครัวฉันจะไม่ได้เป็นคนก่อตั้งมหาวิทยาลัยนี้ แต่ฉันชื่อหวังเฟย และฉันมาจากตระกูลหวัง นายน่ารู้ว่านี่หมายความว่ายังไง?!”

หากคนในพื้นที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาคงจะตกตะลึงอย่างแน่นอน

ตระกูลหวังเปรียบเสมือนจักรพรรดิบนดินที่กินรวบทั้งกิจการขาวดำและมีอำนาจมหาศาล

เพียงแต่ว่าเย่ซิวเพิ่งมาถึงและไม่รู้รายละเอียดของตระกูลหวังเลย

แต่ถึงแม้เขาจะรู้ เขาก็ไม่สนใจ

Related chapters

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 12

    เย่ซิวเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์โดยไม่สนใจคำเตือนของหวังเฟย การกระทำนี้ทำให้ความเย็นชาในดวงตาของหวังเฟยยิ่งทวีขึ้นไปอีกแต่เขาก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาเสียเดี๋ยวนั้นเขามักจะแสดงรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามต่อโลกภายนอกซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญมากสำหรับเขาในการจีบสาวโดยผิวเผินแล้ว เขาคงไม่สามารถทำอะไรกับเย่ซิวได้ แต่เขาแอบคิดไว้แล้วว่าจะจัดการกับเย่ซิวอย่างไรเพื่อนนักศึกษาชายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาด้วยเช่นกัน ทำให้หวังเฟยรู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้นมีคนมากมายหลั่งไหลเข้ามา จนไม่มีทางหยุดพวกเขาได้แล้วในเวลานี้ เย่ซิวเดินไปลู่เสวี่ยเอ๋อร์รูปร่างของเธอช่างสูงจริง ๆ โดยเฉพาะเรียวขางามของเธอที่เรียวและตรง เรียกได้ว่าตั้งแต่คอลงมา ขาของเธอถึงเป็นจุดนำสายตาที่สุดเธอไม่จำเป็นต้องทำอะไร ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ก็จะเป็นจุดสนใจของฝูงชนได้อย่างแท้จริง“สวัดดี คุณคือลู่เสวี่ยเอ๋อร์ใช่รึเปล่า?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอหันกลับมาเห็นเย่ซิวที่มีหน้าตาสดใส ประกอบกับดวงตาที่ใสสะอาดยืนอยู่ตรงหน้าเธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างสุภาพ “ใช่ ฉันเอง นายมีธุระอะไรเหรอ?”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 13

    หวังเฟยกดโทรศัพท์ด้วยมือทั้งสองข้างตอบกลับข้อความของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว: ไม่มีปัญหา ฉันจะโอนเงินให้เธอเดี๋ยวนี้เลยณ หอพักที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์พักอยู่ หลี่เยี่ยนอ่านข้อความที่หวังเฟยส่งมาทางโทรศัพท์มุมปากของเธอมีรอยยิ้มแปลก ๆ เธอส่งเลขบัญชีธนาคารของเธอไป ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินสองล้านโอนมาให้ทันทีที่ลบข้อความที่แจ้งว่าบัญชีของเธอได้รับโอนเงินเข้ามา เธอที่นั่งอยู่บนเตียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เสวี่ยเอ๋อร์ คืนนี้เราไปกินหม้อไฟหม่าล่ากันเถอะ ตกลงไหม?”“คืนนี้เหรอ? แต่ฉันอยากอ่านหนังสืออยู่ที่หอมากกว่า”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์มีนิสัยรักสงบ ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนนักศึกษาคนอื่นมีความรักกันแต่เธอเป็นคนเดียวที่เอาแต่สนใจเรื่องเรียน“โอ๊ย หนังสืออ่านตอนไหนก็ได้ อีกอย่าง เธอจะอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้สิ ไม่งั้นก็พลอยจะทำให้คนอื่นเขาดูโง่หมด ตอนกลางคืนไม่ต้องอ่านหรอก กินเสร็จก็ค่อยรีบกลับมา จะได้ไม่เสียเวลามาก” “แต่ว่า…” ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลังเล แต่หลี่เยี่ยนกลับไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธ“คุณน้องคะ เห็นแก่ที่ฉันช่วยเธอกันพวกผู้ชายมาให้ตั้งนาน แล้ววัน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 14

