Share

ตอนที่ 5 หมดกัน

Penulis: บ.บี
last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-07 20:09:14

“ปลามันว่ายเร็วเกินไป พวกเราจับไม่ได้หรอกพี่สาว” เจียวจ้านตอบพลางกลืนน้ำลาย ใช่ว่าตนไม่อยากกิน แต่กินไม่ได้ต่างหาก

“เหอะ!!” ฉู่หลิงสบถในลำคอ ส่งสายตาเหยียดหยามให้เด็กๆ คราวหนึ่ง แล้วรีบเดินข้ามลำธารสายเล็กไปยังอีกฝั่ง จัดการปลดตะกร้าบนหลังวางไว้กับพื้น

“เดี๋ยวพวกเจ้าคอยดู” หญิงสาวก้าวอาดๆ ไปริมลำธาร เลือกถอดรองเท้าผ้าปักลายสีสันสดใสวางไว้บนที่แห้ง แล้วยกชุดกระโปรงขึ้นสูงเดินลุยน้ำไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ ท่ามกลางการลุ้นระทึกของเด็กทุกคน

ฉู่หลิงใช้สายตาอันเฉียบคมของตนมองหาเป้าหมายได้ตัวหนึ่ง นางใช้มือเปล่าเพียงข้างเดียวคว้าหมับลงไปใต้น้ำ!

“ห๊ะ!!” หญิงสาวแตกตื่นจนถึงขีดสุด นางไม่เคยพลาดเป้าเลยสักครั้งนี่นา! 

ใบหน้างามหันมามองใบหน้าเหยเกของเด็กๆ แล้วก็อดหน้าแดงด้วยความอับอายไม่ได้ ปลาตัวใหญ่สองตัวแหวกว่ายมาตอดนิ้วเท้าของหญิงสาวคล้ายเป็นการเย้ยหยัน ทำให้หญิงสาวโมโหสุดขีดยกขาข้างหนึ่งกระทืบลงไปใต้น้ำที่สูงเพียงเข่าอย่างแรง

“ซ่า!” 

“ว้าก!”

“ตูม!”

“เพ่ย!” 

เด็กสิบคนตัดสินใจนั่งลงกับพื้นดิน นั่งชมภาพการต่อสู้ระหว่างพี่สาวคนงามกับฝูงปลาที่พากันแหวกว่ายมาท้าทายหญิงสาวอย่างไม่กลัวเกรงด้วยความสนุกสนาน อีกใจก็ช่วยกันลุ้นให้พี่สาวคนสวยจับปลาขึ้นมาได้จริงๆ

"ทำไมอ่อนแอขนาดนี้กันนะ เจ็บใจจริงเชียว!!” ฉู่หลิงเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองมากขึ้น นางขาดสายตาที่เฉียบคมราวกับงูพิษ ขาดความรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ที่สำคัญเวลานี้นางขาดความเย่อหยิ่งจองหองเหลือเพียงความพ่ายแพ้ที่น่าอดสูเป็นที่สุด นางแพ้ปลา!!

“พี่สาว ท่านขึ้นจากน้ำมาก่อนเถิดเจ้าค่ะ เปียกปอนหมดแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ พวกเรากินแต่ผักมาตั้งนานไม่เห็นเป็นไรเลย เราไม่กินปลาก็ได้เจ้าค่ะ” หลิ่วจีสงสารพี่สาวคนงามเป็นที่สุด

ฉู่หลิงก้มมองสภาพที่เปียกปอนไปทั้งตัวตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าก็ยิ่งรู้สึกสังเวชใจ ยินยอมเดินกลับขึ้นฝั่งมาด้วยดวงตาแดงก่ำน้ำตาพลันไหลออกมาด้วยความทุกข์ระทม

“มีเลือดก็กินไม่ได้ มีปลาให้เห็นตรงหน้าก็ยังจับไม่ได้อีก อดตายก่อนจะครบสามปีเสียแล้วกระมังเรา" แวมไพร์สาวสะอึกสะอื้นก้มลงดึงสายสะพายตะกร้าผักเตรียมยกขึ้นใส่หลัง

ความรู้สึกหนักอึ้งและอบอุ่นเข้ามาประชิดร่างงามอย่างรวดเร็วจนฉู่หลิงตื่นจากความเศร้า

“พี่สาวอย่าร้อง พวกเราเลี้ยงดูท่านได้” กลุ่มเด็กชายหญิงล้อมวงมากอดร่างงามเอาไว้ตรงกลาง ส่งเสียงปลอบใจกันยกใหญ่

ภาพความทรงจำที่นางหลงลืมไปนานพลันย้อนกลับเข้ามาในสมองของแวมไพร์สาว นางเคยเป็นเด็กที่มีพ่อแม่ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เมื่อแวมไพร์บนแผ่นดินโลกมีเพิ่มมากขึ้น พ่อและแม่ช่วยกันต่อเติมบ้านให้มิดชิดและยังสร้างห้องลับซุกซ่อนนางไว้ภายในอยู่นานนับปี 

ทุกวันพ่อและแม่จะหายตัวไปเพื่อหาอาหารและมักจะกลับมาในช่วงค่ำมืด ถึงเวลากลางคืนพวกเขาก็จะเข้ามานอนในห้องลับเพื่อกอดตนเอาไว้พร้อมกับเสียงปลอบให้คลายความหวาดกลัวเหมือนเช่นเวลานี้

หัวใจที่เคยแข็งแกร่งไม่แยแสผู้ใดมาเนิ่นนานของฉู่หลิงถึงกับสั่นสะเทือนไปจนถึงเบื้องลึกของจิตใจ แต่นางก็พยายามขัดขืนไม่ยินยอมเป็นผู้อ่อนแอ

“ลุกขึ้น ข้าต่างหากที่ต้องเลี้ยงดูพวกเจ้า” หญิงสาวพยายามยืนยันความคิดเดิมเอาไว้ให้มั่น นางต้องเลี้ยงดูเด็กกลุ่มนี้ให้เติบโตจะได้มีเลือดสดๆ หอมหวานเอาไว้ดื่มในยามที่ฟื้นตัวจากฤทธิ์ยา

ได้ยินคำมั่นที่ทรงพลังยิ่งนักในความคิดของเด็กๆ พวกเขาเม้มปากทำตัวเข้มแข็งแบบเดียวกับพี่สาวหลิงหลิงทำ แต่ละคนลุกเดินไปเก็บผักและฟืนที่ถือติดมากันคนละกองขึ้นจากพื้น นำทางฉู่หลิงกลับไปยังหอหงไถต่อไป

