ตึง!เขาเดินไปต่อยกำแพงได้ยินเสียงดังสนั่นและทิ้งรอยหมัดซึ่งมีความหนาประมาณเจ็ดแปดเซนติเมตรเอาไว้บรรดาคนที่ลุกขึ้นจะโจมตีเย่ซิวก็นั่งลงตรงจุดนั้น ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดทั้งห้องเรียนกลายเป็นเงียบกริบเย่ซิวมองไปรอบ ๆ พลางพูดอย่างช้า ๆ “ฉันไม่อยากสร้างปัญหา แค่อยากมาเรียนเงียบ ๆ แต่ฉันก็ไม่ใช่คนอ่อนแอที่ใครจะมารังแกก็ได้”“ใครก็ตามที่จะโจมตีฉันก็ลองไปคิดดูให้ดีก่อนว่าร่างกายของตัวเองแข็งกว่ากำแพงนี้รึเปล่า”“คนไหนคือหัวหน้าห้อง?”“ฉันเอง…”เด็กหนุ่มผมสั้นลุกขึ้นยืนตัวสั่นเย่ซิวหยิบเงินสองร้อยออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เขา“นายไปหาคนมาซ่อมแซมกำแพงนี้ทีนะ ถ้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ผมจะจัดการให้”หัวหน้าห้องเกือบจะร้องไห้ แต่เขาพูดกับตัวเองว่าเงินค่าสองร้อยหยวนไพอจะซ่อมหลุมขนาดใหญ่เช่นนี้ และเขาก็ต้องจ่ายเพิ่มแต่เขาไม่กล้าพูดอะไรจึงรีบรับเงินแล้วก้มหน้าลงเย่ซิวหามุมนั่งไม่นานอาจารย์ก็มาเขาเห็นรูใหญ่บนกำแพงทันทีจึงถามว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”หัวหน้าห้องลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดว่า “อาจารย์ครับ พอดีกำแพงมันพังลงมาเอง เดี๋ยวผมจะหาคนมาซ่อมหลังเลิกเรียนนะครับ”ครูมีท่าท
ซึ่งดีมากสำหรับคนกินจุอย่างเย่ซิวเย่ซิวถืออาหารไปนั่งตรงมุมจากนั้นเขาก็ถอดหน้ากากออกแล้วเริ่มกินหลังจากรับประทานอาหารไปได้ครึ่งทาง ก็มีคนหลายคนมานั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามเย่ซิวเงยหน้ามองและเห็นว่าหนึ่งในนั้นเป็นคนรู้จักเก่าหวังเฟยนั่นเองสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ไอ้สารเลว แกทำอะไรกับฉันกันแน่?!”ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สมรรถภาพทางเพศของเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลยลองใช้ทั้งยาแผนจีนและยาตะวันตก ก็ไม่เป็นผลแม้จะขอให้ผู้หญิงที่มีเสน่ห์หลายสิบคนมาช่วยก็ยังไม่ได้ผลล้มเหลวหมดทุกวิธีในฐานะคนตัณหากลับอย่างเขาจะยอมรับได้อย่างไรว่าตัวเองไม่อาจเป็นเช่นเก่าก่อนได้?ในขณะที่กำลังสิ้นหวัง เขาก็หาเย่ซิวเจอและเขาก็ยังพาบอดี้การ์ดสองคนมาด้วยสองคนนี้เป็นจอมยุทธ์ระดับสองที่เขาจ้างมาในราคาแพงมหาศาล และพวกเขาก็ทรงพลังมากเขาเห็นด้วยตาตนเองว่าบอดี้การ์ดทั้งสองใช้หมัดทุบแผ่นเหล็กหนาจนยุบลงไปสองสามมิลลิเมตรเย่ซิวเหลือบมองเขา จากนั้นก็ก้มหน้ากินต่อโดยไม่สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียวหวังเฟยทำหน้าดุร้ายพลางคำรามออกมา “ไอ้เด็กนี่ แกได้ยินที่ฉันพูดกับแกไหม? อย่าบังคับให้ฉันต้องลงมือที่นี่
เย่ซิวเห็นฉากนี้ทันทีที่เขาเดินออกจากโรงอาหาร ความโกรธของเขาก็พุ่งพล่านขึ้นทันทีเด็กสาวที่ถูกหยอกล้อไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลิ่วเมิ่งอิ๋นเดิมทีสถานการณ์ของหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็ค่อนข้างน่าสังเวชอยู่แล้วพ่อของเธอป่วยมาหลายปี และเธอต้องแบกรับภาระของครอบครัวเพียงลำพังในที่สุดตอนนี้พ่อของเธอสบายดีแล้ว เธอจึงมีโอกาสได้เรียนหนังสือแต่ใครจะรู้ว่าเมื่อมาเรียนครั้งแรกจะต้องเจอเรื่องแบบนี้เย่ซิวรีบวิ่งไปข้างหน้าและเตะเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำเขาโกรธมาก จึงจัดการอย่างไม่ออมมือคนที่หยอกล้อหลิ่วเมิ่งอิ๋นกระดูกหักหลายท่อนเขาปล่อยเสียงกรีดร้องออกมา พลางนอนราบกับพื้นและจ้องมองไปที่เย่ซิว “ไอ้สารเลว แกเป็นใคร? