พวกเขาเกือบจะฝ่าไฟแดงและมาถึงบ้านตระกูลจ้าวในเวลาอันสั้น“กระจายกันออกไปและล้อมรอบตระกูลจ้าวเอาไว้ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป และไม่อนุญาตให้ใครออกมาทั้งนั้น!”จากนั้นหัวหน้าสถานีก็ถือหน้าไม้ไว้ในมือและรีบเข้าไปก่อนเสียงกรีดร้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กองอยู่บนพื้นทำให้หัวหน้าสถานีดูมืดมนราวกับแม่น้ำลึกเมื่อเขาเข้าไปในห้องโถง ภาพที่เห็นทำให้เขาสะเทือนใจอย่างมาก“ใครกันที่โหดร้ายและอาจหาญได้ขนาดนี้?!”สมาชิกในทีมคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นภาพนี้“ชั่วช้ามาก พวกเราต้องตามหาคนร้ายและนำตัวพวกนั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้!”“ใช่! นี่ถือเป็นการท้าทายความยิ่งใหญ่ของสถานีของเรา!”หัวหน้าโบกมือเพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง “กระจายไปรอบ ๆ และจำไว้ว่าอย่าแตะร่องรอยใดใดในสถานที่เกิดเหตุ แล้วรอให้ทีมนิติเวชมาตรวจสอบดู”“หัวหน้า รีบมาดูเร็ว มีสัญลักษณ์อะไรอยู่ตรงนี้ด้วย!”สมาชิกในทีมคนหนึ่งชี้ไปยังลวดลายที่เย่ซิววาดบนผนังแล้วหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปหัวหน้ามองตามไปแค่มองดู ม่านตาของเขาก็หดตัวทันที พลางรีบตะโกน “หยุด อย่าถ่ายรูป!”หัวหน้าวิ่งไปที่กำแพงและมองดูใกล้ ๆ
ทันทีที่หัวหน้าสถานีออกมา สื่อจากทุกด้านก็กรูมารวมกันอย่างบ้าคลั่งและยื่นไมโครโฟนให้เขาหัวหน้าสถานีวางมือลงและรอให้เหตุการณ์สงบลงก่อนที่จะพูดว่า “ทุกท่าน ตามข้อมูลที่เด่นชัด จ้าวเฟิง จ้าวเฉียนและจ้าวจางได้ขายความลับของประเทศให้แก่องค์กรข่าวกรองต่างประเทศ จากหลักฐานที่ได้ข้อสรุป จึงทำให้ได้รับโทษตัดสินประหารชีวิต”“ส่วนทรัพย์สินของพวกเขานั้นจะถูกยึดทั้งหมด!”ทันทีที่มีคำพูดเหล่านี้ออกมา เหล่าสื่อมวลชนก็ตื่นเต้นกันทันทีแฟลชจากกล้องทุกตัวกระพริบอย่างบ้าคลั่งและคำถามต่าง ๆ ที่ถูกถามอย่างต่อเนื่องหัวหน้าสถานีตอบคำถามสำคัญอีกเพียงสองสามข้อ จากนั้นก็หยุดตอบและออกจากพื้นที่ไปเนื่องจากข่าวนี้ ทำให้ทั่วทั้งเมืองเจียงเฉิงเดือดพล่านไปหมดในตอนเช้า เซี่ยซิ่วซิ่วกำลังนั่งอยู่ในรถที่มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงเธอกำลังอ่านข่าวทันทีที่ฉันเปิดโปรแกรม ก็เห็นหัวข้อที่สะดุดตาขึ้นอยู่หน้าไทม์ไลน์เมื่อเห็นหัวข้อนี้ มือของเซี่ยซิ่วซิ่วก็สั่นจนเธอแทบจะทำโทรศัพท์ตกเพราะไม่ได้ถือไว้แน่นพอ เธอหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์เธอพึมพำกับตัวเอง “เย่ซิว คุณเป็นใครมาจากไหนกันแน่ ท