“เราพาพี่สาวกลับเข้าไปทางประตูด้านหลังจะดีกว่า จะให้ผู้อื่นเห็นพี่สาวในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด” จูเจียวหยุดเดินแล้วชี้มือไปยังทิศทางหนึ่ง 

ด้านหน้าอีกไม่ไกลเท่าใดนักก็จะเข้าสู่เขตบ้านเรือนของชาวบ้าน แม้จะไม่หนาแน่นเหมือนอย่างในตัวเมือง แต่ก็มีคนพลุกพล่านพอสมควร

อีกด้านหนึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องเดินผ่านที่ดินเพาะปลูกของชาวบ้าน ระยะทางอ้อมไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่ปลอดภัยกว่าเส้นทางหลักหลายเท่าตัว เจียวจูไม่ต้องการให้ใครเห็นว่าในหอหงไถมีสตรีงดงามมาอาศัยอยู่ในเวลานี้

“เจ้ากลัวพวกชาวบ้านจะมาทำร้ายข้าสินะเจียวจู” ฉู่หลิงทักขึ้นมาอย่างรู้ทัน

เจียวจูเบิกตาโพลงไม่คิดฝันว่าพี่สาวหลิงหลิงที่สติไม่ค่อยจะดีเท่าใดสามารถคิดเห็นได้แม่นยำราวกับอ่านใจตนออก 

“ดีแล้ว เจ้ารอบคอบมากสมควรแล้วที่ข้าคิดจะให้เจ้าเป็นสมุนมือหนึ่งของข้า” หญิงสาวยกนิ้วโป้งให้เด็กสาวคราวหนึ่ง ท่าทางภูมิอกภูมิใจอย่างหนัก

แต่กิริยายกนิ้วกับคำกล่าวทะแม่งๆ ของพี่สาวหลิงหลิง ก็ทำให้เจียวจูต้องหัวตกลงไปอีกครั้ง ต่อให้ฉลาดแล้วอย่างไร พี่สาวก็ยังเป็นคนแปลกพิลึกอยู่ดี

……….

เส้นทางจากป่าจนมองเห็นกำแพงสูงที่เจียวจ้านชี้บอกกับฉู่หลิงว่าสถานที่แห่งนั้นคือหอหงไถ หญิงสาวคะเนคร่าวๆ ว่าระยะทางรวมทั้งหมดน่าจะไม่เกิน 5 กิโลเมตร แต่กว่าจะมาถึงนางก็แทบจะคลานมาอยู่แล้ว หากไม่ได้เด็กๆ ที่ดูเหมือนว่าจะอ่อนแอกว่าตนสลับกันมาช่วยพยุงและให้กำลังใจ นางคงต้องเดินมาไม่ถึงเป็นแน่

“ถึงแล้วหรือ ขอข้าพักสักเดี๋ยวได้หรือไม่ ข้าหายใจไม่ทัน” ฉู่หลิงทิ้งร่างลงกับพื้นดินอย่างไม่คิดจะเอาอะไรอีกแล้ว สภาพนางเวลานี้ด้วยเส้นผมและเสื้อผ้าที่เปียกชุ่ม เมื่อคลุกลงกับฝุ่นดินที่ล้มลุกคลุกคลานมาเกือบตลอดทางก็ยิ่งมอมแมมดูไม่ได้

“เจียวจ้าน เสื้อผ้าชุดนี้ข้ารับรองจะซักคืนเจ้าให้สะอาดเอี่ยมเลย ขอบใจมากนะ” ฉู่หลิงยอมแพ้ให้กับความมีน้ำใจของเด็กๆ นางนั่งอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจขอโทษและกล่าวคำขอบคุณเด็กชายที่คอยดูแลตนไม่ห่างมาตลอดทาง

“ไม่เป็นไรพี่สาว เสื้อผ้าในหอหงไถมีตั้งมากมาย ท่านไม่ซักก็มีพอใส่ได้หลายเดือนเชียวล่ะ” เด็กชายยื่นหน้ามาใกล้พี่สาวคนงามทันทีที่อีกฝ่ายเริ่มพูดคุยกับตนด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรกว่าเก่า

“อืม เอาล่ะข้าดีขึ้นแล้ว พวกเราไปต่อกันเถิด อีกนิดเดียวก็จะถึงอยู่แล้วเชียวข้านี่แย่จริง” หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ส่งกำลังใจให้ตัวเองฮึดสู้ต่อ

เจียวจ้านและเด็กชายอีกสองคนวิ่งนำหน้ากลุ่มสตรีไปเปิดประตูต้อนรับสมาชิกใหม่ เด็กหญิงหลายคนรวมทั้งเจียวจูก็รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น พวกนางอยากจะอวดน้องๆ ที่อยู่ด้านในจะแย่อยู่แล้วว่าต่อจากนี้ไปจะมีพี่สาวเข้ากลับเข้ามาอยู่ในหอหงไถอีกครั้ง 

“อ้าว! พี่สาวหลิงหลิงเล่า?” เจียวจูหันมองย้อนกลับมาหาฉู่หลิง แต่กลับไม่พบว่านางเดินตามมาแต่อย่างใด

เด็กเก้าคนที่เหลือซึ่งกำลังจะวิ่งไปส่งข่าวให้พี่น้องที่วิ่งสวนออกมาต้อนรับการกลับมาของพวกตน พลอยหยุดชะงักจนเกือบล้ม พวกเขาเดินออกไปนอกประตูไม้ด้านหลังอีกครั้ง

“พี่สาวหลิงหลิง ท่านกำลังทำอะไรอยู่เจ้าคะ” จูเจียวต้องอ้าปากตาค้างไปอีกรอบกับท่าทางแปลกประหลาดของพี่สาวคนงาม

ฉู่หลิงปลุกกำลังใจให้ตนเองฮึดสู้จนลืมตัวไปนิด แวมไพร์อย่างนางเคยกระโดดข้ามกำแพงได้สบายๆ ยิ่งในโลกที่ไม่มีมนุษย์หลงเหลืออยู่ ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทผู้ดีอันใด นางไม่เคยเดินเข้าทางประตู!! แต่เวลานี้นางโดดข้ามกำแพงไม่ขึ้น!!

ภาพหญิงสาวผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เสื้อผ้าบนร่างกายทั้งสกปรกทั้งเปียกปอน กำลังยกมือสองข้างตะเกียกตะกายอยู่ข้างกำแพง ปรากฏต่อหน้าเด็กสิบคนแรก นอกจากนี้ยังมีเด็กชายหญิงอีกเก้าคนที่วิ่งย้อนออกมาจากด้านในตามมาสมทบอีกกลุ่มใหญ่

“หมดกัน!!” เด็กสิบคนกลุ่มแรก ยกมือขึ้นตบหน้าผากตนเอง ออกเสียงพร้อมกับส่ายหน้าโดยพร้อมเพรียง 

เกือบจะดีอยู่แล้วเชียวพี่สาว! เมื่อครู่ท่านยังแสดงท่าทางอ่อนโยน พูดคุยกับเจียวจ้านด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอยู่เลย เวลานี้เกิดคลุ้มคลั่งอะไรขึ้นมาอีกแล้วเล่า? ภาพหญิงงามที่พวกตนอยากให้น้องๆ ที่เหลือเห็น จบสิ้นกันพอดี!!

