Share

บทที่ 14

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ฟุ่บ! ฟุ่บ!

จางเทาและคนอื่น ๆ คุกเข่าลงตรงนั้นและรีบคำนับอย่างรวดเร็ว

แม้แต่คนที่ดุร้ายอย่างหมาป่าตาเดียวยังถูกเย่ซิวเล่นเสียน่วมแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย

“พี่ใหญ่ พวกเราผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ”

“อย่าฆ่าผมเลย ผมยังมีพ่อแม่มีพี่น้องต้องดูแล คิดเสียว่าฉันเป็นลูหมาตัวหนึ่ง แล้วปล่อยผมไปเถอะ”

“พี่ใหญ่ ถ้าพี่ไว้ชีวิตผม ผมจะแนะนำน้องสาวให้รู้จัก ผมยกแฟนตัวเองให้พี่เลยก็ยังได้”

……

ดวงตาของเย่ซิวเย็นชา คนเหล่านี้ไม่สมควรตาย แต่ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ง่าย ๆ

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบยาหนึ่งเม็ดออกมาจากกระเป๋าแล้วบดมัน

จากนั้นเขาก็เปิดปากคนเหล่านี้อย่างไร้ความปราณี พลางยัดยาเข้าไป และบังคับให้พวกเขากลืน

จางเทาและคนอื่น ๆ รู้สึกหวาดกลัว

“ไม่ต้องกังวล ยาตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงมากนัก พวกนายแค่ต้องกินยาแก้พิษปีละครั้ง ไม่อย่างนั้นเลือดจะออกจากทวารทั้งเจ็ดจนตาย”

“ถ้าพวกแกหยุดทำความชั่วภายในหนึ่งปี ฉันจะให้ยาถอนพิษ”

“แน่นอนว่าพวกแกจะไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ได้ แต่พวกเขาก็จะบอกพวกแกอย่างแน่นอนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ”

จางเทาและคนอื่น ๆ ต่างก็ดูซีดเซียว

หลังจากที่เห็นว่าเย่ซิวน่ากลัวเพียงใด จึงเผลอเชื่อไปว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง

“จริงสิ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชายที่ชื่อหวังเฟยหรือเปล่า?” เย่ซิวถาม

จางเทาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “เป็นเขาครับเป็นเขา เขาสั่งให้พวกเราทำทุกอย่าง ถ้าพี่ต้องการแก้แค้นก็ไปหาเขา พวกเราไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย”

เย่ซิวที่ได้รู้ว่าเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ ก็จากไปโดยไม่ทำให้พวกเขาลำบากอีก

ส่วนยาเม็ดนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายธรรมดาที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์

หลังจากการต่อสู้ เย่ซิวก็รู้สึกหิวเล็กน้อย

“คุณผู้ชายโปรดดูสักหน่อย วันนี้ที่ร้านเรามีงาน ถ้ากินเนื้อแกะได้ยี่สิบจานเต็ม ๆ ก็จะได้กินฟรี”

ใบปลิวถูกส่งใส่มือเย่ซิว

ดวงตาของเขาส่องประกาย

เนื้อแกะยี่สิบจานเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนธรรมดาส่วนใหญ่

แต่สำหรับเย่ซิวนั้นสบายมาก

ในฐานะจอมยุทธ์ระดับเก้า ต้องใช้พลังงานมาก แม้ว่าเขาจะกินแกะทั้งตัวในมื้อเดียวก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

เย่ซิวยิ้ม “เถ้าแก่ยังด้อยประสบการณื อย่างนั้นวันนี้ฉันจะบอกให้รู้ถึงอันตรายในสังคมเอง”

มีที่อยู่ในใบปลิว และเย่ซิวก็หาที่นั่นเจออย่างรวดเร็ว มันเป็นร้านอาหารหม้อไฟหม่าล่าแบบบริการตนเองที่ชื่อว่า 'ขาประจำ'

เมื่อเข้าไปแล้วจึงถามพนักงานอีกครั้งว่าถ้าเขากินเนื้อแกะได้ถึงยี่สิบจาน เขาจะได้กินฟรีนั้นจริงหรือไม่

พนักงานชี้ไปที่จานเนื้อแกะจานใหญ่บนโต๊ะแล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เนื้อแกะนี้หนักจานละหนึ่งกิโลกรัม แต่หวังว่าคุณลูกค้าจะกินเท่าที่ไหวเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อร่างกาย”

