Share

บทที่ 12

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
เย่ซิวเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์โดยไม่สนใจคำเตือนของหวังเฟย

การกระทำนี้ทำให้ความเย็นชาในดวงตาของหวังเฟยยิ่งทวีขึ้นไปอีก

แต่เขาก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น

เขามักจะแสดงรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามต่อโลกภายนอกซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญมากสำหรับเขาในการจีบสาว

โดยผิวเผินแล้ว เขาคงไม่สามารถทำอะไรกับเย่ซิวได้ แต่เขาแอบคิดไว้แล้วว่าจะจัดการกับเย่ซิวอย่างไร

เพื่อนนักศึกษาชายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาด้วยเช่นกัน ทำให้หวังเฟยรู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้น

มีคนมากมายหลั่งไหลเข้ามา จนไม่มีทางหยุดพวกเขาได้แล้ว

ในเวลานี้ เย่ซิวเดินไปลู่เสวี่ยเอ๋อร์

รูปร่างของเธอช่างสูงจริง ๆ โดยเฉพาะเรียวขางามของเธอที่เรียวและตรง เรียกได้ว่าตั้งแต่คอลงมา ขาของเธอถึงเป็นจุดนำสายตาที่สุด

เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไร ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ก็จะเป็นจุดสนใจของฝูงชนได้อย่างแท้จริง

“สวัดดี คุณคือลู่เสวี่ยเอ๋อร์ใช่รึเปล่า?”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอหันกลับมาเห็นเย่ซิวที่มีหน้าตาสดใส ประกอบกับดวงตาที่ใสสะอาดยืนอยู่ตรงหน้า

เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างสุภาพ “ใช่ ฉันเอง นายมีธุระอะไรเหรอ?”

เธอแปลกใจเล็กน้อย เมื่อก่อนเวลามาที่ห้องซ้อมเต้นจะไม่มีผู้ชายคนอื่นนอกจากหวังเฟยเข้ามาได้เลย แล้วทำไมวันนี้ถึงมีผู้ชายเข้ามาเยอะกว่าเดิมได้แบบนี้?

ก่อนที่เย่ซิวจะได้พูดอะไร เพื่อนสนิทของเธอที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “จะอะไรเสียอีกล่ะ เขาก็คงจะมาขอวีแชทเธอ ไม่ก็สารภาพรักแน่ ๆ”

เนื่องจากเป็นจุดสนใจของฝูงชน สถานที่แห่งนี้จึงดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างรวดเร็ว

เย่ซิวดูสงบ “คุยที่นี่ไม่เหมาะ เราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันได้ไหม?”

เรื่องของไข่มุกราชาแห่งยาสำคัญเกินกว่าที่เขาจะพูดในที่สาธารณะ

“ขอโทษที อีกสักพักฉันต้องไปเรียน ฉันเลยไปกับนายไม่ได้ ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดตรงนี้ได้เลยแล้วกัน”

เธอไม่รู้ว่ามีคนจีบเธอกี่คนตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก และตอนนี้เธอก็คิดไปเองแล้วว่าเย่ซิวเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่อยากจะจีบเธอ

และเธอก็เห็นอะไรแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

เพื่อนสนิทที่อยู่ถัดจากลู่เสวี่ยเอ๋อร์แซวว่า “เสวี่ยเอ๋อร์น่ะจีบยาก แล้วเธอก็มีมาตรฐานที่สูงมาก มาจีบฉันสิ ฉันจีบง่ายกว่านะ”

เย่ซิวตกตะลึงเล็กน้อย “พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อจีบเธอ ผมมีเรื่องด่วนจริง ๆ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยังคงยิ้มต่อไป

บ้านของเธอสอนมาดี จึงมีนิสัยที่อ่อนโยนและไม่ค่อยโกรธใคร

เธอมักจะปฏิเสธอย่างสุภาพต่อคนที่มาจีบเหล่านั้นและไม่เคยพูดจารุนแรงกับใครเลย

เป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ได้รับความนิยมอย่างมากในมหาลัย และเด็กสาวทุกคนก็ชอบเธอ น้อยคนนักที่จะคิดอิจฉาเธอ

หวังเฟยเข้ามาพูดกับเย่ซิว “เพื่อนนักศึกษา เสวี่ยเอ๋อร์ปฏิเสธนายอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นก็อย่าทำให้เธอลำบากใจเลย ออกไปเถอะ”

เย่ซิวมองไปยังเพื่อนนักศึกษาหลายคนที่อยู่รอบตัวเขา พลางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าและพูดกับลู่เสวี่ยเอ๋อร์ “ถ้างั้นก็เจอกันคราวหน้า”

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะพูดคุยด้วยจริง ๆ แต่ถึงยังไงเขาก็รู้แล้วว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์หน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีเวลาเหลืออีกมาก

เขาหันหลังเดินออกจากห้องซ้อมเต้นไป

หวังเฟยมองลู่เสวี่ยเอ๋อด้วยสีหน้าเสน่หา “เสวี่ยเอ๋อร์ ฉันจองร้านอาหารตะวันตกไว้ สเต็กที่นั่นอร่อยมาก ไปกินด้วยกันหลังเลิกเรียนเถอะ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ส่ายหัวปฏิเสธ “ขอโทษนะ วันนี้ฉันมีธุระ อีกอย่าง เพื่อนนักศึกษาหวัง อย่าเสียเวลาเสียเงินกับฉันเลย เราไม่เหมาะกันหรอก”

