Share

บทที่ 15

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ในที่สุด ตามคำร้องขออย่างจริงใจของเถ้าแก่ เย่ซิวก็ยอมรับซองสีแดงมูลค่าสองพันหยวนมา

ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้กินอาหารฟรี แถมยังได้เงินสองพันหยวน

เย่ซิวยืนขึ้น เขากินจนเกือบจะอิ่มแล้ว และก็พร้อมที่จะไปทักทายลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้ว

แต่ทันทีที่เขาลุกขึ้น เขาเห็นหวังเฟยผลักประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเพื่อนอยู่

ในห้องส่วนตัว หลี่เยี่ยนคีบอาหารให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น ในตอนที่เธอไม่ได้สนใจ เธอจึงโยนยาเม็ดเล็ก ๆ ลงในชาม และยาก็ละลายทันที

“เสวี่ยเอ๋อร์ ลองนี่ดูสิ อร่อยนะ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กินเข้าไปพลางสงสัยเล็กน้อย “ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้เธอแปลก ๆ?”

“ไม่หรอก เธอคิดมากไปแล้ว รีบกินเร็วเข้า อร่อยนะ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์สับสนและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งใด

เธอหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาแล้วอยากจะกินเนื้ออีกชิ้น

แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกอ่อนแรงจนตะเกียบตกจากนิ้ว

ปึง! ปึง!

ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

หลี่เยี่ยนลุกขึ้นไปเปิดประตู และพาหวังเฟยเข้ามา

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีในใจ แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาสติของเธอเอาไว้ได้ “เพื่อนนักเรียนหวังเฟย นายมาที่นี่ได้ยังไง?”

“ผ่านมาน่ะ” หวังเฟยมองลู่เสวี่ยเอ๋อร์ด้วยสายตาที่ไร้ยางอาย

เธอมีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม ขนาดที่แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังอดอ้าปากค้างไม่ได้

หวังเฟยอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

ไม่ใช่แค่วันสองวันที่เขาโลภอยากได้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เช่นนี้

เมื่อก่อนไม่กล้า เพราะมีปรมาจารย์คอยปกป้องลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างลับ ๆ มาเสมอ

แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้รับข่าวว่าคนคนนั้นจากไปด้วยเหตุบางอย่าง

นี่ทำให้เขามีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เป็นผู้หญิงหัวโบราณ

ตราบใดที่เขาได้ครอบครองเรือนร่างของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการ เธอก็ทำได้เพียงกลั้นใจแต่งงานกับเขาเพียงเท่านั้น

ไม่เพียงได้ตอบสนองความต้องการของตัวเอง แต่เขายังจะได้แต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกูลลู่อีก เมื่อถึงเวลา ความแข็งแกร่งและสถานะของตระกูลหวังก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอพบว่าหวังเฟยแตกต่างไปจากปกติอย่างสิ้นเชิง ราวกับหมาป่าที่ถอดชุดแกะออก

ในที่สุดเธอก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พลางมองไปที่หลี่เยี่ยน

“เธอวางยาในอาหารของฉันเหรอ?”

เธอยอมรับตรง ๆ “ใช่ นายน้อยหวังเป็นคนดีมากและเขาก็หลงรักเธอ เธอสองคนเป็นคู่ที่ลงตัวกันมาก ฉันแค่จะช่วยเธอเท่านั้น”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ทั้งกังวลและโกรธ น้ำเสียงสะอื้น “เธอทำแบบนี้ได้ยังไง? ฉันคิดว่าเราเป็นเหมือนพี่น้องกันด้วยซ้ำ ทำไมเธอถึงต้องทำร้ายฉันด้วย?”

หลี่เยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชาและไม่ได้ตอบ แต่มองไปที่หวังเฟย “นายน้อยหวัง มาจัดการเรื่องนี้ที่นี่กันดีกว่า ฉันจะช่วยเฝ้าหน้าประตูไว้ให้ คุณตกลงไหม?”

หวังเฟยหัวเราะเสียงดัง “ฉันยินดี”

หลังจากพูดจบ เขาก็รอที่จะถอดเสื้อคลุมแล้วเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์แทบไม่ไหว

“อย่าเข้ามานะ...ไปให้พ้น...ฉะ...ฉันจะร้องให้คนช่วย...”

เสียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์อ่อนแรงมาก ในร่างกายเธอไม่มีกำลังเหลือแล้ว เสียงเล็ก ๆ เช่นนี้ไม่อาจไปถึงหูคนภายนอกได้เลย

หวังเฟยดูตะกละตะกลาม “ร้องเลยสิ! ยิ่งเธอร้อง ฉันก็ยิ่งตื่นเต้น ฮ่าฮ่าฮ่า!”

หวังเฟยดึงเสื้อคลุมของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ออกด้วยแรงมหาศาล

เธอทรุดตัวลงบนเก้าอี้

ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ กอปรกับความกลัวจับขั้วหัวใจ

“อย่า...ได้โปรดอย่าทำแบบนี้”

ยิ่งลู่เสวี่ยเอ๋อร์อ้อนวอนมากเท่าไร หวังเฟยก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น

“ที่รัก ฉันตามจีบเธอมานานแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยแยแส แต่ในที่สุดเธอก็ตกมาอยู่ในเงื้อมือของฉันแล้ว มาดูกันว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง!”

ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือจะไปจับหน้าอกของลู่เสวี่ยเอ๋อร์

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาด้วยความสิ้นหวัง

เธอรู้ว่าวันนี้มันจบแล้วและเธอคงจะถูกขืนใจจนมีมลทินติดตัวอย่างแน่นอน

ปึง!