เขาเห็นหลายคนแล้วที่มาหวังกินฟรี แต่สุดท้ายก็กินเยอะจนแม้แต่จะเดินกลับก็ยังไม่ไหว

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถท้าทายได้สำเร็จ

“โอเค งั้นเอามาให้ผมหนึ่งชุด”

“ได้ค่ะ งั้นเชิญตามมา ขอเตือนคุณลูกค้าว่าต้องปรุงเครื่องปรุงเองและห้ามเหลือเด็ดขาด หากเหลือมากกว่าเศษหนึ่งส่วนสี่กิโลกรัมก็จะต้องถูกปรับ”

พนักงานนำเย่ซิวไปยังที่นั่งของเขาและเริ่มจุดไฟหม้อไฟให้เขา

จากนั้นเย่ซิวก็ไปหยิบเนื้อแกะมายี่สิบจาน

เหตุการณ์นี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที และคิดว่านั่นน่าประหลาดใจมาก

มีคนไม่น้อยที่ส่ายหน้า

“พ่อหนุ่มนั่นดูผอมไปหน่อย เขาจะกินเยอะขนาดนั้นได้ยังไง?”

“กินทิ้งกินขว้างตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ดีเลย”

พนักงานเห็นดังนั้นจึงเตือนเขาอีกครั้ง “คุณลูกค้า หากคุณเหลืออาหารแม้เพียงครึ่งกิโลกรัม คุณจะถูกปรับเป็นเงินสองร้อยหยวน และหากคุณไม่กินหมด คุณก็จะถูกปรับหลายพันหยวนเลยนะคะ”

เย่ซิวเทจานเนื้อแกะลงในหม้อไฟที่กำลังเดือด พลางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องห่วง ผมจะกินไม่ให้เหลือเลย”

เนื้อแกะถูกตัดเป็นชิ้นบาง ๆ และต้องทำเพียงแค่ลวกเล็กน้อย

เย่ซิวผสมน้ำจิ้มพริกอีกชนิดหนึ่ง จุ่มเนื้อแกะที่ลวกแล้วลงไป แล้วโยนมันเข้าไปในปาก

เป็นรสชาติที่ไม่สามารถจินตนาการได้

“อร่อยมาก”

ท่าทางการกินของเย่ซิวค่อนข้างสง่างาม แต่ไม่ช้าไปนัก

เขากินเนื้อแกะจานหนึ่งไปภายในไม่กี่นาที

จานแล้วจานเล่า

พนักงานและลูกค้าในร้านต่างตกตะลึง

เย่ซิวกินเนื้อแกะยี่สิบจานหมดในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที

เหล่าพนักงานต่างอึ้งเมื่อพบว่าท้องของเย่ซิวนูนขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

ในหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามมากมาย

อาหารทั้งหมดหายไปไหน?

“ตอนนี้ผมกินเนื้อแกะยี่สิบจานหมดแล้ว ตอนนี้ถือว่าได้กินฟรีแล้วรึยัง?” เย่ซิวถาม

มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาชจะโกงในที่สาธารณะ ดังนั้นพนักงานจึงพยักหน้า

“ค่ะใช่ คุณได้กินฟรีแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณไปเถอะ อย่ามาดูผมกินเลย ผมไม่ชิน”

พวกพนักงานออกไปด้วยความตกตะลึง

เย่ซิวยังคงหยิบนู่นจิ้มนี่ต่อไป

หลังจากกินต่ออีกสิบนาที เย่ซิวก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างและเงยหน้ามองไปที่ประตูร้าน

เขาเห็นลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลี่เยี่ยนเดินจับมือกันเข้ามา

เย่ซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้เห็นลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่นี่อีกครั้ง

จากนั้นจิตใจของเขาก็กระตือรือร้นมากขึ้น

รออีกสักพักว่าจะไปทักทายเธอเพื่อดูว่าพอจะมีวิธีตีสนิทเป็นเพื่อนกับเธอได้บ้างไหม

เย่ซิวไม่เคยคิดที่จะใช้วิธีการลักพาตัวเลย

ตั้งแต่เขายังเด็ก อาจารย์สอนเขาเสมอว่าจะต้องไม่ทำสิ่งเลวร้าย

เขาสามารถใช้กำลังเพื่อจัดการกับคนเลวได้ แต่ไม่สามารถใช้กำลังเพื่อทำร้ายคนดีได้

หากผู้มีอำนาจสูญเสียวินัยในตนเอง ไม่ช้าก็เร็ว จะก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่แก่ทั้งสังคม