ท่าทางของหวังเฟยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “เสวี่ยเอ๋อร์ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอ ในชีวิตนี้ฉันก็สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่แต่งงานกับใครอีกนอกจากเธอ ฉันจะพยายามต่อไป ไม่ว่าจะหนึ่งเดือนหนึ่งปี สิบปีหรือยี่สิบปี ฉันก็จะรอแต่เธอเสมอ”

เด็กสาวหลายคนที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกประทับใจอย่างมากหลังจากได้ยินประโยคนี้

“ว้าว เพื่อนนักศึกษาหวังเฟยช่างน่ารักจริง ๆ”

“เขาหล่อขนาดนั้น แถมว่ากันว่าตระกูลของเขาก็รวยมากด้วย ถ้าเป็นฉันคงตอบตกลงไปนานแล้ว”

“ฉันยอมเอาเวลาโสดสิบปีของเพื่อนร่วมชั้นมาแลกกับแฟนที่ยอดเยี่ยมแบบนี้เลย”

……

“เพื่อนนักศึกษาหวัง ฉันต้องไปเรียนแล้ว ลาก่อนนะ”

หลังจากพูดจบ ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ลากเพื่อนสนิทของเธอเดินจากไป

หวังเฟยส่งเธอด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อยไร้ที่ติ

หลังจากที่เห็นลู่เสวี่ยเอ๋อร์หายไปจากสายตา หวังเฟยก็มีสีหน้าขรึมขึ้น

ขณะนี้จางเทาและคนอื่น ๆ พากันเดินกะเผลกเข้ามา

เย่ซิวเพิ่งสอนบทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พวกเขาไป และหลังจากช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

เพียะ!

หวังเฟยตบหน้าจางเทา พลางส่งเสียงเย็นชา “ไอ้คนไร้ประโยชน์ กับอีแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แกก็ยังจัดการให้ดีไม่ได้ แกไปมีเรื่องอะไรกับคนเมื่อกี้?”

จางเทากุมใบหน้าและรู้สึกผิด “นายน้อย ผู้ชายคนนั้นค่อนข้างแปลกและแข็งแกร่งมาก พวกเราพี่น้องถูกเขาล้มกันหมดอย่างง่ายดาย ผมสงสัยว่าเขาอาจเป็นจอมยุทธ์ และเขาอาจจะเป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่งด้วย!”

“จอมยุทธ์ระดับหนึ่ง? ไม่แปลกใจที่จะกล้าทำตัวหยิ่งผยองขนาดนี้!” ท่าทางของหวังเฟยดูบึ้งตึง “เจอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นไหม?”

“เจอแล้วครับ เขาชื่อเย่ซิว เพิ่งเข้ามาเรียนวันนี้ เขาคงไม่มีภูมหลังอะไร ผมส่งเหล่าพี่น้องไปติดตามเขาแล้ว”

หวังเฟยไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก

รอสายเพียงครู่เดียว เสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากปลายสาย

“หวังเฟยเหรอ? มีอะไรรึเปล่า?”

“ลุงหลี่ ผมต้องการความช่วยเหลือ มีไอ้เด็กสารเลวคนหนึ่งทำให้ผมไม่พอใจ ลุงช่วยหักแขนขาของมันแล้วส่งมันไปลงหลุมให้ทีครับ”

“ได้ แกส่งที่อยู่มันมาให้ลุงหน่อย”

“ขอบคุณมากนะครับลุงหลี่ ไว้ผมกลับไปจะเชิญลุงไปทานอาหารมื้อใหญ่ด้วยกันนะครับ”

“ฮ่า ฮ่า จะกินหรือไม่กินก็ไม่เป็นไรหรอก ถึงตอนนั้นแค่เรียกเพื่อนนักศึกษาหญิงสักสองสามคนในมหาลัยของแกมาอยู่กับฉันหน่อยก็พอแล้ว”

“ไม่มีปัญหาครับ”

หลังจากวางสาย จางเทาก็เดินเข้ามาและถามอย่างระมัดระวัง “คุณชาย คนที่รับโทรศัพท์เมื่อกี้นี้คงจะเป็นหมาป่าตาเดียวผู้โด่งดังใช่หรือเปล่าครับ?”

“ใช่ ฉายาของลุงหลี่คือหมาป่าตาเดียว”

จางเทารู้สึกตื่นเต้น “หมาป่าตาเดียวเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ที่ดีที่สุดในเมืองเจียงเฉิงของเรา ตำนานเล่าว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับสอง หากเขาเป็นคนลงมือ ไอ้เด็กนั่นจะต้องถูกจัดการอย่างเหี้ยมโหดแน่นอนครับ!”

หวังเฟยเตะจางเทา “หยุดพูดไร้สาระ รีบตามไอ้เด็กนั่นไปเดี๋ยวนี้ อย่าลืมไปดูด้วยตาตัวเองว่ามันถูกหักแขนหักขาโยนลงหลุม แล้วถ่ายรูปมาให้ฉันดูด้วย”

“ได้ครับ ผมจะไปทันที”

จางเทาจากไปพร้อมกับพรรคพวกของตน

ติ๊ง!