ในช่วงเวลาวิกฤติ ประตูก็ถูกเปิดออก

หลี่เยี่ยนที่ยืนอยู่หลังประตูล้มคว่ำหน้าลงไปกับพื้นอย่างแรง

หลังจากเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว เย่ซิวก็ปิดประตู และดีดนิ้วออกไป

เข็มเงินเล่มหนึ่งพุ่งออกไปเจาะจุดฝังเข็มของหวังเฟย

มือของหวังเฟยหยุดอยู่ห่างจากหน้าอกของลู่เสวี่ยเอ๋อร์เพียงไม่กี่เซนติเมตร จากนั้นทั้งร่างของเขาก็ล้มลงไปกับพื้น

เย่ซิวรีบสาวเท้าเข้าหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์ พลางจับมือเธอและตรวจชีพจรทันที

ร่างกายที่บอบบางของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สั่นเทา เธอลืมตาขึ้น หลังจากได้ยินการเคลื่อนไหว

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ก็เกิดตกตะลึงทันที

เดิมที ความหวังของเธอมลายหายไปแล้ว

แต่ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มรูปงามจะปรากฏตัวต่อหน้าในช่วงเวลาวิกฤติ และช่วยเธอเอาไว้ได้ทัน

เป็นการยากที่จะแสดงความรู้สึกของเธอออกมาเป็นคำพูดในขณะนี้

เย่ซิวคือดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงให้เธอท่ามกลางความมืดมิด

“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้”

“อย่าเพิ่งพูดเลย เดี๋ยวผมจะช่วยให้คุณดีขึ้นก่อน”

หลังจากพูดจบ เย่ซิวก็หยิบเข็มเงินและยาฆ่าเชื้อที่เขาพกติดตัวออกมา

เขาฆ่าเชื้อเข็มเงินทั้งหมดแล้วฝังเข็มให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์

ในไม่ช้าร่างกายของเธอก็ฟื้นกลับมาแข็งแรง เธอมองไปยังเย่ซิวด้วยดวงตาเป็นประกาย

“ขอบคุณนะ! นายรู้เรื่องการแพทย์ด้วยเหรอ? นี่เป็นการแพทย์แผนจีนหรือเปล่า? น่าทึ่งมากเลย”

ในตอนนี้ เธอเริ่มสนใจเย่ซิวมากขึ้น

เย่ซิวพยักหน้า “ใช่ นี่คือการแพทย์แผนจีน”

พลันเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป “คุณจะทำยังไงกับสองคนนี้?”

ท่าทางของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ดูสับสน

เธอจ้องมองไปที่หลี่เยี่ยน และยังคงรู้สึกไม่อยากจะเชื่อมาจนถึงตอนนี้

เพื่อนสนิททำกันแบบนี้ได้ลงคอ

“ช่างเถอะ บางทีเธออาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง เราไปกันเถอะ”

เธอจิตใจดีและทำร้ายหลี่เยี่ยนไม่ลง

“ไอ้เวรเอ๊ย แกทำอะไรฉัน?!” หวังเฟยพยายามดิ้นรนต่อสู้หลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว

เขาตกใจมากเมื่อพบว่าร่างกายครึ่งท่อนล่างของตัวเองไร้ความรู้สึก

เย่ซิวคุกเข่าลงและตบหน้าเขา “แกต้องชดใช้ที่ทำเรื่องชั่ว ๆ ไงล่ะ”

เขาหยิบเข็มเงินออกมาเจาะจุดฝังเข็มของหวังเฟยหลายจุดโดยไม่ฆ่าเชื้อก่อน

จากนั้นจึงดึงเข็มออก

หวังเฟยพบว่าเขาพอจะสามารถยืนขึ้นได้ แต่เขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของตัวเอง

“แกทำอะไรฉันอีกแล้ว?”

“แกชอบคั่วกับพวกสาว ๆ ไม่ใช่เหรอ? ฉันก็เลยทำลายความสามารถนั้นไปไงล่ะ ชาตินี้ทั้งชาติแกก็อย่าได้คิดจะได้ผงาดขึ้นมาอีกเลย!”

“อะไรนะ?!” หวังเฟยตกใจมาก “เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อว่าแกจะมีความสามารถอย่างที่พูดหรอก!”

เย่ซิวยิ้มเยาะและไม่สนใจที่จะอธิบาย เขาจับมือลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้วเดินออกไปข้างนอก

ใบหน้าที่งดงามของลู่เสวี่ยเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นสีแดง

นอกจากพ่อแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกเพศตรงข้ามแตะเนื้อต้องตัว หัวใจเธอจึงเริ่มเต้นเร็วขึ้น

เธอถูกเย่ซิ่วพาออกจากร้าอาหารหม้อไฟหม่าล่าในขณะที่กำลังสับสนมึนงง

……

ที่ห้องส่วนตัว หวังเฟยกำลังจินตนาการถึงบรรยากาศเย้ายวนต่าง ๆ

แต่ไม่นานเขาก็หมดหวัง

มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ในอดีตเขาเพีงแค่จินตนาการถึงลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ได้ผลในทันทีแล้ว

มีออร่าเย็นที่มองไม่เห็นห่อหุ้มเขาไว้

หวังเฟยตื่นตระหนก

ทันใดนั้น เขาที่เห็นหลี่เยี่ยนนอนอยู่บนพื้น เขาก็เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

เขาคว้าผมของหลี่เยี่ยนแล้วสั่งอย่างดุดัน “อ้าปากให้ฉันหน่อย!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Piriyapong Paansuuntea
สนุกมาก ลุ้นตลอด
goodnovel comment avatar
เสือน้อย อินเตอร์
เติมเงินแล้วไม่เข้า
goodnovel comment avatar
ม่าม่า รถดี
ขันทีหวัง555
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 16