นอกจากนี้ยังจะเป็นการนำตัวเองไปสู่หุบเหวลึกไร้ก้นอีกด้วย

เพื่อนของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ขอห้องรับรองส่วนตัว ไม่เช่นนั้นเธอจะถูกคนอื่นจับตามองอย่างแน่นอนหากทานอาหารข้างนอก เนื่องด้วยรูปร่างหน้าตาของหญิงสาว

เย่ซิวละสายตาและรู้สึกอิ่มท้อง

ในเวลาไม่ถึงสี่สิบนาที อาหารที่เย่ซิวกินก็มีมูลค่าอย่างน้อยห้าพันหยวนเข้าไปแล้ว

พนักงานที่จ้องมองเขาอยู่ตลอดก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเถ้าแก่

“มีอะไร?” เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นที่ปลายสาย

“แย่แล้วเถ้าแก่ มีลูกค้าที่แข็งแกร่งมากมาที่ร้าน เขากินข้าวเท่ากับจำนวนอาหารชุดของคนไม่ต่ำกว่าสิบคน ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถมาก เถ้าแก่รีบมาดูเร็ว”

“อาหารชุดของคนสิบคนเหรอ? แน่ใจนะว่าจำไม่ผิด?”

“ไม่มีอะไรจริงไปมากกว่านี้แล้ว”

“รอก่อน ฉันจะรีบไป!”

เถ้าแก่วางสายแล้ววิ่งมาที่นี่ทันที

เขาอยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นเขาจึงมาถึงในไม่กี่นาที

ไม่จำเป็นต้องรอให้พนักงานมาชี้ เขาเห็นเย่ซิวตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเข้ามา

ทำอะไรไม่ได้แล้ว โต๊ะของเย่ซิวเต็มไปด้วยจานซึ่งดูน่าตกใจมาก

เถ้าแก่วิ่งเหยาะ ๆ ไปจนไขมันบนใบหน้าสั่น

เมื่อเขาไปถึงโต๊ะของเย่ซิว เขาก็ขอร้องด้วยเสียงทุ้มต่ำ “น้องชาย ร้านของเราอยู่ได้ด้วยกำไรเพียงเล็กน้อย สิ่งที่เธอกินอยู่ตอนนี้เท่ากับยอดขายของร้านครึ่งวัน ถ้าเธอยังกินต่อ ร้านเราคงล้มละลาย กรุณาเมตตาและหยุดกินเถอะนะ”

เย่ซิวไม่พอใจเล็กน้อย “พวกคุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะได้กินฟรี? หรือไม่อยากให้ผมกินแล้ว?”

มุมปากของเถ้าแก่กระตุกขึ้น เขากัดฟันพูด “งั้นเอาแบบนี้เถอะ น้องชายไปที่ร้านหม้อไฟตรงข้ามแล้วฉันจะให้เงินเธออีกสองพันหยวน ว่ายังไง?”

Related chapters

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 15

    ในที่สุด ตามคำร้องขออย่างจริงใจของเถ้าแก่ เย่ซิวก็ยอมรับซองสีแดงมูลค่าสองพันหยวนมาไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้กินอาหารฟรี แถมยังได้เงินสองพันหยวนเย่ซิวยืนขึ้น เขากินจนเกือบจะอิ่มแล้ว และก็พร้อมที่จะไปทักทายลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้วแต่ทันทีที่เขาลุกขึ้น เขาเห็นหวังเฟยผลักประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเพื่อนอยู่ในห้องส่วนตัว หลี่เยี่ยนคีบอาหารให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น ในตอนที่เธอไม่ได้สนใจ เธอจึงโยนยาเม็ดเล็ก ๆ ลงในชาม และยาก็ละลายทันที“เสวี่ยเอ๋อร์ ลองนี่ดูสิ อร่อยนะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กินเข้าไปพลางสงสัยเล็กน้อย “ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้เธอแปลก ๆ?”“ไม่หรอก เธอคิดมากไปแล้ว รีบกินเร็วเข้า อร่อยนะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์สับสนและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งใดเธอหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาแล้วอยากจะกินเนื้ออีกชิ้นแต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกอ่อนแรงจนตะเกียบตกจากนิ้วปึง! ปึง!ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลี่เยี่ยนลุกขึ้นไปเปิดประตู และพาหวังเฟยเข้ามาลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีในใจ แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาสติของเธอเอา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 16

