แชร์

บทที่ 14

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ฟุ่บ! ฟุ่บ!

จางเทาและคนอื่น ๆ คุกเข่าลงตรงนั้นและรีบคำนับอย่างรวดเร็ว

แม้แต่คนที่ดุร้ายอย่างหมาป่าตาเดียวยังถูกเย่ซิวเล่นเสียน่วมแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย

“พี่ใหญ่ พวกเราผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ”

“อย่าฆ่าผมเลย ผมยังมีพ่อแม่มีพี่น้องต้องดูแล คิดเสียว่าฉันเป็นลูหมาตัวหนึ่ง แล้วปล่อยผมไปเถอะ”

“พี่ใหญ่ ถ้าพี่ไว้ชีวิตผม ผมจะแนะนำน้องสาวให้รู้จัก ผมยกแฟนตัวเองให้พี่เลยก็ยังได้”

……

ดวงตาของเย่ซิวเย็นชา คนเหล่านี้ไม่สมควรตาย แต่ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ง่าย ๆ

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบยาหนึ่งเม็ดออกมาจากกระเป๋าแล้วบดมัน

จากนั้นเขาก็เปิดปากคนเหล่านี้อย่างไร้ความปราณี พลางยัดยาเข้าไป และบังคับให้พวกเขากลืน

จางเทาและคนอื่น ๆ รู้สึกหวาดกลัว

“ไม่ต้องกังวล ยาตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงมากนัก พวกนายแค่ต้องกินยาแก้พิษปีละครั้ง ไม่อย่างนั้นเลือดจะออกจากทวารทั้งเจ็ดจนตาย”

“ถ้าพวกแกหยุดทำความชั่วภายในหนึ่งปี ฉันจะให้ยาถอนพิษ”

“แน่นอนว่าพวกแกจะไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ได้ แต่พวกเขาก็จะบอกพวกแกอย่างแน่นอนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ”

จางเทาและคนอื่น ๆ ต่างก็ดูซีดเซียว

หลังจากที่เห็นว่าเย่ซิวน่ากลัวเพียงใด จึงเผลอเชื่อไปว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง

“จริงสิ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชายที่ชื่อหวังเฟยหรือเปล่า?” เย่ซิวถาม

จางเทาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “เป็นเขาครับเป็นเขา เขาสั่งให้พวกเราทำทุกอย่าง ถ้าพี่ต้องการแก้แค้นก็ไปหาเขา พวกเราไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย”

เย่ซิวที่ได้รู้ว่าเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ ก็จากไปโดยไม่ทำให้พวกเขาลำบากอีก

ส่วนยาเม็ดนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายธรรมดาที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์

หลังจากการต่อสู้ เย่ซิวก็รู้สึกหิวเล็กน้อย

“คุณผู้ชายโปรดดูสักหน่อย วันนี้ที่ร้านเรามีงาน ถ้ากินเนื้อแกะได้ยี่สิบจานเต็ม ๆ ก็จะได้กินฟรี”

ใบปลิวถูกส่งใส่มือเย่ซิว

ดวงตาของเขาส่องประกาย

เนื้อแกะยี่สิบจานเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนธรรมดาส่วนใหญ่

แต่สำหรับเย่ซิวนั้นสบายมาก

ในฐานะจอมยุทธ์ระดับเก้า ต้องใช้พลังงานมาก แม้ว่าเขาจะกินแกะทั้งตัวในมื้อเดียวก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

เย่ซิวยิ้ม “เถ้าแก่ยังด้อยประสบการณื อย่างนั้นวันนี้ฉันจะบอกให้รู้ถึงอันตรายในสังคมเอง”

มีที่อยู่ในใบปลิว และเย่ซิวก็หาที่นั่นเจออย่างรวดเร็ว มันเป็นร้านอาหารหม้อไฟหม่าล่าแบบบริการตนเองที่ชื่อว่า 'ขาประจำ'