    ฟุ่บ! ฟุ่บ!จางเทาและคนอื่น ๆ คุกเข่าลงตรงนั้นและรีบคำนับอย่างรวดเร็วแม้แต่คนที่ดุร้ายอย่างหมาป่าตาเดียวยังถูกเย่ซิวเล่นเสียน่วมแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย“พี่ใหญ่ พวกเราผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ”“อย่าฆ่าผมเลย ผมยังมีพ่อแม่มีพี่น้องต้องดูแล คิดเสียว่าฉันเป็นลูหมาตัวหนึ่ง แล้วปล่อยผมไปเถอะ”“พี่ใหญ่ ถ้าพี่ไว้ชีวิตผม ผมจะแนะนำน้องสาวให้รู้จัก ผมยกแฟนตัวเองให้พี่เลยก็ยังได้”……ดวงตาของเย่ซิวเย็นชา คนเหล่านี้ไม่สมควรตาย แต่ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ง่าย ๆ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบยาหนึ่งเม็ดออกมาจากกระเป๋าแล้วบดมันจากนั้นเขาก็เปิดปากคนเหล่านี้อย่างไร้ความปราณี พลางยัดยาเข้าไป และบังคับให้พวกเขากลืนจางเทาและคนอื่น ๆ รู้สึกหวาดกลัว“ไม่ต้องกังวล ยาตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงมากนัก พวกนายแค่ต้องกินยาแก้พิษปีละครั้ง ไม่อย่างนั้นเลือดจะออกจากทวารทั้งเจ็ดจนตาย”“ถ้าพวกแกหยุดทำความชั่วภายในหนึ่งปี ฉันจะให้ยาถอนพิษ”“แน่นอนว่าพวกแกจะไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ได้ แต่พวกเขาก็จะบอกพวกแกอย่างแน่นอนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ”จางเทาและคนอื่น ๆ ต่างก็ดูซีดเซียวหลังจากที่เห็นว่าเย่ซิวน่ากลัวเพียงใด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 15

    ในที่สุด ตามคำร้องขออย่างจริงใจของเถ้าแก่ เย่ซิวก็ยอมรับซองสีแดงมูลค่าสองพันหยวนมาไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้กินอาหารฟรี แถมยังได้เงินสองพันหยวนเย่ซิวยืนขึ้น เขากินจนเกือบจะอิ่มแล้ว และก็พร้อมที่จะไปทักทายลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้วแต่ทันทีที่เขาลุกขึ้น เขาเห็นหวังเฟยผลักประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเพื่อนอยู่ในห้องส่วนตัว หลี่เยี่ยนคีบอาหารให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น ในตอนที่เธอไม่ได้สนใจ เธอจึงโยนยาเม็ดเล็ก ๆ ลงในชาม และยาก็ละลายทันที“เสวี่ยเอ๋อร์ ลองนี่ดูสิ อร่อยนะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กินเข้าไปพลางสงสัยเล็กน้อย “ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้เธอแปลก ๆ?”“ไม่หรอก เธอคิดมากไปแล้ว รีบกินเร็วเข้า อร่อยนะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์สับสนและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งใดเธอหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาแล้วอยากจะกินเนื้ออีกชิ้นแต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกอ่อนแรงจนตะเกียบตกจากนิ้วปึง! ปึง!ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลี่เยี่ยนลุกขึ้นไปเปิดประตู และพาหวังเฟยเข้ามาลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีในใจ แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาสติของเธอเอา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 16