    โคมไฟประดับส่องแสงสว่างกลางเมืองในยามค่ำคืนเย่ซิวและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ริมถนนเส้นใหญ่ บุรุษรูปงามและสตรีผู้มีลักษณะโดดเด่น สำหรับคนภายนอกที่มองมา พวกเขาดูเหมือนคู่กิ่งทองใบหยกลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลูบผมบนหน้าผากของเธอให้เรียบ มองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เปียกชื้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมาก “เพื่อนนักศึกษา ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย”“ผมชื่อเย่ซิว”แสงในดวงตาของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สว่างวาบขึ้นอีกเล็กน้อย “ขอบใจสำหรับเรื่องวันนี้มากนะเพื่อนนักศึกษาเย่ ถ้าไม่มีนาย ทั้งชีวิตของฉันคงพังไปแล้ว”“ไม่เป็นไรหรอก จริง ๆ แล้วผมเองก็มีจุดประสงค์ที่ช่วยคุณ” เย่ซิวบอกความจริง“หา?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อุทาน ความคิดของเธอแตกกระจายออกไปนึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่เย่ซิวชวนเธอไปกินข้าว หรือว่าเพราะเขาชอบเธอ เลยทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้วจากนั้นก็จะขอเธอเป็นแฟน?ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แอบมองเย่ซิว แล้วจึงรีบเบือนหน้าหนีใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อยหัวใจของเธอสับสน ‘ทำยังไงดี? เขาเพิ่งช่วยฉันไว้ ดูเหมือนจะค่อยไม่ดีนักถ้าฉันไม่ตกลงเป็นแฟนของเขา อีกทั้งเพื่อนนักศึกษาเย่ก็ดูหล่อและนิสัยดีมาก…’ขณะที่เธอกำลังสับ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 17

    ตอนนี้ความสำคัญของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่อยู่ในใจเย่ซิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วดังนั้นเขาจึงไปส่งลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับบ้านด้วยตัวเองหลังจากถูกหลี่เยี่ยนหักหลัง เธอก็ไม่สามารถอยู่ในหอพักเดิมได้อีกต่อไป และทำได้เพียงไปเช่าห้องข้างนอกแทน“พรุ่งนี้เดี๋ยวผมจะไปหาห้องเช่าเป็นเพื่อนคุณนะ” เย่ซิวพูดบนรถแท็กซี่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มหวาน “ไม่ต้องหรอก ฉันมีอพาร์ตเมนต์หลายที่ใกล้มหาลัย”เย่ซิวอึ้งไปเขาคงร้อนใจไปเองเมื่อรถแล่นไปได้ครึ่งทาง เย่ซิวก็ลดกระจกมองไปทางขวา เห็นว่ามีรถสีขาวคันหนึ่งขับมาขนาบข้างคนขับเป็นผู้หญิงผมสั้นที่แลดูมีความสามารถจากสายตาของเย่ซิว เขาสามารถบอกได้เลยว่านี่คือผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก“คุณรู้จักเธอหรือเปล่า?” เย่ซิวชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นพลางถามลู่เสวี่ยเอ๋อร์ผู้หญิงคนนั้นติดตามพวกเขามาตลอดทาง แต่ไม่ได้แสดงรัศมีที่เป็นอันตรายต่อพวกเขาเลยลู่เสวี่ยเอ๋อร์เอียงตัวมองออกไปนอกหน้าต่างรถ จู่ ๆ ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย “พี่หมิ่นหมิ่นน่ะ เธอมาที่นี่เพื่อปกป้องฉันโดยเฉพาะ เมื่อสองวันก่อนเธอต้องไปทำธุระ ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันก็คงจะไม่…”เย่ซิวพยักหน้า ขอแค่ไม่ใช่ศัตรูก็ไม่เป็นไร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 18