เมื่อเข้าไปแล้วจึงถามพนักงานอีกครั้งว่าถ้าเขากินเนื้อแกะได้ถึงยี่สิบจาน เขาจะได้กินฟรีนั้นจริงหรือไม่

พนักงานชี้ไปที่จานเนื้อแกะจานใหญ่บนโต๊ะแล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เนื้อแกะนี้หนักจานละหนึ่งกิโลกรัม แต่หวังว่าคุณลูกค้าจะกินเท่าที่ไหวเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อร่างกาย”

เขาเห็นหลายคนแล้วที่มาหวังกินฟรี แต่สุดท้ายก็กินเยอะจนแม้แต่จะเดินกลับก็ยังไม่ไหว

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถท้าทายได้สำเร็จ

“โอเค งั้นเอามาให้ผมหนึ่งชุด”

“ได้ค่ะ งั้นเชิญตามมา ขอเตือนคุณลูกค้าว่าต้องปรุงเครื่องปรุงเองและห้ามเหลือเด็ดขาด หากเหลือมากกว่าเศษหนึ่งส่วนสี่กิโลกรัมก็จะต้องถูกปรับ”

พนักงานนำเย่ซิวไปยังที่นั่งของเขาและเริ่มจุดไฟหม้อไฟให้เขา

จากนั้นเย่ซิวก็ไปหยิบเนื้อแกะมายี่สิบจาน

เหตุการณ์นี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที และคิดว่านั่นน่าประหลาดใจมาก

มีคนไม่น้อยที่ส่ายหน้า

“พ่อหนุ่มนั่นดูผอมไปหน่อย เขาจะกินเยอะขนาดนั้นได้ยังไง?”

“กินทิ้งกินขว้างตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ดีเลย”

พนักงานเห็นดังนั้นจึงเตือนเขาอีกครั้ง “คุณลูกค้า หากคุณเหลืออาหารแม้เพียงครึ่งกิโลกรัม คุณจะถูกปรับเป็นเงินสองร้อยหยวน และหากคุณไม่กินหมด คุณก็จะถูกปรับหลายพันหยวนเลยนะคะ”

เย่ซิวเทจานเนื้อแกะลงในหม้อไฟที่กำลังเดือด พลางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องห่วง ผมจะกินไม่ให้เหลือเลย”

เนื้อแกะถูกตัดเป็นชิ้นบาง ๆ และต้องทำเพียงแค่ลวกเล็กน้อย

เย่ซิวผสมน้ำจิ้มพริกอีกชนิดหนึ่ง จุ่มเนื้อแกะที่ลวกแล้วลงไป แล้วโยนมันเข้าไปในปาก

เป็นรสชาติที่ไม่สามารถจินตนาการได้

“อร่อยมาก”

ท่าทางการกินของเย่ซิวค่อนข้างสง่างาม แต่ไม่ช้าไปนัก

เขากินเนื้อแกะจานหนึ่งไปภายในไม่กี่นาที

จานแล้วจานเล่า

พนักงานและลูกค้าในร้านต่างตกตะลึง

เย่ซิวกินเนื้อแกะยี่สิบจานหมดในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที

เหล่าพนักงานต่างอึ้งเมื่อพบว่าท้องของเย่ซิวนูนขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

ในหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามมากมาย

อาหารทั้งหมดหายไปไหน?