    โคมไฟประดับส่องแสงสว่างกลางเมืองในยามค่ำคืนเย่ซิวและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ริมถนนเส้นใหญ่ บุรุษรูปงามและสตรีผู้มีลักษณะโดดเด่น สำหรับคนภายนอกที่มองมา พวกเขาดูเหมือนคู่กิ่งทองใบหยกลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลูบผมบนหน้าผากของเธอให้เรียบ มองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เปียกชื้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมาก “เพื่อนนักศึกษา ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย”“ผมชื่อเย่ซิว”แสงในดวงตาของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สว่างวาบขึ้นอีกเล็กน้อย “ขอบใจสำหรับเรื่องวันนี้มากนะเพื่อนนักศึกษาเย่ ถ้าไม่มีนาย ทั้งชีวิตของฉันคงพังไปแล้ว”“ไม่เป็นไรหรอก จริง ๆ แล้วผมเองก็มีจุดประสงค์ที่ช่วยคุณ” เย่ซิวบอกความจริง“หา?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อุทาน ความคิดของเธอแตกกระจายออกไปนึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่เย่ซิวชวนเธอไปกินข้าว หรือว่าเพราะเขาชอบเธอ เลยทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้วจากนั้นก็จะขอเธอเป็นแฟน?ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แอบมองเย่ซิว แล้วจึงรีบเบือนหน้าหนีใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อยหัวใจของเธอสับสน ‘ทำยังไงดี? เขาเพิ่งช่วยฉันไว้ ดูเหมือนจะค่อยไม่ดีนักถ้าฉันไม่ตกลงเป็นแฟนของเขา อีกทั้งเพื่อนนักศึกษาเย่ก็ดูหล่อและนิสัยดีมาก…’ขณะที่เธอกำลังสับ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 17

    ตอนนี้ความสำคัญของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่อยู่ในใจเย่ซิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วดังนั้นเขาจึงไปส่งลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับบ้านด้วยตัวเองหลังจากถูกหลี่เยี่ยนหักหลัง เธอก็ไม่สามารถอยู่ในหอพักเดิมได้อีกต่อไป และทำได้เพียงไปเช่าห้องข้างนอกแทน“พรุ่งนี้เดี๋ยวผมจะไปหาห้องเช่าเป็นเพื่อนคุณนะ” เย่ซิวพูดบนรถแท็กซี่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มหวาน “ไม่ต้องหรอก ฉันมีอพาร์ตเมนต์หลายที่ใกล้มหาลัย”เย่ซิวอึ้งไปเขาคงร้อนใจไปเองเมื่อรถแล่นไปได้ครึ่งทาง เย่ซิวก็ลดกระจกมองไปทางขวา เห็นว่ามีรถสีขาวคันหนึ่งขับมาขนาบข้างคนขับเป็นผู้หญิงผมสั้นที่แลดูมีความสามารถจากสายตาของเย่ซิว เขาสามารถบอกได้เลยว่านี่คือผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก“คุณรู้จักเธอหรือเปล่า?” เย่ซิวชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นพลางถามลู่เสวี่ยเอ๋อร์ผู้หญิงคนนั้นติดตามพวกเขามาตลอดทาง แต่ไม่ได้แสดงรัศมีที่เป็นอันตรายต่อพวกเขาเลยลู่เสวี่ยเอ๋อร์เอียงตัวมองออกไปนอกหน้าต่างรถ จู่ ๆ ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย “พี่หมิ่นหมิ่นน่ะ เธอมาที่นี่เพื่อปกป้องฉันโดยเฉพาะ เมื่อสองวันก่อนเธอต้องไปทำธุระ ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันก็คงจะไม่…”เย่ซิวพยักหน้า ขอแค่ไม่ใช่ศัตรูก็ไม่เป็นไร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 18