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาทำร้ายพวกเรา?!”หลิ่วเมิ่งอิ๋นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเธอเห็นว่าเป็นเย่ซิว เธอก็แสดงท่าทางประหลาดใจทันที“พี่เย่ พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”เธอรู้สึกตื่นเต้นมากนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เย่ซิวช่วยเธอเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนี้เย่ซิวมากขึ้นเรื่อย ๆเย่ซิวพูดเสียงอ่อนโยนกับหลิ่วเมิ่งอิ๋น “เธอหลับตาก่อน”หลิ่วเมิ่งอิ๋นหลับตาอย่างเชื่อฟังเย่ซิวเดินไปหาชายที่นอนอยู่บนพื้น เห
พวกผู้ชายก็เริ่มพลิกลิ้นทันที“ไร้สาระ! เราไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นสักหน่อย คุณคนสวยอย่าถูกเขาหลอกเชียวนะ”“พวกเราเป็นคนซื่อจะตาย จะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง?”“ไม่เห็นเหรอว่าเขาทำร้ายพวกเราจนมีสภาพแบบนี้? เขาต้องชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้เราเป็นล้านสิ ถึงจะถูก!”เมื่อฟังความจากทั้งสองฝ่าย เซี่ยซิ่วซิ่วเลือกที่จะเชื่อเย่ซิว เธอจึงพูดด้วยท่าทางสง่างามน่าเกรงขาม“พวกนายต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองพูด ต้าเซี่ยกรุ๊ปเป็นของตระกูลฉัน ฉันจะใช้อำนาจทั้งหมดของฉันเพื่อสืบหาสาเหตุของเรื่องนี้”"หากได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเรื่องนี้พวกนายผิด ฉันรับรองได้เลยว่าจะใช้อำนาจทั้งหมดของตระกูลเซี่ยจับพวกนายเข้าตารางอย่างน้อยสักสองสามปี!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ท่าทางของคนเหล่านี้ก็เปลี่ยนไปทันทีมีใครบ้างไม่รู้จักต้าเซี่ยกรุ๊ปแห่งเมืองเจียงเฉิงบ้าง นั่นเป็นยักษ์ใหญ่สำหรับพวกเขาทีเดียวหลังจากเห็นท่าทางของคนเหล่านี้ คนอื่น ๆ ก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง หยุดโพสต์บนเว็บบอร์ดและหยุดถ่ายรูปเพื่อทำลายชื่อเสียงของเย่ซิวโดยไม่รู้ตัวเซี่ยซิ่วซิ่วมองไปที่หลิ่วเมิ่งอิ๋นอีกครั้ง “น้องสาว เมื่อกี้พวกเขารังแกเธอห
“เธออย่าพักในหอพักเลย ฉันกำลังหาบ้านเช่าข้างนอก ถึงตอนนั้นย้ายออกมาอยู่กับฉันเถอะ”เหตุผลหลักเป็นเพราะเย่ซิวคิดได้ว่าเขาต้องฝึกฝนและจัดการบางสิ่ง หากพักอยู่ในหอพักมันจะไม่สะดวกสักเท่าไหร่สำหรับหลิ่วเมิ่งอิ๋น สาวน้อยคนนี้มีบุคลิกอ่อนแอ แต่กลับมีหน้าตาสะสวย มองดูก็รู้ว่าเธอดึงดูดคนได้ง่ายเพียงใดเย่ซิววางแผนที่จะฝึกฝนและสอนทักษะบางอย่างให้เธอ ไม่เช่นนั้นในอนาคตเธอจะถูกรังแกได้ง่าย แต่สิ่งที่หลิ่วเมิ่งอิ๋นได้ยิน ความหมายกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิงใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาในทันทีใจเธอเต้นแรง ความรู้สึกแปลก ๆ แพร่กระจายไปทั่วท้องนี่คือคำสารภาพรักหรือเปล่า?เซี่ยซิ่วซิ่วที่อยู่ข้าง ๆ ก็ตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของเธอกวาดไปมาระหว่างทั้งสองในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น“พวกเธอสองคนคบกันเหรอ?”เย่ซิวส่ายหัว “เปล่า เธอดูเป็นคนอ่อนแอ เลยกลัวว่าจะถูกกลั่นแกล้งหากพักอยู่ในหอพัก ผมเลยกะจะให้เธอมาพักด้วยสักระยะหนึ่ง ไม่ต้องกังวล ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรกับเธอ”เซี่ยซิ่วซิ่วคลายหมัดที่กำแน่นออกหลิ่วเมิ่งอิ๋นแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในใจก็แอบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ความอบอุ่นท