    โคมไฟประดับส่องแสงสว่างกลางเมืองในยามค่ำคืนเย่ซิวและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ริมถนนเส้นใหญ่ บุรุษรูปงามและสตรีผู้มีลักษณะโดดเด่น สำหรับคนภายนอกที่มองมา พวกเขาดูเหมือนคู่กิ่งทองใบหยกลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลูบผมบนหน้าผากของเธอให้เรียบ มองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เปียกชื้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมาก “เพื่อนนักศึกษา ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย”“ผมชื่อเย่ซิว”แสงในดวงตาของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สว่างวาบขึ้นอีกเล็กน้อย “ขอบใจสำหรับเรื่องวันนี้มากนะเพื่อนนักศึกษาเย่ ถ้าไม่มีนาย ทั้งชีวิตของฉันคงพังไปแล้ว”“ไม่เป็นไรหรอก จริง ๆ แล้วผมเองก็มีจุดประสงค์ที่ช่วยคุณ” เย่ซิวบอกความจริง“หา?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อุทาน ความคิดของเธอแตกกระจายออกไปนึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่เย่ซิวชวนเธอไปกินข้าว หรือว่าเพราะเขาชอบเธอ เลยทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้วจากนั้นก็จะขอเธอเป็นแฟน?ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แอบมองเย่ซิว แล้วจึงรีบเบือนหน้าหนีใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อยหัวใจของเธอสับสน ‘ทำยังไงดี? เขาเพิ่งช่วยฉันไว้ ดูเหมือนจะค่อยไม่ดีนักถ้าฉันไม่ตกลงเป็นแฟนของเขา อีกทั้งเพื่อนนักศึกษาเย่ก็ดูหล่อและนิสัยดีมาก…’ขณะที่เธอกำลังสับ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 17

    ตอนนี้ความสำคัญของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่อยู่ในใจเย่ซิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วดังนั้นเขาจึงไปส่งลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับบ้านด้วยตัวเองหลังจากถูกหลี่เยี่ยนหักหลัง เธอก็ไม่สามารถอยู่ในหอพักเดิมได้อีกต่อไป และทำได้เพียงไปเช่าห้องข้างนอกแทน“พรุ่งนี้เดี๋ยวผมจะไปหาห้องเช่าเป็นเพื่อนคุณนะ” เย่ซิวพูดบนรถแท็กซี่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มหวาน “ไม่ต้องหรอก ฉันมีอพาร์ตเมนต์หลายที่ใกล้มหาลัย”เย่ซิวอึ้งไปเขาคงร้อนใจไปเองเมื่อรถแล่นไปได้ครึ่งทาง เย่ซิวก็ลดกระจกมองไปทางขวา เห็นว่ามีรถสีขาวคันหนึ่งขับมาขนาบข้างคนขับเป็นผู้หญิงผมสั้นที่แลดูมีความสามารถจากสายตาของเย่ซิว เขาสามารถบอกได้เลยว่านี่คือผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก“คุณรู้จักเธอหรือเปล่า?” เย่ซิวชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นพลางถามลู่เสวี่ยเอ๋อร์ผู้หญิงคนนั้นติดตามพวกเขามาตลอดทาง แต่ไม่ได้แสดงรัศมีที่เป็นอันตรายต่อพวกเขาเลยลู่เสวี่ยเอ๋อร์เอียงตัวมองออกไปนอกหน้าต่างรถ จู่ ๆ ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย “พี่หมิ่นหมิ่นน่ะ เธอมาที่นี่เพื่อปกป้องฉันโดยเฉพาะ เมื่อสองวันก่อนเธอต้องไปทำธุระ ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันก็คงจะไม่…”เย่ซิวพยักหน้า ขอแค่ไม่ใช่ศัตรูก็ไม่เป็นไร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 18

    แม้จะเผชิญกับการถูกเยาะเย้ยจากคนเหล่านี้ เย่ซิวก็ไม่โกรธและยังคงมีท่าทีสงบ“ผมไม่อยากทำร้ายพวกคุณจริง ๆ กรุณาถอยออกไปเถอะ”สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างแท้จริงจะไม่โจมตีผู้อ่อนแอเย่ซิวเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา แต่ในสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ พวกเขากลับคิดว่าเย่ซิวขี้ขลาดดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวไร้ศีลธรรมมากยิ่งขึ้น“เจ้าหนู ถึงตอนนี้ยังจะเสแสร้งอยู่อีกเหรอ?!”“ฉันล่ะอยากจะผ่าหัวของแกออกมาดูจริง ๆ มีอะไรอยู่ข้างในกันนะ ทำไมถึงทำให้แกหยิ่งยโสได้ขนาดนี้!”“จะไปเสียเวลาพูดคุยไร้สาระอะไรกับมันนักหนา? นายใหญ่จ้าวบอกว่าถ้ามือและเท้าของมันหัก ทุกคนจะได้รางวัลคนละหนึ่งหมื่นหยวนเชียวนะ!”“ช่วยกันฆ่ามันซะ!”……ด้วยแรงขับจากเงิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้จึงโบกแท่งเหล็กแข็งในมืออย่างแรงทันทีหมายจะฟาดศีรษะของเย่ซิว เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ในห้องของตระกูลจ้าว จ้าวเฟิงและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมา“ดู ๆ แล้วมันคงจะเป็นพวกท่าดีทีเหลว!”“ทำมาเป็นพูดว่าไม่อยากทำร้ายใคร ก็แค่ข้ออ้างเพราะจะหนีเท่านั้นแหละ”“ใครก็ได้เอาขวดไวน์ที่ฉันเก็บไว้ออกมาให้ที คืนนี้อยากจะฉลอง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 19