ได้รับข้อความทางโทรศัพท์

เมื่อเขาเปิดดู หวังเฟยก็ดูปลาบปลื้มใจ

ข้อความนี้ส่งมาจากเพื่อนสนิทของลู่เสวี่ยเอ๋อร์

เขาอยากจะติดสินบนเพื่อนสนิทคนนี้มาโดยตลอด ให้เธอแฝงตัวและทำบางสิ่งให้เขา

แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยตอบตกลง ทว่าตอนนี้กลับส่งข้อความมาและตกลงตามคำขอของเขา

เนื้อหาในข้อความนั้นเรียบง่าย

: ให้ฉันสองล้าน ฉันจะขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ไปกินข้าวเย็นกับฉันคืนนี้ แล้วฉันจะแอบใส่ยานอนหลับในอาหารของเธอ!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 13

    หวังเฟยกดโทรศัพท์ด้วยมือทั้งสองข้างตอบกลับข้อความของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว: ไม่มีปัญหา ฉันจะโอนเงินให้เธอเดี๋ยวนี้เลยณ หอพักที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์พักอยู่ หลี่เยี่ยนอ่านข้อความที่หวังเฟยส่งมาทางโทรศัพท์มุมปากของเธอมีรอยยิ้มแปลก ๆ เธอส่งเลขบัญชีธนาคารของเธอไป ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินสองล้านโอนมาให้ทันทีที่ลบข้อความที่แจ้งว่าบัญชีของเธอได้รับโอนเงินเข้ามา เธอที่นั่งอยู่บนเตียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เสวี่ยเอ๋อร์ คืนนี้เราไปกินหม้อไฟหม่าล่ากันเถอะ ตกลงไหม?”“คืนนี้เหรอ? แต่ฉันอยากอ่านหนังสืออยู่ที่หอมากกว่า”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์มีนิสัยรักสงบ ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนนักศึกษาคนอื่นมีความรักกันแต่เธอเป็นคนเดียวที่เอาแต่สนใจเรื่องเรียน“โอ๊ย หนังสืออ่านตอนไหนก็ได้ อีกอย่าง เธอจะอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้สิ ไม่งั้นก็พลอยจะทำให้คนอื่นเขาดูโง่หมด ตอนกลางคืนไม่ต้องอ่านหรอก กินเสร็จก็ค่อยรีบกลับมา จะได้ไม่เสียเวลามาก” “แต่ว่า…” ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลังเล แต่หลี่เยี่ยนกลับไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธ“คุณน้องคะ เห็นแก่ที่ฉันช่วยเธอกันพวกผู้ชายมาให้ตั้งนาน แล้ววัน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 14

    ฟุ่บ! ฟุ่บ!จางเทาและคนอื่น ๆ คุกเข่าลงตรงนั้นและรีบคำนับอย่างรวดเร็วแม้แต่คนที่ดุร้ายอย่างหมาป่าตาเดียวยังถูกเย่ซิวเล่นเสียน่วมแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย“พี่ใหญ่ พวกเราผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ”“อย่าฆ่าผมเลย ผมยังมีพ่อแม่มีพี่น้องต้องดูแล คิดเสียว่าฉันเป็นลูหมาตัวหนึ่ง แล้วปล่อยผมไปเถอะ”“พี่ใหญ่ ถ้าพี่ไว้ชีวิตผม ผมจะแนะนำน้องสาวให้รู้จัก ผมยกแฟนตัวเองให้พี่เลยก็ยังได้”……ดวงตาของเย่ซิวเย็นชา คนเหล่านี้ไม่สมควรตาย แต่ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ง่าย ๆ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบยาหนึ่งเม็ดออกมาจากกระเป๋าแล้วบดมันจากนั้นเขาก็เปิดปากคนเหล่านี้อย่างไร้ความปราณี พลางยัดยาเข้าไป และบังคับให้พวกเขากลืนจางเทาและคนอื่น ๆ รู้สึกหวาดกลัว“ไม่ต้องกังวล ยาตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงมากนัก พวกนายแค่ต้องกินยาแก้พิษปีละครั้ง ไม่อย่างนั้นเลือดจะออกจากทวารทั้งเจ็ดจนตาย”“ถ้าพวกแกหยุดทำความชั่วภายในหนึ่งปี ฉันจะให้ยาถอนพิษ”“แน่นอนว่าพวกแกจะไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ได้ แต่พวกเขาก็จะบอกพวกแกอย่างแน่นอนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ”จางเทาและคนอื่น ๆ ต่างก็ดูซีดเซียวหลังจากที่เห็นว่าเย่ซิวน่ากลัวเพียงใด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 15

    ในที่สุด ตามคำร้องขออย่างจริงใจของเถ้าแก่ เย่ซิวก็ยอมรับซองสีแดงมูลค่าสองพันหยวนมาไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้กินอาหารฟรี แถมยังได้เงินสองพันหยวนเย่ซิวยืนขึ้น เขากินจนเกือบจะอิ่มแล้ว และก็พร้อมที่จะไปทักทายลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้วแต่ทันทีที่เขาลุกขึ้น เขาเห็นหวังเฟยผลักประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเพื่อนอยู่ในห้องส่วนตัว หลี่เยี่ยนคีบอาหารให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น ในตอนที่เธอไม่ได้สนใจ เธอจึงโยนยาเม็ดเล็ก ๆ ลงในชาม และยาก็ละลายทันที“เสวี่ยเอ๋อร์ ลองนี่ดูสิ อร่อยนะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กินเข้าไปพลางสงสัยเล็กน้อย “ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้เธอแปลก ๆ?”“ไม่หรอก เธอคิดมากไปแล้ว รีบกินเร็วเข้า อร่อยนะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์สับสนและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งใดเธอหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาแล้วอยากจะกินเนื้ออีกชิ้นแต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกอ่อนแรงจนตะเกียบตกจากนิ้วปึง! ปึง!ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลี่เยี่ยนลุกขึ้นไปเปิดประตู และพาหวังเฟยเข้ามาลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีในใจ แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาสติของเธอเอา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 16