“ตอนนี้ผมกินเนื้อแกะยี่สิบจานหมดแล้ว ตอนนี้ถือว่าได้กินฟรีแล้วรึยัง?” เย่ซิวถาม

มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาชจะโกงในที่สาธารณะ ดังนั้นพนักงานจึงพยักหน้า

“ค่ะใช่ คุณได้กินฟรีแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณไปเถอะ อย่ามาดูผมกินเลย ผมไม่ชิน”

พวกพนักงานออกไปด้วยความตกตะลึง

เย่ซิวยังคงหยิบนู่นจิ้มนี่ต่อไป

หลังจากกินต่ออีกสิบนาที เย่ซิวก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างและเงยหน้ามองไปที่ประตูร้าน

เขาเห็นลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลี่เยี่ยนเดินจับมือกันเข้ามา

เย่ซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้เห็นลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่นี่อีกครั้ง

จากนั้นจิตใจของเขาก็กระตือรือร้นมากขึ้น

รออีกสักพักว่าจะไปทักทายเธอเพื่อดูว่าพอจะมีวิธีตีสนิทเป็นเพื่อนกับเธอได้บ้างไหม

เย่ซิวไม่เคยคิดที่จะใช้วิธีการลักพาตัวเลย

ตั้งแต่เขายังเด็ก อาจารย์สอนเขาเสมอว่าจะต้องไม่ทำสิ่งเลวร้าย

เขาสามารถใช้กำลังเพื่อจัดการกับคนเลวได้ แต่ไม่สามารถใช้กำลังเพื่อทำร้ายคนดีได้

หากผู้มีอำนาจสูญเสียวินัยในตนเอง ไม่ช้าก็เร็ว จะก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่แก่ทั้งสังคม

นอกจากนี้ยังจะเป็นการนำตัวเองไปสู่หุบเหวลึกไร้ก้นอีกด้วย

เพื่อนของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ขอห้องรับรองส่วนตัว ไม่เช่นนั้นเธอจะถูกคนอื่นจับตามองอย่างแน่นอนหากทานอาหารข้างนอก เนื่องด้วยรูปร่างหน้าตาของหญิงสาว

เย่ซิวละสายตาและรู้สึกอิ่มท้อง

ในเวลาไม่ถึงสี่สิบนาที อาหารที่เย่ซิวกินก็มีมูลค่าอย่างน้อยห้าพันหยวนเข้าไปแล้ว

พนักงานที่จ้องมองเขาอยู่ตลอดก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเถ้าแก่

“มีอะไร?” เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นที่ปลายสาย

“แย่แล้วเถ้าแก่ มีลูกค้าที่แข็งแกร่งมากมาที่ร้าน เขากินข้าวเท่ากับจำนวนอาหารชุดของคนไม่ต่ำกว่าสิบคน ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถมาก เถ้าแก่รีบมาดูเร็ว”

“อาหารชุดของคนสิบคนเหรอ? แน่ใจนะว่าจำไม่ผิด?”

“ไม่มีอะไรจริงไปมากกว่านี้แล้ว”

“รอก่อน ฉันจะรีบไป!”

เถ้าแก่วางสายแล้ววิ่งมาที่นี่ทันที

เขาอยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นเขาจึงมาถึงในไม่กี่นาที

ไม่จำเป็นต้องรอให้พนักงานมาชี้ เขาเห็นเย่ซิวตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเข้ามา

ทำอะไรไม่ได้แล้ว โต๊ะของเย่ซิวเต็มไปด้วยจานซึ่งดูน่าตกใจมาก

เถ้าแก่วิ่งเหยาะ ๆ ไปจนไขมันบนใบหน้าสั่น

เมื่อเขาไปถึงโต๊ะของเย่ซิว เขาก็ขอร้องด้วยเสียงทุ้มต่ำ “น้องชาย ร้านของเราอยู่ได้ด้วยกำไรเพียงเล็กน้อย สิ่งที่เธอกินอยู่ตอนนี้เท่ากับยอดขายของร้านครึ่งวัน ถ้าเธอยังกินต่อ ร้านเราคงล้มละลาย กรุณาเมตตาและหยุดกินเถอะนะ”

เย่ซิวไม่พอใจเล็กน้อย “พวกคุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะได้กินฟรี? หรือไม่อยากให้ผมกินแล้ว?”