    “เด็กนั่นยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลยนะ!”“เขาไม่ใช่จอมยุทธระดับสามในขั้นต้นหรือขั้นกลาง แต่นี่มันขั้นสูงเลยด้วยซ้ำ!”ทุกคนในห้องโถงทั้งหมดลุกขึ้นจากที่นั่งและมองดูฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อความตกใจที่เย่ซิวสร้างขึ้นแก่พวกเขานั้นรุนแรงเกินไปจริง ๆขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึง เย่ซิวก็เดินเข้ามาดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอย่างไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามเหมือนตอนแรกอีกต่อไป แต่มองด้วยความเคร่งขรึมอย่างลึกซึ้งแทนไม่ว่าเขาจะอายุเท่าใด แต่ความแข็งแกร่งที่เย่ซิวแสดงออกมาตอนนี้ทำให้พวกเขาทุกคนตกใจจินหลงมองไปที่เย่ซิวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อาจารย์ของแกเป็นใครกัน?!”คนที่จะสั่งสอนเย่ซิวเจ้าเด็กสัตว์ประหลาดนี่ได้ ต้องไม่ใช่ตาสีตาสาคนธรรมดาทั่วไปในเวลานี้ จินหลงและจินหู่ต่างก็เสียใจที่มาที่นี่หากมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังเย่ซิว พวกเขาจะต้องประสบปัญหาใหญ่แน่นอนเมื่อได้ฟังคำถามของจินหลง เย่ชิวก็พูดอย่างเนิบ ๆ “คุณไม่คู่ควรที่จะได้รู้”อาจารย์ของเขาเตือนเขาไว้นานแล้ว ว่าอย่าเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองไม่ว่าในกรณีใดใดเย่ซิวยึดมั่นในเรื่องนี้มาโดยตลอด และไม่ได้พูดออกไปจินหลงโกรธมาก “ไอ้เด็กนี่! ไม่ไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 20

    “วิ่ง วิ่งเร็ว!”“นี่มันสัตว์ประหลาดชัด ๆ!”ตระกูลจ้าวสามรุ่นขวัญหนีดีฝ่อกันหมดสิบนาทีที่แล้ว ไม่ว่าจินตนาการของพวกเขาจะทรงพลังเพียงใดพวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเย่ซิวจะสามารถฆ่าจินหลงและจินหู่ลงได้อีกทั้งพวกเขายังบรรลุไปอีกระดับแล้วด้วยนั่นคือจอมยุทธระดับสี่ แต่พวกเขากลับถูกฆ่าลงอย่างง่ายดายผลกระทบต่อพวกเขาทั้งสามนั้นใหญ่หลวงมากพวกเขาหมดหวังและต้องการหลบหนีโดยเร็วที่สุดก่อนที่พวกเขาจะหลบหนีไปได้ไกล ก็เกิดเสียงดังขึ้น ข้อเข่าของพวกเขาถูกเย่ซิ่วขว้างถ้วยใส่ จนต้องคุกเข่าลงกับพื้นทั้งสามคนหันกลับมาอย่างรวดเร็วและโค้งคำนับให้กับเย่ซิว“ผู้อาวุโสเย่ ปล่อยพวกเราไปเถอะ”“พวกเราผิดไปแล้ว พวกเรามีตาหามีแววไม่ เราไม่ควรไปยั่วยุคุณเลย ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”“สองร้อยล้าน ไม่สิ พวกเราจะให้เงินหนึ่งพันล้านเป็นค่าชดเชย โปรดอย่าได้ถือสาความผิดของพวกเราเลย”ขณะนี้จ้าวจางและคนอื่น ๆ หวาดผวาอย่างยิ่งและได้ละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มีไปแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียใจที่ไหลเวียนอยู่ในอกของจ้าวเฉียนที่เป็นเหมือนกับแม่น้ำอันเชี่ยวกรากถ้าเขาไม่โลภกลัวที่จะสูญเสียส่วนแบ่งของเย่ซิว เรื่อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 21

    เซี่ยซิ่วซิ่วคิดหนักเชื่อมโยงไปถึงเย่ซิวอย่างรวดเร็ว “คุณปู่อยากให้หนูแต่งงานกับเย่ซิวเหรอคะ?”“ใช่” ใบหน้าของเซี่ยเจี๋ยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “คิดไม่ถึงว่าคนอย่างปู่จะได้เห็นมังกรหนุ่มตอนอายุปูนนี้!”การประเมินที่สูงเช่นนี้เพิ่มความอยากรู้อยากเห็นของเซี่ยซิ่วซิ่วอย่างมาก เธออดไม่ได้ที่จะถาม “คุณปู่ ในสายเมื่อครู่คุยเรื่องอะไรกันเหรอคะ ถึงได้ทำให้ท่าทีของคุณปู่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?”เซี่ยเจี๋ยถอนหายใจ “หลี่ฮ่าวโทรมาเมื่อกี้ บอกว่าน้องชายเย่เอาชนะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างกำยำที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลจ้าวจำนวนมากกว่าสองร้อยคนเพียงลำพัง!”“ยิ่งไปกว่านั้น ครึ่งหนึ่งของพวกเขายังถือธนูหน้าไม้สามดอกอีกด้วย!”เซี่ยซิ่วซิ่วอุทาน ดวงตาได้รูปสวยเต็มไปด้วยความตกตะลึงเธอเกิดในตระกูลจอมยุทธ์และฝึกฝนวรยุทธ์ด้วยตัวเอง พลังของเธออยู่ในระดับทั่วไป แม้แต่การเป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่งเธอก็ยังไม่สามารถบรรลุได้แต่เธอรู้แน่ชัดว่าคนที่สามารถเอาชนะชายที่แข็งแกร่งสองร้อยคนได้ด้วยตัวเอง แถมอีกครึ่งหนึ่งยังถือหน้าไม้ที่ทรงพลังคน ๆ นั้นจะต้องมีพลังแข็งแกร่งไม่ธรรมดาเพียงใด“หรือเขาจะเป็นจอมยุทธ์ระ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 22