    โคมไฟประดับส่องแสงสว่างกลางเมืองในยามค่ำคืนเย่ซิวและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ริมถนนเส้นใหญ่ บุรุษรูปงามและสตรีผู้มีลักษณะโดดเด่น สำหรับคนภายนอกที่มองมา พวกเขาดูเหมือนคู่กิ่งทองใบหยกลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลูบผมบนหน้าผากของเธอให้เรียบ มองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เปียกชื้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมาก “เพื่อนนักศึกษา ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย”“ผมชื่อเย่ซิว”แสงในดวงตาของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สว่างวาบขึ้นอีกเล็กน้อย “ขอบใจสำหรับเรื่องวันนี้มากนะเพื่อนนักศึกษาเย่ ถ้าไม่มีนาย ทั้งชีวิตของฉันคงพังไปแล้ว”“ไม่เป็นไรหรอก จริง ๆ แล้วผมเองก็มีจุดประสงค์ที่ช่วยคุณ” เย่ซิวบอกความจริง“หา?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อุทาน ความคิดของเธอแตกกระจายออกไปนึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่เย่ซิวชวนเธอไปกินข้าว หรือว่าเพราะเขาชอบเธอ เลยทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้วจากนั้นก็จะขอเธอเป็นแฟน?ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แอบมองเย่ซิว แล้วจึงรีบเบือนหน้าหนีใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อยหัวใจของเธอสับสน ‘ทำยังไงดี? เขาเพิ่งช่วยฉันไว้ ดูเหมือนจะค่อยไม่ดีนักถ้าฉันไม่ตกลงเป็นแฟนของเขา อีกทั้งเพื่อนนักศึกษาเย่ก็ดูหล่อและนิสัยดีมาก…’ขณะที่เธอกำลังสับ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 17

    ตอนนี้ความสำคัญของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่อยู่ในใจเย่ซิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วดังนั้นเขาจึงไปส่งลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับบ้านด้วยตัวเองหลังจากถูกหลี่เยี่ยนหักหลัง เธอก็ไม่สามารถอยู่ในหอพักเดิมได้อีกต่อไป และทำได้เพียงไปเช่าห้องข้างนอกแทน“พรุ่งนี้เดี๋ยวผมจะไปหาห้องเช่าเป็นเพื่อนคุณนะ” เย่ซิวพูดบนรถแท็กซี่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มหวาน “ไม่ต้องหรอก ฉันมีอพาร์ตเมนต์หลายที่ใกล้มหาลัย”เย่ซิวอึ้งไปเขาคงร้อนใจไปเองเมื่อรถแล่นไปได้ครึ่งทาง เย่ซิวก็ลดกระจกมองไปทางขวา เห็นว่ามีรถสีขาวคันหนึ่งขับมาขนาบข้างคนขับเป็นผู้หญิงผมสั้นที่แลดูมีความสามารถจากสายตาของเย่ซิว เขาสามารถบอกได้เลยว่านี่คือผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก“คุณรู้จักเธอหรือเปล่า?” เย่ซิวชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นพลางถามลู่เสวี่ยเอ๋อร์ผู้หญิงคนนั้นติดตามพวกเขามาตลอดทาง แต่ไม่ได้แสดงรัศมีที่เป็นอันตรายต่อพวกเขาเลยลู่เสวี่ยเอ๋อร์เอียงตัวมองออกไปนอกหน้าต่างรถ จู่ ๆ ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย “พี่หมิ่นหมิ่นน่ะ เธอมาที่นี่เพื่อปกป้องฉันโดยเฉพาะ เมื่อสองวันก่อนเธอต้องไปทำธุระ ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันก็คงจะไม่…”เย่ซิวพยักหน้า ขอแค่ไม่ใช่ศัตรูก็ไม่เป็นไร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 18