“ขอโทษ ข้าเข้าผิดทางไปหน่อย” ฉู่หลิงรู้ตัวแล้วว่าตนเองพลาดไปอีกครั้ง นางก้มหน้าจนปลายคางชิดกับอก เดินลากขากับรองเท้าที่มีแต่คราบดินมาหาเด็กๆ ด้วยความอับอายขั้นสุด

“ท่านอย่าพูดอะไรอีกเลยเจ้าค่ะพี่หลิงหลิง ท่านยิ่งอธิบายผู้อื่นก็ยิ่งสับสนไปกันใหญ่” หลิ่วจีเดินเอาศีรษะมาแนบกับท่อนแขนคนงามให้กำลังใจ ผิดทาง? พี่สาวไม่เข้าทางประตูแล้วมีทางอื่นให้เดินเข้าด้วยเช่นนั้นหรือ? หลิ่วจีรู้สึกว่าวันนี้ตนมีเรื่องให้คิดหลายเรื่องเหลือเกินแล้ว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 6 หลิ่วจี

    “หลิ่วจี..เจ้าเอามีดมาเสียบอกข้าไปเสียเลยดีกว่ามาเตือนให้ข้าต้องปวดใจเช่นนี้นะ” หญิงสาวร่ำร้อง รู้สึกเจ็บจี๊ดเข้าไปถึงขั้วหัวใจอย่างสุดซึ้ง“อ๊ะ!!” ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาคุยกับหลิ่วจี หญิงสาวก็ตกใจกับภาพตรงหน้าจนร่างสั่นสะท้านไปทั้งร่างก้อนเลือดสีแดงสดใสอีก 9 ก้อน!! ทีแรกนางมีก้อนเลือด 10 ก้อนเดินรายล้อมอยู่รอบกายก็สุขใจเหลือเกินแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าภายในหอหงไถนี้ยังมีลาภปากเพิ่มขึ้นมาอีกถึง 9 ก้อนเลยทีเดียว!“พ..พ..พวกเจ้า อาศัยอยู่ที่นี่กันทั้งหมดเลยหรือ” หญิงสาวยื่นมืออันสั่นเทาของตนเองออกไปลูบคลำศีรษะของเด็กหน้าใหม่อีก 9 คนที่เพิ่งได้พบหน้า“ใช่แล้วเจ้าค่ะ/ขอรับ พี่สาว!!” เด็กชายหญิงเก้าคนเองก็ดีใจไม่น้อยที่เห็นมีหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่แล้วเข้ามาเยี่ยมเยียนพวกตนในหอหงไถ พวกเขาเต็มใจลืมภาพเหตุการณ์ประหลาดเมื่อครู่กับทำเป็นมองไม่เห็นเศษใบไม้และฝุ่นดินที่เกาะเต็มอยู่ทั่วร่างของพี่สาวผู้มาใหม่ฉู่หลิงดีใจจนเนื้อเต้น แก้มสั่นระริกด้วยความมันเขี้ยว ได้แต่ร่ำร้องหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ มนุษย์! มนุษย์ตัวเป็นๆ ตั้งแต่ถูกกัดตอนอายุ 12 บัดนี้นางอายุ 19 ปีแล้ว 7 ปีที่ผ่านมาในโลกก่อนมีโอกาส

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 7 แจคพอตกองโต

    พอแยกเป็นกลุ่มหญิงชายฉู่หลิงก็นับเด็กหญิงได้ทั้งหมด 7 คน ส่วนอีก 12 คนล้วนเป็นเด็กชายทั้งหมด ฝ่ายเด็กหญิงมีเจียวจูอายุ 12 ปีเป็นหัวหน้ากลุ่ม ด้านเด็กชายก็มีเจียวจ้านอายุ 10 ปีเป็นหัวหน้ากลุ่ม ด้วยจำนวนเด็กชายที่มีมากกว่าและอยู่ในวัยซุกซนโดยไม่มีผู้ใหญ่ควบคุม นางก็ไม่แปลกใจสำหรับพลังทำลายล้างอันเกินต้านของพวกเขาแล้ว“จากนี้ข้าจะขอเข้ามาอาศัยอยู่ในหอหงไถร่วมกับพวกเจ้า และแน่นอนว่าจะมีการจัดระเบียบสถานที่และอีกหลายๆ อย่าง ข้าอยากขอให้พวกเจ้าช่วยข้าด้วยได้หรือไม่” ในเมื่อนางต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสามปี นางจะไม่ทนนอนอยู่กับขยะกองใหญ่เช่นนี้เป็นแน่ เด็กๆ ก็ควรมีสุขอนามัยที่ดีขึ้นเช่นกัน เลือดมนุษย์กลุ่มแรกที่นางจะลิ้มลองสมควรเป็นอาหารเกรดเอ!เด็กๆ ไม่ได้ตอบรับคำแวมไพร์สาวพวกเขามองหน้ากันแล้วจับกลุ่มเป็นวงกลมเหมือนที่เคยทำ“ข้าบอกแล้วให้เก็บกวาดหอหงไถให้สะอาด ไม่อยากนั้นจะไม่มีพวกพี่ชายมาเที่ยวที่นี่” เด็กหญิงในกลุ่มคนหนึ่งส่งเสียงตำหนิกลุ่มเด็กชาย“ก็เมื่อก่อนไม่มีพี่สาวนี่นา ไม่มีพี่สาวก็ไม่มีคนมาที่นี่อยู่แล้ว” เด็กชายตัวเล็กทำหน้าเบี้ยวหาข้ออ้างมากลบเกลื่อนความผิดของพวกตน“พวกเจ้าอย่าโง่ ข้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 8 โกรธไม่ลง