    แม้จะเผชิญกับการถูกเยาะเย้ยจากคนเหล่านี้ เย่ซิวก็ไม่โกรธและยังคงมีท่าทีสงบ“ผมไม่อยากทำร้ายพวกคุณจริง ๆ กรุณาถอยออกไปเถอะ”สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างแท้จริงจะไม่โจมตีผู้อ่อนแอเย่ซิวเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา แต่ในสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ พวกเขากลับคิดว่าเย่ซิวขี้ขลาดดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวไร้ศีลธรรมมากยิ่งขึ้น“เจ้าหนู ถึงตอนนี้ยังจะเสแสร้งอยู่อีกเหรอ?!”“ฉันล่ะอยากจะผ่าหัวของแกออกมาดูจริง ๆ มีอะไรอยู่ข้างในกันนะ ทำไมถึงทำให้แกหยิ่งยโสได้ขนาดนี้!”“จะไปเสียเวลาพูดคุยไร้สาระอะไรกับมันนักหนา? นายใหญ่จ้าวบอกว่าถ้ามือและเท้าของมันหัก ทุกคนจะได้รางวัลคนละหนึ่งหมื่นหยวนเชียวนะ!”“ช่วยกันฆ่ามันซะ!”……ด้วยแรงขับจากเงิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้จึงโบกแท่งเหล็กแข็งในมืออย่างแรงทันทีหมายจะฟาดศีรษะของเย่ซิว เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ในห้องของตระกูลจ้าว จ้าวเฟิงและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมา“ดู ๆ แล้วมันคงจะเป็นพวกท่าดีทีเหลว!”“ทำมาเป็นพูดว่าไม่อยากทำร้ายใคร ก็แค่ข้ออ้างเพราะจะหนีเท่านั้นแหละ”“ใครก็ได้เอาขวดไวน์ที่ฉันเก็บไว้ออกมาให้ที คืนนี้อยากจะฉลอง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 19

    “เด็กนั่นยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลยนะ!”“เขาไม่ใช่จอมยุทธระดับสามในขั้นต้นหรือขั้นกลาง แต่นี่มันขั้นสูงเลยด้วยซ้ำ!”ทุกคนในห้องโถงทั้งหมดลุกขึ้นจากที่นั่งและมองดูฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อความตกใจที่เย่ซิวสร้างขึ้นแก่พวกเขานั้นรุนแรงเกินไปจริง ๆขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึง เย่ซิวก็เดินเข้ามาดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอย่างไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามเหมือนตอนแรกอีกต่อไป แต่มองด้วยความเคร่งขรึมอย่างลึกซึ้งแทนไม่ว่าเขาจะอายุเท่าใด แต่ความแข็งแกร่งที่เย่ซิวแสดงออกมาตอนนี้ทำให้พวกเขาทุกคนตกใจจินหลงมองไปที่เย่ซิวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อาจารย์ของแกเป็นใครกัน?!”คนที่จะสั่งสอนเย่ซิวเจ้าเด็กสัตว์ประหลาดนี่ได้ ต้องไม่ใช่ตาสีตาสาคนธรรมดาทั่วไปในเวลานี้ จินหลงและจินหู่ต่างก็เสียใจที่มาที่นี่หากมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังเย่ซิว พวกเขาจะต้องประสบปัญหาใหญ่แน่นอนเมื่อได้ฟังคำถามของจินหลง เย่ชิวก็พูดอย่างเนิบ ๆ “คุณไม่คู่ควรที่จะได้รู้”อาจารย์ของเขาเตือนเขาไว้นานแล้ว ว่าอย่าเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองไม่ว่าในกรณีใดใดเย่ซิวยึดมั่นในเรื่องนี้มาโดยตลอด และไม่ได้พูดออกไปจินหลงโกรธมาก “ไอ้เด็กนี่! ไม่ไว