มุมปากของเถ้าแก่กระตุกขึ้น เขากัดฟันพูด “งั้นเอาแบบนี้เถอะ น้องชายไปที่ร้านหม้อไฟตรงข้ามแล้วฉันจะให้เงินเธออีกสองพันหยวน ว่ายังไง?”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 15

    ในที่สุด ตามคำร้องขออย่างจริงใจของเถ้าแก่ เย่ซิวก็ยอมรับซองสีแดงมูลค่าสองพันหยวนมาไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้กินอาหารฟรี แถมยังได้เงินสองพันหยวนเย่ซิวยืนขึ้น เขากินจนเกือบจะอิ่มแล้ว และก็พร้อมที่จะไปทักทายลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้วแต่ทันทีที่เขาลุกขึ้น เขาเห็นหวังเฟยผลักประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเพื่อนอยู่ในห้องส่วนตัว หลี่เยี่ยนคีบอาหารให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น ในตอนที่เธอไม่ได้สนใจ เธอจึงโยนยาเม็ดเล็ก ๆ ลงในชาม และยาก็ละลายทันที“เสวี่ยเอ๋อร์ ลองนี่ดูสิ อร่อยนะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กินเข้าไปพลางสงสัยเล็กน้อย “ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้เธอแปลก ๆ?”“ไม่หรอก เธอคิดมากไปแล้ว รีบกินเร็วเข้า อร่อยนะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์สับสนและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งใดเธอหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาแล้วอยากจะกินเนื้ออีกชิ้นแต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกอ่อนแรงจนตะเกียบตกจากนิ้วปึง! ปึง!ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลี่เยี่ยนลุกขึ้นไปเปิดประตู และพาหวังเฟยเข้ามาลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีในใจ แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาสติของเธอเอา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 16

    โคมไฟประดับส่องแสงสว่างกลางเมืองในยามค่ำคืนเย่ซิวและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ริมถนนเส้นใหญ่ บุรุษรูปงามและสตรีผู้มีลักษณะโดดเด่น สำหรับคนภายนอกที่มองมา พวกเขาดูเหมือนคู่กิ่งทองใบหยกลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลูบผมบนหน้าผากของเธอให้เรียบ มองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เปียกชื้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมาก “เพื่อนนักศึกษา ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย”“ผมชื่อเย่ซิว”แสงในดวงตาของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สว่างวาบขึ้นอีกเล็กน้อย “ขอบใจสำหรับเรื่องวันนี้มากนะเพื่อนนักศึกษาเย่ ถ้าไม่มีนาย ทั้งชีวิตของฉันคงพังไปแล้ว”“ไม่เป็นไรหรอก จริง ๆ แล้วผมเองก็มีจุดประสงค์ที่ช่วยคุณ” เย่ซิวบอกความจริง“หา?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อุทาน ความคิดของเธอแตกกระจายออกไปนึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่เย่ซิวชวนเธอไปกินข้าว หรือว่าเพราะเขาชอบเธอ เลยทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้วจากนั้นก็จะขอเธอเป็นแฟน?ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แอบมองเย่ซิว แล้วจึงรีบเบือนหน้าหนีใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อยหัวใจของเธอสับสน ‘ทำยังไงดี? เขาเพิ่งช่วยฉันไว้ ดูเหมือนจะค่อยไม่ดีนักถ้าฉันไม่ตกลงเป็นแฟนของเขา อีกทั้งเพื่อนนักศึกษาเย่ก็ดูหล่อและนิสัยดีมาก…’ขณะที่เธอกำลังสับ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 17