    พวกเขาเกือบจะฝ่าไฟแดงและมาถึงบ้านตระกูลจ้าวในเวลาอันสั้น“กระจายกันออกไปและล้อมรอบตระกูลจ้าวเอาไว้ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป และไม่อนุญาตให้ใครออกมาทั้งนั้น!”จากนั้นหัวหน้าสถานีก็ถือหน้าไม้ไว้ในมือและรีบเข้าไปก่อนเสียงกรีดร้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กองอยู่บนพื้นทำให้หัวหน้าสถานีดูมืดมนราวกับแม่น้ำลึกเมื่อเขาเข้าไปในห้องโถง ภาพที่เห็นทำให้เขาสะเทือนใจอย่างมาก“ใครกันที่โหดร้ายและอาจหาญได้ขนาดนี้?!”สมาชิกในทีมคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นภาพนี้“ชั่วช้ามาก พวกเราต้องตามหาคนร้ายและนำตัวพวกนั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้!”“ใช่! นี่ถือเป็นการท้าทายความยิ่งใหญ่ของสถานีของเรา!”หัวหน้าโบกมือเพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง “กระจายไปรอบ ๆ และจำไว้ว่าอย่าแตะร่องรอยใดใดในสถานที่เกิดเหตุ แล้วรอให้ทีมนิติเวชมาตรวจสอบดู”“หัวหน้า รีบมาดูเร็ว มีสัญลักษณ์อะไรอยู่ตรงนี้ด้วย!”สมาชิกในทีมคนหนึ่งชี้ไปยังลวดลายที่เย่ซิววาดบนผนังแล้วหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปหัวหน้ามองตามไปแค่มองดู ม่านตาของเขาก็หดตัวทันที พลางรีบตะโกน “หยุด อย่าถ่ายรูป!”หัวหน้าวิ่งไปที่กำแพงและมองดูใกล้ ๆ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 23

    ทันทีที่หัวหน้าสถานีออกมา สื่อจากทุกด้านก็กรูมารวมกันอย่างบ้าคลั่งและยื่นไมโครโฟนให้เขาหัวหน้าสถานีวางมือลงและรอให้เหตุการณ์สงบลงก่อนที่จะพูดว่า “ทุกท่าน ตามข้อมูลที่เด่นชัด จ้าวเฟิง จ้าวเฉียนและจ้าวจางได้ขายความลับของประเทศให้แก่องค์กรข่าวกรองต่างประเทศ จากหลักฐานที่ได้ข้อสรุป จึงทำให้ได้รับโทษตัดสินประหารชีวิต”“ส่วนทรัพย์สินของพวกเขานั้นจะถูกยึดทั้งหมด!”ทันทีที่มีคำพูดเหล่านี้ออกมา เหล่าสื่อมวลชนก็ตื่นเต้นกันทันทีแฟลชจากกล้องทุกตัวกระพริบอย่างบ้าคลั่งและคำถามต่าง ๆ ที่ถูกถามอย่างต่อเนื่องหัวหน้าสถานีตอบคำถามสำคัญอีกเพียงสองสามข้อ จากนั้นก็หยุดตอบและออกจากพื้นที่ไปเนื่องจากข่าวนี้ ทำให้ทั่วทั้งเมืองเจียงเฉิงเดือดพล่านไปหมดในตอนเช้า เซี่ยซิ่วซิ่วกำลังนั่งอยู่ในรถที่มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงเธอกำลังอ่านข่าวทันทีที่ฉันเปิดโปรแกรม ก็เห็นหัวข้อที่สะดุดตาขึ้นอยู่หน้าไทม์ไลน์เมื่อเห็นหัวข้อนี้ มือของเซี่ยซิ่วซิ่วก็สั่นจนเธอแทบจะทำโทรศัพท์ตกเพราะไม่ได้ถือไว้แน่นพอ เธอหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์เธอพึมพำกับตัวเอง “เย่ซิว คุณเป็นใครมาจากไหนกันแน่ ท

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1150

    เธอมีพรสวรรค์โดดเด่น แถมยังได้รับความรักความเอ็นดูจากเจ้าสำนักเป็นพิเศษและเธอยังเป็นคู่หมั้นของหนานกงอู๋ซวงอีกด้วยหนานกงอู๋ซวงละสายตากลับมาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ก็แค่ตัวตลกไร้สาระ ไม่ต้องไปสนใจหรอก”“นั่นสิ เขาเทียบกับพี่อู๋ซวงไม่ได้เลยสักนิด”เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “ถ้านายมีความสามารถถึงขนาดนั้น ของรางวัลทั้งหมดก็ยกให้นายได้ ไม่มีปัญหา”เขาเองก็ไม่คิดว่าเย่ซิวจะทำได้จริงเย่ซิวพยักหน้ารับ “ครับ ขอบคุณท่านเจ้าสำนักมาก”ในเมื่อเขาได้รับอนุญาตแล้ว งั้นก็แสดงฝีมือออกมาเล็กน้อยเพื่อกวาดรางวัลทั้งหมดไปก็แล้วกันจางเสี่ยวอวี๋รีบขยับเข้ามาใกล้ เธอดึงชายเสื้อเย่ซิวแล้วกระซิบ “นายบ้าไปแล้วเหรอ คิดยังไงถึงพูดอะไรแบบนั้นออกมาถ้าแพ้ขึ้นมา จะไม่ใช่แค่นายที่ขายหน้า แต่ท่านอาจารย์ก็จะเสียหน้าด้วยนะ”เย่ซิวหันมามองเธอก่อนจะตอบสั้น ๆ “พูดไปเธอก็ไม่เข้าใจหรอก”จางเสี่ยวอวี๋ถึงกับกลอกตาแรง ๆ พลางรู้สึกว่านายคนนี้คงหมดทางเยียวยาแล้วจริง ๆหลังจากเรื่องหยุมหยิมนั้นผ่านไป การประลองก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีผู้อาวุโสคนหนึ่งมาทำหน้าที่เป็นกรรมการ และเริ่มจับ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1149