ก่อนที่เย่ซิวจะได้พูดอะไร รุ่นพี่หลายคนที่ผ่านไปก็วิ่งเข้ามาอย่างกระตือรือร้นทันที“ให้ฉันช่วยเธอถือของเถอะ ฉันรู้จักที่นี่ดี”“ฉันดีกว่า ฉันเป็นเรียนเอกกีฬาแล้วก็แข็งแรงมากด้วย”“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันเอง เพื่อนนักศึกษาคนนี้ดูน่ากลัวไปหน่อย ดังนั้น อย่าทำให้รุ่นน้องหญิงตกใจเลย”“หมายความว่าไง? นี่ขัดขากันงั้นเหรอ?!”“เปล่า ๆ ฉันแค่บอกตามความจริง”เซี่ยซิ่วซิ่วหน้าตาน่ารักมากจนบรรดาผู้ชายทั้งหลายไม่อาจทานทนได้และพากันอยากจะเด็ดดอกไม้งามนี้มาเชยชมขณะที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาก็เริ่มทะเลาะกันและมีแนวโน้มว่าจะทะเลาะกันรุนแรงเย่ซิวส่ายหน้าและหันไปช่วยเซี่ยซิ่วซิ่วถือกระเป๋าเดินทางของเธอไปเซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มเบา ๆ “ขอบคุณเพื่อนนักศึกษา ฉันชื่อเซี่ยซิ่วซิ่ว ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย”“เรียกผมว่าเย่ซิวก็ได้”“สวัสดี เพื่อนนักศึกษาเย่ซิว นายเป็นน้องใหม่หรือเปล่า?”“ใช่” เย่ซิวพยักหน้า และทันใดนั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในใจของเขา “พูดถึงเรื่องนี้ ผมรู้จักเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเซี่ยชิงชิง ไม่ใช่ว่าพวกคุณมีความเกี่ยวข้องกันหรอกนะ?”“หา?” ริมฝีปากสีแดงของเซี่ยซิ่วซิ่วแยกออกเล็กน้อยพร้อมกับแววตาประ
ภาพเด็กสาวที่งดงามราวเทพธิดาสองคนยืนอยู่ด้วยกันในมหาวิทยาลัยนั้นยอดเยี่ยมเกินไปนักศึกษาชายหลายคนที่ผ่านไปมาไม่สามารถละสายตาจากภาพนี้ได้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์วิ่งไปทักทายเย่ซิว แล้วทำสีหน้าประหลาดใจราวกับว่าเธอเพิ่งเห็นเซี่ยซิ่วซิ่ว “ซิ่วซิ่ว ทำไมเธอถึงมาเรียน เธอรู้จักกับเพื่อนนักศึกษาเย่เหรอ?”เซี่ยซิ่วซิ่วก็ประหลาดใจมากเช่นกัน “ใช่ ฉันรู้จักเย่ซิว เธอสองคนรู้จักกันเหรอ?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์หรี่ตาลงพลางยิ้มอย่างสดใส “เพื่อนนักศึกษาเย่และฉันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”“บังเอิญมากเลย”เซี่ยซิ่วซิ่วดูเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่เธอก็แอบระวังอยู่ในใจเธอและลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้จักกันมานานแล้วผู้หญิงคนนี้แทบจะไม่เคยออกไปเที่ยวกับผู้ชายหน้าไหนเลยการริเริ่มทักทายผู้ชายเช่นวันนี้ทำให้เธอรู้สึกเหลือเชื่อมากยิ่งขึ้น‘หรือว่าเธอจะสนใจเย่ซิวด้วย? เด็กหนุ่มคนนี้มีความสามารถค่อนข้างมาก แม้แต่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ยังสนใจเขา’ขณะเดียวกันลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็พึมพำอยู่ในใจ ‘ซิ่วซิ่วไม่ได้เอาแต่ทุ่มเทให้กับอาชีพการงานของเธอหรอกเหรอ? เธอไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเลย แล้วทำไมวันนี้เธอถึงเดินมากับเย่ซิว อีกทั้งยังย้ายมาอาศัยอยู