    เจียวจูอดร้องไห้ออกมาไม่ได้ นางเหนื่อยจริงๆ กับหน้าที่รับผิดชอบที่ใหญ่เกินตัวหลายเท่าครั้งนี้ แต่นางไม่สามารถทอดทิ้งน้องๆ ไปได้ ได้ยินคำชมเป็นครั้งแรกในรอบสามปี เด็กหญิงถึงกับโผเข้ามาซุกในอ้อมกอดของฉู่หลิงโหยหาคำปลอบใจจากใครสักคนบ้างแวมไพร์สาวลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น นางไม่ได้รู้สึกกระหายเลือดแต่นางกำลังหวั่นไหว!! ความรู้สึกถึงความรักเอื้ออาทรระหว่างคนในครอบครัวที่หลงลืมไปนานย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำของนางอีกครั้ง “ไม่ต้องร้อง มีข้าแล้ว ข้าจะสนับสนุนเจ้าทุกอย่าง ข้าจะเป็นมือที่ค้ำฟ้าไม่ให้ถล่มใส่เจ้าและน้องๆ ทุกคนเอง” “พี่สาว..มีที่ใดกันท้องฟ้าถล่มใส่คน” เด็กสาวหัวเราะออกมาได้ในที่สุด แม้ว่าพี่สาวจะสติไม่ค่อยดี แต่นางกลับรู้สึกว่าคำกล่าวเมื่อครู่ช่างน่าฟังเสียเหลือเกิน“เอาล่ะๆ ล้างสะอาดแล้ว ทีนี้เจ้าเล่าเรื่องไปเก็บข้าวข้างกำแพงสิ มันยังไงกัน”“นั่นไงเจ้าคะ พวกเขากลับมานู่นแล้ว” เด็กสาวพยักพเยิดใบหน้าไปในครัว ตามเสียงเอะอะโวยวายของเด็กชายที่หอบถุงผ้าเล็กๆ ไว้ในมือมาคนละถุงด้วยความดีใจเวลาต่อมาฉู่หลิงจึงได้รู้ว่า เป็นเพราะหอหงไถถูกยึดไปเป็นของหลวง บ่อยครั้งนายอำเภอเขตซิ่งอันก

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 9 จับปลา

    “ต้มผักก็ไม่ยากเลยนี่ พวกเจ้ากินสิ่งนี้กันทุกวันเช่นนั้นหรือ” หญิงสาวจัดการต้มผักป่าในกระทะใบโต ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการรอน้ำให้เดือด เทผักลงไปเติมเกลือเล็กน้อยก็เสร็จแล้วกินเพื่ออยู่น่ะพอได้ แต่กินให้เติบโตแข็งแรงผลิตเลือดเกรดเอให้นาง เท่านี้ไม่พอ! แวมไพร์สาวคิดในใจอาหารมื้อแรกในยุคโบราณของฉู่หลิงผ่านไปอย่างรวดเร็ว และก็เป็นอย่างที่นางคิด ดูจากสีหน้าของเด็กๆ และเสียงท้องร้องโครกครากที่ดังแว่วมาบ่อยๆ พวกเขาย่อมไม่อิ่มเจียวจูเองก็เป็นเด็กสาวที่เด็ดขาดพอสมควร ถึงทุกคนจะไม่อิ่มและอ้อนวอนขอข้าวเพิ่ม นางก็ยืนยันจะเก็บข้าวที่แบ่งส่วนเอาไว้ เพราะการมีกินไปทุกวัน ดีกว่าต้องอดในบางวันที่ไม่มีคนมาโยนข้าวสารไว้ให้ ก่อนหน้านี้นางเคยสงสารน้องๆ จึงต้มข้าวทั้งหมดที่มีไปจนหมด ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวชาวบ้านยุ่งอยู่กับการเพาะปลูกในที่ดินของพวกเขา จึงไม่มีเวลามาใส่ใจเด็กในหอหงไถกอปรกับต่างคนต่างก็คิดว่าคงมีคนมาโยนข้าวไว้ให้บ้างแล้ว นางและน้องๆ ต้องอดข้าวไปถึง 6 วัน ได้กินแต่ผักป่าที่เด็กๆ ไม่ชอบกินเพื่อประทังชีวิตไปเท่านั้นต่อมานางจึงรู้ว่าควรจัดการกับเรื่องอาหารอย่างไร และทำให้ทุกๆ คนมีข้าวเ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 10 วางแผน

    “ปลาเยอะมากเลย” ตงเหม่ยแทบจะน้ำตาไหล ไม่คิดมาก่อนว่าปลาที่นางเคยมองอยู่เกือบทุกครั้งที่เดินผ่านลำธาร วันนี้นางจะได้กินพวกมันสมใจ“ทีนี้เชื่อข้าหรือยัง ว่ามีข้าอยู่พวกเจ้าจะได้กินอิ่ม” หญิงสาวมองดูปลาที่ดิ้นกระแด่วอยู่เต็มถังไม้สองใบ อดยกยอตัวเองอยู่อีกหลายประโยคไม่ได้ด้วยความภาคภูมิใจ “ข้าเชื่อแล้วเจ้าค่ะพี่สาว” หลิ่วจีรีบวิ่งมากอดแขนหญิงสาวเอาไว้พร้อมกับส่งเสียงออดอ้อนของลูกแมวน้อย“พวกเราก็เชื่อ แต่ว่า..พี่สาวให้พวกเราเล่นน้ำกันอีกสักครู่ได้ไหมขอรับ ไหนๆ พวกเราก็ตัวเปียกกันแล้ว” เว่ยหลงต่อรองทันที พวกเขาและเด็กชายที่เหลือต่างก็ยังคงอิดออดไม่ยอมขึ้นจากน้ำมารวมกลุ่มกับพวกเด็กผู้หญิง“ให้เล่นอีกพักเดียวพอนะ พวกเรายังมีงานต้องกลับไปทำอีกเยอะเลยทีเดียว” แวมไพร์สาวใจอ่อนลงทันทีเมื่อมีอาหารอยู่ในมือ อีกอย่างเด็กๆ ก็ควรได้พักผ่อนหย่อนใจกันบ้างเอ๋..ข้าเป็นคนมีเมตตาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? หญิงสาวรู้สึกติดขัดอยู่ในใจลึกๆ แต่ก็เลือกโทษว่าคงเป็นเพราะสารเคมีที่ถูกฉีดเข้าไปในร่างกายมีผลกับจิตใจที่เหี้ยมโหดของตน……….เนื่องจากปลาเต็มสองถังมีน้ำหนักมากเกินไป ฉู่หลิงจึงต้องแบ่งปลาออกไปใส่ไว้ในอกเ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 11 ฉู่หลิงจะไม่ทน