    “รางวัลอันดับสิบ เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ระดับกลาง กระบี่อัคคีเมฆารางวัลอันดับเก้า เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง โล่แสงศักดิ์สิทธิ์…อันดับสาม หญ้าลิ้นมังกรที่มีอายุสามร้อยปีอันดับสอง โอสถพยัคฆ์มังกรอันดับหนึ่ง สมบัติเวทมนตร์ระดับต่ำ กระบี่ไตรสุริยัน”เมื่อเจ้าสำนักประกาศรางวัลทั้งหมดออกมาจบแล้วไม่ใช่แค่เหล่าศิษย์ใหม่ที่ตาเป็นประกาย แม้แต่ศิษย์เก่าที่มีประสบการณ์ก็ยังมีท่าทีอิจฉาเสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นรอบ ๆ“ปีนี้รางวัลชักจะโหดเกินไปแล้ว”“เยอะกว่าปีก่อนหลายเท่าเลย”“โดยเฉพาะรางวัลอันดับหนึ่ง นั่นกระบี่ไตรสุริยันเชียวนะ อาวุธคู่กายเก่าของท่านเจ้าสำนักเลยนี่!”……รั่วอวิ๋นขยับสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองเย่ซิว “อันดับสองมีโอสถพยัคฆ์มังกร นั่นเป็นของดีมากนะถ้าได้กินจะทำให้มีโอกาสเข้าใจเคล็ดวิชา ‘พยัคฆ์คำรามมังกรรำพัน’ ได้ ลองพยายามดูนะ เผื่อจะได้อันดับที่สองมา”เย่ซิวยิ้มบาง “ท่านอาจารย์ดูแคลนผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ แล้วถ้าผมได้ที่หนึ่งขึ้นมาล่ะ”รั่วอวิ๋นแค่นเสียงหึ “อย่าเพ้อฝันไปหน่อยเลย บอกตามตรงนะ ศิษย์ใหม่รอบนี้มีคนที่ฝีมือโหดมากอยู่คนหนึ่งทุกคนในสำนักต่างก็มั่น

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1148

    บรรยากาศรอบตัวพลันเงียบกริบลงทันที!“กรี๊ดดด!!”จางเสี่ยวอวี๋กรีดร้องเสียงแหลมสุดชีวิต ก่อนจะรีบใช้มือปิดร่างตัวเองอย่างลนลาน“ไอ้บ้า ยังจะมองอยู่อีก หันหลังไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”เย่ซิวตบไหล่เธอเบา ๆ “พวกเราก็เหมือนพี่น้องกัน จะเครียดอะไรขนาดนั้น”“ใครเป็นพี่น้องกับนาย ฉันจะฆ่านายซะ!”จางเสี่ยวอวี๋แทบจะคลั่ง ใครจะไปคิดว่าโลกนี้จะมีผู้ชายที่หน้าด้านได้ขนาดนี้อีกทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอยังเคยแอบรู้สึกดี ๆ กับเขาอยู่บ้าง แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองตาถั่วไปแล้วชัด ๆเย่ซิวหัวเราะเบา ๆ โดยไม่พูดอะไรเพิ่ม ก่อนจะหันหลังให้อย่างว่าง่ายเสียงขยับตัวขลุกขลักดังมาจากข้างหลังไม่นาน จางเสี่ยวอวี๋ก็ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วรีบวิ่งออกจากถ้ำไปทันทีเธอกลัวว่าเย่ซิวจะฉวยโอกาสทำอะไรไม่ดีใส่เธอแต่เธอคิดมากไปเองเย่ซิวผ่านอะไรมามากเกินพอแล้ว สาวสวยระดับไหนก็เห็นมานับไม่ถ้วนตอนนี้ความรู้สึกต้านทานต่อผู้หญิงสวย ๆ ของเขาสูงมากจนแทบไม่รู้สึกอะไรแล้วหลายวันต่อมา ชีวิตของเย่ซิวก็ดำเนินไปอย่างสงบเรียบง่ายทุกเช้าเขาจะไปให้อาหารสิงโตหยกขาวทั้งแปดเขาเตรียมอาหารให้ครบสามมื้อ แล้วก็โยนโอสถที่ตัวเองกลั่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1147

    ในห้องรับแขก เย่ซิวนั่งมองจางเสี่ยวอวี๋ที่เปลี่ยนมาสวมชุดใหม่ชุดใหม่นี่ทำให้เธอดูเปลี่ยนไปพอสมควร รูปร่างดูเพรียวขึ้น แถมยังดูมีความเรียบร้อยขึ้นด้วย“มีของดีอะไรจะเอามาให้ดูเหรอ?”จางเสี่ยวอวี๋หยิบขวดยาเล็ก ๆ ออกมาจากอกเสื้อ ก่อนจะเปิดฝาแล้วหยิบเม็ดยาสีดำ ๆ เม็ดหนึ่งขึ้นมาโชว์ด้วยความดีใจสุด ๆ“เห็นไหม? นี่คือโอสถฟื้นพลัง ฉันทำสำเร็จแล้วนะ เท่ากับว่าฉันกลายเป็นนักปรุงยาฝึกหัดอย่างเป็นทางการแล้ว”เธอพยายามมาหลายปี ในที่สุดก็ทำสำเร็จสักทีความดีใจในใจมันล้นจนเก็บไม่อยู่จะไปอวดพวกศิษย์รับใช้คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกภูมิใจเท่าไหร่จะไปอวดอาจารย์รั่วอวิ๋นที่กำลังปิดด่านกลั่นโอสถอยู่ก็ไม่กล้ารบกวนคิดไปคิดมาก็เหลือแค่เย่ซิวนี่แหละที่เหมาะจะอวดให้ฟังเพื่อให้การอวดครั้งนี้ได้ผลเต็มที่ จางเสี่ยวอวี๋ถึงขั้นไปอาบน้ำและแต่งตัวใหม่ให้ดูเรียบร้อยและมีภูมิฐานกว่าเดิมแต่เย่ซิวกลับทำหน้าเซ็งเพราะนึกว่ามีเรื่องใหญ่โตอะไรเขาโบกมือไล้อย่างไม่สบอารมณ์ “อืม รู้แล้ว กลับไปได้แล้ว”จางเสี่ยวอวี๋หน้ามุ่ยทันที “นายนี่มันยังไงกัน ฉันเอาข่าวดีมาบอกนายเป็นคนแรกเลยนะ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ หรือว่านาย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1146