    แม้จะเผชิญกับการถูกเยาะเย้ยจากคนเหล่านี้ เย่ซิวก็ไม่โกรธและยังคงมีท่าทีสงบ“ผมไม่อยากทำร้ายพวกคุณจริง ๆ กรุณาถอยออกไปเถอะ”สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างแท้จริงจะไม่โจมตีผู้อ่อนแอเย่ซิวเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา แต่ในสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ พวกเขากลับคิดว่าเย่ซิวขี้ขลาดดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวไร้ศีลธรรมมากยิ่งขึ้น“เจ้าหนู ถึงตอนนี้ยังจะเสแสร้งอยู่อีกเหรอ?!”“ฉันล่ะอยากจะผ่าหัวของแกออกมาดูจริง ๆ มีอะไรอยู่ข้างในกันนะ ทำไมถึงทำให้แกหยิ่งยโสได้ขนาดนี้!”“จะไปเสียเวลาพูดคุยไร้สาระอะไรกับมันนักหนา? นายใหญ่จ้าวบอกว่าถ้ามือและเท้าของมันหัก ทุกคนจะได้รางวัลคนละหนึ่งหมื่นหยวนเชียวนะ!”“ช่วยกันฆ่ามันซะ!”……ด้วยแรงขับจากเงิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้จึงโบกแท่งเหล็กแข็งในมืออย่างแรงทันทีหมายจะฟาดศีรษะของเย่ซิว เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ในห้องของตระกูลจ้าว จ้าวเฟิงและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมา“ดู ๆ แล้วมันคงจะเป็นพวกท่าดีทีเหลว!”“ทำมาเป็นพูดว่าไม่อยากทำร้ายใคร ก็แค่ข้ออ้างเพราะจะหนีเท่านั้นแหละ”“ใครก็ได้เอาขวดไวน์ที่ฉันเก็บไว้ออกมาให้ที คืนนี้อยากจะฉลอง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 19

    “เด็กนั่นยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลยนะ!”“เขาไม่ใช่จอมยุทธระดับสามในขั้นต้นหรือขั้นกลาง แต่นี่มันขั้นสูงเลยด้วยซ้ำ!”ทุกคนในห้องโถงทั้งหมดลุกขึ้นจากที่นั่งและมองดูฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อความตกใจที่เย่ซิวสร้างขึ้นแก่พวกเขานั้นรุนแรงเกินไปจริง ๆขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึง เย่ซิวก็เดินเข้ามาดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอย่างไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามเหมือนตอนแรกอีกต่อไป แต่มองด้วยความเคร่งขรึมอย่างลึกซึ้งแทนไม่ว่าเขาจะอายุเท่าใด แต่ความแข็งแกร่งที่เย่ซิวแสดงออกมาตอนนี้ทำให้พวกเขาทุกคนตกใจจินหลงมองไปที่เย่ซิวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อาจารย์ของแกเป็นใครกัน?!”คนที่จะสั่งสอนเย่ซิวเจ้าเด็กสัตว์ประหลาดนี่ได้ ต้องไม่ใช่ตาสีตาสาคนธรรมดาทั่วไปในเวลานี้ จินหลงและจินหู่ต่างก็เสียใจที่มาที่นี่หากมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังเย่ซิว พวกเขาจะต้องประสบปัญหาใหญ่แน่นอนเมื่อได้ฟังคำถามของจินหลง เย่ชิวก็พูดอย่างเนิบ ๆ “คุณไม่คู่ควรที่จะได้รู้”อาจารย์ของเขาเตือนเขาไว้นานแล้ว ว่าอย่าเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองไม่ว่าในกรณีใดใดเย่ซิวยึดมั่นในเรื่องนี้มาโดยตลอด และไม่ได้พูดออกไปจินหลงโกรธมาก “ไอ้เด็กนี่! ไม่ไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 20

    “วิ่ง วิ่งเร็ว!”“นี่มันสัตว์ประหลาดชัด ๆ!”ตระกูลจ้าวสามรุ่นขวัญหนีดีฝ่อกันหมดสิบนาทีที่แล้ว ไม่ว่าจินตนาการของพวกเขาจะทรงพลังเพียงใดพวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเย่ซิวจะสามารถฆ่าจินหลงและจินหู่ลงได้อีกทั้งพวกเขายังบรรลุไปอีกระดับแล้วด้วยนั่นคือจอมยุทธระดับสี่ แต่พวกเขากลับถูกฆ่าลงอย่างง่ายดายผลกระทบต่อพวกเขาทั้งสามนั้นใหญ่หลวงมากพวกเขาหมดหวังและต้องการหลบหนีโดยเร็วที่สุดก่อนที่พวกเขาจะหลบหนีไปได้ไกล ก็เกิดเสียงดังขึ้น ข้อเข่าของพวกเขาถูกเย่ซิ่วขว้างถ้วยใส่ จนต้องคุกเข่าลงกับพื้นทั้งสามคนหันกลับมาอย่างรวดเร็วและโค้งคำนับให้กับเย่ซิว“ผู้อาวุโสเย่ ปล่อยพวกเราไปเถอะ”“พวกเราผิดไปแล้ว พวกเรามีตาหามีแววไม่ เราไม่ควรไปยั่วยุคุณเลย ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”“สองร้อยล้าน ไม่สิ พวกเราจะให้เงินหนึ่งพันล้านเป็นค่าชดเชย โปรดอย่าได้ถือสาความผิดของพวกเราเลย”ขณะนี้จ้าวจางและคนอื่น ๆ หวาดผวาอย่างยิ่งและได้ละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มีไปแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียใจที่ไหลเวียนอยู่ในอกของจ้าวเฉียนที่เป็นเหมือนกับแม่น้ำอันเชี่ยวกรากถ้าเขาไม่โลภกลัวที่จะสูญเสียส่วนแบ่งของเย่ซิว เรื่อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 21