    แม้จะเผชิญกับการถูกเยาะเย้ยจากคนเหล่านี้ เย่ซิวก็ไม่โกรธและยังคงมีท่าทีสงบ“ผมไม่อยากทำร้ายพวกคุณจริง ๆ กรุณาถอยออกไปเถอะ”สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างแท้จริงจะไม่โจมตีผู้อ่อนแอเย่ซิวเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา แต่ในสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ พวกเขากลับคิดว่าเย่ซิวขี้ขลาดดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวไร้ศีลธรรมมากยิ่งขึ้น“เจ้าหนู ถึงตอนนี้ยังจะเสแสร้งอยู่อีกเหรอ?!”“ฉันล่ะอยากจะผ่าหัวของแกออกมาดูจริง ๆ มีอะไรอยู่ข้างในกันนะ ทำไมถึงทำให้แกหยิ่งยโสได้ขนาดนี้!”“จะไปเสียเวลาพูดคุยไร้สาระอะไรกับมันนักหนา? นายใหญ่จ้าวบอกว่าถ้ามือและเท้าของมันหัก ทุกคนจะได้รางวัลคนละหนึ่งหมื่นหยวนเชียวนะ!”“ช่วยกันฆ่ามันซะ!”……ด้วยแรงขับจากเงิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้จึงโบกแท่งเหล็กแข็งในมืออย่างแรงทันทีหมายจะฟาดศีรษะของเย่ซิว เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ในห้องของตระกูลจ้าว จ้าวเฟิงและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมา“ดู ๆ แล้วมันคงจะเป็นพวกท่าดีทีเหลว!”“ทำมาเป็นพูดว่าไม่อยากทำร้ายใคร ก็แค่ข้ออ้างเพราะจะหนีเท่านั้นแหละ”“ใครก็ได้เอาขวดไวน์ที่ฉันเก็บไว้ออกมาให้ที คืนนี้อยากจะฉลอง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 19

    “เด็กนั่นยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลยนะ!”“เขาไม่ใช่จอมยุทธระดับสามในขั้นต้นหรือขั้นกลาง แต่นี่มันขั้นสูงเลยด้วยซ้ำ!”ทุกคนในห้องโถงทั้งหมดลุกขึ้นจากที่นั่งและมองดูฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อความตกใจที่เย่ซิวสร้างขึ้นแก่พวกเขานั้นรุนแรงเกินไปจริง ๆขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึง เย่ซิวก็เดินเข้ามาดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอย่างไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามเหมือนตอนแรกอีกต่อไป แต่มองด้วยความเคร่งขรึมอย่างลึกซึ้งแทนไม่ว่าเขาจะอายุเท่าใด แต่ความแข็งแกร่งที่เย่ซิวแสดงออกมาตอนนี้ทำให้พวกเขาทุกคนตกใจจินหลงมองไปที่เย่ซิวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อาจารย์ของแกเป็นใครกัน?!”คนที่จะสั่งสอนเย่ซิวเจ้าเด็กสัตว์ประหลาดนี่ได้ ต้องไม่ใช่ตาสีตาสาคนธรรมดาทั่วไปในเวลานี้ จินหลงและจินหู่ต่างก็เสียใจที่มาที่นี่หากมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังเย่ซิว พวกเขาจะต้องประสบปัญหาใหญ่แน่นอนเมื่อได้ฟังคำถามของจินหลง เย่ชิวก็พูดอย่างเนิบ ๆ “คุณไม่คู่ควรที่จะได้รู้”อาจารย์ของเขาเตือนเขาไว้นานแล้ว ว่าอย่าเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองไม่ว่าในกรณีใดใดเย่ซิวยึดมั่นในเรื่องนี้มาโดยตลอด และไม่ได้พูดออกไปจินหลงโกรธมาก “ไอ้เด็กนี่! ไม่ไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 20

    “วิ่ง วิ่งเร็ว!”“นี่มันสัตว์ประหลาดชัด ๆ!”ตระกูลจ้าวสามรุ่นขวัญหนีดีฝ่อกันหมดสิบนาทีที่แล้ว ไม่ว่าจินตนาการของพวกเขาจะทรงพลังเพียงใดพวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเย่ซิวจะสามารถฆ่าจินหลงและจินหู่ลงได้อีกทั้งพวกเขายังบรรลุไปอีกระดับแล้วด้วยนั่นคือจอมยุทธระดับสี่ แต่พวกเขากลับถูกฆ่าลงอย่างง่ายดายผลกระทบต่อพวกเขาทั้งสามนั้นใหญ่หลวงมากพวกเขาหมดหวังและต้องการหลบหนีโดยเร็วที่สุดก่อนที่พวกเขาจะหลบหนีไปได้ไกล ก็เกิดเสียงดังขึ้น ข้อเข่าของพวกเขาถูกเย่ซิ่วขว้างถ้วยใส่ จนต้องคุกเข่าลงกับพื้นทั้งสามคนหันกลับมาอย่างรวดเร็วและโค้งคำนับให้กับเย่ซิว“ผู้อาวุโสเย่ ปล่อยพวกเราไปเถอะ”“พวกเราผิดไปแล้ว พวกเรามีตาหามีแววไม่ เราไม่ควรไปยั่วยุคุณเลย ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”“สองร้อยล้าน ไม่สิ พวกเราจะให้เงินหนึ่งพันล้านเป็นค่าชดเชย โปรดอย่าได้ถือสาความผิดของพวกเราเลย”ขณะนี้จ้าวจางและคนอื่น ๆ หวาดผวาอย่างยิ่งและได้ละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มีไปแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียใจที่ไหลเวียนอยู่ในอกของจ้าวเฉียนที่เป็นเหมือนกับแม่น้ำอันเชี่ยวกรากถ้าเขาไม่โลภกลัวที่จะสูญเสียส่วนแบ่งของเย่ซิว เรื่อง