    ตอนนี้ความสำคัญของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่อยู่ในใจเย่ซิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วดังนั้นเขาจึงไปส่งลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับบ้านด้วยตัวเองหลังจากถูกหลี่เยี่ยนหักหลัง เธอก็ไม่สามารถอยู่ในหอพักเดิมได้อีกต่อไป และทำได้เพียงไปเช่าห้องข้างนอกแทน“พรุ่งนี้เดี๋ยวผมจะไปหาห้องเช่าเป็นเพื่อนคุณนะ” เย่ซิวพูดบนรถแท็กซี่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มหวาน “ไม่ต้องหรอก ฉันมีอพาร์ตเมนต์หลายที่ใกล้มหาลัย”เย่ซิวอึ้งไปเขาคงร้อนใจไปเองเมื่อรถแล่นไปได้ครึ่งทาง เย่ซิวก็ลดกระจกมองไปทางขวา เห็นว่ามีรถสีขาวคันหนึ่งขับมาขนาบข้างคนขับเป็นผู้หญิงผมสั้นที่แลดูมีความสามารถจากสายตาของเย่ซิว เขาสามารถบอกได้เลยว่านี่คือผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก“คุณรู้จักเธอหรือเปล่า?” เย่ซิวชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นพลางถามลู่เสวี่ยเอ๋อร์ผู้หญิงคนนั้นติดตามพวกเขามาตลอดทาง แต่ไม่ได้แสดงรัศมีที่เป็นอันตรายต่อพวกเขาเลยลู่เสวี่ยเอ๋อร์เอียงตัวมองออกไปนอกหน้าต่างรถ จู่ ๆ ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย “พี่หมิ่นหมิ่นน่ะ เธอมาที่นี่เพื่อปกป้องฉันโดยเฉพาะ เมื่อสองวันก่อนเธอต้องไปทำธุระ ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันก็คงจะไม่…”เย่ซิวพยักหน้า ขอแค่ไม่ใช่ศัตรูก็ไม่เป็นไร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 18

    แม้จะเผชิญกับการถูกเยาะเย้ยจากคนเหล่านี้ เย่ซิวก็ไม่โกรธและยังคงมีท่าทีสงบ“ผมไม่อยากทำร้ายพวกคุณจริง ๆ กรุณาถอยออกไปเถอะ”สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างแท้จริงจะไม่โจมตีผู้อ่อนแอเย่ซิวเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา แต่ในสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ พวกเขากลับคิดว่าเย่ซิวขี้ขลาดดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวไร้ศีลธรรมมากยิ่งขึ้น“เจ้าหนู ถึงตอนนี้ยังจะเสแสร้งอยู่อีกเหรอ?!”“ฉันล่ะอยากจะผ่าหัวของแกออกมาดูจริง ๆ มีอะไรอยู่ข้างในกันนะ ทำไมถึงทำให้แกหยิ่งยโสได้ขนาดนี้!”“จะไปเสียเวลาพูดคุยไร้สาระอะไรกับมันนักหนา? นายใหญ่จ้าวบอกว่าถ้ามือและเท้าของมันหัก ทุกคนจะได้รางวัลคนละหนึ่งหมื่นหยวนเชียวนะ!”“ช่วยกันฆ่ามันซะ!”……ด้วยแรงขับจากเงิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้จึงโบกแท่งเหล็กแข็งในมืออย่างแรงทันทีหมายจะฟาดศีรษะของเย่ซิว เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ในห้องของตระกูลจ้าว จ้าวเฟิงและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมา“ดู ๆ แล้วมันคงจะเป็นพวกท่าดีทีเหลว!”“ทำมาเป็นพูดว่าไม่อยากทำร้ายใคร ก็แค่ข้ออ้างเพราะจะหนีเท่านั้นแหละ”“ใครก็ได้เอาขวดไวน์ที่ฉันเก็บไว้ออกมาให้ที คืนนี้อยากจะฉลอง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 19