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 574

    ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 573

    ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 572

    ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 571

    “เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 570

    เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 569

    “นี่มันไม่เหมาะสมนะ ไอ้คนผีทะเล ปล่อยฉัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะ!”ถังเขอเข่อพยายามดิ้นสุดชีวิต ปลายผมมัดแกละทั้งสองข้างสะบัดไปมาอย่างแรงโครม!เย่ซิววางเธอลงบนโซฟาเบา ๆ ด้วยสีหน้าเอือมระอา “เงียบได้แล้ว คุณนี่เล่นใหญ่จริง ๆ ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณสักหน่อย”ถังเขอเข่อขดตัวพลางมองเย่ซิวด้วยสายตาหวาดระแวง “ยังจะบอกว่าไม่คิดอะไรอีกเหรอ สายตาคุณมันฟ้องถึงความหื่นกระหายลึก ๆ ในใจคุณหมดแล้วคุณอยากได้ฉันล่ะสิ ฮือฮือฮือ คุณปู่ช่วยหนูด้วย”เย่ซิวได้แต่ยกมือกุมขมับพลางถอนหายใจ ก่อนหยิบขวดยาโยนให้เธอ “คุณรู้จักจอมยุทธ์ใช่ไหม?”ถังเขอเข่อพยักหน้า “รู้สิ”“โอสถนี่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย คุณกินมันตอนนี้เลย เดี๋ยวผมจะช่วยคุณบำเพ็ญและซึมซับยาให้ไวขึ้น ถ้าคุณไม่มีพลังป้องกันตัวเลย การถือสิทธิบัตรสำคัญในมือแบบนี้มันอันตรายเกินไป”ถังเขอเข่อรับขวดยามาด้วยความสงสัย “แค่กินยาไม่กี่เม็ดจะทำให้ฉันกลายเป็นจอมยุทธ์ยอดฝีมือได้เลยเหรอ?”“แน่นอนว่าไม่ได้” เย่ซิวตอบเรียบ ๆ “แต่จะทำให้คุณหุ่นดีขึ้น ผิวขาวขึ้น เส้นผมก็เงางามขึ้นด้วย”เย่ซิวรู้เรื่องนี้มาได้สักพักแล้วถ้าอยากให้ผู้หญิงหันมาสน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 568

    ถังเขอเข่อมองเย่ซิวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “เมื่อกี้นี้ฉันรบกวนคุณหรือเปล่านะ”เย่ซิวตอบกลับ “ถูกต้อง แล้วคุณจะชดเชยยังไงดีล่ะ?”ถังเขอเข่อตกใจก่อนจะรีบถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความระวัง “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นนะ”เย่ซิวหัวเราะลั่น “ไม่ล้อคุณแล้ว รีบพาผมไปดูผลงานเถอะ”หากหุ่นยนต์นี้ทำสำเร็จ เขาก็จะสามารถเริ่มต้นแผนการที่ยิ่งใหญ่ของเขาได้ทันทีถังเขอเข่อพาเย่ซิวเข้าไปในโรงงาน มุ่งหน้าไปยังส่วนที่ใช้สำหรับผลิตแบตเตอรี่รุ่นใหม่เย่ซิวเห็นแบตเตอรี่สีดำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจำนวนมาก โดยที่ปลายด้านหนึ่งมีสายเชื่อมต่ออยู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ถังเขอเข่ออธิบาย “อย่าดูถูกเจ้าแบตเตอรี่นี่เพราะมันขนาดเล็กเชียว ถ้าเอาไปติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้า มันจะสามารถวิ่งได้ไกลถึงห้าร้อยกิโลเมตรเลยล่ะ”เย่ซิวหรี่ตาอย่างไม่เชื่อแบตเตอรี่อันแค่นี้จะทำให้รถวิ่งไกลขนาดนั้นได้จริงเหรอ?เมื่อเห็นสายตาของเย่ซิว ถังเขอเข่อก็รู้ว่าเขายังไม่เชื่อ เธอจึงเอ่ย “ฉันให้ติดตั้งแบตเตอรี่ในหุ่นยนต์แล้ว ลองดูไหมล่ะ?”เย่ซิวพยักหน้าถังเขอเข่อปีนขึ้นไปบนหุ่นยนต์และเริ่มใช้งานอย่างคล่องแคล่วครั้งนี้ไม่มี

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 567

    “ฉันก็อยากบำเพ็ญตนกับนายบ้าง” หลิวอวิ้นเอ่ยพร้อมกับส่งสายตายั่วยวน“อืม…” เย่ซิวแสร้งทำเป็นลังเล “ต้องดูว่าคุณจะทำให้ผมประทับใจได้ยังไง”หลิวอวิ้นบิดเอวอย่างเซ็กซี่ พลางเดินเข้าหาเย่ซิวทีละก้าวเอวของเธอไม่ได้บางเฉียบ ดูมีเนื้อมีหนัง แต่ไม่อ้วนเกินไปและสมส่วนพอดี ผู้หญิงในวัยนี้แหละที่มีเสน่ห์ที่สุดเธอเริ่มเต้นโพลแดนซ์โดยไม่มีเสาอยู่ตรงหน้าเย่ซิวใครที่รู้จักโพลแดนซ์ก็คงเข้าใจดีว่ามันเป็นการเต้นแบบไหนเย่ซิวไม่คิดเลยว่าหลิวอวิ้นจะยอมไปเรียนเต้นแบบนี้เพื่อทำให้เขาประทับใจร่างกายของเธอยืดหยุ่นและนุ่มนวล ราวกับงูน้ำที่เลื้อยอย่างไร้ข้อต่อหลิวอวิ้นเลื้อยมาถึงตัวเขา ก่อนกระซิบข้างหูเบา ๆ “ฉันมีความคิดที่บ้าบิ่นนิดหน่อย นายกล้าลองไหมล่ะ?”เย่ซิวเลิกคิ้ว “ไหนว่ามาสิ”หลิวอวิ้นยิ้มขำ “ให้ฉันบำเพ็ญตนกับนายพร้อมกับเสวี่ยเอ๋อร์ไงล่ะ”“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” เย่ซิวมองเธออย่างไม่อยากเชื่อ “ถ้าเธอรู้เข้า ความสัมพันธ์ของพวกคุณได้พังแน่”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยอมให้เขาบำเพ็ญตนกับสาว ๆ คนอื่นได้ แต่คงไม่มีทางยอมบำเพ็ญตนพร้อมกับหลิวอวิ้นแน่นอนแต่สิ่งที่เธอพูดก็ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อเห็นใบ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 566

    เมื่อควบคุมพิษในตัวได้แล้ว ก็โทรหาพี่สาวแล้วบอกเธอว่าคิดถึง ตอนนี้พี่สาวเธอเป็นหนึ่งในคนสำคัญของเย่ซิวแล้วขอแค่ลดทิฐิลงสักนิดและกลับไปอย่างว่าง่าย จากนั้นก็ค่อยหาโอกาสเข้าใกล้เย่ซิว แล้วเรื่องวางยาพิษจะกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ”คำพูดนี้ทำให้เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวั่นไหว“ตกลง ฉันจะทำ!”คิดเพียงไม่นานเธอก็ตอบตกลงในทันที ในช่วงเวลาที่อยู่กับสำนักเบญจพิษ ความแค้นของเธอที่มีต่อเย่ซิวก็เริ่มสะสมขึ้นเรื่อย ๆตอนนี้ก็มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว เธอไม่คิดจะปล่อยให้หลุดมือไปแน่นอน“ดี งั้นฉันขอให้เธอประสบความสำเร็จเร็ว ๆ ก็แล้วกัน!”สายลมพัดผ่านอีกครั้ง คุณลี่ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเซี่ยชิงชิงกำยาพิษในมือแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาต “เย่ซิว เราจะได้เห็นดีกัน!”……คืนนี้สาว ๆ หลายคนกลับมาที่บ้านกันหมดส่วนเย่ซิวก็กลับมาถึงบ้านเร็วกว่าปกติหนึ่งชั่วโมง พอเห็นเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น สาว ๆ ต่างทิ้งท่าทีสำรวมและมาล้อมรอบเขากลิ่นหอมจากร่างกายของพวกเธอลอยมาแตะจมูกทันที กระตุ้นให้เลือดในกายเย่ซิวสูบฉีดเร็วขึ้นระหว่างที่กลับบ้าน เย่ซิวได้แวะไปสวนสมุนไพรเพื่อเก็บเครื่องยาสมุนไพรจำนวนมากมากลั่นเ

DMCA.com Protection Status