    “พวกเจ้าอยู่จัดการที่นี่ต่อไปก่อนนะ ข้าจะขึ้นไปดูข้างบนเสียหน่อย” ฉู่หลิงเห็นว่าเด็กๆ จัดการทำความสะอาดครัวจนเกือบจะแล้วเสร็จ นางคิดจะไปค้นดูห้องด้านบนเผื่อจะพบของมีค่าที่นำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาได้บ้าง ห้องโถงด้านล่างแม้จะมีเครื่องเรือนประเภทแจกันและภาพวาด แต่ของเหล่านั้นส่วนใหญ่จะวาดลวดลายเป็นรูปสัปดนในเชิงยั่วยุกามารมณ์ หากนำออกไปขายย่อมต้องมีคนคิดได้ว่าเป็นสิ่งของจากหอหงไถ นางยังไม่กล้าเสี่ยงสร้างปัญหากับคนของทางการพวกโต๊ะเก้าอี้หรือเครื่องเรือนขนาดใหญ่ที่มีมากเกินความจำเป็น ของพวกนี้อยู่ในสภาพปกติแต่ก็ชิ้นใหญ่เกินกว่าจะลักลอบขนออกไปขายได้ และนางยังไม่รู้ว่านำไปขายให้ผู้ใดด้วย สิ่งที่หญิงสาวมองหาก็คือเศษเงินหรือเครื่องประดับของนางคณิกาที่อาจจะยังตกหล่นหลงตาอยู่บ้างบนขั้นบันไดเด็กๆ คงจะใช้เป็นสนามเด็กเล่นส่วนตัวของพวกเขามันจึงไม่ค่อยมีฝุ่นจับ แต่เมื่อก้าวขึ้นมาถึงชั้นบนตามทางเดินเต็มไปด้วยฝุ่นจับตัวหนา คาดว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาเด็กๆ คงไม่เดินขึ้นมาสักเท่าใดนักฉู่หลิงเปิดประตูเข้าไปค้นหาสิ่งของทีละห้องซึ่งมีทั้งหมด 14 ห้องอย่างใจเย็น “เสื้อผ้า ผ้าและผ้า!” ค้นดูไปหลายห้องแล้วนาง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 12 ปวดท้อง

    “ฮึก!!” เสียงกลั้นสะอื้นดังมาจากหลิ่วจีเป็นคนแรก และตามด้วยอีกหลายเฮือกของบรรดาเด็กๆ ทั้งหมดที่นั่งรวมตัวกันอยู่“เอาละช่วยกันเก็บถ้วยจานไปล้าง แล้วอาบน้ำให้สะอาด วันนี้พวกเราจะนอนข้างล่างกันเหมือนเดิม พรุ่งนี้คงต้องจัดการเรื่องที่หลับที่นอนให้เสร็จไปอีกเรื่อง” หญิงสาวโบกมือไล่เด็กๆ แข็งใจไม่ยอมหันไปมองหน้าหลิ่วจีที่นั่งกลั้นก้อนสะอื้นจนตัวสั่น“คืนนี้ข้าจะเป็นคนดับตะเกียงเอง เจ้านอนหลับให้สบายเถิดเจียวจู” หญิงสาวเรียกตัวเจียวจูมาคุยก่อนที่นางจะแยกไปนอนที่ห้องพักเดิมที่นางเคยเข้าไปอาบน้ำ ยามนี้นางรู้แล้วว่าห้องเล็กเพียงห้องเดียวในชั้นล่าง เป็นห้องนอนส่วนตัวของนายหญิง หรือก็คือแม่เล้าประจำหอหงไถนั่นเอง ต่อไปฉู่หลิงก็ตั้งใจจะพักอยู่ในห้องนี้เพื่อคอยดูแลความเรียบร้อยและรอดับไฟตะเกียงให้เด็กๆ ยามค่ำคืน“เว่ยหลง ข้าจะแง้มประตูเอาไว้ หากเจ้าเกิดปวดท้องตอนกลางคืนก็มาเรียกข้า ข้าจะพาเจ้าไปเข้าส้วมเอง เข้าใจหรือไม่” เด็กชายตัวน้อยยืนบิดตัวหน้าแดงเอียงอายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับแล้ววิ่งหายไปนอนรวมกับกลุ่มเด็กชายในห้องรับรองแขกอีกด้านกลางดึกขณะที่ทั่วทั้งหอหงไถอยู่ในความมืดและเงียบส

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-09
  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 13 ผิดปกติ

    “ช่วยข้าก่อไฟต้มน้ำที” ป้ายยาลงคอเว่ยหลงแล้ว หญิงชราก็หันมาชี้มือไปยังเตาไฟที่ก่อจากหินอย่างง่ายๆ หน้าเรือน สั่งให้เจียวจ้านใช้ไฟจากตะเกียงไปจุดเตาอีกทีหนึ่ง พอเจียวจ้านตั้งน้ำได้ นางก็ขอยืมตะเกียงกลับเข้าไปในเรือนอีกครั้ง และกลับมาพร้อมกับห่อผ้าเล็กๆ อีกห่อเทวัตถุสีน้ำตาลแห้งๆ ที่คล้ายว่าจะเป็นสมุนไพรตากแห้งอะไรเทือกนั้นลงหม้อ โชคดีที่ระหว่างรอต้มยา เว่ยหลงก็อ่อนแรงจนเผลอหลับไปและเขาไม่ได้ถ่ายของเสียออกมาอีก เว่ยหลงถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาดื่มยาและตามด้วยน้ำเกลือที่เหลืออีกครึ่งถ้วย เขาถ่ายเหลวอีกสองครั้ง แต่ก็เว้นระยะห่างออกไปพอสมควรฉู่หลิงคาดคะเนว่าระยะเวลาที่พวกนางเฝ้ารอดูอาหารของเว่ยหลง รวมทั้งขอยืมใช้ส้วมในเรือนผู้อื่นอีกสองครั้ง ก็น่าจะราวๆ สามชั่วโมง หรือเทียบเท่ากับเกือบสองชั่วยามตามเวลาที่คนในยุคนี้ใช้เปรียบเทียบก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยปากขอร้องให้เด็กที่เหลือได้นอนค้างคืนที่บ้านหญิงชราจนถึงเช้า อีกฝ่ายก็ชิงเอ่ยคำออกมาเสียก่อน“อาการน่าจะดีขึ้นแล้วล่ะ แบกเขากลับไปเอายาที่เหลือติดหม้อเทใส่ถ้วยไปด้วยก็แล้วกัน หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ต้องมาที่นี่กันอีก” นางกล่าวจบก็ลุกเดินเข้าไปในเร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-10