    “เด็กนั่นยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลยนะ!”“เขาไม่ใช่จอมยุทธระดับสามในขั้นต้นหรือขั้นกลาง แต่นี่มันขั้นสูงเลยด้วยซ้ำ!”ทุกคนในห้องโถงทั้งหมดลุกขึ้นจากที่นั่งและมองดูฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อความตกใจที่เย่ซิวสร้างขึ้นแก่พวกเขานั้นรุนแรงเกินไปจริง ๆขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึง เย่ซิวก็เดินเข้ามาดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอย่างไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามเหมือนตอนแรกอีกต่อไป แต่มองด้วยความเคร่งขรึมอย่างลึกซึ้งแทนไม่ว่าเขาจะอายุเท่าใด แต่ความแข็งแกร่งที่เย่ซิวแสดงออกมาตอนนี้ทำให้พวกเขาทุกคนตกใจจินหลงมองไปที่เย่ซิวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อาจารย์ของแกเป็นใครกัน?!”คนที่จะสั่งสอนเย่ซิวเจ้าเด็กสัตว์ประหลาดนี่ได้ ต้องไม่ใช่ตาสีตาสาคนธรรมดาทั่วไปในเวลานี้ จินหลงและจินหู่ต่างก็เสียใจที่มาที่นี่หากมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังเย่ซิว พวกเขาจะต้องประสบปัญหาใหญ่แน่นอนเมื่อได้ฟังคำถามของจินหลง เย่ชิวก็พูดอย่างเนิบ ๆ “คุณไม่คู่ควรที่จะได้รู้”อาจารย์ของเขาเตือนเขาไว้นานแล้ว ว่าอย่าเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองไม่ว่าในกรณีใดใดเย่ซิวยึดมั่นในเรื่องนี้มาโดยตลอด และไม่ได้พูดออกไปจินหลงโกรธมาก “ไอ้เด็กนี่! ไม่ไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 20

    “วิ่ง วิ่งเร็ว!”“นี่มันสัตว์ประหลาดชัด ๆ!”ตระกูลจ้าวสามรุ่นขวัญหนีดีฝ่อกันหมดสิบนาทีที่แล้ว ไม่ว่าจินตนาการของพวกเขาจะทรงพลังเพียงใดพวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเย่ซิวจะสามารถฆ่าจินหลงและจินหู่ลงได้อีกทั้งพวกเขายังบรรลุไปอีกระดับแล้วด้วยนั่นคือจอมยุทธระดับสี่ แต่พวกเขากลับถูกฆ่าลงอย่างง่ายดายผลกระทบต่อพวกเขาทั้งสามนั้นใหญ่หลวงมากพวกเขาหมดหวังและต้องการหลบหนีโดยเร็วที่สุดก่อนที่พวกเขาจะหลบหนีไปได้ไกล ก็เกิดเสียงดังขึ้น ข้อเข่าของพวกเขาถูกเย่ซิ่วขว้างถ้วยใส่ จนต้องคุกเข่าลงกับพื้นทั้งสามคนหันกลับมาอย่างรวดเร็วและโค้งคำนับให้กับเย่ซิว“ผู้อาวุโสเย่ ปล่อยพวกเราไปเถอะ”“พวกเราผิดไปแล้ว พวกเรามีตาหามีแววไม่ เราไม่ควรไปยั่วยุคุณเลย ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”“สองร้อยล้าน ไม่สิ พวกเราจะให้เงินหนึ่งพันล้านเป็นค่าชดเชย โปรดอย่าได้ถือสาความผิดของพวกเราเลย”ขณะนี้จ้าวจางและคนอื่น ๆ หวาดผวาอย่างยิ่งและได้ละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มีไปแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียใจที่ไหลเวียนอยู่ในอกของจ้าวเฉียนที่เป็นเหมือนกับแม่น้ำอันเชี่ยวกรากถ้าเขาไม่โลภกลัวที่จะสูญเสียส่วนแบ่งของเย่ซิว เรื่อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 21