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1038

    เย่ซิวกำลังจะเดินออกจากห้องไปแต่ทันใดนั้น เขาหันไปมองที่กลางห้องก่อนจะดีดนิ้วส่งปราณกระบี่ออกไปทำลายพื้นด้านล่างปรากฏว่าข้างใต้มีช่องลับซ่อนอยู่ภายในนั้นมีหีบสีดำใบหนึ่งวางอยู่เย่ซิวสร้างร่างแยกขึ้นมาเพื่อเข้าไปเปิดมันภายในมีม้วนหนังสัตว์ปริศนาที่ไม่รู้ว่าทำจากหนังของสัตว์ชนิดใดเขาหยิบขึ้นมาดู พบว่ามีตัวอักษรเรียงรายแน่นหนาอยู่เต็มไปหมดแต่ไม่ใช่ตัวอักษรที่ใช้กันในปัจจุบัน เย่ซิวจึงอ่านมันไม่ออกในทันทีเขาทำได้แค่เก็บมันไว้ก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไขปริศนาในภายหลังตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งเท่านั้นจากนั้นเย่ซิวก็เดินไปยังจุดที่มันถูกผนึกไว้ทันทีที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งสัมผัสได้ถึงการเข้าใกล้ของเขา มันก็เริ่มส่งเสียงโหยหวนขึ้นมา“ข้ายอมแล้วพี่ชาย ท่านเป็นบรรพบุรุษของข้าเลย ปล่อยข้าไปเถอะ อย่าดูดพลังข้าอีกเลย ถ้าดูดต่อไปข้าต้องตายจริง ๆ แน่”มันไม่เคยเจอมนุษย์ที่โหดร้ายบ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อนถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของมันแข็งแกร่งแต่กำเนิด ป่านนี้มันคงสลายไปแล้วเย่ซิวไม่คิดจะเสียเวลาคุยไร้สาระกับมัน เขาก้าวไปข้างหน้าโอบกอดหนึ่งในเสาหลักของผนึก ก่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1037

    เมื่อเย่ซิวกลับมาที่ห้องอีกครั้งเขาก็เห็นรังไหมหนาทึบที่ห่อหุ้มโซเฟียปรากฏรอยร้าวมากมาย ก่อนจะระเบิดออกในพริบตาร่างของเธอส่องประกายเจิดจ้าเป็นพัน ๆ ลำแสงราวกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอันเจิดจรัสกว่าความสว่างจ้านั้นจะค่อย ๆ จางหายไปก็ใช้เวลานานพอสมควร เมื่อแสงสลายลงก็เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในรังไหมรูปลักษณ์ภายนอกของเธอแทบไม่เปลี่ยนไปเลย ดวงตายังคงปิดสนิทแต่ที่แตกต่างออกไปคือด้านหลังของเธอมีปีกสีขาวบริสุทธิ์คู่หนึ่งกางออกมา พร้อมด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งเปล่งออกจากร่างของเธอตู้ม!ในเสี้ยววินาทีที่เธอลืมตาขึ้นมา พลังมหาศาลก็พุ่งออกจากร่างของเธอมันให้ความรู้สึกราวกับภูเขาไฟที่สะสมพลังงานมาหลายร้อยปีแล้วปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ดูน่าเกรงขามถึงขีดสุดฟึ่บ!เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็มีแสงสีทองก็ส่องประกายในดวงตาทั้งสองข้างเดิมทีโซเฟียไม่ได้แสดงพลังอะไรที่แข็งแกร่งออกมาเลยแต่เพียงแค่สองวันผ่านไป กลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมากลับพุ่งขึ้นไปจนถึงระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ เทียบเท่ากับเย่ซิวเลยทีเดียวคนที่มีพรสวรรค์ระดับนี้มันช่างน่าอิจฉาจริง ๆไม่ต้องฝึกฝนอะไรให้เหนื่อยยากแค่หลับไปตื่น

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1036

    หลังจากนั้นเขาก็หยิบโหลใบใหญ่ขึ้นมาแล้วเอ่ยกับชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้า“ท่านผู้อาวุโส เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่วันนี้ผมได้รับความเมตตาจากท่าน ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนได้จึงขอแสดงความเคารพเพียงเล็กน้อย โดยการเผากระดูกของท่านและหาที่พักพิงให้”กล่าวจบก็จุดไฟเผาซากโครงกระดูกจนกลายเป็นเถ้าถ่านแล้วนำใส่ลงในไหจากนั้นวางไว้บนโต๊ะในห้องหยิบธูปสามดอกออกมาจุดไฟปักไว้ตรงหน้าก่อนจะเดินจากไปจิตสำนึกเขาเข้าสู่พื้นที่ภายในแหวนผนึกของซึ่งมีขนาดกว่าหมื่นตารางเมตรภายในมีโอสถมากมาย ทว่าพลังโอสถได้จางหายไปหมดสิ้นแล้วจึงไร้ประโยชน์“หืม นี่มัน…”ท่ามกลางโอสถที่ถูกทิ้งร้างมากมาย เย่ซิวพบโอสถที่พิเศษมากอยู่เม็ดหนึ่งมันมีขนาดใหญ่เท่าหินโม่ แถมยังมีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ พื้นผิวเต็มไปด้วยรอยบุ๋มรอยเว้า และที่สำคัญคือมันไม่เหมือนโอสถเลยสักนิด กลับดูคล้ายลูกเหล็กขนาดยักษ์มากกว่าเย่ซิวหยิบมันขึ้นมาแล้วเคาะเบา ๆ เสียงที่ดังออกมาชัดเจนและใสแจ๋ว แสดงให้เห็นว่าวัสดุของมันไม่ธรรมดาสัญชาตญาณบอกเขาว่าของสิ่งนี้อาจมีประโยชน์ในอนาคต จึงเลือกที่จะเก็บมันไว้ก่อนการค้นพบครั้งนี้ทำให้เขาพอใจมากจากนั้นเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1035