ลู่เสวี่ยเออร์โบกมือเล็ก ๆ ของเธอไปทางเย่ซิว ก่อนสะบัดผมของตัวเอง ผมสีดำปลิวไสวเต็มไปด้วยความเยาว์วัยและความมีชีวิตชีวาจู่ ๆ อารมณ์ของเย่ซิวก็ชัดเจนขึ้นมากเขาผ่านการฝึกฝนอย่างหนักมาทุกรูปแบบตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และเขาไม่เคยมีประสบการณ์กับเด็กผู้หญิงทั่วไปเช่นนี้มาก่อนเย่ซิวมุ่งหน้าไปยังคณะศิลปะการต่อสู้ประเทศหลงเถิงในปัจจุบัน ผู้คนทุกคนล้วนใช้ศิลปะการต่อสู้เป็น และมีความรู้ด้านศิลปะการต่อสู้อยู่บ้างไม่มากก็น้อยดังนั้นทุกมหาวิทยาลัยจะมีคณะศิลปะการต่อสู้เมื่อเย่ซิวมาถึงคณะศิลปะการต่อสู้ บรรยากาศก็เงียบลงทันทีในคณะศิลปะการต่อสู้มีเด็กผู้หญิงเพียงสามคน และพวกเธอทุกคนก็ดูแข็งแกร่งมากสิ่งที่ทักทายเย่ซิวคือดวงตาไร้เมตตาส่วนในเว็บบอร์ดนั้นก็กลายเป็นไวรัลในแวดวงเพื่อนนักศึกษาไปแล้วเย่ซิวเดินไปพร้อมกับเทพธิดาทั้งสองเซี่ยซิ่วซิ่วเป็นดาวมหาวิทยาลัยเมื่อเทอมแล้ว และลู่เสวี่ยเอ๋อร์เป็นดาวมหาวิทยาลัยในเทอมนี้ไม่รู้ว่ามีเด็กหนุ่มกี่คนที่ฝันเพ้อถึงพวกเธอไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าคนส่วนใหญ่ในห้องเรียนนี้ถือว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์เป็นคนรักในฝันของพวกเขาตอนนี้เทพธิดาของพวกเขาเดิน
ตึง!เขาเดินไปต่อยกำแพงได้ยินเสียงดังสนั่นและทิ้งรอยหมัดซึ่งมีความหนาประมาณเจ็ดแปดเซนติเมตรเอาไว้บรรดาคนที่ลุกขึ้นจะโจมตีเย่ซิวก็นั่งลงตรงจุดนั้น ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดทั้งห้องเรียนกลายเป็นเงียบกริบเย่ซิวมองไปรอบ ๆ พลางพูดอย่างช้า ๆ “ฉันไม่อยากสร้างปัญหา แค่อยากมาเรียนเงียบ ๆ แต่ฉันก็ไม่ใช่คนอ่อนแอที่ใครจะมารังแกก็ได้”“ใครก็ตามที่จะโจมตีฉันก็ลองไปคิดดูให้ดีก่อนว่าร่างกายของตัวเองแข็งกว่ากำแพงนี้รึเปล่า”“คนไหนคือหัวหน้าห้อง?”“ฉันเอง…”เด็กหนุ่มผมสั้นลุกขึ้นยืนตัวสั่นเย่ซิวหยิบเงินสองร้อยออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เขา“นายไปหาคนมาซ่อมแซมกำแพงนี้ทีนะ ถ้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ผมจะจัดการให้”หัวหน้าห้องเกือบจะร้องไห้ แต่เขาพูดกับตัวเองว่าเงินค่าสองร้อยหยวนไพอจะซ่อมหลุมขนาดใหญ่เช่นนี้ และเขาก็ต้องจ่ายเพิ่มแต่เขาไม่กล้าพูดอะไรจึงรีบรับเงินแล้วก้มหน้าลงเย่ซิวหามุมนั่งไม่นานอาจารย์ก็มาเขาเห็นรูใหญ่บนกำแพงทันทีจึงถามว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”หัวหน้าห้องลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดว่า “อาจารย์ครับ พอดีกำแพงมันพังลงมาเอง เดี๋ยวผมจะหาคนมาซ่อมหลังเลิกเรียนนะครับ”ครูมีท่าท