Bab terbaru

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 26 ผู้ตรวจการพิเศษ

    “พรุ่งนี้หากพี่สาวจะเชือดกระต่าย ก็ให้เป็นข้า ตงเหม่ย เจียวจ้าน ฝานเจิ้ง อู๋ฉีและอู๋ซินคอยเรียนรู้กับพี่สาวหลิงหลิง พวกเด็กเล็กๆ ไม่ต้องมาดู รอจนมันกลายเป็นก้อนเนื้อเสียก่อนพวกเจ้าต้องอยากกินมันจนน้ำลายไหนแน่”ฉู่หลิงต้องยกนิ้วให้กับเจียวจูอีกครั้งสำหรับความกล้าหาญของนาง การฆ่ากระต่ายที่มีรูปลักษณ์น่ารักน่าเอ็นดูย่อมแตกต่างจากการฆ่าปลาอยู่แล้ว เดิมทีนางก็หวั่นใจอยู่ไม่น้อยว่าจะสอนให้เด็กๆ รู้วิธีการเชือดกระต่ายหรือไม่ นางเป็นแวมไพร์ไม่สามารถเอาความคิดของมนุษย์มาตัดสินเรื่องความโหดเหี้ยมได้เลย นางรู้แค่ว่าต้องดื่มกินและหาอาหารเลี้ยงตัวเท่านั้นแต่เวลานี้เด็กๆ กลับจัดการความคิดของพวกเขาได้ด้วยตนเอง ทำให้หญิงสาวพึงพอใจอยู่ไม่น้อยที่เด็กๆ รู้ว่านี่คือชีวิตจริงที่เขาต้องเผชิญ หญิงสาวค่อยๆ ย่องกลับเข้าไปนอนในห้องตามเดิม ผ่านไปอีกพักใหญ่หลังจากเด็กๆ ร่ำลา 21 ชีวิตในครัวกันแล้ว แสงไฟก็กลับมาส่องสว่างที่กลางห้องโถง ก่อนที่จะมีเสียงฝีเท้าของเด็กหลายคนแยกย้ายกันกลับห้องไป และน่าจะเป็นเจียวจูที่รับหน้าที่ดับไฟในตะเกียงตามเดิม……….ตอนเช้ามืดท่านยายเฉินก็เดินเข้ามาในหอหงไถเพื่อช่วยฉู่หลิงทำซาลาเ

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 25 ล่าเนื้อ

    “หยิบเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้เไปเพิ่มด้วยหลิ่วจี เอาไปสัก 10 ตัวก็พอ” ฉู่หลิงนึกขึ้นได้ ตะกร้ากับถังน้ำยังไม่เพียงพอสำหรับการล่าเนื้อในครั้งนี้“บ่ายมากแล้วนะ เข้าป่าไปตอนนี้กว่าจะกลับก็ค่ำมืดกันพอดี เช่นนั้นข้าจะอยู่รอพวกเจ้าเป็นเพื่อนเจียวจูกับตงเหม่ยที่นี่ก่อนก็แล้วกัน” ยายเฉินเสนอตัวเมื่อมองดูพระอาทิตย์ด้านนอก“ท่านยายอยู่ก่อนก็ดีเจ้าค่ะ พวกเราจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”ฉู่หลิงไม่รอช้าเมื่อได้รับคำเตือนจากท่านยายเฉิน แม้ว่าเรื่องคนร้ายที่ทางการคอยเฝ้าระวังอยู่เงียบไปแล้ว แต่ก็ไม่มีข่าวว่าถูกจับตัวไป นางควรพาเด็กๆ กลับมาให้ถึงหอหงไถก่อนที่จะค่ำ และที่สำคัญนางตื่นเต้น นางจะได้ล่าเนื้อ!!กลุ่มเด็กชายหญิง 17 คนเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางประตูด้านหลังหอหงไถ ข้ามลำธารเล็กๆ ไปสู่ชายป่าโดยมีฉู่หลิงเป็นผู้นำกลุ่มด้วยความสามารถในการหาจับสัตว์ที่ติดตัวมาของแวมไพร์สาว นางมองปราดเดียวก็เห็นเนินดินที่เหมาะสมกับการเป็นที่อยู่อาศัยของกระต่ายป่าหญิงสาวให้เด็กทุกคนหยุดยืนรออยู่ห่างๆ ส่วนตนเองก็ลอบสำรวจไปรอบๆ เนินดินสี่กองสูงที่รวมตัวกันอยู่เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายนอกมีโพรงหลายโพรงซึ่งเป็นทางเข้าออกข

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 24 เนื้อที่ดี

    “ตัวใหญ่จริงๆ ข้าเอาหมดทั้งสามตัวนี่ล่ะ เจ้าคิดราคาอย่างไรเล่า?” เถ้าแก่เนี้ยแซ่เวินไม่ได้ซักไซ้ต่อ นางไม่ได้คิดเอาดีทางด้านการค้าปลา เด็กเหล่านี้จะมีวิธีการอย่างไรนางย่อมไม่บังคับถามความจากเขาก่อนหน้านี้หวังหยวนได้พาเด็กๆ ไปสอบถามราคาปลาจากพ่อค้าคนอื่นบ้างแล้ว ปลาชนิดเดียวกันที่ขายอยู่ในตลาดเป็นปลาตาย คิดราคาตามน้ำหนัก 1 ชั่ง ราคา 8 อีแปะ ขนาดของปลาสามตัวในถังเป็นปลาใหญ่แต่ละตัวน่าจะหนักเกือบ 3 ชั่ง (ราวๆ 1.5 กิโลกรัม) และยังเป็นปลาเป็นซึ่งสดกว่าปลาในตลาดมากนัก ทำให้เจียวจ้านไม่รู้จะขายอย่างไร และเขาก็นับตัวเลขได้เพียงไม่เกินนิ้วมือของตน ทำให้การคิดราคายิ่งยากเข้าไปใหญ่“ท่านป้ามีน้ำใจกับพวกเราในครั้งก่อนข้ายังไม่ลืม ท่านป้าอยากซื้อเท่าใดพวกเราก็จะยินยอมขายให้ขอรับ” “ฮ่าๆๆ ข้าบอกท่านแล้วอย่างไรสามี เด็กพวกนี้เป็นเด็กมีน้ำใจดีจริงๆ” เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของร้านลุกขึ้นยืนยกผ้าเช็ดหน้ามาป้องปากแล้วหัวเราะเสียงดังอย่างได้ใจยามนี้เด็กชายสี่คนและหวังหยวนจึงได้เห็นว่ามีบุรุษอยู่ในร้านอีกคนซึ่งกำลังเดินยิ้มออกมา บนร่างกายของบุรุษผู้มาใหม่มีผ้าคาดเอวแบบผ้ากันเปื้อนและในมือก็ยังมีคราบแป้งขาวติด