    เซี่ยซิ่วซิ่วคิดหนักเชื่อมโยงไปถึงเย่ซิวอย่างรวดเร็ว “คุณปู่อยากให้หนูแต่งงานกับเย่ซิวเหรอคะ?”“ใช่” ใบหน้าของเซี่ยเจี๋ยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “คิดไม่ถึงว่าคนอย่างปู่จะได้เห็นมังกรหนุ่มตอนอายุปูนนี้!”การประเมินที่สูงเช่นนี้เพิ่มความอยากรู้อยากเห็นของเซี่ยซิ่วซิ่วอย่างมาก เธออดไม่ได้ที่จะถาม “คุณปู่ ในสายเมื่อครู่คุยเรื่องอะไรกันเหรอคะ ถึงได้ทำให้ท่าทีของคุณปู่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?”เซี่ยเจี๋ยถอนหายใจ “หลี่ฮ่าวโทรมาเมื่อกี้ บอกว่าน้องชายเย่เอาชนะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างกำยำที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลจ้าวจำนวนมากกว่าสองร้อยคนเพียงลำพัง!”“ยิ่งไปกว่านั้น ครึ่งหนึ่งของพวกเขายังถือธนูหน้าไม้สามดอกอีกด้วย!”เซี่ยซิ่วซิ่วอุทาน ดวงตาได้รูปสวยเต็มไปด้วยความตกตะลึงเธอเกิดในตระกูลจอมยุทธ์และฝึกฝนวรยุทธ์ด้วยตัวเอง พลังของเธออยู่ในระดับทั่วไป แม้แต่การเป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่งเธอก็ยังไม่สามารถบรรลุได้แต่เธอรู้แน่ชัดว่าคนที่สามารถเอาชนะชายที่แข็งแกร่งสองร้อยคนได้ด้วยตัวเอง แถมอีกครึ่งหนึ่งยังถือหน้าไม้ที่ทรงพลังคน ๆ นั้นจะต้องมีพลังแข็งแกร่งไม่ธรรมดาเพียงใด“หรือเขาจะเป็นจอมยุทธ์ระ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 22

    พวกเขาเกือบจะฝ่าไฟแดงและมาถึงบ้านตระกูลจ้าวในเวลาอันสั้น“กระจายกันออกไปและล้อมรอบตระกูลจ้าวเอาไว้ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป และไม่อนุญาตให้ใครออกมาทั้งนั้น!”จากนั้นหัวหน้าสถานีก็ถือหน้าไม้ไว้ในมือและรีบเข้าไปก่อนเสียงกรีดร้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กองอยู่บนพื้นทำให้หัวหน้าสถานีดูมืดมนราวกับแม่น้ำลึกเมื่อเขาเข้าไปในห้องโถง ภาพที่เห็นทำให้เขาสะเทือนใจอย่างมาก“ใครกันที่โหดร้ายและอาจหาญได้ขนาดนี้?!”สมาชิกในทีมคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นภาพนี้“ชั่วช้ามาก พวกเราต้องตามหาคนร้ายและนำตัวพวกนั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้!”“ใช่! นี่ถือเป็นการท้าทายความยิ่งใหญ่ของสถานีของเรา!”หัวหน้าโบกมือเพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง “กระจายไปรอบ ๆ และจำไว้ว่าอย่าแตะร่องรอยใดใดในสถานที่เกิดเหตุ แล้วรอให้ทีมนิติเวชมาตรวจสอบดู”“หัวหน้า รีบมาดูเร็ว มีสัญลักษณ์อะไรอยู่ตรงนี้ด้วย!”สมาชิกในทีมคนหนึ่งชี้ไปยังลวดลายที่เย่ซิววาดบนผนังแล้วหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปหัวหน้ามองตามไปแค่มองดู ม่านตาของเขาก็หดตัวทันที พลางรีบตะโกน “หยุด อย่าถ่ายรูป!”หัวหน้าวิ่งไปที่กำแพงและมองดูใกล้ ๆ