เย่ซิวมองไปที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ด้วยความประหลาดใจ “คุณทำความสะอาดเป็นด้วยเหรอ?”ในความเห็นของเขา ลูกสาวจากตระกูลร่ำรวยอย่างลู่เสวี่ยเอ๋อร์ น่าจะไม่เคยทำงานบ้านมาก่อนลู่เสวี่ยเอ๋อร์ย่นจมูกที่น่ารักของเธอ ส่งเสียงฮึดฮัดเบา ๆ “เพื่อนนักศึกษาเย่ อย่าดูถูกฉันสิ ฉันทำงานบ้านบ่อยมากนะ”นี่เป็นเรื่องจริงแม้ว่าครอบครัวของลู่เสวี่ยเอ๋อร์จะฐานะดี แต่พ่อแม่ของเธอก็ไม่ได้ตามใจเธอมากจนเกินไป บางสิ่งที่เธอควรทำก็ให้เธอทำ หลิ่วเมิ่งอิ๋นก้มหน้าลงจนแทบจะชิดอกเธอพบว่าผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเย่ซิวนั้นต่างก็ยอดเยี่ยมกว่าเธอทั้งนั้น และเธอไม่อาจแข่งขันด้วยได้เลย“สาวน้อยเป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เข้าไปถามอย่างเป็นห่วงขณะเดียวกันก็เหลือบมองความใหญ่โตของเธอ ที่พอก้มศีรษะลงมันก็บดบังจนมองไม่เห็นเท้าของตัวเองเมื่อเทียบกับตัวเองแล้ว เธอก็ถูกเล่นงานจนหมดท่าทำไมของเธอถึงใหญ่โตได้ขนาดนี้?น้ำเสียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์อ่อนโยนมาก หลิ่วเมิ่งอิ๋นเงยหน้าขึ้นยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวนักเรียนชายที่ผ่านมาเห็นฉากนี้แทบคลั่งด้วยความอิจฉาสาวงามทั้งสาม ที่ทั้งสวยและมีเสน่ห์เฉพาะตัว ล้วนแส
เย่ซิวหัวเราะเมื่อถูกหญิงสาวทั้งสามมองอย่างสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากรอจนอาหารเสร็จแล้ว พวกเธอก็จะรู้เองหลังจากหยิบพวงกุญแจ เย่ซิวก็ออกไปที่ตลาดสดชั้นล่างเพื่อซื้อวัตถุดิบเขาไม่ได้เลือกซื้อของที่แพงเกินไป เพียงแค่ซื้อวัตถุดิบธรรมดา ๆ ที่มีราคารวมประมาณสองร้อยสามสิบหยวนเท่านั้นเมื่อครู่เขาสำรวจในอะพาร์ตเมนต์แล้ว และพบว่ามีอุปกรณ์ครัวครบครันเครื่องปรุงรสก็มีครบ ขาดเพียงข้าวกับเส้นบะหมี่เขาซื้อข้าวสองถุงและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งกล่อง จากนั้นก็ขนกลับไปอย่างสบาย ๆหญิงสาวทั้งสามกำลังทำความสะอาดห้องแม้ว่าเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์จะเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พวกเธอก็ทำงานได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย การที่ได้พบกับหญิงสาวเช่นนี้สักคนก็นับว่าโชคดีมากแล้ว และเย่ซิวกลับพบพร้อมกันถึงสองคนเย่ซิวไม่ได้เข้าไปรบกวนพวกเธอ เขาเอาของเข้าไปเก็บในห้องครัว แล้วเริ่มลงมือทำอาหาร เขาเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ในไม่ช้าห้องครัวก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเย้ายวนที่ชวนให้น้ำลายสอโชคดีที่ประตูห้องครัวปิดอยู่ ไม่อย่างนั้นกลิ่นนี้คงลอยออกไปข้างนอกจนทำให้สามสาวไม่เป็นอันทำความสะอาดห
“พี่เย่สุดยอดมากเลย หลังจากได้กินอาหารที่พี่ทำแล้ว ฉันก็กินอาหารของคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว”เย่ซิวหัวเราะ นี่ยังไม่ใช่จานเด็ดของเขา อาหารที่ทำวันนี้เป็นเพียงอาหารธรรมดาทั่วไปเท่านั้นหากเขาทำสุดความสามารถและใช้วัตถุดิบชั้นดีในการปรุงอาหารแล้วล่ะก็ จะต้องทำให้พวกเธอกินอาหารคนอื่นไม่ได้อีกเป็นเวลานานอย่างแน่นอน เย่ซิวรับผิดชอบทำความสะอาดอาหารบนโต๊ะ หลังจากทานเสร็จ หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็อาสาลุกขึ้นไปล้างจานส่วนเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ไปทำงานที่เหลือต่อให้เสร็จหากพ่อแม่ของพวกเธอได้มาเห็นภาพนี้ พวกท่านคงจะต้องตกใจมากแน่ ๆ ลูกสาวสุดที่รักของพวกเขาทำความสะอาดบ้านอย่างขะมักเขม้นเพื่อผู้ชายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันจนกระทั่งเวลาสองทุ่ม ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเซี่ยซิ่วซิ่วถึงลุกขึ้นและกล่าวคำอำลาเมื่อเดินออกมาถึงนอกหมู่บ้าน บอดี้การ์ดหญิงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ยืนรอเธออยู่ที่ประตู เมื่อมองไปที่บอดี้การ์ดหญิง จู่ ๆ ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็เกิดความคิดกล้าหาญขึ้นมาเธอวิ่งเหยาะ ๆ ไปหา ก่อนจะจับมือบอดี้การ์ดหญิง แล้วพูดอย่างออดอ้อน “พี่หมิ่นหมิ่น ฉันอยากย้ายบ้าน”ทั้งสองสนิทกันมาก และหมิ่นหมิ่นก็
ชายคนนั้นมีท่าทีไม่เชื่ออย่างแรง “อย่ามาหลอกฉัน ถ้าเจ้าอาวาสไม่ออกมา ฉันก็ไม่ไป และวัดนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมากราบไหว้อีก!”นักพรตหนุ่มรู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง เมื่อเจอกับคนที่มีพลังแข็งแกร่งและเล่นไม่ซื่อแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไง“เฮ้ พวกเธอสองคน ไสหัวไปซะ!”ชายคนนั้นมองเย่ซิวกับน่าหลันเยียนหรานด้วยสายตาดุดันดั่งสิงโตที่กำลังคำราม ดูน่ากลัวเป็นอย่างมากนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนที่มาไหว้พระพากันหนีไปหมดเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “นี่เป็นที่สาธารณะ ทำไมผมต้องไปด้วย?”ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ไอ้หนู คิดจะโชว์แมนต่อหน้าแฟนหรือไง? อยากโดนฉันสั่งสอนใช่ไหม!”พูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขามีเพียงผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเป็นความตายอันโหดร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะสามารถแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวเช่นนี้ออกมาน่าหลันเยียนหรานตัวสั่นเทิ้ม ขนลุกไปทั้งร่างชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วแต่ในวินาทีนั้นเย่ซิวก็ยื่นมือใหญ่ที่อบอุ่นและแข็งแรงมาจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เธอรู้สึกสงบลง ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาขอบคุณนักพรตหนุ่มรีบวิ่งลงมาหาเย่ซิวพร้อมเตือนด้วยความกังวล “โย
คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่เกลียดชังคนรวยเหมือนกับตอนนี้ที่แม้น่าหลันเยียนหรานเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเห็นได้ชัดแต่เพียงเพราะเธอขับรถหรูและใส่เสื้อผ้าราคาแพง คนรอบข้างจึงคิดว่าเป็นความผิดของเธอเหตุการณ์แบบนี้ที่แสดงถึงความเกลียดชังคนรวยมีให้เห็นทั่วไปขณะที่น่าหลันเยียนหรานไม่รู้จะทำอย่างไรดี เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางหน้าเธอไว้น่าหลันเยียนหรานยิ้มด้วยความดีใจ “คุณเย่มาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ผ่านมาแถวนี้พอดี” เย่ซิวมองหญิงชราที่นอนขวางรถของน่าหลันเยียนหราน แล้วเอ่ยเรียบ ๆ “ลุกขึ้น แล้วไสหัวไปซะ!”หญิงชรายิ้มเยาะ “อะไร พวกเธอสองคนรวมหัวกันจะรังแกคนแก่เหรอ หน้าไม่อาย ถ้าฉันไม่ลุกพวกเธอจะทำอะไรฉันได้!”คนที่ไม่รู้จักอายมักจะได้เปรียบเสมอเย่ซิวจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายแล้วตวาดใส่หญิงชราคนนั้น “มองฉัน!”หญิงชราหันมามองตาของเย่ซิวโดยไม่ทันรู้ตัวตึง!สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ ราวกับสติหายไปชั่วคราวเย่ซิวมองเธอ “บอกมาว่าทำไมถึงคิดจะหลอกคนอื่น”หญิงชราเผยความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว“ฉันเล่นไพ่นกกระจอกจนเสียเงินค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งปีไป กลัวสามีจะด่าก็เลยคิดจะหลอกเอาเงินจากค