    สิ่งของชิ้นที่สองในห้องคือกระบี่หนักคมกว้างขนาดมหึมาตัวกระบี่ปักอยู่ในพื้นมีความยาวถึงสองเมตรทั่วทั้งตัวกระบี่ถูกพันด้วยโซ่เหล็กมากมายและข้าง ๆ กระบี่ก็มีศิลาจารึกขนาดใหญ่สลักอักขระโบราณบอกเล่าที่มาของกระบี่เล่มนี้กระบี่หนักห้าขุนเขาคือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จากยุคบรรพกาล สร้างขึ้นจากแก่นแท้แห่งห้าขุนเขาผสานกับแร่ศักดิ์สิทธิ์กว่าพันชนิด ใช้เวลาหล่อหลอมถึงแปดสิบเอ็ดปีจึงสำเร็จมันมีน้ำหนักหนึ่งแสนแปดหมื่นชั่ง หนึ่งฟาดฟันตัดสายน้ำสะบั้น หนึ่งฟาดฟันบดขยี้ดวงดาว ผู้ที่ไม่มีพลังเทพโดยกำเนิดไม่อาจถอนกระบี่ออกได้ดวงตาของเย่ซิวพลันสว่างวาบ กระบี่เล่มนี้ช่างเหมาะกับเขาอย่างยิ่งทั้งเก้าวัจนะลึกลับและวิชาแปรมังกรเสริมพลังร่างกายเขาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้เวลาถือกระบี่หงส์โบยบิน เขารู้สึกเหมือนถือไม้จิ้มฟันเท่านั้นเนื่องจากมันเบาเกินไป จนทำให้เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมาได้เต็มที่แต่ถ้ามีกระบี่ห้าขุนเขาเล่มนี้ มันจะช่วยเติมเต็มข้อบกพร่องนี้ได้พอดีในอนาคตกระบี่ดาวตกและกระบี่หงส์โบยบินจะใช้สำหรับโจมตีระยะไกล ส่วนกระบี่ห้าขุนเขาจะใช้เป็นอาวุธหลักในการต่อสู้ระยะประชิดเขาจั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1034

    ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งที่เคยดูทรงพลังและน่าเกรงขาม ตอนนี้กลับดูซูบเซียวและอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดมันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ดันไปหาเรื่องกับเย่ซิวซึ่งเป็นตัวอันตรายเข้าหากรู้แต่แรกว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ มันคงเลือกที่จะเงียบและทำตัวเป็นม้าโปร่งแสงไปเสียตั้งแต่ต้นวิชาแปรมังกรขั้นที่สามต้องบำเพ็ญให้เกิดกรงเล็บมังกร หางมังกร และเขามังกรขึ้นมาเย่ซิวไม่มีทางหยุดแน่นอน โอกาสแบบนี้ถ้าพลาดไปก็คงไม่มีวันหาได้อีกหนึ่งวันผ่านไป เขาก็ฝึกขั้นที่สามสำเร็จตอนนี้เขากลายเป็นมังกรทองในร่างมนุษย์ไปแล้วกรงเล็บมังกรสีทองแหลมคมราวกับสุดยอดศาสตราวุธ สามารถฉีกกระชากทุกสิ่งได้อย่างง่ายดายเขามังกรทั้งสองเส้นชี้ขึ้นฟ้า และมันไม่ได้มีไว้แค่ประดับเท่านั้นแต่มันช่วยเพิ่มการรับรู้และเร่งการดูดซับพลังจากฟ้าดินอีกด้วยส่วนหางมังกรก็มีประโยชน์ไม่น้อยมันเปรียบเสมือนแขนที่สามของเขา สามารถใช้เป็นอาวุธลับในสถานการณ์สำคัญได้และพอจะก้าวไปสู่ขั้นที่สี่ เขาก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าขั้นที่สามถึงสิบเท่าเย่ซิวก้มลงมองม้าศึกเพลิงน้ำแข็งและพบว่าตอนนี้มันผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คงใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1033

    เย่ซิวค้นพบว่าภายในเสาทั้งสิบสามต้นนี้ฝังอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ อาจเป็นค่ายกลหรืออย่างอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้นพวกมันเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ใต้ดินและคอยดูดซับพลังจากร่างของมันจากนั้นก็ใช้พลังเหล่านั้นกดมันเอาไว้มันคล้ายกับเครื่องสูบน้ำที่ดูดน้ำจากบ่อขึ้นมาแล้วเทกลับลงไป วนเวียนเป็นวงจรซ้ำไปซ้ำมาจากนั้นเย่ซิวก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถแอบขโมยพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งได้หรือเปล่าหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจลองดูเจ้าแก่นี่เกือบทำให้เขาตกอยู่ใต้อำนาจมัน ถ้าไม่เอาคืนบ้างก็คงรู้สึกขัดใจไม่น้อยคิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนเสาต้นหนึ่งก่อนจะเร่งพลังวิชาแปรมังกรทันทีศาสตร์นี้สามารถกลั่นพลังงานทุกประเภทในโลกให้เป็นของตนเองได้ทันทีที่เริ่มใช้งาน ฝ่ามือของเขาก็เกิดแรงดูดอันทรงพลังและดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากจากเสาศิลาวิญญาณเสาเองก็ตอบสนองโดยการเร่งดูดพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งมากขึ้นดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายขึ้น พร้อมกับที่เขาพยายามรักษาสมดุลเอาไว้ในขณะที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถึงกับสบถออกมา พลังที่มันปลดปล่อยออกมานั้นเต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1032