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 574

    ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 573

    ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 572

    ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 571

    “เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 570

    เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 569

    “นี่มันไม่เหมาะสมนะ ไอ้คนผีทะเล ปล่อยฉัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะ!”ถังเขอเข่อพยายามดิ้นสุดชีวิต ปลายผมมัดแกละทั้งสองข้างสะบัดไปมาอย่างแรงโครม!เย่ซิววางเธอลงบนโซฟาเบา ๆ ด้วยสีหน้าเอือมระอา “เงียบได้แล้ว คุณนี่เล่นใหญ่จริง ๆ ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณสักหน่อย”ถังเขอเข่อขดตัวพลางมองเย่ซิวด้วยสายตาหวาดระแวง “ยังจะบอกว่าไม่คิดอะไรอีกเหรอ สายตาคุณมันฟ้องถึงความหื่นกระหายลึก ๆ ในใจคุณหมดแล้วคุณอยากได้ฉันล่ะสิ ฮือฮือฮือ คุณปู่ช่วยหนูด้วย”เย่ซิวได้แต่ยกมือกุมขมับพลางถอนหายใจ ก่อนหยิบขวดยาโยนให้เธอ “คุณรู้จักจอมยุทธ์ใช่ไหม?”ถังเขอเข่อพยักหน้า “รู้สิ”“โอสถนี่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย คุณกินมันตอนนี้เลย เดี๋ยวผมจะช่วยคุณบำเพ็ญและซึมซับยาให้ไวขึ้น ถ้าคุณไม่มีพลังป้องกันตัวเลย การถือสิทธิบัตรสำคัญในมือแบบนี้มันอันตรายเกินไป”ถังเขอเข่อรับขวดยามาด้วยความสงสัย “แค่กินยาไม่กี่เม็ดจะทำให้ฉันกลายเป็นจอมยุทธ์ยอดฝีมือได้เลยเหรอ?”“แน่นอนว่าไม่ได้” เย่ซิวตอบเรียบ ๆ “แต่จะทำให้คุณหุ่นดีขึ้น ผิวขาวขึ้น เส้นผมก็เงางามขึ้นด้วย”เย่ซิวรู้เรื่องนี้มาได้สักพักแล้วถ้าอยากให้ผู้หญิงหันมาสน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 568

    ถังเขอเข่อมองเย่ซิวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “เมื่อกี้นี้ฉันรบกวนคุณหรือเปล่านะ”เย่ซิวตอบกลับ “ถูกต้อง แล้วคุณจะชดเชยยังไงดีล่ะ?”ถังเขอเข่อตกใจก่อนจะรีบถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความระวัง “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นนะ”เย่ซิวหัวเราะลั่น “ไม่ล้อคุณแล้ว รีบพาผมไปดูผลงานเถอะ”หากหุ่นยนต์นี้ทำสำเร็จ เขาก็จะสามารถเริ่มต้นแผนการที่ยิ่งใหญ่ของเขาได้ทันทีถังเขอเข่อพาเย่ซิวเข้าไปในโรงงาน มุ่งหน้าไปยังส่วนที่ใช้สำหรับผลิตแบตเตอรี่รุ่นใหม่เย่ซิวเห็นแบตเตอรี่สีดำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจำนวนมาก โดยที่ปลายด้านหนึ่งมีสายเชื่อมต่ออยู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ถังเขอเข่ออธิบาย “อย่าดูถูกเจ้าแบตเตอรี่นี่เพราะมันขนาดเล็กเชียว ถ้าเอาไปติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้า มันจะสามารถวิ่งได้ไกลถึงห้าร้อยกิโลเมตรเลยล่ะ”เย่ซิวหรี่ตาอย่างไม่เชื่อแบตเตอรี่อันแค่นี้จะทำให้รถวิ่งไกลขนาดนั้นได้จริงเหรอ?เมื่อเห็นสายตาของเย่ซิว ถังเขอเข่อก็รู้ว่าเขายังไม่เชื่อ เธอจึงเอ่ย “ฉันให้ติดตั้งแบตเตอรี่ในหุ่นยนต์แล้ว ลองดูไหมล่ะ?”เย่ซิวพยักหน้าถังเขอเข่อปีนขึ้นไปบนหุ่นยนต์และเริ่มใช้งานอย่างคล่องแคล่วครั้งนี้ไม่มี