    ดวงตาเย่ซิวเปล่งประกาย “วิชามังกรหนึ่งเดียว!”นี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่งหากว่าด้วยเรื่องระดับของพลังร่างกายแล้วโดยทั่วไปมักเปรียบเทียบเป็นแรงม้าหรือแรงพยัคฆ์สองตัวอะไรพวกนั้นแต่พอขึ้นมาถึงระดับสูงสุดถึงจะเรียกว่าวิชามังกรหนึ่งเดียวและคนที่สามารถไปถึงระดับนี้ได้ก็ไม่มีใครที่ไม่ใช่ผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านฝึกฝนร่างกายโดยเฉพาะแม้แต่เย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปถึงจุดนี้ได้เร็วขนาดนี้เขาลุกขึ้นแล้วเริ่มร่ายกระบวนท่าหมัดอย่างต่อเนื่องพลังเลือดภายในกายไหลเวียนอย่างดุดันดั่งสายน้ำเชี่ยวท่าหมัดรุนแรงดุจสายฟ้าฟาด ทรงพลัง หนักแน่นจนเสียงกระดูกดังเปรี๊ยะ ๆ กึกก้องไปทั่วหลังจากฝึกจบกระบวนท่า เย่ซิวก็ควบคุมพลังใหม่ที่ได้รับมาได้อย่างสมบูรณ์เขารู้สึกได้เลยว่าพลังงานในร่างกายพุ่งทะยานถึงขีดสุด สภาพร่างกายตอนนี้ดีที่สุดในชีวิตตอนนี้เย่ซิวแค่ใช้พลังร่างกายล้วน ๆ ก็สามารถบดขยี้ผู้บำเพ็ญตนระดับถอดจิตได้อย่างไม่ลำบากเลยตราบใดที่อีกฝ่ายไม่มีสมบัติล้ำค่าอะไรเป็นพิเศษ ก็ไม่มีทางต้านทานพลังของเย่ซิวได้เลยส่วนเรื่องว่าจะสู้กับคนระดับปฐมญาณได้หรือไม่นั้น

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1145

    “โครม!”ฝาหม้อระเบิดเปิดออก ทันใดนั้นก็มีเงามังกรพุ่งทะยานขึ้นฟ้าพร้อมเสียงคำรามดังกึกก้องเงามังกรนี้คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อการกลั่นโอสถเสร็จสมบูรณ์เย่ซิวดีใจสุด ๆ ในที่สุดก็สำเร็จแล้วภายในหม้อกลั่นโอสถมีโอสถสีทองแดงปนแดงสดนอนเรียงอยู่อย่างเรียบร้อยถึงร้อยเม็ดแต่ละเม็ดมีลักษณะภายนอกสวยงามไร้ที่ติเขาหยิบขึ้นมาหนึ่งเม็ดกลับพบว่ามันหนักหลายร้อยกรัมและคุณภาพสูงมากจนน่าเหลือเชื่อหากตั้งใจฟังให้ดีจะได้ยินเสียงคำรามของมังกรอันทรงอำนาจแผ่วเบาดังมาจากภายในโอสถเย่ซิวต้องพยายามข่มใจไม่ให้กลืนลงไปทันทีเพราะข้างนอกยังมีรั่วอวิ๋นที่ยังตะโกนโวยวายอยู่เขาโบกมือเก็บโอสถทั้งหมดไปแล้วก็ลูบขมับเบา ๆ พร้อมกับรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อยนี่เขาไปหาอาจารย์แบบไหนมากัน ถึงได้เอาแต่เสียงดังโวยวายแบบนี้เย่ซิวเดินไปที่ประตูถ้ำแล้วเปิดออกก็เจอหน้ารั่วอวิ๋นที่เต็มไปด้วยความโมโหจ้องเขาอยู่“เจ้าเด็กบ้า เมื่อกี้ทำอะไรอยู่ข้างใน? ฉันเรียกตั้งนานก็ยังไม่เปิดประตูอีก”“เมื่อกี้ออกไปข้างนอกเจอสาวสวยคนหนึ่งน่ะครับ ก็เลยติดธุระอยู่นิดหน่อย ขอโทษนะครับท่านอาจารย์”รั่วอวิ๋นเหมือนโดนบีบคอทันท