    แค่เสาทั้งสิบสามต้นนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลแล้วเทียบได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของเย่ซิวก่อนที่เขาจะเริ่มบำเพ็ญวิชาเก้าวัจนะลึกลับเลยทีเดียว“นั่นคืออะไรน่ะ? ฉันรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในร่างกายเลย” พรีเอลล์จ้องมองเสาศิลาวิญญาณเหล่านั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนจากนั้นเธอก็ก้าวเดินไปข้างหน้าแต่ถูกเย่ซิวขวางเอาไว้สีหน้าของสองพี่น้องดูแปลกไปเหมือนถูกอะไรบางอย่างครอบงำในขณะที่โซเฟียกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น“จงตื่น!”เสียงของเย่ซิวดังขึ้นเบา ๆ สองพี่น้องได้สติทันที พร้อมกับเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มตัว“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”“เมื่อกี้เหมือนฉันถูกควบคุมเลย”เย่ซิวใช้พลังเนตร มองทะลุผ่านพื้นลงไปสายตาของเขาค่อย ๆ เจาะลึกลงไปนับพันเมตร จนกระทั่งพบว่าที่ใต้ดินลึกลงไปมีค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ภายในค่ายกลนั้นขังบางสิ่งเอาไว้มันคือม้าศึกตัวหนึ่งที่สูงเกือบสองเมตร ทั้งร่างขาวโพลนราวหิมะบนหัวมีเขาเกลียวชี้ขึ้นด้านบนกีบเท้าทั้งสี่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีขาวดวงตาของมันลึกลับดุจห้วงเหวลึกทันใดนั้นเอง ม้าศึกตัวนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ซิวเข้าเต็ม ๆโครม!เย่ซิวรู้สึกเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1031

    “ข้างในมีของสำคัญสำหรับฉันมาก ฉันเข้าไปด้วยได้ไหม?”เสียงของโซเฟียไพเราะจับใจเหมือนกับเสียงน้ำพุใสกระทบหิน มีความลึกซึ้งและก้องกังวานแค่เสียงของเธอก็ทำให้ผู้ชายมากมายหัวใจเต้นแรงได้แล้วเย่ซิวมองหญิงสาวที่สวยจนดูราวกับภาพลวงตาตรงหน้า “ถ้าปล่อยให้เธอเข้าไปแล้วฉันจะได้อะไร?”“บนตัวนายมีป้ายอันหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยร้าว เอามาให้ฉัน แล้วฉันจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม”เย่ซิวมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของมันเป็นของที่ตกมาจากเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นตอนที่เขาช่วยเธอเอาไว้ตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตว่ามันมีค่าอะไรเลยเก็บมันไว้ก่อนจากนั้นเขาก็ยื่นมันให้โซเฟียเธอวางมันลงบนฝ่ามือ ก่อนจะกดมือทั้งสองข้างเข้าหากันแสงสีขาวสว่างออกมาจากรอยต่อของมือและคงอยู่เช่นนั้นต่อเนื่องเป็นสิบกว่าวินาทีพอเธอคลายมือออกก็มีแผ่นหยกเรืองแสงอ่อน ๆ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือเย่ซิวรับแผ่นหยกนั้นมาแนบไว้ที่หว่างคิ้วจากนั้นก็มีข้อมูลมากมายก็ไหลทะลักเข้าสู่สมองของเขาก่อนจะปรากฏเป็นเคล็ดวิชาหนึ่งขึ้นมาในหัวเขาทันทีวิชาแปรมังกร!เป็นศาสตร์ฝึกฝนที่ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่งตามเนื้อหาที่บันทึกไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1030

    แค่กระบี่นี้ หากเล็งไปที่เมืองสักแห่ง เมืองนั้นคงถูกทำลายจนสิ้นในพริบตาหากฟันกระบี่นี้ออกไปอีกไม่กี่ครั้ง ประเทศจ้านฉงตี้คงได้รับความเสียหายอย่างหนักจนยากจะฟื้นตัวหรือไม่แน่ อาจถูกประเทศจ้านอิงตี้ฉวยโอกาสเข้ายึดครองไปเลยก็ได้อย่าดูแค่ภายนอกว่าทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงจุดอ่อนขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสกลืนกินอย่างแน่นอนเย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยซากโบราณสถานแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาจริง ๆเขาใช้วิชาอัดปราณกระบี่ไปถึงเก้าครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้เย่ซิวเก็บกระบี่หงส์โบยบิน โดยไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเขาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แสงสีทองสว่างไสวเหมือนเปลวเพลิง ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!เมื่อร่างที่ทรงพลังและครอบงำทุกสิ่งจนแทบไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท้องฟ้าอันแจ่มใสพันลี้พลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำมืดในทันทีไม่ต้องพูดถึงคนรอบข้างที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่จักรพรรดิหมีเหล็ก ที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายมันไมล์ และกำลังชมวิดีโออยู่ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันหนักอึ้งและกดดันมหาศ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status