ซึ่งดีมากสำหรับคนกินจุอย่างเย่ซิวเย่ซิวถืออาหารไปนั่งตรงมุมจากนั้นเขาก็ถอดหน้ากากออกแล้วเริ่มกินหลังจากรับประทานอาหารไปได้ครึ่งทาง ก็มีคนหลายคนมานั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามเย่ซิวเงยหน้ามองและเห็นว่าหนึ่งในนั้นเป็นคนรู้จักเก่าหวังเฟยนั่นเองสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ไอ้สารเลว แกทำอะไรกับฉันกันแน่?!”ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สมรรถภาพทางเพศของเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลยลองใช้ทั้งยาแผนจีนและยาตะวันตก ก็ไม่เป็นผลแม้จะขอให้ผู้หญิงที่มีเสน่ห์หลายสิบคนมาช่วยก็ยังไม่ได้ผลล้มเหลวหมดทุกวิธีในฐานะคนตัณหากลับอย่างเขาจะยอมรับได้อย่างไรว่าตัวเองไม่อาจเป็นเช่นเก่าก่อนได้?ในขณะที่กำลังสิ้นหวัง เขาก็หาเย่ซิวเจอและเขาก็ยังพาบอดี้การ์ดสองคนมาด้วยสองคนนี้เป็นจอมยุทธ์ระดับสองที่เขาจ้างมาในราคาแพงมหาศาล และพวกเขาก็ทรงพลังมากเขาเห็นด้วยตาตนเองว่าบอดี้การ์ดทั้งสองใช้หมัดทุบแผ่นเหล็กหนาจนยุบลงไปสองสามมิลลิเมตรเย่ซิวเหลือบมองเขา จากนั้นก็ก้มหน้ากินต่อโดยไม่สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียวหวังเฟยทำหน้าดุร้ายพลางคำรามออกมา “ไอ้เด็กนี่ แกได้ยินที่ฉันพูดกับแกไหม? อย่าบังคับให้ฉันต้องลงมือที่นี่
เย่ซิวเห็นฉากนี้ทันทีที่เขาเดินออกจากโรงอาหาร ความโกรธของเขาก็พุ่งพล่านขึ้นทันทีเด็กสาวที่ถูกหยอกล้อไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลิ่วเมิ่งอิ๋นเดิมทีสถานการณ์ของหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็ค่อนข้างน่าสังเวชอยู่แล้วพ่อของเธอป่วยมาหลายปี และเธอต้องแบกรับภาระของครอบครัวเพียงลำพังในที่สุดตอนนี้พ่อของเธอสบายดีแล้ว เธอจึงมีโอกาสได้เรียนหนังสือแต่ใครจะรู้ว่าเมื่อมาเรียนครั้งแรกจะต้องเจอเรื่องแบบนี้เย่ซิวรีบวิ่งไปข้างหน้าและเตะเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำเขาโกรธมาก จึงจัดการอย่างไม่ออมมือคนที่หยอกล้อหลิ่วเมิ่งอิ๋นกระดูกหักหลายท่อนเขาปล่อยเสียงกรีดร้องออกมา พลางนอนราบกับพื้นและจ้องมองไปที่เย่ซิว “ไอ้สารเลว แกเป็นใคร? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาทำร้ายพวกเรา?!”หลิ่วเมิ่งอิ๋นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเธอเห็นว่าเป็นเย่ซิว เธอก็แสดงท่าทางประหลาดใจทันที“พี่เย่ พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”เธอรู้สึกตื่นเต้นมากนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เย่ซิวช่วยเธอเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนี้เย่ซิวมากขึ้นเรื่อย ๆเย่ซิวพูดเสียงอ่อนโยนกับหลิ่วเมิ่งอิ๋น “เธอหลับตาก่อน”หลิ่วเมิ่งอิ๋นหลับตาอย่างเชื่อฟังเย่ซิวเดินไปหาชายที่นอนอยู่บนพื้น เห
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่