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1144

    ตอนแรกก็วิ่งมาด้วยความเดือดดาล ตั้งใจจะเคลียร์กับเย่ซิวให้รู้เรื่องสุดท้ายกลับจบลงด้วยการเดินจากไปแบบงง ๆ เสียเองเธอไม่ได้ด่าเย่ซิวสักคำ แต่กลับเป็นตัวเธอเองที่ต้องตกตะลึงเต็มกระเป๋ากลับไปแทนเย่ซิวเองก็ได้แต่ยืนงงและรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้พิลึกขึ้นทุกทีเมื่อกลับเข้ามาในถ้ำ เย่ซิวก็เปิดค่ายกลป้องกันให้ทำงานเต็มกำลังแล้วเริ่มเตรียมตัวกลั่นโอสถเขาใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเริ่มจากกลั่นโอสถทั่วไปหนึ่งชุดเพื่อจับจังหวะและความรู้สึกก่อน พอมั่นใจแล้วถึงเริ่มลงมือปรุงโอสถจิตมังกรโอสถนี้มีค่าอย่างยิ่งและมีวิธีการกลั่นที่ยากมากเย่ซิวมีวัตถุดิบแค่นี้เท่านั้นจึงไม่กล้าประมาทแม้แต่นิดเดียว ต้องใช้สมาธิสูงสุดเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ระหว่างที่เย่ซิวกำลังกลั่นโอสถอยู่นั้น ฝ่ายเจ้าสำนักอวิ้นหลิงก็มาถึงเขตเขาดินแดนโอสถรั่วอวิ๋นเห็นเขาก็อดแปลกใจไม่ได้ “ท่านเจ้าสำนักมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ”เจ้าสำนักยิ้มบาง “เมื่อวานอู๋ซวงไปเจอผลโลหิตมังกรในป่าลึกน่ะ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายพวกมันโดนปีศาจร้ายตนหนึ่งขโมยไปเสียก่อน”รั่วอวิ๋นตกใจ “ผลโลหิตมังกร ของแบบนั้นฉันยังไม่เคยเห็นด้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1143

    พอกลับมาถึงถ้ำ เย่ซิวก็เดินตรงไปยังห้องกลั่นโอสถที่เตรียมไว้โดยเฉพาะที่นี่มีสายพลังไฟใต้ดินอยู่ซึ่งช่วยประหยัดแรงในการกลั่นโอสถได้มากเลยเขานำสมุนไพรทั้งหมดที่ใช้สำหรับกลั่นโอสถจิตมังกรมาวางเรียงไว้แต่พอกำลังจะเริ่มลงมือ เสียงตะโกนด้วยความโกรธจัดของรั่วอวิ๋นก็ดังขึ้นจากข้างนอกเย่ซิวชะงักไปมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นโกรธขนาดนี้ได้นะ?เขาหยุดทุกอย่างแล้วรีบวิ่งออกไปเปิดประตูถ้ำ“เกิดอะไรขึ้น? มีใครมารังแกเหรอครับ?”รั่วอวิ๋นยืนหน้าเครียดพลางเอ่ยเสียงแข็งใส่เขา “นายทำอะไรกับพวกสิงโตหยกขาวของฉัน?!”“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ก็แค่ใช้วัตถุดิบตามที่อาจารย์ให้มานั่นแหละ ผสมอาหารแล้วก็ให้พวกมันกินตามปกติ”“แค่นั้นน่ะเหรอ” รั่วอวิ๋นเลิกคิ้ว สีหน้าดูไม่เชื่อสุด ๆ“ก็ใช่สิครับ หลังจากให้อาหารเสร็จก็กลับออกมาเลย ทำไมเหรอ พวกมันไม่สบายเหรอครับ?”สีหน้าของเย่ซิวดูไม่เหมือนคนกำลังโกหก รั่วอวิ๋นเลยลดน้ำเสียงลงเล็กน้อยแต่ยังดูหงุดหงิดอยู่ “พวกมันไม่สนใจฉันเลย ปกติแค่ฉันเข้าไป พวกมันก็จะรีบวิ่งมาอ้อนทันที”“เอ่อ…” เย่ซิวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อาจจะเป็นเพราะพวกมันโตแล้วก็ได้ เหมือนเด็ก ๆ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1142

    จางเสี่ยวอวี๋ตบหน้าอกตัวเองแรง ๆ อย่างโล่งอก “เมื่อกี้น่ากลัวชะมัด ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ท่านเจ้าสำนักก็ยังมาที่นี่ด้วยตัวเอง แถมเก่งกว่าที่เล่าลือกันอีก”เย่ซิวเงียบและไม่พูดอะไรตอนนี้เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องรีบเพิ่มพลังให้ตัวเองโดยเร็วที่สุดหากต้องเผชิญหน้ากับคนที่อยู่ระดับระดับปฐมญาณ การจะต่อต้านได้ อย่างน้อยต้องไปให้ถึงระดับถอดจิตก่อนจนกระทั่งใกล้จะถึงสำนักอวิ้นหลิง เย่ซิวถึงค่อยปลดพลังสมบัติเวทมนตร์ที่พรางตัวอยู่แต่แล้วเขาก็ยื่นมือมาคว้าคอของจางเสี่ยวอวี๋ทันทีจิตสังหารเย็นเยียบแผ่ซ่านออกมาจนเธอรู้สึกเหมือนเลือดในร่างจะหยุดไหลจางเสี่ยวอวี๋ตัวแข็งทื่อพลางมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตื่นตระหนก“สาบานด้วยเลือดซะ ไม่งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป”แม้ดูตามเหตุผลแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะเอาเรื่องวันนี้ไปแพร่งพรายแต่เพื่อความปลอดภัย เย่ซิวก็ยังอยากให้เธอสาบานเลือดไว้ก่อนจางเสี่ยวอวี๋พยักหน้าอย่างยากลำบากเย่ซิวจึงค่อย ๆ ปล่อยมือจากเธอเธอไออยู่พักใหญ่ พอหายใจกลับมาได้ก็เริ่มมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวหลังจากสูดหายใจลึกหลายครั้ง เธอก็ยกสามนิ้วขึ้นต่อหน้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status