    เซี่ยซิ่วซิ่วคิดหนักเชื่อมโยงไปถึงเย่ซิวอย่างรวดเร็ว “คุณปู่อยากให้หนูแต่งงานกับเย่ซิวเหรอคะ?”“ใช่” ใบหน้าของเซี่ยเจี๋ยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “คิดไม่ถึงว่าคนอย่างปู่จะได้เห็นมังกรหนุ่มตอนอายุปูนนี้!”การประเมินที่สูงเช่นนี้เพิ่มความอยากรู้อยากเห็นของเซี่ยซิ่วซิ่วอย่างมาก เธออดไม่ได้ที่จะถาม “คุณปู่ ในสายเมื่อครู่คุยเรื่องอะไรกันเหรอคะ ถึงได้ทำให้ท่าทีของคุณปู่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?”เซี่ยเจี๋ยถอนหายใจ “หลี่ฮ่าวโทรมาเมื่อกี้ บอกว่าน้องชายเย่เอาชนะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างกำยำที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลจ้าวจำนวนมากกว่าสองร้อยคนเพียงลำพัง!”“ยิ่งไปกว่านั้น ครึ่งหนึ่งของพวกเขายังถือธนูหน้าไม้สามดอกอีกด้วย!”เซี่ยซิ่วซิ่วอุทาน ดวงตาได้รูปสวยเต็มไปด้วยความตกตะลึงเธอเกิดในตระกูลจอมยุทธ์และฝึกฝนวรยุทธ์ด้วยตัวเอง พลังของเธออยู่ในระดับทั่วไป แม้แต่การเป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่งเธอก็ยังไม่สามารถบรรลุได้แต่เธอรู้แน่ชัดว่าคนที่สามารถเอาชนะชายที่แข็งแกร่งสองร้อยคนได้ด้วยตัวเอง แถมอีกครึ่งหนึ่งยังถือหน้าไม้ที่ทรงพลังคน ๆ นั้นจะต้องมีพลังแข็งแกร่งไม่ธรรมดาเพียงใด“หรือเขาจะเป็นจอมยุทธ์ระ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 22

    พวกเขาเกือบจะฝ่าไฟแดงและมาถึงบ้านตระกูลจ้าวในเวลาอันสั้น“กระจายกันออกไปและล้อมรอบตระกูลจ้าวเอาไว้ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป และไม่อนุญาตให้ใครออกมาทั้งนั้น!”จากนั้นหัวหน้าสถานีก็ถือหน้าไม้ไว้ในมือและรีบเข้าไปก่อนเสียงกรีดร้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กองอยู่บนพื้นทำให้หัวหน้าสถานีดูมืดมนราวกับแม่น้ำลึกเมื่อเขาเข้าไปในห้องโถง ภาพที่เห็นทำให้เขาสะเทือนใจอย่างมาก“ใครกันที่โหดร้ายและอาจหาญได้ขนาดนี้?!”สมาชิกในทีมคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นภาพนี้“ชั่วช้ามาก พวกเราต้องตามหาคนร้ายและนำตัวพวกนั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้!”“ใช่! นี่ถือเป็นการท้าทายความยิ่งใหญ่ของสถานีของเรา!”หัวหน้าโบกมือเพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง “กระจายไปรอบ ๆ และจำไว้ว่าอย่าแตะร่องรอยใดใดในสถานที่เกิดเหตุ แล้วรอให้ทีมนิติเวชมาตรวจสอบดู”“หัวหน้า รีบมาดูเร็ว มีสัญลักษณ์อะไรอยู่ตรงนี้ด้วย!”สมาชิกในทีมคนหนึ่งชี้ไปยังลวดลายที่เย่ซิววาดบนผนังแล้วหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปหัวหน้ามองตามไปแค่มองดู ม่านตาของเขาก็หดตัวทันที พลางรีบตะโกน “หยุด อย่าถ่ายรูป!”หัวหน้าวิ่งไปที่กำแพงและมองดูใกล้ ๆ

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 878

    ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 877

    อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 876

    หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 875

    อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 874

    อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 873

    “บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 872

    พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 871

    เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 870

    ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status