“พี่เป็นคนดีจริง ๆ ฉันรักพี่ที่สุดเลย”จวงเสี่ยงหยิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าเย่ซิว“พอแล้ว” เย่ซิวกดไหล่เธอลง “ผู้หญิงไม่ควรกระโดดโลดเต้นต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ จะเสียเปรียบเอานะ”จวงเสี่ยงหยิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง ใบหน้าเธอแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยด้วยความเขินอาย “พี่นี่ลามกจริง ๆ เลย คราวหน้าฉันจะกระโดดแค่ต่อหน้าพี่แค่คนเดียวดีไหมคะ?”จวงเสี่ยงหยิงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ยังตูมรอวันผลิบาน แผ่กลิ่นอายแห่งความสดใสและเยาว์วัยออกมาทุกอณูการได้อยู่กับสาวน้อยแบบนี้ทำให้จิตใจพลอยสดชื่นไปด้วยถ้าไม่ติดว่ายังมีเรื่องรอให้ทำอีกมากมาย เย่ซิวคงจะอยู่กับเธอนานกว่านี้หน่อยหลังจากออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เย่ซิวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาอารามเต๋าภายในประเทศตอนนี้เขาอยู่ในขั้นสูงของการสร้างรากฐานปราณ อีกไม่นานก็จะถึงขั้นสมบูรณ์ เขาต้องเริ่มเตรียมตัวสำหรับการบ่มเพาะจินตานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาวิธีการบ่มเพาะจินตานปัจจุบัน อารามเต๋าในประเทศที่มีอายุมากกว่าร้อยปีนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่งเย่ซิวค้นเจออารามเต๋าห้าแห่ง หนึ่งในนั้นมีอยู่ที่เมืองหลวงและระยะทางก็ไม่ไกลมากเมื่อค้นเจอต
เย่ซิวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมา “ว่าไงครับ?”หยางชิงเสวี่ยเม้มปากเล็กน้อย ดวงตางดงามจับจ้องไปยังเย่ซิวที่ยืนอย่างองอาจ “คุณต้องเร่งบำเพ็ญตนให้มากขึ้น แล้วรีบทะลวงให้ถึงระดับจินตานให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้น…”ประโยคหลังจากนั้นเธอไม่ได้พูดออกมา แต่แค่ขยับริมฝีปากเท่านั้นเย่ซิวเข้าใจอย่างชัดเจน จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากหยางชิงเสวี่ยมีร่างกายที่พิเศษ และต้องรอให้เย่ซิวทะลวงระดับจินตานเสียก่อนจึงจะสามารถมีสัมพันธ์กับเธอได้นี่เป็นกฎที่อาจารย์ของเขากำหนดไว้เมื่อถึงเวลาที่เขาสมหวังกับหยางชิงเสวี่ย เขาจะได้รับพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมากเย่ซิวกลับไปที่ศาลา ก่อนจะหยิบจี้หยกสองชิ้นออกมา แล้วสวมให้เธอด้วยมือของเขาเองทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนกลิ่นอายความแข็งแกร่งของเขาแผ่ซ่านเข้ามาจนสัมผัสได้หยางชิงเสวี่ยรู้สึกเหมือนร่างกายถูกจุดไฟ รู้สึกอ่อนแรงและใบหน้าก็แดงระเรื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้นเย่ซิวก็คว้ามือเล็กอ่อนนุ่มของเธอไว้ ก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วของเธอสองวง แล้วบอกวิธีใช้ให้เธอฟัง“ของพวกนี้ล้ำค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”หยางชิงเสวี่ยส่ายหน้า พยายามจะถอดออก“ไม่เป็นไร ของพว
ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม
ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ
ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ
“เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้
เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”