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 567

    “ฉันก็อยากบำเพ็ญตนกับนายบ้าง” หลิวอวิ้นเอ่ยพร้อมกับส่งสายตายั่วยวน“อืม…” เย่ซิวแสร้งทำเป็นลังเล “ต้องดูว่าคุณจะทำให้ผมประทับใจได้ยังไง”หลิวอวิ้นบิดเอวอย่างเซ็กซี่ พลางเดินเข้าหาเย่ซิวทีละก้าวเอวของเธอไม่ได้บางเฉียบ ดูมีเนื้อมีหนัง แต่ไม่อ้วนเกินไปและสมส่วนพอดี ผู้หญิงในวัยนี้แหละที่มีเสน่ห์ที่สุดเธอเริ่มเต้นโพลแดนซ์โดยไม่มีเสาอยู่ตรงหน้าเย่ซิวใครที่รู้จักโพลแดนซ์ก็คงเข้าใจดีว่ามันเป็นการเต้นแบบไหนเย่ซิวไม่คิดเลยว่าหลิวอวิ้นจะยอมไปเรียนเต้นแบบนี้เพื่อทำให้เขาประทับใจร่างกายของเธอยืดหยุ่นและนุ่มนวล ราวกับงูน้ำที่เลื้อยอย่างไร้ข้อต่อหลิวอวิ้นเลื้อยมาถึงตัวเขา ก่อนกระซิบข้างหูเบา ๆ “ฉันมีความคิดที่บ้าบิ่นนิดหน่อย นายกล้าลองไหมล่ะ?”เย่ซิวเลิกคิ้ว “ไหนว่ามาสิ”หลิวอวิ้นยิ้มขำ “ให้ฉันบำเพ็ญตนกับนายพร้อมกับเสวี่ยเอ๋อร์ไงล่ะ”“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” เย่ซิวมองเธออย่างไม่อยากเชื่อ “ถ้าเธอรู้เข้า ความสัมพันธ์ของพวกคุณได้พังแน่”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยอมให้เขาบำเพ็ญตนกับสาว ๆ คนอื่นได้ แต่คงไม่มีทางยอมบำเพ็ญตนพร้อมกับหลิวอวิ้นแน่นอนแต่สิ่งที่เธอพูดก็ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อเห็นใบ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 566

    เมื่อควบคุมพิษในตัวได้แล้ว ก็โทรหาพี่สาวแล้วบอกเธอว่าคิดถึง ตอนนี้พี่สาวเธอเป็นหนึ่งในคนสำคัญของเย่ซิวแล้วขอแค่ลดทิฐิลงสักนิดและกลับไปอย่างว่าง่าย จากนั้นก็ค่อยหาโอกาสเข้าใกล้เย่ซิว แล้วเรื่องวางยาพิษจะกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ”คำพูดนี้ทำให้เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวั่นไหว“ตกลง ฉันจะทำ!”คิดเพียงไม่นานเธอก็ตอบตกลงในทันที ในช่วงเวลาที่อยู่กับสำนักเบญจพิษ ความแค้นของเธอที่มีต่อเย่ซิวก็เริ่มสะสมขึ้นเรื่อย ๆตอนนี้ก็มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว เธอไม่คิดจะปล่อยให้หลุดมือไปแน่นอน“ดี งั้นฉันขอให้เธอประสบความสำเร็จเร็ว ๆ ก็แล้วกัน!”สายลมพัดผ่านอีกครั้ง คุณลี่ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเซี่ยชิงชิงกำยาพิษในมือแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาต “เย่ซิว เราจะได้เห็นดีกัน!”……คืนนี้สาว ๆ หลายคนกลับมาที่บ้านกันหมดส่วนเย่ซิวก็กลับมาถึงบ้านเร็วกว่าปกติหนึ่งชั่วโมง พอเห็นเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น สาว ๆ ต่างทิ้งท่าทีสำรวมและมาล้อมรอบเขากลิ่นหอมจากร่างกายของพวกเธอลอยมาแตะจมูกทันที กระตุ้นให้เลือดในกายเย่ซิวสูบฉีดเร็วขึ้นระหว่างที่กลับบ้าน เย่ซิวได้แวะไปสวนสมุนไพรเพื่อเก็บเครื่องยาสมุนไพรจำนวนมากมากลั่นเ

DMCA.com Protection Status