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 23 เด็กผู้กล้าหาญ

    ซาลาเปาใกล้จะสุก กลุ่มเด็กชายทั้งหมดก็ตื่นขึ้นมาล้างหน้าขัดฟันเช่นกัน เจียวจ้าน ฝานเจิ้ง อู๋ซินและอู๋ฉี สี่พี่ชายใหญ่ ทำหน้าที่แบกปลา 7 ตัวที่ขังไว้ในถังไม้ตั้งแต่เมื่อวานออกไปเตรียมวางขายหน้าหอหงไถ ตามด้วยน้องชายที่เหลืออีก 8 คนจับคู่กันนำซาลาเปาร้อนๆ 40 ลูกออกไปทีหลัง“มากันเสียที ข้าจะรีบไปขึ้นเกวียนของหวังหยวน หากพวกเจ้ามาช้ากว่านี้ข้าคงต้องหิ้วท้องแห้งไปจนถึงเมืองสือเจียแน่” นางจวงหญิงวัยกลางคนร่างท้วมเจ้าของคำพูดไม่น่าฟังเมื่อวานปรี่เข้ามาหากลุ่มเด็กชายก่อนใคร“แป้งซาลาเปาของเจ้าทำจากอะไรกันนะ เวลาเคี้ยวเข้าไปทั้งหอมทั้งไม่ติดฟัน ถูกใจข้านัก เอามาให้ข้า 4 ลูกก่อนข้าจะรีบไปแล้ว"ตงหยางได้ยินว่าท่านป้าตรงหน้าจะซื้อซาลาเปาคราวเดียวถึง 4 ลูกเขาก็เลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก เมื่อวานขายซาลาเปาลูกสองลูกก็ยัดใส่มือคนผู้นั้นไปเสียก็จบ แต่ซาลาเปา 4 ลูกเขาไม่ได้เตรียมอะไรมาห่อให้ลูกค้า “ท่านป้าขอรับ ท่านจะถือไปหมดทั้งสี่ลูกเลยได้หรือไม่ขอรับ” เด็กชายมีสีหน้าลำบากใจ กลัวว่าอีกฝ่ายจะถือไม่หมดแล้วเปลี่ยนใจเป็นซื้อเพียงแค่สองลูกแทน“ไม่มีอะไรใส่ใช่หรือไม่ เอาอย่างนี้ เดี๋ยวข้าจะยืนกินตรงนี้เสียเลยส

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 22 ขายซาลาเปา

    “โอ..เกิดอะไรขึ้นกันเล่านี่ พวกเจ้าได้ปลามาเยอะหรือไรถึงพากันออกมาข้างนอกกันหลายคนเช่นนี้” ฉีฟ่งคนเดิมส่งเสียงร้องทักเมื่อเห็นกลุ่มเด็กชายเดินแถวหิ้วตะกร้าออกมาหน้าประตูแต่เช้าตรู่“ท่านลุง วันนี้พวกเราไม่มีปลามาขาย แต่เราขายซาลาเปาขอรับ” เว่ยหลงเคยพบกับนายทหารกลุ่มนี้เมื่อครั้งที่ติดตามเจียวจ้านออกมาขายปลา เขาจึงวิ่งเข้าไปหากลุ่มลูกค้าเก่าที่ช่วยอุดหนุนซื้อปลาไปทุกครั้งที่พวกตนเอาออกมาขาย“หน้าตาดีนี่ สีก็แปลกตาด้วย ดูท่าจะใช้ได้นะ” นายทหารพากันล้อมวงมาดูซาลาเปาในตะกร้าของเว่ยหลงกับตงหยางที่จับคู่กันออกมาขาย“ข้าจะซื้อชิมดูก่อนแล้วกัน เจ้าขายลูกละเท่าไรเล่า” “นี่เป็นไส้ถั่วเขียวขอรับ ลูกละสี่อีแปะ พวกเรามีไส้ถั่วเขียวอย่างเดียวเลย อีกไม่นานถึงจะทำไส้อื่นออกมาขายเพิ่มขอรับ” ตงหยางเป็นฝ่ายตอบบ้างนายทหารห้าคนควักเงินคนละสี่อีแปะออกมาซื้อคนละหนึ่งลูกโดยไม่ลังเล ใช่ว่าพวกตนไม่เคยโยนข้าวสารเข้าไปในกำแพงหอหงไถเสียเมื่อใด คราวนี้เด็กๆ เริ่มหัดค้าขายกันเอง สมควรแล้วที่จะส่งเสริมเห็นน้องเล็กสุดในกลุ่มขายซาลาเปาได้แล้ว กลุ่มเด็กชายที่เหลือก็ตื่นเต้นกันใหญ่ พวกเขารีบเดินออกห่างจากเว่ยหลง เพื่

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 21 ของดี

    “ข้าก็ทำของข้าได้เท่านี้ ท่านทำได้ดีกว่านี้ก็ไปทำเองเสียสิ!”“ชิชะ! นังหนู! เจ้ากลับไปกวนไส้เอาไว้เลย พรุ่งนี้ยามอิ๋น (03.00-04.59) ข้าจะไปทำแป้งแล้วจะอยู่นึ่งซาลาเปาให้จนเสร็จ ยามเหม่า (05.00-06.59) ให้เด็กๆ เอาออกไปขายได้เลยก็แล้วกัน!” หญิงชราชี้หน้าหญิงสาวที่ทำท่าแง่งอนใส่ตน“ตกลงเจ้าค่ะ! ข้ากลับแล้ว อีกเดี๋ยวจะให้เจียวจ้านเอาตะเกียงมาทิ้งไว้ให้ท่าน ตอนกลางคืนจะได้เดินไปได้สะดวก หรือท่านจะให้พวกเขามารับ” “ไม่ต้อง! มีตะเกียงแล้วข้าย่อมเดินไปเองได้” “เช่นนั้นก็เอาตามท่านว่า ข้าลาล่ะ!" หญิงสาวเดินฉับๆ เร่งฝีเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ซาลาเปาที่เหลืออยู่ในจานอีกสี่ลูกก็ไม่ทิ้งไว้ให้ยายเฉินดูต่างหน้า หากแต่ใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มกว้างแอบขอโทษหญิงชราอยู่ในใจนางเฉินหอบหายใจถี่ด้วยความโมโห กอปรกับเมื่อครู่นางตะเบ็งเสียงแข่งกับฉู่หลิงอยู่นานสองนาน ครู่หนึ่งร่างเล็กก็ทรุดนั่งลงบนแคร่ไม้หน้าเรือน “เหมือนจะมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่หรือเปล่านะ" ท่านยายเฉินขมวดคิ้วมุ่นจนหัวคิ้วพันเป็นเส้นเดียวกัน“นางหญิงบ้า! หลอกข้าอีกแล้ว!” แม้จะทำท่าตีอกชกตัวคล้ายว่ากำลังโมโหอย่างหนัก แต่มุมปากของผู้ชรา

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 21 ของดี

    “ข้าก็ทำของข้าได้เท่านี้ ท่านทำได้ดีกว่านี้ก็ไปทำเองเสียสิ!”“ชิชะ! นังหนู! เจ้ากลับไปกวนไส้เอาไว้เลย พรุ่งนี้ยามอิ๋น (03.00-04.59) ข้าจะไปทำแป้งแล้วจะอยู่นึ่งซาลาเปาให้จนเสร็จ ยามเหม่า (05.00-06.59) ให้เด็กๆ เอาออกไปขายได้เลยก็แล้วกัน!” หญิงชราชี้หน้าหญิงสาวที่ทำท่าแง่งอนใส่ตน“ตกลงเจ้าค่ะ! ข้ากลับแล้ว อีกเดี๋ยวจะให้เจียวจ้านเอาตะเกียงมาทิ้งไว้ให้ท่าน ตอนกลางคืนจะได้เดินไปได้สะดวก หรือท่านจะให้พวกเขามารับ” “ไม่ต้อง! มีตะเกียงแล้วข้าย่อมเดินไปเองได้” “เช่นนั้นก็เอาตามท่านว่า ข้าลาล่ะ!" หญิงสาวเดินฉับๆ เร่งฝีเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ซาลาเปาที่เหลืออยู่ในจานอีกสี่ลูกก็ไม่ทิ้งไว้ให้ยายเฉินดูต่างหน้า หากแต่ใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มกว้างแอบขอโทษหญิงชราอยู่ในใจนางเฉินหอบหายใจถี่ด้วยความโมโห กอปรกับเมื่อครู่นางตะเบ็งเสียงแข่งกับฉู่หลิงอยู่นานสองนาน ครู่หนึ่งร่างเล็กก็ทรุดนั่งลงบนแคร่ไม้หน้าเรือน “เหมือนจะมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่หรือเปล่านะ" ท่านยายเฉินขมวดคิ้วมุ่นจนหัวคิ้วพันเป็นเส้นเดียวกัน“นางหญิงบ้า! หลอกข้าอีกแล้ว!” แม้จะทำท่าตีอกชกตัวคล้ายว่ากำลังโมโหอย่างหนัก แต่มุมปากของผู้ชรา

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 20 นี่เรียกว่า?

    เด็กชายสี่คนสลับกันเล่าเหตุการณ์ความคึกคักของเมืองสือเจีย ให้กับเด็กคนอื่น ๆ รวมทั้งฉู่หลิงฟัง พร้อมทั้งแจกจ่ายลูกอมน้ำตาลปั้นให้ทุกคนคนละหนึ่งเม็ดฉู่หลิงเองก็รับเอาน้ำตาลปั้นมาอมไว้ในปากเช่นกัน นางไม่ได้กินขนมหวานเช่นนี้มานานมากแล้ว มีเพียงนางเฉินที่ปฏิเสธ แต่นั่นก็ทำให้เจียวจ้านแอบโล่งใจ เพราะตนลืมนึกไปว่าท่านยายเฉินก็มาอยู่ที่หอหงไถเป็นประจำแล้วเช่นกัน หากนางอยากกินตนก็คงต้องแบ่งให้หญิงชรา“หอหงไถของเราว่าใหญ่แล้ว แต่มันดูธรรมดามากเลยเมื่อเทียบกับอาคารและสิ่งก่อสร้างในเมืองสือเจีย บ้านเรือนของพวกเขาก็แข็งแรงแน่นหนา ไม่ได้ทรุดโทรมเหมือนบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่นอกเมือง” ฝานเจิ้งบรรยายออกมาเป็นฉากๆ“ผู้คนที่ข้างนอกก็ใจดีด้วยนะ พี่ชายทหารข้างนอกก็ไม่ได้ดุเสียหน่อย พวกเขาคุยกับพวกเราตั้งหลายประโยคและยังให้เราผ่านเข้าเมืองโดยไม่คิดเงินอีกด้วย” อู่ซินชอบพี่ชายทหารเป็นที่สุด“ในเมืองมีผู้คนพลุกพล่าน พวกเขาหลายคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้างดงาม ข้าดูออกเลยว่าคนไหนมาจากนอกเมืองคนไหนอาศัยอยู่ในเมือง พวกเขามีมากจนแทบจะเดินชนกันเลยด้วยซ้ำ!” ฟังถึงตรงนี้ดวงตาของแวมไพร์สาวฉู่หลิงก็เคลิ้มฝันไปถึงไหนต่อไห

  • แวมไพร์พี่เลี้ยงเด็ก   ตอนที่ 19 คุณธรรม

    “พวกเจ้ามาจากหอหงไถเช่นนั้นหรือ?” สตรีเจ้าของร้านเริ่มสนใจเด็กๆ ขึ้นมาบ้าง ในมือนางหยิบเค้กถั่วแดงใส่ลงไปในกล่องเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนปฏิเสธนางก็รีบชักมือที่กำลังจะส่งให้เจียวจ้านกลับมา รู้สึกเห็นด้วยกับหวังหยวน“ขอรับ พวกเราหาปลามาขายได้รายได้มานิดหน่อยก็เลยเข้าเมืองมาหาซื้อของใช้ที่จำเป็นขอรับ” “เอาอย่างนี้สิ ที่ร้านข้ายังมีขนมอีกตั้งหลายอย่าง หรือไม่อย่างนั้นเจ้าก็เลือกลูกอมนี่ไป 5 เม็ด 2 อีแปะ อย่างนี้จะได้แบ่งกันได้หลายคน” หญิงเจ้าของร้านรีบเสนอขายสินค้าอย่างอื่น นางไม่รู้ว่าเด็กในหอหงไถมีจำนวนกี่คนกันแน่ แต่ย่อมไม่น้อยกว่าสิบคนฝานเจิ้ง อู๋ฉีและอู๋ซิน ต่างก็พากันมองไปที่ลูกอมน้ำตาลปั้นด้วยความอยากกิน รอฟังการตัดสินใจจากเจียวจ้านที่เป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มเด็กชาย“ท่านอาหวังเค้กถั่วแดงนั้นข้าตั้งใจซื้อให้ท่านจากใจจริง แล้วข้าจะเอาลูกอมอีก 10 เม็ดขอรับ” สามเด็กชายได้ฟังก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย พวกเขามีกัน 19 คน หากเจียวจ้านซื้อไปเพียงสิบเม็ด ย่อมต้องให้น้องที่อายุน้อยกว่าได้กินก่อน พวกตนเป็นกลุ่มรุ่นพี่คงอดแน่แล้ว แต่เงินแปดอีแปะเด็กชายก็พอจะนับตัวเลขได้ว่ามันซื้อได้เพียงเท่านั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status